Kiss Mark ตีตราเลขาคนสวย
-
เขียนโดย Peachya
วันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2564 เวลา 23.54 น.
7 ตอน
0 วิจารณ์
4,615 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 27 กันยายน พ.ศ. 2564 23.57 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) ภาระ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 2 ภาระ
ผมชื่อ มหานที ธีรชาญชัย ชื่อเล่น มาร์ค ผมเป็นลูกชายคนเดียวของคุณธีรเดช ธีรชาญชัย ซึ่งเป็นเจ้าของโรงแรมระดับห้าดาวหลายแห่ง ก่อนหน้านี้ผมและครอบครัวใช้ชีวิตอยู่ที่สิงคโปร์มาเกือบครึ่งชีวิต เพราะบริษัทใหญ่อยู่ที่นั้น แต่ตอนนี้ผมในวัยสามสิบสองปีได้ย้ายกลับมาเมืองไทยซึ่งเป็นบ้านเกิดของผมเนื่องจากคุณพ่อสั่งให้ผมมาดูแลสาขาใหม่ที่นี่ ใจหนึ่งก็ตื่นเต้นที่ได้กลับมาที่ที่เคยอยู่ แต่อีกใจผมก็กังวลไม่น้อยเพราะผมไม่ได้ติดต่อใครที่นี่เลย ไม่มีเพื่อนสักคน ผมเป็นพวกไม่ชอบสุงสิงกับใครเท่าไหร่ แถมยังขี้รำคาญอีกด้วย ตั้งแต่ผมลงเครื่องมาถึงก็โดนสายตาคนรอบข้างมองไม่หยุด จริงๆมันเกิดขึ้นแทบจะตลอดเวลาในชีวิตผม แต่ผมก็ไม่เคยรู้สึกชินกับมันสักที
“ครับพ่อ” ผมพูดขึ้นเมื่อกดรับสายผู้เป็นพ่อ
“แกถึงแล้วใช่ไหม วันนี้แกต้องเข้าประชุมนะห้ามลืมเด็ดขาด แล้วถ้ามีอะไรขาดเหลือก็โทรหาเลขาฉัน”
“ครับพ่อ ผมไม่ลืมหรอกครับ”
“แกว่างเมื่อไหร่อย่าลืมโทรหาน้องด้วยนะ แล้วก็รีบให้น้องเข้ามาเริ่มงานได้แล้ว ฉันส่งแผนที่บ้านน้องให้แกแล้วในไลน์”
“ครับๆ แค่นี้ก่อนนะครับพ่อ ผมกำลังรอกระเป๋า” ผมพูดไปเท่านั้นสายก็ตัดไป แล้วเรื่องบุคคลที่สามที่พ่อพูดถึงก็คือน้องไอมิ ลูกสาวของอาพีระเพื่อนสนิทของคุณพ่อนั้นแหละ คุณพ่อเพิ่งคุยกับผมเรื่องนี้ไปเมื่อสามวันก่อนว่าจะฝากให้ผมช่วยดูแลน้องหน่อยในระหว่างที่พ่อแม่น้องไม่อยู่ ส่วนตัวผมไม่ได้มีปัญหาอะไรเพราะผมกับน้องก็เคยเป็นเพื่อนเล่นกันเมื่อตอนยังเด็ก แต่เรื่องงานนี่สิ คุณพ่อจะให้ผมรับน้องเข้ามาทำงานเป็นเลขาของผมทั้งที่ไม่มีประสบการณ์และยังไม่ได้ทดสอบอะไรเลย ถ้าใครรู้จักผมจริงจะทราบดีว่าผมเป็นคนจริงจังกับเรื่องงานมาก ผมกลัวว่ามิจะมาเป็นภาระผมเปล่าๆ นี่เป็นโอกาสที่สำคัญมากสำหรับผมที่จะได้พิสูจน์ตัวเองให้พ่อเห็นว่าผมทำงานแทนพ่อได้ ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาผมจะช่วยพ่อทำงานมาเยอะ แต่มันก็ไม่เหมือนกับที่พ่อไว้วางใจให้ผมดูแลบริหารด้วยตัวของผมเอง และนี่ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลว่าทำไมผมไม่เคยทำงานกับเลขาคนไหนเกินสามเดือนมาก่อน ส่วนอีกเหตุผลนึงน่ะเหรอ หึ ไม่มีใครอยู่ใกล้ผมแล้วไม่คิดเกินเลยได้สักคน ผมจึงหลีกเลี่ยงโดยการไม่รับใครมาทำตำแหน่งนี้อีก
“บอสครับ บอสจะให้ผมซื้ออะไรเพิ่มเติมไปไว้ที่คอนโดไหมครับ ของใช้ส่วนตัวของบอส ผมเตรียมไว้หมดแล้ว แต่ถ้าบอสอยากได้อะไรเพิ่ม ผมจะรีบจัดการให้ครับ” ไอ้ดิน ลูกน้องคนสนิทของผมพูดขึ้นในขณะที่มันจัดวางสิ่งของต่างๆในที่พักใหม่ของผม
“กูยังคิดไม่ออก มึงกลับไปเถอะ” ผมตอบทั้งที่ยังนั่งหลับตาอยู่บนโซฟา
“ครับบอส” มันพูดจบก็รีบเปิดประตูออกไป
มาถึงที่คอนโดผมก็เผลองีบหลับไปครึ่งชั่วโมงได้ ผมเหนื่อยจากการเดินทางและการประชุมวันนี้มาก แทบไม่มีเวลาพักผ่อนเลย แต่ตอนนี้ผมก็เพิ่งนึกออกว่าผมยังไม่ได้ทำภารกิจที่พ่อมอบหมายไว้ให้ทำ ผมจึงเอื้อมมือหยิบโทรศัพท์มือถือที่ชาร์จแบตทิ้งเอาไว้และกดโทรออกหาใครบางคน
ไม่นานปลายสายก็กดรับ “สวัสดีค่ะ”
“มิใช่ไหม” ผมพูด
“ค่ะ นั้นใครเหรอคะ” ปลายสายตอบมา
“พี่มาร์ค วันจันทร์แปดโมงเช้า พี่จะไปรับที่บ้าน” ผมตอบกลับไป
“คะ? เอ่อพี่มาร์คจะมารับมิไปทำงานแล้วเหรอคะ” เธอถามกลับ
“ห้ามสาย แต่งตัวให้พร้อม” พูดจบผมก็กดตัดสายทิ้งทันทีและหลับตาลงอีกครั้ง
อ่าว วางสายไปเฉยเลย อะไรของเขานะ ยังไม่ทันได้ถามไถ่อะไรเลย แต่ช่างเถอะ รอเจอหน้าค่อยคุยกันก็ได้มั้ง เอ๊ะนี่ฉันควรจะซื้ออะไรไปฝากพี่มาร์คดีไหมนะ ต้อนรับการกลับมาของพี่เขาสักหน่อย ว่าแล้วฉันก็ต่อสายหาเบสทันที
“ว่าไงยะ หายหัวไปเลยนะ” น้ำเสียงประชดประชันของเบสดังขึ้น
“ไม่ได้หายสักหน่อย ฉันยุ่งๆอะแก เหนื่อยม้ากมาก จัดการเรื่องในบ้าน นี่ขนาดคุณพ่อคุณแม่ไม่อยู่แค่ไม่กี่วันเองนะ”
“เออ ฉันก็แซวเล่นไปงั้นแหละ แล้วแกมีอะไรเปล่า”
“แก คือว่าพี่ชายฉันที่เป็นลูกเพื่อนพ่อฉันเพิ่งย้ายกลับมาอยู่ไทย ฉันไม่ได้เจอเขามาสิบกว่าปีแล้วอะ ฉันเลยคิดว่าฉันอยากจะซื้อไรไปฝากพี่เขาหน่อย พอดีคุณพ่อฝากให้ฉันไปทำงานกับพี่เขาอะแก เริ่มวันจันทร์นี้แล้วอะ” ฉันตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“หืม นี่แกได้งานแล้วเหรอวะ อืม… ฉันเห็นด้วยนะ มีไรติดไม้ติดมือไปก็ดี หรือแกจะทำพวกขนมไปฝากพี่เขาไหมละ แกทำขนมอร่อยจะตาย” เบสตอบกลับมา
“เออจริงด้วยแก งั้นฉันจะทำคุกกี้ดีกว่า แกจะเอาด้วยไหม เดี๋ยวฉันทำเผื่อ แล้วถ้าแกว่าง แกมาช่วยฉันหน่อยสิ” ฉันอ้อน
“เออได้ ฉันว่างพอดี งั้นเจอกันเย็นนี้ที่บ้านแกนะ แค่นี้ก่อนนะ ฉันขับรถอยู่” เบสกดตัดสายไป ฉันจึงลุกขึ้นไปบอกป้าพรให้ช่วยเตรียมอุปกรณ์ทำขนมให้ ทั้งเย็นวันนี้ฉันตั้งใจอบคุกกี้อย่างสุดฝีมือ ทานข้าวเย็นและนั่งจิบไวน์กับเบสจนเกือบๆสี่ทุ่มถึงจะแยกย้ายกันเพราะฉันไม่อยากนอนดึก พรุ่งนี้ฉันเริ่มงานวันแรกแล้วสินะ…
/ ไรท์เพิ่งเริ่มเขียนครั้งแรก ฝากติชม ให้กำลังใจ และติดตามด้วยนะคะ
ผมชื่อ มหานที ธีรชาญชัย ชื่อเล่น มาร์ค ผมเป็นลูกชายคนเดียวของคุณธีรเดช ธีรชาญชัย ซึ่งเป็นเจ้าของโรงแรมระดับห้าดาวหลายแห่ง ก่อนหน้านี้ผมและครอบครัวใช้ชีวิตอยู่ที่สิงคโปร์มาเกือบครึ่งชีวิต เพราะบริษัทใหญ่อยู่ที่นั้น แต่ตอนนี้ผมในวัยสามสิบสองปีได้ย้ายกลับมาเมืองไทยซึ่งเป็นบ้านเกิดของผมเนื่องจากคุณพ่อสั่งให้ผมมาดูแลสาขาใหม่ที่นี่ ใจหนึ่งก็ตื่นเต้นที่ได้กลับมาที่ที่เคยอยู่ แต่อีกใจผมก็กังวลไม่น้อยเพราะผมไม่ได้ติดต่อใครที่นี่เลย ไม่มีเพื่อนสักคน ผมเป็นพวกไม่ชอบสุงสิงกับใครเท่าไหร่ แถมยังขี้รำคาญอีกด้วย ตั้งแต่ผมลงเครื่องมาถึงก็โดนสายตาคนรอบข้างมองไม่หยุด จริงๆมันเกิดขึ้นแทบจะตลอดเวลาในชีวิตผม แต่ผมก็ไม่เคยรู้สึกชินกับมันสักที
“ครับพ่อ” ผมพูดขึ้นเมื่อกดรับสายผู้เป็นพ่อ
“แกถึงแล้วใช่ไหม วันนี้แกต้องเข้าประชุมนะห้ามลืมเด็ดขาด แล้วถ้ามีอะไรขาดเหลือก็โทรหาเลขาฉัน”
“ครับพ่อ ผมไม่ลืมหรอกครับ”
“แกว่างเมื่อไหร่อย่าลืมโทรหาน้องด้วยนะ แล้วก็รีบให้น้องเข้ามาเริ่มงานได้แล้ว ฉันส่งแผนที่บ้านน้องให้แกแล้วในไลน์”
“ครับๆ แค่นี้ก่อนนะครับพ่อ ผมกำลังรอกระเป๋า” ผมพูดไปเท่านั้นสายก็ตัดไป แล้วเรื่องบุคคลที่สามที่พ่อพูดถึงก็คือน้องไอมิ ลูกสาวของอาพีระเพื่อนสนิทของคุณพ่อนั้นแหละ คุณพ่อเพิ่งคุยกับผมเรื่องนี้ไปเมื่อสามวันก่อนว่าจะฝากให้ผมช่วยดูแลน้องหน่อยในระหว่างที่พ่อแม่น้องไม่อยู่ ส่วนตัวผมไม่ได้มีปัญหาอะไรเพราะผมกับน้องก็เคยเป็นเพื่อนเล่นกันเมื่อตอนยังเด็ก แต่เรื่องงานนี่สิ คุณพ่อจะให้ผมรับน้องเข้ามาทำงานเป็นเลขาของผมทั้งที่ไม่มีประสบการณ์และยังไม่ได้ทดสอบอะไรเลย ถ้าใครรู้จักผมจริงจะทราบดีว่าผมเป็นคนจริงจังกับเรื่องงานมาก ผมกลัวว่ามิจะมาเป็นภาระผมเปล่าๆ นี่เป็นโอกาสที่สำคัญมากสำหรับผมที่จะได้พิสูจน์ตัวเองให้พ่อเห็นว่าผมทำงานแทนพ่อได้ ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาผมจะช่วยพ่อทำงานมาเยอะ แต่มันก็ไม่เหมือนกับที่พ่อไว้วางใจให้ผมดูแลบริหารด้วยตัวของผมเอง และนี่ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลว่าทำไมผมไม่เคยทำงานกับเลขาคนไหนเกินสามเดือนมาก่อน ส่วนอีกเหตุผลนึงน่ะเหรอ หึ ไม่มีใครอยู่ใกล้ผมแล้วไม่คิดเกินเลยได้สักคน ผมจึงหลีกเลี่ยงโดยการไม่รับใครมาทำตำแหน่งนี้อีก
“บอสครับ บอสจะให้ผมซื้ออะไรเพิ่มเติมไปไว้ที่คอนโดไหมครับ ของใช้ส่วนตัวของบอส ผมเตรียมไว้หมดแล้ว แต่ถ้าบอสอยากได้อะไรเพิ่ม ผมจะรีบจัดการให้ครับ” ไอ้ดิน ลูกน้องคนสนิทของผมพูดขึ้นในขณะที่มันจัดวางสิ่งของต่างๆในที่พักใหม่ของผม
“กูยังคิดไม่ออก มึงกลับไปเถอะ” ผมตอบทั้งที่ยังนั่งหลับตาอยู่บนโซฟา
“ครับบอส” มันพูดจบก็รีบเปิดประตูออกไป
มาถึงที่คอนโดผมก็เผลองีบหลับไปครึ่งชั่วโมงได้ ผมเหนื่อยจากการเดินทางและการประชุมวันนี้มาก แทบไม่มีเวลาพักผ่อนเลย แต่ตอนนี้ผมก็เพิ่งนึกออกว่าผมยังไม่ได้ทำภารกิจที่พ่อมอบหมายไว้ให้ทำ ผมจึงเอื้อมมือหยิบโทรศัพท์มือถือที่ชาร์จแบตทิ้งเอาไว้และกดโทรออกหาใครบางคน
ไม่นานปลายสายก็กดรับ “สวัสดีค่ะ”
“มิใช่ไหม” ผมพูด
“ค่ะ นั้นใครเหรอคะ” ปลายสายตอบมา
“พี่มาร์ค วันจันทร์แปดโมงเช้า พี่จะไปรับที่บ้าน” ผมตอบกลับไป
“คะ? เอ่อพี่มาร์คจะมารับมิไปทำงานแล้วเหรอคะ” เธอถามกลับ
“ห้ามสาย แต่งตัวให้พร้อม” พูดจบผมก็กดตัดสายทิ้งทันทีและหลับตาลงอีกครั้ง
อ่าว วางสายไปเฉยเลย อะไรของเขานะ ยังไม่ทันได้ถามไถ่อะไรเลย แต่ช่างเถอะ รอเจอหน้าค่อยคุยกันก็ได้มั้ง เอ๊ะนี่ฉันควรจะซื้ออะไรไปฝากพี่มาร์คดีไหมนะ ต้อนรับการกลับมาของพี่เขาสักหน่อย ว่าแล้วฉันก็ต่อสายหาเบสทันที
“ว่าไงยะ หายหัวไปเลยนะ” น้ำเสียงประชดประชันของเบสดังขึ้น
“ไม่ได้หายสักหน่อย ฉันยุ่งๆอะแก เหนื่อยม้ากมาก จัดการเรื่องในบ้าน นี่ขนาดคุณพ่อคุณแม่ไม่อยู่แค่ไม่กี่วันเองนะ”
“เออ ฉันก็แซวเล่นไปงั้นแหละ แล้วแกมีอะไรเปล่า”
“แก คือว่าพี่ชายฉันที่เป็นลูกเพื่อนพ่อฉันเพิ่งย้ายกลับมาอยู่ไทย ฉันไม่ได้เจอเขามาสิบกว่าปีแล้วอะ ฉันเลยคิดว่าฉันอยากจะซื้อไรไปฝากพี่เขาหน่อย พอดีคุณพ่อฝากให้ฉันไปทำงานกับพี่เขาอะแก เริ่มวันจันทร์นี้แล้วอะ” ฉันตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“หืม นี่แกได้งานแล้วเหรอวะ อืม… ฉันเห็นด้วยนะ มีไรติดไม้ติดมือไปก็ดี หรือแกจะทำพวกขนมไปฝากพี่เขาไหมละ แกทำขนมอร่อยจะตาย” เบสตอบกลับมา
“เออจริงด้วยแก งั้นฉันจะทำคุกกี้ดีกว่า แกจะเอาด้วยไหม เดี๋ยวฉันทำเผื่อ แล้วถ้าแกว่าง แกมาช่วยฉันหน่อยสิ” ฉันอ้อน
“เออได้ ฉันว่างพอดี งั้นเจอกันเย็นนี้ที่บ้านแกนะ แค่นี้ก่อนนะ ฉันขับรถอยู่” เบสกดตัดสายไป ฉันจึงลุกขึ้นไปบอกป้าพรให้ช่วยเตรียมอุปกรณ์ทำขนมให้ ทั้งเย็นวันนี้ฉันตั้งใจอบคุกกี้อย่างสุดฝีมือ ทานข้าวเย็นและนั่งจิบไวน์กับเบสจนเกือบๆสี่ทุ่มถึงจะแยกย้ายกันเพราะฉันไม่อยากนอนดึก พรุ่งนี้ฉันเริ่มงานวันแรกแล้วสินะ…
/ ไรท์เพิ่งเริ่มเขียนครั้งแรก ฝากติชม ให้กำลังใจ และติดตามด้วยนะคะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ