โอรีเวีย 2 ( ล่มสลาย )
6.3
29) เนื้อแห้ง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเมื่อยามที่เมฆครึ้มฟ้ามัว ชาวบ้านที่ยากจนในหมู่บ้านแห่งนั้นต่างยินดี เพราะนั่นหมายความว่ากำลังจะมีฝนตกลงมาในอีกไม่ช้าและพวกเขาจะมีน้ำสำหรับบริโภคเพิ่มขึ้น หลายต่อหลายคนเริ่มนำโอ่งดินเผาและถังไม้โอ๊คมาตั้งรองไว้ ต่างสวดภาวนาขอให้ฝนตกลงมาอย่างที่คาดหวังไว้
ขณะเดียวกัน ในมุมมืดหนึ่งของหมู่บ้านกลุ่มชายฉกรรจ์หกคนกำลังมั่วสุมกันดื่มสุรา โดยไม่นำพากับเมฆฝนดังกล่าว เพราะพวกเขาคิดว่าน้ำที่รองได้นั้นอย่างไรเสียพวกเขาก็มีส่วนอยู่แล้ว กลุ่มคนเหล่านี้จึงเลือกที่จะหาความสำราญส่วนตัวแทนที่จะทุกข์ร้อนกับเสบียง
“ เนื้อแห้ง มันทั้งแข็งทั้งเค็มรสแย่เต็มที ”
ชายคนหนึ่งว่า
ขณะที่ปากกำลังกัดฉีกเนื้อสีดำจนน้ำลายเยิ้ม
“ มีเท่านี้ก็ดีแล้ว ”
อีกคนหนึ่งว่า
“ ใช่ มีกินก็ดีแค่ไหนแล้ว อาหารทุกวันนี้หายากจะตาย ”
คนที่นั่งตรงข้ามเห็นด้วย
เขาดื่มสุราเข้าไปอึกใหญ่
จนหน้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง
“ อย่าพูดดังไป ของพวกนี้ข้าขโมยมาจากกองกลางเชียวนะ ถ้าเกิดมีคนรู้เข้าไม่รู้พวกเราจะได้รับโทษอย่างไร ”
หนุ่มหน้าซีดคางแหลมพูด
เขาเป็นคนที่ผอมบางที่สุดในกลุ่ม
“ ถ้าพวกเราไม่พูดก็ไม่มีใครรู้หรอก อย่ากังวลไป ”
สหายคนที่นั่งข้างๆ
กล่าวให้กำลังใจ
“ แต่นานแล้วนะที่ไม่ได้กินเนื้อสดชุ่มเลือด ข้าคิดถึงกลิ่นหอมรสชุ่มฉ่ำ อ่า… อยากกินจนจะคลั่งแล้ว มีเหล้าทั้งทีแต่ไม่มีของดีแกล้ม ช่างน่าเศร้าแท้ ”
ชายคนเดิมว่า
แววตาเลื่อนลอย
ในขณะที่ยังเคียวเนื้อหยาบๆ จนแก้มตุ่ย
“ ข้ารู้ว่าพวกเราจะไปหาเนื้อสดได้จากที่แห่งใด ”
เจ้าหนุ่มหน้าแหลมฝันโดนแมงกินคนนั้นเอ่ย
ด้วยเสียงอันเบาราวกับกระซิบ
ดวงตาทั้งสองส่งประกายประหลาด
ราวสุนัขป่าผู้หิวโหย
“ ที่ไหนล่ะ ”
เพื่อนๆ ต่างพร้อมใจกัน
ยื่นหน้าเข้ามาถาม
ด้วยความใคร่รู้ยิ่ง
“ ก็เนื้อดิบที่หลงเข้ามาในหมู่บ้านเมื่อตอนกลางวันนั่นไง ที่ท่านผู้นำของเราบอกให้ไล่ไป คิดว่าคงยังไม่ไปไหนไกลหรอก น่าจะอยู่ในป่านั่นแหละ ”
เขาตอบ
“ ไม่คิดว่ามันเหี่ยวไปหรือ ทั้งเหี่ยวทั้งสกปรก ”
เพื่อนไม่เห็นด้วย
“ ก็ยังดีกว่าเนื้อแข็งๆ เย็นๆ นี่มิใช่หรือ ”
เจ้านั่นว่า
พลางโยนเนื้อแห้งกลับลงในชาม
“ หน้าหนาวก็ใกล้เข้ามาแล้วเสบียงที่หาได้ก็ต้องกักตุนไม่รู้พวกเราจะได้ กินเนื้อฉ่ำๆ อีกเมื่อไหร่ ถ้าไม่ตัดสินใจตอนนี้อาจต้องอดไปอีกนาน ”
“ นั่นสิ ใครไม่สนแต่ข้าสน ”
ชายตัวโตที่สุดลุกขึ้น
แต่ไม่ลืมที่จะถือกระติกใส่เหล้าไปด้วย
เพื่อนๆ ที่เหลือต่างมองหน้ากัน
แต่สุดท้ายก็ทยอยลุกขึ้นและตามไป
โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆ
พวกเขาทั้งหกต่างมุ่งหน้าเข้าป่า
โดยไม่สนท้องฟ้าที่กำลังมืดครึ้ม
เหมือนดังว่าจะมีฝนตกลงมาในไม่ช้า
ชายกลุ่มนี้มีอาชีพเป็นนายพราน
พวกเขาล้วนชำนาญในการแกะรอย
แต่น่าแปลกที่พวกเขาใช้เวลาตั้งนาน
ก็ยังตามหาหญิงชราคนนั้นไม่พบ
จนเวลาเย็นย่ำ
ท้องฟ้าส่งเสียงคำราม
พวกเขาจึงพากันถอดใจ
ชวนกันกลับเข้าไปในหมู่บ้าน
แต่ในขณะที่เดินผ่านโขดหินใหญ่
เกิดฟ้าผ่าขึ้นวาบหนึ่ง
พวกนักล่าทั้งหกจึงเห็นร่างหนึ่ง
นอนสงบนิ่งอยู่
“ นั่นเจ้าหมูสกปรกออสมอนด์นี่นา มานอนขี้เกียจอะไรตรงนี้ ”
เจ้าหนุ่มหน้าแหลมจอมฝันผุทักขึ้น
สหายร่างใหญ่ของเขาได้ทำสัญญาณให้คนอื่นๆ หยุด
ก่อนที่หนุ่มคนนั้นจะค่อยๆ ย่องเข้าไปหา
“ เป็นอย่างที่คิดไม่ผิด ”
เจ้านั่นว่า
หลังจากพิจารณาอยู่เป็นครู่
“ มีอะไรหรือ ”
เพื่อนๆ ที่ยืนอยู่ด้วยกัน
ในระยะที่ห่างออกไปเอ่ยถาม
ด้วยความสงสัย
“ เจ้าเด็กนี่ตายแล้ว ”
เจ้าหนุ่มคนนั้นบอก
พลางวางมือลงบนอกของเด็กน้อย
ผู้เคราะห์ร้ายของวันนั้น
ขณะเดียวกัน ในมุมมืดหนึ่งของหมู่บ้านกลุ่มชายฉกรรจ์หกคนกำลังมั่วสุมกันดื่มสุรา โดยไม่นำพากับเมฆฝนดังกล่าว เพราะพวกเขาคิดว่าน้ำที่รองได้นั้นอย่างไรเสียพวกเขาก็มีส่วนอยู่แล้ว กลุ่มคนเหล่านี้จึงเลือกที่จะหาความสำราญส่วนตัวแทนที่จะทุกข์ร้อนกับเสบียง
“ เนื้อแห้ง มันทั้งแข็งทั้งเค็มรสแย่เต็มที ”
ชายคนหนึ่งว่า
ขณะที่ปากกำลังกัดฉีกเนื้อสีดำจนน้ำลายเยิ้ม
“ มีเท่านี้ก็ดีแล้ว ”
อีกคนหนึ่งว่า
“ ใช่ มีกินก็ดีแค่ไหนแล้ว อาหารทุกวันนี้หายากจะตาย ”
คนที่นั่งตรงข้ามเห็นด้วย
เขาดื่มสุราเข้าไปอึกใหญ่
จนหน้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง
“ อย่าพูดดังไป ของพวกนี้ข้าขโมยมาจากกองกลางเชียวนะ ถ้าเกิดมีคนรู้เข้าไม่รู้พวกเราจะได้รับโทษอย่างไร ”
หนุ่มหน้าซีดคางแหลมพูด
เขาเป็นคนที่ผอมบางที่สุดในกลุ่ม
“ ถ้าพวกเราไม่พูดก็ไม่มีใครรู้หรอก อย่ากังวลไป ”
สหายคนที่นั่งข้างๆ
กล่าวให้กำลังใจ
“ แต่นานแล้วนะที่ไม่ได้กินเนื้อสดชุ่มเลือด ข้าคิดถึงกลิ่นหอมรสชุ่มฉ่ำ อ่า… อยากกินจนจะคลั่งแล้ว มีเหล้าทั้งทีแต่ไม่มีของดีแกล้ม ช่างน่าเศร้าแท้ ”
ชายคนเดิมว่า
แววตาเลื่อนลอย
ในขณะที่ยังเคียวเนื้อหยาบๆ จนแก้มตุ่ย
“ ข้ารู้ว่าพวกเราจะไปหาเนื้อสดได้จากที่แห่งใด ”
เจ้าหนุ่มหน้าแหลมฝันโดนแมงกินคนนั้นเอ่ย
ด้วยเสียงอันเบาราวกับกระซิบ
ดวงตาทั้งสองส่งประกายประหลาด
ราวสุนัขป่าผู้หิวโหย
“ ที่ไหนล่ะ ”
เพื่อนๆ ต่างพร้อมใจกัน
ยื่นหน้าเข้ามาถาม
ด้วยความใคร่รู้ยิ่ง
“ ก็เนื้อดิบที่หลงเข้ามาในหมู่บ้านเมื่อตอนกลางวันนั่นไง ที่ท่านผู้นำของเราบอกให้ไล่ไป คิดว่าคงยังไม่ไปไหนไกลหรอก น่าจะอยู่ในป่านั่นแหละ ”
เขาตอบ
“ ไม่คิดว่ามันเหี่ยวไปหรือ ทั้งเหี่ยวทั้งสกปรก ”
เพื่อนไม่เห็นด้วย
“ ก็ยังดีกว่าเนื้อแข็งๆ เย็นๆ นี่มิใช่หรือ ”
เจ้านั่นว่า
พลางโยนเนื้อแห้งกลับลงในชาม
“ หน้าหนาวก็ใกล้เข้ามาแล้วเสบียงที่หาได้ก็ต้องกักตุนไม่รู้พวกเราจะได้ กินเนื้อฉ่ำๆ อีกเมื่อไหร่ ถ้าไม่ตัดสินใจตอนนี้อาจต้องอดไปอีกนาน ”
“ นั่นสิ ใครไม่สนแต่ข้าสน ”
ชายตัวโตที่สุดลุกขึ้น
แต่ไม่ลืมที่จะถือกระติกใส่เหล้าไปด้วย
เพื่อนๆ ที่เหลือต่างมองหน้ากัน
แต่สุดท้ายก็ทยอยลุกขึ้นและตามไป
โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆ
พวกเขาทั้งหกต่างมุ่งหน้าเข้าป่า
โดยไม่สนท้องฟ้าที่กำลังมืดครึ้ม
เหมือนดังว่าจะมีฝนตกลงมาในไม่ช้า
ชายกลุ่มนี้มีอาชีพเป็นนายพราน
พวกเขาล้วนชำนาญในการแกะรอย
แต่น่าแปลกที่พวกเขาใช้เวลาตั้งนาน
ก็ยังตามหาหญิงชราคนนั้นไม่พบ
จนเวลาเย็นย่ำ
ท้องฟ้าส่งเสียงคำราม
พวกเขาจึงพากันถอดใจ
ชวนกันกลับเข้าไปในหมู่บ้าน
แต่ในขณะที่เดินผ่านโขดหินใหญ่
เกิดฟ้าผ่าขึ้นวาบหนึ่ง
พวกนักล่าทั้งหกจึงเห็นร่างหนึ่ง
นอนสงบนิ่งอยู่
“ นั่นเจ้าหมูสกปรกออสมอนด์นี่นา มานอนขี้เกียจอะไรตรงนี้ ”
เจ้าหนุ่มหน้าแหลมจอมฝันผุทักขึ้น
สหายร่างใหญ่ของเขาได้ทำสัญญาณให้คนอื่นๆ หยุด
ก่อนที่หนุ่มคนนั้นจะค่อยๆ ย่องเข้าไปหา
“ เป็นอย่างที่คิดไม่ผิด ”
เจ้านั่นว่า
หลังจากพิจารณาอยู่เป็นครู่
“ มีอะไรหรือ ”
เพื่อนๆ ที่ยืนอยู่ด้วยกัน
ในระยะที่ห่างออกไปเอ่ยถาม
ด้วยความสงสัย
“ เจ้าเด็กนี่ตายแล้ว ”
เจ้าหนุ่มคนนั้นบอก
พลางวางมือลงบนอกของเด็กน้อย
ผู้เคราะห์ร้ายของวันนั้น
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ