โรคผ่านรัก
8.9
เขียนโดย สนสนธ์
วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2564 เวลา 13.42 น.
4 ตอน
37 วิจารณ์
4,081 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2564 17.39 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) จุดเริ่มต้น
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ มหาลัยเปิดเทอมแรกของปีที่ 3 แล้ว ฉันยังไม่รู้ว่าจะเรียนรอดหรือไม่ทั้งเรียนออนไลน์และเรียนปฎิบัติร่วมด้วย ร่ายกายฉันตอนนี้เปื่อยหมดแล้ว ทั้งอ่อนแรง อ่อนล้า แค่จะหายใจยังรู้สึกเหนื่อยเลย (เสียงหายใจเบาๆกับสายตาที่ดูอ่อนล้า) จนหลายเดือนต่อมาถึงเวลาที่ฉันต้องออกฝึกงาน ฉันได้ไปฝึกงานที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งกับเพื่อนในสาขาอีกหนึ่งคน ซึ่งช่วงนั้นโรคระบาดก็ยังไม่จางหาย หรือ ลดลงแม้แต่นิด แต่เรานั้นเรียนมาด้านนี้เพื่อมารักษาคนเจ็บป่วย ฉะนั้นจะถอยก็ไม่ได้ เพราะว่าเสียเงินกับการลงทุนการเรียนมามากแล้ว ฉันจึงถอนตัวให้ออกจาก สถานการณ์แบบนั้นไม่ได้ เดี๋ยวจะเรียนไม่จบ ละฉันก็จะมีหนี้มหาศาลอีก
ในวันแรกรับเข้าฝึกงาน ทางโรงพยาบาลที่ฉันไปฝึกนั้นได้บอกให้พนักงาน เจ้าหน้าที่ และบุคลากรทาง แพทย์ เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรค แต่เนื่องจากตัววัคซีนนั้นมีจำกัดไม่เพียงพอต่อบุคคลากรในโรงพยาบาลด้วยซ้ำ ต้องแบ่งฉีดกันเป็นชุดๆ อาจเป็นเพราะเราดันมาเจอรัฐบาลเฮงซวยในช่วงสถานการณ์แบบนี้ ทำให้ บุคคลากรในโรงพยาบาลต้องเสี่ยงชีวิตช่วยเหลือรักษาคนไข้ที่ติดโรคจากโรคระบาด โดยที่ไม่มีอะไรมาป้องกัน ตัวเองเลย
หลายสัปดาห์ต่อมาทางโรงพยาบาลได้มีการประกาศให้บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ของ โรงพยาบาลที่เหลือเข้ารับการฉีดวัคซีน ซึ่งฉันก็อยู่ในชุดนั้นด้วย เราทุกคนต่างก็ไปต่อคิวรับวัคซีนกัน จนกระทั่งถึงฉันที่เป็นคนสุดท้าย ฉันถกแขนเสื้อขึ้นพร้อมที่จะรับวัคซีน แต่แล้วก็มีพี่พยาบาล(1)คนหนึ่งวิ่งมาถามเพื่อนพยาบาล(2)ที่อยู่ตรงหน้าฉันและกำลังจะฉีดวัคซีนให้ฉันคนนั้นว่า “ยังเหลือวัคซีนอีกเท่าไหร่” พี่พยาบาล(2)ก็ตอบกลับไปว่า “นี่เป็นเข็มสุดท้ายแล้วค่ะ” พี่พยาบาล(1)ก็ทำหน้าตกและบอกกับพี่พยาบาล(1)ไปว่า “ยังเหลือหมออีกคนที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ตอนนี้เขากำลังอยู่ในห้องผ่าตัด อีกเดี๋ยวก็จะออกมาแล้วทำไงดี” พวกเขาทั้งสองต่างก็ทำกังวลใจกัน
เมื่อฉันได้ยินและสังเกตสีหน้าของทั้งสองคนที่ดูท่าทีไม่ดีนัก ดังนั้นฉันก็เลยถกแขนเสื้อลงแล้วบอกกับพี่พยาบาลที่ถือเข็มอยู่ว่า “เดี๋ยวหนูไว้ฉีดคราวหน้าแล้วกันค่ะ เข็มนี้เก็บไว้ให้หมอเถอะค่ะ เพราะหมอยังต้องทำอะไรที่เสี่ยงต่อตัวหมอเองอีกเยอะเลย” แล้วฉันก็ยิ้มด้วยความยินดี แต่พี่พยาบาล(2)ก็ถามฉันด้วยความเป็นห่วงว่า “จะไม่เป็นอะไรจริงๆใช่มั้ย” และบอกกับฉันต่ออีกว่า “วัคซีนชุดต่อไปจะมาในเดือนหน้านะ อีกนานเลยนะ” และฉันก็ตอบกลับไปว่า “ไม่เป็นไรจริงๆค่ะ หนูรอได้ค่ะ ยังไงคนที่เสี่ยงสูงต้องได้รับการป้องกันก่อนค่ะ หนูดูแลตัวเองได้ค่ะและจะดูแลตัวเองเป็นอย่างดีเลยค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะ” แล้วก็ยิ้มเหมือนเดิม แล้วก็มีเสียงพี่พยาบาล(1)เรียกหมอว่า “หมอคะ ทางนี้ค่ะ” และเขาคนนั้นก็เดินตรงเข้ามา ในขณะที่ฉันกำลังเดินออกไป และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของการพบกันระหว่างฉันและเขาคนนั้น.
ในวันแรกรับเข้าฝึกงาน ทางโรงพยาบาลที่ฉันไปฝึกนั้นได้บอกให้พนักงาน เจ้าหน้าที่ และบุคลากรทาง แพทย์ เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรค แต่เนื่องจากตัววัคซีนนั้นมีจำกัดไม่เพียงพอต่อบุคคลากรในโรงพยาบาลด้วยซ้ำ ต้องแบ่งฉีดกันเป็นชุดๆ อาจเป็นเพราะเราดันมาเจอรัฐบาลเฮงซวยในช่วงสถานการณ์แบบนี้ ทำให้ บุคคลากรในโรงพยาบาลต้องเสี่ยงชีวิตช่วยเหลือรักษาคนไข้ที่ติดโรคจากโรคระบาด โดยที่ไม่มีอะไรมาป้องกัน ตัวเองเลย
หลายสัปดาห์ต่อมาทางโรงพยาบาลได้มีการประกาศให้บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ของ โรงพยาบาลที่เหลือเข้ารับการฉีดวัคซีน ซึ่งฉันก็อยู่ในชุดนั้นด้วย เราทุกคนต่างก็ไปต่อคิวรับวัคซีนกัน จนกระทั่งถึงฉันที่เป็นคนสุดท้าย ฉันถกแขนเสื้อขึ้นพร้อมที่จะรับวัคซีน แต่แล้วก็มีพี่พยาบาล(1)คนหนึ่งวิ่งมาถามเพื่อนพยาบาล(2)ที่อยู่ตรงหน้าฉันและกำลังจะฉีดวัคซีนให้ฉันคนนั้นว่า “ยังเหลือวัคซีนอีกเท่าไหร่” พี่พยาบาล(2)ก็ตอบกลับไปว่า “นี่เป็นเข็มสุดท้ายแล้วค่ะ” พี่พยาบาล(1)ก็ทำหน้าตกและบอกกับพี่พยาบาล(1)ไปว่า “ยังเหลือหมออีกคนที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ตอนนี้เขากำลังอยู่ในห้องผ่าตัด อีกเดี๋ยวก็จะออกมาแล้วทำไงดี” พวกเขาทั้งสองต่างก็ทำกังวลใจกัน
เมื่อฉันได้ยินและสังเกตสีหน้าของทั้งสองคนที่ดูท่าทีไม่ดีนัก ดังนั้นฉันก็เลยถกแขนเสื้อลงแล้วบอกกับพี่พยาบาลที่ถือเข็มอยู่ว่า “เดี๋ยวหนูไว้ฉีดคราวหน้าแล้วกันค่ะ เข็มนี้เก็บไว้ให้หมอเถอะค่ะ เพราะหมอยังต้องทำอะไรที่เสี่ยงต่อตัวหมอเองอีกเยอะเลย” แล้วฉันก็ยิ้มด้วยความยินดี แต่พี่พยาบาล(2)ก็ถามฉันด้วยความเป็นห่วงว่า “จะไม่เป็นอะไรจริงๆใช่มั้ย” และบอกกับฉันต่ออีกว่า “วัคซีนชุดต่อไปจะมาในเดือนหน้านะ อีกนานเลยนะ” และฉันก็ตอบกลับไปว่า “ไม่เป็นไรจริงๆค่ะ หนูรอได้ค่ะ ยังไงคนที่เสี่ยงสูงต้องได้รับการป้องกันก่อนค่ะ หนูดูแลตัวเองได้ค่ะและจะดูแลตัวเองเป็นอย่างดีเลยค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะ” แล้วก็ยิ้มเหมือนเดิม แล้วก็มีเสียงพี่พยาบาล(1)เรียกหมอว่า “หมอคะ ทางนี้ค่ะ” และเขาคนนั้นก็เดินตรงเข้ามา ในขณะที่ฉันกำลังเดินออกไป และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของการพบกันระหว่างฉันและเขาคนนั้น.
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ