แม่มดกับนิทานทั้ง…?
-
เขียนโดย HanaHana[ฮานาฮานะ]
วันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2564 เวลา 15.33 น.
6 EP
1 วิจารณ์
4,991 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2564 15.48 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) สโนไวท์ III
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ “ถ้าไม่อิ่ม พวกเจ้าสั่งเพิ่มได้นะ ข้าเลี้ยงเอง” ฉันยกมือทาบอก ยืดหลังตรง แสดงความเป็นป๊าสายเปย์
จิ๊ก จิ๊ก จิ๊ก
หลังฝ่ามือของฉันถูกปลายนิ้วเล็กจิ้มลงสองสามที เซเว่น..เด็กน้อยสูง100เซนฯกำลังแบมือของเขาส่งให้ฉัน แต่ไม่ยอมเปร่งเสียงพูด
“ขะ..เขาพูดไม่ได้” เสียงกระซิบของซิคทำให้ฉันเข้าใจว่าไอ้ที่เซเว่นจิ้มๆมือฉันอยู่ต้องการอะไร ฉันกางฝ่ามือออกและยื่นส่งไปให้ ข-อ-บ-คุ-ณ นั่นคือสิ่งที่เขาเขียนลงมือฝ่ามือฉันพร้อมกับส่งรอยยิ้มหวานน่าเอ็นดูมาให้ ...พ่อโคทาโร่น้อยของพี่~...
“พวกเจ้าพักอยู่ที่นี่หรอ?”
ไม่มีเสียงตอบรับ มีเพียงปฏิกิริยาพยักหน้าขึ้นลงของพี่น้องคนแคระทั้งสาม และรอยยิ้มพิมพ์ใจแม่ๆ ฉันโบกมือลาพวกเขาทั้งสามก่อนที่จะแยกย้ายกันไป
ผิดคาด ผิดเพี้ยนไปหมดเลยนิทาน(สมัยเด็ก)ของฉัน คนแคระทั้ง7กลับกลายเป็นเด็กน้อยกำพร้าทั้ง7ที่อาศัยอยู่ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าของโบสถ์ใจกลางป่าแห่งนี้แทน แต่พอให้อภัยเพราะเด็กน้อยน่ารัก
เมื่อความมืดบนท้องฟ้าเข้ามาปกคลุมแสงสว่างจนสนิท ยามราตรีที่ฉันต้องการกระจายเต็มท้องฟ้ามีเพียงแสงจากดวงดาว และไฟดวงน้อยๆที่สุกสว่างตามทางพอเดินได้ บุคคลที่ฉันตามหาตลอดทั้งเรื่องก็ปรากฎตัว สโนไวท์ผู้ที่ผิวขาวราวกับหิมะแรก ปากแดงสีสดยิ่งกว่าลิปสติกUber Red และผมดำที่เงางามสวยสดเหมือนพึ่งผ่านการสระด้วยแชมพูรีบจอย
สโนไวท์ไม่ได้พักอาศัยรวมกับเด็กน้อยทั้ง7 เธออาศัยอยู่ที่โบสถ์อย่างที่กระจกวิเศษมันบอก แต่ก็ใกล้เคียงความเป็นจริงอยู่ ดูจากความลั้นลาของสโนไวท์ตามหนังสือนิทานและตอนนี้มีความเป็นจริงที่เธอดูมีความสุขกับการอาศัยอยู่ที่นี่ ไม่ใช่กับที่บ้านของคนแคระเด็กน้อยแต่เป้นที่โบสถ์นั่นแทน
เอ๊กอี้ เอ๊ก เอ๊ก~
เสียงไก่ขันที่หายไปหลายวัน ปลุกให้ฉันตื่นขึ้นมา ...หลับไปตอนไหนหว่า?... คนแคระน้อยทั้ง7ออกจากบ้านเพื่อตรงไปยังโบสถ์ พวกเขากินข้าวเช้าพร้อมกับสโนไวท์ และบาทหลวงผมหงอก หลังจากกินข้าวเสร็จซึ่งฉันยังไม่มีอะไรตกถึงท้อง(แต่ไม่รู้สึกหิว) บาทหลวงและคนแคระน้อยทั้ง7ก็ออกจากโบสถ์ไป เหลือเพียงสโนไวท์
...แสดงว่าต่อไปก็ตาฉันแล้วสิ แม่มดพร้อมกับแอปเปิ้ลแดง... ฉันก้มลงมองมือตัวเองที่ว่างเปล่า และมองไปรอบๆก็ไม่มีอะไรที่พอจะเป็นแอปเปิ้ลหรือแทนมันได้เลย เวลาล่วงเลยไปจนหมดวันเช้า หมดวันคืน หมดวันเช้า และหมดวันคืน
ไม่รู้ว่าผ่านไปกี่วันแล้ว ฉันก็ยังคงไม่มีความหิวเลยแม้แต่นิดเดียว แถมกลิ่นตัวก็ไม่มีเพราะใช้สเปรย์ระงับกลิ่นกายนัวเนีย..ซะที่ไหนล่ะ?
“สวัสดีแม่หนูน้อย” เสียงเหนื่อยๆยานๆแหบๆของหญิงชราพร้อมกับตะกล้าสานไม้ไผ่แฮนเมดในมือ ...แอปเปิ้ล ผ้าม้วน และปิ่นปักผม... ครบสูตรอาวุธที่พ้อมจะฆ่าสโนไวท์ แต่เดี๋ยวก่อนสิ่งเหล่านั้นต้องเป็นฉันถือไว้ไม่ใช่หรอ? หรือว่าหญิงชราคนนั้นคือคู่หูที่ฉันตามหา..ตามหาตอนไหน?
“ฮ่าฮาฮ่าฮาฮา” เสียงหัวเราะที่ควรจะยานๆเหมือนตอนแรกที่ทักทาย กลับกลายเป็นเสียงของหญิงสาวที่ดูไม่แก่ แอนนา!!!
สิ่งที่ไม่คาดคิด คนที่ไม่คาดฝัน คู่หูที่อยู่ไม่ไกลตัว ...แอนนา สาวใช้ส่วนตั๊วส่วนตัว...
“ใครอยู่ตรงนั้น ออกมาเดี๋ยว... องค์ราชินี” น้ำเสียงที่เรียกในตอนแรกที่แข็งกร้าว กลับอ่อนลงเมื่อเห็นหน้าฉัน “ทำไมถึงอยู่ตรงนั้นเพคะ? ทรงอยู่นานแค่ไหนแล้วเพคะ? หม่อมฉันอธิบายได้นะเพคะ?”
นำ้เสียงที่ร้อนรนเหมือนกำลังหาคำแก้ตัวเพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ตรงหน้า อาการมีพิรุธทำให้เธอถูกตัดสิทธิ์ในการเป็นคู่หูของราชินีแม่เลี้ยงอย่างฉัน
“สโนไวท์!!!!!!!”
เสียงเรียกของเหล่าคนแคระน้อยทั้ง7ท่ีพึ่งกลับมา พร้อมกับวิ่งกรู่ตรงไปยังร่างไร้ลมหายใจของสโนไวท์ที่นอนกองกับพื้นตามเนื้อเรื่อง ...ไม่นะ! เหล่าโคทาโร่น้อยๆอย่ามองฉันด้วยสายตาแบบนั้น...
“พระราชาโลแกน!” เสียงของแอนนาทำให้ฉันต้องรีบหันหัวกลับไปดู ...คอแทบเคล็ด...
“สโนไวท์ตายแล้ว แง~” เสียงร้องไห้ของเหล่าคนแคระน้อยทำให้สีหน้าของโลแกนยุ่งเหยิงและบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ
“จับตัวเธอไปขัง! และรอรับวันลงโทษ!!” สิ้นเสียงสั่งของโลแกน ทหาร...มาจากไหน?...ก็เข้าไปล็อกแขนของแอนนา เธอทรุดตัวลงนั่งคุกเข่ากับพื้นพร้อมด้วยน้ำตาท่วมใบหน้า
“พระราชา ฮือ~หม่อมฉันไม่มีทางเลือก ฮือ~หม่อมฉันขัดคำสั่งมิได้เพคะ ฮือ~”
“ขัดคำสั่งใคร!? ใครสั่งเจ้ามา!?”
“องค์ราชินีเพคะ!” ...ว่าจะใดนะเจ้าค่ะคุณพี่?... ฉันมองหน้าแอนนา “องค์ราชินีบังคับหม่อมฉัน! ถ้าหม่อมฉันไม่ทำตาม จะถูกฆ่าเพคะ!”
“ห๊ะ!? เจ้า...” ฉันกลืนคำพูดลงคอไป เพราะตามเนื้อเรื่องฉันเป็นคนให้สโนไวท์กินแอปเปิ้ลนั้นจริงๆ แต่ในโลกที่ฉันสวมบทบาท หล่อนเป็นคนให้สโนไวท์กินนะ
“เพราะองค์ราชินีทรงอิจฉาที่เจ้าหญิงสโนไวท์ทรงสิริโฉมงดงามยิ่งกว่า ถ้าไม่เชื่อพระราชาทรงตรวจสอบที่ห้องบรรทมขององค์ราชินีได้เพคะ ในห้องนั้นมีกระจกวิเศษ”
“จริงหรือ? องค์ราชินี” เงียบคือคำตอบจากฉัน “คำสั่งฆ่าเจ้าหญิงสโนไวท์ก็มาจากท่านด้วยใช่หรือไม่?” และการเงียบก็คือคำตอบของฉันอีกครั้ง ไม่อาจบอกได้เลยว่าความจริงคืออะไรเพราะฉันเองก็ยังไม่แน่ใจเช่นกันว่าสั่งจริงมั้ย?
มันอาจจะจริงก็ได้ เพราะตามเนื้อเรื่องแล้วฉันคือคนสั่งเก็บสโนไวท์ตั้งแต่จ้างนายพราน เอาผ้าพับคอให้ขาดอากาศหายใจ ปิ่นปักผมอาบยาพิษ และไหนจะแอปเปิ้ลสอดไส้ยาพิษเคลือบคาราเมลนั่นอีก แม้ว่าตอนนี้ฉันที่เป็นตัวละครนั้นจะไม่รู้ถึงสิ่งนั้นว่าทำจริงไหม แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้เช่นกัน
“พระราชาขอรับ จากการรายการของทหารที่เข้าไปตรวจสอบห้องขององค์ราชินีพบว่ามีกระจกวิเศษอยู่ในนั้นจริงขอรับ” ...แม่เจ้า ตรวจสอบเร็วไปไหมพ่อคุณ... “เอ่อ...มีรายงานเพิ่มเติมมาว่า องค์ราชินีอาจเป็นแม่มดขอรับ!”
“นำสโนไวท์ไปไว้ในโลงแก้วที่โบสถ์ และบอกให้บาทหลวงคอยจัดการทางนี้แทนข้าไปก่อน” โลแกนหันไปสั่งหัวหน้าอัศวินที่เข้ามารายงานข่าวเกาะติดความเคลื่อนไหว
...โลงแก้ว!?... ในโบสถ์มีโลงแก้วแล้วอย่างนั้นหรอ ตามเนื้อเรื่อง(ตามบ่อยจริงตอนนี้)คนแคระน้อยๆทั้ง7ต้องเป็นคนสร้างหลังจากสโนไวท์กินแอปเปิ้ลเข้าไปนะ และเอาไปตั้งไว้กลางป่า แล้วเจ้าชายพระเอกขี่ม้าขาวก็จะตกหลุมดำมาพบรักกับสโนไวท์ที่นอนแน่นิ่งเป็นผักเปื่อยพร้อมกับจุมพิตสำรอกเอาเม็ดแอปเปิ้ลที่ติดคอออกมา เมื่อสโนไวท์ตื่นขึ้นมาก็กลายเป็นรักแรกพบ แต่งงานกับเจ้าชาย ...แลดู เธอใจง่ายจังเลยว่ะ?...
จิ๊ก จิ๊ก จิ๊ก
หลังฝ่ามือของฉันถูกปลายนิ้วเล็กจิ้มลงสองสามที เซเว่น..เด็กน้อยสูง100เซนฯกำลังแบมือของเขาส่งให้ฉัน แต่ไม่ยอมเปร่งเสียงพูด
“ขะ..เขาพูดไม่ได้” เสียงกระซิบของซิคทำให้ฉันเข้าใจว่าไอ้ที่เซเว่นจิ้มๆมือฉันอยู่ต้องการอะไร ฉันกางฝ่ามือออกและยื่นส่งไปให้ ข-อ-บ-คุ-ณ นั่นคือสิ่งที่เขาเขียนลงมือฝ่ามือฉันพร้อมกับส่งรอยยิ้มหวานน่าเอ็นดูมาให้ ...พ่อโคทาโร่น้อยของพี่~...
“พวกเจ้าพักอยู่ที่นี่หรอ?”
ไม่มีเสียงตอบรับ มีเพียงปฏิกิริยาพยักหน้าขึ้นลงของพี่น้องคนแคระทั้งสาม และรอยยิ้มพิมพ์ใจแม่ๆ ฉันโบกมือลาพวกเขาทั้งสามก่อนที่จะแยกย้ายกันไป
ผิดคาด ผิดเพี้ยนไปหมดเลยนิทาน(สมัยเด็ก)ของฉัน คนแคระทั้ง7กลับกลายเป็นเด็กน้อยกำพร้าทั้ง7ที่อาศัยอยู่ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าของโบสถ์ใจกลางป่าแห่งนี้แทน แต่พอให้อภัยเพราะเด็กน้อยน่ารัก
เมื่อความมืดบนท้องฟ้าเข้ามาปกคลุมแสงสว่างจนสนิท ยามราตรีที่ฉันต้องการกระจายเต็มท้องฟ้ามีเพียงแสงจากดวงดาว และไฟดวงน้อยๆที่สุกสว่างตามทางพอเดินได้ บุคคลที่ฉันตามหาตลอดทั้งเรื่องก็ปรากฎตัว สโนไวท์ผู้ที่ผิวขาวราวกับหิมะแรก ปากแดงสีสดยิ่งกว่าลิปสติกUber Red และผมดำที่เงางามสวยสดเหมือนพึ่งผ่านการสระด้วยแชมพูรีบจอย
สโนไวท์ไม่ได้พักอาศัยรวมกับเด็กน้อยทั้ง7 เธออาศัยอยู่ที่โบสถ์อย่างที่กระจกวิเศษมันบอก แต่ก็ใกล้เคียงความเป็นจริงอยู่ ดูจากความลั้นลาของสโนไวท์ตามหนังสือนิทานและตอนนี้มีความเป็นจริงที่เธอดูมีความสุขกับการอาศัยอยู่ที่นี่ ไม่ใช่กับที่บ้านของคนแคระเด็กน้อยแต่เป้นที่โบสถ์นั่นแทน
เอ๊กอี้ เอ๊ก เอ๊ก~
เสียงไก่ขันที่หายไปหลายวัน ปลุกให้ฉันตื่นขึ้นมา ...หลับไปตอนไหนหว่า?... คนแคระน้อยทั้ง7ออกจากบ้านเพื่อตรงไปยังโบสถ์ พวกเขากินข้าวเช้าพร้อมกับสโนไวท์ และบาทหลวงผมหงอก หลังจากกินข้าวเสร็จซึ่งฉันยังไม่มีอะไรตกถึงท้อง(แต่ไม่รู้สึกหิว) บาทหลวงและคนแคระน้อยทั้ง7ก็ออกจากโบสถ์ไป เหลือเพียงสโนไวท์
...แสดงว่าต่อไปก็ตาฉันแล้วสิ แม่มดพร้อมกับแอปเปิ้ลแดง... ฉันก้มลงมองมือตัวเองที่ว่างเปล่า และมองไปรอบๆก็ไม่มีอะไรที่พอจะเป็นแอปเปิ้ลหรือแทนมันได้เลย เวลาล่วงเลยไปจนหมดวันเช้า หมดวันคืน หมดวันเช้า และหมดวันคืน
ไม่รู้ว่าผ่านไปกี่วันแล้ว ฉันก็ยังคงไม่มีความหิวเลยแม้แต่นิดเดียว แถมกลิ่นตัวก็ไม่มีเพราะใช้สเปรย์ระงับกลิ่นกายนัวเนีย..ซะที่ไหนล่ะ?
“สวัสดีแม่หนูน้อย” เสียงเหนื่อยๆยานๆแหบๆของหญิงชราพร้อมกับตะกล้าสานไม้ไผ่แฮนเมดในมือ ...แอปเปิ้ล ผ้าม้วน และปิ่นปักผม... ครบสูตรอาวุธที่พ้อมจะฆ่าสโนไวท์ แต่เดี๋ยวก่อนสิ่งเหล่านั้นต้องเป็นฉันถือไว้ไม่ใช่หรอ? หรือว่าหญิงชราคนนั้นคือคู่หูที่ฉันตามหา..ตามหาตอนไหน?
“ฮ่าฮาฮ่าฮาฮา” เสียงหัวเราะที่ควรจะยานๆเหมือนตอนแรกที่ทักทาย กลับกลายเป็นเสียงของหญิงสาวที่ดูไม่แก่ แอนนา!!!
สิ่งที่ไม่คาดคิด คนที่ไม่คาดฝัน คู่หูที่อยู่ไม่ไกลตัว ...แอนนา สาวใช้ส่วนตั๊วส่วนตัว...
“ใครอยู่ตรงนั้น ออกมาเดี๋ยว... องค์ราชินี” น้ำเสียงที่เรียกในตอนแรกที่แข็งกร้าว กลับอ่อนลงเมื่อเห็นหน้าฉัน “ทำไมถึงอยู่ตรงนั้นเพคะ? ทรงอยู่นานแค่ไหนแล้วเพคะ? หม่อมฉันอธิบายได้นะเพคะ?”
นำ้เสียงที่ร้อนรนเหมือนกำลังหาคำแก้ตัวเพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ตรงหน้า อาการมีพิรุธทำให้เธอถูกตัดสิทธิ์ในการเป็นคู่หูของราชินีแม่เลี้ยงอย่างฉัน
“สโนไวท์!!!!!!!”
เสียงเรียกของเหล่าคนแคระน้อยทั้ง7ท่ีพึ่งกลับมา พร้อมกับวิ่งกรู่ตรงไปยังร่างไร้ลมหายใจของสโนไวท์ที่นอนกองกับพื้นตามเนื้อเรื่อง ...ไม่นะ! เหล่าโคทาโร่น้อยๆอย่ามองฉันด้วยสายตาแบบนั้น...
“พระราชาโลแกน!” เสียงของแอนนาทำให้ฉันต้องรีบหันหัวกลับไปดู ...คอแทบเคล็ด...
“สโนไวท์ตายแล้ว แง~” เสียงร้องไห้ของเหล่าคนแคระน้อยทำให้สีหน้าของโลแกนยุ่งเหยิงและบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ
“จับตัวเธอไปขัง! และรอรับวันลงโทษ!!” สิ้นเสียงสั่งของโลแกน ทหาร...มาจากไหน?...ก็เข้าไปล็อกแขนของแอนนา เธอทรุดตัวลงนั่งคุกเข่ากับพื้นพร้อมด้วยน้ำตาท่วมใบหน้า
“พระราชา ฮือ~หม่อมฉันไม่มีทางเลือก ฮือ~หม่อมฉันขัดคำสั่งมิได้เพคะ ฮือ~”
“ขัดคำสั่งใคร!? ใครสั่งเจ้ามา!?”
“องค์ราชินีเพคะ!” ...ว่าจะใดนะเจ้าค่ะคุณพี่?... ฉันมองหน้าแอนนา “องค์ราชินีบังคับหม่อมฉัน! ถ้าหม่อมฉันไม่ทำตาม จะถูกฆ่าเพคะ!”
“ห๊ะ!? เจ้า...” ฉันกลืนคำพูดลงคอไป เพราะตามเนื้อเรื่องฉันเป็นคนให้สโนไวท์กินแอปเปิ้ลนั้นจริงๆ แต่ในโลกที่ฉันสวมบทบาท หล่อนเป็นคนให้สโนไวท์กินนะ
“เพราะองค์ราชินีทรงอิจฉาที่เจ้าหญิงสโนไวท์ทรงสิริโฉมงดงามยิ่งกว่า ถ้าไม่เชื่อพระราชาทรงตรวจสอบที่ห้องบรรทมขององค์ราชินีได้เพคะ ในห้องนั้นมีกระจกวิเศษ”
“จริงหรือ? องค์ราชินี” เงียบคือคำตอบจากฉัน “คำสั่งฆ่าเจ้าหญิงสโนไวท์ก็มาจากท่านด้วยใช่หรือไม่?” และการเงียบก็คือคำตอบของฉันอีกครั้ง ไม่อาจบอกได้เลยว่าความจริงคืออะไรเพราะฉันเองก็ยังไม่แน่ใจเช่นกันว่าสั่งจริงมั้ย?
มันอาจจะจริงก็ได้ เพราะตามเนื้อเรื่องแล้วฉันคือคนสั่งเก็บสโนไวท์ตั้งแต่จ้างนายพราน เอาผ้าพับคอให้ขาดอากาศหายใจ ปิ่นปักผมอาบยาพิษ และไหนจะแอปเปิ้ลสอดไส้ยาพิษเคลือบคาราเมลนั่นอีก แม้ว่าตอนนี้ฉันที่เป็นตัวละครนั้นจะไม่รู้ถึงสิ่งนั้นว่าทำจริงไหม แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้เช่นกัน
“พระราชาขอรับ จากการรายการของทหารที่เข้าไปตรวจสอบห้องขององค์ราชินีพบว่ามีกระจกวิเศษอยู่ในนั้นจริงขอรับ” ...แม่เจ้า ตรวจสอบเร็วไปไหมพ่อคุณ... “เอ่อ...มีรายงานเพิ่มเติมมาว่า องค์ราชินีอาจเป็นแม่มดขอรับ!”
“นำสโนไวท์ไปไว้ในโลงแก้วที่โบสถ์ และบอกให้บาทหลวงคอยจัดการทางนี้แทนข้าไปก่อน” โลแกนหันไปสั่งหัวหน้าอัศวินที่เข้ามารายงานข่าวเกาะติดความเคลื่อนไหว
...โลงแก้ว!?... ในโบสถ์มีโลงแก้วแล้วอย่างนั้นหรอ ตามเนื้อเรื่อง(ตามบ่อยจริงตอนนี้)คนแคระน้อยๆทั้ง7ต้องเป็นคนสร้างหลังจากสโนไวท์กินแอปเปิ้ลเข้าไปนะ และเอาไปตั้งไว้กลางป่า แล้วเจ้าชายพระเอกขี่ม้าขาวก็จะตกหลุมดำมาพบรักกับสโนไวท์ที่นอนแน่นิ่งเป็นผักเปื่อยพร้อมกับจุมพิตสำรอกเอาเม็ดแอปเปิ้ลที่ติดคอออกมา เมื่อสโนไวท์ตื่นขึ้นมาก็กลายเป็นรักแรกพบ แต่งงานกับเจ้าชาย ...แลดู เธอใจง่ายจังเลยว่ะ?...
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ