กรุ่นไอรักจากตำหนักหวางเฟย

-

เขียนโดย เหวินฉี

วันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2563 เวลา 16.51 น.

  21 ตอน
  0 วิจารณ์
  15.10K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2563 16.58 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

16) คนโกหก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

หญิงสาวที่ร้องไห้ปาดน้ำตาวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วในตำหนัก เธอทรุดลงบนเตียงด้วยความเสียใจ สองมือน้อยๆ พลอยขยี้ตาตัวเอง

 

"พระชายา ข้าเห็นท่านรีบวิ่งเข้ามา ทรงเป็นอะไรไปแล้วเจ้าคะ" ไป๋ไป๋ที่กำลังชงชาดอกเหมยเอ่ยพลางวิ่งเข้าไปหานางเมื่อเห็นท่าทีว่าร้องไห้

 

"ไป๋ไป๋.." น้ำเสียงสะอึกสะอื้นด้วยความเสียใจ ก่อนจะโผลเข้าไปกอดสาวใช้ ซึ่งได้แต่เพียงทำหน้างง เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อเห็นเสี่ยวหลานร้องก็รู้สึกบั่นทอน เธอจึงลูบหลังของนางเบาๆ เพื่อให้รู้สึกดีขึ้น

 

"พระชายา ใครทำอะไรท่าน" นางผละกอดจากเสี่ยวหลานเล็กน้อยก่อนจะใช้มือหยิบผ้าเช็ดหน้าสีขาวที่พาดอยู่บนโต๊ะนั่นขึ้นมาเช็ดน้ำตาให้เธอ

 

"ข้ารู้สึกเสียใจเมื่อได้เห็นชินอ๋องอยู่กับผิงเยว่ฉี แต่นั่นคงไม่เท่าได้เห็นชินอ๋องกอดกับผิงเยว่ฉีหรอก" นางพูดก่อนจะรีบแย่งผ้าเช็ดหน้าที่ไป๋ไป๋กำลังเช็ดให้นาง แล้วสั่งน้ำมูกออกมาสองสามครา

 

"..." ไป๋ไป๋ก้มหน้างุดเพราะคิดว่ายังไงตนก็ช่วยนางไม่ได้ ผิงเยว่ฉีกับชินอ๋องเคยรักกันมาก่อนจะกอดกันเอาตอนนี้ก็ไม่ผิด แต่จะผิดที่กอดสามีภรรยาของผู้อื่นแค่นั้นเอง

 

"เอาเถอะ ถึงยังไงข้าก็มาทีหลัง แค่ถูกฉุดจากงานแต่งมา ที่นี่ไม่มีรักที่จริงใจต่อข้า มันไม่จำเป็นที่ข้าจะได้รับความรักจากเขาหนิ" นางพูดพร้อมกับจับที่บาดแผลของตนเบาๆ พลางนึกในใจว่านางทำเพื่อเขาเช่นนี้ แต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของนางเลยแม้แต่น้อย

 

"พระชายาอย่าได้ท้อใจไป ในวันข้างหน้าชินอ๋องคงจะคิดได้" หญิงสาวเอ่ยพร้อมกับมองที่เสี่ยวหลานตาละห้อย เหตุใดถึงได้น่าสงสารและมีแต่เรื่องเกิดขึ้นกับนางเช่นนี้ ไป๋ไป๋หยิบเอาผ้าเช็ดหน้าจากนางก่อนจะวางมันลงบนโต๊ะ

 

"เขาไม่ได้รักข้าอยู่แล้ว จะให้ข้าตั้งความหวังอะไรไปทำไม ครานั้นบอกจะกลับมาและพาข้าจุดโคมลอยด้วยกัน แต่กลับไปกอดกับเยว่ฉีบนบ้าน" นางพูดด้วยน้ำเสียงที่พยายามอัดอั้นกลั้นน้ำตา ตอนนี้ก็กำลังนั่งกอดเข่าของตนบนเตียงนอน

 

"พระชายา อย่าได้คิดมาก ดื่มชาดอกเหมยนี่ก่อนดีไหมเจ้าคะ" นางพูดก่อนจะเดินไปหยิบกาน้ำชาร้อนๆ ที่พึ่งทำเสร็จรินใส่ถ้วยใบเล็กๆ และมอบให้ผู้เป็นนายอย่างเสี่ยวหลานที่ตอนนี้นั่งขดอยู่บนเตียง เพื่อหวังว่าจะทำให้นางรู้สึกดีขึ้น

 

"ข้าไม่กิน ข้าไม่กินอะไรทั้งนั้นแหละ เอาไปทิ้ง เอายานั่นไปทิ้งด้วย" ดวงตาคู่สวยมองไปยังขวดยาซึ่งวางอยู่บนโต๊ะ มันคือยาที่หลินฮั่วทำมาให้ ตอนนี้นางก็บอกให้ไป๋ไป๋เอาไปทิ้งเสียแล้ว

 

"ไม่ได้นะเจ้าคะ ยานี่ต้องทา ส่วนชานี่ท่านเองก็ต้องดื่ม" ไป๋ไป๋ส่ายหน้าปฏิเสธก่อนจะพูดออกไปด้วยสีหน้าเคร่งเครียดเมื่อเห็นว่าเป็นเช่นนั้น

 

"ทำไมข้าต้องทา! ในเมื่อข้าหายแล้ว" เสี่ยวหลานยังดื้อดันพูดด้วยน้ำเสียงที่พึ่งจะหายจากการร้องไห้ปนกับความโมโห ตอนนี้นางโกรธมาก

 

"พระชายา..."

 

"หยุดเลยไป๋ไป๋ เจ้าไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น! เอามันไปทิ้ง" เสี่ยวหลานพูดตัดขึ้นมาทำเอาไป๋ไป๋ต้องรีบก้มหน้า นางเป็นแค่สาวใช้เพียงแค่ต้องทำตามคำสั่ง ไม่มีทางคัดค้านได้ นางจึงจนใจเดินไปหยิบขวดยากับกาน้ำชาดอกเหมยมา ก่อนจะมองดูที่เสี่ยวหลานอีกทีว่าจะ

 

"เอามันไปทิ้ง" นางพูดเสียงเรียบที่ฟังดูมีอำนาจ สายตามองตรง ไม่ได้สนสีหน้าของไป๋ไป๋เลยแม้แต่น้อย

 

"เอามันวางไว้" เสียงของชายปริศนาดังขึ้น ที่ทั้งสองเองก็รู้ได้เลยว่าคือเสียงของชินอ๋อง ไป๋ไป๋เมื่อได้ยินดังนั้นก็รีบวางไว้ที่เดิมแล้วเดินหนีออกไปเลย

 

"ไป๋ไป๋! " เสี่ยวหลานร้องเรียกตามหลัง แต่ทางนั้นกลับไม่หันมา

 

"เจ้าโกรธข้าหรอกหรือ" เสี่ยวฉินนั่งลงบนเตียงก่อนจะกุมมือเล็กๆ ของนางขึ้นมา แต่ทว่ามือน้อยๆ นั่นกลับรีบกระฉากออกไป พร้อมทั้งเบือนหน้าหนีไปอีกทาง นางโกรธมาก

 

"ท่านไม่ไปหาผิงเยว่ฉีหรอกหรอ" เสี่ยวหลานเอ่ย

 

"ข้าจะไปทำไม ในเมื่อใจของข้าอยู่ที่นี่" ชินอ๋องพูดพลางมองหญิงสาว คำนั้นมันทำให้เธอรู้สึกสั่นไปทั่วทั้งอก เขามันคนโกหก

 

"ไม่ใช่ผิงเยว่ฉีหรอกหรอ" หญิงสาวพูดก่อนจะหันหน้ามามองชินอ๋องเพื่อรอคำตอบ เธอเองก็ค่อนข้างใจอ่อนง่าย

 

"เยว่ฉีไม่ใช่ภรรยาข้า นางคือภรรยาจวิ้นอ๋อง ใยข้าต้องคิดถึงคนมีสามีเล่า? " เขาพูดก่อนจะโน้มตัวเข้าไปจ้องตาของนาง ที่ตอนนี้กระพริบไม่เป็นจังหวะ

 

"ข้าเชื่อใจท่านได้หรือ? " เสี่ยวหลานพูดเบาๆ กับคนตรงหน้า

 

"ได้สิ" เขาตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

 

"ท่านบอกจะไม่ปล่อยมือข้า แต่ท่านกลับปล่อย" นางพูดเหมือนตัดพ้อ

 

"นี่ไงข้าจับไว้แล้ว" มือหนารีบกุมมือของนางทันที

 

"แต่ก่อนหน้านี้ท่านปล่อยไปแล้ว" นางเอ่ยด้วยอย่างน้อยใจ

 

"ทุกอย่างสามารถเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ" ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่เห็นใจ

 

"ท่านไม่คิดถึงความรู้สึกก่อนหน้านั้นหรอกหรือ ทำไมไม่ทำให้ดีไปเลยล่ะ การเริ่มต้นใหม่ไม่ง่ายไปหน่อยหรอ ถ้าเกิดเริ่มต้นใหม่แล้วมันเหมือนเดิมล่ะ ข้าขี้เกียจเริ่มต้นใหม่หลายครั้ง" นางเอ่ยแถมยังมองตรง ก่อนที่น้ำตาน้อยๆ จะไหลออกมาสายหนึ่ง

 

"การเริ่มต้นใหม่มักดีขึ้นเสมอ เชื่อข้าสิ" เขาพูดพร้อมกับเช็ดน้ำตาที่ไหลผ่านแก้มของเสี่ยวหลานไป

 

"ข้าจะคอยดู" นางยิ้มพร้อมทั้งน้ำตาแม้ว่าตอนนี้จะไม่ร้องไห้แล้ว

 

ทุกอย่างที่พวกเขาพูดมาทั้งหมดต่างมีความหมายโดยนัย

 

"ขออภัยท่านอ๋อง พระชายา" ไม่นานก็มีเสียงปริศนาดังขึ้นขัดจังหวะ นั่นคือเสียงของโม่สิน ที่ตอนนี้กำลังทำท่าทีเหมือนกับมีเรื่องใหญ่เรื่องโตเกิดขึ้น

 

"เจ้ามีอะไร" เสี่ยวฉินพูดก่อนจะละมือของตนออกจากมือเสี่ยวหลานแล้วเดินไปหาโม่สิน ดวงตาคู่สวยมองตามตาละห้อยก่อนจะถอนหายใจ

 

"มีรายงานมาว่า ตอนนี้องค์รัชทายาทกำลังตกอยู่ในอันตรายในขณะที่ออกตรวจรอบเมือง ว่ากันว่ามีทหารกลุ่มหนึ่งมาบุกโจมตี ฮ่องเต้จึงมีคำสั่งให้ชินอ๋องและจวิ้นอ๋องออกไปร่วมปกป้องเมืองร่วมกับองค์รัชทายาทขอรับ" โม่สินพูด ไม่คิดเลยว่าเขาจะไม่เรียกเสี่ยวฉินเข้าเฝ้า แต่กลับบอกให้โม่สินทหารคนสนิทมาบอกแทน

 

"วันไหน" เขาถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาและดูจริงจังต่างจากตอนที่คุยกับเสี่ยวหลาน ซึ่งตอนนี้นางก็กำลังฟังทั้งสองพูดเหมือนกัน

 

"พรุ่งนี้เช้าขอรับ" เมื่อโม่สินพูดจบเขาก็หันไปมองเสี่ยวหลานที่นั่งอยู่บนเตียง นางก้มหน้าลงเบาๆ ทั้งสองจะจากกันไปงั้นหรอ ทำไมถึงได้ทิ้งกันไปตลอดเลยนะ เสี่ยวหลานคิด

 

"เสี่ยวหลาน ขอโทษนะ ข้าต้องไปเตรียมตัวการต่างๆ แล้ว" เสี่ยวฉินเดินไปกุมมือของหญิงสาวก่อนจะพยักหน้าถี่ๆ เพื่อให้นางยอมรับและเต็มใจ

 

"อืม.." นางตอบรับในลำคอพร้อมพยักหน้าไปพลางก่อนจะก้มหน้าลง "ข้าขอตัวนะ" เขาจูบตรงกลางหน้าผากของเธอก่อนที่จะส่งรอยยิ้มให้ ไม่นานมือน้อยๆ ก็ถูกทิ้งลงก่อนที่เขาทั้งสองจะเดินออกไปเลย

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา