โอรีเวีย 2 ( ล่มสลาย )
6.3
13) สตรีแสนเศร้าผู้ถูกจองจำ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความด้วยความหวังว่าจะได้เห็นเจ้าชายเอลานอสผู้เย่อหยิ่ง อยู่ในห้องแห่งนี้กับคนแปลกหน้าสักคนที่มีท่าทีว่าอาจเป็นผู้ใช้เวทมนตร์ แต่สิ่งที่ราชินีวิเวียร่าเห็น กลับเป็นเพียงหญิงงามชดช้อยผู้สวมเสื้อผ้าน้อยชิ้นและบางเบา
นอนกลิ้งอยู่กลางเตียงแต่เพียงผู้เดียว เสียงกรุ๊งกริ๊งที่ได้ยินดังมาจากกำไลมากมายที่นางสวมใส่
สตรีนางนั้นยังคงกลิ้งเกลือกไปบนผืนผ้า
ยั่วเย้าราวกับตกอยู่ในห้วงอารมณ์เปลี่ยวเหงา
เฝ้ารอใครสักคนเพื่อปลดเปลื้องปรารถนาร้อนแรงของนาง
แม้สตรีสูงศักดิ์อย่างราชินีวิเวียร่ายังต้องตะลึงในความงามลึกล้ำของนาง
ครั้นเมื่อตั้งสติได้จึงได้เอ่ยถาม
“ เจ้าคือผู้ใดขึ้นมานอนบนเตียงของเจ้าชายได้อย่างไรกัน แล้วเจ้าชายองค์น้อยๆ ของข้าไปไหนเสียล่ะ ”
สตรีนางนั้นปรือตาขึ้นอย่างเกียจคร้าน
บิดร่างลุกขึ้นนั่งด้วยท่วงท่าเชื้อเชิญราวกับหญิงงามเมืองตามข้างถนน
“ บังอาจนักข้าพูดกับเจ้าใยไม่ตอบ ”
“ เจ้าชายตัวน้อยๆ อย่างนั้นหรือ ตายจริงข้าก็นึกว่าโตเป็นหนุ่มแล้ว อย่าห่วงไปเลยนะราชินีของข้าองค์ชายผู้น่ารักของท่านยังสุขสบายดี ข้ามาที่นี่เพื่อมอบความสำราญให้กับเขาตามประสาหนุ่มสาวที่กำลังเติบใหญ่ ”
สตรีนางนั้นกล่าวด้วนอาการฉอเลาะ
“ บังอาจนักสตรีต่ำช้าเจ้ากล้ามาทำเรื่องสกปรกถึงในวังหลวงเลยหรือ ”
ราชินีทรงกริ้ว
แต่นึกอีกทีหากเรื่องนี้รู้ถึงพระเนตรพระกรรณกษัตริย์แฮโรด
บางทีเรื่องนี้อาจส่งผลดีกับนางก็ได้
“ ท่านราชินีเรื่องสกปรกที่ว่า ในกาลก่อนท่านเองก็ช่ำชองมิใช่หรือ ที่แอบไปสมสู่กับสามีชาวบ้านตามสวนหย่อมหรือแม้แต่ในกระท่อมกลางป่า แหมท่านย่อมสูงส่งกว่าข้าอยู่แล้วล่ะ ก็ข้าน่ะแลกเรือนกายเพื่อความอภิรมย์ส่วนตัวเพียงเท่านั้น แต่ท่านแลกทั้งหลายทั้งปวงเพื่อเงินตราและอำนาจ ถ้าข้าคิดได้อย่างท่านป่านนี้คงได้นั่งบัลลังราชินีแห่งโอรีออนแล้ว ทำไงได้ก็เจ้าชายเอลานอสเร่าร้อนเกินอายุให้ข้าเป็นพระมารดาเลี้ยงก็อดร่วงเตียงกันพอดีจริงไหม ”
สตรีนางนั้นว่า
พลางแกว่งโซ่ทองคำเล่น
โซ่เส้นนั้นคล้องข้อเท้าเปลือยเปล่าของนางกับเสาเตียงเอาไว้
ราชินีทรงตกตะลึง
ไม่คิดว่าจะมีคนกล้าท้าทายพระนาง
และยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้รู้เรื่องลับของนางได้อย่างไร
หรือเจ้าชายตัวแสบจะเป็นคนบอกให้นางรู้
“ เจ้าเป็นผู้ใดกันใยจึงสอดรู้ไปทั่ว ”
พระนางเอ่ยถามเสียงดัง
“ ข้าเป็นแค่สตรีเศร้าโศกผู้ถูกพันธนาการด้วยคาวโลกีย์ ดำรงอยู่เพื่อปรนเปรอความสุขแด่ผู้คนทั้งหลายไม่ว่าหนุ่มหรือแก่ไม่เว้นแม้แต่เด็กน้อย ว่าแต่ท่านแอบมาที่ห้องของเจ้าชายเอลานอสยามวิกาลเพื่อกิจอันใด อย่าบอกนะว่าเบื่อกามรสของกษัตริย์ผู้ทรงชราแล้วคิดจะมาหาเศษหาเลยกับเด็กหนุ่มแรกรุ่น แบบนี้ไม่ดีหรอกท่านอย่างน้อยเขาก็เป็นดังบุตรชายของท่านคนหนึ่ง แต่หากว่าทนแรงกำหนัดไม่ไหวอยากอยากปลดเปลื้องเสียให้ได้ข้านั้นสามารถช่วยท่าน ต่อให้เป็นสตรีข้าก็ไม่บ่นจะปรนเปรอให้ถึงพระทัยเลยทีเดียว ”
สตรีแสนงามคนนั้นว่า
พลางเอนกายลงทอดร่างกอดก่ายกับหมอนใบใหญ่
ช้อยหางตามองราชินีวิเวียร่าด้วยท่าทีเชิญชวน
“ เจ้ามันวิปลาส ความคิดช่างสกปรกนัก ใครจะไปคิดเช่นนั้น ”
ราชินีทรงบริภาษ
“ กล้าดีอย่างไรมาล้อเล่นกับข้า รู้หรือไม่ความตายรอเจ้าอยู่อย่าได้คิดว่าเจ้าชายเอลานอสจะช่วยอะไรได้ ”
“ ท่านเข้าใจผิดแล้วข้ามาที่นี่เพื่อช่วยเขาต่างหากล่ะ แต่คนสวยและจิตใจดีเช่นข้า หากท่านร้องขออย่างจริงใจข้าก็ยินดีช่วยท่านเช่นกัน ”
“ ที่นี่คือโอรีออนและข้าคือราชินีเจ้าเป็นแค่หญิงแพศยากล้าเหิมเกริมกับข้ารู้หรือไม่ผลคืออะไร ”
พระราชินีวิเวียร่าทรงชักดาบสั้นประจำกายออกมา
แม้จะเกิดในตระกูลชั้นสูง
แต่ก็เคยฝึกการรบและฆ่าคนมาไม่น้อยเลย
พระนางจึงแกร่งกว่าราชินีทั้งปวง
สตรีนางนั้นจ้องมองสิ่งที่อยู่ในหัตถ์ของราชินี
แล้วทำหน้ามุ่ยด้วยความขัดใจ
แทนที่จะอยู่ในอาการหวาดกลัว
“ กุหลาบขาวหรอกหรือโธ่เอ๋ยข้าชอบสีแดง ”
นางว่า
เสียงกระเง้ากระงอด
ราชินีวิเวียร่าทรงทอดพระเนตรสิ่งที่ถือเอาไว้
แล้วต้องตกพระทัยเพราะมันคือกุหลาบสีขาวดอกใหญ่
งดงามและหอมละมุน
แต่หนามแหลมนั้นได้ทิ่มผ่านเนื้อจนโลหิตไหลนอง
“ ระวังนะเพคะ ของสวยงามล่อตามักมีอันตรายแฝงอยู่ ”
สตรีนางนั้นกล่าวยั่วเย้า
ราชินีโยนกุหลาบทิ้งไป
เหมือนพระนางจะเพิ่งรู้ตัวว่าสตรีตรงหน้านี้
มิใช่อย่างที่นางเห็นหรือคิดว่าเป็น
“ เจ้าเป็นแม่มด ”
สตรีนางนั้นหัวเราะชอบใจ
“ เคยมีเด็กชายตัวน้อยๆ จากเมืองซีนาร์ยกล่าวหาข้าเช่นนั้น ซ้ำยังเหน็บข้าลับหลังว่าเป็นแม่มดใจร้าย แหมไม่นึกว่าท่านซึ่งอายุก็มากแล้วยังกล่าวหาข้าไปทั่วอย่างกับเด็กที่ฝันน้ำนมยังไม่หลุด จ้าน่ะมิใช่แม่มดและไม่เคยใจร้ายด้วย อย่ากล่าวหากันนักเลย ดูสิถูกล่ามโซ่กับขาเตียงแบบนี้ยังทำให้ตนเองหลุดพ้นไม่ได้ แล้วท่านยังไม่คิดช่วยอีกใจดำนัก ”
“ เจ้าเป็นใครต้องการอะไรกันแน่แล้วเจ้าชายเอลานอสล่ะอยู่ที่ใด ”
ราชินีถามด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราด
“ แหม ปากก็บอกว่าข้าคิดสกปรกอยู่ผู้เดียว แต่คำก็ถามเอลานอสอยู่ไหนสองคำก็เอลานอสอยู่ไหน คิดถึงใคร่เสน่หาใจจะขาดแล้วหรือไร ใยไม่ถามบ้างล่ะบุตรแฝดผู้น่ารักเจ้าของฉายาบุตรนอกสมรสของท่านอยู่ไหน ยังหลับฝันดีอยู่บนเตียงหรือเปล่าน๊า ”
สตรีนางนั้นกล่าว
ด้วยดวงตาที่เปล่งประกายเจ้าเล่ห์
“ เจ้า นังปีศาจร้าย ถ้าลูกของข้าเป็นอะไรไปข้าไม่เอาเจ้าไว้แน่ ”
“ โอ๋ตายจริง ข้าต้องกลัวหรือเปล่านั่น ”
แม้น้ำเสียงนั้นจะแสดงอาการทีเล่นทีจริง
แต่ราชินีวิเวียร่าก็รีบมาที่ห้องนอนของบุตรทั้งสองอย่างรวดเร็ว
ด้วยความรู้สึกหวาดหวั่นว่าจะเกิดสิ่งไม่ดี
เมื่อได้เห็นว่าเด็กน้อยทั้งคู่ยังหลับอยู่บนเตียงก็โล่งใจ
พระนางก้าวขึ้นไปนั่งเคียงข้างบุตรทั้งสอง
แต่เมื่อเปิดผ้าห่มออกดูก็พบว่าที่ซ่อนอยู่ใต้ผืนผ้านั้นมีเพียงโคลงกระดูกและคราบเลือด
มีเพียงส่วนหัวเท่านั้นที่อยู่ครบสมบูรณ์
พระนางกรีดร้องสุดเสียงขึ้นมาในคืนนั้น
สร้างความแตกตื่นทั้งวัง
และราชินีวิเวียร่าก็ได้พบกับความจริงที่ว่า
ทั้งหลายทั้งปวงที่เกิดขึ้นเมื่อครู่
มันคือความฝัน
นอนกลิ้งอยู่กลางเตียงแต่เพียงผู้เดียว เสียงกรุ๊งกริ๊งที่ได้ยินดังมาจากกำไลมากมายที่นางสวมใส่
สตรีนางนั้นยังคงกลิ้งเกลือกไปบนผืนผ้า
ยั่วเย้าราวกับตกอยู่ในห้วงอารมณ์เปลี่ยวเหงา
เฝ้ารอใครสักคนเพื่อปลดเปลื้องปรารถนาร้อนแรงของนาง
แม้สตรีสูงศักดิ์อย่างราชินีวิเวียร่ายังต้องตะลึงในความงามลึกล้ำของนาง
ครั้นเมื่อตั้งสติได้จึงได้เอ่ยถาม
“ เจ้าคือผู้ใดขึ้นมานอนบนเตียงของเจ้าชายได้อย่างไรกัน แล้วเจ้าชายองค์น้อยๆ ของข้าไปไหนเสียล่ะ ”
สตรีนางนั้นปรือตาขึ้นอย่างเกียจคร้าน
บิดร่างลุกขึ้นนั่งด้วยท่วงท่าเชื้อเชิญราวกับหญิงงามเมืองตามข้างถนน
“ บังอาจนักข้าพูดกับเจ้าใยไม่ตอบ ”
“ เจ้าชายตัวน้อยๆ อย่างนั้นหรือ ตายจริงข้าก็นึกว่าโตเป็นหนุ่มแล้ว อย่าห่วงไปเลยนะราชินีของข้าองค์ชายผู้น่ารักของท่านยังสุขสบายดี ข้ามาที่นี่เพื่อมอบความสำราญให้กับเขาตามประสาหนุ่มสาวที่กำลังเติบใหญ่ ”
สตรีนางนั้นกล่าวด้วนอาการฉอเลาะ
“ บังอาจนักสตรีต่ำช้าเจ้ากล้ามาทำเรื่องสกปรกถึงในวังหลวงเลยหรือ ”
ราชินีทรงกริ้ว
แต่นึกอีกทีหากเรื่องนี้รู้ถึงพระเนตรพระกรรณกษัตริย์แฮโรด
บางทีเรื่องนี้อาจส่งผลดีกับนางก็ได้
“ ท่านราชินีเรื่องสกปรกที่ว่า ในกาลก่อนท่านเองก็ช่ำชองมิใช่หรือ ที่แอบไปสมสู่กับสามีชาวบ้านตามสวนหย่อมหรือแม้แต่ในกระท่อมกลางป่า แหมท่านย่อมสูงส่งกว่าข้าอยู่แล้วล่ะ ก็ข้าน่ะแลกเรือนกายเพื่อความอภิรมย์ส่วนตัวเพียงเท่านั้น แต่ท่านแลกทั้งหลายทั้งปวงเพื่อเงินตราและอำนาจ ถ้าข้าคิดได้อย่างท่านป่านนี้คงได้นั่งบัลลังราชินีแห่งโอรีออนแล้ว ทำไงได้ก็เจ้าชายเอลานอสเร่าร้อนเกินอายุให้ข้าเป็นพระมารดาเลี้ยงก็อดร่วงเตียงกันพอดีจริงไหม ”
สตรีนางนั้นว่า
พลางแกว่งโซ่ทองคำเล่น
โซ่เส้นนั้นคล้องข้อเท้าเปลือยเปล่าของนางกับเสาเตียงเอาไว้
ราชินีทรงตกตะลึง
ไม่คิดว่าจะมีคนกล้าท้าทายพระนาง
และยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้รู้เรื่องลับของนางได้อย่างไร
หรือเจ้าชายตัวแสบจะเป็นคนบอกให้นางรู้
“ เจ้าเป็นผู้ใดกันใยจึงสอดรู้ไปทั่ว ”
พระนางเอ่ยถามเสียงดัง
“ ข้าเป็นแค่สตรีเศร้าโศกผู้ถูกพันธนาการด้วยคาวโลกีย์ ดำรงอยู่เพื่อปรนเปรอความสุขแด่ผู้คนทั้งหลายไม่ว่าหนุ่มหรือแก่ไม่เว้นแม้แต่เด็กน้อย ว่าแต่ท่านแอบมาที่ห้องของเจ้าชายเอลานอสยามวิกาลเพื่อกิจอันใด อย่าบอกนะว่าเบื่อกามรสของกษัตริย์ผู้ทรงชราแล้วคิดจะมาหาเศษหาเลยกับเด็กหนุ่มแรกรุ่น แบบนี้ไม่ดีหรอกท่านอย่างน้อยเขาก็เป็นดังบุตรชายของท่านคนหนึ่ง แต่หากว่าทนแรงกำหนัดไม่ไหวอยากอยากปลดเปลื้องเสียให้ได้ข้านั้นสามารถช่วยท่าน ต่อให้เป็นสตรีข้าก็ไม่บ่นจะปรนเปรอให้ถึงพระทัยเลยทีเดียว ”
สตรีแสนงามคนนั้นว่า
พลางเอนกายลงทอดร่างกอดก่ายกับหมอนใบใหญ่
ช้อยหางตามองราชินีวิเวียร่าด้วยท่าทีเชิญชวน
“ เจ้ามันวิปลาส ความคิดช่างสกปรกนัก ใครจะไปคิดเช่นนั้น ”
ราชินีทรงบริภาษ
“ กล้าดีอย่างไรมาล้อเล่นกับข้า รู้หรือไม่ความตายรอเจ้าอยู่อย่าได้คิดว่าเจ้าชายเอลานอสจะช่วยอะไรได้ ”
“ ท่านเข้าใจผิดแล้วข้ามาที่นี่เพื่อช่วยเขาต่างหากล่ะ แต่คนสวยและจิตใจดีเช่นข้า หากท่านร้องขออย่างจริงใจข้าก็ยินดีช่วยท่านเช่นกัน ”
“ ที่นี่คือโอรีออนและข้าคือราชินีเจ้าเป็นแค่หญิงแพศยากล้าเหิมเกริมกับข้ารู้หรือไม่ผลคืออะไร ”
พระราชินีวิเวียร่าทรงชักดาบสั้นประจำกายออกมา
แม้จะเกิดในตระกูลชั้นสูง
แต่ก็เคยฝึกการรบและฆ่าคนมาไม่น้อยเลย
พระนางจึงแกร่งกว่าราชินีทั้งปวง
สตรีนางนั้นจ้องมองสิ่งที่อยู่ในหัตถ์ของราชินี
แล้วทำหน้ามุ่ยด้วยความขัดใจ
แทนที่จะอยู่ในอาการหวาดกลัว
“ กุหลาบขาวหรอกหรือโธ่เอ๋ยข้าชอบสีแดง ”
นางว่า
เสียงกระเง้ากระงอด
ราชินีวิเวียร่าทรงทอดพระเนตรสิ่งที่ถือเอาไว้
แล้วต้องตกพระทัยเพราะมันคือกุหลาบสีขาวดอกใหญ่
งดงามและหอมละมุน
แต่หนามแหลมนั้นได้ทิ่มผ่านเนื้อจนโลหิตไหลนอง
“ ระวังนะเพคะ ของสวยงามล่อตามักมีอันตรายแฝงอยู่ ”
สตรีนางนั้นกล่าวยั่วเย้า
ราชินีโยนกุหลาบทิ้งไป
เหมือนพระนางจะเพิ่งรู้ตัวว่าสตรีตรงหน้านี้
มิใช่อย่างที่นางเห็นหรือคิดว่าเป็น
“ เจ้าเป็นแม่มด ”
สตรีนางนั้นหัวเราะชอบใจ
“ เคยมีเด็กชายตัวน้อยๆ จากเมืองซีนาร์ยกล่าวหาข้าเช่นนั้น ซ้ำยังเหน็บข้าลับหลังว่าเป็นแม่มดใจร้าย แหมไม่นึกว่าท่านซึ่งอายุก็มากแล้วยังกล่าวหาข้าไปทั่วอย่างกับเด็กที่ฝันน้ำนมยังไม่หลุด จ้าน่ะมิใช่แม่มดและไม่เคยใจร้ายด้วย อย่ากล่าวหากันนักเลย ดูสิถูกล่ามโซ่กับขาเตียงแบบนี้ยังทำให้ตนเองหลุดพ้นไม่ได้ แล้วท่านยังไม่คิดช่วยอีกใจดำนัก ”
“ เจ้าเป็นใครต้องการอะไรกันแน่แล้วเจ้าชายเอลานอสล่ะอยู่ที่ใด ”
ราชินีถามด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราด
“ แหม ปากก็บอกว่าข้าคิดสกปรกอยู่ผู้เดียว แต่คำก็ถามเอลานอสอยู่ไหนสองคำก็เอลานอสอยู่ไหน คิดถึงใคร่เสน่หาใจจะขาดแล้วหรือไร ใยไม่ถามบ้างล่ะบุตรแฝดผู้น่ารักเจ้าของฉายาบุตรนอกสมรสของท่านอยู่ไหน ยังหลับฝันดีอยู่บนเตียงหรือเปล่าน๊า ”
สตรีนางนั้นกล่าว
ด้วยดวงตาที่เปล่งประกายเจ้าเล่ห์
“ เจ้า นังปีศาจร้าย ถ้าลูกของข้าเป็นอะไรไปข้าไม่เอาเจ้าไว้แน่ ”
“ โอ๋ตายจริง ข้าต้องกลัวหรือเปล่านั่น ”
แม้น้ำเสียงนั้นจะแสดงอาการทีเล่นทีจริง
แต่ราชินีวิเวียร่าก็รีบมาที่ห้องนอนของบุตรทั้งสองอย่างรวดเร็ว
ด้วยความรู้สึกหวาดหวั่นว่าจะเกิดสิ่งไม่ดี
เมื่อได้เห็นว่าเด็กน้อยทั้งคู่ยังหลับอยู่บนเตียงก็โล่งใจ
พระนางก้าวขึ้นไปนั่งเคียงข้างบุตรทั้งสอง
แต่เมื่อเปิดผ้าห่มออกดูก็พบว่าที่ซ่อนอยู่ใต้ผืนผ้านั้นมีเพียงโคลงกระดูกและคราบเลือด
มีเพียงส่วนหัวเท่านั้นที่อยู่ครบสมบูรณ์
พระนางกรีดร้องสุดเสียงขึ้นมาในคืนนั้น
สร้างความแตกตื่นทั้งวัง
และราชินีวิเวียร่าก็ได้พบกับความจริงที่ว่า
ทั้งหลายทั้งปวงที่เกิดขึ้นเมื่อครู่
มันคือความฝัน
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ