โอรีเวีย 2 ( ล่มสลาย )

6.3

เขียนโดย shilen

วันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 เวลา 20.40 น.

  43 บทที่
  2 วิจารณ์
  29.25K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) หิมะแรก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

วันนั้นเป็นวันที่อากาศสดใส   แม้แสงแดดจะสว่างจ้าแต่อากาศกับเย็นลงอย่างน่าประหลาด   ไม่ได้ร้อนแผดเผาเหมือนดังวันก่อน   มันเป็นช่วงปลายของฤดูเก็บเกี่ยวที่งดงาม   กำลังก้าวข้ามไปสู่ฤดูหนาวอีกครั้งและอีกครั้งเป็นอย่างนี้เรื่อยไป

 

เด็กหญิงและเด็กชายทั้งสองอยู่ด้วยกันในทุ่งหญ้า   เพื่อนๆ ทั้งหลายต่างปลีกตัวกันออกไปเล่นที่อื่น   ปล่อยพื้นที่เงียบสงบให้คนทั้งคู่

 

ฟีไลร่าเอนกายลงบนพื้นหญ้าที่หนานุ่มและหอมกรุ่น

จ้องมองเมฆสีขาวที่ปลิวไปบนฟ้าสูง

 

เหมือนดังว่าโลกทั้งใบสุขสงบอย่างแท้จริง

ในช่วงเวลานั้น

 

เด็กชายผู้พลัดถิ่นชาวซีนาร์ยนั่งลงข้างกายนาง

เขามองเห็นความหวังบางอย่างบนใบหน้าสวยหวานนั้น

 

“ ข้าอยากเป็นผีเสื้อ ”

 

นางว่า

 

“ ให้เป็นผีเสื้อข้าเลือกเกิดเป็นมังกรดีกว่า ”

 

เขาบอก

 

“ ผีเสื้อน่ะบอบบางจะตายแถมยังอายุสั้น ”

 

“ ข้าแค่อยากบอกว่าต้องการเป็นอิสระเจ้านี่จริงๆ เลย ”

 

เด็กหญิงทำหน้ามุ่ย

 

“ ก็ใช่ไง   ก่อนที่จะโผบินเจ้าต้องแกร่งพอ   เป็นแค่ผีเสื้อเจ้าไปได้ไม่ไกลนักหรอกเว้นแต่จะมีใครสักคนคอยปกป้องเจ้าจนสุดทาง ”

 

ฟีไลร่าไม่ว่าอะไร

แต่เงียบไปด้วยใบหน้าแสนเศร้า

ปล่อยให้ความเงียบเข้าครอบงำอีกครั้ง

 

“ เจ้าอยากเป็นพ่อค้าหรือเปล่า ”

 

อยู่ๆ เด็กหญิงผมสีเงินก็เอ่ยคำถามแปลกๆ

 

“ คงไม่สินะเจ้าคงอยากเป็นผู้กล้าหรือไม่ก็ชาวนา ”

 

ถามเองแล้วก็ตอบเองเสียอย่างนั้น

 

“ เจ้าคงไม่ชอบค้าขายสินะแต่เลือกทางเดินเองไม่ได้ ”

 

เด็กชายเดา

 

“ มันยากที่ชีวิตจะไม่ถูกกำหนดโดยคนอื่น   ในเมื่อคนเรายังต้องใส่ใจคนรอบข้าง   พ่อของข้าไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่าจริงๆ แล้วต้องการอะไร   แต่ครอบครัวต้องการให้เขาเป็นผู้พิทักษ์หน้ากากทอง   พ่อของข้าก็มุ่งไปทางนั้นอย่างสุดกำลังและไม่เคยลังเล   สุดท้ายน้องชายของเขากลายเป็นคนที่ทำสำเร็จ   ในเวลานั้นเขารู้สึกเสียใจมากที่ไม่อาจไปถึงปลายสูงสุด   แต่ในเวลานี้เมื่อคิดย้อนไปกลับรู้สึกว่าตนเองช่างโง่เหลือเกิน   ข้าเองก็เคยฝันอยากเป็นผู้พิทักษ์หน้ากากทอง ” 

 

เด็กชายตัวน้อยจ้องมองมือของตน

 

“ แต่ตอนนี้ข้าอยากแกร่งกว่านั้น   มีหลายสิ่งเหลือเกินที่อยากปกป้องและผู้พิทักษ์หน้ากากทองก็ไม่ใช่คำตอบนั้น ”

 

“ อย่างน้อยเจ้าก็เลือกเองได้มิใช่หรือแต่ข้าไม่ ”

 

เด็กหญิงว่า

 

“ เหตุใดเลือกไม่ได้ล่ะ ”

 

ฟิโลโซเฟอร์สงสัย

 

“ มีถ้อยคำก้องในหัวมากมายทั้งภาระหน้าที่   ความเห็นแก่ตัว   คนขี้ขลาด   คนทรยศ   คนไร้เกียรติโอ้มากมายก่ายกองข้ารับไม่ไหวหรอก ”  

 

นางตอบ

 

เด็กชายตัวน้อยได้แต่ประหลาดใจ

บิดาของเขาเป็นบุรุษแท้ๆ ยังไม่ได้รับการประณามมากมายเช่นนี้

 

แต่ก็นั่นแหละเรื่องของผลประโยชน์

ในเมื่อนางเป็นทายาทเพียงคนเดียว

ก็ต้องแบกรับทั้งหมดอยู่แล้ว

แม้จะเป็นสตรีก็ตามที

 

“ เจ้ามีคู่หมายอยู่ที่ซีนาร์ยหรือเปล่า ”

 

นางถาม

 

“ ไม่หรอก   ข้าเด็กเกินกว่าจะมีแต่เพื่อนแท้น่ะมีแน่   แล้วเจ้าล่ะ ”

 

ฟีไลร่ายกสองมือปิดหน้า

ถอนหายใจยาวแทนคำตอบ

 

เพียงเท่านี้ฟิโลโซเฟอร์ก็พอเดาออก

เขารู้สึกว่าหัวใจหล่นวูบ

 

“ เขาคงจะร่ำรวยมากสินะ ”

 

เด็กชายกระซิบถาม

 

“ เขามีเงินมีอำนาจ   มีทุกอย่างแต่ไม่มีความรัก ”

 

นางตอบ

 

“ แล้วเจ้าจะมีความสุขหรือเปล่า ”

 

“ มารดาของข้าแต่งงานกับคนที่นางรักและตายเพื่อคนที่นางรักนางมีความสุขหรือเปล่านะ ”

 

ฟีไลร่าตั้งคำถามขึ้นมาลอยๆ

ไร้ซึ่งคำตอบจากผู้ใด

 

โดยไม่มีสัญญาณเตือนหิมะได้โปรยปรายลงมา

ทั้งที่ก่อนหน้านั้นแสงแดดยังสดใส

 

สีขาวฟูฟ่องลอยคว้างในอากาศ

งดงามและเยือกเย็น

 

“ หิมะแรกของปีวันนี้หรือได้อย่างไรกัน ”

 

ฟิโลโซเฟอร์อุทานด้วยความประหลาดใจ

เนื่องจากไม่มีเค้าลางมาก่อน

 

“ สวยจัง   เหมือนชุดแต่งงานเลย ”

 

ฟีไลร่าว่า

มีน้ำตาคลอเต็มดวงตาสีน้ำเงินเข้มทั้งสองข้าง

 

เด็กชายตัวน้อยรับปุยหิมะด้วยอุ้งมือ

มันละลายหายไปทันทีเมื่อสัมผัส

 

เหลือไว้แต่ความเย็น

และกลิ่นหอมประหลาด

 

บรรยากาศเหงาอ้างว้างขึ้นมาทันใด

ราวกับว่านี่คือช่วงเวลาที่ต้องพลัดพราก

เหมือนว่าเป็นสัญญาณแห่งการจากลา

 

ฟิโลโซเฟอร์รู้สึกจุกแน่นในอก

เศร้าใจอย่างบอกไม่ถูก

 

ไม่รู้เป็นเพราะอะไร

แต่รู้สึกเหมือนกำลังสูญเสียของสำคัญไปตลอดกาล

 

“ เหตุใดจึงเศร้าล่ะ   หรือที่ซีนาร์ยมีตำนานที่เป็นทุกข์ในวันที่หิมะแรกเดินทางมาถึง ”

 

ฟีไลร่าสงสัย

 

“ ไม่มีหรอก ”

 

เด็กชายว่า

พลางยิ้มกลบเกลื่อน

 

“ จริงๆ แล้ววันที่หิมะแรกมาเยือน   พวกเราชาวซีนาร์ยจะวิ่งออกจากบ้านเพื่อตามหาคนสำคัญ   ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน   คนในครอบครัวหรือแม้แต่คนรักแล้วบอกความในใจกับเขา   ข้าแค่คิดถึงเพื่อนเก่าน่ะตอนเด็กๆ เรื้อนกันมากวันดีๆ แบบนี้กลับปั่นป่วนชาวบ้านเขาไปทั่ว   แต่ข้าชอบเขานะ   แล้วเจ้าล่ะดูไม่สดใสเหมือนกันนี่ ”

 

“ ตอนแม่ของข้าแต่งงานก็มีหิมะตกลงมาแบบนี้   ล่ำลือกันว่าเป็นวันที่งดงามที่สุด   ผู้คนเชื่อว่าเป็นวันดีเลิศคู่บ่าวสาวจะต้องมีความสุขไปชั่วนิรันดร์   แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นจริงดังนั้นเลย ”

 

ฟิโลโซเฟอร์

ได้แต่มองเด็กหญิงตรงหน้าอย่างนิ่งงัน

ไม่รู้จะปลอบโยนหรือทำประการใดดี

 

“ แล้ววันนี้เจ้าไม่อยากบอกความในใจกับใครหรือ ”

 

อยู่ๆ ฟีไลร่าก็ถามขึ้นมา

 

“ หืม ”

 

เด็กชายตัวน้อยงุนงง

 

“ ก็เจ้าบอกว่าชาวซีนาร์ยจะเปิดเผยความในใจกับคนสำคัญ   แล้วไง   เจ้าจะพูดอะไรกับใครล่ะ ”

 

ฟิโลโซเฟอร์หน้าแดงขึ้นมาทันที

 

“ อ้อคือ ”

 

เขาอึกอัก

 

“ คืออะไรล่ะ   บอกข้าหน่อยไม่ได้หรือ ”

 

นางยังเซ้าซี้

 

“ ไม่เป็นไร   เดี๋ยวคืนนี้ข้าค่อยบอกกับคาโอเรียก็ได้   ยังมีเวลาถมเถ ”

 

ฟิโลโซเฟอร์ตอบเสียงเร็ว

แล้วก้มหน้ามองพื้น

หลบสายตานาง

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา