โอรีเวีย 2 ( ล่มสลาย )
6.3
1) หนึ่งปีผ่านพ้น
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหนึ่งปีในโอรีเวียได้ผ่านพ้น หลายสิ่งดำเนินไปแต่บางสิ่งยังย่ำอยู่กับที่ โอรีเวียที่เคยเกรียงไกรบัดนี้กลับมีรอยร้าว ข่าวลือที่สร้างความหวาดระแวงถูกส่งต่อไปทุกวัน แต่ผู้คนก็ยังใช้ชีวิตไปตามปรกติด้วยไม่มีทางเลือกและไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรแน่ จึงได้แต่ก้มหน้าทำตามวิถีเดิมๆ ดังเช่นที่เคยเป็นมา
หลังจากผ่านคืนวันอันโหดร้าย ด้วยอำนาจของผู้ใช้เวทมนตร์ทุกอย่างก็กลับคืนเป็นปรกติ เว้นแต่ผู้ที่จากไปแล้วก็จากไปตลอดการ ไม่อาจหวนคืนมาได้
สำหรับเหตุการณ์โจมตีที่เกิดขึ้นในปราสาทขาว ทางสภาผู้ใช้เวทมนตร์ออกแถลงการณ์ว่าเป็นเพราะครูใหญ่วีแกนทดลองยาโดยพลการจึงทำให้เกิดเรื่องหน้าเศร้าขึ้น และเมื่อผู้ก่อเหตุได้ถึงแก่ความตายแล้วคดีนี้จึงถือว่าจบไป ไม่จำเป็นต้องสอบสวนอีก แม้มีหลายฝ่ายแสดงความกังขากับบทสรุปนี้ แต่ก็ไม่อาจคัดค้านประการใดได้ เพราะนี่คือคำตัดสินของจอมเวทวาลาน
กษัตริย์แห่งอันดอรีสมารับร่างของเจ้าหญิงลูเซียน่ากลับไปด้วยพระองค์เอง เป็นอันปิดฉากข่าวลือที่ว่าพระองค์หายตัวไปหรือแม้กระทั่งที่ว่าพระองค์สวรรคตแล้ว
เด็กนักเรียนหลายคนทยอยกลับบ้านแม้จะยังไม่สิ้นเทอมดี แต่พวกเขาก็ไม่พร้อมที่จะอยู่ในโรงเรียนต่อ หลังจากเกิดเรื่องสยองทางปราสาทขาวจึงสั่งพักการเรียนชั่วคราว แต่ยังมีเด็กอีกหลายคนที่ยังอยากอยู่ในโอรีเวียต่อบางทีบ้านเมืองของพวกเขาคงจะน่ากลัวกว่านี้มาก ผู้ปกครองบางคนต้องมารับร่างบุตรตัวเองกลับบ้านเกิด บางศพได้รับการฝังไว้ที่สุสานหลังเมือง
ครอบครัวพลัดถิ่นแห่งซีนาร์ยยังคงปักหลักอยู่ที่โอรีเวีย ใช้ชีวิตไปตามปรกติราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่ในใจกลับร้อนรนแต่ไม่รู้จะทำเช่นไร พวกเขาช่วยกันทำฟาร์มในที่ดินแปลงหนึ่งนอกกำแพงเมือง เมื่อฤดูเก็บเกี่ยวกำลังผ่านพ้นนั่นก็เท่ากับหนึ่งปีเต็มในโอรีเวีย หนึ่งปีที่มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายและหนึ่งปีที่แทบจะไม่มีข่าวคราวใดๆ จากซีนาร์ย
สี่ชีวิตในบ้านหลังน้อยท่ามกลางทุ่งโล่งต่างยินดีท่วมท้น ผลผลิตปีแรกกลับอุดมสมบูรณ์เกินคาด นั่นเป็นเพราะความอนุเคราะห์ของพ่อมดใจดีนามว่าดีมีน ที่กรุณามาเยี่ยมเยือนพร้อมกับมนต์วิเศษ ในวันที่อาเธอร์ไปรับเด็กๆ กลับมายังฟาร์มนอกเมืองพวกเขาต่างตะลึงตาค้าง ผลผลิตในฟาร์มของเมืองซีนาร์ยสามปียังไม่มากเท่านี้ ข้าวโพดเหลืองอร่ามเต็มทุ่ง มะเขือเทศสีแดงสดใหญ่กว่ากำปั้นของอาเธอร์เสียอีก แม้แต่แอปเปิลที่พวกเขาปลูกเอาใจคาโอเรียหนึ่งปีกลับให้ผลมากมายจนต้องหาไม้ค้ำยันกิ่งเอาไว้
ในตอนแรกพวกเขาต่างกังวลใจว่าจะเก็บผลผลิตทั้งหมดได้อย่างไร แล้วความกังวลก็หมดลงเมื่อคนจากหมู่บ้านนอกกำแพงแห่กันออกมาช่วยเหลือ โดยไม่ยอมรับค่าตอบแทนหรือสินน้ำใจอื่นใด อาเธอร์ทนไม่ไหวขนผลผลิตที่ได้ขึ้นเกวียนเอาไปเทตรงลานกลางหมู่บ้านถึงห้าเที่ยว และไปข่มขู่หัวหน้าหมู่บ้านผู้ชราว่าหากนำไปคืนคงต้องมีเรื่องโกรธกันแล้ว ที่เขาทำเช่นนี้เพราะรู้ว่าคนจากหมู่บ้านล้วนอดอยากและยากจน
หลังจากจัดสรรปันส่วนผลผลิตแล้วพวกเขาจึงนำส่วนที่เหลือไปขายในเมือง ได้เงินมาพอใช้จ่ายอย่างสบายตลอดทั้งปี และถุงทองมรดกสุดท้ายของคุณปู่ก็ยังเหลืออยู่
ในคืนอันแสนสบาย ท้องฟ้าเปิดโล่งอากาศสดชื่นกลิ่นลาเวนเดอร์อบอวล พวกเขาทั้งสี่ต่างออกมาก่อกองไฟนอกบ้านนอนเล่นดูดวงดาวพลางกินขนมปังปิ้งทาเนยสดไปพลาง
ลาเวนเดอร์นั้นคาโลไรน์ผู้เป็นแม่ของเด็กทั้งสองเป็นคนนำมาปลูกไว้รอบบ้าน ตามความเชื่อเดิมพวกเขาจะใช้ดอกลาเวนเดอร์ในพิธีฝังศพ เพื่อปกป้องมิให้ปีศาจร้ายมาชิงเอาดวงวิญญาณไป และด้วยความที่มีเรื่องร้ายๆ เกิดขึ้นมากมายนางผู้ไม่รู้จะทำประการใด จึงนำลาเวนเดอร์มาปลูกรอบบ้าน ด้วยหวังว่ามันจะปกป้องนางและครอบครัวจากสิ่งชั่วร้าย
เด็กหญิงผมสีทองคนนั้นนอนหนุนตักอาเธอร์ในมือถือแอปเปิลหวานฉ่ำ
นางทำตาปรือฟังนิทานที่บิดากำลังเล่า
“ ท่านพ่อไม่เล่าเรื่องของแอลเธอลาสบ้างล่ะ ”
คำถามของบุตรชายคนโต
ทำเอาอาเธอร์ถึงกับหยุดชะงักไปนาน
“ เจ้าอยากฟังเรื่องใดล่ะ ”
ในที่สุดเขาก็เอ่ยถาม
“ เรื่องอะไรก็ท่านพ่อไม่เคยเล่าอะไรเกี่ยวกับคุณอาเลยเป็นเพราะเหตุใดกัน ”
อาเธอร์หลับตา
คิดย้อนไปในวัยเด็ก
เขากับน้องชายคนเดียวต่างรักใคร่สนิทสนมกันดี
จนกระทั่งก้าวเท้าเข้าสู่ปราสาทขาว
ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
เมื่ออาเธอร์เข้าโรงเรียน
น้องชายตัวแสบก็ขอตามไปทั้งที่อายุไม่ถึงเกณฑ์
และดันสอบผ่านทุกขั้นตอนแบบหน้าตาเฉย
เป็นเพราะน้องชายนั้นเก่งกว่ามาก
สอบข้ามขั้นได้อย่างหน้าประหลาด
เขาเองที่ทุกคนให้ความหวัง
กลับกลายเป็นน้องชายตัวเล็กๆ ทำได้ดีกว่า
เสียงสรรเสริญได้เปลี่ยนทิศ
ทุกคนหันไปเอาอกเอาใจแอสเธอลาส
เขาเสียทุกอย่างรวมทั้งความรักจากบิดา
อาเธอร์แบกรับความกดดันมากมาย
แต่ไม่ว่าจะพยายามเพียงใดก็ไม่เคยเป็นผล
จากความน้อยเนื้อต่ำใจจึงกลายเป็นความเกลียดชัง
ใช่เขาเกลียดแอสเธอลาส
ผู้ที่แย่งชิงทุกอย่างไปจากเขา
ภาพสุดท้ายที่เห็นคือแอสเธอลาสร่วงหล่นลงสู่บึงไฟ
ปล่อยเขามีชีวิตต่อไปด้วยความรู้สึกผิดที่ไม่มีวันจางหาย
น้องชายคนนี้ชั่วร้ายเสมอต้นเสมอปลายเสียจริง
หนุ่มใหญ่ถอนหายใจเฮือก
“ คืนนี้ช่างงดงามเหลือเกิน พวกเราอย่าได้รำลึกถึงสิ่งใดที่มันเศร้าโศกเลยนะ ”
เขาว่า
“ นั่นน่ะสิ ”
คาโลไรน์รีบเสริม
นางกำลังสาละวนกับขนมปังบนเตาที่กำลังส่งกลิ่นหอมกรุ่น
นางรู้ว่าคนเป็นสามีกำลังเสียใจ
จึงช่วยเปลี่ยนเรื่อง
“ ท่านพี่ฤดูหนาวปีนี้จะทำเช่นไร อยู่กลางทุ่งก็สบายดี เข้าในเมืองก็อบอุ่น บ้านหลังน้อยแข็งแรงเสบียงก็มีพร้อม ต่อให้มีหิมะมากพวกเราก็ผ่านได้สบาย แต่ถ้าอยู่ในเมืองเด็กๆ คงได้สนุกกัน ”
คาโลไรน์ถามความเห็น
“ แล้วเจ้าคิดว่าอย่างไร ”
อาเธอร์ถามกลับ
“ ข้าก็แล้วแต่ท่าน เด็กๆ ล่ะ ”
นางหันมาหาบุตรทั้งสอง
“ อยู่กลางทุ่งก็สบายแต่ขนมหวานงานเทศการประจำปีก็อร่อย ”
อาโอเรียกล่าวพลางยื่นแอปเปิลให้กระต่ายลูแทะ
“ แล้วเจ้าล่ะฟิโลโซเฟอร์ ”
เด็กชายทำหน้ามุ่ย
“ ข้าอย่างไรก็ได้ ”
เขาว่าด้วยความรู้สึกเบื่อหน่าย
เด็กชายไม่เหลือใครในโอรีเวียแล้ว
เพื่อนๆ ของสองเขาสหายอ้วนผอม
ฟีไลร่าเด็กหญิงแสนสวยแห่งไอโอเนียกับลูกพี่ลูกน้อง
พวกเขาไม่อยู่ที่นั่นแล้ว
รวมทั้งดารีลด้วย
เมื่อเป็นเช่นนั้น
เมื่อไม่มีพวกเขาอยู่ที่ไหนก็เหมือนๆ กัน
“ เอาล่ะถ้าเช่นนั้นเราจะอยู่ที่นี่กลางทุ่งหญ้าในฟาร์มของเรา จนกว่าหิมะแรกจะมาเราค่อยเข้าเมือง หรืออย่างน้อยต้องทันงานเทศกาลประจำปี จริงไหมคาโอเรีย ”
อาเธอร์ว่า
หลังจากผ่านคืนวันอันโหดร้าย ด้วยอำนาจของผู้ใช้เวทมนตร์ทุกอย่างก็กลับคืนเป็นปรกติ เว้นแต่ผู้ที่จากไปแล้วก็จากไปตลอดการ ไม่อาจหวนคืนมาได้
สำหรับเหตุการณ์โจมตีที่เกิดขึ้นในปราสาทขาว ทางสภาผู้ใช้เวทมนตร์ออกแถลงการณ์ว่าเป็นเพราะครูใหญ่วีแกนทดลองยาโดยพลการจึงทำให้เกิดเรื่องหน้าเศร้าขึ้น และเมื่อผู้ก่อเหตุได้ถึงแก่ความตายแล้วคดีนี้จึงถือว่าจบไป ไม่จำเป็นต้องสอบสวนอีก แม้มีหลายฝ่ายแสดงความกังขากับบทสรุปนี้ แต่ก็ไม่อาจคัดค้านประการใดได้ เพราะนี่คือคำตัดสินของจอมเวทวาลาน
กษัตริย์แห่งอันดอรีสมารับร่างของเจ้าหญิงลูเซียน่ากลับไปด้วยพระองค์เอง เป็นอันปิดฉากข่าวลือที่ว่าพระองค์หายตัวไปหรือแม้กระทั่งที่ว่าพระองค์สวรรคตแล้ว
เด็กนักเรียนหลายคนทยอยกลับบ้านแม้จะยังไม่สิ้นเทอมดี แต่พวกเขาก็ไม่พร้อมที่จะอยู่ในโรงเรียนต่อ หลังจากเกิดเรื่องสยองทางปราสาทขาวจึงสั่งพักการเรียนชั่วคราว แต่ยังมีเด็กอีกหลายคนที่ยังอยากอยู่ในโอรีเวียต่อบางทีบ้านเมืองของพวกเขาคงจะน่ากลัวกว่านี้มาก ผู้ปกครองบางคนต้องมารับร่างบุตรตัวเองกลับบ้านเกิด บางศพได้รับการฝังไว้ที่สุสานหลังเมือง
ครอบครัวพลัดถิ่นแห่งซีนาร์ยยังคงปักหลักอยู่ที่โอรีเวีย ใช้ชีวิตไปตามปรกติราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่ในใจกลับร้อนรนแต่ไม่รู้จะทำเช่นไร พวกเขาช่วยกันทำฟาร์มในที่ดินแปลงหนึ่งนอกกำแพงเมือง เมื่อฤดูเก็บเกี่ยวกำลังผ่านพ้นนั่นก็เท่ากับหนึ่งปีเต็มในโอรีเวีย หนึ่งปีที่มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายและหนึ่งปีที่แทบจะไม่มีข่าวคราวใดๆ จากซีนาร์ย
สี่ชีวิตในบ้านหลังน้อยท่ามกลางทุ่งโล่งต่างยินดีท่วมท้น ผลผลิตปีแรกกลับอุดมสมบูรณ์เกินคาด นั่นเป็นเพราะความอนุเคราะห์ของพ่อมดใจดีนามว่าดีมีน ที่กรุณามาเยี่ยมเยือนพร้อมกับมนต์วิเศษ ในวันที่อาเธอร์ไปรับเด็กๆ กลับมายังฟาร์มนอกเมืองพวกเขาต่างตะลึงตาค้าง ผลผลิตในฟาร์มของเมืองซีนาร์ยสามปียังไม่มากเท่านี้ ข้าวโพดเหลืองอร่ามเต็มทุ่ง มะเขือเทศสีแดงสดใหญ่กว่ากำปั้นของอาเธอร์เสียอีก แม้แต่แอปเปิลที่พวกเขาปลูกเอาใจคาโอเรียหนึ่งปีกลับให้ผลมากมายจนต้องหาไม้ค้ำยันกิ่งเอาไว้
ในตอนแรกพวกเขาต่างกังวลใจว่าจะเก็บผลผลิตทั้งหมดได้อย่างไร แล้วความกังวลก็หมดลงเมื่อคนจากหมู่บ้านนอกกำแพงแห่กันออกมาช่วยเหลือ โดยไม่ยอมรับค่าตอบแทนหรือสินน้ำใจอื่นใด อาเธอร์ทนไม่ไหวขนผลผลิตที่ได้ขึ้นเกวียนเอาไปเทตรงลานกลางหมู่บ้านถึงห้าเที่ยว และไปข่มขู่หัวหน้าหมู่บ้านผู้ชราว่าหากนำไปคืนคงต้องมีเรื่องโกรธกันแล้ว ที่เขาทำเช่นนี้เพราะรู้ว่าคนจากหมู่บ้านล้วนอดอยากและยากจน
หลังจากจัดสรรปันส่วนผลผลิตแล้วพวกเขาจึงนำส่วนที่เหลือไปขายในเมือง ได้เงินมาพอใช้จ่ายอย่างสบายตลอดทั้งปี และถุงทองมรดกสุดท้ายของคุณปู่ก็ยังเหลืออยู่
ในคืนอันแสนสบาย ท้องฟ้าเปิดโล่งอากาศสดชื่นกลิ่นลาเวนเดอร์อบอวล พวกเขาทั้งสี่ต่างออกมาก่อกองไฟนอกบ้านนอนเล่นดูดวงดาวพลางกินขนมปังปิ้งทาเนยสดไปพลาง
ลาเวนเดอร์นั้นคาโลไรน์ผู้เป็นแม่ของเด็กทั้งสองเป็นคนนำมาปลูกไว้รอบบ้าน ตามความเชื่อเดิมพวกเขาจะใช้ดอกลาเวนเดอร์ในพิธีฝังศพ เพื่อปกป้องมิให้ปีศาจร้ายมาชิงเอาดวงวิญญาณไป และด้วยความที่มีเรื่องร้ายๆ เกิดขึ้นมากมายนางผู้ไม่รู้จะทำประการใด จึงนำลาเวนเดอร์มาปลูกรอบบ้าน ด้วยหวังว่ามันจะปกป้องนางและครอบครัวจากสิ่งชั่วร้าย
เด็กหญิงผมสีทองคนนั้นนอนหนุนตักอาเธอร์ในมือถือแอปเปิลหวานฉ่ำ
นางทำตาปรือฟังนิทานที่บิดากำลังเล่า
“ ท่านพ่อไม่เล่าเรื่องของแอลเธอลาสบ้างล่ะ ”
คำถามของบุตรชายคนโต
ทำเอาอาเธอร์ถึงกับหยุดชะงักไปนาน
“ เจ้าอยากฟังเรื่องใดล่ะ ”
ในที่สุดเขาก็เอ่ยถาม
“ เรื่องอะไรก็ท่านพ่อไม่เคยเล่าอะไรเกี่ยวกับคุณอาเลยเป็นเพราะเหตุใดกัน ”
อาเธอร์หลับตา
คิดย้อนไปในวัยเด็ก
เขากับน้องชายคนเดียวต่างรักใคร่สนิทสนมกันดี
จนกระทั่งก้าวเท้าเข้าสู่ปราสาทขาว
ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
เมื่ออาเธอร์เข้าโรงเรียน
น้องชายตัวแสบก็ขอตามไปทั้งที่อายุไม่ถึงเกณฑ์
และดันสอบผ่านทุกขั้นตอนแบบหน้าตาเฉย
เป็นเพราะน้องชายนั้นเก่งกว่ามาก
สอบข้ามขั้นได้อย่างหน้าประหลาด
เขาเองที่ทุกคนให้ความหวัง
กลับกลายเป็นน้องชายตัวเล็กๆ ทำได้ดีกว่า
เสียงสรรเสริญได้เปลี่ยนทิศ
ทุกคนหันไปเอาอกเอาใจแอสเธอลาส
เขาเสียทุกอย่างรวมทั้งความรักจากบิดา
อาเธอร์แบกรับความกดดันมากมาย
แต่ไม่ว่าจะพยายามเพียงใดก็ไม่เคยเป็นผล
จากความน้อยเนื้อต่ำใจจึงกลายเป็นความเกลียดชัง
ใช่เขาเกลียดแอสเธอลาส
ผู้ที่แย่งชิงทุกอย่างไปจากเขา
ภาพสุดท้ายที่เห็นคือแอสเธอลาสร่วงหล่นลงสู่บึงไฟ
ปล่อยเขามีชีวิตต่อไปด้วยความรู้สึกผิดที่ไม่มีวันจางหาย
น้องชายคนนี้ชั่วร้ายเสมอต้นเสมอปลายเสียจริง
หนุ่มใหญ่ถอนหายใจเฮือก
“ คืนนี้ช่างงดงามเหลือเกิน พวกเราอย่าได้รำลึกถึงสิ่งใดที่มันเศร้าโศกเลยนะ ”
เขาว่า
“ นั่นน่ะสิ ”
คาโลไรน์รีบเสริม
นางกำลังสาละวนกับขนมปังบนเตาที่กำลังส่งกลิ่นหอมกรุ่น
นางรู้ว่าคนเป็นสามีกำลังเสียใจ
จึงช่วยเปลี่ยนเรื่อง
“ ท่านพี่ฤดูหนาวปีนี้จะทำเช่นไร อยู่กลางทุ่งก็สบายดี เข้าในเมืองก็อบอุ่น บ้านหลังน้อยแข็งแรงเสบียงก็มีพร้อม ต่อให้มีหิมะมากพวกเราก็ผ่านได้สบาย แต่ถ้าอยู่ในเมืองเด็กๆ คงได้สนุกกัน ”
คาโลไรน์ถามความเห็น
“ แล้วเจ้าคิดว่าอย่างไร ”
อาเธอร์ถามกลับ
“ ข้าก็แล้วแต่ท่าน เด็กๆ ล่ะ ”
นางหันมาหาบุตรทั้งสอง
“ อยู่กลางทุ่งก็สบายแต่ขนมหวานงานเทศการประจำปีก็อร่อย ”
อาโอเรียกล่าวพลางยื่นแอปเปิลให้กระต่ายลูแทะ
“ แล้วเจ้าล่ะฟิโลโซเฟอร์ ”
เด็กชายทำหน้ามุ่ย
“ ข้าอย่างไรก็ได้ ”
เขาว่าด้วยความรู้สึกเบื่อหน่าย
เด็กชายไม่เหลือใครในโอรีเวียแล้ว
เพื่อนๆ ของสองเขาสหายอ้วนผอม
ฟีไลร่าเด็กหญิงแสนสวยแห่งไอโอเนียกับลูกพี่ลูกน้อง
พวกเขาไม่อยู่ที่นั่นแล้ว
รวมทั้งดารีลด้วย
เมื่อเป็นเช่นนั้น
เมื่อไม่มีพวกเขาอยู่ที่ไหนก็เหมือนๆ กัน
“ เอาล่ะถ้าเช่นนั้นเราจะอยู่ที่นี่กลางทุ่งหญ้าในฟาร์มของเรา จนกว่าหิมะแรกจะมาเราค่อยเข้าเมือง หรืออย่างน้อยต้องทันงานเทศกาลประจำปี จริงไหมคาโอเรีย ”
อาเธอร์ว่า
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ