โลกอมตะ
-
เขียนโดย silversoul
วันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 เวลา 21.51 น.
6 ตอน
0 วิจารณ์
4,818 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 21.54 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) เรื่องราวเมื่อสิบปีก่อน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความโลกมนุษย์
เทือกเขาทอดยาวสุดสายตา ดูสลับซับซ้อนเหมือนสันหลังมังกรที่กำลังเลื้อยอยู่บนพื้นพิภพ เมฆหมอกรายล้อมดังสรวงสวรรค์ ภูมิทัศน์ที่ยิ่งใหญ่และงดงามนี้ เรียกว่าเทือกเขามังกรสวรรค์
ท่ามกลางเทือกเขามังกรสวรรค์อารามเต๋ามังกรสวรรค์ เป็นอารามที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากแห่งหนึ่งในประเทศ นอกจากความงดงามแล้วยังโด่งดังในเรื่องการขับไล่ ภูต ผี ปิศาจ และสิ่งชั่วร้ายทั้งหลาย
“อดทนหน่อยนะลูกแม่ หลังจากผ่านพิธีครั้งนี้ผีร้ายที่ตามหลอกหลอนลูกมาตลอดจะโดนกำจัดไปซะที” หญิงวัยกลางคนมองลูกชายอายุสิบห้าปีที่อยู่ข้างเธอด้วยความสงสาร
เด็กคนนี้แม้จะอายุถึงสิบห้าปีแล้วแต่มองจากลักษณะภายนอกเหมือนกับเด็กอายุไม่เกินสิบปีเท่านั้น หน้าตาดูดีเค้าโครงใบหน้ามีความงดงาม คิ้มเข้ม แต่ริมฝีปากกลับบางคล้ายสตรียากจะแยกแยะจากการมองว่าชายหรือหญิง ผิวของเด็กชายดูขาวซีดไร้สีเลือด บรรยากาศที่รายล้อมรอบเขาดูมืดมน คล้ายจะแฝงไปด้วยวิญญาณร้าย
สาเหตุของเรื่องทั้งหมดนี้ ย้อนกลับไปเมื่อเขาอายุได้ห้าขวบ เขาเป็นเด็กที่เกิดในหมู่บ้านที่ยากจนแต่ครอบครัวของเขาพอมีกินอยู่บ้างไม่ได้ลำบากเหมือนครอบครัวอื่น ๆ หมู่บ้านนี้เรียกว่า หมู่บ้านเขาหมอก
ตะวันบ่ายคล้อย ขณะที่เขากำลังเล่นกับเพื่อนคนอื่น ๆ ตามประสาเด็กในชนบท พวกเขาออกล่าสัตว์ตามประสาเด็ก ทั้งกระต่าย นก หนู กิ้งก่า สัตว์เล้กสัตว์น้อยบริเวณตีนเขาหลังหมู่บ้านตามปกติ
แต่วันนี้กลับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น พระอาทิตย์ถูกบดบังเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคาอย่างกระทันหัน ท้องฟ้ามืดมัว หมอกสีขาวเทากระจายออกมาอยากรวดเร็วจากในหุบเขา เด็กชายร้องหาเพื่อนคนอื่น ๆ ที่มาด้วยกัน แต่ไม่พบใครเลย เขาจึงเดินตามหาเพื่อนไปเรื่อย ๆ จนเดินมาถึงอารามแห่งหนึ่ง
เขาไม่เคยเห็นอารามแห่งนี้มาก่อน เคยเห็นเพียงอารามร้างที่อยู่ตีนเขาหลังหมู่บ้านเท่านั้น ซึ่งแตกต่างจากอารามที่เคยเห็นตรงหน้าอย่างมาก เพราะอารามแห่งนี้ดูใหม่มาก ภายนอกเป็นสีทอง แต่ภายในกลับมีเพียงสีดำเท่านั้น ขณะที่อารามที่เขาเคยเห็นมาก่อนเป็นเพียงกองหินที่ผุพัง
ด้วยความแปลกใจและความช่างสังสัยตามประสาเด็ก แม้อารามแห่งนี้จะน่ากลัวอยู่บ้างแต่เขาก็เดินเข้าไปสำรวจดูเผื่อจะเพื่อน ๆ จะเขาไปข้างใน
“ช่วยด้วย”
“ช่วยด้วย ๆ”
“ช่วยพวกเราด้วย”
เสียงเพื่อน ๆ ที่คุ้นเคยดังขึ้นมาทันทีเมื่อเขาเข้ามาในอารามแห่งนี้ เสียงนี้ดูเหมือนจะมาจากทุกทิศทุกทางทำให้เขายากจะแยกแยะได้ว่าเพื่อน ๆ ของเขาอยู่ที่ไหน
“ช่วยด้วย ๆ”
“ช่วยด้วย เราติดอยู่ข้างในนี้”
เสียงเพื่อนของเขาดังขึ้นมาอีกครั้ง
“พวกนายอยู่ที่ไหนกัน” เด็กชายตอบกลับไปด้วยความร้อนใจ แล้วมองหาไปทุกทิศทุกทาง
“ทางนี้”
ปึง
ปึง
ปึง
.
.
.
เกิดเสียงตอบรับพร้อมกับเสียงทุบประตูอย่างรุนแรงมาจากเจดีย์สีดำที่อยู่ตรงกลางลาน เด็กชายจึงวิ่งไปที่เจดีย์อย่างรวดเร็ว
“ช่วยเราด้วย นักพรตชั่วจับพวกเรามาขังไว้กับปิศาจ มันกำลังจะกินเราแล้ว”
เสียงร้องตะโกนเร่งรีบขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับน้ำเสียงที่ค่อย ๆ แหบลง แต่เด็กชายกลับไม่ได้สังเกตุมากนัก
ปึง
ปึง
ปึง
เสียงทุบยังคงเร่งเร้าอยู่อย่างเร่งร้อน
เด็กชายมองหาที่เปิดปะตูอย่างรวดเร็ว แต่ไม่พบกลอน หรือกุญแจอะไรเลย มีเพียงยันต์สีเหลืองทองลงอักขระด้วยชาดติดอยู่ตรงประตู แฝงไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่ง เขาลองผลักประตูก็ไม่ยอมเปิดออก
“แล้วฉันจะเปิดได้อย่างไร” เด็กชายถามอย่างรีบร้อนเพราะกลัวปิศาจจะกินเพื่อนเขาเสียก่อน
“ข้ารู้” เสียงเพื่อนข้างในตอบกลับมา
“ทำยังไงรีบบอกฉันเร็ว” เด็กชายถามกลับ
“นักพรตเต๋าปิดผนึกที่นี่ด้วยยันต์ มันต้องใช้คาถาเพื่อเปิดออก” เสียงข้างในตอบกลับมา
“แม้ฉันเป็นเด็กห้าขวบแต่จะมีเรื่องเหลวไหลเช่นนี้ในโลกได้อย่างไร” เด็กชายแม้จะอายุยังน้อยแต่เขาก็เป็นคนที่ฉลาดกว่าเด็กในรุ่นเดียวกันมาก เขาเป็นคนที่มีความจำดีมาตั้งแต่อายุยังน้อย เขาจึงไม่เชื่อเรื่องเหลวไหลเช่นนี้
“แต่เราต้องทดสอบดูก่อน เรามีเวลาไม่มากแล้ว” เสียงข้างในตอบกลับมาอย่างร้อนใจ
“ถึงอย่างนั้นข้าก็ไม่รู้คาถาของนักพรตเต๋า” เด็กชายถึงแม้จะต้องการช่วยเพื่อนแต่ก็ทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน
“ข้าเคยได้ยินตอนที่เขาผนึกเรา ข้าจำได้” เสียงเพื่อนอีกคนหนึ่งตอบกลับมา
“รีบท่องตามเรา” เสียงของเพื่อนข้างในพูดพร้อมกันตอบกลับมา
ฟ้ากำหนดมนุษย์
เสียงนี้ดังขึ้นทำให้เด็กชายมึนงงเล็กน้อย คล้ายสติล่องลอย เขาจึงท่องตามออกมาโดยไม่รู้ตัว
“ฟ้ากำหนดมนุษย์”
มนุษย์กำหนดจิตใจ
“มนุษย์กำหนดจิตใจ”
จิตใจกำหนดฟ้า
“จิตใจกำหนดฟ้า”
ข้าขอบัญชายันต์ผนึก
“ข้าขอบัญชายันต์ผนึก”
จงเปิด
“จงเปิด”
หลังจากเด็กชายท่องเสร็จยันต์ก็ค่อย ๆ สลายเป็นเถ้าถ่าน ประตูเจดีย์ค่อย ๆ เปิดออก ข้างในมีแต่ความมืดมิดไม่มีเพื่อนของเขาแม้แต่คนเดียว
หลังจากที่เด็กชายหายจากความมึนงง เขาก็เห็นเพียงดวงตาสีแดงหนึ่งคู่ค่อย ๆ เปิดขึ้นแล้วมองมาที่เขาด้วยความยินดี แต่น่าสยดสยอง
เทือกเขาทอดยาวสุดสายตา ดูสลับซับซ้อนเหมือนสันหลังมังกรที่กำลังเลื้อยอยู่บนพื้นพิภพ เมฆหมอกรายล้อมดังสรวงสวรรค์ ภูมิทัศน์ที่ยิ่งใหญ่และงดงามนี้ เรียกว่าเทือกเขามังกรสวรรค์
ท่ามกลางเทือกเขามังกรสวรรค์อารามเต๋ามังกรสวรรค์ เป็นอารามที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากแห่งหนึ่งในประเทศ นอกจากความงดงามแล้วยังโด่งดังในเรื่องการขับไล่ ภูต ผี ปิศาจ และสิ่งชั่วร้ายทั้งหลาย
“อดทนหน่อยนะลูกแม่ หลังจากผ่านพิธีครั้งนี้ผีร้ายที่ตามหลอกหลอนลูกมาตลอดจะโดนกำจัดไปซะที” หญิงวัยกลางคนมองลูกชายอายุสิบห้าปีที่อยู่ข้างเธอด้วยความสงสาร
เด็กคนนี้แม้จะอายุถึงสิบห้าปีแล้วแต่มองจากลักษณะภายนอกเหมือนกับเด็กอายุไม่เกินสิบปีเท่านั้น หน้าตาดูดีเค้าโครงใบหน้ามีความงดงาม คิ้มเข้ม แต่ริมฝีปากกลับบางคล้ายสตรียากจะแยกแยะจากการมองว่าชายหรือหญิง ผิวของเด็กชายดูขาวซีดไร้สีเลือด บรรยากาศที่รายล้อมรอบเขาดูมืดมน คล้ายจะแฝงไปด้วยวิญญาณร้าย
สาเหตุของเรื่องทั้งหมดนี้ ย้อนกลับไปเมื่อเขาอายุได้ห้าขวบ เขาเป็นเด็กที่เกิดในหมู่บ้านที่ยากจนแต่ครอบครัวของเขาพอมีกินอยู่บ้างไม่ได้ลำบากเหมือนครอบครัวอื่น ๆ หมู่บ้านนี้เรียกว่า หมู่บ้านเขาหมอก
ตะวันบ่ายคล้อย ขณะที่เขากำลังเล่นกับเพื่อนคนอื่น ๆ ตามประสาเด็กในชนบท พวกเขาออกล่าสัตว์ตามประสาเด็ก ทั้งกระต่าย นก หนู กิ้งก่า สัตว์เล้กสัตว์น้อยบริเวณตีนเขาหลังหมู่บ้านตามปกติ
แต่วันนี้กลับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น พระอาทิตย์ถูกบดบังเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคาอย่างกระทันหัน ท้องฟ้ามืดมัว หมอกสีขาวเทากระจายออกมาอยากรวดเร็วจากในหุบเขา เด็กชายร้องหาเพื่อนคนอื่น ๆ ที่มาด้วยกัน แต่ไม่พบใครเลย เขาจึงเดินตามหาเพื่อนไปเรื่อย ๆ จนเดินมาถึงอารามแห่งหนึ่ง
เขาไม่เคยเห็นอารามแห่งนี้มาก่อน เคยเห็นเพียงอารามร้างที่อยู่ตีนเขาหลังหมู่บ้านเท่านั้น ซึ่งแตกต่างจากอารามที่เคยเห็นตรงหน้าอย่างมาก เพราะอารามแห่งนี้ดูใหม่มาก ภายนอกเป็นสีทอง แต่ภายในกลับมีเพียงสีดำเท่านั้น ขณะที่อารามที่เขาเคยเห็นมาก่อนเป็นเพียงกองหินที่ผุพัง
ด้วยความแปลกใจและความช่างสังสัยตามประสาเด็ก แม้อารามแห่งนี้จะน่ากลัวอยู่บ้างแต่เขาก็เดินเข้าไปสำรวจดูเผื่อจะเพื่อน ๆ จะเขาไปข้างใน
“ช่วยด้วย”
“ช่วยด้วย ๆ”
“ช่วยพวกเราด้วย”
เสียงเพื่อน ๆ ที่คุ้นเคยดังขึ้นมาทันทีเมื่อเขาเข้ามาในอารามแห่งนี้ เสียงนี้ดูเหมือนจะมาจากทุกทิศทุกทางทำให้เขายากจะแยกแยะได้ว่าเพื่อน ๆ ของเขาอยู่ที่ไหน
“ช่วยด้วย ๆ”
“ช่วยด้วย เราติดอยู่ข้างในนี้”
เสียงเพื่อนของเขาดังขึ้นมาอีกครั้ง
“พวกนายอยู่ที่ไหนกัน” เด็กชายตอบกลับไปด้วยความร้อนใจ แล้วมองหาไปทุกทิศทุกทาง
“ทางนี้”
ปึง
ปึง
ปึง
.
.
.
เกิดเสียงตอบรับพร้อมกับเสียงทุบประตูอย่างรุนแรงมาจากเจดีย์สีดำที่อยู่ตรงกลางลาน เด็กชายจึงวิ่งไปที่เจดีย์อย่างรวดเร็ว
“ช่วยเราด้วย นักพรตชั่วจับพวกเรามาขังไว้กับปิศาจ มันกำลังจะกินเราแล้ว”
เสียงร้องตะโกนเร่งรีบขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับน้ำเสียงที่ค่อย ๆ แหบลง แต่เด็กชายกลับไม่ได้สังเกตุมากนัก
ปึง
ปึง
ปึง
เสียงทุบยังคงเร่งเร้าอยู่อย่างเร่งร้อน
เด็กชายมองหาที่เปิดปะตูอย่างรวดเร็ว แต่ไม่พบกลอน หรือกุญแจอะไรเลย มีเพียงยันต์สีเหลืองทองลงอักขระด้วยชาดติดอยู่ตรงประตู แฝงไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่ง เขาลองผลักประตูก็ไม่ยอมเปิดออก
“แล้วฉันจะเปิดได้อย่างไร” เด็กชายถามอย่างรีบร้อนเพราะกลัวปิศาจจะกินเพื่อนเขาเสียก่อน
“ข้ารู้” เสียงเพื่อนข้างในตอบกลับมา
“ทำยังไงรีบบอกฉันเร็ว” เด็กชายถามกลับ
“นักพรตเต๋าปิดผนึกที่นี่ด้วยยันต์ มันต้องใช้คาถาเพื่อเปิดออก” เสียงข้างในตอบกลับมา
“แม้ฉันเป็นเด็กห้าขวบแต่จะมีเรื่องเหลวไหลเช่นนี้ในโลกได้อย่างไร” เด็กชายแม้จะอายุยังน้อยแต่เขาก็เป็นคนที่ฉลาดกว่าเด็กในรุ่นเดียวกันมาก เขาเป็นคนที่มีความจำดีมาตั้งแต่อายุยังน้อย เขาจึงไม่เชื่อเรื่องเหลวไหลเช่นนี้
“แต่เราต้องทดสอบดูก่อน เรามีเวลาไม่มากแล้ว” เสียงข้างในตอบกลับมาอย่างร้อนใจ
“ถึงอย่างนั้นข้าก็ไม่รู้คาถาของนักพรตเต๋า” เด็กชายถึงแม้จะต้องการช่วยเพื่อนแต่ก็ทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน
“ข้าเคยได้ยินตอนที่เขาผนึกเรา ข้าจำได้” เสียงเพื่อนอีกคนหนึ่งตอบกลับมา
“รีบท่องตามเรา” เสียงของเพื่อนข้างในพูดพร้อมกันตอบกลับมา
ฟ้ากำหนดมนุษย์
เสียงนี้ดังขึ้นทำให้เด็กชายมึนงงเล็กน้อย คล้ายสติล่องลอย เขาจึงท่องตามออกมาโดยไม่รู้ตัว
“ฟ้ากำหนดมนุษย์”
มนุษย์กำหนดจิตใจ
“มนุษย์กำหนดจิตใจ”
จิตใจกำหนดฟ้า
“จิตใจกำหนดฟ้า”
ข้าขอบัญชายันต์ผนึก
“ข้าขอบัญชายันต์ผนึก”
จงเปิด
“จงเปิด”
หลังจากเด็กชายท่องเสร็จยันต์ก็ค่อย ๆ สลายเป็นเถ้าถ่าน ประตูเจดีย์ค่อย ๆ เปิดออก ข้างในมีแต่ความมืดมิดไม่มีเพื่อนของเขาแม้แต่คนเดียว
หลังจากที่เด็กชายหายจากความมึนงง เขาก็เห็นเพียงดวงตาสีแดงหนึ่งคู่ค่อย ๆ เปิดขึ้นแล้วมองมาที่เขาด้วยความยินดี แต่น่าสยดสยอง
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ