โอรีเวีย 2 ( ล่มสลาย )

6.3

เขียนโดย shilen

วันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 เวลา 20.40 น.

  43 บทที่
  2 วิจารณ์
  29.25K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

39) ขอคืน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

กลางดึกคืนนั้น   ฟิโลโซเฟอร์ได้รับจดหมายจากสหายที่เขาคุ้นเคยที่สุดให้ออกมาพบยังที่หนึ่ง   ซึ่งมันคือต้นแอปเปิ้ลเก่าแก่มีกิ่งก้านสาขามากมาย   อีกทั้งยังออกลูกดกดื่น   คนทั้งคู่ใช้เวลาอยู่บนนั้นนานพอสมควร   เด็กชายตัวน้อยเอาแต่โหนไปโหนมาอย่างร่าเริง   จนอีกคนเริ่มรำคาญ

 

“ เจ้าขยับตัวทีมันเขย่าไปทั้งต้นเลยนะ   ข้าอยากนั่นนิ่งๆ สักพักไม่ได้เลยหรือ ”

 

เริ่มมีเสียงบ่นจากหนุ่มน้อยในชุดคลุมขาวให้ได้ยิน

เด็กชายจึงคว้ากิ่งใกล้ๆ

 

แล้วโน้มร่างเข้าไปหา

มืออีกข้างยื่นแอปเปิ้ลไปจนชิดริมฝีปากเจ้าของเสียงบ่น

 

“ ข้าไม่หิว ”  

 

เจ้าของร่างบางกล่าวเอือมๆ

 

“ หรืออยากกินอย่างอื่น ”

 

เด็กชายหลิ่วตาให้อย่างมีเลศนัย

พลางกัดกินผลไม้นั้นเสียเอง

 

“ ไม่เอาน่าดารีล   วันนี้เป็นวันดีมีงานรื่นเริง   เจ้าอย่าทำหน้าเหมือนเพิ่งโดนสาวหักอกมาอย่างนั้น   ยิ้มสักหน่อยเถิดโลกคงไม่ถล่มลงเร็วๆ นี้ ”

 

“ ไม่ช้าก็เร็วต่างหากล่ะ ”

 

ดารีลแย้ง

เขายังตีหน้าขรึมอยู่เช่นเดิม

 

“ เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่บอกข้าได้หรือเปล่า ”

 

ฟิโลโซเฟอร์เซ้าซี้

 

หนุ่มน้อยรูปงามจ้องหน้าเด็กชายนิ่งไปเป็นครู่

สุดท้ายก็เอ่ยออกมา

 

“ ข้าอยากได้ของๆ ข้าคืน ”

 

เด็กชายชาวซีนาร์ยจึงยิ้มออกมา

 

“ บอกมาตรงๆ ก็เท่านั้นไม่เห็นต้องวุ่นวายเลย ”

 

เขายื่นดาบสีเงินคืนไปให้

โดยไม่มีอาการลังเล

 

แต่ดารีลผลักมันกลับ

ไปแนบชิดกับอกเด็กชาย

 

“ ช่างเถิดของสิ่งนี้ข้าตัดสินใจยกให้เจ้าแล้ว   สิ่งที่ปรารถนาอยากได้คืน   ก็คือกระพรวนทองเหลืองอันนั้นต่างหาก ”

 

คำตอบนั้นทำเอาเด็กชายตกตะลึง

ด้วยว่ามันคือสิ่งที่เชื่อมพวกเขาเข้าด้วยกัน

 

“ ข้าทำอะไรผิดหรือ   มีอะไรที่เจ้าไม่พอใจเราคุยกันได้นี่นา ”  

 

เด็กชายกระซิบถาม

รู้สึกหวั่นใจกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น

 

“ เมืองโอรีเวียกำลังจะล่มสลายในไม่ช้า   และข้าไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว   เส้นทางของข้ายาวไกลนักแต่เจ้าเป็นดังพันธนาการที่ผูกรั้งข้าไว้   ดังนั้นคืนกระพรวนข้ามาเถิด   เมื่อเราจากกันก็ขออย่าให้มีสิ่งใดติดค้างกันอีก ”

 

“ เจ้าพูดแบบเดียวกันนี้กับเจ้าหญิงลูเซียน่าด้วยสินะ ”

 

ฟิโลโซเฟอร์กัดฟันพูด

ด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง

 

“ ข้าได้พยายามแล้ว   แต่นางเลือกที่จะไม่ฟังสุดท้ายจึงลงเอยเช่นนั้น   ข้าไม่อยากให้เจ้ามีชะตาเดียวกันกับนางเพราะฉะนั้นจงปล่อยมือข้าเสีย   ข้าที่ไม่อาจปกป้องเจ้าได้อีกต่อไป   ไม่มีประโยชน์ที่จะต้องติดตาม ”

 

“ ข้าไม่ได้อยากอยู่ใกล้เจ้าเพราะต้องการความคุ้มกัน   แต่ข้านั้นหวังจะปกป้องเจ้าให้ได้   เจ้าไม่รู้หรอกว่าฝันร้ายของข้ามันน่ากลัวนักและข้าสัญญาว่าจะไม่ยอมปล่อยให้มันเกิดขึ้น ”

 

“ ความฝันที่เจ้าหวาดกลัวนั้นเป็นอย่างไร ”

 

หนุ่มน้อยเอ่ยถาม

ด้วยหวังจะช่วยบรรเทาความทุกข์ใจของเด็กชาย

 

“ กาเอลจะฆ่าเจ้า   เขาคือผู้สืบเชื้อสายเพียงคนเดียวของคาเล   และข้าแน่ใจว่าเขาอยู่เบื้องหลังเรื่องชั่วร้ายทั้งปวง ”

 

คนอายุน้อยกว่าบอก

 

ดารีลยิ้มอ่อน

เขาเอื้อมมือไปเด็ดใบไม้เล่นด้วยท่าทีที่เลื่อนลอย

 

“ อย่างน้อยข้ากับเขาก็ไม่ได้มีเรื่องขัดแย้งกันเป็นการส่วนตัว   เจ้าไม่เห็นต้องกังวลขนาดนั้น   ข้ากับเขาเดินทางกันคนละเส้นก็จริงแต่ใช่ว่าจะคุยกันไม่รู้เรื่อง ”

 

“ อาจจะจริงที่เขาไม่ได้มีเรื่องขัดแย้งกับเจ้า   แต่เจ้าต่างหากล่ะที่ขัดแย้งกับเขา   ความตายของเจ้าหญิงลูเซียน่าพวกเราพอจะเดาออกว่าเป็นฝีมือของผู้ใด   ไม่ใช่ว่าเจ้าอยากพุ่งเข้าใส่เขาหรอกหรือจึงพยายามสลัดข้าทิ้ง ”

 

“ ไม่ใช่หรอก ”

 

ดารีลกล่าวสวนขึ้น

 

“ ทั้งหมดสามารถกล่าวโทษข้าได้   ข้าบกพร่องเองเพราะนางไว้ใจข้ามากเกินไปและข้าเองก็เลินเล่อ   เรื่องจึงลงเอยแบบนั้น   ไม่จำเป็นต้องหาคนมารับบาปข้าเองนี่แหละที่ต้องรับเอาความผิดนั้น   เจ้าอย่าได้คิดว่าข้าสมบูรณ์แบบ   ไม่อย่างนั้นเจ้าจะต้องจบชีวิตเช่นเดียวกับนาง   เพราะฉะนั้นคืนกระพรวนข้ามาเถอะนะมันไม่มีประโยชน์อีกต่อไปแล้ว   ก่อนที่มันจะผูกมัดเรามากไปกว่านี้ ”

 

เด็กชายตัวน้อยจึงนิ่งอึ้งไป

เพราะไม่รู้จะกล่าวสิ่งใดต่อไปดี

 

“ เช่นนั้นข้าต้องทำอย่างไรเจ้าจึงจะยอมคืนมันให้ข้า ”

 

เขากล่าว

เมื่อเห็นว่าเด็กคนนั้นไม่ตอบโต้อะไร

 

“ มีทางเดียว   เจ้าต้องให้สัญญาว่าจะไม่ไปไหนไกลจากสายตาข้า   อยู่กับข้าไปกับข้าไม่ว่าที่ใดก็ตาม ”

 

ดารีลถึงกับเอาหน้าผากโขกต้นไม้

 

“ เจ้าเด็กทึ่ม ”

 

เขาบ่นอุบอิบ

แต่แล้วก็ไม่กล่าวสิ่งใดต่อ

 

“ ดารีลเจ้าจำได้หรือไม่   เมื่อปีที่แล้ว ณ ที่แห่งนี้ข้าเคยถามสิ่งหนึ่งกับเจ้า   และเจ้ายังไม่ให้คำตอบกับข้าเลยจนบัดนี้ ”

 

เด็กชายทวง

 

“ คำถามของเจ้าล้วนแล้วแต่ไร้สาระ   ข้าไม่จำใส่ใจหรอก ”

 

เจ้าของร่างงามเบือนหน้าเข้าหาต้นไม้ใหญ่

ซ่อนแววเหนื่อยหน่ายเอาไว้เพียงผู้เดียว

 

“ เจ้าแนะนำตัวกับข้าหน่อยไม่ได้หรือ   ข้าบอกทั้งหมดกับเจ้าแล้วแต่เจ้าไม่เคยบอกอะไรข้าเลย ”

 

“ ทั้งหมดที่เจ้าอยากรู้เจ้าก็รู้อยู่แล้วมิใช่หรือ ”

 

“ นั่นมันจากปากผู้อื่น   ข้าแค่อยากให้เจ้าเปิดใจกับข้า   เราใกล้ชิดกันมากกว่าผู้อื่นมิใช่หรือ   เจ้าควรจะบอกข้าทุกเรื่องรวมทั้งความรู้สึกของเจ้าด้วย ”

 

ฟิโลโซเฟอร์ว่า

พลางเชยคางคนที่อยู่ตรงหน้า

บังคับให้สบตาด้วยท่าทางแสนซน

 

ดารีลจึงพลิกร่างลงจากต้นไม้

สองเท้าแตะพื้นอย่างนุ่มนวลราวกับแมวน้อย

 

“ ข้าไม่ใส่ใจเรื่องหยุมหยิมหรอก   อุตส่าห์ชวนมาคุยธุระสำคัญ   เจ้าก็คอยแต่จะทำเสียเรื่อง ”

 

เขาเงยหน้าขึ้นมาต่อว่า

เด็กชายที่กำลังปีนตามลงมา

 

ด้วยความสูงระดับนี้

ฟิโลโซเฟอร์จึงไม่กล้ากระโดดตาม

เพราะกลัวแข้งขาจะหักเสียก่อน

 

แต่แม้จะเป็นเช่นนั้น

เขาก็สามารถตามลงมาได้เร็วพอสมควร

 

เมื่อเห็นอีกฝ่ายทำท่าจะเดินหนี

จึงร้องขึ้นว่า

 

“ ตกลงไม่อยากได้แล้วหรือกระพรวนของเจ้าน่ะ ”

 

ดารีลจึงหันกลับมา

เขาเอียงคอน้อยๆ เป็นเชิงว่าสงสัย

แต่ไม่ได้เอ่ยอะไร

 

“ คืนนี้เจ้าไปบ้านข้าเรายังมีเรื่องต้องคุยกัน   เพราะคุยตอนนี้ไม่สะดวกเอาเสียเลย ”

 

เด็กชายชาวซีนาร์ยว่า

 

หนุ่มน้อยคนนั้นไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ

แต่ได้ปีนผนังตึกด้วยมือเปล่า

แล้วหายตัวไปอย่างรวดเร็ว

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา