โรคผ่านรัก
เขียนโดย สนสนธ์
วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2564 เวลา 13.42 น.
แก้ไขเมื่อ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2564 17.39 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) ยังไม่ถึงเวลา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
คุณเจอาร์คะ เชิญที่ห้องตรวจเบอร์ 5 แผนกอายุรกรรมค่ะ “อ่อครับ” เสียงตอบกลับมาของชายคนนั้น นั่นเป็นเสียงที่ฉันได้ยินระหว่างเดินกลับมา เสียงของเขานั้นนุ่มนวลช่างน่าหลงใหลเหลือเกิน แต่ก็เถอะ นั่นมันก็แค่เสียงในความคิดของฉัน ฉันไม่ได้สนใจอะไรหรอก ไม่ได้คิดอะไรมากนัก มันก็แค่เสียงคนไข้คนนึงเท่านั้น
ตอนนี้ก็ใกล้เที่ยงแล้ว “ได้เวลากินข้าวแล้วสิ ตอนนี้หิวมากๆเลย” ฉันบ่นกับเพื่อนของฉัน “แล้วไปกินข้าวที่ไหนดี” เพื่อนถาม “ร้านหน้าโรงพยาบาลมั้ย” ฉันเสนอ “โอเค” มันตอบกลับมา แล้วเราก็พากันไปกินข้าวที่นั่นกัน “กะเพราหมูสับไข่ดาวสองค่ะเฮีย” เพื่อนฉันสั่งอาหารกับเฮียเจ้าของร้าน “อ้อได้ๆ เอาเผ็ดมั้ย” เฮียตอบและถามกลับมา “เอาเผ็ดปานกลางนะคะเฮีย” เพื่อนฉันตอบ
แต่แล้วจู่ๆ ฉันก็ได้ยินเสียงของชายคนนั้นอีกครั้ง “มีกะเพราทะเลมั้ยครับ” ชายคนนั้นถาม “มี! แต่ตอนนี้ของหมดกำลังให้เด็กไปซื้อ จะรอมั้ยล่ะไอ่หนู” เฮียตอบและถามกลับชายคนนั้น “อ่อครับ ไม่เป็นไรครับ” ชายคนนั้นตอบ แต่คำพูดของเขาคนนั้นมันติดหนูของฉันมากเลย เลยจะหันไปส่องเขาแต่ก็เห็นเพียงแค่ลำแข้งซ้ายที่กำลังจะก้าวเข้าไปในรถ “นี่แค่ลำแข้งยังเท่เลย หน้าตาคงจะประมาณลูกรักพระเจ้าแน่เลย” ฉันพูดกับตัวเองในใจ ฉันเลยหันไปถามเพื่อนว่า “เห็นผู้ชายคนเมื่อกี้มั้ย คนที่มาสั่งข้าวแล้วเดินออกไปอ่ะ” “ไม่เห็นมั้ง ไม่รู้สิ ไม่ได้สังเกต” เพื่อนฉันตอบ เห้อ โอเคฉะนั้นบอกไว้ก่อนเลยนะว่า ให้เลือกคบเพื่อนที่ช่างสังเกตหน่อย เผื่อเพื่อนจะมีประโยชน์ในเวลาสำคัญที่เราต้องการ ใช่เหมือนกับเวลานี้
ตอนนี้ฉันเริ่มอยากรู้แล้วว่าใบหน้าของเขานั้นเป็นอย่างไร คงต้องช่างมันเถอะเพราะเราย้อนเวลากลับไปไม่ได้แล้ว แล้วเราก็กินข้าวกันตามปกติ
แต่แล้วก็เกิดเรื่องที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้น รู้มั้ยว่ามันคืออะไร ใช่มันเกี่ยวกับหมอคนนั้น ตอนนี้เขากำลังเดินเข้ามาในร้านและเดินตรงมาที่ฉัน แล้วเขาก็ถามฉันว่า “คุณใช่มั้ย ใช่คุณหรือเปล่า คนที่สละวัคซีนให้ผม” “อ่อมั้งคะ” ฉันตอบกลับและก็ฉีกยิ้มพอเป็นพิธี “ขอบคุณมากนะครับ แต่ถ้าให้ดีคุณควรจะได้รับมันมากกว่า” เขาพูด “อืม....ไม่ป็นไรค่ะ” ฉันตอบ และเขาก็ถามมาอีกว่า “ทำไมถึงสละให้ผมล่ะ” แน่นอนค่ะว่าฉันไม่ได้เป็นคนดีอะไรขนาดนั้น ฉันก็เลยด่าในใจไปว่า “ไอ่ห่า! จะถามอะไรนักหนากูจะกินข้าว” แต่มันก็เป็นแค่เสียงด่าในใจ เห่อ... (เสียงถอนหายใจแล้วมองบนเล็กน้อย) ฉันเลยตอบกลับเป็นพิธีว่า “ดูเหมือนงานของคุณจะเสี่ยงมากกว่าฉันน่ะค่ะ” หื่ม.... และฉีกยิ้มเป็นพิธีอีกครั้ง แล้วหมอก็ขอตัวกลับไปและทิ้งท้ายประโยคด้วยว่า “ตอนเย็นเจอกันนะครับ” ฉันก็แบบหึ้ม! อะไรนะละทำหน้างง แต่ก็ปล่อยผ่านมันไป
เออ!......ลืมบอกไป ตอนที่ฉันคุยกับหมออะเพื่อนฉันไม่อยู่นะ มันไปเข้าห้องน้ำ แหน่เหมือนในละครเลยน้ำเน่าใช่มั้ยล่ะ ใช่เรื่องมันก็เป็นแบบนั้นแหละ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ