ภูผาวายุ
เขียนโดย มุมน้ำเงิน
วันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 เวลา 13.55 น.
แก้ไขเมื่อ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 15.34 น. โดย เจ้าของนิยาย
10) ทักษะที่หน้าทึ่ง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“เชิงดาบของมึง ดูท่าจะได้เรื่องกว่าเชิงมวยเสี ย .......!”
นายสินเอยไม่ทันจบประโยค ภูผาพุ่งตัวเข้ามา พร้อมตวัดดาบฟันเข้าไปที่ลำคอของนายสินอย่างรวดเร็ว
ฉึบบ! หัวของนายสินกระเด็นออกไปในทันที พร้อมกับร่างที่ไร้หัวทรุดลงไปกองอยู่ที่พื้น
“ไอ้สินน” เสียงของนายจันทร์ ที่เดินออกมาจากเรือนนอน เห็นเหตุการณ์พอดี จึงรีบวิ่งไปหยิบดาบจากร่างที่ไร้หัวขึ้นมา ตั้งท่าจ้วงแทงไปที่ภูผาทันที
นัยน์ตาแดงก่ำราวกับทับทิมสีเลือด มีไอสีแดงจางๆโพยพุ่งขึ้นรอบกาย ยังคงท่าทีที่สุขุม มองนายจันทร์ที่กำลังพุ่งทยานแทงดาบเข้ามาหาตน
ภูผาบิดตัวหลบ ดาบในมือนายจันทร์พุ่งผ่านหน้าไป ขณะบิดตัวหลบภูผาตวัดดาบงัดขึ้น ตัดเข้าท่อนแขนของนายจันทร์ทันที
ฉับ! ท่อนแขนของนายจันทร์ขาดออกมาอย่างง่ายดาย ราวกับตัดหยวกกล้วย
นายจันทร์ ยังไม่ทันได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดจากการเสียแขนด้วยซ้ำ ภูผาชักดาบเข้ามาระนาบกับลำตัวของตนแล้วพุ่งฟันเข้ากลางลำตัวนายจันทร์ต่อทันที ก่อนที่จะหมุนตัวไปด้านหลังของนายจันทร์ แล้วแทงเข้าไปที่กลางหลังดาบทะลุอกแล้วชักดาบกลับทันทีด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย
บุญเกิดที่กำลังนั่งมองอยู่ ถึงกับต้องตะลึงประหลาดใจในทักษะการใช้ดาบของภูผา เพราะเท่าที่คลุกคลีกันมาตั้งแต่เด็ก ภูผาผู้ไร้ซึ้งทักษะการใช้ดาบอย่างสิ้นเชิง กวัดแกว่งดาบไปมาไร้ซึ้งเป้าหมาย แต่ภาพเบื้องหน้าที่เห็นอยู่ตอนนี้ ทำให้นึกถึงท่วงท่าอันสุขุม เก่งกาจในการใช้ดาบของวายุพี่ชายฝาแฝดของภูผา แต่ทว่ากลับมีความอำมหิตผิดแปลกไปจากที่คุ้นเคย
ทันใดนั้นบุญเกิดที่นั่งอยู่ใกล้ซุ้มประตูเรือน ได้ยินเสียงคนคุยกันกำลังเดินขึ้นเรือนมา เมือมองลงไปที่เสียงนั้นเป็นชายแปลกหน้าสองคน มีรอยสักเต็มตัวเช่นเดียวกับนายจันทร์และนายสินที่นอนนิ่งอยู่กลางเรือน
บุญเกิดจึงพยายามตะเกียกตะกายลุกขึ้นเตรียมรับสถานการณ์ นัยน์ตาที่แดงก่ำของภูผามองมาทางบุญเกิดยกมือขึ้นห้ามสายหัวเบาๆเป็นสัญญาณว่าไม่ต้องขยับตัว
บุญเกิดเห็นเช่นนั้นจึงพยักหน้าให้แล้วกลับไปนั่งลงตามเดิม เพราะเท่าที่เห็นฝีมือการใช้ดาบของภูผาในขณะนี้เขาจึงวางใจ
ชายแปลกหน้าสองคนเดินขึ้นเรือนมา ผงะหยุดมองดูภาพเบื้องหน้า เห็นนายสินกับนายจันทร์เพื่อนพ้องพี่น้องนอนแน่นิ่งอะเหน็ดอนาถอยู่พื้นชานกลางเรือน
โดยไม่เอยคำใด ชายทั้งสองชักดาบออก ปราดตัวเข้าหาภูผาทันทีด้วยความเคียดแค้น
ภูผาสืบเท้าวิ่งสวนเข้าไป ตวัดดาบด้วยมือข้างเดียวอย่าง
พริบตาเดียวนั้นเองโดยไม่ทันรู้ตัว ชายทั้งสองล้มลงนอนแน่นิ่ง กองอยู่กับพื้นทันที
บุญเกิดแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง ดาบเก่าเล่มนั้นที่ตนเคยถือ มันช่างหนักเหลือเกินสำหรับเขา แต่ภูผากลับกวัดแกว่งได้คล่องแคล่ว ดูเบาราวดุจไม้เรียว
ภูผา ยืนถือดาบที่อาบไปด้วยเลือด แทนที่เลือดจะหยดลงไปบนพื้นแต่หาได้เป็นเช่นนั้น เลือดกลับซึมหายเข้าไปในดาบ สนิมที่เกาะดาบอยู่ ก็ค่อยๆหลุดออก เผยให้เห็นเนื้อแท้ของดาบ สีเงินวาววับขึ้นมาทีละน้อย
ภูผา หันหน้าเดินไปทางร่างที่ไร้วิญญาณที่นั่งพิงเสาเรือนอยู่ คุกเข่าลงเผยสีหน้าโศกเศร้า ก่อนที่จะวางดาบลงหมายจะโอบร่างนั่นเอาไว้
ทันทีที่วางดาบลง ภูผาก็วูบหมดสติลงไปนอนกองอยู่บนพื้นโดยทันที ละอองไอสีแดงที่พวยพุ่งทั่วร่างก็ค่อยๆจางหายไป
บุญเกิดที่นั่งซับเลือดแผลตรงสีข้าง ได้ก้มมองแผลของตนเห็นว่าเลือดหยุดใหล จึงรีบลุกขึ้นวิ่งมาดูอาการของภูผา ที่นอนสลบอยู่เบื้องหน้าของร่างนายสิงห์
ตรวจดูอาการ เห็นว่าภูผาไม่ได้เป็นอะไรมาก เพียงแค่สลบไปเท่านั้น หากอยู่ที่นี่ต่อเกรงว่าจะไม่เป็นการปลอดภัย บุญเกิดจึงพยามจะพยุงร่างของภูผา แต่ก็ได้เหลือบไปมองดาบที่ภูผาใช้เมือครู่ เดิมที่มีแต่ขี้ไคลขี้สนิมเกาะเคอะ บัดนี้กลับแวววับจับตา
บุญเกิดมองไปรอบๆแล้ววางภูผาให้นอนลงอยุ่ในลักษณะเดิม รีบลุกเดินไปหาร่างไร้วิญญาณของครูเทียนที่อยู่ใกล้กัน แล้วจัดการปลดผ้าขาวม้าคาดเอวออก พร้อมยกมือไหว้ขอขมา
ทันทีที่ได้ผ้าขาวม้ามา บุญเกิดรีบก้มเก็บดาบ แล้วใช้ผ้าขาวม้าผื่นนั่นพันดาบเอาไว้โดยมิดชิด แล้วเอามาเหน็บคาดเอวเอาไว้ ก่อนที่จะหันไปพยุงร่างของภูผาลงเรือนไปด้วยความทุลักทุเล
บุญเกิด เดินฝ่าดงหญ้าลัดเลาะมุ่งไปยังเรือนหมอยา บาดแผลที่สีข้างเริ่มมีเลือดไหลซึมออกมา มองออกไปมีกลุ่มควันโพยพุ่งขึ้นมาทางทิศที่ตนกำลังเดินทางไป
พอเข้ามาใกล้ บุญเกิด ต้องตะลึงงันกับภาพเบื้องหน้าอีกครั้ง
————————————-
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ