ทวีปมืด

5.0

เขียนโดย Gratal

วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 เวลา 21.43 น.

  4 ตอน
  0 วิจารณ์
  3,458 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 21.50 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) เจ้าหม่ำ กะหร่อง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 จากแนวหน้าเรียกศูนย์ ขอกำลังขนส่งผู้บาดเจ็บด่วน! จากแนวหน้าเรียกศูนย์ ขอกำลังขนส่งผู้บาดเจ็บด่วน!

 

จากศูนย์ถึงแนวหน้า เฮลิคอปเตอร์ขนส่งยังไม่พร้อม รักษาและปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไป

 

 จากแนวหน้าถึงศูนย์ เราต้องอพยพคนเจ็บเดี๋ยวนี้ เราต้านไม่ไหวแล้ว!!

 

 จากศูนย์ จงปฏิบัติตามขั้นตอน นี่คือคำสั่งเลิกการติดต่อ

 

บ้าชิบ!!ชั่งหัวขั้นตอนสิวะ พวกเราจะตายกันหมดได้ยินมั้ย จากแนวหน้าถึงศูนย์ได้ยินมั้ย 

 

..(พะ.. พะ.. พวกมันวิวัฒนาการ พวกมัน)..

 

..(อย่าเพิ่งขยับตัว คุณพนัส อาการคุณสาหัสมาก)..

 

..(ชะ..ช่างเถอะ ยังไงผมก็ไม่รอด ผม..ผม)..

 

..(จ่าครับ!! พวกมันฝ่าแนวต้านมาแล้วววว)..

 

..(พะ..พวกมันมาแล้ว พวกมันวิวัฒนาการตัวเอง ผม..ผมขอฝากของในกระเป๋านี้กับคุณด้วย พะ..พวกมันมาแล้ว หน่ะ..หนี หนี)..

 

..(จ่าครับ!!มันแห่กันออกมาแล้วว!!)..

 

..(พวกเราถอยก่อนนน!!ถอยออกมาาา!!)..

 

ปัง! ปัง!ปัง!ปัง!ปัง!ปัง! อ๊าาาาากกกกปัง! ปัง!ปัง! ..ปัง!ปัง!ปัง! 

 

..(พวกมันเป็นตัวอะไร !!..ปัง!ปัง!ปัง!ปัง!ปัง!)..

 

..(วิสัยมันมืดพวกเรามองไม่ถนัด!!ปัง!ปัง!ปัง!อ๊าาาคคค!!!!)..

 

..(ถอยออกมาก่อนสิเว้ยยยย!!ปัง!ปัง!ปัง!ปัง!ปัง! )..

 

..(จ่าาา!!ช่วยผมด้วยยย!!!!)..

 

..(ทิ้งระเบิดออกจากมือแล้ววิ่งมาทางนี้ทหาร!!!)..

 

..(จ่าช่วยผมม..ดะ..บรึ้มมมมม!!!!!!!)...

 

..(จ่า.....จ่า......จ่า...คุณจ่าาแมน!! )..

 

 ..แมน สะดุ้งเฮือกเพราะถูกno.21ตะโกนเรียกที่ข้างหู

 

..(ขอโทษ พอดีผมคิดอะไรเพลินไปหน่อย)..

 

..(เล็กน้อยน่าพวก ผมจะบอกว่าเมื่อสักครู่ผมโทรให้คนของผมจัดการเรื่องเงินค่าจ้างรวมถึงติดต่อขอลางานชั่วคราวกับผู้จัดการคุณแล้วนา ต้องขอบใจมากที่คุณยอมมากับพวกผม)..

 

..(เล่นตัวโก่งราคามากกว่าล่ะมั้ง)..

 

หญิงสาวรำพันกับตัวเองที่เบาะหน้าข้างคนขับ แต่จงใจให้แมนได้ยิน

 

..(พอทีเถอะน่า33 งานนี้สำหรับเขาสินค่าจ้างไม่มีความหมายหรอกเป็นแค่การแสดงน้ำใจเล็กๆน้อยๆของทางเรา ส่วนสำคัญที่เขายอมตกลงร่วมงานกับเรา เพราะมีหวังในการรักษาอาการป่วยของแม่เขาต่างหากล่ะ)..

 

no.9กล่าวเป็นเชิงติเตียนในขณะที่ตายังจ้องไปข้างหน้า

 

..(ไม่เป็นไรครับ)..

 

..แมน ยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยพร้อมกับหันหน้าออกมองนอกกระจกรถ เพื่อแสดงออกว่าไม่สนใจในคำพูดของหญิงสาว และชมวิว นอกรถในเขต37ไปในตัว

 

 มันเป็นเขตชนบทที่ติดกับชายแดนทางด้านตะวันตกของนครหลวง ซึ่งการเดินทางโดยทั่วไปของพลเมืองจะใช้โดยสารโดยรถไฟซึ่งเชื่อมติดต่อกันทุกเขต โดยมีนครหลวงเป็นศูนย์กลาง นอกกระจกของรถที่เขานั่งมานั้น เต็มไปด้วยภาพเทือกสวนไร่นา ซึ่งเป็นอาชีพรองของพลเมืองตามชนบทส่วนใหญ่ อิสระในการทำมาหากิน แต่จะต้องคงอาชีพหลักและอุตสาหกรรมไว้ตามบทบัญญัติที่ว่าทั้ง37เขตแบ่งออกเป็น4ภาค ภาคละ1ปัจจัยคือ1.อุตสาหกรรมอาหาร2.อุตสาหกรรมยารักษาโรค3.อุตสาหกรรมเครื่องนุ่มห่ม4.อุตสาหกรรมที่อยู่อาศัย จัดสรรลงตัวเฉพาะเป็นภาคๆไป เขต37ที่แมนอาศัยนั้นจัดอยู่ในภาคของ อุตสาหกรรมที่อยู่อาศัย โดยวัสดุหลักในการทำที่อยู่อาศัยของพลเมืองนั้นคือ บ้านที่ทำจากไม้ เพราะมีจำนวนมากมายมหาศาลนำมาใช้ในอุตสาหกรรมแปรรูปเท่าไรก็ไม่มีวันหมด เนื่องจากประชากรที่ลดลงเหลือเพียง3%นั้น ทำให้ธรรมชาติสามารถฟื้นฟูตัวเองได้อย่างรวดเร็ว ไม้คือวัสดุหลักในการก่อสร้างบ้านเรือน สำนักงาน สถานที่ราชการและเคหะสถานอื่นๆ โดยเป็นที่นิยมของผู้มั่งคั่งตามนครหลวงและปริมณฑล รองลงมาคือบ้านดิน ส่วนมากจะเป็นที่นิยมของชนชั้นกลางถึงระดับล่าง เนื่องจากใช้งบประมาณในการทำค่อนข้างต่ำ เหมาะแก่ฐานะตัวเอง การบำรุงรักษาน้อยเมื่อเทียบกับบ้านไม้ ถึงแม้เขต37จะขึ้นชื่อว่าเป็นเขตชนบทติดกับชายแดนด้านตะวันตก แต่ก็มีความสำคัญไม่แพ้เขตอื่นๆ เนื่องจากเป็นจุดค้าขายของหายากรวมถึงของใช้จำเป็นต่างๆที่เหล่านักสำรวจ นักผจญภัย เสี่ยงชีวิตตัวเองเพื่อเข้าไปแสวงโชคตามตะเข็บชายแดน โดยมีเหล่าพรานรับจ้างพื้นเมืองเป็นผู้นำทาง จึงทำให้ตลาดชายแดนเขต37แห่งนี้ เป็นที่สนใจของผู้คนและต่างเดินทางแวะเวียนแลกเปลี่ยนสินค้า เงินตรา กันอย่างคึกคัก ซึ่งการที่เงินตราหมุนเวียนคล่องตัวขนาดนี้ ก็ไม่ได้ทำให้ชาวบ้านมีความมั่งคั่งขึ้นเลย เพราะโดยหลักๆนั้นบรรดาพ่อค้าจาก นครหลวง จะร่วมมือกันกดราคาเพื่อที่จะได้นำไปขายต่อตามเขตเมืองใหญ่ๆรวมถึงเมืองศูนย์กลาง จึงกลายเป็นว่า เสี่ยงชีวิตหาแทบตาย พ่อค้านอนตีพุงนับเงินกันสะดวก เขานั่งมองวิวนอกรถอยู่พักใหญ่ๆ จึงหันกลับมาพร้อมกับถามรวมๆว่า 

 

..(ถ้าผมจะต้องใช้คนนำทางซัก1คน เป็นคนพื้นเมืองชายแดน37 พวกคุณจะขัดข้องมั้ยครับ)..

 

..(ไม่เลยพวก ดีซะอีกไม่งั้นเดินทางสำรวจกันแค่4คนเหงาแย่ นี่ทางพวกผมก็ต้องจ้างคนแบก สัมภาระเพิ่มด้วยไม่งั้นแบกของกันลิ้นห้อยแน่)..

 

no.21กล่าวตอบอย่างอารมณ์ดี ปนเสียงหัวเราะ กั่กๆ 

 

..(แน่นอน ว่าสินค่าจ้างของคนที่ผมจะไปติดต่อนี้ รวมอยู่ในค่าจ้างของตัวผม พวกคุณไม่ต้องจ่ายเพิ่มแต่อย่างใด)..

 

..แมน เอ่ยขึ้นดักเป็นการตัดข้อครหาโดยทันที

 

..(อันที่จริงเรื่องสินค่าจ้างเนี่ยคุณไม่ต้องซีเรียสก็ได้นา เพราะทางเราสามารถส่งเรื่องเบิกได้ อย่างที่แจ้งกันไว้ข้างต้นแล้วว่า งบประมาณทางเรานั้นมีให้ไม่จำกัด แต่ถ้าเป็นความสบายใจของคุณ ทางเราก็ไม่ขัดข้องครับ)..

 

no.9กล่าวขึ้นเพื่อเป็นการแสดงออกในน้ำใจ

 

..(อย่างที่ผมบอกแหล่ะครับ เรื่องเงินผมกับคนของผมไม่ซีเรียสเท่าไรนัก ขอแค่พวกคุณทำตามสัญญาที่ได้รับปาก เรื่องการรักษาของแม่ผมด้วยก็แล้วกัน)..

 

..(สัญญาเป็นลายลักษ์อักษรเรียบร้อย บวกกับสัญญาระหว่างลูกผู้ชาย คุณแมน)..

 

no.21กล่าวเสริมเป็นการเพิ่มความมั่นใจในสัญญาบวกกับผูกมิตรไมตรีแก่เขา ผู้ที่แสดงออกมาแต่ต้นแล้วว่า เงินซื้อเขาไม่ได้

 

..(ว่าแต่คนของคุณที่ว่านี่ จะให้เราไปรับที่ไหนครับ)..

 

no.9เอ่ยถามขึ้น

 

..(ไปตามจุดหมายเดิมที่เราตกลงนัดแนะว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นในการสำรวจนั่นแหล่ะครับ แค่เสียเวลาแวะตรงตลาดชายแดนสักหน่อย พวกคุณจะรอหรือจะไปเดินซื้อของก็ได้ ผมจะไปติดต่อเอง)..

 

 ในส่วนของตลาดชายแดนเขต37นั้น ถูกแบ่งเป็น2ฝั่งหลักคือ ฝั่งด้านในเมืองซึ่งเต็มไปด้วยอาคารบ้านไม้ สำนักงาน รวมถึงแหล่งพักผ่อนชั่วคราวของบรรดาพ่อค้าการคมนาคมค่อนข้างคับคั่ง และฝั่งชายแดนนอกเมืองซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของชาวพื้นเมือง จึงเต็มไปด้วยบ้านดินซะส่วนมาก ถึงจะเป็นบ้านดินแต่ก็ถูกตกแต่งให้สวยสะดุดตา กลมกลืนกับธรรมชาติพื้นหญ้าสีเขียว ดั่งพรมปูบนหลังคาทำให้สวยงามไม่แพ้บ้านไม้เลยทีเดียว โดยมีลำคลองสายยาวกั้นระหว่างกัน ผู้คนส่วนมากนิยมใช้เรือยนต์ในการติดต่อ ข้ามฝั่งไปมาหาสู่กัน รวมถึงขนส่งสินค้าลงสู่ตลาดซึ่งตั้งอยู่ในเขตด้านในเมือง รถยนต์4ประตูของเจ้าหน้าที่จากหน่วยงาน F.M.F.P เลี้ยวเข้ามาจอดยังริมตลาด ด้านในนั้นคับคั่งไปด้วยผู้คน เดินกันขวักไขว่เบียดเสียดกันไปมา บางร้านก็แออัดไปด้วยลูกค้า ที่ต่างมามุงดูของแปลกต่างๆที่มีโอกาสน้อยนักจะได้เห็นตามนครหลวงและปริมณฑล 

 

..(เร่เข้ามาทางนี้เลยจ่ะนายจ๋า เร่เข้ามาทางนี้เลยจ่ะนายจ๋า ทางร้านเรามีสินค้าแปลกๆหายากนอกเขตชายแดนลึกเข้าไปทั้งนั้น)..

 

เสียงพ่อค้าสำเนียงแปล่งๆคนนึงตะโกนเรียกลูกค้าเพื่อนำเสนอของที่ตัวเองจะขาย

 

..(นี่จ้านายจ๋า ฟิลโรโมนสำหรับป้องกันสัตว์ร้าย เพียงแค่2-3หยดเท่านั้นทาเบาๆตามตัวจะไม่มีสัตว์ร้ายชนิดใดมาแพ้วพานเล้ยจ้ะนาย)...

 

เหล่าหญิงชายรวมถึงลูกเด็กเล็กแดงต่างมุงดูด้วยความสนใจในความแปลกและสรรพคุณของสินค้า แต่ก็ไม่มีผู้ใดกล้าที่จะซื้อ เพราะไม่มีความจำเป็นในการใช้งาน

 

..(ถ้านี่ไม่ถูกใจ งั้นนี่เลยจ้ะนายจ๋า ขนสัตว์อย่างดี ผ่านการแล่และฟอกอย่างพิถีพิถัน ราคาเพียงผืนละ175หน่วยเท่านั้น)..

 

พอเหล่าบรรดาลูกค้าได้ยินราคาต่างก็แตกฮือกันไปคนละทิศคนละทาง เพราะราคาที่แพงเกินไปสวนทางกับรายได้ บางคนถึงกับบ่นทิ้งท้ายว่า

 

..(สรรพคุณก็โม้เกินจริง ยังจะขายแพงโขอีก ไอ้พ่อค้าหน้าเลือดเอ้ย)..

 

เมื่อพ่อค้าเสียงแปล่ง เห็นเหล่าบรรดาลูกค้าที่แตกฮือเดินหนีแถมด่าส่งทิ้งท้ายอีกจึงได้แต่ทำหน้าบูด มองค้อนปะหลับปะเหลือก 

 

..(เสียเวลาอธิบายจริงๆ ให้ตาย กว่าจะหามาขายได้มันเสียเวลาเดินทางรู้มั้ย)..

 

..(น้ำหอมขวดนี้ราคาเท่าไรจ้ะพ่อค้า)..

 

พ่อค้าเสียงแปล่งหันขวับมาตามเสียงของลูกค้าสาวสวย เปลี่ยนสีหน้าจากบูดบึ้งโดยฉับพลันเป็นหน้ายิ้มแย้มยิงฟันขาว

 

..(มันไม่ใช่น้ำหอมจ้ะนายจ๋า มันคือฟิลโรโมน สำหรับป้องกันสัตว์ร้าย)..

 

..(แปลก เกิดมาไม่เคยพบเคยเจอ)..

 

หญิงสาวรำพึงรำพันกับตัวเอง พร้อมกับขวดในมือพลางเขย่าเล่น

 

..(แปลกดี อยากจะซื้อติดตัวไว้ ขวดเท่าไรจ้ะ)..

 

..(ขวดละ30หน่วยเองจ่ะนายจ๋า ถึงอาจจะดูราคาแพงเกินขนาดขวดไปหน่อย แต่คุณภาพฉันรับรองได้)..

 

พ่อค้าเสียงแปล่งยืนยันคุณภาพสินค้าตัวเองด้วยสีหน้าอารมณ์ดี

 

..(เอาขวดนึง ฝากไว้ก่อนนะเดี๋ยวเดินมาเอา)..

 

..(ได้จ้ะนาย)..

 

ด้วยความที่ตลาดชายแดนนั้นคับคั่งไปด้วยผู้คนบ้านเรือนและร้านค้า จึงทำให้ผู้คนต่างสนใจในสิ่งแปลกใหม่ตื่นตาตื่นใจ จนอาจมองข้ามอันตรายเล็กๆน้อยๆจากการเสียทรัพย์ เพราะมิจฉาชีพซึ่งมีอยู่พอสมควรตามจุดต่างๆเปรียบเสมือนมุมมืดของความศิวิไลที่ผู้คนต่างไม่ให้ความสำคัญเท่าใดนักจึงอาจตกเป็นเหยื่อโดยไม่รู้ตัว มารู้อีกทีก็นั่งหน้าเสียปากสั่นแจ้งความกับเจ้าหน้าที่แล้ว

 

..(ไอ้เวรเอ้ย ฉกมาได้เท่าไร)..

 

ชายหนุ่มหัวหยิก ตัวเล็ก ผอมกะหร่องยิ้มหน้าหยี หัวเราะแหะ แหะ หลังถูกล้อมโดยชายฉกรรจ์3คนรูปร่างสันทัด ในตรอกมุมนึงของตลาด

 

..(ได้มา7หน่วยเองพี่ ผ่าสิแต่งตัวดีสะเปล่าแต่กระเป๋าแบนชิบ)..

 

..(อย่ากะล่อน ลูกน้องข้า2คนนี่เห็นอยู่ว่าล้วงกระเป๋ามาได้ก้อนใหญ่ เอ็งจะโมเม เก็บไว้เองโดยไม่จ่ายส่วนแบ่งเจ้าถิ่นอย่างข้าใช่มั้ย)..

 

..(เห้ยพี่ ไม่ใช่อย่างนั้นนา ชั้นล้วงมาได้7หน่วยจริงๆ ไม่เชื่อดูนี่สิเอ้า)..

 

ชายหนุ่มผอมกะหร่องล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบกระดาษเงินแผ่นละ1หน่วยออกมา7ใบยื่นส่งให้

 

..(ข้าไม่เชื่อคนกะล่อนอย่างเอ็งหรอกเว้ย เอ็งอาจจะซ่อนไว้ในตัวเอ็งอีกก็ได้)..

 

..(พี่เชื่อใจชั้นสิ ชั้นไม่กล้าอมพี่หรอกนา)..

 

..(เดี๋ยวก็รู้ เห้ยเอ็ง2คนเข้าไปค้นตัวมัน)..

 

พูดจบ ลูกน้อง2คนของนักล้วงกระเป๋าเจ้าถิ่นก็เดินปรีเข้าหา จับมือไพร่หลังแล้วตะปบมือลูบค้นตาส่วนต่างๆของร่างกาย

 

..(เจอแล้วลูกพี่ มันซ่อนไว้ในขอบกางเกงนี่ไง แหมตั้ง20หน่วยแหน่ะ)..

 

ลูกน้องคนนึงของนักล้วงกระเป๋ายื่นส่งเงินให้ลูกพี่ ลูกพี่รับมาหน้าแดงก่ำ ยิ้มอย่างอาฆาตด้วยความโกรธ พร้อมปรี่เข้าหา

 

..(นี่หรือวะ ไม่กล้าอม งั้นข้าจะให้เอ็งอม)..

 

..(อมอะไรจ้ะพี่)..

 

..(ถามได้ อมตีนข้านี่ไง ไอ้2คนล็อคมันไว้)..

 

นักล้วงกระเป๋าเจ้าถิ่นใส่เงินลงกระเป๋ากางเกงพร้อมกันนั้นก็ง้างมือขึ้นสุดแขนเพ่งเป้าหมายที่กกหูของชายผอมกะหร่องดวงซวย ทันใดนั้นเองก็มีมือคว้าหมับที่ข้อมือจากทางด้านหลัง

 

..(ใจเย็น พี่ชายค่อยๆคุยกันก่อนไม่เห็นต้องลงไม้ลงมือกันเลย)..

 

ชายหัวหยิกผอมกะหร่องผู้กำลังจะตกเป็นเหยื่อบาทาทั้ง3คู่เงยหน้าอันเหยเกขึ้นแล้วอุทานว่า

 

..(อ้าวจ่าแมน มาได้ไงล่ะนี่)..

 

..(มาหาเอ็งนั่นแหล่ะ บอกหลายครั้งแล้วว่าให้เลิกซะ สุดท้ายเป็นไงมานอนโดนรุมกระทืบเป็นลูกหมาอยู่นี่)..

 

..(เห้ย!!นอกจากจะมาขวางไม่ดูตาม้าตาเรือแล้ว ยังมาพูดข้ามหัวข้าอีกแบบนี้มันต้องเจี๊ยะ)..

 

พูดจบนักล้วงกระเป๋าเจ้าถิ่นก็สบัดข้อมือหวังจะให้หลุดจากการจับ แต่ไม่เป็นผล ราวกับคีมเหล็กบีบแน่นกว่าเดิม มันทำหน้าเหยเกแสดงความเจ็บปวดพร้อมกันนั้นก็ดึงมีดสั้นออกจากเอว จ่อแล้วจ้วงตำแหน่งชายโครงของแมน ปลายมีดชะงักกึกเพราะมือซ้ายของแมนพุ่งจับที่ข้อมือที่ถือมีดอีกข้างด้วยความว่องไวพร้อมปล่อยมือข้างขวาที่จับไว้ก่อนหน้าแล้ว ไม่ทันได้ตั้งตัว!!แมนตั้งหมัดงุ้มต่ำลงเล็กน้อย ตะบันลงตำแหน่งตรงคอหอยเจ้าถิ่นดังพลั่กกก!! มันเบิกตาโพลงมือขวาจับที่คอหอยตัวเองยืนดิ้นทุรนทุราย พร้อมกันนั้นแมนก็จับข้อมือเจ้าถิ่นบิดไพร่หลัง เจ้าถิ่นร้องเจี๊ยกก!!มีดหลุดจากมือ พร้อมกันนั้นแมนก็ได้ใช้มือข้างขวาจับที่หัวเจ้าถิ่นด้านหลังพร้อมกับส่งแรงดันออกไปกระแทกกำแพงไม้ด้านหน้าดัง โพล๊ะ!!!กำแพงไม้เป็นรูโหว่พร้อมร่างเจ้าถิ่นที่ห้อยต่องแต่งคุกเข่าหัวทะลุกำแพงนั้น

 

ก็มีเสียงดังพลั่ก!!!มันคือเสียงไม้ที่ลูกน้องเจ้าถิ่นคว้าได้แล้วบรรจงตะบันใส่หลังเขา แมนแอ่นขึ้นเล็กน้อยด้วยอาการจุกนิดหน่อย หันหลังขวับใช้มือขวาจับที่หัวลูกน้องเจ้าถิ่นเจ้าของไม้ ด้วยความที่แมนตัวสูงใหญ่กว่าจึงไม่เป็นการยากเย็นนักที่จะคว้าหัวไว้ มันตกใจง้างมือจะหวดอีกรอบ แมนคว้าข้อมือดังหมับ!!พร้อมกันนั้นเขากดหัวลูกน้องเจ้าถิ่นหัวกระแทกพื้นขาชี้ฟ้าดั่งพลัก!!!มันสลบแน่นิ่งไม่ไหวติ่งพลันทันใดลูกน้องเจ้าถิ่นอีกคนก็กระโจนเข้าใส่ด้วยความบ้าคลั่งดั่งหมาจนตรอก ไม่มีความลนลานออกมาจากสีหน้าแมน เขายืนตั้งรับใช้มือข้างขวาเอี้ยวคอมันมืออีกข้างจับที่เอวเหวี่ยงร่างมันลอยละลิ่วกระแทกกำแพงไม้เสียงดังโครมมม!! 

 

 เจ้าถิ่นทั้ง3แน่นิ่งไม่ไหวติง แมนใช้มือปัดขี้ฝุ่นเล็กน้อยพร้อมหันหน้ากลับมา

 

..(เป็นไง คราวนี้จะเลิกอาชีพนี้ได้รึยัง)..

 

..(โถ่ จ่า ก็มันต้องกินต้องใช้ไหนจะอีหนูทั้งหลายอีก)..

 

โป๊กกก!! เสียงมะเหงกที่แมนบรรจงเคาะลงกลางกะโหลก ชายผอมกะหร่องในโทษฐานที่พูดแล้วไม่ฟัง

 

..(ลุกขึ้น แล้วตามมา)..

 

ชายผอมกระหร่องทำท่าค้อนปะหล่ำปะเหลือก บ่นอุบอิบในลำคอแล้วลุกเดินจ๋องตามแมนไป ปล่อยให้เจ้าถิ่นทั้ง3นอนแอ้งแม้งตามเวรตามกรรม 

 

เสียงหัวเราะดังก๊ากกก ลั่นขึ้นจากno.21 เมื่อหญิงสาวกลับมาจากเดินช้อปในตลาดพร้อมพรีเซ็น สรรพคุณฟีลโรโมนขวดน้อยในมือ แล้วถูกตอกกลับว่าเธอโดนหลอกเข้าแล้ว

 

..(โถ่ ยัยนี่ เรียนก็สูง ความรู้ก็มีดันผ่าไปหลงกลพ่อค้าซะได้ มันมีที่ไหนเล่าไอยาประเภทสรรพคุณ ทาปั๊บ สัตว์เชื่องปุ๊บน่ะ)..

 

..(ใครจะไปรู้ล่ะ ก็คิดว่ามันแปลกดีเลยซื้อติดไว้ แล้วนี่อะไรรู้ว่าพลาดยังหัวเราะซ้ำอีก)..

 

หญิงสาวพูดสวนแว้ดๆพร้อมสบัดหน้าเชิดเหล่สายตาปานจะกินเลือดกินเนื้อ

 

..(นี่ ไม่ต้องกลัวอันตรายจากสัตว์ จนออกอาการขนาดนั้นหรอก สัตว์ต่อให้มันร้ายแค่ไหนมันก็ไม่เก่งกว่าลูกปืนไปได้หรอกน่า)..

 

 no.21เอ่ยแหย่ขึ้นอีกรอบปนเสียงหัวเราะกั่กๆ

 

..(หึ ไอ้พ่อค้ากะล่อน รอเดี๋ยวนะคะคุณพ่อ หนูจะไปเอาเงินคืน)..

 

..(ไม่ต้อง ไม่ต้อง ไหนๆเสียรู้ไปแล้วก็เสียไป พวกเรากำลังรอคุณแมนกันอยู่นา เผื่อเราไปแล้วเขามา ไม่ต้องรอกันไปรอกันมาหรอกรึ)..

 

no.9กล่าวเป็นเชิงปราม เป็นการตัดบท 

 

..(นู่นไง จ่าแมนเดินมานู่นแล้ว พาใครมาด้วย)..

 

no.21กล่าวขึ้นหลังจากเห็น แมนเดินดุ่ยๆเข้ามาหา หลังจากแมนเดินมาถึงแล้ว no.21ถึงกับเลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจ พร้อมกับเอ่ยออกมาว่า 

 

..(อ้าว นั่นมัน เจ้าหม่ำ กระหร่องนี่)..

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา