Look at me มองฉันสิ ‘เฮีย’
เขียนโดย zero0115
วันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 เวลา 17.43 น.
แก้ไขเมื่อ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 17.59 น. โดย เจ้าของนิยาย
10) Chapter 10
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
Chapter 10
คีร์ดีน :
ผมจับมือยูเอลแล้วพาเดินเข้าร้านหนังสือโดยที่ไม่สนใจผู้หญิงคนนั้นเลย ผู้หญิงคนนั้นคือนางแบบที่มาถ่ายเมื่อวันก่อน ผมรู้อยู่ว่าเธอสนใจผม แต่เพราะไอ้ลีโอบอกเธอไปว่าผมมียูเอลอยู่แล้วเลยนึกว่าเธอจะเลิกสนไป แต่ดูเหมือนผมจะคิดผิดเพราะดูจากสาวตาที่เธอมองยูเอลก็รู้ทันทีว่าเธอคิดอะไร ผมเลยตัดบทเพื่อไม่ให้ยูเอลเข้าใจผิดและอยากให้เธอตัดใจ
"ดูอะไรอยู่"
ผมถามคนตัวเล็กที่หยิบหนังสือจากชั้นมาดูแล้วพลิกไปพลิกมา
"หนังสือ...."
"ไอ้เรื่องนั้นน่ะรู้อยู่.."
ผมมองคนตัวเล็กที่ทำหน้านิ่งไม่พูดไม่จาแล้วเอาแต่มองหนังสือโดยที่ไม่สนใจผมเลย ผมแอบมองหนังสือในมือคนตัวเล็ก มันเป็นหนังสือนิยายที่เห็นได้บ่อยในหลายๆ ร้าน ผมรู้สึกแปลกใจนิดหน่อยที่เธออ่านหนังสือแบบนี้เหมือนกัน
"อ่านนิยายด้วยเหรอ"
"อืม.....ทำไม.."
"เปล่า....แค่คิดว่าเธออ่านแต่หนังสือยากๆ ซะอีก"
"ฉันก็อ่านนิยายเป็นปกติ..."
"งั้นเหรอ..."
ผมลอบมองคนตัวเล็กที่ยืนเงียบ ผมเลยลองเงียบบ้างเผื่อเธอจะสนใจ แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผลเพราะคนตัวเล็กไม่แม้แต่จะหันมามอง
"โกรธอะไรรึเปล่า.."
"........ฮะ! "
"ก็เธอเงียบผิดปกติ"
"ฉันก็เงียบแบบนี้ตลอดแหละ..."
ผมมองคนที่ตัดบทไปเฉยๆ อย่างสงสัย จริงอยู่ที่ปกติเธอก็เงียบแบบนี้ แต่วันนี้มันแปลกๆ ผมพอเดาได้ว่าเพราะอะไรเลยรู้สึกดีใจขึ้นมานิดหน่อย แต่เพราะไม่อยากให้คนตัวเล็กโกรธไปมากกว่านี้
ผมเลยคิดแผนการได้อย่างนึง ผมมองไปรอบๆ ร้านว่ามีใครอยู่บ้าง พอเช็คเรียบร้อยผมก็ลอบมองคนตัวเล็กเพราะพวกเราอยู่ในมุมอับที่มีชั้นหนังสือบังอยู่เลยไม่เป็นที่สังเกตเท่าไหร่
"ยูเอล..."
ผมเรียกชื่อคนตัวเล็กให้เจ้าตัวหันมา และเจ้าตัวก็หันมาตามคำเรียก ผมใช้โอกาสนั้นโน้มหน้าเข้าไปหาคนตัวเล็กอย่างรวดเร็ว คนตัวเล็กทำท่าจะเอามือมาดันผม ผมเลยรีบรวบมืออีกข้างที่ไม่ได้จับหนังสือไว้แน่นจนริมฝีปากเราแตะกัน
"อืม........"
เธอครางออกมาเบาๆ ผมทำแค่ประกบปากเท่านั้นเพราะขืนให้ลึกซึ้งตามใจผมแล้วล่ะก็ ตอนกลับได้ถูกยูเอลฆ่าแน่
สักพักผมก็ถอนริมฝีปากออกแล้วหันมาส่งยิ้มให้คนตัวเล็กที่ตอนนี้หน้าเริ่มแดง ไม่รู้ว่าเพราะโกรธหรือเขินกันแน่ แต่ดวงตานี่คิดจะฆ่ากันชัดๆ
"หึ....."
ผมหัวเราะให้กับปฏิกิริยาเธอ เธอมองผมอย่างโกรธๆ นิดๆ แล้วหยิบหนังสือที่เจ้าตัวท่าจะเลือกไว้แล้วเดินไปที่เคาน์เตอร์จ่ายเงิน ผมเดินตามคนตัวเล็กที่ทำหน้ามุ่ยแล้วก็อดยิ้มไม่ได้
"ยังไม่หายโกรธอีกเหรอ"
"........."
เธอนั่งเงียบแล้วหันหน้าไปหากระจกข้างๆ ผมยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้กับท่าทีแบบนั้น ถึงจะรู้สึกผิดอยู่แต่มันก็แค่ครึ่งนึงเพราะอีกครึ่งนึง รู้สึกดีใจสุดๆ
"นี่........"
"........."
"โอเคๆ คราวหน้าจะไม่ทำแล้ว"
"........."
"ยูเอล.....หันมาหาหน่อย"
".........."
ผมมองคนตัวเล็กที่ยังงอนไม่เลิก ปกติผมไม่ชอบที่จะง้อใครแม้กับเพื่อนฝูง แต่กับยูเอลผมรู้สึกเหมือนไม่อยากให้เธอไม่พูดกับผมแบบนี้ ไม่รู้สึกว่าน่ารำคาญเหมือนคนอื่นๆ และไม่รู้สึกว่ามันงี่เง่าเหมือนที่ผมเคยบอกคนอื่นๆ กับรู้สึกว่าคนตรงหน้าน่ารักอย่างบอกไม่ถูก
"ยูเอล....."
ผมมองคนเธอที่ไม่มีท่าทีที่จะมองมาทางนี้เลยต้องงัดแผนสุดท้ายออกมา
".........ยูเอล หันมาหา 'เฮีย' หน่อย"
".........!! "
ผมยิ้มทันทีที่คนตัวเล็กติดกับนั้น เพราะปกติผมชอบเรียกตัวเองว่าฉันมากกว่า เวลาเรียกตัวเองว่าเฮียยูเอลเลยมักจะมีการตอบสนองค่อนข้างมาก และตอนนี้ก็เหมือนกัน
"หายโกรธเฮียแล้วเหรอ”
"........ไม่ได้โกรธ"
เธอพูดแบบนั้นแล้วหันหน้าหนี ผมเลยอมยิ้มกับท่าทีน่ารักแบบนั้น
"งั้นหันมาหาเฮียหน่อยสิ"
"........."
เธอหันมาหาผมอย่างว่าง่าย ผมเลยลูบหัวคนตัวเล็กเบาๆ อย่างเอ็นดู
"หึ เด็กดื้อ"
"เปล่าสักหน่อย"
เธอพูดออกมาเบาๆ แต่ผมได้ยินชัดเลย
สักพักเราก็มาถึงคอนโด ผมเดินลงมาแล้วล็อกรถ แล้วเราสองคนก็เดินเข้าคอนโดไป พอลิฟต์มาถึงชั้นห้องของผม ผมเปิดลิฟต์ให้ยูเอลออกไปก่อนแล้วค่อยเดินตามไป ระหว่างที่เดินอยู่เพราะโทรศัพท์ผมมีไลน์เข้าผมเลยเดินไปเล่นไปเพื่อดูว่าใครไลน์มา
LINE :
Leo : วันนี้เอาไง ไปกินกันมั้ย?
Kill : โทษที วันนี้กูไม่ว่าง!
Leo : อะไรวะ! แล้วพวกมึงที่เหลืออ่ะ
Keydean : กูก็ไม่ว่างว่ะ!
Pasta : เหมือนกัน...
Leo : โห่! อะไรวะ! ไม่ว่างสักคนแบบนี้กูก็เหงาแย่อ่ะดิ!
Kill : เหงาแม่งอะไร! กูเห็นเมื่อวานมึงจูงมือสาวผมทองที่สตูดิโอมา
Keydean : เฮ้ย อะไรวะ! ทำไมกูไม่รู้เรื่อง
Leo : มึงอ่ะไม่ต้องรู้เลย! ไอ้คีร์! ส่วนไอ้คิลล์หุบปากไป
ผมขำกับท่าทีการตอบที่แสนจะมีพิรุธของไอ้ลีโอ จริงๆ ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้หรอกว่ามันมีผู้หญิง แต่แค่รู้สึกตกใจที่มันดูจริงจังกับผู้หญิงคนนั้นถึงจะไม่เคยเห็นหน้าก็เถอะ
ผมเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกงแล้วหันหน้าเดินต่อไป แต่จู่ๆ คนตัวเล็กที่เดินนำอยู่ก็หยุดกะทันหันจนผมชนเธอเธอยืนนิ่งไม่พูดไม่จาแล้วมองไปที่ทางเดินข้างหน้า ผมมองเธออย่างสงสัยแล้วมองไปทางที่เธอหยุดมอง ข้างหน้าพวกเรามีผู้ชายคนนึงสวมเสื้อกันหนาวมีฮู้ดสีดำ ไม่ใช่แค่เสื้อหรอก ทั้งตัวเขาเป็นสีดำตั้งแต่หัวจรดเท้า เขายืนพิงประตูห้องผมโดยที่สายตาจับจ้องไปที่โทรศัพท์
"..........นาวา.."
ผมนิ่งไปทันทีที่คนตัวเล็กพูดชื่อๆ นึงออกมา เธอทำหน้าตกใจแล้วค่อยๆ เดินไปหาผู้ชายคนนั้น
"........."
ผมมองยูเอลที่เดินเข้าไปใกล้ๆ ผู้ชายคนนั้นโดยที่ไม่สนใจผมเลย นั้นทำให้ในใจผมเริ่มร้อนขึ้นทันที
ยูเอล :
ฉันค่อยๆ เดินเข้าไปหาคนที่ยืนพิงประตูห้องเฮียคีร์อยู่ แต่ดูเหมือนคนที่ยืนอยู่จะรู้ตัวว่าฉันมา เขาหันมาหาฉันแล้วยิ้มให้เหมือนทุกครั้งที่เจอกัน แล้วค่อยๆ เดินเข้ามาหาฉัน
"ไม่เจอกันนาน โตขึ้นเยอะเลยนะ...ยูเอล"
"ทำไมมาอยู่นี่ได้"
"เพราะมีเรื่องจะคุยด้วยน่ะสิ"
".........เฮียทันเหรอ"
"อืม...."
เราสบตากันนิ่งๆ ถึงจะไม่ได้พูดแต่ฉันก็รู้ว่าเขาคิดอะไร
"เรื่องที่พัก....หาให้แล้วล่ะ"
"ขอบใจ แต่ก่อนหน้านั้นฉันมีของฝากมาให้"
"ขอบใจ....."
ฉันก้มลงมองถุงกระดาษอย่างดีที่ได้รับจากนาวา ข้างในเต็มไปด้วยขนมมากมายที่ฉันชอบกินมาก ฉันเงยหน้าไปขอบใจนาวา แต่ก็ต้องชะงักเมื่อจู่ๆแขนฉันก็ถูกดึงจากข้างหลังจนฉันเซ
"แกเป็นใคร..."
เสียงเข้มพูดขึ้น ฉันรับรู้ได้ถึงอารมณ์ที่ร้อนขึ้นของเฮีย เลยเดินเข้าไปดันเฮียให้ออกห่างนาวา
"ใจเย็นสิเฮีย.."
"งั้นก็บอกมาสิ! ว่ามันเป็นใคร"
"ก็บอกแล้วไงว่าเพื่อนที่ต่างประเทศ"
"แน่ใจเหรอ? ว่ามัน..."
"แน่ใจสิ"
ฉันหันไปหานาวาที่พูดแซกขึ้นมา เฮียและนาวาสบตากันนิ่งๆ สักพักแล้วเฮียคีร์ก็เป็นคนเปิดปากพูดต่อ
"ว่าไงนะ? "
"ฉันบอกว่า แน่ใจสิ! "
"........"
"ไม่ต้องห่วงหรอกว่าฉันจะแย่งยูเอลไป"
".......ทำไม"
"เพราะฉัน....ไม่มีรสนิยมชอบเพศเดียวกันหรอกนะ"
ฉันชะงักไปทันทีที่นาวาพูดแบบนั้น แต่ที่ช็อกกว่านั้นคงเป็นเฮียที่อึ้งจนไม่สามารถพูดอะไรได้ นาวาหันมายิ้มให้ฉันอย่างสบายใจ ทั้งที่ตอนนี้ฉันร้อนใจแทบตาย ใช่....'นาวา' เป็น 'ผู้หญิง'
"มะ หมายความว่าไง"
"ก็หมายความว่าฉันเป็น 'ผู้หญิง' ไง"
"จริงอ่ะ!! "
"อืม...ไม่เชื่อก็พิสูจน์ได้นะ"
เฮียหันมาหาฉันอย่างงงๆ ฉันเลยได้แต่หันไปพยักหน้าว่าใช่อย่างที่นาวาพูดทั้งหมด จริงๆ ฉันรู้เรื่องนี้มาตั้งแต่ตอนเจอกันครั้งแรกแล้ว แต่เพราะเจ้าตัวบอกให้เก็บเป็นความลับ ฉันเลยได้แต่แน่นิ่งไว้ แต่ตอนนี้เจ้าตัวดันเปิดเผยซะเองเลยไม่รู้จะทำยังไง
"เอาเป็นว่า...เข้าห้องก่อนเถอะ"
เฮียเปิดประตูห้องอย่างว่าง่ายโดยที่ไม่ถามอะไรต่ออีกเลย จริงๆ คือไม่ได้พูดอะไรแม้แต่คำเดียวเลยต่างหาก
"เห! ห้องใหญ่เหมือนกันนี่"
"ก็อยู่สองคนนี่นา..."
"นั้นสินะ งั้น....มาคุยธุระให้เสร็จกันดีกว่า"
"อืม..."
นาวานั่งลงบนโซฟาตรงข้ามกับฉัน แล้วเฮียก็เดินเข้ามาเพื่อเอาน้ำมาให้
"ฉันจะไปทำงานต่อ คุยกันได้เลย"
"ขอบใจ...นายเองก็เป็นคนดีนะ"
เฮียกับนาวามองตากันนิ่งๆ เหมือนจะพูดอะไร แต่สุดท้ายเฮียก็เป็นฝ่ายเดินเข้าห้องไปเงียบๆ
"แล้ว....มีเรื่องอะไร"
"ทันเดอร์....กำลังตามหาฉันสินะ"
"อืม...”
"เรื่องที่ฉันปลอมตัวเป็นผู้ชาย...ฉันไม่เคยบอกใครนอกจากเธอเลย"
"แม้แต่เฮียทันด้วยเหรอ..."
"ใช่....แม้แต่หมอนั้น..."
นาวาเงียบลงแล้วเริ่มทำหน้าจริงจังขึ้น ปกติเธอจะเป็นคนใจเย็นและมักยิ้มเสมอ แต่มีแค่เรื่องๆ เดียวเท่านั้นที่สามารถทำให้นาวากลุ้มใจได้
"แล้วจะเอาไง..."
"ช่วยส่งแผนที่ที่อยู่ใหม่และข่าวคราวของทันเดอร์มาให้หน่อยสิ"
"เรื่องนั้นน่ะได้อยู่...แต่...."
"อะไร"
ฉันวางแก้วน้ำที่ตั้งอยู่ตรงหน้าลงช้าๆ แล้วนั่งคิดสักพักว่าควรพูดดีหรือไม่พูดดี
"เธอจะหนีเฮียทันไปถึงไหน.."
"......."
"ทำไมไม่เผชิญหน้ากับเฮียทันให้จบเรื่องล่ะ"
"......ถ้ามันง่ายแบบนั้น..ฉันคงทำไปแล้ว"
ฉันมองหน้านาวาที่เริ่มฉายแววเศร้าขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ฉันรู้เรื่องความสัมพันธ์ของเฮียทันกับนาวาอยู่หรอก แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากให้พวกเขาตัดสินใจเอง เพราะพวกเราเป็น 'เพื่อน' ไงล่ะ
หลังนาวากลับไปเฮียก็ออกมาจากห้องพอดี เฮียไม่ได้ถามอะไรและทำตัวปกติทุกอย่าง ฉันเลยไม่ได้พูดอะไรมากแต่พอเวลาผ่านไปฉันเองต่างหากที่เป็นฝ่ายร้อนใจแปลกๆ
"เฮีย...."
ฉันหันไปถามเฮียที่นั่งพิงหัวเตียงอยู่ข้างๆ ในขณะที่จ้องมองหน้าจอคอมพิมเตอร์
"อะไร"
"......ไม่ถามงั้นเหรอ"
"เรื่องอะไร"
"เรื่องนาวา...."
เฮียหยุดพิมพ์กะทันหันจนฉันแอบหวั่นใจ แต่หลังจากนั้นก็เริ่มรู้สึกอุ่นใจขึ้นเพราะเฮียยื่นมือมาลูบหัวอย่างอ่อนโยนแล้วยิ้มให้
"ไม่นี่...ก็เธอเล่าแล้ว"
"........"
"แล้วเฮียก็เชื่อด้วย"
ฉันปัดมือเฮียทันทีที่เขาเรียกตัวเองว่า 'เฮีย'อีกแล้ว ไม่ใช่ว่าไม่ชอบหรอก แค่รู้สึกว่าเขาชอบแกล้งฉันเรื่องนี้บ่อยๆ จนหมั่นไส้
"อะไร...ไม่ชอบให้เรียกตัวเองว่าเฮียเหรอ"
"เปล่า...แต่เฮียชอบแกล้ง"
"เปล่าสักหน่อย แค่เรียกตามปกติเอง"
"โกหกชัดๆ ...."
ฉันพูดเสียงเบาอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์ แต่ก็ไม่วายที่เฮียจะได้ยินแถมพอได้ยินแล้วยังยิ้มเจ้าเล่ห์ให้อีก
เพราะวันนี้เป็นเช้าวันอาทิตย์ ฉันกับเฮียเลยได้แต่นั่งดูทีวีอยู่ที่ห้องไม่ออกไปไหน แต่จริงๆ บางครั้งฉันก็อยากอยู่บ้านแล้วได้พักผ่อนแบบนี้เหมือนกัน
ตืด....ตืด.....ตืด.....
ฉันหยิบเอาโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะมารับโดยที่ลืมดูชื่อผู้โทรไปซะสนิท
(น้องยูเอล.....นี่พี่เองนะ)
"พี่....อ้อ พี่แพรว"
(ดีใจจังที่ยังจำกันได้!)
"มีอะไรเหรอคะ"
(เรื่องดาวคณะน่ะ คือว่า....)
"........อ้อ หนูเองก็มีเรื่องจะบอกเกี่ยวกับเรื่องนั้นเหมือนกันค่ะ"
(งั้นเหรอ งั้นยูเอลพูดก่อนเลยก็ได้)
"พอดี เฮีย...เอ่อ พี่ชายหนูเขาไม่อนุญาตให้เข้าแข่งน่ะค่ะ"
(เอ้ะ! จริงเหรอ จริงๆ พี่เองก็จะบอกว่าพี่อยากจะเปลี่ยนดาวเป็นคนอื่นพอดี)
"ถ้างั้น..."
(ใช่ เรื่องนี้คงเป็นอันว่าโมฆะแล้วกันนะ เดี๋ยววันหลังพี่จะเลี้ยงเค้กเป็นการขอโทษนะ)
"ค่ะ...."
เธอตัดสายไปดื้อๆ จนฉันแอบแปลกใจ แต่เพราะตั้งแต่ทีแรกเธอดูรีบอยู่แล้วเลยไม่ได้เก็บเอามาคิดอะไรมาก
"เรื่องดาวคณะเหรอ"
"อืม..."
แล้วเฮียก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเลย แต่ฉันรู้ดีว่าตอนนี้เฮียกำลังอารมณ์ดีเพราะคนที่บอกห้ามไม่ให้เป็นดาวคณะคือเฮียคีร์นั่นแหละ ตอนแรกก็รู้สึกหนักใจอยู่หรอกว่าจะบอกพวกพี่แพรวยังไงดี แต่ได้ยินคำตอบแบบนี้ก็รู้สึกโล่งใจขึ้นเยอะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ