ภวังค์รักในห้วงฝัน
9.0
เขียนโดย Yajula
วันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2564 เวลา 23.05 น.
19 ตอน
2 วิจารณ์
13.79K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 22.39 น. โดย เจ้าของนิยาย
10) อาการแปลก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่สิบ
อาการแปลก
หลังจากที่ทั้งสองนั่งทานเกี๊ยวกุ้งจนอิ่มหนำ เมศจึงอาสาลุกขึ้นเก็บกวาด ทำความสะอาดทั้งหทด โดยตอบแทนที่หญิงสาวทำอาหารให้ทาน ท่าทางขมีขมันของเขามีความคล่องแคล่วพอตัว ราวกับทำเป็นประจำทุกวัน พวกเขาทั้งสองใช้เวลาอยู่ด้วยกันตลอดทั้งวัน นั่งเล่น นอนบ้าง ไม่มีใครชวนคุยเรื่องงานของตัวเองเลย แยกเรื่องงานไว้ส่วนหนึ่ง เรื่องส่วนตัวไว้ส่วนหนึ่ง แบ่งเวลาให้พอเหมาะพอควร เช่น วันนี้เป็นวันหยุด ควรพักเรื่องงานเอาไว้ก่อน ส่วนวันพรุ่งนี้เป็นวันทำงาน ควรให้เวลากับงานมากกว่า และงานต้องมาก่อนเสมอ
ตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่ม ซึ่งชายหนุ่มจะต้องกลับไปที่คอนโดแล้ว ระหว่างที่เขากำลังไปแล้วนั้น เขาเอ่ยพูดขึ้นทำลายความเงียบด้วยท่าทางปกติ เสมือนชวนคุยเรื่องลม ฟ้า อากาศทั่วไป
“พวกเราเข้ากันได้ดีเนาะ ว่าไหม?” เขามองตรงมายังร่างบางอย่างขอความเห็น หญิงสาวนึกตาม ซึ่งเป็นไปตามในสิ่งที่เขาเอ่ยออกมา ตั้งต่คบกัน พวกเขาไม่เคยทะเลาะกัน ต่างฝ่ายเคารพและให้ เกรียติกันเสมอ
“ใช่” เธอตอบไปตามความจริง เมศพูดต่ออีกทันที
“พวกเราคบกันมาเกือบปี ไม่แปลกไปหน่อยเหรอที่เรายังคงเหมือนเดิม” เขาจ้องมาที่เธออย่างจริงจัง ในขณะเดียวกันพาฝันเริ่มแปลกใจที่จู่ ๆ ร่างสูงที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากประตู เลือกที่จะเอ่ยพูดถึงเรื่องความสัมพันธ์ของพวกเขาขึ้นมาในตอนนี้ ต้องยอมรับว่าพวกเขาทั้งสองเริ่มต้นจากการเป็นเพื่อนนกันมาก่อน ฉะนั้นเธอจะปฏิบัติต่อเขามากกว่าเพื่อนอย่างแน่นอนแต่ต้องใช้เวลาปรับตัว ความใกล้ชิดที่มากเกินไป เธอจะรีบห้ามเขาทันที นี่หรือเปล่า ที่ทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขายังก้ำกึ่งระหว่างเพื่อนกับแฟนอยู่ แต่ว่า...
“แบบนี้ก็ดีแล้ว” เธอก้มหน้าลงพำพึม ด้วยกลัวว่าชายตรงหน้าจะไม่เข้าใจ มือทั้งสองข้างของหญิงสาวกำเข้าหากันแน่น ด้วยความกังวล
เสียงย่ำเดินของคนที่ยืนไม่ไกลดังเข้ามาใกล้หญิงสาว เมื่อมาหยุดอยู่ตรงหน้า มือใหญ่จึงช้อนคางเล็กของเธอขึ้นอย่างแผ่วเบา ทั้งสองต่างมองตากัน ในขณะเดียวกันหญิงสาวรู้สึกตกใจระคนตื่นเต้น ภายในร่างกายกลับร้อนวูบวาบไปหมด และพยายามเลี่ยงที่จะสบตาคนตัวสูงที่อยู่ตรงหน้าอย่างใกล้ชิด มือที่กำแน่นของพาฝัน กำแน่นยิ่งกว่าเดิมอีก
“ถามใหม่”
"ถ้าพวกเราต้องกลับไปเป็นแบบเดิม เธอว่ามันนจะดีไหม?” ความสัมพันธ์ที่ต้องกลับไปเป็นเพื่อนเหมือนเดิม ทำเหมือนเดิม พูดเหมือนเดิม แบบเดิม เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เธอจะทนมองหน้าเขาได้ยังไง ในเมื่อความรู้สึกของเธอได้เปลี่ยนปแล้ว ความสัมพันธ์ที่ก้าวข้ามคำว่าเพื่อนมาได้แล้ว จะให้กลับไปเป็นเหมือนเดิม เธอทำไม่ได้...
พาฝันส่ายหัว
“แต่พวกเราจะอยู่อย่างนี้ไม่ได้”
“แล้วจะให้ฉันทำยังไง” เธอหันกลับมาจ้องเขาทันทีด้วยความไม่เข้าใจ
มือใหญ่ที่อบอุ่นยกขึ้นมาลูบผมยาวของเธออย่างแผ่วเบา ฝ่ามือใหญ่ยังคงวางค้างไว้ ด้วยความที่เธอตัวเล็ก เขาจึงโน้มตัวลงมาใกล้ ทำให้ใบหน้าของพวกเขาอยู่ในระดับเดียวกัน จากนั้นเขาก็เผยรอยยิ้มกว้าง
“รักฉันให้มากขึ้นทุกวันก็พอ”
ตึก ๆ ๆ ตัก ๆ ๆ เสียงหัวใจที่ดังรัวก้องอยู่ข้างใน เป็นของเธออย่างไม่ต้องสงสัย
หัวใจที่เต้นแรงของหญิงสาวเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน มันค่อย ๆ กระตุกเป็นพัก ๆ ลมหายใจเริ่มติดขัด อาการยังแสดงออกมาให้เห็นไม่ชัด เพราะเธอฝืนอดทนไว้ กังวลว่าเมศจะสงสัย คาดว่าอาการเดิม ๆ เริ่มกลับมาอีกครั้ง ใบหน้าที่เอิบอิ่มเต็มไปด้วยความเขินอายของหญิงสาวเปลี่ยนเป็นขาวซีดแทน
“พาฝัน!” เสียงเรียกของเขาแทรกเข้าโสตประสาทของเธอทันที ทำให้เธอรู้สึกตัวทันที หลังจากนั้นเธอเริ่มแอบสูดลมหายใจเฮือกใหญ่เบา ๆ ราวกับช่วยให้ต่อลมหายใจให้เธอได้อยู่ต่อในโลกใบนี้
ใบหน้าที่แสดงถึงความวิตกกังวลของหญิงสาวเผยออกมาอย่างชัดเจน
“เป็นอะไร หืม?”
“ฉันกลัวว่านายจะตื่นไปทำงานพรุ่งนี้ รีบกลับเถอะ ยิ่งดึก ยิ่งอันตราย” เธอเลี่ยงตอบความจริงโดยการบอกให้เขารีบกลับ พร้อมจ้องไปยังนาฬิกาที่แสดงเวลาห้าทุ่มกว่า ซึ่งดึกพอสมควร ถึงแม้ว่าเขาจะขับรถยนต์มา แต่เธออยากให้เขากลับไปนอนพักผ่อนที่ห้องของเขาให้เต็มที่มากกว่า
“ครับ พรุ่งนี้ตอนเย็นรออยู่ที่นั่นนะ” เขาหมายถึงตอนเย็นจะไปรับเธอที่ทำงานพร้อมบอกว่าจะพาไปทานข้าวด้วยกัน แต่น่าเสียดายที่เขาบอกเธอช้า
“ขอโทษนะ พรุ่งนี้ฉันมีนัดกับพลอยแล้วสิ” พาฝันรู้สึกเสียใจและลำบากใจ เพราะทำให้เขาผิดหวังไปแล้วสองครั้ง
“ไปไหนกัน”
“ไปทานข้าว ช่วงนี้พวกเราไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่”
“ร้านที่ไปครั้งนั้นเหรอ” เขาหมายถึงร้านที่เขาไปบังเอิญเจอพลอยกับเธออยู่ที่นั่นพอดี ใช่แล้ว เธอและเขาในตอนนั้นต่างก็อยู่ในช่วงที่กำลัง ติดต่อพูดคุยกัน หลังจากที่พบกันโดยบังเอิญที่ห้างฯ แม้จะเธอรู้สึกผิดที่แอบปิดบังพลอย แต่เพื่อความสบายใจของตัวเอง เธอเลือกที่จะเห็นแก่ตัวแสร้งว่า พึ่งเคยเจอกันครั้งแรกในรอบหลายปี จำได้ว่า วันนั้นเธอพยายามที่จะพูดให้น้อยสุด มีเพียงเมศที่ทำตัวราวกับปกติ
“ใช่ นายจะไปด้วยหรือเปล่า”
“พวกเธอไปกันเถอะ”
“อืม ขอโทษนะ”หญิงสาวมองเขาด้วยแววตาเสียใจ เห็นดังนั้น เมศจึงขยับตัวเข้าใกล้ร่างบางอีกครั้ง พร้อมก้มลงมากระซิบเบา ๆ ที่ข้างหูของหญิงสาว ชวนให้ขนลุกชันไปทั่วร่างกาย “ไม่เป็นไร เอาไว้วันที่เราอยู่ด้วยกันสองคน อย่าลืมทวงรางวัลด้วยนะ เพราะคืนนี้คงให้ไม่ได้แล้วล่ะ” ว่าแล้วเขาก็ผละร่างออกไป และปิดประตูให้เสร็จสรรพ เพียงคำพูดไม่กี่คำของเขา ส่งผลให้เธอตกตะลึงนิ่งค้างอยู่นาน และยังคงยืนเหม่อมองเขาเดินลับหายไปจากหลังประตูบานนั้น
อาการแปลก
หลังจากที่ทั้งสองนั่งทานเกี๊ยวกุ้งจนอิ่มหนำ เมศจึงอาสาลุกขึ้นเก็บกวาด ทำความสะอาดทั้งหทด โดยตอบแทนที่หญิงสาวทำอาหารให้ทาน ท่าทางขมีขมันของเขามีความคล่องแคล่วพอตัว ราวกับทำเป็นประจำทุกวัน พวกเขาทั้งสองใช้เวลาอยู่ด้วยกันตลอดทั้งวัน นั่งเล่น นอนบ้าง ไม่มีใครชวนคุยเรื่องงานของตัวเองเลย แยกเรื่องงานไว้ส่วนหนึ่ง เรื่องส่วนตัวไว้ส่วนหนึ่ง แบ่งเวลาให้พอเหมาะพอควร เช่น วันนี้เป็นวันหยุด ควรพักเรื่องงานเอาไว้ก่อน ส่วนวันพรุ่งนี้เป็นวันทำงาน ควรให้เวลากับงานมากกว่า และงานต้องมาก่อนเสมอ
ตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่ม ซึ่งชายหนุ่มจะต้องกลับไปที่คอนโดแล้ว ระหว่างที่เขากำลังไปแล้วนั้น เขาเอ่ยพูดขึ้นทำลายความเงียบด้วยท่าทางปกติ เสมือนชวนคุยเรื่องลม ฟ้า อากาศทั่วไป
“พวกเราเข้ากันได้ดีเนาะ ว่าไหม?” เขามองตรงมายังร่างบางอย่างขอความเห็น หญิงสาวนึกตาม ซึ่งเป็นไปตามในสิ่งที่เขาเอ่ยออกมา ตั้งต่คบกัน พวกเขาไม่เคยทะเลาะกัน ต่างฝ่ายเคารพและให้ เกรียติกันเสมอ
“ใช่” เธอตอบไปตามความจริง เมศพูดต่ออีกทันที
“พวกเราคบกันมาเกือบปี ไม่แปลกไปหน่อยเหรอที่เรายังคงเหมือนเดิม” เขาจ้องมาที่เธออย่างจริงจัง ในขณะเดียวกันพาฝันเริ่มแปลกใจที่จู่ ๆ ร่างสูงที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากประตู เลือกที่จะเอ่ยพูดถึงเรื่องความสัมพันธ์ของพวกเขาขึ้นมาในตอนนี้ ต้องยอมรับว่าพวกเขาทั้งสองเริ่มต้นจากการเป็นเพื่อนนกันมาก่อน ฉะนั้นเธอจะปฏิบัติต่อเขามากกว่าเพื่อนอย่างแน่นอนแต่ต้องใช้เวลาปรับตัว ความใกล้ชิดที่มากเกินไป เธอจะรีบห้ามเขาทันที นี่หรือเปล่า ที่ทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขายังก้ำกึ่งระหว่างเพื่อนกับแฟนอยู่ แต่ว่า...
“แบบนี้ก็ดีแล้ว” เธอก้มหน้าลงพำพึม ด้วยกลัวว่าชายตรงหน้าจะไม่เข้าใจ มือทั้งสองข้างของหญิงสาวกำเข้าหากันแน่น ด้วยความกังวล
เสียงย่ำเดินของคนที่ยืนไม่ไกลดังเข้ามาใกล้หญิงสาว เมื่อมาหยุดอยู่ตรงหน้า มือใหญ่จึงช้อนคางเล็กของเธอขึ้นอย่างแผ่วเบา ทั้งสองต่างมองตากัน ในขณะเดียวกันหญิงสาวรู้สึกตกใจระคนตื่นเต้น ภายในร่างกายกลับร้อนวูบวาบไปหมด และพยายามเลี่ยงที่จะสบตาคนตัวสูงที่อยู่ตรงหน้าอย่างใกล้ชิด มือที่กำแน่นของพาฝัน กำแน่นยิ่งกว่าเดิมอีก
“ถามใหม่”
"ถ้าพวกเราต้องกลับไปเป็นแบบเดิม เธอว่ามันนจะดีไหม?” ความสัมพันธ์ที่ต้องกลับไปเป็นเพื่อนเหมือนเดิม ทำเหมือนเดิม พูดเหมือนเดิม แบบเดิม เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เธอจะทนมองหน้าเขาได้ยังไง ในเมื่อความรู้สึกของเธอได้เปลี่ยนปแล้ว ความสัมพันธ์ที่ก้าวข้ามคำว่าเพื่อนมาได้แล้ว จะให้กลับไปเป็นเหมือนเดิม เธอทำไม่ได้...
พาฝันส่ายหัว
“แต่พวกเราจะอยู่อย่างนี้ไม่ได้”
“แล้วจะให้ฉันทำยังไง” เธอหันกลับมาจ้องเขาทันทีด้วยความไม่เข้าใจ
มือใหญ่ที่อบอุ่นยกขึ้นมาลูบผมยาวของเธออย่างแผ่วเบา ฝ่ามือใหญ่ยังคงวางค้างไว้ ด้วยความที่เธอตัวเล็ก เขาจึงโน้มตัวลงมาใกล้ ทำให้ใบหน้าของพวกเขาอยู่ในระดับเดียวกัน จากนั้นเขาก็เผยรอยยิ้มกว้าง
“รักฉันให้มากขึ้นทุกวันก็พอ”
ตึก ๆ ๆ ตัก ๆ ๆ เสียงหัวใจที่ดังรัวก้องอยู่ข้างใน เป็นของเธออย่างไม่ต้องสงสัย
หัวใจที่เต้นแรงของหญิงสาวเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน มันค่อย ๆ กระตุกเป็นพัก ๆ ลมหายใจเริ่มติดขัด อาการยังแสดงออกมาให้เห็นไม่ชัด เพราะเธอฝืนอดทนไว้ กังวลว่าเมศจะสงสัย คาดว่าอาการเดิม ๆ เริ่มกลับมาอีกครั้ง ใบหน้าที่เอิบอิ่มเต็มไปด้วยความเขินอายของหญิงสาวเปลี่ยนเป็นขาวซีดแทน
“พาฝัน!” เสียงเรียกของเขาแทรกเข้าโสตประสาทของเธอทันที ทำให้เธอรู้สึกตัวทันที หลังจากนั้นเธอเริ่มแอบสูดลมหายใจเฮือกใหญ่เบา ๆ ราวกับช่วยให้ต่อลมหายใจให้เธอได้อยู่ต่อในโลกใบนี้
ใบหน้าที่แสดงถึงความวิตกกังวลของหญิงสาวเผยออกมาอย่างชัดเจน
“เป็นอะไร หืม?”
“ฉันกลัวว่านายจะตื่นไปทำงานพรุ่งนี้ รีบกลับเถอะ ยิ่งดึก ยิ่งอันตราย” เธอเลี่ยงตอบความจริงโดยการบอกให้เขารีบกลับ พร้อมจ้องไปยังนาฬิกาที่แสดงเวลาห้าทุ่มกว่า ซึ่งดึกพอสมควร ถึงแม้ว่าเขาจะขับรถยนต์มา แต่เธออยากให้เขากลับไปนอนพักผ่อนที่ห้องของเขาให้เต็มที่มากกว่า
“ครับ พรุ่งนี้ตอนเย็นรออยู่ที่นั่นนะ” เขาหมายถึงตอนเย็นจะไปรับเธอที่ทำงานพร้อมบอกว่าจะพาไปทานข้าวด้วยกัน แต่น่าเสียดายที่เขาบอกเธอช้า
“ขอโทษนะ พรุ่งนี้ฉันมีนัดกับพลอยแล้วสิ” พาฝันรู้สึกเสียใจและลำบากใจ เพราะทำให้เขาผิดหวังไปแล้วสองครั้ง
“ไปไหนกัน”
“ไปทานข้าว ช่วงนี้พวกเราไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่”
“ร้านที่ไปครั้งนั้นเหรอ” เขาหมายถึงร้านที่เขาไปบังเอิญเจอพลอยกับเธออยู่ที่นั่นพอดี ใช่แล้ว เธอและเขาในตอนนั้นต่างก็อยู่ในช่วงที่กำลัง ติดต่อพูดคุยกัน หลังจากที่พบกันโดยบังเอิญที่ห้างฯ แม้จะเธอรู้สึกผิดที่แอบปิดบังพลอย แต่เพื่อความสบายใจของตัวเอง เธอเลือกที่จะเห็นแก่ตัวแสร้งว่า พึ่งเคยเจอกันครั้งแรกในรอบหลายปี จำได้ว่า วันนั้นเธอพยายามที่จะพูดให้น้อยสุด มีเพียงเมศที่ทำตัวราวกับปกติ
“ใช่ นายจะไปด้วยหรือเปล่า”
“พวกเธอไปกันเถอะ”
“อืม ขอโทษนะ”หญิงสาวมองเขาด้วยแววตาเสียใจ เห็นดังนั้น เมศจึงขยับตัวเข้าใกล้ร่างบางอีกครั้ง พร้อมก้มลงมากระซิบเบา ๆ ที่ข้างหูของหญิงสาว ชวนให้ขนลุกชันไปทั่วร่างกาย “ไม่เป็นไร เอาไว้วันที่เราอยู่ด้วยกันสองคน อย่าลืมทวงรางวัลด้วยนะ เพราะคืนนี้คงให้ไม่ได้แล้วล่ะ” ว่าแล้วเขาก็ผละร่างออกไป และปิดประตูให้เสร็จสรรพ เพียงคำพูดไม่กี่คำของเขา ส่งผลให้เธอตกตะลึงนิ่งค้างอยู่นาน และยังคงยืนเหม่อมองเขาเดินลับหายไปจากหลังประตูบานนั้น
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ