ฮักเพียงเจ้าสุดหทัย (omegaverse)

-

เขียนโดย มิมาลินทร์

วันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2563 เวลา 11.34 น.

  8 บท
  0 วิจารณ์
  6,353 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2563 20.39 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

5) แผนการสลับตัว

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
วันอาทิตย์ เวลา 02.30 น.
     ตอนกลางดึกของวันนั้น อาลินนอนไม่หลับเลย เหตุผลเพราะต้องไปสลับตัวกับน้องในวันที่เข้าหอ....เวลาคือพรุ่งนี้ตอนเย็น ซึ่งทางครอบครัวมาซาเอลทุกคนรู้เรื่องนี้ดีและไว้วานขอร้องให้อาลินช่วยเหลือน้องสาวอย่างเต็มที่ ส่วนจาฟาร์ไม่ยอมออกความคิดเห็นอะไรทั้งสิ้น เขาเป็นคนเดียวที่รู้สึกว่าไม่มีใครควรรับผิดชอบกับเรื่องนี้ไม่ว่าจะเป็นจามิทร์หรืออาลินก็ตาม
      ถึงแม้อาลินจะแอบรักหลาง นั้นไม่ได้หมายความว่าเขาจะยอมเป็นของหลางง่ายๆ โดยใช้แผนกลลวงแบบนี้ อาลินเพียงแค่หวังให้มีชายสักคนที่รักเขาและเขาก็รักชายคนนั้นตอบสร้างครอบครัวด้วยกันแต่นี้มันต่างออกไป หลางไม่ได้รักเขาหลาสมเพชแค่ยอมทำตามข้อตกลงของจาคีฟที่ได้ยื่นเอาไว้เพื่อที่จะได้จามินทร์มาครอบครอง แต่เรื่องมันกลับวุ่นวายไปหมดกลายเป็นว่าอาลินต้องมาแต่งงานแทนน้องสาวเพราะเจ้าหล่อนเลือกที่จะบอกพ่อของหล่อนไปตรงๆ ว่าหล่อนไม่ได้ชอบผู้ชาย มีหรือว่าคนที่เป็นพ่อคนจะยอมให้ลูกไปทรมานฝืนใจแบบนั้น
      อีกอย่างที่สำคัญคือไม่รู้ว่าหลางจะจัดการกับคนนอกแผนแบบเขาอย่างไรหากเขารู้ว่าอาลินไม่ใช่จามินทร์ เขาจะโดนหลางกลั่นแกล้งยังไงบ้างก็ไม่อาจรู้ได้ ความคิดต่างๆ เหล่านี้ทำให้อาลินที่นอนอยู่บนเตียงนอนพลิกไปพลิกมาอยู่หลายรอบ ร่างบางจึงตัดสินเดินออกมาจากห้องนอนของตนเพื่อไม่ให้กดดันอยู่ภายในห้องสี่เหลี่ยมที่อุดอู้นานๆ เขาตรงไปยังห้องครัวหยิบนมจากตู้เย็นขึ้นมารินใส่แก้วแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ อาลินๆ ค่อยๆ จิบนมไปทีละนิด ท่ามกลางความเงียบงันก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น เป็นเสียงผู้หญิงคนหนึ่งเอ่ยถามอยู่ไม่ไกลจากเขามากนัก
     “อาลิน ยังไม่นอนหรอลูก”เสียงที่ว่าคือแม่ของเขานั้นเอง หล่อนถามพลางเดินเลี้ยวไปตู้เย็นข้างๆ โต๊ะอาหารแล้วหยิบน้ำส้มมารินดื่มและหันมองเด็กหนุ่มผิวขาวเนียนดื่มนมอึกใหญ่ราวกับว่าฝ่ายนั้นมีอะไรบางอย่างที่อยู่ภายในใจถึงกินมากขนาดนั้น
     “ครับแม่ ผมรบกวนแม่รึเปล่า” อาลินขานรับและเอ่ยถามแม่ของตนกลับไปบ้าง เขากลัวว่าการที่เขาเดินมาในห้องครัวแล้วทำกิจกรรมเหล่านี้ จะส่งผลทำให้ครอบครัวคนอื่นๆ ที่นอนอยู่จะตื่นเข้ารึเปล่า? 
     “ไม่จ้ะ แม่ก็นอนไม่หลับเหมือนกัน หนูโอเครึเปล่า” หล่อนพูดพลางยิ้มให้และเดินตรงมานั่งตรงเก้าอี้ที่ว่างฝั่งตรงข้ามของอาลิน การกระทำของหล่อนทำให้อาลินโล่งใจขึ้นมาว่าตนไม่ได้เป็นต้นเหตุที่ทำให้แม่ต้องตื่นกลางดึก สายตาของอาลินกลับไปเหม่อลอยอีกครั้ง
     ตัวของหล่อนเมื่อได้เห็นท่าทางของลูกที่แปลกไปตั้งแต่ลักษณะการดื่มนมจนไปถึงการเหม่อลอยแบบตอนนี้ ทำให้ตัวหล่อนเองรู้สึกไม่สบายใจไปด้วย หล่อนไม่ได้เห็นดีเห็นงามกับการที่ลูกชายต้องไปแต่งงานนัก แต่การที่จะให้เด็กสาวตัวน้อยอย่างจามินทร์ที่ยังเด็กมากไปแต่งงานก็ไม่เหมาะสมเช่นกัน สถานการณ์ที่มันลงเอยเป็นแบบนี้ก็เพราะมันถูกบีบจนทางตันไปหมดจึงเป็นสาเหตุที่หล่อนนอนไม่หลับในคืนนี้
     “ถ้าย้ายไปอยู่ที่นั่นแล้ว หนูรู้สึกไม่ดี หรือรู้สึกโดดเดี่ยว ก็โทรมาหาแม่ พ่อ จาฟาร์ จามินทร์ได้นะ ทุกคนรักลูกและสิ่งที่ลูกทำไปมันคือการเสียสละ สำหรับแม่นะการที่จามินทร์ต้องไปแต่งงานมันเร็วไป” หล่อนค่อยๆ เลื่อนมือที่จับแก้วน้ำส้ม ไปกุมมือลูกของตัวเองเบาๆ หล่อนทำได้เพียงแค่นี้จริงๆ และหวังว่าอาลินจะรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง ไม่มีแม่คนไหนอยากให้ลูกของตัวเองเป็นทุกข์แม้เด็กคนนี้จะไม่ใช่ลูกของหล่อนจริงๆ ก็ตาม
     “ครับแม่”อาลินพูดพลางลูบมือมารดาของตนกลับเป็นเชิงบอกว่าเขายังรู้สึกไหวอยู่
     “ก่อนลูกจะต้องไปอยู่ที่นั่น แม่อยากให้ลูกจำคำสอนแม่ไว้อย่างหนึ่งนะ” ในระหว่างที่มารดากำลังบอกกล่าวอยู่นั้น อาลินก็ทำหน้าสงสัยอยู่ครู่หนึ่ง หล่อนจึงพูดบทสนทนาต่อทันที
     “ความรักที่ประเสริฐที่สุด คือการเห็นที่คนเรารักมีความสุข เราต้องให้อภัยคนรัก ยามเมื่อทำผิดและเสียสละในยามที่เขาลำบากเหมือนที่ลูกทำอยู่ตอนนี้ ถ้าแม่เลือกได้ แม่ไม่อยากให้ใครต้องไปแบกรับภาระนี้ด้วยซ้ำ คนที่ก่อปัญหาควรที่จะแก้ปัญหาถูกไหมลูก”
     “ผมกลัว กลัวที่ต้องไปหลอกลวงเขา เขาอาจจะเกลียดผมก็ได้”
     “ลูกก็แค่...คอยเตือนตัวเองตลอดว่าสิ่งที่ลูกทำอยู่ทำไปเพื่ออะไร”
     “ครับ” อาลินพยักหน้ารับในสิ่งที่แม่ของเขาสอน ก่อนจะลุกเดินไปหาแม่ที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับเขาเพื่อจะไปกอดแม่ของตัวเองเป็นครั้งสุดท้ายที่มีโอกาสเพราะไม่รู้ว่าในวันพรุ่งนี้เข้าจะต้องเจอเรื่องโหดร้ายอะไรบ้าง
     ทางด้านของจาฟาร์เอาแต่ขังตัวเองอยู่ในห้องทั้งคืน เดิมที่เจ้าตัวก็โกรธมากอยู่แล้วที่น้องสาวของตนต้องไปแต่งงาน แต่อยู่ๆ กลายเป็นว่าครอบครัวเห็นพ้องกันว่าจะเปลี่ยนเป็นส่งน้องชายไปแทนยิ่งทำให้เขารู้สึกผิดเข้าไปใหญ่
     มันเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก มันมีทั้งความโกรธต่อพ่อในเรื่องที่อาลินต้องมารับผิดในสิ่งที่ไม่ได้ก่อและเสียใจที่ตัวของพี่ชายแบบเขาไม่เคยช่วยอาลินได้สำเร็จเลยสักครั้ง เขามักเงียบและโต้ตอบบ้างเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเวลาน้องของตัวเองมีปัญหาไม่ว่าพ่อจะทำอะไรกับน้องก็ตาม จาฟาร์รู้สึกว่าเขาเป็นพี่ชายที่ไม่ดีพอและเขาคิดว่าอยากทำอะไรสักอย่างเพื่อปกป้องน้อง เพื่อที่จะช่วยเหลือน้องอย่างแท้จริงก่อนที่ต้องจากกัน
วันอาทิตย์ เวลา 10.30 น.
     งานแต่งของจามิทร์และหลางถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายและคนที่เข้าร่วมงานแบบเป็นกันเองคือ พ่อของหลางและฝ่ายครอบครัวของทางมาซาเอล แน่นอนว่าสื่อข่าวดังต่างๆ ไม่ได้ถูกรับเชิญมาในงานนี้จึงนับว่าแทบจะเป็นการแต่งงานแบบลับๆ เลยก็ว่าได้ ทั้งชุดแต่งงานของคู่บ่าวสาวนั้นก็เป็นชุดที่ทั้งคู่ไม่ได้เป็นผู้เลือกแต่เป็นชุดที่ถูกแก้ทรงแก้สัดส่วนจากช่างโดยการจ้างให้ทำแบบรวดเร็ว ส่วนสถานที่เองก็เป็นโบสถ์เล็กๆ ในชนบทที่ไม่ห่างไกลจากตัวเมืองมากนัก ซึ่งทางจาคีฟได้เป็นคนติดต่อเอาไว้เพราะรู้จักกับบาทหลวงที่นั่น สาเหตุที่งานแต่งต้องดำเนินไปในแบบคริสต์เพราะทุกคนในตระกูลมาซาเอลนั้นนับถือพระผู้เป็นเจ้า ยกเว้นอาลินเพียงคนเดียวที่ไม่มีศาสนาที่นับถือ ในช่วงกลางดึกของเมื่อคืนจาคีฟยื่นคำขอให้หลางผ่านโทรศัพท์ไว้หนึ่งเรื่องก่อนที่จะยอมให้ลูกสาวของตนแต่งงานในเช้าวันนี้
     ฝ่ายของหลางก็ยินยอมเพราะเขาได้หล่อนมาแบบฟรีๆ ไม่มีสินสอด ฝ่ายพ่อตาอยากได้อะไรบ้างหลางก็ยินดีพร้อมที่จะทำให้ สิ่งที่ว่าก็คือการขอให้จดทะเบียนสมรสสามวันหลังจากแต่งงานกันแล้วแทนการที่จะแต่งงานพร้อมจดทะเบียนสมรสในทันทีรวมทั้งขอให้ห้องหอของทั้งคู่เป็นคอนโดที่ทางตระกูลมาซาเอลเตรียมเอาไว้ หลางได้ยินแบบนั้นก็เห็นว่าไม่ใช่ปัญหาอะไรใหญ่โต สำหรับเขาจะจดทะเบียนสมรสเมื่อไหร่ก็ได้เป็นสามีภรรยากันอยู่วันยังค่ำ แต่เขาหารู้ไม่ว่าสิ่งที่จาคีฟขอมีเหตุมีผลเพราะเขาได้วางแผนกับครอบครัวแล้วในการสลับตัวเอาไว้แล้ว
     “…ข้าพเจ้า..หลาง หยงไช้ ขอรับ มาซาเอล จามินทร์เป็นภรรยา และขอสัญญาว่า จะถือซื่อสัตย์ต่อคุณทั้งในยามสุข และยามทุกข์ ทั้งในเวลาป่วยและเวลาสบาย เพื่อรักและยกย่องให้เกียรติคุณจนกว่าชีวิตจะหาไม่” เสียงของหลางที่พูดเอ่ยตามพิธีอย่างมีความสุขโดยมีเด็กสาวที่ใส่ชุดแต่งงานเป็นเดรสขาวลายลูกไม้กระโปรงบานสั้นปะเข่าและใส่เครื่องเพชรตามที่ฝ่ายชายมอบให้สวมใส่ดูเป็นสง่ายืนอยู่เคียงข้างกับหลาง
     หล่อนคือรักแรกที่เขาถวิลหามานานแสนนานและเป็นรักแรกตั้งแต่วัยเยาว์ ทางหล่อนก็มองตาหลางพร้อมยิ้มให้เขาเช่นกัน หากแต่เป็นยิ้มที่ช่างแห้งเหือดและฝืดคล้ายแสร้งให้มีความสุขเป็นเท่านั้น ไม่นานหลังจากนั้นหล่อนเองก็ต้องเอ่ยพูดในประโยคที่คล้ายคลึงกันตามขั้นตอน
     พิธีดำเนินไปอย่างเรียบง่ายและเงียบสงัด จามินทร์ไม่อาจมีความสุขได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น โชคยังดีบ้างที่อาลินพี่ชายของหล่อนไม่ได้มางานแต่งนี้เพราะต้องทำตามแผนที่หล่อนกับพ่อได้ช่วยกันวางเอาไว้เมื่อคืนโดยอ้างเหตุผลกับพ่อของหลางไปเพียงว่าอาลินป่วยเพราะพิษไข้ทำให้ต้องนอนอยู่ในโรงพยาบาลสักพักใหญ่ พ่อของหลางก็ไม่ได้ว่าอะไร เขาเห็นว่าเรื่องนี้ไม่สำคัญเลยไม่ได้บอกลูกชายหัวแก้วหัวแหวนถึงเรื่องที่ฝ่ายนั้นบอกมาเพราะหลางเอาแต่ยุ่งกับเรื่องของพิธีแต่งงาน
เวลา 19.40 น.
     ช่วงกลางคืนในวันเดียวกันมีการจัดการเลี้ยงอาหารภายในครอบครัว ตอนนี้ทางครอบครัวของเครือหยงไช้และตระกูลมาซาเอลถือได้ว่าปรองดองกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อาหารที่อยู่ในงานมีราคาที่แพงและหรูหราสมชื่อตระกูลดังของฝ่ายชาย ในระหว่างที่ทุกคนกำลังรับประมาณอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อยร่วมกับบ่าวสาวนั้น ฝ่ายเจ้าบ่าวอย่างหลางก็รู้สึกผิดสังเกตบางอย่างขึ้นมา อยู่ๆ เขาก็รู้สึกคิดถึงเด็กหนุ่มที่ชื่ออาลินขึ้นมาดื้อๆ ในตอนที่พนักงานนำน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋มาเสิร์ฟ วันนี้ทั้งวันในงานแต่งของเขาไม่เห็นเด็กน้อยคนนั้นแม้แต่เงา ในหัวของเขารู้สึกสับสนและมีความสงสัยในเวลาเดียวกันว่าเด็กคนนั้นหายไปไหนทั้งๆ ที่วันนี้เป็นถึงงานมงคลของคนที่ขึ้นชื่อว่าน้องสาวจะแต่งงาน
     หลางอดคิดไม่ได้เลยว่าการที่เด็กหนุ่มคนนั้นหายไปแบบนี้เพราะว่าแอบหลงรักเขารึเปล่า เขาสังเกตอาการของเด็กคนนี้มาหลายหนไม่ว่าจะเป็นเวลาที่สอนในโรงเรียนหรือแม้กระทั่งตอนไปร่วมกินอาหารมื้อเย็นในทุกวันที่เขาว่าง ฝ่ายนั้นเอาแต่ยิ้มเขินอายและหลบตาเสมอๆ หลางอดสมเพชพฤติกรรมของอาลินไม่ได้ที่ไม่สามารถแยกระหว่างเรื่องส่วนตัวกับเรื่องครอบครัวให้แยกออกจากกันได้เลยไม่ยอมมางานแต่งของน้องแบบนี้ เด็กคนนั้นควรที่จะรู้บ้างว่าเขาไม่ได้ชอบผู้ชายและที่สำคัญคือเบต้ามิอาจแต่งงานกับอัลฟ่าได้
     "เห้อ" จามินทร์ลอบถอนหายใจอย่างเบื่อหนาย หล่อนที่นั่งเคียงข้างกับเจ้าบ่าวในฝั่งข้างขวา แม้เขาจะรูปหล่อ บุคลิกดีแต่นิสัยเอาแต่ใจเป็นเลิศราวกับเด็กประถม หลางเอาแต่ไว้วานให้หล่อนตักอาหารตรงนั้นตรงนี้ให้ทั้งๆ ที่อาหารบางจานเขาก็หยิบมันได้อย่างง่ายได้ ล่าสุดหล่อนพึ่งมือว่างและได้พักเมื่อหลางอยู่ๆ ก็เผลอเหม่อเมื่อมีของหวานมาเสิร์ฟ หล่อนเลือกจะไม่ใส่ใจปล่อยให้หลางนั่งอยู่เงียบๆ แบบนั้นจนพ่อของเขาที่นั่งถัดจากเขาไปทางด้านซ้ายต้องกระซิบถามอาการด้วยความเป็นห่วง
     "หลาง เป็นอะไรลูก"
     หลางหันไปหาบิดาผู้เป็นเจ้าของน้ำเสียงอ่อนโยนนั้น หลางมิอาจบอกพ่อของตนไปได้ว่าเขากำลังเหม่อคิดถึงคนอื่นอยู่ถึงแม้เขาจะคิดไม่ดีกับอาลินแต่มันก็คือความคิดถึงรูปแบบหนึ่งแถมปกติเขาก็ไม่คิดถึงใครเวลาเขาเกลียดเสียด้วย แน่นอนว่าพ่อก็ไม่ควรมารู้ว่าเขากำลังคิดถึงคนอื่นที่ไม่ใช่เมียของตัวเองในอนาคต
     "เปล่าครับ ผมแค่ตื่นเต้นที่อีกไม่นานจะได้เข้าหอ" หลางตอบเสียงหวานแบบเด็กๆ ใส่พ่อของตัวเอง หลางเป็นคนที่ติดพ่อมากพ่อเปรียบเหมือนทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับเขา ตั้งแต่แม่เสียไปพ่อก็คอยตามใจและทำหน้าที่ทุกอย่างเป็นอย่างดีไม่ให้เขารู้สึกว่า 'ขาดอะไรไป' 
     บิดายกยิ้มอย่างพอใจเมื่อเห็นลูกชายกำลังจะมีความสุข เขาก็มีความสุขไปด้วยจึงเลิกถามซักไซ้แล้วตักอาหารบนโต๊ะที่บางอย่างเป็นอาหารเพิ่มกำลังวังชาอย่าง 'หอยนางรม' จนพูนจานของลูกชาย ทำให้ครอบครัวมาซาเอลที่เห็นแบบนั้นได้แต่มองตากันแล้วลอบกลืนน้ำลายกันเฮือกใหญ่ พวกเขากลัวเหลือเกินว่าถ้าแผนการสลับตัวไม่สำเร็จขึ้นมาลูกสาวของพวกเขาคงได้คลานออกจากห้องในยามเช้าเป็นแน่
เวลา 23.20 น.
     เวลาเข้าหอที่ครอบครัวมาซาเอลและเครือหยงไช้คอยอย่างใจจดใจจ่อก็มาถึง ฝ่ายหนึ่งก็หมายจะสลับตัวเจ้าบ่าวอีกฝ่ายก็อยากให้เจ้าบ่าวลงสนามรบเพื่อมีหลานมาให้ผู้เป็นปู่ได้อุ้ม เจ้าสาวมือใหม่อย่างจามินทร์เมื่อถึงเวลาก็ขอตัวเข้าห้องไปอาบน้ำพักหนึ่งก่อนแล้วขอร้องให้หลางรอหล่อนอยู่หน้าประตู หลางที่แม้มีความรู้สึกตื่นเต้นมากก็ยอมหล่อนเพราะเข้าใจว่าหล่อนคงยังไร้ประสบการณ์คงตื่นตระหนกตกใจเป็นธรรมดา
สองชั่วโมงผ่านไป
     จามินทร์ยังคงอาบน้ำไม่เสร็จเสียที หลางที่นั่งเล่นมือถืออยู่หน้าห้องนอนก็เริ่มมีความรู้สึกผิดสังเกตขึ้นมา เขาไม่เหลือความรู้สึกตื่นเต้นหรือคึกคักอีกต่อไป มีเพียงความง่วงและอยากอาบน้ำนอนจึงบรรจงเคาะประตูเรียกเด็กสาวภายในห้อง
     "เสร็จหรือยัง?" เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหนื่อยๆ ผ่านประตูไม้ที่กั้นห้องอยู้
     "......." ไร้เสียงตอบรับจากคนในห้อง หลางที่ใจเย็นมานานก็เริ่มมีอารมณ์หงุดหงิดขึ้นมาที่เขายอมเธอเพราะเห็นว่าเธอเป็นรักแรกของเขา เขาอยากตามใจเธอมากกว่าคนที่ผ่านๆ มาในชีวิตของเขาแต่ดูเหมือนว่าเขาจะยอมเธอมากไปจนเธอปฏิบัติกับเขาแบบนี้
     ก๊อกๆ
     ก๊อกๆ
     ก๊อกๆ
     เขาเคาะประตูรัวๆ ด้วยความโมโหจัดอีกรอบชุดใหญ่ เมื่อเห็นว่าเจ้าสาวยังคงเงียบไม่ตอบสนองเขาจึงถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไปในห้อง
     "!!" เขาผงะกับประตูที่ไม่มีการล็อกลงกลอน หรือนี่จะหมายความว่าหล่อนเปิดประตูให้เขาไว้นานแล้วงั้นหรือ? 
     หลางค่อยๆ เดินเข้าไปในห้องช้าๆ เขาพบว่าห้องนั้นช่างมืดมิดไร้แสงสว่างใดๆ หลางควานหาสวิตช์ไฟหมายจะเปิดมันเพื่อให้แสงสว่างแก่เขา แต่เขาก็ต้องผิดหวังไม่ว่าจะเปิดไฟตรงที่ไหนก็ไม่สามารถเปิดได้เหมือนคล้ายว่าไฟที่นี่จะดับเพราะพอเขาเหลือบมองไปยังหน้าประตูห้องตรงบริเวณที่เขานั่งอยู่เมื่อครู่มันก็มืดเช่นกัน แต่หลางยังไม่ทันวิเคราะห์สรุปผลอะไรมากนัก จู่ๆ เขาก็ได้กลิ่นบางอย่างขึ้นมา
     กลิ่นหอมเย้ายวนใจคล้ายกลิ่นของดอกไม้ที่คุ้นเคยในวัยเยาว์ยามได้พบรักแรก แม้หลางไม่รู้ว่ากลิ่นที่ยังคงกระจายฟุ้งอยู่ทั่วห้องเป็นกลิ่นของดอกอะไร แต่เขารู้เพียงว่ากลิ่นของมันทำให้รู้สึกเกิดอารมณ์โหยหา ความเป็นชายของเขาก็เริ่มปวดหนึบและร้อนวูบวาบภายในร่างกายจนเริ่มมีความแข็งขืนมากขึ้นทีละน้อย ร่างเล็กๆ ของใครคนหนึ่งนอนนิ่งคลุมผ้าห่มผืนหนาอย่างสั่นกลัวบนเตียงขนาดคิงไซส์
      โอเมก้าเมื่อมีอายุที่เหมาะสมจะปล่อยฟีโรโมนออกมาพร้อมกับเริ่มมีอาการฮีทเป็นช่วงๆ สามเดือนหนหนึ่งบ้าง หนึ่งเดือนหนหนึ่งบ้าง มีข้อน่าสนใจอยู่อย่างหนึ่งคือเมื่อใดก็ตามที่โอเมก้าได้เจอกับคู่ของตนแล้วจะเกิดอาการฮีทอย่างทันทีโดยไม่จำเป็นว่าโอเมก้าจะผ่านการฮีทมาเมื่อไม่นานมานี้หรือไม่ สิ่งนี้ทำให้หลางได้รู้ว่าคนที่อยู่ใต้ผ้านั้นเป็นคู่แท้ของเขาจริงๆ
     เขาไม่สามารถควบคุมความรู้สึกได้อีกต่อไป
     "หล่อนต้องเป็นของเขา"
     เขาจะทำสัญลักษณ์เครื่องหมายประทับตราเอาไว้ว่าหล่อนคือของๆเขาไม่ให้ใครหน้าไหนมาแตะต้อง เขารีบกระโจนขึ้นเตียงตามสัญชาตญาณของอัลฟ่าราวกับหมาป่าหนุ่มผู้หื่นกระหายค่อยๆ ฉีกเสื้อผ้าที่เกะกะออกไปอย่างไม่ปรานี เหยื่อตัวน้อยยังคงสั่นกลัวอยู่ด้วยความที่มืดมากทำให้หลางไม่เห็นว่าอีกฝ่ายทำหน้าตาอย่างไรอยู่ รู้เพียงว่าผมของหล่อนนั้นช่างยาวเสียเหลือเกิน เขาค่อยๆ ลูบหาตำแหน่งของต้นคออ่อน
     "งับ" หลางกัดคอของโอเมก้าที่อยู่ตรงหน้าด้วยความรู้สึกดีอย่างล้นท้น ฝ่ายโอเมก้าตัวน้อยที่นอนอยู่ใต้ร่างของเขาก็ร้องออกมาด้วยน้ำเสียงที่ทำให้เขารู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก เขาค่อยๆ ก้มลงไปประกบยังปากอ่อนนุ่มของโอเมก้าตัวน้อย เด็กน้อยได้แต่เอามือดันตัวหลางออกราวกับจะขัดขืน หลางเริ่มสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากร้อนอุ่น
     "อือ" เด็กน้อยครางในลำคอเบาๆ ปฏิเสธไม่ได้ว่าเพราะการจูบอย่างมีชั้นเชิงมากประสบการณ์ของหลางทำให้อีกฝ่ายถึงกับอ่อนระทวยและไม่ขัดขืนอีกต่อไป หลางยิ้มอย่างพอใจแล้วเริ่มเปลี่ยนไปหยอกเย้ากับยอดอกสีชมพูอ่อนที่มีขนาดเล็ก เขารู้สึกฉงนอยู่ครู่หนึ่งว่า ทำไมหญิงสาววัยสิบหกปีถึงมีขนาดที่เล็กเกินกว่าวัยขนาดนี้ หลางเริ่มกัดมันเล่นเบาพลางดูดเล่นพลางจนมันเริ่มแข็งเป็นไตเหมือนอีกฝ่ายก็รู้สึกไม่แตกต่างกัน
     มือของหลางเริ่มรุกล้ำไปยังจุดสำคัญบางอย่างที่เขาโหยหาในระหว่างที่กำลังหาตำแหน่งของมันก็คอยไล่จูบและโลมเลียไปทั่วทั้งคอและยอดอกสีชมพู 
     "หมับ"
"!!"
     "นี่มัน?" หลางเสียงหลงขึ้นมาทันทีเมื่อสิ่งที่เขาได้สัมผัสกับไม่ใช่จุดที่สงวนของสตรีอันงดงามน่าหลงใหลแต่กลับเป็นอวัยวะของชายหนุ่มที่มีอารมณ์แข็งขันเหมือนกับเขา เพียงแต่มีขนาดที่ต่างกันออกไปโอเมก้าตรงหน้าเขามีขนาดที่เล็กมากกว่าเขาสามถึงสี่เท่า หลางหยุดการกระทำทั้งหมดลงทันทีเขาหยิบโทรศัพท์ที่อยู่บนเตียงมาส่องหน้าของคนที่เขากำลังนอนด้วย
     "อาลิน! จามินทร์อยู่ไหน?" เขาเรียกชื่อของโอเมก้าที่ส่งกลิ่นหอมนี้ออกมาด้วยความรู้สึกที่ตกใจและหงุดหงิดขึ้นมา ทำไมเด็กคนนี้ถึงมาอยู่ตรงนี้ได้แถมยังมาส่งกลิ่นหอมแบบนี้อีก ถึงแม้หลางจะรู้ว่าคนตรงหน้าไม่ใช่ผู้หญิงแต่เป็นผู้ชาย ผู้ชายแบบที่เขาแสนจะเกลียดนักหนาแต่เจ้ากรรมความแข็งขืนและปวดหนึบก็ยังไม่หายไป เขายังคงต้องการปลดปล่อยอยู่
     "ผมขอโทษครับ" อาลินร้องไห้ด้วยความรู้สึกผิดเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะหลอกคนตรงหน้าเลย เขารักและเทิดทูนหลางมาตลอด เขาไม่ได้อยากที่จะมาเป็นคู่กับหลางโดยที่หลางเข้าใจว่าเขาคือจามินทร์เลยด้วยซ้ำ คนตัวเล็กเลือกที่จะไม่สบตาอีกฝ่ายเขาพยายามรวบผ้าห่มโกยเข้าตัวมาปิดร่างกายที่เปลือยเปล่าแล้วค่อยๆ ก้มหน้าเดินลุกออกไปจากเตียงช้าๆ วิกผมยาวสีน้ำตาลอ่อนหล่นลงด้วยความเร่งรีบทำให้อาลินเริ่มอายขึ้นมากไปกว่าเดิม
     "หมับ" หลางยื่นมือมาจับแขนโอเมก้าตัวน้อยแล้วมองด้วยสายตาที่เหยียดหยาม สำหรับหลางตอนนี้จะใครก็ได้ เขาแค่อยากปลดปล่อยให้สบายกายเด็กคนนี้ก็ไม่ได้แย่มากนักหรอกโดยรวมก็คล้ายๆ จามินทร์ไม่น้อย ผิวที่ขาวละเอียดแถมมีกลิ่นที่หอมหวานจนทำให้เขาอยากทำอีกจะเล่นแก้ขัดบนเตียงคืนนี้สักหน่อยก็คงไม่เสียหาย
     "หึ คงอยากมากสินะ" หลางพูดพลางค่อยๆ จับผ้าห่มที่คลุมตัวคนตัวเล็กลงช้าๆ อาลินได้แต่ส่ายหัวพยายามดึงผ้ารั้งเอาไว้ อาลินไม่อยากทำกับหลางในสภาพนี้ โอเมก้าหนุ่มพยายามส่งสายตาอ้อนวอนว่าอย่าทำอะไรเขาแต่ดูเหมือนมันกลับตรงกันข้ามมันกลับทำให้หลางมีอารมณ์สูงขึ้นกว่าเดิม เขากระชากผ้าห่มจากตัวอาลินลงมาในรวดเดียวจนเห็นร่างกายอันขาวนวลไร้ผ้าปิดกั้น ที่มีรอยกัดของเขาอยู่ตรงต้นคอด้านขวาเมื่อมองตรงด้านหน้าเช่นนี้ หลางเห็นมันได้ชัดเจนเมื่อเขาใช้ไฟฉายจากโทรศัพท์ส่องดู
     "เดี๋ยวฉันจะสนองให้" เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงหื่นกระหาย หลางผลักอาลินลงบนเตียงแล้วยัดความเป็นชายของเขาเข้าไปทั้งหมดภายในรวดเดียวคนตัวเล็กร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด ครั้งแรกของอาลินโดยชายที่เขาแอบรัก....ขืนใจด้วยความรุนแรง 
     หลางไม่อ่อนโยนเลยเขาเอาแต่กระแทกกระทั้นสุดแรงจนปล่อยของขาวขุ่นออกมานับไม่ถ้วนมีเลือดของคนตัวเล็กปนออกมาตลอดการร่วมรัก อาลินได้แต่ร้องไห้ในขณะที่หลางเอาแต่ร้องครางด้วยความสุขสมทั้งคืนจนรุ่งเช้ามาถึง

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา