ชื่อเรื่อง ยังไม่มี
เขียนโดย PMTV
วันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2564 เวลา 22.35 น.
แก้ไขเมื่อ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2564 15.27 น. โดย เจ้าของนิยาย
46) ตอนที่ 46
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ตื่นมาอีกทีตี4 นิชิโนะมาเคาะประตูห้องนอนผมพอผมรู้สึกตัวผมก็รีบลุกขึ้นล้างหน้าแปรงฟันอ่าบน้ำเปลื่ยนเสื้อผ้าแล้วรีบลงไปข้างล่างขนของขึ้นรถ
ผม-ขอโทษนะครับพอดีผมตื่นสายไปหน่อย
นิชิโนะ-ไม่เป็นไรครับคุณท่าน
ผม-อืม ออกรถไปได้เลย
นิชิโนะ-ทราบแล้วครับ
หลังจากนั้นนิชิโนะก็ซิ่งรถพาผมไปที่สนามบินพอไปถึงสนามบินผมก็รีบช่วยนิชิโนะขนของแต่มันก็มีกระเป๋าแค่ใบเดียวล่ะนะ
นิชิโนะ-อะ..เอ่อคุณท่านไม่ให้ ท่านเก็นจิ ตามไปด้วยแบบนี้จะดีจริงๆหรอครับ
ผม-นั่นสินะ ตื่นมาคงโวยวายกันบ้านแตกอีกรอบแน่ๆ
นิชิโนะ-เหอะๆ ผมอยากอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นอีกแล้วล่ะครับ
ผม-งั้นก็เอากระดาษแผ่นนี้ไปให้ฮารุกับทานากะซังด้วยนะครับและฝากบอกด้วยว่าดูแลบ้านกันให้ดีๆอย่าให้มีเรื่องปวดหัวเพิ่มมาอีก
ล่ะ
นิชิโนะ-ทราบแล้วครับ กลับไปถึงบ้านผมจะรีบเอากระดาษแผ่นนี้ให้ทานากะซังและคุณผู้หญิงครับ
ผม-อืม งั้นก็กลับบ้านไปพักผ่อนเถอะผมต้องรีบไปขึ้นเครื่องแล้ว
นิชิโนะ-ขอให้คุณท่านเดินทางปลอดภัยครับ
ผม-ขอบใจนะ งั้นไปล่ะ
หลังจากนั้นผมก็เดินมาโหลดกระเป๋าขึ้นเครื่อง ไปนั่งรอที่เกทไม่นานก็ขึ้นเครื่อง พอขึ้นเครื่องเสร็จผมก็หลับตื่นมาอีกทีก็ถึงสนามบินที่
เมืองไทยผมก็เดินออกจากเครื่องผ่านตม. มาเอากระเป๋าและก็เดินออกไปข้างนอกอาคารโดยสารหารถแท็กซี่นั่งกลับบ้าน พอมาถึงบ้านผมเปิดประตูเข้าบ้านไปก็เจอเตี่ยกับแม่นั่งอยู่และผมก็ได้รับคำพูดในการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากแม่………รึป่าวนะ?
แม-นี่ไอ้ลูกบ้า!!! แกหนีออกจากบ้านมาอีกแล้วใช่มั้ย!!!
ผม-ห๊ะ!!! ผมจะหนีออกมาทำไมล่ะแม่ผมก็ให้คนขับรถมาส่งที่สนามบินเนี้ย
แม่-แล้วทำไมเมื่อเช้าฮารุโทรมาบอกว่าแกหายตัวออกจากบ้านอีกแล้ว
ผม-แม่คุยกับฮารุรู้เรื่องที่ไหน อย่ามาหลอกผมเลย!!
แม่-แล้วจะมียัยพลอยไว้ทำไมล่ะ แถมยัยพลอยสอนภาษาให้ฮารุมาตั้งหลายวันแล้วนะ และทุกวันนี้ก็คุยกับฮารุอยู่ตลอดด้วย!!
และแม่ผมก็เปิดมือถือให้ดู มีแต่ข้อความเสียงทั้งนั้นพอผมกดฟังก็ได้ยินเสียงฮารุที่พยายามพูดภาษาไทยที่ฟังไม่ชัดแต่ผมก็จำเสียง
ฮารุได้ไม่มีผิดแต่แค่ระยะเวลาไม่ถึงครึ่งเดือนแต่กลับเข้าใจความหมายและคุยกับแม่ผมได้ถึงจะพูดไม่ชัดฟังไม่รู้เรื่องบ้างแต่ก็คุยกับ
แม่ผมรู้เรื่องมันค่อนข้างทำให้ผมแปลกใจว่าคนเราจะเรียนรู้กันไวขนาดนั้นเลยหรออย่างของผมกว่าจะพอสื่อสารได้ไอ้เก็นจิสอนผม
อยู่นาน
เตี่ย-แล้วนี่กลับมาทำไมล่ะ แล้วทำไมไม่พาฮารุจังมาด้วยล่ะ
ผม-กะ..ก็แม่น่ะสิเตี่ย! จะขอวีซ่า1ปีให้ได้ ยัยพลอยก็กำลังสอบ ผมก็เลยต้องเอาเอกสารมาให้นี่แหละ
แม่-ก็แกมันดื้อเองต่างหากล่ะ!!
ผม-แม่!! เรื่องนี้อีกแล้วหรอ แม่รู้มั้ยวันนั้น โอคะวะซังสึคุยะซัง ซาซากิซังและทาเคดะซัง เอาเงินใส่ซองให้ยัยพลอยคนล่ะเท่าไหร่แม่รู้มั้ย!!!
เตี่ย-มะ..มันเยอะมากเลยหรอ
ผม-เยอะสิเตี่ยซองล่ะ3ล้านเยนเลยนะ! ตั้ง3ล้านเยน!!! ถ้าวันนั้นผมไม่ห้ามไว้ยัยพลอยรับเงินเค้ามาทั้งหมด อย่างต่ำๆก็13ล้านเยน!!!
เลยนะเตี่ย
เตี่ย-มะ..มันก็เยอะไปจริงๆนั่นแหละนะ
แม่-อย่ามาหลอกเลย วันนั้นยัยพลอยบอกว่ามันเป็นวัน บรรลุนิติภาวะใช่มั้ยล่ะ ไม่มีใครเค้าใส่ซองให้เยอะขนาดนั้นหรอกนะ!!!
ผม-โธ่แม่!! ผมจะโกหกแม่ไปทำไมละ เฮ้อออ ผมไม่อยากจะเถียงกับแม่แล้ว!
หลังจากนั้นผมก็ยกกระเป๋าขึ้นไปที่ห้องนอนและก็อ่าบน้ำนอนต่อ ตื่นมาอีกทีก็วันใหม่ผมลงไปข้างล่างก็มี เตี่ยกับแม่และพี่ชายผมนั่ง
กินข้าวกันอยู่
เต๋า-เห้ย หนุ่มญี่ปุ่นกลับมาบ้านแล้ววะ!!
ผม-อย่ามาแหย่กันแต่เช้าจะได้มั้ยพี่!!
แม่-รีบๆไปล้างหน้าและมากินข้าวได้ละ
ผมก็เดินไปล้างหน้าและมานั่งกินข้าว
เต๋า-วันนี้เอ็งจะพา แม่กับพ่อไปขอวีซ่าหรอ
ผม-ใช่ มีอะไร?
เต๋า-เฮ้อออทำสายตาหน้ากลัวใส่พี่ชายแบบนี้อีกแล้ว พี่ชายเสียใจจังเลยน้า~ อกจะแตกตายแล้ววว~~~
ผม-หร๊อ!!! ก็ไม่เห็นมันจะแตกตายไปสักทีนะ พูดมาเป็น10ปี!
เต๋า-เตี่ยดูสิ น้องชายสุดที่รักของผมใจร้ายกับผมอีกแล้ว
เตี่ย-นี่บิ๊ก ก็ฟังพี่แกสักครั้งเถอะ พี่แกก็มีเรื่องอยากจะขอร้องแกอยู่ด้วยเหมือนกันนะ
ผม-เฮ้ออออ!! มีอะไรอีกละพี่!
เต๋า-คือว่านะ…..เด๋วบิกคุคุงจะพาเตี่ยกับแม่ไปขอวีซ่า1ปีใช่ม้า~~~ นั่นน่ะ ขอ…ให้…พี่..ชาย…สุด…ที่รัก…คนนี้…ด้วยได้มั้ย
ผม-โว้ยยยย รำคาญ!!! ไม่ได้โว้ยเอกสารมีแค่2คนเท่านั้น ไม่มีส่วนของแกหรอกนะไอ้พี่บ้า!!!!
เตี่ย-ตะ..แต่เตี่ยไม่เอาก็ได้นะ
มันก็ยกให้ด้อยู่หรอก แต่ถ้าถามว่าระหว่างให้พ่อผมไปกับให้เอาไอ้ตัวป่วนแบบพี่ผมไปด้วยไม่ต้องคิดเลยยังไงผมเอาพ่อไปแน่นอน
เพราะอะไรน่ะหรอก เพราะว่าถ้าให้พี่ผมมันไปสิ่งแรกที่มันจะป่วนคือ รถผม แค่อย่างแรกที่มันจะทำผมก็ไม่อยากให้มันไปด้วยแล้ว
ผม-ไม่ได้!!! เพราะเอกสารลงชื่อไปหมดแล้วถ้าเตี่ยไม่เอาเอกสารชุดนี้ก็เอาไปใช้กับคนอื่นไม่ได้อยู่ดี
เต๋า-แต่พี่ชายไม่ใช่คนอื่นคนไกลนี่ ต้องใช้ได้ชัวร์!!!!
ผม-ไม่ได้โว้ย!!! แกเป็นท่านทูตรึไง เลิกทำตัวเป็นเด็กได้แล้ว เตี่ยกับแม่อีก1ชม พวกเราจะไปที่สถานทูตกัน
และผมก็เดินขึ้นห้องมาอ่าบน้ำแต่งตัวเตรียมเอกสารพอถึงเวลานัดผมก็เดินถือเอกสารลงมา เตี่ยกับแม่ก็เตรียมตัวกันพร้อมและพี่เต๋าก็
เตรียมตัวพร้อมด้วยเหมือนกัน
ผม-เห้ย แกจะไปไหนน่ะ
เต๋า-ก็ขับรถให้น้องชายสุดที่รักไง
ผม-เหอะๆ ไม่มีเอกสารส่วนของแกหรอกนะ
เต๋า-เก๊าไม่ได้หย๋อ~~~
ผม-มันก็ต้องไม่ได้อยู่แล้วมั้ย!! ใครจะไปรู้ว่าแกอยากจะขอด้วย
เต๋า-ตอนนี้ก็รู้แล้วนี่ว่าเก๊าอยากไปด้วย ไว้เตรียมให้เก๊าหน่อยน้า~~~
ผม-ไม่โว้ย!! ถ้าแกอยากจะไปจริงๆแกก็ไปได้ตั้ง15วันอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องขอวีซ่าหรอกนะมันเสียเวลาเข้าใจมั้ย!
เต๋า-อุ้ย!! เตี่ย! น้องชายสุดที่รักเป็นห่วงผมแล้วล่ะ
ผม-ไม่ใช่โว้ย!! มันเสียเวลาทำงานของกูเนี้ย!!
หลังจากนั้นพี่ผมก็ขับรถพาพวกเราไปที่สถานทูตอย่างไม่เต็มใจ ขากลับผมก็เลยแวะร้านอาหารเพื่อกินข้าวกับครอบครัวนานๆจะเจอ
กันที แน่นอนว่ามื้อนี้ผมเป็นคนจ่ายพอกลับมาถึงบ้านผมก็นั่งๆนอนๆไปเรื่อย เพราะทำได้แค่รอเอกสารของแม่กับพ่อผ่าน และก็เตรียม
ของฝาก ทีนี้ผมก็จะกลับไปนอนที่บ้านสบายๆสักที ใช่ตอนแรกผมวางแผนไว้แบบนั้นแหละแต่แผนทั้งหมดของผมก็โดนแม่ผมทำพัง
เพราะแม่ผมบอกว่าได้วีซ่าปุ๊บจะไปกับผมทันที ส่วนเตี่ยจะอยู่เฝ้าบ้านและจะไปพร้อมกับคนอื่นตอนเดือนเมษา เพราะแบบนี้ผมเลย
โดนแม่ผมลากไปซื้อของฝากยัดลงกระเป๋าเพื่อจะเอาไปฝากฮารุและพวกโอคะวะซังที่บ้านส่วนใหญ่ก็จะเป็นผลไม้อบแห้งและก็ทุ
เรียนทอดที่ทุกคนสั่งมาและผมก็ไม่ลืมที่จะหยิบเมล็ดพันุ์ผักสวนครัวของไทยเราไปด้วยไม่รู้จะเอาเข้าได้มั้ยแต่ผมก็อยากได้เพื่อวัน
ไหนผมอยากกินอาหารไทยจะได้มีใช้และยิ่งแม่ผมบอกว่าจะไปอยู่ด้วยเนี่ย ยังไงก็ต้องมีติดบ้านไม่งั้นตอนแม่ผมอยากจะทำอาหาร
ไทยหรืออยากกินอาหารไทยและถ้ามันไม่มีละก็แม่ผมคงจะเดินไปบอกฮารุเบาๆว่า ฮารุจังแม่อยากได้อันนี้จังเลย แค่ประโยคเบาๆ
ของแม่ผมทำให้ฮารุพร้อมที่จะยกทุกอย่างที่หาได้มาให้แม่ผม เพราะแบบนี้แหละผมถึงไม่อยากให้เตี่ยหรือแม่ผมอยู่นานๆ พูดมา
ขนาดนี้อาจจะยังไม่เห็นภาพ สมมุติว่ามีกระเป๋าแบรนด์เนมออกคอลเลคชั่นใหม่มา และถ้าแม่ผมพูดว่าอยากได้กับฮารุ ฮารุก็จะเดิน
เข้าไปในร้านและก็ซื้อมันออกมาให้แม่ผม โดยที่ไม่มองด้วยว่าของสิ่งนั้นมันราคาเท่าไหร่ นี่คือความน่ากลัวของฮารุ ทำไมอยู่ด้วยกัน
มาและผมไม่เคยพูดว่าอยากได้ไอ้นั่นจังอยากได้ไอนี่จัง เพราะถ้าพูดไปแล้ว ฮารุจะไปหาเอาสิ่งที่ผมอยากได้มาให้ทันที ผมถึงกำชับ
ยัยพลอยอยู่ตลอดว่า อย่าอ้อนฮารุเยอะนักเพราะผมรู้ว่าฮารุจะทำให้ทุกอย่าง อย่างเต็มใจ ซึ่งบางครั้งมันก็ทำให้ผมลำบากใจเพราะ
มันเยอะเกินไป เหมือนอย่างเงินใส่ซองให้ยัยพลอย คิดจะใส่ คนละ3ล้าน บ้าง 3แสนบ้าง คือไม่มีความพอดีอยู่เลย ตะ…แต่ถ้ามองใน
มุมกลับกันมันก็คงจะเป็นเรื่องปกติของทางนั้นอยู่แล้วล่ะมั้งเพราะ 3คน นั้นเดิมทีก็รวยกันระดับมหาเศรษฐีกันอยู่แล้ว หลังจากนั้นผมก็
ต้องออกไปข้างนอกเพื่อซื้อของฝากทุกวี่ทุกวันผมก็บอกแม่ผมแล้วว่า กระเป๋ามันมีจำกัดน้ำหนักก็ได้แค่20-30โลเท่านั้นแต่แม่ผมก็
เอาแต่พูดว่าแกมีเงินไม่ใช่หรอ แกก็ซื้อน้ำหนักเพิ่มไปสิซึ่งตอนแรกผมคิดหาวิธีให้แม่ได้คือส่งของฝากพวกขนมอะไรพวกเนี้ยไปทาง
ขนส่งเอกชนก่อน แล้วพวกเราจะนั่งเครื่องตามไปแต่แม่ผมเค้าไม่ยอมบอกว่า กว่าจะไปถึงขนมเสียกันพอดี ในช่วงเย็นๆที่ผมพอจะมี
เวลาว่างผมก็แวะกลับไปหาพวกแก๊งยักษ์บ้างและแล้วเวลาผ่านไปอีก2อาทิตย์เช้าวันนึงก็มีเอกสารส่งจดหมายมาที่บ้าน นั่นก็คือวีซ่า
ของเตี่ยและแม่ผ่านแล้วหลังจากนั้นแม่ผมก็รีบไปเตรียมตัว โทรบอกเดอะแก๊งของแม่ผมคนนั้นคนนี้ว่าจะไปญี่ปุ่นกับลูกแล้วน้าอะไร
ทำนองนั้นซึ่งกว่าจะเสร็จเนี่ยก็ปาเข้าไปบ่ายโมงกว่า
แม่-เสร็จแล้ว!! พวกเราไปกันเลยดีมั้ย
ผม-ไปพรุ้งนี้ไม่ดีกว่าหรอแม่ไปตอนนี้ กว่าจะซื้อตั๋วกว่าเราจะไปถึงที่นั่นมันดึกแล้วนะ พวกเราจะไม่มีรถไปที่บ้าน
แม่-ไม่เอา!!! เนี้ย พวกแม่บ้านที่แม่รู้จักก็มาส่งกันที่หน้าบ้านแล้วนะ
ผม-แล้วแม่จะไปบอกเค้าทำไมล่ะ!!
แม่-ก็แม่จะไปๆ!!!!
ผม-รู้แล้วครับ!!!!
ผมก็เดินขึ้นไปหยิบของ ขนของลงมาข้างล่าง พร้อมกับเรียกแท๊กซี่แม่ผมก็เข้าไปล่ำลาแก๊งแม่บ้านปล่อยให้ผมยืนรอแท๊กซี่กับเตี่ย
เตี่ย-ดูแล แม่แกดีๆนะลูก
ผม-ผมรู้แล้วครับ เตี่ยจะไม่ไปด้วยกันหรอ
เตี่ย-ไม่อ่ะเดี๋ยวไม่มีใครเฝ้าบ้านอีกอย่างไม่อยากไปรบกวนที่บ้านของฮารุจังด้วยล่ะนะ
ผม-ไม่ได้รบกวนอะไรหรอกพ่อ ตอนนี้ผมย้ายมาอยู่บ้านตัวเองแล้วล่ะ ถึงจะเป็นบ้านของฮารุซังก็เถอะนะ
เตี่ย-อืม ไว้ตอนเดือนเมษาแล้วจะไปหานะ
ผม-ครับ แม่!!!รถมาแล้วนะ
หลังจากนั้นผมกับแม่ก็พากันขนของขึ้นรถและก็หาตั๋ว และเพราะไม่ได้วางแผนอะไรเลย เวลาที่เร็วที่สุดคือเราจะได้ขึ้นเครื่องกัน
ตอน6โมงเย็นกว่าๆตอนนี้น่ะหรอบ่าย2ครึ่งเดินวนในสนามบินกันยาวๆ และกว่าพวกเราจะนั่งเครื่องไปถึงยังไงก็เกินเที่ยงคืนรถไฟก็คง
หมดแล้ว คนที่บ้านก็คงหลับไปแล้วถึงจะโทรเรียกได้ก็เถอะแต่ผมอยากจะทำให้แม่เข้าใจว่าการที่จู่ๆคิดจะไปก็ไปเลยโดยที่ไม่
วางแผนอะไรเลยมันมักจะมีปัญหาเสมอ ซึ่งในตอนนี้แม่ผมก็ยังไม่รู้ตัว เค้าก็ยังมีความสุขกับการช๊อปปิ้ง ที่ร้านขายของไม่มีภาษีใน
สนามบินโดยใช้เงินของผมในการจ่ายเงินชำระสินค้าทุกชิ้น ผมก็ปล่อยให้แม่ผมเค้าช๊อปเต็มที่เพราะยังไงตอนแม่ผมอยู่ที่ญี่ปุ่นผมก็
ตั้งใจที่จะออกให้ทุกอย่างสำหรับแม่ผมอยู่แล้วไม่นานแม่ผมก็กลับมาพร้อมกับถุงใหญ่ มีทั้งครีม ทั้งน้ำหอม ขนม อะไรไม่รู้เยอะแยะ
ไปหมดบอกตามตรงผมไม่กล้าถามถึงราคาทั้งหมดว่ามันเท่าไหร่เอาเป็นว่าเด๋วค่อยไปลุ้นเอาตอนจ่ายเงินค่าบัตรเครดิตทีเดียวล่ะกัน
พอแม่ผมกลับมานั่งได้สักพัก พนง ก็เรียกให้ขึ้นเครื่องได้ผมก็ขึ้นมานั่งบนเครื่องกับแม่ ไม่นานเครื่องก็ออกเดินทางบินตรงสู่ญี่ปุ่น ใน
ระหว่างที่นั่งเครื่องบินอยู่ผมก็ดูหนังฟังเพลงอะไรไปเรื่อยส่วนแม่ผมหลับตั้งแต่ ชม แรกที่ขึ้นบิน พอมาถึงญี่ปุ่นผมก็ปลุกแม่พอแม่รู้สึก
ตัวคำแรกที่บอกคือหนาว ผมก็เลยรีบพาแม่เดินลงเครื่องผ่านตม และมาเอากระเป๋าพอได้กระเป๋าผมก็เปิดกระเป๋าให้แม่ผมเอาเสื้อกัน
หนาวออกมาใส่
ผม-แม่ใส่หลายๆชั้นหน่อยก็ดีนะ ตอนนี้เข้าหน้าหนาวพอดี
แม่-อะ อืมมม ทำไมมันหนาวแบบนี้ มะ…แม่อยากกลับบ้านแล้ว~~~
ผม-จะไปทำแบบนั้นได้ยังไงล่ะแม่ พวกเราพึ่งจะมาถึงเองนะ ผมจองโรมแรมไว้แล้วพวกเราไปพักที่นั่นกันเถอะคืนนี้
แม่-อ้าวแล้วไม่กลับบ้านหรอ!!
ผม-นี่มันดึกแล้วนะแม่ รถไฟก็หมดแล้วด้วย ผมถึงได้บอกแม่ตั้งแต่ที่บ้านไงว่าให้เรานอนกันก่อนแล้วค่อยเดินทางอีกวัน แม่ก็ไม่ยอม
ฟังผมเอาแต่จะมาตอนนี้ให้ได้
แม่-….รู้แล้วน่า รีบๆพาไปโรงแรมสักทีสิ หนาวจะแย่แล้วนะ
ผม-ครับๆ
หลังจากนั้นผมก็พาแม่ไปพักในโรงแรมของเครื่องโอคะวะกรุ๊ปซึ่งมันเป็นโรงแรมเล็กๆแต่มันอยู่ติดกับสนามบินมันค่อนข้างสดวก
สำหรับผมในตอนนี้ พอเข้ามาก็ทำเรื่องเข้าพักถือว่ายังโชคดีที่คืนนี้เรายังมีที่พักพอขึ้นมาข้างบนห้องก็เป็นห้องเล็กๆ มีเตียงเดียว 2
เตียง ห้องน้ำก็ห้องเล็กๆ
แม่-นี่คือ โรงแรมที่แกทำงานอยู่งั้นหรอ
ผม-ใช่แล้วแม่ ทำไมหรอ
แม่-กะ..ก็ป๊าว! แค่ตกใจนิดหน่อยเห็นยัยพลอยเล่าว่าแกทำงานตำแหน่งใหญ่โต เลยคิดว่าจะหรูกว่านี้ซะอีกนะ
ผม-เฮ้อออ แม่จะไปเชื่ออะไรกับยัยพลอย ยัยนั่นวันๆทำตัวป่วนอยู่ตลอด
แม่-แกก็ทำไม่ใช่หรอ?
ผม-โธ่แม่!! ผมจะไปร้านสะดวกซื้อล่ะ พรุ้งนี้ต้องตื่นแต่เช้าอีก
แม่-เออ
หลังจากนั้นผมก็ลงมาซื้อบุหรี่ดูดนี่ขนาดแม่ผมมายังไม่ทันถึงครั้งวันผมก็ปวดหัวแล้วถ้าแม่ผมอยู่ทั้งปีล่ะก็ ตายแน่ๆหลังจากนั้นผมก็
ขึ้นไปที่ห้องแม่ผมหลับไปแล้วผมก็ล้มตัวลงนอนตื่นอีกทีตอนเช้าแม่ผมมาปลุกให้ไปอ่าบน้ำแต่งตัวแม่ผมก็เริ่มเก็บของลงกระเป๋า
ผม-แม่จะรีบไปไหน จริงสิแม่ใก้ลๆนี่มีวัดใหญ่ที่เปิดมานานเป็นพันปีเลยนะแม่พวกเราไปเที่ยวกันมั้ย
แม่-แกอย่าพูดมาก รีบๆเก็บของได้แล้ว
ผม-ครับๆ
ผมก็แต่งตัวเก็บของแต่ก็อดที่จะแปลกใจไม่ได้จู่ๆแม่ผมก็รีบเก็บของ เป็นอะไรของเค้ากันแน่นะหลังจากที่ผมเก็บของเสร็จพวกเราก็
ลงลิฟต์มาที่ล๊อบบี้ พอประตู้ลิฟต์เปิดผมก็เห็น ฮารุ ยัยพลอย ชิสึ ทานากะ อายะ และนิชิโนะ ยืนรออยู่ตรงเค้าเตอร์ พอพวกฮารุเห็น
พวกผมฮารุกับยัยพลอยก็รีบเดินนำเข้ามา
ฮารุ-ยินดีต้อนรับค่ะท่านแม่ ต้องขออภัยที่ออกมาต้อนรับท่านแม่ช้านะคะ
พลอย-แม่!!!
แม่-ยัยพลอยแก เอาแต่ใจจนเกินไปสินะ
พลอย-อะไร พี่ชายฟ้องแม่หรอ!!!
ผม-แม่ ฮารุบอกว่าขอโทษที่ออกมาต้อนรับช้า
ฮารุ-คุณนี่ก็เหลือเกินจริงๆเลยนะคะ ทิ้งฮารุและหนีไปคนเดียว มือถือก็ไม่เอาไปอีก และยังจะพาท่านแม่มาพักในที่ห้องเล็กๆแบบ
นี้อีก
ผม-กะ..ก็แม่ผมไม่ยอมฟังนี่ครับ ผมบอกแล้วว่าให้รออีกวันค่อยมาก็ได้จะได้ให้นิชิโนะขับรถมารับที่สนามบิน
ฮารุ-ต่อให้คุณมาตอนตี1 ฮารุก็ให้นิชิโนะซังขับรถมารับคุณกับท่านแม่ได้อยู่แล้วค่ะ!!
ผม-ขะ…ขอโทษครับ
ฮารุ-ทานากะซัง อายะซัง นิชิโนะซัง รีบเข้าไปยกกระเป๋าของท่านแม่และคุณท่านไปเก็บในรถสิคะ
ผม-มะ..ไม่ต้องก็ได้ครับเด๋วผมยกเอง
ฮารุไม่ได้ตอบอะไรผมกลับมาได้แต่มองผมอย่างเงียบๆซึ่งผมก็รู้ได้ว่าไม่ควรพูดไปมากกว่านี้ หลังจากนั้นพวกทานากะก็มายกกระเป๋า
ไปเก็บในรถและนำทางพวกผมไปที่รถ พอขึ้นรถฮารุก็พาตรงกลับไปที่บ้าน
แม่-ขอบใจที่มารับนะฮารุซัง
ฮารุ-ระ…เรียกหนูว่าฮารุเถอะค่ะท่านแม่
ผม-แม่ฮารุเค้าอยากให้แม่เรียกฮารุเฉยๆไม่ต้องเติมซังหรอก
พลอย-นี่แม่ วันนี้พวกเราไปเที่ยวกันมั้ย!!!
ฮารุ-ดีสิพลอยจัง งั้นวันนี้ท่านแม่อยากไปเที่ยวที่ไหนมั้ยคะ
เอาแล้วช่วงเวลามี่ผมไม่อยากให้เกิด คือ การปล่อยให้ยัยพลอย ฮารุและแม่ผมไปด้วยกันนั่นคือสิ่งที่ผมไม่อยากให้เกิดขึ้นแต่ก็ผิด
คลาดเพราะแม่ผมไม่อยากไปแม่ผมบอกว่าเหนื่อยอยากพักผ่อนหลังจากนั้นฮารุก็ทำหน้าซึมๆไปไม่นานก็นั่งรถมาถึงที่บ้านพวกทานา
กะ อายะ ชิสึ ก็ลงรถไปก่อน พร้อมกับยืนรอต้อนรับพวกผมที่กำลังจะลงรถถ้าถามผมว่านี่คือความคิดของใคร ตอบได้เลยว่าฮารุแน่ๆ
ตอนแรกผมคิดว่าจบแค่นั้นแต่พอลงไป พนง ใน บ้านทุกคนต่างมายืนรอต้อนรับพวกเรากันอยู่หน้าบ้าน
ฮารุ-ทุกคนจ๊ะ นี่คือ ท่านแม่ ช่วยกันดูแลท่านแม่ให้ดีๆด้วยนะคะ ทานากะซังอายะซัง ช่วยพาท่านแม่ไปดูห้องพักหน่อยได้มั้ยจ๊ะ
แม่-อ้าวนั่น เก็นจิไม่ใช่หรอ
ฮารุ-ท่านแม่ รู้จักเก็นจิด้วยหรอคะ
แม่-ใช่ๆ
ผม-ยัยพลอยแกพาแม่ไปดูห้องนอนชั้น2 เก็นจิยกของและเดินตามไปซะ
พลอย-ค้า~~ แม่พวกเราไปกันเถอะห้องนอนที่นี่สวยมากเลยนะ แถมห้องใหญ่มากเลยด้วย
เก็นจิ-ทราบแล้วครับ
ผม-อายะซังรบกวนช่วยเอาน้ำชาไปให้แม่ผมทีนะ
อายะ-ด้วยความยินดีค่ะ
หลังจากนั้นทั้ง4คนก็เดินเข้าไปในบ้าน
ผม-ฮารุ นี่มันเรื่องอะไรกันครับทำไมทุกคนถึงต้องมาทำหน้าที่ต้อนรับกันหมดบ้านแบบนี้
ฮารุ-ก็คุณนั่นแหละค่ะที่ไม่ดี พาท่านแม่ไปนอนโรงแรมเล็กๆแบบนั้นได้ยังไงคะ เมื่อคืนนี้ ท่านแม่เองก็โทรมาบ่นพลอยจังใหญ่เลยนะ
คะ ที่ทุกอย่างไม่เหมือนกับที่พลอยจังบอกท่านแม่เอาไว้
ผม-เพราะอยากให้แม่ผมรู้ก็เลยต้องทำให้มันดูเวอร์ขนาดนี้เลยหรอครับ!!
ฮารุ-ทำไมล่ะคะ ทุกคนที่อยู่ที่นี่ ก็เป็น พนง ที่ต้องทำตามคำสั่งของคุณทุกอย่างอยู่แล้วนี่คะ
ผม-เฮ้อ!! ทานากะ ชิสึ ทาคุยะ ริน ช่วยกันยกกระเป๋าเข้าไปในบ้านที
ทุกคนก็ต่างก้มหัวให้ผมล่ะก็เดินไปช่วยกันยกกระเป๋าและของที่แม่ซื้อมาเข้าไปในบ้าน
ฮารุ-ที่รักมื้อเย็นนี้ทำอะไรทานดีคะ หรือว่าจะพาท่านแม่ไปทานข้างนอกบ้านมั้ยคะ
ผม-ทำเองที่บ้านนี่แหละครับ
ฮารุ-แต่ฮารุคิดว่าควรจะทำอะไรที่มันดูหรูหราหน่อยนะคะ
ผม-เอาตามนั้นละกัน ผมก็เหนื่อยเหมือนกัน ผมขอไปพักที่ห้องนอนก่อนนะครับ
ฮารุ-ค้า~~~~
ผมก็ขึ้นไปเปลื่ยนชุดและลงมาข้างล่าง ก็เห็นฮารุกำลังยืนสั่งให้ทาคุยะออกไปซื้อของ
ฮารุ-ทาคุยะซังจ๊ะ ช่วยออกไปซื้อพวกกุ้งมังกรหรือกุ้งอิเสะมาหน่อยสิจ๊ะเอามาเยอะๆเลยนะ
ทาคุยะ-ทราบแล้วครับ
ผม-เด๋วก่อนครับ!
ฮารุ-มีอะไรหรอคะ
ผม-ฮารุอย่าสั่งซื้อกุ้งมาเด็ดขาดนะครับ เพราะแม่ผม ก็แพ้กุ้งเหมือนกับผม
ฮารุ-เอ๋!!!!!จริงหรอคะ!!
ผม-จริงสิครับ ของแม่ผมทำพวกเมนูปลาแซลม่อนก็พอแล้วครับ
ฮารุ-ตะ…แต่ว่าที่รักมันหรูไม่พอนะคะ
ผม-ฮารุแม่ผมไม่ได้ติดหรูขนาดนั้นและแม่ผมชอบทานปลามากเลยนะครับปลาแซลม่อนก็เป็นหนึ่งในนั้นครับ
ฮารุ-กะ…ก็ได้ค่ะ แล้วท่านแม่ชอบทานอะไรอีกหรอคะ
ผม-อืม……..ก็คงจะเป็นปูละมั้งครับ
ฮารุ-ปูหรอคะ!! ดีละทาคุยะซังไปซื้อปูมาเลยเอาเยอะๆเลยนะคะ!!
ผม-เด๋วสิครับ!!! ผมก็บอกแล้วว่าวันนี้เอาปลาแซลม่อนก็พอแล้วครับ
ฮารุ-ตะ…แต่ว่าพวกเราควรต้อนรับท่านแม่ด้วยเมนูดีๆนะคะ
ผม-ปลาแซลม่อนก็ดีแล้วนี่ครับ อีกอย่างแม่ผมก็อยู่ที่นี่อีกหลายวันเพราะงั้นค่อยพาแม่ผมไปเลือกซื้อของสดตามตลาดปลาด้วยตัว
เค้าเองเถอะนะครับ
ฮารุ-กะ..ก็ได้ค่ะ งั้นพรุ้งนี้ที่รักช่วยพาพวกเราไปที่ตลาดปลาหน่อยได้มั้ยคะ
ผม-เฮ้อออ ได้ครับ
ฮารุ-เย้!!~~~ ที่รักจะพาไปเที่ยวแล้ว~~~~
ทาคุยะ-ละ..แล้ววันนี้
ผม-ไม่ต้องออกไปแล้วครับ ทาคุยะซังกลับไปทำงานตามปกติเถอะนะครับ
ทาคุยะ-ทราบแล้วครับ
หลังจากนั้นฮารุก็วิ่งเข้าไปในครัวผมก็เดินตามหาทานากะ ที่หน้าบ้านก็ไม่เจอผมก็เดินอ้อมด้านข้างบ้านไปดูที่สวนหลังบ้านก็เจอทา
นากะกำลัง เข็นรถที่มีกาน้ำชาวางอยู่
ผม-ทานากะซังจะไปไหนครับ
ทานากะ-กระผมกำลังจะเอาชาร้อนไปเติมให้กับท่านแม่ครับ คุณท่านมีธุระกับกระผมหรอครับ
ผม-ใช่น่ะสิครับ ผมเดินตามหาตั้งนานแล้วครับ
ทานากะ-กระผมต้องขออภัยอย่างสูงครับ
ผม-ช่วงนี้โทชิโร่ซังหายไปไหนครับ
ทานากะ-เอ่อ……โทชิโร่ซังขอลากลับบ้านครับ
ผม-เฮ้อ! ก่อปัญหากันได้ไม่เว้นวันไอ้พวกบ้า!! แล้วมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอีกล่ะ
ทานากะ-คะ…ครับ วะ…วันนั้นที่คุณท่านหายตัวไปโดยที่ไล่โทชิโร่ซังกลับมาทำให้เก็นจิซังไม่พอใจเป็นอย่างมากที่ปล่อยคุณท่านไป
คนเดียว โทชิโร่ซังและเก็นจิซังก็เริ่มทะเลาะกันแรงขึ้นเรื่อยๆพอในบ้านเริ่มมีของเสียหาย คุณผู้หญิงก็ได้สั่งให้ออกไปทะเลาะกันให้
เสร็จนอกบ้านไม่งั้นจะไล่ออกทั้งคู่
ผม-อืม…แล้วจนถึงตอนนี้โทชิโร่ซังยังไม่กลับมาหรอครับ
ทานากะ-ยังเลยครับ
ผม-ช่วยโทรไปตามทีนะครับ ฝากบอกโทชิโร่ซังด้วยนะครับว่าผมสั่งให้กลับมาที่นี่เดี๋ยวนี้และให้รีบมาหาผมด่วน
ทานากะ-ทราบแล้วครับ ถ้าเช่นนั้นกระผมขอตัวเอาน้ำชาไปเสริฟ์ท่านแม่ก่อนนะครับ
ผม-อืม
ผมก็เดินเข้าบ้านไปนั่งในห้องทำงานไม่นานนักแม่ผมก็เดินเข้ามาพร้อมกับ ยัยพลอยและทานากะ
แม่-นี่แก เมื่อไหร่จะพาไปเจอพ่อกับแม่ของฮารุซักทีล่ะ ไม่ไปทักทายเค้ามันเสียมารยาทนะ!
ผม-ลืมไปเลย!! ทานากะซังไปเรียกฮารุ
แม่-นี่แก!!แค่เดินไปหาฮารุเนี้ยทำไมต้องใช้คนอื่น
ผม-ผะ…ผมรู้แล้วหน่าแม่!!
หลังจากโดนแม่ผมบ่นผมก็ลุกออกจากห้องทำงานและเดินเข้าไปหาฮารุในห้องครัว ฮารุกำลังเตรียมทำอาหารเย็นโดยมีรูริและชิสึ
คอยเป็นลูกมืออยู่
ผม-ฮารุ ผมจะพาแม่ผมเข้าไปทักทายคุณพ่อกับคุณแม่ที่บ้าน คุณจะไปด้วยกันมั้ยครับ
ฮารุ-เอ๋!!ไปตอนนี้เลยหรอคะ
ผม-ใช่ครับ
ฮารุ-งั้นรูริซัง ขอรบกวนด้วยนะคะ ที่รักเด๋วฮารุขอไปล้างมือให้สะอาดก่อนนะ
ฮารุก็รีบวิ่งออกจากห้องครัวไป ทั้งๆที่ล้างมือในห้องครัวก็ได้แท้ๆ
ผม-ชิสึซังก็ไปเตรียมตัวได้แล้วนะและบอกอายะซังกับรินซังให้มาช่วยรูริซังด้วยนะครับ
ชิสึ-ทราบแล้วค่ะ
ผม-รูริซัง วันนี้ช่วยทำปลาแซลม่อนย่างซอสเทอริยากิด้วยนะครับ
รูริ-เอ๋!!! ตะ..แต่ว่าคุณผู้หญิงบอกว่าวันนี้ต้องทำเมนูหรูๆไม่ใช่หรอบอส! ทำแค่นั้นจะดีหรอ
ผม-เอาธรรมดาก็พอแล้วครับ
รูริ-ขะ..เข้าใจแล้วล่ะมีอะไรบอสต้องรับผิดชอบด้วยนะ
ผม-ได้ครับ
หลังจากนั้นผมก็ออกมาจากห้องครัวก็เห็นพวกฮารุมายืนรออยู่ห้องโถงหน้าบ้าน
ผม-ถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันเถอะครับ เก็นจิแกไปขึ้นรถซะ
ฮารุ-ที่รักก็รีบๆเดินมาไวๆสิคะ
ผม-คร้าบๆ
หลังจากนั้นผม แม่ ยัยพลอย ฮารุ ชิสึ เก็นจิ และนิชิโนะก็เดินไปขึ้นรถตามตำแหน่งของตัวเองขับรถมาไม่นานก็ถึงบ้านโอคะวะซังพอ
เลี้ยวรถเข้าไปจอด ฮิโระหัวหน้าพ่อบ้านที่นี่ก็รีบเดินออกมายืนรอต้อนรับ
ฮิโระ-ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับท่านบิกคุ คุณหนู คุณหนูพลอย
ผม-สวัสดีครับฮิโระซัง
ฮารุ-ฮิโระซังคุณพ่อกับคุณแม่อยู่รึป่าวคะ
ฮิโระ-อยู่ครับคุณหนู คุณท่านและคุณผู้หญิงกำลังนั่งพักผ่อนกันอยู่ในห้องนั่งเล่นครับ
พลอย-สวัสดีค่ะ
แม่-บ้านสวยมากเลยนะเนี้ย!!
ฮารุ-ท่านแม่คะเด๋วฮารุพาเข้าไปเดินชมข้างในบ้านนะคะ ฮิโระซังคะ คน คนนี้คือท่านแม่ของบิกคุซังค่ะช่วยดูแลอย่างดีด้วยนะคะ
ฮิโระ-โอ้!! ท่านแม่ของท่านบิกคุหรอครับ? เป็นเกรียติอย่างยิ่งที่กระผมมีโอกาสได้พบกับท่านแม่ของท่านบิกคุ ถ้าต้องการอะไรเพิ่ม
เติมโปรดเรียกหากระผมได้เลยนะครับ
หลังจากนั้นฮิโระก็ก้มห้วให้อย่างสง่างามสมกับเป็นหัวหน้าพ่อบ้าน
แม่-ฮ่ะๆไม่ต้องบริการอะไรพิเศษหรอกนะคะ
ฮารุ-ฮิโระซังช่วยนำทางพาไปหาคุณพ่อกับคุณแม่ให้หน่อยสิ
ฮิโระ-ทราบแล้วครับ เชิญทางด้านนี้เลยครับ
หลังจากนั้นพวกเราก็เดินตามเข้าไปใน้บานและเดินเข้าไปที่ห้องนั่งเล่นก็เจอทั้ง2คนกำลังนั่งดูทีวีกันอยู่
ฮารุ-คุณพ่อ คุณแม่!! ท่านแม่มาแล้วค่ะ!
โอคะวะ-โอ้!!ยินดีต้อนรับนะครับ
สึคุยะ-ยินดีต้อนรับนะคะท่านแม่
หลังจากนั้นทั้ง2คน ก็ก้มหัวให้กับแม่ของผมแม่ผมก็รีบยกมือไหว้กลับพร้อมกับบอกว่าไม่ต้องๆไม่เป็นไรๆตามสไตร์คนไทยหลังจา
กนั้นสึคุยะซังก็เชิญพวกเรานั่งพักผ่อนกันก่อนพร้อมกับสั่งฮิโระเป็นการใหญ่ให้รีบหาเครื่องดื่มดีๆมา
แม่-ไอ้ลูกชายโง่ของดิฉันมาก่อเรื่องวุ่นวายให้ปวดหัวรึป่าวคะ
พูดจบแม่ก็เอามือเขกหัวผมดังโป๊ก!!
ผม-มันเจ็นนะแม่!
สึคุยะ-โฮ๊ะๆ ไม่เลยค่ะท่านแม่ กลับกันบิกคุคุงช่วยงานพวกเราได้มากเลยล่ะค่ะตั้งใจทำงานมากๆเลยนะคะ
แม่-จริงอย่างงั้นหรอคะ!! ไอ้เจ้าลูกชายโง่ๆคนนี้เนี้ยหรอคะ? ในตอนแรกที่ลูกโง่ของดิฉันกลับบ้านไปและบอกว่าจะมาทำงานยังไง
ดิฉันก็ไม่มีทางเชื่อที่จะมีบริษัทไหนจ้างไอ้ลูกโง่ของดิฉันทำงานหรอกนะคะ
ผม-แม่!!พูดแบบนั้นมันเสียมารยาทนะ
แม่-ก็มันจริงนี่ จะให้เชื่อได้ยังไงว่าแกทำงานที่นี่จริงๆ!! แกคงไม่ได้มาเกาะฮารุซังเค้าหรอกใช่มั้ย
ผม-โธ่!!แม่ ยัยพลอยก็เคยบอกแม่ไปแล้วไม่ใช่หรอครับ ว่าผมทำงานจริงๆน่ะครับ!
ยังไม่ทันไรแม่ผมก็ใส่เป็นชุดๆผมถึงกับหน้าชาไปเลยไม่คิดว่าแม่ผมจะมาพูดเรื่องนี้ต่อหน้าโอคะวะซังและสึคุยะซังแบบนี้
สึคุยะ-นะ…นี่ลูกไม่เคยโทรไปเล่าเรื่องงานให้ท่านแม่ฟังบ้างหรอจ๊ะ
ผม-มะ…ไม่เคยหรอกนะครับ พูดไปแม่ผมก็ไม่เชื่ออยู่ดีครับ
สึคุยะ-งั้นวันพรุ้งนี้ลูกก็พาท่านแม่ขึ้นไปดูห้องทำงานของลูกที่บริษัทสิจ๊ะ
ผม-เอ๊ะ!!มะ..ไม่ต้องหรอกครับ
ฮารุ-ก็ดีนะคะที่รัก พรุ้งนี้พวกเราไปเดินตลาดปลาตอนเช้าแล้วก่อนกลับบ้านก็แวะไปที่บริษัทพาท่านแม่ขึ้นไปดูห้องทำงานด้วยก็ได้นี่
คะ
โอคะวะ-นั่นสินะ แต่จะไปตลาดปลากันทำไม ทำไมไม่สั่งให้ซานาเอะแบ่งของสดมาที่บ้านล่ะลูก
ผม-เอ๊ะ!! ระ..เรื่องนั้น คะ คะ…คือว่าผมคิดว่าให้แม่ผมเค้าไปเดินเที่ยวด้วยจะดีกว่าน่ะครับและแม่ผมเค้าจะได้ซื้อในสิ่งที่เค้าอยาก
ทานด้วยครับ
โอคะวะ-ก็จริงล่ะนะ
สึคุยะ-งั้นพรุ้งนี้แม่ขอไปด้วยคนนะ
โอคะวะ-เอ๋!! คุณจะไปด้วยหรอ
ผม-ผะ..ผมว่าเด๋วผมซื้อของกลับมาให้ที่บ้านดีมั้ยครับคุณแม่ คุณแม่อยากจะได้อะไรหรอครับ
สึคุยะ-แม่ต้องไปเดินดูจ๊ะแม่ถึงจะนึกออก
ผม-อ๊ะ!!
ขออ้างชัดๆคุณแม่แค่อยากจะไปด้วยไม่ใช่หรอครับเนี้ย!!
โอคะวะ-งั้นบิกคุคุงขอฝากด้วยนะ
พูดเสร็จก็หันมาตบไหล่ผม2ที แปะ แปะ
ผม-ทราบแล้วครับ เก็นจิทีหลังแปลข้อความเฉพาะในส่วนที่สำคัญอย่างเดียวก็พอ!!
ฮารุ-อะไรกันคะที่รัก!! เก็นจิแปลตามที่ท่านแม่พูดให้หมดทุกคำเลยนะ
เก็นจิ-อะ…เอ่อ
ฮารุ-เก็นจิ!! นี่เป็นคำสั่งนะ!
เก็นจิ-ทะ..ทราบแล้วครับคุณผู้หญิง
โอคะวะ-ไม่เป็นไรหรอกน่าบิกคุคุง จริงสิแล้วท่านพ่อไม่ได้มาด้วยกันหรอ
ผม-พ่อผมเค้าต้องอยู่เฝ้าบ้านครับก็เลยจะตามมาทีหลัง
สึคุยะ-ถ้าอย่างงั้นท่านแม่ก็จะอยู่ที่นี่ไปอีกสักพักใหญ่ๆเลยสินะจ๊ะ
ผม-ชะ…ใช่แล้วครับ
สึคุยะ-พวกเราพาท่านแม่ไปเที่ยวที่ไหนกันสักที่ดีมั้ยจ๊ะ
ฮารุ-หนูบอกบิกคุคุงตั้งแต่เมื่อวานแล้วล่ะคะ แต่บิกคุคุงบอกว่าไม่ต้องรีบก็ได้
ผม-ก็แม่ผมมาอยู่ตั้งหลายเดือนนะครับอีกอย่างก่อนหน้าที่ผมจะมาเรียนที่นี่ ยัยพลอยกับแม่ผมก็เคยมาเที่ยวแถวจังหวัดยามานาชิ
และโอซาก้าแล้วด้วยครับ
ฮารุ-เอ๋!! ท่านแม่กับพลอยจังเคยมาเที่ยวแล้วหรอคะ
ผม-คะ..ครับ
พลอย-ใช่แล้วค่ะ แต่พวกหนูน่ะมากับทัวร์มันก็เลยไม่ได้เดินเที่ยวสักเท่าไหร่
สึคุยะ-นั่นสิจ๊ะ อยู่แต่บนรถจะไปได้เที่ยวที่ไหนกันละ
ผม-กะ..ก็พรุ้งนี้พวกเราก็ไปตลาดปลา และก่อนกลับบ้านก็พาแม่ผมไปเที่ยวในโตเกียวก่อนก็ได้นะครับ เฮ้อออ เห็นเงียบๆแบบนั้นแต่
แม่ของผมเป็นพวกขาช๊อปปิ้งตัวยง อ๊ะ!!!
พอผมรู้ตัวว่าผมพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดออกไปแล้วผมก็รีบเอามือมาปิดปากและเพราะแบบนั้นยิ่งทำให้ผมเป็นจุดสนใจของทุกคนใน
ห้อง
ฮารุ-ฮ้า!!! เมื่อกี้ที่รักบอกว่าท่านแม่ชอบช๊อปปิ้งหรอคะ!
ผม-ปะ…ป่าวนะครับ ผมไม่ได้พูดอะไรเลยนะ!!!
ฮารุ-แต่เมื่อกี้ฮารุได้ยินชัดเลยนะคะ ที่รักบอกว่าท่านแม่เป็นขาช๊อปปิ้งตัวยง
พลอย-ใช่แล้วล่ะค้า~~~พี่ฮารุ
ผม-ยัยพลอย!
สึคุยะ-ท่านแม่คะ พรุ้งนี้พวกเราไปช๊อปปิ้งกันนะคะ
ฮารุ-ใช่ค่ะท่านแม่เด๋วฮารุจะออกให้หมดทุกอย่างเลยนะคะ!!
ผมรีบส่งสายตาไปหาเก็นจิอย่างเร่งด่วนเพื่อไม่ให้มันแปลประโยคของคุณแม่และฮารุ ที่ชวนไปช๊อปปิ้ง ซึ่งเก็นจิก็พยักหน้าเป็นการ
ตอบรับผม แต่ผมลืมไปว่าศัตรูตัวจริงของผมไม่ใช่เก็นจิแต่เป็นยัยพลอย พอยัยพลอยเห็นผมกับเห็นจิทำท่าทางมีพิรุธยัยพลอยก็เลย
รีบเข้าไปบอกความจริงกับแม่ผม
ยัยพลอย-แม่!! พรุ้งนี้สึคุยะซังกับพี่ฮารุ ชวนแม่ไปช๊อปปิ้งที่โตเกียวแถมช่วงนี้มีขอลดราคาเยอะมากเลยนะแม่ พวกเราไปกันเถอะ
นะ!!!
แม่-ของลดราคา!! ไปสิยัยพลอย!! นี่แกรีบขับรถไปส่งแม่ที่โตเกียวได้แล้วนะ!!
แม่ผมพูดออกมาพร้อมกับลุกขึ้นยืนเตรียมท่าทางพร้อมที่จะออกไปข้างนอกอย่างเต็มที่ ด้านยัยพลอยก็ส่งท่าทางบอกฮารุกับสึคุยะ
ซังว่าแม่ผมตกลงไปด้วยทั้ง2คนนั้นก็ยิ้มกันยกใหญ่ ผมได้แต่นั่งอยู่กับที คิดอะไรไม่ออกบอกอะไรก็ไม่ถูกกับเรื่องทั้งหมดที่มันเกิดขึ้น
ตอนนี้ถ้าผมย้อนเวลากลับไปได้ผมจะไม่ทะเลาะกับยัยพลอยและแม่ผมก็คงจะยังไม่มาที่ญี่ปุ่นในตอนนี้ เฮ้อออเพราะเลือกทางเดินชี
วิตผลาดเลยต้องมาปวดหัวอยู่แบบนี้สินะ
แม่-นี่แก!! รีบๆลุกไปขับรถให้แม่ได้แล้วนะ
ผม-แม่นี่มันเย็นแล้วนะ และอีกอย่างผมก็บอกให้เค้าทำข้าวเย็นที่บ้านไว้ให้พวกเราแล้วด้วย
แม่-งั้นพรุ้งนี้พวกเราไปกันแต่เช้าเลยดีมั้ย
ผม-โธ่!!แม่ ตอนเช้าพวกเราต้องไปตลาดปลากันนะ หรือว่าแม่ไม่อยากไปตลาดปลา
แม่ผมก็ทำท่าทางคิดหนัก มันต้องคิดเยอะขนาดนั้นเลยหรอแม่! อันนี้ผมได้แค่คิดถ้าพูดออกไปผมก็ซวยอีก ถ้าเป็นฉากในอนิเมะตอน
นี้ก็คงจะมีอีกามาบินผ่านหัวแม่ผมที่กำลังคิด กา กา กา~~~ สักพักแม่ผมก็เหมือนทำท่าทางว่าคิดออก แบบตกผลึกทางความคิดได้
แล้ว
แม่-งั้น….พวกเราไปช๊อปปิ้งของลดราคากันตอนนี้เลยเถอะนะ!!
ผม-โธ่แม่!!ไม่ได้ฟังที่ผมบอกเลยหรอครับ!
แม่-ฟังสิ แต่เด๋วพวกเราก็ค่อยกลับมากินข้าวเย็นกันก็ได้ไม่ใช่หรอ กินข้าวช้า1วันไม่เป็นอะไรหรอก หรือไม่แกก็ไปหาอะไรกินรอง
ท้องระหว่างรอแม่ซื้อของเอามั้ย
ยัยพลอยก็ทำหน้าที่แปลคำพูดของผมและแม่ให้ฮารุกับสึคุยะซังและโอคะวะซังฟัง พอทุกคนได้รู้ในสิ่งที่ผมกับแม่คุยกันแล้ว ทุกคนก็
ทำท่าทางยิ้มอย่างสนุกสนานเหมือนเด็กที่เจอของเล่นเจ๋งๆชิ้นใหม่
ผม-ก็ได้แม่! ผมจะพาแม่ไปตอนนี้แต่พรุ้งนี้พวกเราจะไม่ออกไปไหนกันทั้งวันนะ
แม่-ได้!!
พลอย-แม่เด๋วก่อน!! อย่าไปตกลงกับพี่ชายนะ แม่ๆเอาหูมานี่หนูจะบอกอะไรให้
หลังจากนั้นยัยพลอยก็กระซิบอะไรไม่รู้ให้แม่ผมฟังพอแม่ผมฟังเสร็จแม่ผมเปลื่ยนใจในทันที
แม่-งั้นไปพรุ้งนี้ก็ได้ถ้าแกไม่อยากจะไปขนาดนั้น
ผม-นี่ มีความลับอะไรกันแน่ ยัยพลอย
พลอย-หนูไม่บอกพี่ชายหรอก แบร่~~
ผม-เฮ้ออ เก็นจิไปยกกระเป๋าเดินทางที่อยู่บนรถมาให้หน่อย
เก็นจิ-ทราบแล้วครับ
หลังจากนั้นเก็นจิก็เดินออกจากห้องไปไม่นานก็กลับมาพร้อมกับกระเป๋าเดินทางไซร์ใหญ่
สึคุยะ-อันนี้คืออะไรหรอจ๊ะ
ผม-ก็ของที่คุณแม่อยากได้ยังไงล่ะครับ
ผมก็เปิดกระเป๋าเดินทางออก
สึคุยะ-ระ….หรือว่าทุเรียนทอดหรอจ๊ะ!!!!
ผม-ใช่แล้วล่ะครับ
ฮารุ-ที่รักในกระเป๋านี้มีแค่ทุเรียนทอดหรอคะ!!
ผม-ใช่แล้วครับ ข้างในมีทุเรียนทอดถุงใหญ่มากอยู่ครับ
ผมก็พูดพร้อมกับยกถุงทุเรียนทอดออกมามันคือถุงไซร์ใหญ่ที่ต้องซื้อทีละ 10โล
โอคะวะ-นะ…นี่ลูกซื้อมาเยอะขนาดนี้เลยหรอ!!
ฮารุ-นี่มันเยอะมากเลยนะคะ
สึคุยะ-หนักมากเลยนะเนี้ย
ผม-ทั้งหมด10กิโลกรัมครับ
โอคะวะ-10กิโลกรัม!!!
แม่-ถ้ายังไม่พอเด๋วจะสั่งให้คนไปซื้อมาเพิ่มและส่งของมาให้ที่นี่นะคะ
สึคุยะ-โฮ๊ะๆ แค่นี้ก็เยอะมากเกินไปแล้วล่ะค่ะท่านแม่ เท่านี้บ้านของพวกเราก็มีทุเรียนทอดทานกันตลอดทั้งปีแล้วนะ
ฮารุ-นั่นสิคะ คุณแม่
ผม-คุณแม่อย่าทานเยอะจนเกินไปนะครับ ทานเยอะๆจะทำให้เราเจ็บคอหรือเป็นร้อนในได้นะครับ และมันทำให้อ้วนง่ายมากเลยนะ
ครับ
ฮารุและคุณแม่ที่กำลังหยิบทุเรียนทอดเข้าปากอย่างเมามันส์ก็ถึงกับหยุดมือที่ยื่นออกไปเพื่อจะหยิบทุเรียนทอดมากิน
ฮารุ-ระ..เรื่องจริงหรอคะ!!!
ผม-จริงสิครับ
สึคุยะ-งะ….งั้นต้องพยายามห้ามทุกคนทานเยอะจนเกินไปนะจ๊ะ
ฮารุ-คุณแม่นั่นแหละค่ะ พูดไปหยิบทุเรียนทอดไปด้วยไม่ได้นะคะ
และโอคะวะก็เดินเข้าไปหยิบถุงทุเรียนทอดถุงใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าสึคุยะออกไปและส่งให้ฮิโระที่เป็นหัวหน้าพ่อบ้าน
สึคุยะ-นี่คุณ!!
โอคะวะ-ฮิโระ อย่าปล่อยให้คุณผู้หญิงทานเยอะจนเกินไปนักล่ะ เข้าใจมั้ย
ฮิโระ-ท..ทราบแล้วครับ
สึคุยะ-เอาคืนมานะคะ
โอคะวะ-นี่คุณ คืนนี้พวกเราไปทานข้าวที่บ้านของบิกคุคุงกันเถอะนะ
สึคุยะ-ทำไมล่ะคะ
ผม-เอ๊ะ!! จะไปทานด้วยกันหรอครับ
โอคะวะ-ใช่สิ!ก็ที่บ้านลูกมีเชฟระดับโรงแรมอยู่ด้วยนิ่และลูกก็ยังบอกว่าสั่งให้คนทำข้าวแล้วไม่ใช่หรอ
ผม-ชะ..ใช่ครับ
โอคะวะ-งั้นรบกวนด้วยนะ
ฮารุ-วันนี้มีอาหารฝรั่งเศสทานด้วยนะคะ
ผม-เด๋วฮารุ
สึคุยะ-จริงหรอจ๊ะ!!
ฮารุ-ค่ะ!!
โอคะวะ-ไม่บ่อยนะเนี้ยที่จะได้ทานอาหารฝรั่งเศสที่บ้าน
สึคุยะ-งั้นพวกเรารีบไปกันเถอะนะ
หลังจากนั้นทุกคนก็พากันลุกเดินออกไปมาที่หน้าบ้าน พวกเราขึ้นรถตู้กลับบ้านส่วนโอคะวะกับสึคุยะนั่งรถมาอีกคัน พอมาถึงหน้าบ้าน
ผมก็ได้แต่ยืนคิดและก็ปลงกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ เพราะอะไรน่ะหรอ ก็เพราะว่าอาหารฝรั่งเศสอันหรูหราหมาเห่าที่ฮารุพูด
ถึงมันไม่มียังไงล่ะ!!
ฮารุ-ที่รักยืนดูอะไรหรอคะ รีบเข้าไปข้างในบ้านกันเถอะนะ
ผม-คะ..ครับ
ทานากะ-ยินดีต้อนรับครับท่านโอคะวะ ท่านสึคุยะ
ทานากะรีบเข้าไปกล่าวทักทายพร้อมกับเปิดประตูรถให้ทั้ง2คนลง
สึคุยะ-ขอบใจจ๊ะ
โอคะวะ-ช่วงนี้อากาศก็เย็นลงอีกแล้วนะ แต่ปีนี้หิมะตกน้อยจริงๆ
ผม-ตกเยอะๆก็ไม่ไหวนะครับคุณพ่อ ถนนลื่นไปหมด อดเอารถออกไปขับเล่นด้วยนะครับ
สึคุยะ-นี่ลูกขนาดอยู่ต่อหน้าท่านแม่ ยังจะคุยกันแต่เรื่องรถอีกหรอจ๊ะ
ผม-ขะ..ขอโทษครับ
หลังจากนั้นทานากะก็เดินนำทางพวกเราเข้าไปที่ห้องอาหาร เข้าไปถึงก็มีอาหารยกมาเสริฟ์ซึ่งก็คือปลาซอลม่อนเทอริยากิที่แสนจะ
ธรรมด๊าธรรมดา พอฮารุเห็นฮารุก็เริ่ม อารมณ์ไม่ดี
ฮารุ-รูริซังนี่มันหมายความว่ายังไงคะ
รูริ-บะ..บอสสั่งให้ทำเมนูนี้แทนค่ะคุณผู้หญิง… บอสสสส รับผิดชอบเลยนะ!!
ก็จริงที่ก่อนหน้านี้ผมบอกว่าผมจะรับผิดชอบแต่ไม่ใช่ในสถานการณ์แบบนี้เข้าใจมั้ย ยัยรูริจอมป่าเถื่อน!! ผมก็แกล้งไม่ตอบอะไรกลับ
ไปแต่ ยัยรูริจอมป่าเถื่อนนั่นกลับรอบคอบกว่าที่ผมคิด คือรูริได้อัดเสียงระหว่างที่ได้รับคำสั่งจากผม และเปิดให้ทุกคนฟังกลางห้อง
อาหารหลังจากทุกคนฟังเสร็จก็หันมาทางผมกันหมดยกเว้นแม่ผมคนเดียว
ผม-ผะ..ผะ..ผะ..ผมว่าปลาแซลม่อนวันนี้ดูอร่อยกว่าทุกวันจริงๆด้วยนะครับเนี้ย!!
ผมก็พยายามที่จะแถไปเรื่อยๆและทำเป็นไม่ได้ยินในสิ่งที่รูริเปิดให้ทุกคนฟัง เค้าเรียกว่าคนไม่ยอมรับผิดก็คือคนไม่ผิดเว้ย ตะ..แต่
สายตาที่ฮารุมองมาที่ผม ผมคิดว่าคืนนี้ผมคงไม่รอดแน่ๆ แต่เหมือนแต้มบุญของผมยังไม่หมดในระหว่างที่ทุกคนตรึงเครียดกันอยู่นั้น
มีคนเดียวที่ไม่ได้รู้สึกอะไรเลย ก็คือแม่ผมเพราะฟังที่คนอื่นคุยกันไม่รู้เรื่องเลยสนใจแต่อาหารที่อยู่ตรงหน้า และพอแม่ผมตักปลาแซ
ลม่อนพร้อมข้าวสวยร้อนๆเข้าปากแม่ผมก็ยิ้มอย่างมีความสุข
แม่-อันนี้อร่อยจัง!!! เนื้อปลาก็สดมาก
ผม-มะ..แม่
แม่-อะไรกันแกไม่กินปลาแซลม่อนอันนี้หรอ งั้นขอแม่นะ
พูดจบแม่ผมก็เอาตะเกียบมาคีบเนื้อปลาแซลม่อนของผมไปต่อหน้าต่อตา
ผม-แม่!! เอาคืนมาเลยนะ
แม่-ไม่!!! งั่ม!
และแม่ก็กัดปลาแซลม่อนของผมเข้าไป
ผม-อ๊ะ!!! แม่!!
ฮารุ-ท่านแม่ชอบก็ดีแล้วไม่ใช่หรอคะ แต่ว่าหลังจากนี้ฮารุขอคุยกับคุณอย่างจริงๆจังๆหน่อยได้มั้ยคะ
ผม-คะ…ครับ ทราบแล้วครับ
หลังจากนั้นพวกเรากินข้าวกันเสร็จผมก็โดนฮารุกับสึคุยะซังลากไปที่ห้องทำงานพร้อมกันนนั้นฮารุก็รายงานทุกอย่างที่เกิดขึ้นตั้งแต่
ผมพาแม่ลงจากเครื่องมาวันแรก เรื่องโรงแรมในคืนแรกก็ด้วย
สึคุยะ-แม่จำได้ว่าพวกเราเคยบอกลูกแล้วนะจ๊ะว่าต้องต้อนรับให้ดีให้สมกับเป็นการต้อนรับของตระกูลโอคะวะ ของเราไม่ใช่หรอ
ผม-ตะ..แต่คุณแม่ครับมันก็แค่คืนเดียวเองนะครับ อะ…อีกอย่างเพราะแม่ผมคิดจะมาก็มา ผมก็เลย
สึคุยะ-ต่อให้ลงเครื่องมาถึงตอนตี4ก็ต้องให้คนไปรับกลับมาที่บ้านนะ
ผม-ตะ..แต่ว่า
สึคุยะ-พรุ้งนี้แม่หวังว่าลูกจะทำตัวเป็นเด็กดีและก็พาท่านแม่ขึ้นไปดูห้องทำงานของลูก ถ้ามันต้องใช้เงินเยอะก็มาบอกแม่นะเข้าใจรึ
ป่าวจ๊ะ
สึคุยะพูดโดยที่สายตานิ่งมาก จนบางครั้งมันก็ทำให้ผมเสียวสันหลัง
ผม-ทะ…ทราบแล้วครับคุณแม่
โอคะวะ-นี่คุณอย่าไปดุบิกคุคุงเยอะนักเลยนะ ลูกเองก็เหนื่อยกับหลายๆอย่างด้วยช่วงนี้
สึคุยะ-ก็ได้ค่ะ
โอคะวะ-วันนี้เรากลับบ้านกันเถอะนะคุณ พรุ้งนี้ผมเองก็ต้องไปทำงานด้วยนะ
สึคุยะ-แน่ใจหรอคะว่าไปทำงาน ไม่ใช่ว่าไปเล่นสนุกกับพวกทาเคดะซังหรอกนะคะ
โอคะวะ-ปะ…ไปทำงานสิ
หลังจากนั้นผมกับฮารุก็เดินออกมาส่งคุณพ่อและคุณแม่ขึ้นรถกลับบ้านพอส่งเสร็จผมกับฮารุก็เดินขึ้นไปบนห้องนอนอ่าบน้ำเตรียมตัว
นอน
ฮารุ-พรุ้งนี้ต้องตื่นแต่เช้านะคะที่รัก
ผม-ทราบแล้วครับ
ฮารุ-ที่รักว่าท่านแม่จะมีความสุขมั้ยที่มาอยู่ที่บ้านของพวกเรา
ผม-อืมม…ผมคิดว่าแม่ผมก็มีความสุขดีนะครับ
ฮารุ-ฮารุกลัวท่านแม่จะเบื่อจังเลยค่ะ
ผม-ก็อาจจะมีบ้างแหละครับที่แม่ผมจะเบื่อ แต่ที่บ้านนี้เองก็มีลูกสะใภ้คอยชวนไปช๊อปปิ้งอยู่บ่อยๆคงไม่เบื่อขนาดนั้นหรอกนะครับ
ฮารุ-ที่รักไม่ว่าหรอคะ ถ้าฮารุพาท่านแม่ออกไปข้างนอก
ผม-ไม่ว่าหรอกครับ แต่อย่าให้มันเวอร์จนเกินไปนะ
ฮารุ-เรื่องนั้นฮารุรู้อยู่แล้วค่ะ
ผม-งั้นเด๋วผมมานะครับ
ฮารุ-นี่มันดึกมากแล้วนะคะ คุณจะไปที่ไหนอีก
ผม-พอดีช่วงที่ผมไม่อยู่ดูเหมือนจะมีตัวปัญหามาก่อเรื่องในบ้านให้ฮารุไม่พอใจอยู่ใช่มั้ยครับ
ฮารุ-ที่รักหมายถึง เก็นจิกับโทชิโร่ซังหรอคะ
ผม-ครับ ผมจะไปจัดการสักหน่อยไม่รู้ตอนนี้กลับบ้านมารึยัง
ฮารุ-อย่าลืมนะคะพรุ้งนี้คุณต้องตื่นแต่เช้า
ผม-ครับ
หลังจากนั้นผมก็เข้าไปจุ๊บที่แก้มของฮารุแล้วก็ลุกออกจากเตียงลงไปข้างล่างเดินตามหาทานากะเพื่อจะถามเรื่องโทชิโร่แต่บ้านที่ควร
จะเงียบกับเหมือนมีเสียงคนคุยกันอยู่ในห้องพัก พนง ผมก็เลยเดินตามเสียงไปจนถึงหน้าห้องและเปิดประตูแง้มเอาไว้และผมก็ยืน
แอบฟังอยู่เงียบๆ
ทานากะ-เก็นจิซังเรียกพวกเรามารวมตัวกันมีเรื่องอะไรรีบด่วนอย่างงั้นหรอครับ
รูริ-นั่นสิ นี่มันก็ดึกมากแล้วนะเราง่วงแล้ววหง่า~~~
ชิสึ- โทชิโร่ซังคุณกลับมาถึงบ้านแล้วควรจะรีบเข้าไปพบคุณท่านไม่ใช่หรอคะ
โทชิโร่-ผมก็อยากจะเข้าไปพบคุณท่านเหมือนกันนั่นแหละครับแต่นี่มันดึกแล้วนะครับ ชิสึซัง
อายะ-แล้วสรุปเรียกพวกเรามารวมตัวกันทำไมคะเก็นจิซัง
เก็นจิ-เรื่องแรกอย่างที่ทุกคนรู้นะครับว่า ว่าเราไม่ควรปล่อยให้คุณท่านไปไหนมาไหนคนเดียวเด็ดขาด
รูริ-แต่ว่าน้า~~~เราไม่คิดว่าบอสจะยอมทำตามที่เก็นจิซังพูดหรอกนะ
ทานากะ-กระผมเองก็เห็นด้วยกับรูริซังนะครับ
เก็นจิ-ตะ..แต่ว่า
ทาคุยะ-เก็นจิซังผมเห็นด้วยกับความคิดของคุณนะ แต่การที่ลูกน้องอย่างเราจะไปสั่งเจ้านายมันเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำอย่างยิ่งไม่ใช่
หรอครับ
ริน-ดิฉันมองว่า คนแบบคุณท่านไม่ต้องการคนดูแลหรอกนะคะ
เก็นจิที่นั่งทำท่าทางหงุดหงิดเพราะความคิดของตัวเองถูกทุกคนในห้องปัดตกไป จู่ๆเก็นจิก็เอามือตบโต๊ะดังปึง!!!!พร้อมลุกขึ้นยืน
และตะคอกเสียงใส่ทุกคนอย่างโมโห
เก็นจิ-เพราะพวกแก ไม่รู้จักยักษ์แดง!!ถึงได้พูดแบบนี้! พวกแกรู้อะไรมั้ย!!คน คนนั้นที่พวกแกเรียกเค้าว่าคุณท่าน ถ้าโมโหล่ะก็ไม่
ต่างอะไรกับระเบิดที่เดินได้!!!สำหรับข้าไม่ว่าลูกพี่จะเป็นแบบไหนข้าก็ยินดีที่จะตามลูกพี่ไป แต่พวกแกกล้ารับปากรึป่าวว่าแก
สามารถรับใช้คุณท่านคนนั้นตอนโมโหได้น่ะห๊ะ!!! พวกแกนี่มันโชคดีเป็นบ้า!! ที่ได้มารู้จักยักษ์แดงในตอนนี้
อายะ-ต่อให้เรื่องนั้นเป็นเรื่องจริงแต่จะให้พวกเราทำใจเชื่อคนที่เคยเข้ามาอาละวาดในบ้านอย่างคุณได้อย่างงั้นหรอคะเก็นจิซัง
ริน-นั่นสิคะเมื่อก่อนก็คือเมื่อก่อน ตอนนี้ก็คือตอนนี้ค่ะ
เก็นจิ-ที่เป็นแบบนั้นเพราะลูกพี่กำลังอดทนอยู่ต่างหากล่ะ!! ข้าให้รุ่นน้องที่เป็นตำรวจด้วยกันสืบเรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองโยโคเตะมาแล้ว
ในช่วงที่ลูกพี่หายตัวไปคนเดียวได้เกิดเหตุร้ายแรงขึ้นแก๊งทาเคดะได้ทำการจัดการแก๊งเจ้าถิ่นและได้เข้ายึดครองเมืองนั้นเรียบร้อย
แล้ว พวกแกไม่คิดว่ามันแปลกอย่างนั้นหรอที่จู่ๆ กลุ่มทาเคดะเดิมทีมีถิ่นหากินอยู่แถวเมืองโตเกียวแท้ๆทำไมถึงต้องไปจัดการเมือง
ทางเหนือนั่นด้วยล่ะ!!!
ทุกคนที่ได้ฟังก็ได้แต่เงียบและคิดตามที่เก็นจิพูด
ทาคุยะ-รูริซังคุณเองก็มาจากเมืองนั้นและมาพร้อมกับคุณท่านด้วย ไม่รู้เรื่องอะไรบ้างเลยหรอครับ
รูริ-ไม่รู้หรอกนะ เพราะวันที่เจอกับบอสเราก็เมามากจำอะไรไม่ค่อยได้ด้วยพอตอนเช้ามาสเตอร์หมายถึงเจ้าของบาร์หน่ะ ก็โทรมาตาม
เราและบอกว่าบอสต้องการจะชวนมาทำงานที่โตเกียวเราก็รีบไปหาบอสแต่เช้า แต่ว่าเรื่องแก๊งเจ้าถิ่นน่ะมีจริงๆนะ ชื่อว่าแก๊งเคียวยะ
ชิสึ-ถึงทุกอย่างมันจะดูเหมือนกับว่าจุดเริ่มต้นมาจากคุณท่านของพวกเราก็เถอะและคุณจะทำยังไง จะจับตัวคุณท่านของพวกอย่างงั้น
หรอ? เก็นจิซังคุณยังคิดจะเล่นเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์จอมปลอมนั่นอยู่อีกหรอคะ?
เก็นจิ-ไม่ใช่!!! ให้หาทางป้องกันไม่ให้คนที่เป็นเหมือนระเบิดเดินได้โมโหจนระเบิดออกมาต่างหากล่ะ!!!
ชิสึ-ฮึ! คิดว่าตัวเอง
ทานากะ-หยุดก่อนครับชิสึซัง
ทานากะพูดพร้อมกับเอามือไปจับที่ไหล่ของชิสึ ชิสึก็ชงักและมองหน้าทานากะกลับอย่างไม่เกรงกลัว แต่สุดท้ายด้วยตำแหน่งงาน
ของทานากะที่สูงกว่าชิสึจึงต้องหลบทางให้กับทานากะที่เป็นหัวหน้าพ่อบ้านของบ้านหลังนี้
ชิสึ-ทราบแล้วค่ะ
ชิสึพูดพร้อมกับเดินถอยหลังกลับไปนั่งที่เดิม
ทานากะ-โทชิโร่ซังล่ะครับ คุณคิดเห็นกับเรื่องนี้ยังไง?
โทชิโร่-………ผะ..ผมเห็นด้วยกับเก็นจิครับ ข้อมูลที่ผมสืบมาจากคนของแก๊งทาเคดะก็คล้ายๆกับสิ่งที่เก็นจิบอกมา
ทานากะ-คล้ายหรอครับ? ถ้าถามจากคนของแก๊งทาเคดะจริงๆก็น่าจะทราบเรื่องได้ไม่ยากไม่ใช่หรอครับโทชิโร่ซัง
โทชิโร่-ระ…เรื่องนั้นเป็นเพราะว่า ทาเคดะซังสั่งห้ามไม่ให้ทุกคนพูดเรื่องนี้เด็ดขาด แม้แต่มาคิชิมะที่เป็นมือขวาของทาเคดะซังเองก็
ไม่ยอมตอบคำถามของผมเลย
ทานากะ-อืม……อย่างงั้นหรอครับ
เก็นจิ-ข้าขอเสนอห้ามปล่อยลูกพี่ไปไหนคนเดียวเด็ดขาด!!!
ทุกคนต่างมองหน้ากันและผงกศีรษะตอบรับพร้อมกันเป็นอันตกลงกับข้อเสนอของเก็นจิยกเว้น ชิสึ ริน รูริ และอายะ ที่ไม่เห็นด้วยกับ
เก็นจิทันใดนั้นรูริที่มองเห็นผมยืนอยู่ผ่านช่องประตูที่ผมเปิดแง้มเอาไว้ รูริก็สดุ้งและออกอาการหน้าเสียทันที พร้อมกับรีบลุกขึ้นยืน
จากที่นั่งของตัวเอง
รูริ-คะ คะ คะ คะ คะ คะ คะ….คือว่า ดะ ดะ..ดึกแล้วเราไปนอนก่อนนะ
รูริพูดเสร็จก็ทำท่ารีบวิ่งเพื่อจะหนีออกจากห้อง ทุกคนมองไปที่รูริต่างก็ทำหน้าสงสัยกับการกระทำของรูริ ผมก็เลยรีบเปิดประตูเข้าไป
ในห้องพัก พนง
ผม-รูริซังกำลังจะไปไหน?
สิ้นเสียงขององผมรูริที่กำลังจะวิ่งออกจากประตูก็หยุดวิ่งพร้อมกับเดินคอตกกลับเข้ามาในห้องและทุกคนในห้องต่างก็หันหลังกลับมา
มองที่ผมด้วยความตกใจ
ทานากะ-คะ..คุณท่าน!!
โทชิโร่-ทะ..ท่านบิกคุ!
เก็นจิ-ลูกพี่!
พอทุกคนเริ่มได้สติก็รีบยืนเรียงแถวกันตรงหน้าผมพร้อมกับก้มหัวขอโทษกับความผิดที่ทำลงไปทั้งแอบนินทาเจ้านาย คิดจะสั่งเจ้า
นาย ไม่เคารพการตัดสินใจของเจ้านาย บลาๆ
ผม-โทชิโร่ซังกลับมาแล้วหรอ? ไม่ยอมมาหาผมแถมยังมารวมหัวกันอีกใจกล้าไม่เบานี่!
โทชิโร่-ตะ…ต้องขอประทานโทษด้วยครับท่านบิกคุ ผะ..ผมเห็นว่ามันดึกแล้วเลยคิดว่าจะเข้าไปหาท่านบิกคุพรุ้งนี้ตั้งแต่เช้าครับ
ผม-และแกคิดจะมาสั่งให้ข้าทำนั่นทำนี่อย่างงั้นหรอเก็น!!
เก็นจิ-มะ..ไม่ใช่นะครับลูกพี่!! ผะ..ผมแค่
ผม-ทานากะซัง ชิสึซัง อายะซัง รินซัง ทาคุยะซัง ในครั้งนี้ผมผิดหวังในตัวพวกคุณมากๆไอ้เก็นจิยังพอว่า แต่พวกคุณที่ควรจะเป็นคน
ห้ามแท้ๆแต่กลับมารวมหัวกับไอ้บ้าอย่างเก็นจิ
ทาคุยะ-คุณท่านได้โปรดอภัยให้พวกกระผมด้วยเถอะนะครับ
ริน-คุณท่านคะ
อายะ-คะ..คุณท่านได้โปรดอภัยให้กับการกระทำแย่ๆของดิฉันด้วยนะคะ
ชิสึ-ต้องขออภัยเป็นอย่างสูงค่ะ คุณท่าน
ทานากะ-คะ…คุณท่าน ตะ..แต่พวกเราทำลงไปก็เพราะเป็นห่วงคุณท่านนะครับ ดะ…ได้โปรดให้อภัยกับการกระทำของพวกเราที่ล่วง
เกินคุณท่านด้วยเถอะนะครับ
ผม-เก็นจิหลังจากนี้แกไปตามติดแม่ข้าให้ตลอดเวลาและทำหน้าที่แปลทุกอย่างที่เค้าอยากรู้ ส่วนโทชิโร่แกไปอยู่กับฮารุซะ แยกย้าย
ไปกันไปนอนได้ละ
หลังจากที่ผมสั่งงานเก็นจิและโทชิโร่เสร็จผมก็หันหลังและเดินออกจากห้องพัก พนง มาโดยที่ไม่สนใจพวกทานากะเลยแม้แต่น้อย
ผมเป็นคนที่ไม่ชอบการนินทากันเอามากๆโดยเฉพาะกับคนใก้ลตัวอยากพวกทานากะมันยิ่งทำให้ผมโมโหแต่ก็เพราะทุกคนเป็นห่วง
ผมนั่นแหละถึงได้ทำแบบนี้ และเพราะแบบนั้นผมถึงพยายามไม่โมโหใส่พวกนั้นและเลือกที่จะเดินถอยออกมาเองดีกว่าแต่ก็เพราะผม
ทำแบบนี้ลงไปมันยิ่งทำให้ทุกคนในห้องนั้นรู้สึกผิดมากขึ้นไปอีกโดยที่ผมไม่ทันได้รู้ตัว หลังจากนั้นผมก็เดินขึ้นไปบนห้องและล้มตัว
ลงนอนในหัวก็คิดถึงเรื่องที่เก็นจิพูด ถึงผมจะเจ็บใจแต่รอบนี้ที่เก็นจิพูดมันก็ถูกจริงๆนั่นแหละหลังจากนั้นผมก็นอนหลับไป
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ