กรุ่นไอรักจากตำหนักหวางเฟย

-

เขียนโดย เหวินฉี

วันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2563 เวลา 16.51 น.

  21 ตอน
  0 วิจารณ์
  14.72K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2563 16.58 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

11) ปากแข็ง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เพล้ง! เสียงแก้วแตกกระเด็นไปทั่วห้อง ภายในตำหนักจวิ้นอ๋อง ตอนนี้มีแต่ความหม่นหมอง

 

"เสี่ยวโม่! เจ้ามันโง่! " ฮ่องเต้พูดก่อนจะใช้นิ้วชี้ผลักหัวลูกชายของตนอย่างไม่ใยดี

 

"ถ้านางไม่มารับดาบแทน ข้าก็คงฆ่าเสด็จอาได้! " เสี่ยวโม่พูดพร้อมกับรู้สึกตัวสั่นไปหมด โดยเฉพาะมือที่จับดาบเล่มนั้น ตอนนี้ข่าวลือมากมายก็คงได้ออกไปทั่ว หลานจะฆ่าอาตัวเองแต่กลับโดนภรรยาของอาแทน ตอนนั้นเขายังบอกว่านางเป็นชายาของตนแต่เขากลับกำลังฆ่านางอย่างงั้นหรอ

 

"เจ้าคิดยังไงถึงเอาหญิงสาวที่ยังไม่ถูกแต่งเข้าจวน มางานเลี้ยงสำหรับราชวงศ์! " ฮ่องเต้พูดก่อนจะตะคอกใส่คนตรงหน้า ตอนนี้เขาโมโหโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ

 

"แต่เรื่องมันก็มีแค่นั้น ท่านจะเดือดร้อนอันใดอีก! พรุ่งนี้เช้าข้าก็แต่งงานกับนางแล้ว! " เสี่ยวโม่ตอกกลับไปไม่หวั่นเกรง พูดจบมือหนาของผู้เป็นพ่อก็ตบไปที่ใบหน้าของเขาอย่างแรงแบบไม่ใยดี เหมือนกับว่าไม่ได้เป็นพ่อลูกกัน

 

"เจ้ามันโง่! ข้าบอกกี่ครั้งแล้วว่าเจ้ามันโง่! เจ้าทำให้ทหารกลุ่มนั้นที่ปลอมเป็นโจรต้องตาย! พลทหารของเราก็ลดลง ไม่เรียกว่าโง่จะเรียกว่าอะไร" เขาพูด

 

"เป็นไปได้ยังไง ในเมื่อเราแพ้ พวกนั้นก็ต้องกลับมาอยู่ดี ชินอ๋องจะเค้นฆ่าจนหมดเลยหรือไง" จวิ้นอ๋องพูดก่อนจะใช้มือขวาจับแก้มของตนที่ตอนนี้เป็นรอยแดง เขาไม่เชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน เขามั่นใจกับมันมาก

 

"ชินอ๋องสั่งให้ตัดหัวทหารทุกคนที่มาที่นั่น! " ฮ่องเต้พูดเมื่อลูกที่แสนโง่เขลาของตนคิดอะไรไม่ได้เลย มีแต่หาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัวไปวันๆ

 

"ในเพลานี้ เจ้าก็แทงหานเสี่ยวหลานไปแล้ว ชินอ๋องก็คงจะรู้จุดประสงค์ของเจ้า เขาจะระวังตัวมากขึ้น! " เขาพูดก่อนจะเอามือไขว่หลังและเดินไปมาด้วยความไม่สบายอกสบายใจ

 

"โปรดอภัยโทษให้หม่อมฉัน ท่านพ่อ" ฉางเสี่ยวโม่พูดก่อนจะหมอบลงกับพื้น

 

"ไม่สู้ ให้ข้ากักขังบริเวณเจ้าเหมือนแม่เจ้าดีกว่าหรือ" ฉางเสี่ยวโม่เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็รีบเงยหน้าขึ้น เขาถูกจับจ้องโดยฮ่องเต้ที่ก้มลงมองดู ก่อนที่เขาเองจะรีบส่ายหัวไปมาอย่างแรงเพื่อให้คนตรงหน้าล้มเลิกในสิ่งที่คิด

 

"ท่านพ่อ ได้โปรดเถอะ ข้าไม่อยากอยู่แบบนั้นอย่าทำแบบนั้นเลย ข้าขอโอกาส ได้โปรด" ฉางเสี่ยวโม่พูดพร้อมกับใช้มือควานไปจับข้อเท้าของฮ่องเต้อย่างขอร้องอ้อนวอน เขาพยักหน้าพลางๆ เพื่อให้ฮ่องเต้ตอบตกลง

 

"โอกาสครั้งสุดท้าย! " เขาพูดก่อนถกขาข้างที่จวิ้นอ๋องกำลังจับอยู่ขึ้นอย่างแรงและเดินออกไปเลยทำให้เสี่ยวโม่เองก็ล้มไม่เป็นท่า

 

"ชินอ๋องนะชินอ๋อง ข้าจะย่ำยีเจ้าทำให้เจ้าตายไปข้าง! " เขาพูดพลางใช้กำปั้นทุ่มลงกับพื้นหลายๆ ครั้งเพื่อระบายความโกรธ "โถ่เว้ย! "

 

ทางฝั่งของไป๋ไป๋ ตอนนี้เธอเองเดินมาถึงห้องครัวแล้ว แต่กลับคาดไม่ถึงว่าจะเห็นฮองเฮายืนกำชับคนใช้ทุกคนให้ทำนู่นทำนี่อยู่

 

"อ้าว คนใช้คนสนิทของเสี่ยวหลานนี่" ฮองเฮาหันมาพูดเมื่อเห็นไป๋ไป๋เองกำลังยืนดูอยู่ ไป๋ไป๋เองเธอก็วางตัวไม่ถูก ฮองเฮารู้ว่ายังไงซะนางก็ต้องมาทำอาหารให้เสี่ยวหลานกินจึงเลือกที่จะมาก่อน ไป๋ไป๋ที่ยืนอยู่นานพึ่งรู้ตัวว่าเธอเองถูกจับจ้องโดยคนทั้งครัว นางจึงรีบคำนับ "ไม่ต้องมากพิธีหรอก" เธอสั่ง

 

"เหตุใดเจ้าจึงมาที่นี่ดึกดื่นยามนี้" ฮองเฮาถาม ในใจไป๋ไป๋เองก็คิดว่าคนที่ควรจะถามคงเป็นนางตางหาก ฮองเฮามาห้องครัวเช่นนี้ช่างแปลกประหลาด

 

"หม่อมฉันมาเตรียมอาหารให้พระชายาเพคะฮองเฮา" เมื่อเห็นว่าตนเป็นฝ่ายที่ต้องตอบจึงพูดออกไป

 

"ตายจริง ข้าพึ่งสั่งให้คนทำอาหารให้ข้า ทุกเตาก็เต็มแล้วสิ ข้าเกรงว่าเจ้าต้องรอหน่อยนะ ไม่นานหรอก" ภายใต้คำพูดของนางแฝงไปด้วยร้อยยิ้มที่เสแสร้งและเจ้าเล่ห์ ไป๋ไป๋เองก็คิดว่านางจะมาที่นี่ทำไม ในเมื่อเรื่องในครัวไม่เกี่ยวกับนาง ดึกดื่นแบบนี้ไม่ใช่เวลาทำอาหารหรือนางจะมีจุดประสงค์อื่น

 

"เพคะ.."ไป๋ไป๋พูดก่อนจะเดินไปนั่งรอที่โต๊ะและหยิบซาลาเปาบนจานออกมากิน

 

"นางอาการดีขึ้นหรือยัง" น้ำเสียงเรียบนิ่งของฮองเฮาดังขึ้น ในขณะที่ฮองเฮาเองก็กำลังหยิบจับเชยชมสิ่งของที่วางอยู่บนโต๊ะ

 

"พระชายาดีขึ้นแล้วเพคะ หากแต่ร่างกายอ่อนแอมากเท่านั้นเอง" ไป๋ไป๋พูด

 

"หากเป็นเช่นนั้น คงใช้เวลานานในการทำอาหาร เอาแบบนี้ไหมเล่า อาหารที่เหลือตั้งแต่ตอนเที่ยงก็มี และยังไม่ได้ทานเลยนะ เจ้าเอาไปในนางก่อนดีไหม" ฮองเฮาพูด แต่นั่นก็ทำให้ไป๋ไป๋ตกใจ ใครกันจะเอาอาหารเก่าไปกิน แล้วทำไมถึงยังไม่ทิ้งไปล่ะ

 

"เดี๋ยวข้าจัดสำรับให้" นางเอ่ยมาทั้งๆ ที่ไป๋ไป๋เองก็ยังไม่ได้พูดอะไรเลย พลางหยิบจานชามมาวางใส่

 

"หม่อมฉัน.." ไป๋ไป๋กำลังจะปฏิเสธ แต่ก็ถูกยัดด้วยสำรับอาหารในมือ

 

"ไม่เป็นไรหรอก ข้าหวังดี" ฮองเฮาพูดก่อนจะยิ้มให้กับนาง ที่ตอนนี้ได้แต่ยืนบื้อไปไม่เป็น เธอไม่รู้ว่าเธอกำลังจะโดนลูกไม้อะไรของนาง นางช่างร้ายกาจนักที่มอบอาหารเหลือซึ่งโดนแมลงตอมมาหลายชั่วยามแล้วให้กับเสี่ยวหลานกิน

 

"เพคะฮองเฮา.." เธอพูดก่อนจะคำนับและเดินออกไปพร้อมสำรับอาหารในมือ ทว่าดวงตาคู่สวยนั่นกลับจ้องเธอจนสุดทางก่อนเผยยิ้มมุมปากออกมา

 

ฮองเฮาเหตุใดจึงทำเช่นนั้นกัน ไป๋ไป๋บ่นพึมพำ ในเมื่อตลอดเวลาที่อยู่ในวังเท่าที่เห็นแล้วดูนางก็เหมือนรักใคร่เสี่ยวหลานอยู่ตลอดเวลา คาดไม่ถึงว่าจะทำอะไรแบบนี้ ตอนนี้เธอแยกไม่ออกว่าความจริงแล้ว นางหวังดีหรือหวังร้าย

 

ภายในตำหนักของเสี่ยวหลาน ตอนนี้มีเพียงฉางเสี่ยวฉินที่นั่งมองเธออยู่ จากตอนนั้นที่อยากจะเค้นฆ่า แต่กลับรู้สึกไม่เป็นเช่นนั้นเลย แต่ถึงยังไงแล้วในใจของเขาเองก็ยังคงมีเยื่อใยกับผิงเยว่ฉี เมื่อเห็นหน้าของนางก็ยังคงมีความรู้สึกนั้น เขาไม่รู้ว่ามันเรียกว่ารักหรือหลงกันแน่

 

"เสี่ยวหลาน ข้าขอบคุณที่เจ้าหนีออกมาช่วยข้าไว้ ถ้าไม่ได้เจ้าข้าคงแย่แน่" เขาพูดก่อนจะเดินไปนั่งลงบนเตียงพร้อมกับมองใบหน้าของนางก่อนจะเลื่อนสายตาลงมามองที่บาดแผล นั่นยิ่งทำให้เขารู้สึกผิดที่นางต้องได้รับเคราะห์แทน เขาจึงกุมมือของนางเอาไว้แน่น

 

"มือท่านเย็นมาก" เสี่ยวหลานพูดออกมา คนตรงหน้าเองก็ไม่อยากเชื่อสายตาแทบไม่รู้เลยว่านางฟื้นแล้ว ฉางเสี่ยวฉินตกใจและรีบลุกขึ้นยืนอย่างไม่เป็นท่า เขาทำสีหน้าเคร่งขรึมบดบังไว้อย่างที่เคยมอบให้นาง ความจริงนางฟื้นได้นานแล้วแต่เพียงแอบฟังว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

 

เมื่อรู้ว่าตนทำตัวไม่ถูกจึงตัดสินใจจะเดินออกไปเพราะบรรยากาศเงียบลง ไม่มีใครเอ่ยคุยกันก่อน เป็นบรรยากาศที่ช่างอึดอัด ก่อนที่เสี่ยวหลานจะพูดขึ้น "นั่นท่านจะไปไหน" นางยื่นใบหน้าขึ้นไปมองเพราะยังไม่สามารถขยับตัวได้นัก เขาจึงหยุดเดิน ก่อนที่นางเองจะเผยยิ้มออกมา สิ่งที่นางได้ยินมันไม่ได้ฟังผิดไป แถมเขายังจับมือนางแน่น ใยชินอ๋องถึงได้อ่อนไหวเร็วเพียงนี้

 

"เจ้าฟื้นแล้วก็อยู่เองได้! หายเมื่อไหร่ก็ถูกกักบริเวณอีกเก้าวัน! " เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้ออกมาจากใจจริงแถมยังแถไปมั่ว เสี่ยวหลานได้แต่หัวเราะในลำคอเบาๆ ชินอ๋องผู้นี้ช่างปากแข็งเสียจริง ทำตัวไม่ถูกแล้วหรอเนี่ย

 

"ดึกแล้วข้าจะไปนอน" เขาพูดก่อนที่จะเดินออกไปเลยไม่ได้สนสิ่งที่หลินฮั่วพูดเอาไว้ก่อนหน้านั้น เพียงเพราะทำตัวไม่ถูก ดวงตาคู่สวยจ้องมองเขาจนสุดทางก่อนจะเชยชมมือของตนซึ่งถูกจับจากคนปากแข็งเฉกเช่นเขา

 

"พระชายาเพคะ! " ไป๋ไป๋เดินสวนทางกับชินอ๋องเข้ามาก่อนที่จะวางสำรับอาหารในมือลงบนโต๊ะ

 

"ท่านตื่นแล้ว หม่อมฉันนึกว่าจะไม่ได้เห็นท่านอีกแล้ว" ไป๋ไป๋พูดก่อนจะเดินมาจับมือของนาง แต่นางกลับปัดมือออกพร้อมพูดว่า "ข้ามจับข้างนี้นะ! ข้าหวง หากจะจับเจ้าจงจับข้างนี้" เธอยื่นมือซ้ายไปให้นางจับหากแต่มันอยู่อีกฝั่งทำให้จับยาก นางเลยตัดสินใจที่จะไม่จับและเล่าเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นตอนไปยังห้องครัวให้นางฟัง

 

"ช่างมัน หญิงงามแบบข้าไม่กินของเก่าหรอก แค่ข้าโดนปลายดาบสกปรกนั่นของจวิ้นอ๋องก็ขยะแขยงไปทั่วแล้วเผลอๆ อาจเข้าไปในเลือดข้าด้วย เอามันไปทิ้งเถิด" หานเสี่ยวหลานพูดก่อนจะเบือนหน้าหนีไปอีกฝั่ง

 

"อาหารก็มีแค่นี้แล้ว ถ้าท่านไม่กินก็ไม่มีเรี่ยวแรงนะเจ้าคะ" ไป๋ไป๋พูดเพราะเธอห่วงเรื่องความตายมากกว่าสิ่งอื่นใด ถึงแม้เธอเองจะไม่อยากให้นางแตะต้องของสกปรกพวกนั้นก็ตาม แต่เมื่อพูดไปแล้วอีกฝ่ายกลับไม่ได้ตอบโต้อะไรกลับมาเลย เธอจึงเลือกที่จะไม่กวนนางและนั่งเอาหลังชิดขอบเตียงก่อนจะผลอยหลับไป

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา