Fant World ฝ่า​วิกฤตพิชิต​โลกต่างมิติ

 หลังจากที่เอ็นเสร็จงานต่าง ๆ เรียบร้อยเเล้ว เขาได้สวมเครื่องเล่นเกมแล้วล็อคอินเข้าสู่ระบบอีกครั้ง ทำให้ซีคได้ตื่นขึ้นมาในเวลาประมาณ 3 ทุ่ม

หลังจากตื่นขึ้น ซีคได้เดินออกจากห้องลงบันไดไปร้านค้าขายยา เพื่อซื้อยาฟื้นเลือดและมานาอย่างละ 10 ขวด ฟื้นฟู 150 หน่วย ราคาขวดละ 35 เหรียญ รวมราคา 700 เหรียญ หลังซื้อเสร็จเขาเดินตรงไปที่หน้าประตูเมืองทางทิศเหนือทันที

เมื่อเขาไปถึงหน้าประตูเมือง เขาเดินต่อออกไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร จนได้เจอกับมอนสเตอร์กลุ่มใหญ่ ซึ่งโซนที่ซีคได้เจอนั้นเป็นโซนของคางคกขนเม่น

“เอริน่าช่วยทีสิ เช็คเจ้าพวกคางคกข้างหน้านี้ให้หน่อย ดูว่ามันน่าฟาร์มไหม เพราะไม่มีคนมาฟาร์มเลย มันดูแปลก ๆ ”

เมื่อซีควานให้เอริน่าเช็คให้ ผ่านไปไม่ถึง 1 นาทีก็ได้คำตอบ

“เรียบร้อยเเล้วค่ะนายท่าน นี่คือคางคกขนเม่น ตัวเป็นคางคกขนาดใหญ่ หลังของมันมีขนแหลมคล้ายเม่น ซึ่งขนนี้เป็นเกราะป้องกันอย่างดีให้มัน มันใช้ลิ้นในการโจมตี เป็นมอนสเตอร์สายแทงค์ เลเวลอยู่ที่ 25-30 อาศัยอยู่เป็นกลุ่ม กลุ่มละ 30-35 ตัว แต่อยู่ใครอยู่มัน แม้ว่าเราเข้าไปโจมตี มันก็ไม่เข้ามารุมโจมตีเราค่ะ”

เมื่อซีคได้ข้อมูลจากเอริน่าแล้ว เขาได้วิ่งเข้าไปหาพวกคางคกขนเม่นแล้วพอได้ระยะเขาใช้คมเขี้ยวสีทองเปิดการโจมตีใส่คางคกขนเม่นมันที ตัวที่เขาโจมตีเป็นตัวเลเวล 30 มันโจมตีกลับด้วยการตวัดลิ้นฟาดมาที่ซีค แต่ซีคใช้สกิลฟันหัวฟันปะทะกับลิ้นของมันทันที ทำให้มันเสียจังหวะไปแถมโดนดาเมจด้วย ซีคได้ฟันไปอีก 1 ครั้ง แล้วรอสกิลติดตัวคูณดาเมจพร้อมเพื่อใช้คอมโบกับผ่าหินผ่า ซึ่งผ่าหินผาแรง 200% ของพลังโจมตี แต่คอมโบกับสกิลคูณทำให้แรงขึ้นอีก 50% รวมเป็น 300% ของพลังโจมตีทันที ซีคลุยด้วยทั้งหมดที่มี จัดการคางคกขนเม่นตัวนี้ลงได้ในการโจมตี 16 ครั้ง

“ใช้มานาด้วยนะ แต่ไม่เสียเลือด ที่สำคัญทั้งฟันทั้งแทงทั้งสกิล รวมกันตั้ง 16 ครั้ง ถ้าตีสดอย่างเดียวอาจจะ 30 ครั้งได้เลยมั้ง มันเชื่องช้าแต่เลือดเยอะ ปลอดภัยแต่ต้องใช้เวลา แต่เข้าท่านะตัวเมื่อกี้ดร็อปตั้ง 5 เหรียญ ของดีกว่าแมพส่วนตัวเยอะเลยล่ะ แต่ตอนนี้เห็นมีคางคกตัวใหญ่ตัวนึง น่าจะเป็นบอสที่นาน ๆ จะสุ่มเกิดทีแน่ ๆ ไปลองหน่อยดีกว่า ดูแล้วไอเทมน่าจะดร็อปแบบสวย ๆ งาม ๆ เลยล่ะ”

เขาค่อย ๆ เดินตรงไปที่คางคกขนเม่นตัวใหญ่นั้นอยู่ พอสกิลรีครบ เขาได้พุ่งเข้าโจมตีมันด้วยคมเขี้ยวสีทองทันที เพื่อลดพลังโจมตีของมันและสร้างความเสียหายใส่มันได้รุนแรงขึ้น มันโจมตีสวนใส่ซีค เขาจึงฟันสวนมันด้วยสกิลฟันหัวอย่างตัวก่อน แต่มันกลับทำให้เขากระเด็นกลิ้งไปด้านหลัง 3 ตลบ และมันได้โจมตีใส่ซีคอย่างต่อเนื่อง

“นายท่านคะ ตัวนี้คือคางคกขนเม่นบอส คลาสขั้นสูง เกรด B เลเวล 35 ดูแล้วนายท่านท่าจะลำบากค่ะ ห้ามปะทะตรง ๆ แต่เน้นโจมตีขาทั้งสี่ของมันน่าจะดีที่สุดค่ะ เลือดของมันมีมาก แถมโจมตีได้รุนแรงด้วย”

เอริน่าเตือนซีค เขาทำตามคำแนะนำของเอริน่า เน้นหลบหลีกแล้วโจมตีที่ขาของมัน ไม่ปะทะตรง ๆ การต่อสู้ผ่านไปคครู่นึงซีคจึงสามารถเอาชนะมันได้ด้วยการโจมตีทั้งหมด 112 ครั้ง ของรางวัลที่ดร็อป เป็นเหรียญ 100 เหรียญกับขนคางคกขนเม่น 1 ชิ้น ซีคจึงถอยกลับเมืองหลวงก่อน ระหว่างทางได้สั่งงานเอริน่าไปด้วย

“เอริน่า ช่วยดูให้หน่อยสิ ว่าขนคางคกขนเม่นมันทำอะไรได้บ้าง ราคาซื้อขายในตลอดเป็นยังไง ช่วยดูให้หน่อยละกัน”

เมื่อเดินทางถึงหน้าประตูเมือง เอริน่าได้รายงานผลการตรวจสอบให้ซีคได้ฟัง เขาฟังรายงานไปเดินไป ตรงไปที่ร้านขายยา

“นายท่านคะ ขนคางคกขนเม่นเป็นวัตถุดิบที่สามารถทำเป็นชุดเกราะและผ้าคลุมได้ หรือแม้แต่อาวุธที่ลักษณะคล้ายเชือกหรือแซ่ก็สามารถทำได้ ราคาซื้อขายอยู่ที่ 20-25 เหรียญในเมืองหลวงนี้ค่ะ”

“ขอบใจมากนะเอริน่า ตอนนี้มีเหรียญแค่ 205 เหรียญ สามารถซื้อยาฟื้นฟูมานาได้อีกแค่ 5 ขวด ดูแล้วไปหาช่างตีเหล็กไว้ใช้งานประจำน่าจะดีกว่านะ”

เมื่อพูดจบเขาได้เดินดูร้านตีเหล็กรอบ ๆ เพื่อดูผลงาน ถามราคาสินค้า และค่าเหนื่อยของแต่ละร้าน เพื่อนำมาเปรียบเทียบกันแล้วพิจารณาเลือกร้านประจำ

หลังจากเดินดูสอบถามเรื่องต่าง ๆ ไปทั้งหมด 14 ร้าน เข้าได้ไปสะดุดที่ร้านตีเหล็กร้านที่ 15 ซึ่งเป็นเพียงแค่ร้านเล็ก ๆ ผลงานที่มีก็น้อยนิด งานก็ไม่ละเอียดประณีต แต่เมื่อซีคมองแล้วกลับรู้สึกว่ามันเปี่ยมไปด้วยพลัง เพียงแต่ว่ามันยังไม่สมบูรณ์ ถ้าหากสนับสนุนช่างตีเหล็กคนนี้ซีคน่าจะใช้ประโยชน์จากเขาได้อย่างมากมาย

“สวัสดีครับ เจ้าของร้านอยู่ไหมครับ พอดีว่าผมมีเรื่องอยากปรึกษาหารือพูดคุยด้วยน่ะครับ เรื่องอุปกรณ์นี่แหละครับ”

ซีคได้พูดกับชายคนหนึ่งที่อยู่ในร้าน ความสูงของเขาราว ๆ 190-195 เซนติเมตร ร่างกายกำยำ อายุราว ๆ 25 ปี และเขานั่นเองที่เป็นเจ้าของร้าน

“มีเรื่องอะไรหรอครับ ผมนี่แหละครับที่เป็นทั้งช่างตีเหล็กแล้วก็เจ้าของร้านเลย ควบสองตำแหน่งเลยครับ จะว่าไปมีอะไรให้ช่วยหรอครับ”

ซีคได้เริ่มเจรจากับกับเจ้าของร้านตีเหล็กเพื่อหาข้อสรุปในการทำสัญญาที่เขาอยากจะลองดันให้เป็นช่างตีเหล็กส่วนตัวของเขา

“สวัสดีครับ ผมชื่อซีคนะครับ อาชีพนักผจญภัยเป็นผู้ใช้ทวนและง้าว ผมกำลังมองหาช่างตีเหล็กที่จะมาช่วยงานผมแบบถาวร ตั้งแต่ตอนนี้ไปจนถึงในวันข้างหน้าเมื่อผมตั้งกิลด์ขึ้นมาเขาก็จะเป็นช่างตีเหล็กประจำกิลด์ไปด้วยเลยในตัว”

ช่างตีเหล็กที่กำลังนั่งจัดของได้ยินเช่นนั้นจึงรีบลุกขึ้นยืนทันที เขามีท่าทางตื่นเต้นตื่นตัวเป็นอย่างมาก เขารีบถามซีคกลับในทันที

“แล้วที่มาคุย คือสนใจจะให้ผมเป็นช่างตีเหล็กประจำตัวงั้นหรอครับ แล้วต้องเป็นยังไงถึงจะมีคุณสมบัติสมกับตำแหน่งนั้นครับ”

ซีคเห็นท่าทางว่าเขาอยากจะเป็นช่างตีเหล็กประจำตัว ซีคจึงยื่นข้อเสนอให้กับเขา เพื่อที่จะทดสอบความสามารถพร้อมทั้งยังได้รับอุปกรณ์ใหม่ด้วย

“ถ้าอย่างนั้นผมขอทดสอบคุณหน่อยละกันครับ นี่คือเขี้ยวงูเขียวเขี้ยวทอง ผมจะให้คุณใช้มันทั้งหมด 200 ชิ้นในการทำทวนสั้น 2 เล่ม วัตถุดิบคลาสต่ำ แต่คุณสมบัติความคงทนแข็งแรงนั้นสูงมาก ผมอยากจะรู้เหมือนกันว่าคุณจะทำมันออกมาได้ดีแค่ไหน ตอนนี้ผมใช้ง้าวอสรพิษอยู่ มันทำจากเขี้ยวงูเขียวเขี้ยวทองเหมือนกัน แต่ว่ามันเป็นง้าวคลาสขั้นสูง เกรด S เลยทีเดียว อ้อแล้วนี่ 200 เหรียญถือว่าเป็นค่าจ้างแล้วกันครับ”

ซีควางเขี้ยวงูเขียวเขี้ยวทอง 200 ชิ้นกับเหรียญ 200 เหรียญไว้บนโต๊ะแล้วเดินออกมาจากร้านทันที ไม่แม้แต่จะถามชื่อเจ้าของร้านไว้

“จะว่าไปตอนนี้ยังอยากได้ขนคางคกขนเม่นอยู่เลย แต่คงต้องกลับห้องก่อน ลืมเอาไข่อนาคอนดาห่อผ้าไว้ ยังอยู่ในกระเป๋าอยู่เลย ถ้าฟักออกมาน่าจะมีประโยชน์ไม่น้อยเลย เธอคิดว่าไงเอริน่า”

“เอริน่าเห็นด้วยกับนายท่านค่ะ”

ซีคได้เดินกลับไปที่ห้องพักแล้วเอาไข่ 4 ฟองนั้นห่อผ้าให้ความอบอุ่นไว้อย่างดี ขนาดของไข่นั้นค่อนข้างใหญ่ 2 มือกำไม่รอบเลย เมื่อห่อผ้าให้ไข่เสร็จแล้ว เขาจึงออกจากโรงแรมอีกครั้งแล้วมุ่งหน้าไปยังจุดดร็อปของคางคกขนเม่นทันที

เมื่อไปถึงยังจุดดร็อปคางคกขนเม่น ซีคได้เจอกับพ่อค้าพเนจรคนนึง เป็นชายวัยกลางคนใส่ชุดคลุมดำแบกถุง เขาจึงเอ่ยทักทายขอดูสินค้าเผื่อแลกเปลี่ยนซื้อขายด้วย

“ช้าก่อนครับพ่อค้า มีอะไรดี ๆ มาขายหรอครับ ผมอยากดูสินค้ามากเลยครับ เผื่อมีอันที่น่าสนใจ ขอผมดูได้ไหมครับ”

พ่อค้าหยุดเดินแล้วยืนรอให้ซีคเข้าไปหา เมื่อซีคเข้าไปใกล้ ๆ เขาจึงพูดกับซีคว่า

“มีสิของที่น่าสนใจ ว่าแต่เจ้าเถอะอยากได้อะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า ของข้ามีเยอะแยะมากมาย มีทั้งราคาถูกไปจนถึงแพงมาก ๆ เลยล่ะ”

“ถ้าอย่างนั้นผมขอดูไอเทมเวทย์ที่เอาไว้อัญเชิญมอนสเตอร์ต่าง ๆ จะมีไหมครับ ผมอยากได้มันมากเลยครับ เอาแค่ที่ราคาไม่หนักมากพอครับ”

พ่อค้าจึงหยิบไอเทมอัญเชิญ 3 ชิ้นจากถุงวิเศษของเขา ถุงที่ใส่ยังไงก็ไม่มีทางเต็ม แล้วจะมีเพียงเจ้าของเท่านั้นที่จะเอาสิ่งของออกมาจากในถุงได้

“ตามที่พูดมามีเพียง 3 ชิ้นเท่านั้น ชิ้นแรกเป็นแตรเขาสัตว์เรียกก็อบลิน ชิ้นที่สองเป็นลูกแก้วเรียกวิญญาณที่เอาไว้เรียกอันเดธโครงกระดูก ชิ้นที่สามเป็นปี่ใบไม้เรียกคนป่า มีแค่นี้นี่แหละ”

ซีคสนใจพอสมควรจึงถามรายละเอียดของไอเทมต่อ

“แล้วมันสามารถใช้ได้กี่ครั้ง บ่อยแค่ไหน แล้วจะแข็งแกร่งระดับไหนครับไอ้ตัวที่เรียกออกมา เกรงว่าจะไม่ได้เรื่อง”

พ่อค้าพเนจรรู้สึกว่าซีคน่าสนใจ

“มันสามารถใช้ได้ตลอด เรียกได้ทุก ๆ 6 ชั่วโมง เพราะคูลดาวน์ 6 ชั่วโมง แต่ความแข็งแกร่งจะได้เท่าแค่ตอนที่เรียกครั้งแรกเท่านั้น ส่วนที่ว่ามันจะแข็งแกร่งแค่ไหนอยู่ที่ตอนที่อัญเชิญครั้งแรกนั้น ความแข็งแกร่งและแรงปรารถนาของผู้อัญเชิญมีมากแค่ไหน ถ้าหากมากพอมันก็จะมากตามไปด้วย”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นทำให้ซีคตัดสินใจได้แล้ว

“ราคาของปี่ใบไม้เท่าไรครับ ผมสนใจมัน แค่ถ้าแพงมากก็คงไม่ไหวแน่ครับ”

“เอาสิ ชิ้นนี้ราคา 5,000 เหรียญ เจ้าจะเอาหรือเปล่า”

พ่อค้าพเนจรเสนอราคา 5,000 เหรียญสำหรับปี่ใบไม้ชิ้นนี้ ซีคต้องคิดหนักเพราะว่าเขามีเหรียญติดตัวแค่ 5 เหรียญเท่านั้น

“ท่านพ่อค้า ข้าขอเสนอให้เป็นการแลกเปลี่ยนไอเทมได้หรือเปล่า พอดีข้ามีเขี้ยวงูเขียวเขี้ยวทองอยู่ ข้าขอเสนอให้ท่าน 500 ชิ้นแลกกับปี่ใบไม้ ที่เมืองหลวงส่วนมากจะซื้อขายอยู่ที่ 12 เหรียญ ถ้าเอาไปขายทั้งหมดราคาของมันจะได้ 6,000 เหรียญเลยทีเดียว ถือว่า 1,000 เหรียญเป็นค่าเหนื่อยที่ต้องไปขายมันละกันครับ”

พ่อค้าได้ยินข้อเสนอของซีคแบบนั้นก็อดรับไว้ไม่ได้