ชื่อเรื่อง ยังไม่มี
7.0
เขียนโดย PMTV
วันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2564 เวลา 22.35 น.
54 ตอน
48 วิจารณ์
35.50K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2564 15.27 น. โดย เจ้าของนิยาย
45) ตอนที่45
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความกลับมาที่ฝั่งของผมในระหว่างที่ผมคุยกับฮารุเวลาก็ผ่านไปจน7โมงเช้าผมก็เก็บของเช๊คเอ้าท์และเดินไปที่บาร์เมื่อคืนเพื่อจะไปหาวิธี
ติดต่อกับรูริผมเดินออกจากโรงแรมมาได้สักพักก็ถึงร้านซึ่งร้านไม่มีทางเปิดอยู่แล้วเวลานี้แต่ผมก็ยังเคาะประตูพร้อมกับกดกริ่งเรียก
เจ้าของร้านอยู่สักพักก็มีคนเดินมาเปิดประตู
พนง บาร์-ครับๆมีอะไรแต่เช้าถ้าจะขายหนังสือพิมพ์ไม่เอาแล้วไม่ต้องมา!!
ผม-โทษทีนะมาสเตอร์แต่ผมไม่ได้มาขายหนังสือพิมพ์หรอก
พนง บาร์-อ้าว!!! พี่ชายเมื่อคืนนี่ มาทำอะไรแต่เช้าล่ะครับร้านเราเปิดตอนเย็นนู้น
ผม-คือผมจะมาถามหาวิธีติดต่อกับรูริซังน่ะครับ
พนง บาร์-รูริจังงั้นหรอ นี่พี่ชายถึงจะคุยกันถูกคอแต่ถ้าจะมาทำอะไรกับรูริจังล่ะก็ผมไม่ยอมอยู่เฉยๆแน่!!
ผม-ผมไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นหรอกนะครับ ผมแค่จะมาชวนรูริซังไปทำงานด้วยกันก็เท่านั้นเองนะครับ
พนง บาร์-ทำงาน? นี่พี่ชายทำงานอะไรกันแน่เมื่อคืนก็ไม่ยอมตอบ คนหน้าสงสัยแบบพี่ชายไม่มีใครให้วิธีติดต่ออยู่แล้วล่ะ
ผม-ขอโทษด้วยครับ ผมลืมแนะนำตัวไป ผมทำงานที่บริษัทโอคะวะกรุ๊ปครับ
พนง บาร์-เอ๋!!! ทำงานที่บริษัทในเครือโรงแรมใหญ่ๆนั่นอ่ะนะ
ผม-ครับ ผมอยากจะชวนรูริซังมาเป็นเชฟน่ะครับ แต่ไม่ได้ทำที่นี่หรอกนะครับ เธอจะต้องไปทำงานที่โตเกียวแทนพนง บาร์-ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ พี่ชายมีอะไรมาเป็นหลักฐานล่ะว่าที่พูดมาเป็นความจริงผม-อืม….หลักฐานหรอครับ
พนง บาร์-ใช่ถ้ามีหลักฐานมายืนยันล่ะก็ผมจะติดต่อรูริจังให้
ผมก็ค้นหาหลักฐานว่าผมทำงานที่บริษัทจริงๆ ผมค้นไปค้นมาก็เจอนานมบัตร1ใบเป็นนามบัตรชุดแรกที่ผมมาทำงานที่นี่ผมเก็บเอาไว้
เป็นที่ละลึกซึ่งผมเก็บมันเอาไว้ในกระเป๋าใส่เงินผมก็เลยหยิบให้เค้าดู
ผม-อ๊ะ!! นามบัตรนี้พอจะใช้ยืนยันได้มั้ยครับ แต่มันเก่าหน่อยนะครับ
ทางพนง ร้านก็รับไปดูและทำท่าทางตกใจ
พนง บาร์-นะ นะ นะ นี่…พี่ชายเป็น รองประธานบริษัทหรอครับ!!ผม-ก็นะ ถ้าช่วยปิดเป็นความลับกับรูริซังไว้ก่อนผมจะดีใจมากเลยล่ะครับ
พนง บาร์-ขะ ขะ เข้าใจแล้วล่ะครับผมจะรีบติดต่อให้เดี๋ยวนี้เลย
หลังจากนั้นพนง บาร์ ก็พาผมเข้าไปนั่งรอในร้าน พร้อมกับโทรเรียกรูริให้มาที่ร้าน ไม่นานรูริก็มาถึงร้านในสภาพ กึ่งหลับกึ่งตื่นเมื่อคืน
หลังจากผมออกไปแล้วคงอยู่ดื่มต่ออีกยาวสินะ
รูริ-มาสเตอร์มีอะไรถึงได้โทรเรียกมาแต่เช้าเนี้ย!!!พนง บาร์-ก็พี่ชายเมื่อคืนน่ะสิ เค้าจะมาชวนรูริจังไปทำงานที่โตเกียวแหน่ะ!!!รูริ-ทำงานหรอ!!!
รูริที่กำลังกึ่งหลับกึ่งตื่น ก็ตื่นทันทีพร้อมกับทำท่าทางดีใจ
ผม-ใช่ไปทำงานเป็นเชฟ ที่โตเกียว รูริซังสนใจมั้ยครับรูริ-สนใจ!!!! เย้!!!มีงานทำแล้ววว มาสเตอร์ขอบคุณน้า
ผม-แต่ๆ ก่อนอื่นเลยช่วยลองทำอาหารเช้าให้พวกเราทานกันก่อนได้มั้ย มาสเตอร์ผมจะจ่ายค่าวัตถุดิบเอง ไม่มีปัญหาใช่มั้ยครับ
พนง บาร์-ค่าวัตถุดิบไม่ต้องจ่ายก็ได้ แต่ถ้ารูริจังสอบผ่าน พี่ชายคงไม่ผิดสัญญาเรื่องที่จะจ้างรูริจังไปทำงานที่โตเกียวหรอกใช่มั้ย
ผม-อ่า สัญญาเลย
พนง บาร์- งั้นหัวข้อคืออาหารเช้า รูริจังโชว์มือเลย
รูริ-ได้เลย!!!
เธอหายไปนานมากๆและออกมาพร้อมกับจานในมือ2จาน สิ่งที่เธอถือมา คือ ข้าวรีซอตโต้แอปเปิ้ลและเบค่อน หลังจากที่ผมชิมไป
แล้ว ผมพูดได้เต็มปากเลยว่า ผมจะจ้างเธอคนนี้เป็นแม่ครัวที่บ้าน หลังจากนั้นผมใช้เวลากินแปปเดียวหมดจาน
รูริ-เป็นไง อร่อยใช่ม้า~~
พนง บาร์-อร่อยจริงๆนะ รูริจัง
ผม-อื้ม อร่อยมากเลย กินแล้วสดชื่นมากได้กลิ่นแอ๊ปเปิ้ลเต็มที่แถมมีเนื้อแอ๊ปเปิ้ลใส่ลงไปอีก ประทับใจจริงๆ!!
พนง บาร์-เป็นยังไงบ้างพี่ชายฝีมือการทำอาหารของรูริจัง
ผม-จ้าง!! ผมตกลงจ้างรูริซังทำงานครับ
รูริ-เย้!!!! ไปโตเกียว โตเกียว โตเกียว~~
พนง บาร์-รูริจัง รีบไปเก็บของสิก่อนที่พี่ชายเปลื่ยนใจนะรูริ-จริงด้วย งั้นขอเวลา2 ชม เจอกันที่หน้าสถานีรถไฟนะผม-ได้เลยครับ
หลังจากนั้นผมก็เดินเล่นในเมืองอีกสักพักและผมก็เดินไปรอที่สถานีรถไฟ ไม่นานรูริก็ลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่มา2ใบ
ผม-รูริซัง มีของเยอะเลยนะครับรูริ-ยังไม่หมดนะ เด๋วเราว่าจะไปดูที่ทำงานใหม่ก่อนถ้าได้ห้องใหม่แล้ว ว่าจะค่อยส่งของตามไปทีหลังน่ะผม-งะ งั้นหรอครับ จริงสิผมลืมบอกไปเลยว่า ให้เอาหลักฐานที่คุณมีติดมาด้วยรูริ-เรื่องนั้นหรอ นายจะเอาไปทำอะไรล่ะ เราไม่จำเป็นต้องใช้มันแล้วนี่ยังไงตอนนี้เราก็มีที่ทำงานใหม่แล้วผม-เอ๊ะ! ผมยังไม่ได้บอกรูริซังหรอครับ ว่าผมทำงานที่บริษัทโอคะวะกรุ๊ปน่ะครับรูริ-เอ๋!!!!! งะ งะ ..งั้นงานที่จะชวนไปทำคือในเครือโรงแรมเถื่อนนั่นอะหรอ……..ปะ เปลื่ยนใจไม่ไปแล้วได้มั้ย
ผม-ทำไมล่ะ ที่สาขาโตเกียวกับสาขาโยโคเตะมันไม่เหมือนกันนะ
รูริ-นี่นาย!!! พูดเหมือนว่าจะดูแลชีวิตของเราได้งั้นแหละ
ผม-ก็ถ้า เราไม่ลองทำ เราก็ไม่มีทางรู้หรอกนะครับว่าผลมันจะออกมาเป็นยังไง สำหรับผม ผมมองว่าการที่รูริซังอยู่ที่นี่ต่อไปก็มีแต่จะ
ทำให้ทุกอย่างแย่ลง นั่นรวมถึงสุขภาพจิต ด้วยนะครับ ถ้างั้นทำไมไม่ลองเสี่ยงกับโอกาสที่ผมยื่นให้ดูสักครั้งล่ะ
รูริ-ก็ได้!! เราว่าชาติที่แล้วนายต้องเป็นพวกต้มตุ๋น18มงกุฎแน่ๆ ถึงใช้คำพูดหว่านล้อมได้ดีขนาดนี้
ผม-ฮ่ะๆนั่น คือคำชมอย่างงั้นหรอครับ
รูร-นี่นาย ไม่คิดจะเลี้ยงข้าวเพื่อนร่วมงานหน่อยรึไง เราหิวแล้วนะ เมื่อกี้ก็มีแค่นายกับมาสเตอร์ได้กินอาหารเช้าแท้ๆผม- ก็ได้ครับผมจะเลี้ยงข้าวเช้าเพื่อนร่วมงานล่ะกันนะครับ
หลังจากนั้นผมก็เดินไปซื้อตั๋วรถไฟ พร้อมกับซื้อข้าวกล่องรถไฟที่สถานีไปด้วยเพื่อกินระหว่างทาง พอขึ้นรถไฟเท่านั้น รูริก็รีบแกะ
ข้าวกล่องรถไฟกินทันทีกินไปก็ยิ้มไป พอกินเสร็จ ยัยรูริจอมป่าเถื่อนก็เข้านอนทันที ก็นะกว่าจะถึงอีกตั้งหลายชม ปล่อยให้นอนไป
ก่อนล่ะกัน ในระหว่างนั้นผมก็ลุกไปเข้าห้องน้ำไปเดินเล่นและเดินดูของขายที่ตู้เสียงสินค้าพร้อมกับโทรบอกฮารุ ว่าผมจะเข้าไปที่
บริษัทก่อนจะกลับบ้านไม่ต้องให้คนมารับที่สถานีรถไฟแล้ว ประมาณนี้หลังจากนั่งรถไฟมาอย่างยาวนาน ก็ถึงสถานีรถไปอูเอโนะหลัง
จากนั้นผมก็พา รูรินั่งรถไฟต่อไปที่ชิบูย่าและเดินต่อไปอีกหน่อยก็ถึงบริษัท พออยู่หน้าบริษัทรูริที่ตื่นเต้นกับสิ้นค้าและแฟชั่นในเมืองก็
เริ่มได้สติ ว่าการมาครั้งนี้ไม่ใช่มาเที่ยวเล่นแต่เป็นการมาเพื่อหางานใหม่และอณาคตใหม่ต่างหากล่ะ
รูริ-โห!!!! ตึกใหญ่จัง นี่หรอสำนักงานใหญ่ผม-เอ๊ะ!!! ตอนรูริซังมาสมัครงานไม่ได้มาสมัครที่นี่หรอครับรูริ-ป่าว เราสมัครที่ สาขาโยโคเตะน่ะผม-อ่อ งั้นผมขอเอกสารที่ คุณเอามาหน่อยได้มั้ยครับรูริ-ได้เล้ย!!
หลังจากนั้นรูริก็เปิดกระป๋าเดินทาง ที่หน้าบริษัททันที โดยไม่ได้สนใจเลยว่าจะขวางทางคนอื่นรึป่าว แน่นอนว่าคนในบริษัทมองกัน
เป็นแถว แต่ที่ไม่มีใครเข้ามาห้ามเพราะมีผมอยู่ด้วยหลังจากรูริ คุ้ยกระเป๋าหาเอกสารแปปนึงก็ยื่นเอกสารการสมัครงานมาให้ผม
รูริ-นี่ไงเจอแล้ว!!! ที่เหลือเราขอฝากนายด้วยนะ ฮี่ๆผม-……………..เอ่อ….รูริซังนี่เอกสารสมัครงานไม่ใช่หรอครับ รูริ-ใช่สิ อ้าว!!หรือว่าเราไม่ได้มาสมัครงานที่นี่หรอผม-อ่อ!!! ใช่ครับๆ เอกสารสมัครงานครบเรียบร้อยดีครับ ว่าแต่รูริซัง สิ่งที่ผมอยากได้น่ะมันคือ…….เอกสารอีกอันอ่ะรูริ-นี่นาย!!
แล้วรูริก็กระชากคอผมไปกระซิบเบาๆ
รูริ-นี่นายเอาเรื่องนี้มาพูดที่หน้าบริษัททำไม ถ้าเกิดสาขานี้จับได้ว่าเราเคยโดนไล่ออกแล้ว เราก็ซวยอ่ะดิ๊!!!ผม-อ่อ นะ …. นั่นสินะครับ ตะ ตะ แต่ว่าผมรู้จักคนที่ทำงานอยู่ที่นี่และตำแหน่งสูงๆอยู่ด้วยนะครับเด๋วพวกเราจะเข้าไปหาคนๆ
นั้นกัน เพราะงั้นช่วยเตรียมเอกสารให้ครบด้วยนะครับ รวมถึงรูปที่แอบถ่ายมาได้ทั้งหมดด้วยนะครับ
รูริ-นี่นายคงไม่ได้เอาเรื่องทำงานมาบังหน้า และหลอกใช้งานกันฟรีๆใช่มั้ยผม-ฮ่ะๆ รูริซังนี่ก็คิดมากไปไกลแล้วนะครับ ถ้าเตรียมเอกสารเสร็จแล้วก็เก็บกระเป๋าเดินทางเถอะนะครับมันขวางทางเดินคนอื่น
หลังจากนั้นรูริก็เริ่มมองรอบๆตัว ว่าเราอยู่หน้าบริษัทที่ พนง ระดับ เกิน1000คนทำงานอยู่ พอรู้สึกตัวรูริก็รีบ ก้มหัวข้อโทษคนที่เดิน
ไปเดินมาแถวนั้นเป็นการใหญ่ หลังจากนั้นผมก็รีบช่วยรูริเก็บของเพื่อจะได้ขึ้นไปข้างบนกันสักที หลังจากนั้นผมก็พารูริเดินเข้าไปที่
บริษัทพร้อมกับขึ้นลิฟต์ไปที่ห้องทำงาน พอลิฟต์เปิดออกก็เจอ นานามิกับซานาเอะกำลังนั่งทำงานกันหน้าเครียด
ผม-นานามิซัง ซานาเอะซัง ช่วยเอาเอกสารนี้ไปก๊อปปี้และเอาไปตรวจสอบให้ผมหน่อยได้มั้ยครับ
นานามิ-บิกคุซัง!!! กลับมาแล้วหรอคะ
ซานาเอะ-บิกคุซังคะ!!!!!
ทั้ง2คนที่เห็นผมก็รีบวิ่งมาต้อนรับทันที
ผม-ใจเย็นๆครับ ช่วยเอาเอกสารนี่ไปตรวจให้ผมหน่อย ทั้งๆที่ผมไม่เคยเห็นเอกสารแบบนี้แท้ๆแต่กลับมี ลายเซ็นของผม นานามิ-แต่ก่อนอื่น ตอนนี้ท่านประธานกำลังรออยู่นะคะ คะ … คืออยู่กันครบเลยด้วยนะคะ
ผม-เฮ้ออ เข้าใจแล้วล่ะครับ ผมฝากเรื่องตรวจสอบเอกสารด้วยนะครับ
นานามิ-ทราบแล้วค่ะ
ผม-งั้นผมขึ้นไปข้างบนก่อนนะ รูริซังไปกันเถอะครับ
รูริ-อย่าบอกนะว่า….นาย
ผม-ครับ ผมทำงานที่นี่เป็นรองประธานบริษัทครับ เพราะงั้นพวกเรารีบเอาเอกสารไปยื่นกันเถอะนะครับ
รูริ-เอ๋!!!!!!!!!!
หลังจากนั้นผมก็พา รูริที่ดูเหมือนสติจะหลุดออกจากร่างไปแล้วขึ้นไปที่ห้องทำงานของ คุณพ่อ ไปถึงก็เจอชิสึกะนั่งอยู่หน้าห้อง
ผม-คุณพ่ออยู่รึป่าวครับ ผมขอเข้าไปพบหน่อยได้มั้ยครับชิสึกะ-ยินดีต้อนรับกลับค่ะ ท่านบิกคุ ตอนนี้ท่านประธานกำลังรออยู่ในห้องค่ะ
ผม-ครับ
ชิสึกะ-แล้วคุณผู้หญิงคนนั้นเป็นใครอย่างงั้นหรอคะ
ผม-อ่อ รูริซังเป็นเชฟน่ะ
ชิสึกะ-งั้นคงต้องขอให้เชฟ รออยู่ข้างนอกห้องก่อนนะคะ ท่านบิกคุ
ผม-ขะ เข้าใจแล้วครับ
หลังจากนั้นผมก็เข้าไปในห้องทำงาน ในห้องมีทั้งคุณพ่อ คุณแม่ ฮารุ เก็นจิ ทาคุยะ ชิสึ ทาเคดะซัง ซาซากิซัง และมาคิชิมะ
ผม-ขออณุญาตครับ ผมกลับมาแล้วครับ
ฮารุ-ที่รักกลับมาแล้วหรอคะ ฮารุเป็นห่วงมากเลยนะ!!!
ฮารุก็รีบวิ่งเข้ามากอดผมทันที
มาคิชิมะ-ยินดีต้อนรับกลับนะครับ ท่านบิกคุผม-อ่า มาคิชิมะซัง ผมไม่คิดจะขอโทษในสิ่งที่ผมทำลงไปหรอกนะครับ
มาคิชิมะ-เรื่องนั้นกระผมทราบดีครับ
ทาเคดะ-เอาน่า แค่บิกคุคงกลับมาอย่างปลอดภัยก็ดีแล้วล่ะนะ แกล่ะว่าไงยูคิคุง
ซาซากิ-นั่นสินะ
โอคะวะ-บิกคุคุง พวกเราตกลงกันแล้วไม่ใช่หรอว่าห้ามเข้าไปยุ่งกับสาขานั้น
ผม-เรื่องนั้นผมทราบดีครับ แต่ผมยอมไม่ได้หรอกนะครับ ที่จะปล่อยให้คู่แข่งของเรามาใช้วิธีสกปรกเล่นงานเราแบนี้ และนี่คือเอกสาร
ที่ ไอ้พวกนั้นมันทำสัญญา โดยการมาจ้างแก๊งเคียวยะให้มาทำการก่อกวนพวกเรา มานานเป็นปีๆแล้วนะครับคุณพ่อ และการไปครั้งนี้
มันยังทำให้ผมเจอ เอกสารไล่ พนง ของเราออก โดยที่มีชื่อผมเซ็นแต่ผมกลับไม่เคยเห็นเอกสารหน้าตาแบบนั้นอีก เก็นจิ! ไปพารูริ
ซังเข้ามา
เก็นจิ-ทราบแล้วครับ
หลังจากนั้นไม่นานเก็นจิก็เข้ามาพร้อมกับรูริ
เก็นจิ-ผมพารูริซังมาแล้วครับคุณท่าน
ผม-อ่า รูริซังคนนี้เป็นเชฟฝีมือดี แต่กลับมีเอกสารปลอมๆที่ทำขึ้นมาพร้อมกับเอาลายเซ็นของผมไปแอบอ้างอีก และรูริซังคนนี้ทำให้
ผมรู้ว่า ผู้จัดการโรงแรมสาขาโยโคเตะ คือคนที่เราต้องเอาออกไปครับ
ผมพูดพร้อมกับหยิบหลักฐานที่รูริเตรียมเอาไว้และวางมันลงบนโต๊ะทำงานของคุณพ่อทั้งหมด พอทุกคนเห็นก็เริ่มหยิบเอกสารไปดู
และก็ได้แต่เงียบ
โอคะวะ-อืม…..
ฮารุ-นี่คุณพ่อคะ เรื่องนี้มันก็มีส่วนมาจากคุณพ่อเหมือนกันนะคะ คุณพ่อไม่ยอมแก้ปัญหาเอาแต่ปัดปัญหามาตลอด จนสามีหนูได้ดู
เอกสารของทางสาขานั้นและก็ได้เอะใจทันทีว่ามันแปลกๆ เรื่องนี้ สามีหนูไม่มีความผิดนะคะ!
สึคุยะ-นี่คุณพวกเราเป็นบริษัททำโรงแรมไม่ใช่หรอ ทำไมลูกเราออกไปทำงานถึงต้องเจ็บตัวกลับมาด้วยล่ะคะ แบบนี้พวกเรายังจะ
มีหน้าไปเจอพ่อและแม่ของบิกคุคุงอีกงั้นหรอคะ
โอคะวะ-มะ ..มันก็ไม่ใช่แบบนั้นหรอกนะคุณ
สึคุยะ-ไม่ใช่ยังไงคะ! เพราะคุณไม่ใช่หรอลูกถึงต้องออกไปทำงานเสี่ยงอันตรายแบบนี้ ทำไมคุณไม่หาคนมาทำงานแบบนี้แทนลูกล่ะ
คะ! ดิฉันอดทนกับการยัดเยียดงานยากๆให้กับลูกมานานแล้วนะ หลังจากนี้ดิฉันจะไม่ทนอีกต่อไป ฉันจะขอเข้าข้างฮารุจังและบิกคุ
คุง!!
ผม-คุณแม่ครับเรื่องนี้คุณพ่อได้พยายามห้ามผมแล้วครับ แต่พอผมเห็นเอกสารผมก็นึกสงสัยขึ้นมาและอยากเห็นทุกอย่างด้วยตาของ
ผมเอง ผมถึงไปที่นั่นครับ
สึคุยะ-ลูกก็อีกคน!!ครั้งนี้แม่ไม่ยอมหรอกนะ!!
ฮารุ-ฮารุ ก็ไม่ยอมเหมือนกันค่ะ!
ซาซากิ-ข้าก็เห็นด้วยนะ ถ้าจะปล่อยให้ไอ้เด็กน้อยไปพักสักหน่อยก็ดีเหมือนกันนะโดยที่ไม่ต้องคิดถึงเรื่องพวกนี้
ทาเคดะ-นั่นสินะ ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมานอกจากรถแล้วพวกเราเองไม่เคยรู้เลยนะว่าบิกคุคงชอบอะไร บางทีบิกคุคุงอาจจะกำลังอดทน
เพราะพวกเราอยู่ก็ได้
สึคุยะ-ดิฉันเห็นด้วยค่ะ ลูกควรได้เวลาพักจากงานบ้างนะคะ
โอคะวะ-เฮ้อออ ไม่อยากจะเป็นคนตัดสินใจเล้ยให้ตายซิ
ผม-ถ้าสิ่งที่ผมทำมันผิดล่ะก็ เชิญคุณพ่อลงโทษผมได้เต็มทีเลยครับ
ผมพูดพร้อมกับก้มหน้าสำนึกผิด
โอคะวะ-สิ่งที่ลูกทำมันไม่ได้ผิดหรอกนะ พ่อออกจะภูมิใจในตัวลูกเสียด้วยซ้ำ แต่ว่านะพ่อเองก็เห็นด้วยกับทุกคนนะ ถ้างั้นขอสั่งให้แก
พักงานไปสักเดือนละกันนะ
ผม-ทราบแล้วครับ ถ้างั้นผมขอตัวก่อนนะครับ
สึคุยะ-ดะ..เด๋วสิจ๊ะ พวกเราคุยกันจบแล้วก็จริงแต่ลูกก็นั่งเล่นในห้องนี้ต่อได้ไม่ใช่หรอ
ผม-ขอโทษนะครับผมยังมีเรื่องที่ต้องทำอยู่ครับ
โอคะวะ-เรื่องที่ว่า คือเรื่องสมัครงานของรูริซังอย่างงั้นหรอ ถ้างั้นพ่อจะเซ็นรับสมัครให้เอามั้ยลูก
ผม-ใช่ครับเรื่องของรูริซังแต่ผมไม่ได้ชวนรูริซังกลับมาทำงานในโรงแรมหรอกนะครับ ผมจะให้รูริซังทำงานเป็นแม่ครัวที่บ้านผม ผม
ถึงพาตัวเธอกลับมาด้วย
ทุกคนก็ทำท่าทางตกใจกันหมดทั้งห้อง รวมถึงตัวรูริเองด้วย
ฮารุ-เอาจริงหรอคะที่รัก
ผม-เอาจริงครับ และผมก็ได้ชิมอาหารฝีมือของรูริซังมาแล้วด้วย ถ้าเรื่องการทำอาหารล่ะก็หายห่วงได้เลยครับ
รูริ-นี่นาย!!!
หลังจากสิ้นเสียงรูริที่ตะโกนใส่ผม ก็มีคนนึงที่ออกมายืนอยู่ตรงรูริแทนผมนั่นก็คือชิสึ
ชิสึ-มีปัญหาอะไรกับการตัดสินใจของท่านบิกคุอย่างงั้นหรอคะ
รูริ-เอ๊ะ!! ม..ไม่มี
แล้วรูริก็ส่งสายตามาหาผมประมาณว่าแม่ตัวอันตรายคนนี้คือใคร
ผม-ถอยออกไปก่อนชิสึซัง
ชิสึ-ทราบแล้วค่ะ
หลังจากนั้นชิสึก็เดินกลับไปอยู่ที่เดิมข้ามๆฮารุ
ผม-คนเมื่อกี้ชื่อชิสึซังเป็นแม่บ้านที่คอยดูแลภรรยาของผมครับ
รูริ-ล…แล้วเรื่องงาน
ผม-รูริซังไม่อยากทำงานเป็นแม่ครัวที่บ้านผมหรอครับ
รูริ-มะ…มันก็ไม่ใช่แบบนั้นหรอกนะ ตะ…แต่เรามีความฝันที่อยากจะเป็นเชฟในโรงแรมดังและเราน่ะจะส่งบัตรเชิญไปให้พ่อกับแม่และ
พวกคนที่บ้านมากินอาหารฝีมือของเราด้วยนะ!!
สึคุยะ-ฮิฮิเป็นความฝันที่น่ารักจังเลยนะ
ฮารุ-หนูว่าอบอุ่นมากว่านะคะคุณแม่
โอคะวะ-ถ้างั้นลูกก็เซ็นรับเป็นพนงในร้านอาหารก็ได้นะพ่อจะทำเป็นไม่เห็นสักครั้งล่ะกัน
รูริ-จริงหรอคะ ไชโย!
ผม-อืมม……ก็เข้าใจความรู้สึกของรูริซังอยู่หรอกนะครับ
รูริ-งั้นแสดงว่าเราจะได้กลับไปเป็นเชฟในโรงแรมดังแล้วใช่มั้ย!!
ผม-ตะ…แต่ว่า ผมลองมาคิดๆดูแล้วผมว่าเรื่องของภรรยาผมต้องมาก่อน เพราะงั้นต้องขอโทษรูริซังด้วยนะครับ
รูริ-เอ๋!!!!!
หลังจากที่ทุกคนในห้องได้ยินสิ่งที่ผมพูดก็พากันแซวฮารุที่กำลังเขินอยู่กันใหญ่โต ส่วนพวกคนที่อยู่ในบ้านผมทุกคนไม่แปลกใจกับ
สิ่งที่ผมพูดเพราะรู้อยู่แล้วว่าสำหรับผม ฮารุเป็นที่1เสมอ
ฮารุ-ตะ…แต่คุณคะ เราควรใส่ใจกับความรู้สึกของรูริซังด้วยนะคะ
ผม-นั่นสินะครับบ…….. ถ้างั้นในระหว่างที่ทำงานเป็นแม่ครัวที่บ้านผม ผมจะอนุญาตให้ลาหยุดเพื่อมาสมัครสอบเป็นเชฟในโรงแรม
ของเราเดือนล่ะครั้งและถ้าในเวลาว่างรูริซังสามารถทำอาหารแบบใหม่ออกมาให้พวกเราในห้องนี้ได้ชิมและถ้าทุกคนชอบอาหารจาร
นั้น ผมจะอนุญาตให้นำเมนูที่ผ่านมาลองขายในร้านอาหารโรงแรมของเราด้วย ข้อเสนอนี้ดีพอมั้ยครับรูริซัง
รูริ-อืมม………..
รูริก็ทำท่าทางคิดหนัก บางทียัยรูริจอมป่าเถื่อนนั่นคงเอาสมองอันน้อยนิดของเธอจำแต่วิธีทำอาหารสินะ ถึงได้ไม่เอะใจกับข้อเสนอ
ที่สุดแสนจะเพอร์เฟคนี้ เพราะอะไรน่ะหรอ ก็เพราะว่าสุดท้ายมันอยู่ที่ผมอยู่ดีนั่นแหละว่าจะรับเข้าทำงานเป็นเชฟมั้ยและถ้าสอบไม่
ผ่านยังไงการทำงานอยู่ที่บ้านผม เป็นเรื่องที่ดีที่สุดสำรับยัยนั่น งั้นผมจะลองบอกขอเสนอเพิ่มล่ะกันถึงมันจะเป็นของที่ พนง ทุก
คนในบ้านใช้กันปกติอยู่แล้ว
ผม-ที่สำคัญ ผมมีห้องพักและอาหารให้ด้วยนะครับมีครบทั้ง3มื้อบางวันอาจจะมีของว่างและของหวานให้ทานด้วยนะครับ แน่นอนว่า
ทุกอย่างที่พูดมาทั้งหมดฟรี!! ถ้าสนใจมาทำงานกับผมล่ะก็ สิทธิพิเศษหลายๆอย่างที่ผมบอกมาเมื่อกี้ จะเป็นของคุณทันทีเลยนะรูริ
ซัง
หลังจากที่รูริซังได้ฟังข้อเสนอทั้งหมดของผมเธอก็ออกท่าทางดีใจยกใหญ่ รู้ริเป็นสาวสวยที่ ทำอาหารเก่งแต่ถ้าพูดเรื่องระดับความ
คิดและการตัดสินใจในสมองล่ะก็ อาจจะ……..เด็กกว่ามิจังก็ได้
รูริ-ตกลง!!! ฝากตัวด้วยนะบอส!!!~~
ผม-ครับ!!
หลังจากนั้นผมก็จับมือกับรูริเป็นการยืนยันว่าข้อเสนอของผม ทำเราพอใจกันทั้งคู่
โอคะวะ-ฮ่ะๆ หลอกล่อได้ดีนี่ ไอ้ลูกชายของพ่อ
หลังจานั้นโอคะวะก็เดินมากอดคอผม
ผม-มะ..ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกนะครับ
โอคะวะ-ถ้าพูดเก่งขนาดนี้ พ่ออยากจะให้ลูกช่วยรับงานการเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ กลุ่มลูกค้าคนไทยน่ะ
ผม-เอ๊ะ!
สึคุยะ- นี่คุณคะ!!!
สึคุยะซังพูดพร้อมกับเอามือตบโต๊ะดัง ปึ้ง!!!
โอคะวะ-ผะ….ผมหมายถึงหลังจากลูกพักเสร็จแล้วน่ะ
สึคุยะ-ถ้าแบบนั้นก็ได้ค่ะ
ฮารุ-ที่รักห้ามเข้าใก้ลบริษัทเป็นเวลา1เดือนเข้าใจมั้ยคะ!!!
ผม-คะ…ครับ
สึคุยะ-ถ้าจบเรื่องแล้วพวกเราออกไปหามื้อเย็นทานกันมั้ยคะ
ฮารุ-ไปค่ะ!! ที่รักอยากทานอะไรคะ
ผม-นั่นสินะครับ หลังจากออกแรงเยอะๆแล้วถ้าได้ทานเนื้อย่างเยอะๆก็คงจะดีนะครับ
ฮารุ-โธ่~~เนื้อย่างค่อยกลับไปทานที่บ้านก็ได้นี่คะ พวกเราไปทานอาหารอิตาลีกันมั้ยคะ ที่กินซ่ามีร้านให้เลือกเยอะเลยนะคะ
โอคะวะ-ดีนี่ แล้วพวกแกล่ะ จะเอายังไงไปด้วยกันมั้ย ซาซากิคุง ทาเคจัง
ซาซากิ-ข้ามีงานต้องไปทำน่ะซิ
ทาเคดะ-ข้าเองก็เหมือนกัน หลังจากนี้งานคงยุ่งขึ้นนิดหน่อยล่ะนะ
โอคะวะ-งั้นหรอ น่าเสียดายจังเลยนะ ไว้พวกเราจะไปหาพวกแกถึงบ้านบ้างล่ะกันนะ
ทาเคดะ-เห้ยๆ ถ้าพูดถึงเรื่องการมาหาที่บ้านแล้วล่ะก็ทำเอานึกถึงวันที่ชวนบิกคุคุงมางานเลี้ยงที่บ้านครั้งแรกเลยนะ
โอคะวะ-นั่นสินะ ไว้เรามาจัดกันอีกรอบดีมั้ยล่ะ
ซาซากิ-เห้ยๆ อีกไม่กี่เดือนบ้านบิกคุคุงก็จัดงานแล้วไม่ใช่หรอ หลังจากงานนั้นค่อยนัดกันใหม่ก็ได้
ทาเคดะ-นั่นสินะ ลืมงานเลี้ยงของบ้านบิกคุคุงไปเลย!!!
โอคะวะ-ฮ่ะๆ!!!
ผม-ทาคุยะ รถผมยังอยู่ข้างล่างรึป่าว
ทาคุยะ-ยังอยู่ครับ
ฮารุ-มีอะไรหรอคะที่รัก
ผม-ก็ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมแค่อยากจะให้ ชิสึซังและทาคุยะซังพารูริซังกลับไปที่บ้านก่อน
ทาคุยะ-ทราบแล้วครับ
ชิสึ-คุณท่าน ดิฉันต้องไปด้วยหรอคะ
ผม-ใช่ครับ เดิมทีผมจะให้เก็นจิไปแทน แต่ผมว่าให้ผู้หญิงด้วยกันเป็นคนแนะนำสถานที่และงานต่างๆน่าจะสดวกกว่าน่ะครับ
ชิสึ-รับทราบแล้วค่ะ
ผม-รูริซังจะสะดวกมั้ยถ้าไปถึงที่บ้านแล้วผมจะให้เริ่มงานในวันนี้เลย
รูริ-กะ…ก็เริ่มได้เลยล่ะนะ
ผม-ชิสึซัง ไปถึงบ้านแล้วหลังจากที่รูริซังเก็บของทุกอย่างเสร็จหมดแล้วให้พาไปช่วย อายะซังทำอาหารเย็นเลยนะครับ
ชิสึ-ทราบแล้วค่ะ
ฮารุ-ที่รักพวกเราไปทานข้าวกันเถอะนะ จะได้รีบกลับบ้านไปพักผ่อนค่ะ
ผม-ทราบแล้วครับ
หลังจากนั้นพวกผมก็ลงมาที่ด้านล่างของบริษัทพร้อมกับแยกย้ายกันไป เหลือเพียงแค่ผม ฮารุ คุณแม่ คุณพ่อ เก็นจิและ นิชิโนะที่
เป็นคนขับรถ หลังจากที่นิชิโนะเอารถมารับพวกเราไปที่ร้านอาหาร พวกเรา6คนก็นั่งกินอาหารกันหลังจากกินเสร็จพวกคุณพ่อกับคุณ
แม่ปลีกตัวออกไปเดินเล่นกันต่อโดยที่มีฮิโระพ่อบ้านของคุณแม่ที่มาตอนไหนผมก็ไม่รู้เดินตามไปด้วยหลังจากนั้นพวกผม4คนก็ขึ้นรถ
กลับมาที่บ้าน พอมาถึงบ้าน ทานากะและอายะก็ออกมายืนรอต้อนรับพวกผม
ทานากะ-ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะครับ คุณท่านคุณผู้หญิง
ผม-ครับ
อายะ-คุณท่านคะ ช่วยส่ง ถุงเสื้อผ้าที่ใส่แล้วให้ดิฉันด้วยค่ะ
ผม-เอ๊ะ!! อ้อ รบกวนด้วยนะครับ
อายะ-ทราบแล้วค่ะ
ฮารุ-ที่รักขึ้นไปอ่าบน้ำพักผ่อนเถอะนะคะ
ผม-ก็ดีเหมือนกัน งั้นผมไปก่อนนะครับ
ฮารุ-ค่ะ
หลังจากนั้นผมก็ขึ้นมาบนห้องอ่าบน้ำและล้มตัวลงนอนเลย ในวันนั้นผมหลับลึกมากๆประมาณว่านอนซ้อมตายกันเลย ผมมาตื่นอีกทีก็
เช้ามึดของวันใหม่ หยิบมือถือมาดูก็เพิ่งจะตี5กว่าๆ ผมก็เลยลงไปข้างล่างและก็ชงโกโก้ร้อน พร้อมกับถือ เป นอน ที่สามารถพับได้
มาด้วยผมก็เอามาตั้งใต้ต้นซากุระที่ไม่มีใบ มีแต่กิ่งและดอกตูมๆเท่านั้นพอกางเปเสร็จก็ล้มตัวลงนอนได้ไม่นานผมก็เริ่มรู้สึกหนาว
มากๆ จนโกโก้ร้อนที่ชงมาไม่ช่วยอะไรเลย ด้วยความที่ผมหนาวก็หนาวแต่ไม่อยากเข้าบ้านผมก็เลยเดินไปยกถังเหล็กมาและเอา
ท่อนไม้มาใส่พร้อมกับจุดไฟหลังจากนั้นผมก็นอนได้อย่างสบายใจ ผมนอนหลับต่ออีกยาวมารู้สึกตัวอีกทีคือ โอคะวะซังหรือคุณพ่อ
เอา เป นอนมา นอนอยู่ข้างๆผมตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ว่าแต่วันนี้ไม่ต้องไปทำงานหรอครับท่านประธานบริษัท พอผมหันซ้ายไปก็เจอ
ทานากะยืนอยู่ข้างๆผม
ทานากะ-นอนหลับสบายมั้ยครับคุณท่าน
ผม-อ่า สบายดีครับ ว่าแต่คุณพ่อมาตั้งแต่เมื่อไหร่หรอครับ
ทานากะ-ท่านโอคะวะ มาหาคุณท่านตั้งแต่เช้าแล้วล่ะครับ พอกระผมพาท่านโอคะวะเดินมาดูคุณท่าน ท่านโอคะวะก็สั่งให้กระผมเอา
เป นอน แบบ ของคุณท่านมาเพิ่มอีก1ตัว และก็ล้มตัวลงนอนอยู่ข้างๆคุณท่านนี่แหละครับ
ผม-งั้นหรอครับ แล้วคนอื่นไปไหนกันหมด
ทานากะ-คุณผู้หญิงและท่านสึคุยะกำลังดูทีวีกันอยู่ที่ห้องนั่งเล่นครับ
ผม-อืม…..นี่มันกี่โมงแล้วหรอครับ
ทานากะ-ตอนนี้เกือบจะบ่าย3โมงแล้วครับ
ผม-ห๊ะ!!! ผมนอนหลับไปนานขนาดนั้นเลยหรอครับ
ทานากะ-โฮ๊ะๆเกรงว่าคุณท่านจะเหนื่อยกับงานมากเกินไปนะครับ
ผม-เฮ้อออ ทานากะซัง ช่วยให้ใครทำอาหารมาให้ผมทานหน่อยได้มั้ย
ทานากะ-กระผมจะรีบไปจัดการให้ครับ
หลังจากนั้นทานากะก็ก้มหัวและเดินเข้าไปในบ้านผมก็หันซ้ายหันขวาไม่รู้จะทำอะไรต่อดีก็เลยปลุกคุณพ่อ เพราะเห็นทานากะบอกว่า
มาหาผมตั้งแต่เช้าแล้ว อาจจะมีงานด่วนมาให้ผมทำก็ได้
ผม-คุณพ่อครับ คุณพ่อครับ!! ตื่นเถอะครับ คุณพ่อ
โอคะวะ-ขอพ่อนอนต่ออีกหน่อยนะ ฮารุจัง
ผม-ฮารุจังที่ไหนล่ะครับ!! ผมบิกคุเองนะครับ คุณพ่อ
โอคะวะ-ขอ นอนต่ออีกหน่อยน้า~~~
ปลูกยังไงก็ไม่ยอมตื่นเลย แบบนี้เห็นทีต้องใช้ท่าไม้ตายซะแล้ว ผมก็เลยเข้าไปกระซิบข้างๆหู
ผม-คุณพ่อ ผมกับซาซากิซังและทาเคดะซังพวกเรากำลังจะไปอ่าบน้ำอุ่นกัน คุณพ่อจะไปด้วยกันมั้ยครับ
ทันทีที่ผมพูดจบคุณพ่อที่เอาแต่งัวเงียไม่ยอมตื่นก็ ลุกขึ้นมานั่งทันที
โอคะวะ-เห้ยข้าไปด้วย!!
หลังจากพูดเสร็จคุณพ่อก็ทำหน้างง มองหาทาเคดะและซาซากิหลังจากนั้นก็หันมาหาผมที่กำลังนั่งยิ้มอยู่
โอคะวะ-พวกทาเคจังไปกันแล้วหรอลูก!!
ผม-ฮ่ะๆพวกทาเคดะซังไม่ได้มาที่นี่ตั้งแต่แรกแล้วครับ
โอคะวะ-ละ…แล้วเมื่อกี้ล่ะ
ผม-อันนั้นผมโกหกคุณพ่อเองล่ะครับฮ่าๆ!!!
โอคะวะ-นี่ลูก!! มาโกหกผู้ใหญ่แบบนี้ได้ยังไงกัน!
ผม-ผมขอโทษครับคุณพ่อ แต่ผมพยายามปลุกคุณพ่อเท่าไหร่คุณพ่อก็เอาแต่ขอนอนต่อตลอดเลยนี่ครับ
โอคะวะ-ก็ได้ครั้งนี้จะยกโทษให้แล้วกัน!!
คุณพ่อทำท่าทางโกรธใหญ่เลยแต่มันก็ดูน่ารักในสายตาผมและมันยิ่งทำให้ผมอยากแกล้งต่อเรื่อยๆแต่วันนี้พอแค่นี้ก่อนดีกว่าก่อนที่
จะโดนโกรธจริงๆผมเลยคิดที่จะเปลื่ยนหัวข้อคุยเป็นเรื่องที่เค้ามาหาผม
ผม-ทานากะซังบอกว่าวันนี้คุณพ่อมาหาผมที่บ้านแต่เช้าเลย มีงานด่วนมาให้ผมทำรึป่าวครับ
โอคะวะ-เฮ้อออก็ไม่มีอะไรมากหรอกนะ สึคุยะไม่สิแม่แกบอกให้รีบมาหาแกที่บ้านตั้งแต่เช้ากลัวแกจะออกไปหาเรื่องเจ็บตัวกลับมาอี
กน่ะซิ
ผม-ขะ..ขอโทษครับ ตะ…แต่ว่าเรื่องนั้นมัน
โอคะวะ-รู้แล้วล่ะเมื่อวานก็ทำเรื่องไล่ออกผู้จัดการโรงแรมนั้นไปแล้วล่ะนะและเพราะมีเอกสารที่แกและรูริที่เตรียมมาอีกเลยทำให้พวก
เราสามารถดำเนินคดีตามกฎหมายได้ต่อด้วยล่ะนะ
ผม-ยะ…อย่างงั้นหรอครับ
โอคะวะ-จริงสิมีของอยากให้แกดูด้วยนะเดินตามมาสิ
ผม-ของที่อยากให้ผมดูหรอครับ
โอคะวะ-ใช่แล้วล่ะแกต้องชอบมันแน่ๆ
หลังจากที่คุณพ่อพูดเสร็จก็เดินนำผมเข้าไปที่บ้านและเดินตรงออกไปหน้าบ้าน ที่หน้าบ้านมีรถที่ผมไม่คุ้นตาจอดอยู่มันก็คือR35GTR
สีน้ำเงิน ผมก็รีบเดินเข้าไปดูรถใก้ลๆ
ผม-ว้าว!!! รถใหม่คุณพ่อหรอครับสวยมากเลยครับ ขอดูภายในด้วยได้มั้ยครับ
โอคะวะ-ได้สิ
หลังจากที่ได้รับอนุญาตแล้วผมก็รีบเปิดประตูรถและเข้าไปนั่งในรถ ภายในเป็นสีดำเรียบๆพวงมาลัยมีปุ่มเยอะแยะไปหมดและที่
สำคัญมันไม่ต้องเสียบกุญแจก่อนสตาร์ทรถเพียงแค่พกกุญแจไว้เข้าไปนั่งเหยียบคันเบรคค้างไว้และกดปุ่ม เครื่องรถก็ติดทันทีมันเป็น
อะไรที่ว้าวและใหม่มากสำหรับคนที่มีแต่รถเก่าๆอย่างผม หลังจากนั้นคุณพ่อก็เปิดรถให้ผมดูทุกส่วนพร้อมกับบอกรายละเอียดหลายๆ
อย่างเกี่ยวกับรถให้ผม รถคันนี้คือรถใหม่ป้ายแดงซึ่งคุณพ่อแอบคุณแม่ไปซื้อมาเหมือนเดิม
ผม-สวยจังเลยนะครับเนี้ย
โอคะวะ-งั้นพ่อให้
ผม-ห๊ะ!! เอ๊ะ!!ผะ ผะ ผะ..ผมรับของแพงๆแบบนี้ไม่ได้หรอกนะครับคุณพ่อ!!!
โอคะวะ-กะแล้วว่าลูกต้องพูดแบบนี้ถึงจะไม่อยากรับก็เถอะแต่ยังไงรถคันนี้ฮารุก็เป็นคนเลือกมาให้ลูกนะแถมชื่อเจ้าของรถคันนี้ก็คือ
ฮารุอีกด้วยนะ
ผม-ฮะ..ฮารุเป็นคนเลือกคันนี้มาให้ผมหรอครับ
โอคะวะ-ใช่แล้วล่ะนะ ตอนนั้นที่ลูกอดหลับอดนอนทำงานจนฮารุต้องขับรถของลูกพาลูกกลับมาที่บ้านใช่มั้ยล่ะ ก่อนที่ฮารุจะเลือกรถ
คันนี้ก็ได้คิดถึงเรื่องนั้นเอาไว้ด้วย ยังไงซะรถคันนี้ก็เปลื่ยนเป็นเกีร์ยออโต้ได้ฮารุขับได้สบาย~~~
ผม-ถะ…ถึงคุณพ่อจะพูดแบบนั้นก็เถอะ ผะ…ผมจะพยายามไม่ทำให้ฮารุต้องมาขับรถแทนผมล่ะกันนะครับ
โอคะวะ-โอ้รู้งานดีนี่ งั้นฝากด้วยนะบิกคุคุง
ผม-เฮ้ออ ผมทราบแล้วครับ
หลังจากนั้นพวกผมก็เดินกลับเข้ามาในบ้านเพื่อจะเข้าไปที่ห้องอาหารเพราะคิดว่าข้าวที่สั่งไว้อาจจะทำเสร็จแล้วแต่ทานากะก็มายืน
ดักอยู่ที่ห้องโถงหน้าบ้าน
ผม-อาหารเสร็จแล้วหรอครับ
ทานากะ-ตอนนี้คุณผู้หญิงกำลังทำให้อยู่ครับ
ผม-เอ๋!!!! แล้วรูริซังไปไหนล่ะครับ
ทานากะ-รูริซังก็กำลังช่วยคุณผู้หญิงทำอาหารอยู่ครับ
เอาเชฟที่ทำอาหารระดับโรงแรมมาเป็นผู้ช่วยและเอาคนทำอาหารมือสมัครเล่นแบบฮารุมาเป็นเชฟแทนเนี้ยนะ คิดอะไรกันอยู่!!!
ผม-ดะ..เด๋วนะครับตำแหน่งงานมันสลับกันรึป่าวครับ
ทานากะ-เอ่อ….เรื่องนั้นกระผมได้บอกกับคุณผู้หญิงไปแล้วเหมือนกันครับ แต่ว่าคุณผู้หญิงบอกว่า การทำอาหารให้สามีทานก็เป็น
หน้าที่ของภรรยาเหมือนกันครับ
ผม-เฮ้อออ อีกแล้วหรอเนี้ยย แบบนี้การจ้างรูริซังให้มาทำงานที่นี่ก็ไม่มีความหมายสิครับ
โอคะวะ-อย่าไปคิดมากนักเลยลูก พวกเรามีหน้าที่แค่นั่งเฉยๆและรอทานอาหารก็พอแล้วล่ะนะ
ผม-นะ…นั่นสินะครับคุณพ่อ
หลังจากนั้นผมกับคุณพ่อก็ไปนั่งดูทีวีกันอยู่ที่ห้องอาหารโดยที่มีอายะและทานากะคอยเดินตามติดและดูและเรื่องน้ำขนมให้กินรอ
ก่อนกินข้าวผ่านไปได้สักพักพวกยัยพลอยกับมิจังก็กลับมาที่บ้านไม่นานยัยพลอยก็วิ่งเข้ามาในห้องอาหารพร้อมกับเปิดประตูเสียงดัง
ปึง!!
พลอย-กลับมาแล้วค้า!~~~
ผม-กลับมาก็ส่งเสียงดังหนวกหูน่ารำคาญเลยนะ
พลอย-ฮี่ๆ สวัสดีตอนเย็นค่ะ คุณพ่อ
โอคะวะ-เรียนเป็นยังไงบ้างพลอยจัง
พลอย-ช่วงนี้เรียนหนักมากเลยล่ะค่ะ อีกไม่นานก็จะสอบแล้ว
โอคะวะ-งั้นหรอ ถ้าเงินค่าขนมไม่พอก็แวะมาหาพ่อที่บริษัทล่ะขึ้นไปที่ห้องทำงานได้เลยนะพลอยจัง
ผม-ไม่ได้หรอกนะครับคุณพ่อ ค่าขนมยัยพลอยที่บ้านผมเองก็ให้ยัยพลอยมาแล้วด้วยนะครับจะให้มารับจากคุณพ่ออีกรอบมันไม่ได้
หรอกนะครับ
โอคะวะ-ลูกนี่เข้มงวดกับพลอยจังจริงๆเลยน้า~~~
ผม-ผมไม่ได้เข้มงวดกับยัยพลอยหรอกนะครับแต่ทุกคนที่นี่ตามใจยัยพลอยเกินไปมากกว่านะครับ!
โอคะวะ-ฮ่ะๆๆ!! ก็ไม่เถียงหรอกนะ เพราะ 2คนนั้นน่ะกำลังวางแผนให้พลอยจังเข้าไปทำงานที่บริษัทด้วยล่ะนะ
ผม-เอ๊ะ!! 2คนนั้นหรือว่าหมายถึงคุณแม่กับฮารุหรอครับ
โอคะวะ-ใช่แล้วล่ะ ฮ่ะๆ!!
ผม-ยัยพลอยแกอย่าพูดอะไรที่มันเวอร์เกินไปนะ
พลอย-หนูรู้แล้วค่ะ!!
ผม-เข้าใจก็ดี
หลังจากที่เราคุยกันได้ไม่นานพวกฮารุเดินมาที่ห้องอาหารพวกอายะ ชิสึ ทาคุยะ ริน ทานากะ ทุกคนต่างช่วยกันยกอาหารมาวางที่
โต๊ะหลังจากนั้นพวกผมก็นั่งกินข้าวกันคุยกันไปรื่อย
โอคะวะ-จริงสิ ฮิโระไปหยิบเอกสารบนรถมาให้หน่อยซิ
ฮิโระ-ทราบแล้วครับ
หลังจากนั้นฮิโระก็เดินออกจากห้องอาหารไปได้ไม่นานก็กลับมาพร้อมกับซองเอกสารและฮิโระก็เดินเอาซองเอกสารนั่นมายื่นให้ผมที่
นั่งอยู่หัวโต๊ะ
ผม-เอ๊ะ!! ฮิโระซังเอามาให้ผมทำไมกันครับ
โอคะวะ-ก็นั่นมันเป็นเอกสารของแกไงล่ะ
ผม-ของผมหรอครับ
ผมก็รับเอกสารมาแบบงง และเปิดซองดู ในนั้นมีเอกสารการทำงานของผมทุกอย่างและหนังสือรับรองทางบริษัทที่มีลายเซ็นของโอ
คะวะซัง ซึ่งมีทั้งหมดอย่างละ4ชุด
ผม-นะ..นี่คือ
โอคะวะ-ก็หนังสือรับรองและก็เอกสารการทำงานของแกไง
ผม-เอ๊ะ!! แต่มันใช้แค่2ชุดเองไม่ใช่หรอครับ
สึคุยะ-นี่ลูกจะทำให้คนเดียวได้ยังไงล่ะจ๊ะต้องทำให้ทั้ง2คนเลยไม่ใช่หรอ
ฮารุ-ใช่แล้วค่ะ
ผม-2คนนี่ มะ…หมายถึงพ่อกับแม่ผมหรอครับ!!
สึคุยะ-ใช่แล้วจ๊ะ
ผม-ยะ…ยัยพลอยแกลาหยุดไปทำได้ใช่มั้ยเรื่องนี้
พลอย-หนูใก้ลจะสอบแล้วนะคะ
โอคะวะ-นั่นสิเมื่อกี้พลอยจังก็เพิ่งจะบอกไปเองนะว่าใก้ลจะสอบแล้ว คงต้องให้ลูกไปแทนแล้วล่ะนะ
ผม-คุณพ่อ……อย่าบอกนะว่าเอาคืนเรื่องเมื่อตอนบ่าย
ฮารุ-เรื่องตอนบ่าย….ที่รักไปทำอะไรกับคุณพ่อมาหรอคะ
โอคะวะก็ส่งสายตาพิฆาตมาที่ผมประมาณว่าถ้าผมพูดมากไปกว่านี้ผมก็จะโดนแฉคืนและผมไม่อยากจะทำอะไรให้คุณพ่อโกรธเพราะ
ผมไม่อยากให้ฮารุรู้เรื่องรถคันใหม่ที่กำลังทำอยู่ทั้งราคา ทั้งความแรง ทั้งความเก่า มันคงเกินขอบเขตที่ฮารุจะรับได้มากเกินไปและ
คนที่จะซวยก็คือผม
ผม-มะ…ไม่มีอะไรครับ
ฮารุ-ที่รักฮารุคิดว่าพวกเรารีบซื้อตั๋วเครื่องบินแล้วรีบไปหาท่านพ่อกับท่านแม่กันเถอะนะคะ
ผม-เฮ้ออออ ไว้ผมขอคิดดูก่อนละกันนะครับ
ฮารุ-แต่ยังไงที่รักก็หยุดอยู่บ้านอยู่แล้วนี่คะ
พลอย-พี่ชายซื้อของกลับมาฝากเยอะๆหน่อยนะ เพื่อนๆหนูเค้าชอบยาดมกันมากเลยล่ะ
สึคุยะ-แม่ก็ชอบนะ ทุกวันนี้แม่ก็พกติดกระเป๋าไว้ตลอดเลย
โอคะวะ-พูดไปแล้วพวกเราก็ไม่ได้ทานกันนานแล้วนะ ไอ้ทุเรียนทอด ที่ลูกเอามาฝากครั้งที่แล้ว
พลอย-หนูเอาด้วย เอามาเยอะๆเลยนะคะพี่ชาย!!!!
สึคุยะ-ถ้าได้มาเยอะๆก็ดีสิ แม่จะเอาไปฝากเพื่อนๆของแม่ด้วยได้มั้ยจ๊ะ
ถ้าจะพูดกันขนาดนี้ผมก็คงต้องเหมาถุงใหญ่สุดมาแล้วล่ะไม่รู้จะพอแจกมั้ย ถ้าผมกลับบ้านมามือเปล่าคงโดนบ่นไปอีกหลายวันแน่ๆ
ผม-ขะ…เข้าใจแล้วครับ
หลังจากนั้นพวกเราก็นั่งกินข้าวกันจนเสร็จ ผมและฮารุก็เดินไปส่งคุณพ่อกับคุณแม่ขึ้นรถกลับไปที่บ้านหลังจากนั้นฮารุก็ไปนั่งเล่นกับ
ยัยพลอยที่ห้องนั่งเล่น เหลือผมกับทานากะยืนอยู่หน้าบ้านกัน2คน
ผม-ทานากะซังช่วยไปตาม นิชิโนะซังมาหาผมที่ห้องทำงานหน่อยครับ
ทานากะ-ทราบแล้วครับ
หลังจากนั้นผมก็เข้าไปนั่งอยู่ในห้องทำงานเปิดดูตั๋วเครื่องบินแต่รอบนี้ผมไม่รู้จะไปนานแค่ไหนผมเลยจองแค่ตั๋วขาไปอย่างเดียว ขาก
ลับค่อยไปจองตอนที่เรื่องเอกสารทุกอย่างเสร็จหมดแล้ว ไม่นานผมก็ได้ตั๋วเครื่องบินเร็วสุดคือต้องไปขึ้นเครื่องตอนเวลาตี4ครึ่ง
ก๊อกๆ
ทานากะ-ขออนุญาตครับ กระผมพานิชิโนะซังมาแล้วครับ
ผม-ขอบคุณครับ ทานากะซังช่วยไปอยู่กับพวกฮารุด้วยนะครับ
ทานากะ-ตะ..แต่ว่า
ผม-ผมมีเรื่องสำคัญที่จะคุยกับนิชิโนะซังสักหน่อยครับ
ทานากะ-ทราบแล้วครับ ถ้าเช่นนั้นกระผมขอตัวก่อนนะครับ
ทานากะก็ก้มหัวและเดินออกจากห้องทำงานผมไป
นิชิโนะ-เรื่องสำคัญที่ว่า
ผม-อ่อ ไม่ใช่เรื่องสำคัญขนาดนั้นหรอกนะครับ ผมแค่จะให้ไปส่งที่สนามบิน ตอนตี4 ครับ
นิชิโนะ-เอ๊ะ!!! คุณท่านจะไปต่างประเทศหรอครับ
ผม-ใช่ครับ ผมจะกลับไปที่บ้านผมสักพัก
นิชิโนะ-เอ๋!!!!
ผม-ขอโทษนะครับที่ต้องให้ตื่นแต่เช้าไปส่งผมที่สนามบิน
นิชิโนะ-ด้วยความยินดีครับคุณท่าน เรื่องขับรถให้คุณท่านและคุณผู้หญิงเป็นงานของผมอยู่แล้วได้โปรดวางใจครับ
ผม-ขอบคุณนะครับ วันนี้ไปพักผ่อนเถอะและก็เรื่องที่ผมจะไปขึ้นเรื่องตอนตี4 ขอให้ปิดเป็นความลับให้ดีนะครับ
นิชิโนะ-เอ๊ะ!!แม้แต่ คุณผู้หญิงและทานากะซังหรอครับ
ผม-ใช่
นิชิโนะ-ทะ…ทราบแล้วครับ
ดูเหมือนว่านิชิโนะจะทำท่าลำบากใจก่อนที่จะรับปากกับผม ตอนนี้ทุกคนในบ้านคงโดนฮารุสั่งมาให้คอยจับตาดูผมกันอยู่สินะ คงจะ
สั่งมาว่าห้ามให้ผมไปไหนคนเดียวอีกก็เข้าใจความรู้สึกของฮารุอยู่หรอกแต่ บางครั้งการทำอะไรคนเดียวมันสดวกที่สุดสำหรับผมมันก็
แค่นั้น หลังจากนั้นผมก็ขึ้นห้องไปเก็บของแล้วแอบเอากระเป๋าเดินทางลงมาไว้ที่ห้องทำงานและก็ขึ้นไปอ่าบน้ำและนอนดูทีวีอยู่ใน
ห้องนอนไม่นานฮารุก็เข้าห้องมาและไปอ่าบน้ำอ่าบเสร็จก็มาล้มตัวลงนอนข้างๆผม
ผม-ฮารุคุณอยากได้อะไรจากเมืองไทยบ้างมั้ยครับ
ฮารุ-อยากได้ที่รักค่ะ!!
ผมก็เลยเอามือไปดันหน้าผากฮารุเบาๆ
ผม-เด๋วเถอะทุกวันนี้พวกเราก็อยู่ด้วยกันแล้วนี่ครับ ผมหมายถึงสิ่งของที่ประเทศไทยต่างหากล่ะครับ
ฮารุ-กะ.ก็ฮารุอยากได้แค่นั้นนี่คะ
ผมก็ไม่ได้ตอบอะไรฮารุออกไปแต่รู้สึกได้เลยว่าผมกำลังทำหน้าเขินให้ฮารุเห็นอยู่แน่ๆ ผมก็เลยหันหน้าหนีแล้วก็ดึงผ้าห่มมาห่ม
ฮารุ-อ๊ะ!!! ที่รักเขินหรอคะ ฮิฮิ วันนี้ฮารุโชคดีจริงๆได้เห็นที่รักเขินด้วย
ผม-นอนได้แล้วนะครับนี่มันดึกแล้ว
ฮารุ-ค้า~~~สามี
หลังจากนั้นผมปิดทีวีแล้วก็นอน
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ