โอรีเวีย 2 ( ล่มสลาย )

6.3

เขียนโดย shilen

วันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 เวลา 20.40 น.

  43 บทที่
  2 วิจารณ์
  28.07K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

33) เลือดสาวบริสุทธิ์

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

นางที่เป็นดังความหวังปรากฏกายขึ้นพร้อมกับแสงจันทร์ในคืนที่มืดมิด   ปลอบประโลมและมอบความหวังแห่งทางรอดให้   แต่เลือดสาวบริสุทธิ์นั้นหาได้จากที่ใดเล่าในเวลาเป็นหรือตายเช่นนี้   พวกเขามองไปรอบๆ สีหน้าแววตาของคนร่วมหมู่บ้านนั้นมีแต่ตื่นตระหนก

 

เมื่อไม่มีทางเลือกอื่นใดและความตายก็ใกล้เข้ามาทุกขณะ   หญิงสาวชาวบ้านจึงถูกกระชากออกมาจากอกมารดา   ท่ามกลางเสียงกรีดร้องอ้อนวอน   แต่ผู้คนส่วนใหญ่กลับขอให้เห็นแก่ส่วนรวม   ร่างหญิงสาวเกล่านั้นจึงถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ แล้วโยนขึ้นไปบนหลังคา   เพื่อให้โลหิตสีแดงข้นไหลอาบย้อมตัวบ้าน

 

สตรีผู้งดงามผู้สวมอาภรสีขาวกระจ่างหยุดบรรเลงเพลง   นางหงายฝ่ามือรองรับเลือดที่หยดจากหลังคา   จ้องมองมันด้วยแววตาเรียบเฉย   ครั้นแล้วก็ยิ้มเศร้า

 

“ มาดาแห่งข้า   น่าเสียดายท่านมาด่วนจากเลยไม่ทันได้เห็นว่ามนุษย์ทั้งหลายที่ท่านเชื่อว่าแสนดีและบอบบางในเวลานี้เป็นเช่นใด   ยังน่าถนอมอีกหรือไม่   จริงอยู่ความกลัวนั้นไม่ผิดความเห็นแก่ตัวก็คงไม่ผิดมากนัก   แต่อย่ากังวลไปเลยข้าจะเมตตาต่อพวกเขาอย่างที่ท่านเคยสอนมาตลอด   ข้าไม่เคยลืมไม่มีสิ่งใดเลยที่ข้าหลงลืม ” 

 

นางกล่าวกับพระจันทร์ที่ลอยเด่นอยู่บนท้องฟ้า

 

ทางด้านของชาวบ้านที่ช่วยกันสังหารสาวบริสุทธิ์จนหมดสิ้นแล้ว   พวกเขาต่างแย่งชิงเบียดเสียดกันผ่านประตูบ้านหลังใหญ่นั้นเข้าไป   ปล่อยให้ผู้สูญเสียเข่าอ่อนนั่งฟูมฟายอยู่ตรงนั้น   จนไฟลุกลามมาถึงและกลืนกินพวกเขาไปในที่สุด

 

และเป็นดังที่ว่าไว้ไฟได้หยุดอยู่เพียงรอบตัวบ้าน   ไม่ลุกลามไปยังบ้านหลังนั้น   ที่อาบไปด้วยเลือดสดๆ ส่งกลิ่นคาวคลุ้ง  

 

ไม่นานหลังจากนั้นไฟปีศาจก็สงบลง

กาเอลเดินมายืนตรงหน้าบ้านหลังใหญ่

 

อัญมณีสีแดงที่ประดับปลายคทาส่งประกายเย็นเยือก

 

“ ไฟมนตราไม่อาจเผาเลือดสาวบริสุทธิ์   ตำราไหนของเจ้ากัน   ข้าไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย ”  

 

หนุ่มน้อยคนนั้นกล่าวท้วงเรียบๆ

ไม่ยินดียินร้ายกับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น

 

“ ข้าบอกว่าไฟจะไม่เผาเลือดสาวบริสุทธิ์ไม่ได้พูดสักคำว่าเผาไม่ได้ ”

 

นางตอบหน้าตาใสซื่อ

ราวกับไม่มีสิ่งใดผิดปรกติ

 

“ อ้อ   เช่นนั้นหรือข้าจะได้จำไว้ ”

 

“ จำอะไร ”

 

นางทำเสียงสูง

แววตาขุ่นมัวราวกับสาวน้อยที่กำลังโดนหาเรื่อง

 

“ จำวิธีการพูดของเจ้าอย่างไรล่ะช่างชั่วร้ายนัก ”

 

“ แหมอย่างน้อยปากข้าก็ตรงกับใจคิดอะไรก็พูดเช่นนั้นเจ้าไม่ชอบหรอกหรือ ”

 

กาเอลได้แต่ส่ายหน้า

เขาจ้องมองผ่านหน้าต่างเข้าไปภายในตัวบ้าน

 

เงาสีดำหมุนวนไปมาอยู่ภายในนั้น

ท่ามกลางเสียงร้องแห่งความเจ็บปวดและหวาดกลัว

 

ชาวบ้านกลายคนพยายามพังประตูหนีออกมา

แต่ไร้ผล

 

“ ก็แค่เด็กหางแถว ”

 

หนุ่มน้อยบอก

 

“ รอยด่างเล็กๆ สามารถขยายใหญ่ขึ้นได้   ไว้ใจมนุษย์เถิด   ถ้าให้เลือกทำตามใจน้อยครั้งนักจะเป็นเรื่องดี ”

 

สตรีนางนั้นบอก

 

แล้วค่ำคืนที่เนิ่นนานก็จบลงในความเงียบ

ความลับมากมายที่คนในหมู่บ้านนี้ก่อขึ้น

 

ได้จมไปพร้อมกับพวกเขา

ไร้ผู้ใดจะเอ่ยถึง

 

 

            เมื่อรุ่งอรุณมาเยือนแสงทองได้จับต้องขอบฟ้าอีกครั้ง

หมู่บ้านต้องสาปยังตั้งตระหง่าน

ราวกับไม่เคยมีเรื่องร้ายใดเกิดขึ้น

 

ชาวบ้านต่างตื่นนอน

หยิบจอบเสียมแล้วออกเดินทางไปทำกิจของตน

ดังเช่นเช่นเดิมที่ผ่านมา

 

เพียงแต่ว่ากิจกรรมทั้งหลายนั้นเงียบกริบ

ไร้สำเนียงพูดจาดูจืดชืดไร้ชีวิต

 

กาเอลยังนอนหลับเป็นเด็กน้อย

อยู่ในรางหญ้าของคอกม้าภายในหมู่บ้าน

 

แม้แสงแดดอุ่นๆ จะลอดผ่านรอยแตกเข้ามากระทบร่าง

แต่หนุ่มน้อยคนนั้นก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะขยับตัว

 

สตรีคนเมื่อคืนเดินเข้ามาในคอกม้า

ในมือถือปลาย่างร้อนๆ ตัวใหญ่ส่งกลิ่นหอมฟุ้ง

 

จ้องมองคนในรางหญ้าแล้วยิ้มอ่อน

 

“ เด็กดีของข้าตื่นสายขนาดนี้เลยหรือ   ลุกมาดูอะไรนี่สิเจ้าชอบมันหรือเปล่า ”

 

นางยื่นปลาย่างเข้าไปใกล้ๆ หนุ่มน้อยผู้สวมหน้ากากประหลาด

แต่ก็ยังไร้การตอบสนองอยู่ดี

 

เมื่อเป็นดังนั้นสตรีในชุดขาว

ซึ่งขณะนี้เปื้อนรอยอดงเป็นหย่อมๆ ราวกับดอกไม้เบ่งบาน

 

จึงได้หยิบเศษฟางแห้ง

ขึ้นมาเขี่ยสำคอของเขา

 

กาเอลคว้ามือของนางอย่างไวแย่งเอาเศษหญ้าแล้วปาทิ้ง

เขาลุกนั่งสองมือกุมขมับ

 

“ ข้าเกลียดโซ่ของเจ้า   เสียงลากไปกับพื้นน่ารำคาญนัก   คนจะหลับจะนอนลากครืดๆ อยู่ได้ทั้งคืน ”

 

สตรีนางนั้นทำหน้ามุ่ย

 

“ ข้าเป็นหญิงสาวบอบบางน่าสงสารออก   มีโซ่พันรอบขาแบบนี้ยิ่งเดินลำบาก   เจ้าไม่เห็นใจข้าไม่ว่าแต่ถึงกับเกลียดชังกันไม่ใจร้ายไปหน่อยหรือ ”

 

หนุ่มน้อยได้ยินดังนั้นจึงคว้าโซ่พันรอบคอนาง

จับปลายด้านหนึ่งเอาไว้พร้อมจะดึงให้รัดแน่นเข้า

 

นางผู้นั้นกลับไม่มีท่าทีหวาดกลัว

ยกปลาย่างขึ้นมากัดคำน้อยๆ พอยั่วยวน

 

“ จะกินเองหรือให้ข้าป้อน   ตื่นสายเองแล้วทำเป็นโมโหหิวแบบนี้ไม่ดีเลยนะ ”

 

กาเอลจึงปล่อยมือ

แล้วขยับถอยห่างออกมา

 

“ ข้าไม่กิน ”

 

หนุ่มน้อยบอก

 

“ ไม่ชอบปลา   ก็ไม่บอกก่อนล่ะข้าจะได้หาของถูกใจมาให้   แต่เอ๋   หรือเจ้าอยากกินข้าจะดีหรือเช้าๆ อย่างนี้นะ ”

 

นางว่าแล้วพลันเหลือบไปเห็นกระถางหินเผากำยาน

ที่วางซุกอยู่ในกองฟาง

 

“ ตายจริง   เรื่องแบบนี้ต้องให้เตือนด้วยหรือ   ไฟกับฟางแห้งต้องไม่เอาไว้ใกล้กันของติดไฟง่ายไม่ระวังเอาเสียเลย   เกิดโดนคลอกขึ้นมาจะทำอย่างไร ”

 

นางว่าพลางถึงเอากระถางออกมา

 

“ ถ้าเผลอหลับจนไฟลุกท่วมแล้วยังไม่ยอมตื่นก็สมควรตายแล้วล่ะ ”

 

กาเอลว่า

เขาลุกเดินออกมาจากคอกม้า

 

ผู้คนในหมู่บ้านต่างเดินผ่านเขาไปราวกับว่า

หนุ่มน้อยคนนั้นไม่มีตัวตน

 

 

            ด้วยเหตุไฟไหม้หมู่บ้านเมื่อคืน

แสงจากกองเพลิงได้สะท้อนทาบทับบนท้องฟ้าที่มืดมิดจนเป็นสีแดงฉาน

จนสามารถมองเห็นได้ในระยะไกล

 

ชาวบ้านจากหมู่บ้านใกล้เคียงมองเห็นเหตุการณ์บนท้องฟ้า

พวกเขาไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น

 

แต่พอเดาออกว่าต้องมีเหตุเพลิงไหม้

จึงชักชวนกันมาที่หมู่บ้านนั้น

 

ในเช้าตรู่ของวันถัดมา

เพื่อดูว่าจะมีใครต้องการความช่วยเหลือหรือไม่

 

เมื่อพวกเขาเดินทางมาถึง

ก็ต้องพบกับความประหลาดใจ

 

ผู้คนในหมู่บ้านยังดำเนินชีวิตตามปรกติ

ราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น

 

เพียงแต่ว่าทั้งหมดดูแข็งที่ราวหุ่นไม้

ไร้ชีวิตจิตใจ

 

ชายผู้หนึ่งจากหมู่บ้านข้างเคียงจึงเดินเข้าไปถามชายชราที่ยืนอยู่ใกล้ๆ

ว่าเมื่อคืนเกิดเรื่องผิดปรกติหรือไม่

 

เมื่อชายคนนั้นเงยหน้า

ทั้งหมดก็ต้องถอยกรูดด้วยความตกใจ

 

เพราะชายชราคนนั้นมีผิวหน้าที่เปื่อยยุ่ย

ดวงตาเหลือกถลนสีขาวหม่นมัว

 

ทันใดนั้นชายชราก็ส่งเสียงร้องโหยหวนออกมา

คนในหมู่บ้านก็หยุดชะงัก

 

แล้วหันมามองแขกผู้มาเยือนช้าๆ

ก่อนจะพุ่งเข้าใส่อย่างดุร้าย

และหิวกระหาย

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา