กรุ่นไอรักจากตำหนักหวางเฟย
-
เขียนโดย เหวินฉี
วันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2563 เวลา 16.51 น.
21 ตอน
0 วิจารณ์
15.05K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2563 16.58 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) ชิงตัวเจ้าสาว
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความณ ถนนคนเดินเมืองเหยี่ยชิง.. ขบวนเกี้ยวค่อยๆ ย่างมุ่งไปยังพระราชวังอย่างช้าๆ ผู้คนต่างจ้องมองไม่คลาดสายตา ชมความงามของคนที่อยู่ในเกี้ยว ใครๆ ก็อยากเป็นคนที่เปิดผ้าคลุมหน้าของเธอออกพร้อมชมเชยใบหน้าของเธอเช่นกัน ต่างคนก็ต่างอิจฉาจวิ้นอ๋องกันทั้งนั้นที่ได้แต่งงานกับลูกสาวตระกูลหานที่ว่ากันว่าเธอเป็นสตรีที่สวยที่สุดในเมือง
"ท่านแน่ใจหรอที่จะแต่งงานกับเขา ตามคำสั่งของนายหญิง เค้าว่ากันว่านะ จวิ้นอ๋อง ฉางเสี่ยวโม่คนนี้ วันๆ ไม่เอาการเอางาน กินแต่เหล้าเมาทั้งวัน" ไป๋ไป๋ คนใช้คนสนิทของหานเสี่ยวหลานเอ่ยเธอแนบตัวพิงกับเกี้ยวด้านนอกเพื่อฟังคำตอบของนาย ไป๋ไป๋รู้แม้กระทั่งนิสัยใจคอของเสี่ยวหลานเป็นอย่างดี คนแบบนี้นางก็คงไม่ไหวเช่นกัน ถ้าให้ไปอยู่ก็น่าจะกัดลิ้นตัวเองตายเป็นล้านครั้ง
"ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าข้าจะอยู่ได้ไหม ท่านแม่กับฮองเฮาช่างใจร้ายต่อข้านัก" เธอพูดด้วยเสียงครวญครางน่าเห็นใจพร้อมสะอึกสะอื้นเล็กๆ น้อยๆ ปนกับความเสียใจเห็นได้ถึงความกระวนกระวายของเธอเอง ก่อนที่เธอจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้
"ไป๋ไป๋.. ข้าจะหนีงานแต่ง" หานเสี่ยวหลานเปิดผ้าม่านออกพร้อมกับกระซิบข้างๆ ไป๋ไป๋ เธอยิ้มด้วยความเจ้าเล่ห์ แต่ไม่รู้ว่าจะสามารถทำอะไรได้ เพราะเป็นเพียงหญิงงามตัวเล็กๆ
"เอาเช่นนั้นจริงหรอเจ้าคะคุณหนู เราสองคนไม่ต่างกันเลยนะเจ้าคะ เป็นเพียงหญิงธรรมดาไม่มีวรยุทธ" ไป๋ไป๋พูดเหมือนตัดพ้อ ก่อนจะก้มหน้างุดสมเพชตัวเอง เธอไม่สามารถปกป้องนายของเธอได้แม้แต่ดาบยังไม่กล้าจับ แม้แต่เลือดเธอยังกลัว
"บ้าไปแล้วหรอไป๋ไป๋ เรามีความงาม มันคือวรยุทธอย่างหนึ่งที่คนหาเทียบเท่าไม่ได้" เสี่ยวหลานพูดด้วยความมั่นใจเพื่อทำให้หญิงสาวสบายใจขึ้น ไป๋ไป๋หันไปมองเสี่ยวหลานในเกี้ยวก่อนจะถอนหายใจพร้อมกับงุดหน้าลงอีกที เธอไม่ใช่ผู้ที่หลงในความงามของตนเช่นเสี่ยวหลาน เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะรู้สึกดีขึ้น
"ไป๋ไป๋... เจ้าต้องทำอะไรสักอย่างนะให้ขบวนนี้ล่ม แล้วเราก็หาทางออกไปกัน" เมื่อทุกอย่างเงียบไป เสี่ยวหลานก็เอ่ยขึ้นตัดบรรยากาศตามที่เธอคิดได้ตลอดทางตามจุดประสงค์ เธอต้องออกจากตรงนี้ให้ได้ เธอพยักหน้ารัวๆ ให้กับไป๋ไป๋เพื่อสื่อให้ทำตาม แต่คนตรงหน้ากลับส่ายหัวเบาๆ ด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย
"ก็นะ ไป๋ไป๋อ่า.. ชิ! " เสี่ยวหลานพูดก่อนจะปิดผ้าม่านลงด้วยความโมโห เธอนั่งทบทวนหาทางออกกับตัวเอง ใบหน้าที่ซ่อนอยู่ภายใต้ผ้าสีแดงกำลังเคร่งเครียดไปหมด เธอจะไม่ยอมโดนเนื้อมืออันแปดเปื้อนด้วยสิ่งสกปรกของฉางเสี่ยวโม่หรอก เธอจะไม่มีวันเสียครั้งแรกให้กับเขา
"หยุด!! " เสียงของชายปริศนาดังขึ้น พร้อมเสียงฝีเท้าของม้ามุ่งตรงเข้ามายังหน้าขบวน เสี่ยวหลานได้แต่คิดว่ามีคนมาช่วยเธอแน่ๆ ตอนนี้เธอตื่นตัวไปหมด เผยรอยยิ้มเล็กๆ ขึ้นมา มันตั้งความหวังให้กับเธอ ถ้าหากไม่เป็นเช่นนั้นก็คือจบกัน
"พวกเจ้าเป็นใคร มาขวางขบวนแบบนี้ หาใช่ที่ตายไม่!? " เสียงของทหารนำขบวนเอ่ย เสี่ยวหลานดีใจมากเมื่อได้ยินแบบนั้นเธอเปิดผ้าม่านเกี้ยวออกก่อนที่จะมองไปยังไป๋ไป๋แล้วพูดว่า
"ไป๋ไป๋ เจ้านี่เล่นตัวเก่งเหลือเกิน ข้านึกว่าเจ้าจะไม่ช่วยข้าเสียแล้วนะ! เจ้านี่มันนน เดี๋ยวพอกลับถึงจวนเรา ข้าจะซื้ออัญมณีสวยๆ ให้" เธอพูดก่อนจะยื่นมือไปจับไป๋ไป๋ ที่สีหน้าเคร่งเครียด นางหันไปมองเสี่ยวหลานพร้อมกับส่ายหน้าไปคราหนึ่งก่อนจะหันไปมองชายชุดดำที่นั่งอยู่บนหลังม้า
"เจ้าจะเครียดไปใยกัน ไป๋ไป๋ ว่าแต่เจ้าหาทหารมาได้ยังไงกัน อยู่กับข้าตลอดทางไม่ใช่หรือ" เสี่ยวหลานพูดด้วยน้ำเสียงปลื้มปริ่มบวกกับความสงสัย คนใช้ของนางนี่ข้างในร้ายกาจจริงๆ นางคิด
"คุณหนู นั่นไม่ใช่ฝีมือข้า" ไป๋ไป๋หันมาพูดด้วยน้ำเสียงร้อนรนบวกกับส่ายหัวปฏิเสธอย่างเร็วก่อนจะรีบหันกลับไปมองข้างหน้า สีหน้ากระวนกระวายก็เริ่มขึ้น เสี่ยวหลานได้แต่นั่งคิด ถ้าไม่ใช่อย่างนั้น แล้วตอนนี้กำลังเกิดอะไรขึ้น เธอนั่งด้วยความสงบเสงี่ยมเพื่อฟังสถานการณ์ด้านนอก
"วางเกี้ยวลง! " เสียงชายปริศนาพูดขึ้นด้วยความหนักแน่น ยากจะขัดคำสั่ง น้ำเสียงที่คุ้นเคยในการสั่งทหาร ดูก็รู้ว่าเป็นผู้มีอำนาจ
"เจ้าไม่มีสิทธิ์มาสั่งพวกข้า! " ทหารหน้าขบวนพูด เสี่ยวหลานได้เพียงคิดว่าหรือนี่จะอันตรายยิ่งกว่าไอ้คนขี้เมาเสี่ยวโม่นั่น
"ทหาร! ไปล้อมไว้ แล้วฉุดตัวหานเสี่ยวหลานกับคนใช้ของนางไป" เมื่อพูดจบทหารที่ซ่อนตัวตามแหล่งต่างๆ ก็โผลเข้ามาล้อมขบวน เสี่ยวหลานเมื่อได้ยินชื่อของตนก็ตกใจร้อนระอุไปทั่วอก เธอไม่ได้ตกใจกลัวที่มีทหารล้อมหรือล้มขบวน แต่เธอกำลังจะถูกลักพาตัวโดยทหารชั้นต่ำอย่างงั้นหรอ เธอมองดูแขนขาวนวลผ่องของเธอ มันจะโดนจับโดยเนื้อมือหยาบกระด้างของทหารรับใช้พวกนั้น
"เจ้ากล้านัก! ขืนเจ้าทำเช่นนี้ โทษถึงประหาร ฮ่องเต้ไม่ปล่อยเจ้าไปแน่! " ทหารแนวหน้าขบวนเอ่ยก่อนจะชักดาบชี้ไปที่คนซึ่งนั่งบนหลังม้า
"แล้วถ้าข้าเป็นน้องชายฮ่องเต้ล่ะ เขาคงไม่ฆ่าน้องชายของเขาหรอกจริงไหม" คำที่เขาพูดออกมาทำให้คนทั้งขบวนต่างอึ้งไปทั่วหน้าจนต้องหันไปมองกันเอง แม้กระทั่งไป๋ไป๋กับเสี่ยวหลานยังหันหน้าเข้าหากัน เมื่อเป็นเช่นนั้นเขาจึงตัดสินใจถอดผ้าคลุมออกแล้วโยนลงกับพื้นจนดินคลุ้ง เผยให้เห็นคนรูปงามที่นั่งบนหลังม้า ฉางเสี่ยวฉิน
"กระหม่อมบังอาจเกินไปแล้ว.. ได้โปรดไว้ชีวิตกระหม่อมด้วยเถิด ชินอ๋อง" ทุกคนที่อยู่ในขบวนต่างก้มลงแทบพื้นดิน เมื่อเห็นดังนั้น ใครหน้าไหนขัดคำสั่งของเขาก็โทษถึงตายเช่นกัน ชินอ๋องคนนี้ว่ากันว่าโหดเหี้ยมนัก แต่ทว่าตอนนี้เสี่ยวหลานกลับยิ้มเล็กยิ้มใหญ่ ชินอ๋องมาช่วยเธออย่างงั้นหรอ เธอไม่เคยรู้จักเขามาก่อน แทบไม่รู้ว่ามีชินอ๋อง นั่นจึงไม่ได้ทำให้เธอกลัวเลยซักนิด
"วางเกี้ยวลง" ฉางเสี่ยวฉินพูดด้วยน้ำเสียงแข็งทื่อนุ่มนวลไม่ได้หนักแน่นนัก เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าไม่กล้าขัดขืนแล้ว เพียงแต่ตนมีอำนาจสูงสุดสั่งอะไรไปคนก็ต้องทำตามเป็นแน่ เมื่อเกี้ยวหยุดลงกับพื้น เขาจึงหันไปส่งสายตาสั่งทหารรับใช้คนสนิทให้จับตัวของเสี่ยวหลานกับไป๋ไป๋ไปที่จวนของตน
"อย่าลืมบอกจวิ้นอ๋องของเจ้าล่ะ ว่าข้ามาฉุดตัวเจ้าสาวของเขาไปแต่งงานแล้ว" ชินอ๋องพูดก่อนจะยิ้มมุมปากและหัวเราะในลำคอออกมาก่อนจะควบม้าหนีไปด้วยความอิ่มอกอิ่มใจ นี่คือการทำร้ายจวิ้นอ๋องที่ดีที่สุด แต่ทว่าคำพูดนั้นกลับทิ้งให้ทหารคนนำขบวนพวกนั้นคิดเล็กคิดน้อย
"แต่งงานกับข้างั้นหรอ" เสี่ยวหลานพูดกับตัวเอง ก่อนจะยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ และพูดเสียงดังขึ้นว่า "ข้าตกลง! ข้าจะแต่งกับเขา! " ชินอ๋องผู้นี้ดูเป็นคนเก่งกล้าสามารถ นั่นถึงจะเป็นสวามีที่เพียบพร้อมและคู่ควรที่สุด ถ้าให้ข้าแต่งกับจวิ้นอ๋อง ข้ายอมตายดีกว่า
เธอตัดสินใจเดินลงเกี้ยวและยื่นมือให้กับทหารของชินอ๋อง พร้อมกับยิ้มกว้าง อีกไม่นานเธอก็จะได้เป็นพระชายาชินอ๋องแล้วจะได้รู้จักกับทหารคนสนิทของเขาหลายๆ คน มันคงไม่เป็นไรถ้าเธอจะยอมให้ชายชุดดำทหารพวกนั้นจับข้อมือของเธอมัดด้วยเชือก แม้แต่ไป๋ไป๋ก็ได้แต่เบิกตาโตเมื่อเห็นเป็นเช่นนั้น
"คุณหนู เดินนำไปเถิด พวกเราไม่จับตัวท่านอย่างนักโทษหรอก ข้าเชื่อว่าคุณหนูไม่หนีไป อีกไม่นานก็ถึงรถม้าแล้ว" ทหารคนนั้นพูดก่อนจะเดินตามหลังคอยกำชับความปลอดภัยให้และพาไปส่งยังรถม้าที่เตรียมไว้
แต่มีเพียงไป๋ไป๋ที่ทำหน้างงได้ตลอดทางที่รถม้าเคลื่อนไป คุณหนูของเธอเป็นอะไรไปแล้วนะ
"เจ้าเห็นไหมไป๋ไป๋ ทหารคนนี้อ่อนน้อม ประนีประนอมกับข้า เขาได้รับคำสั่งจากชินอ๋อง ชินอ๋องผู้นี้ช่างมีเสน่ห์ยิ่งนัก แถมยังเป็นคนดี เขาเหมาะสมกับข้า" เธอพูดก่อนจะยิ้มพร้อมกับหัวเราะคิกคักในลำคอกลบเกลื่อนความเขินอายของเธอเอง มีเพียงไป๋ไป๋ที่เพียงพยักหน้าให้และยิ้มแห้งๆ ก่อนที่จะมองนอกรถม้าสังเกตตามทาง
"ท่านแน่ใจหรอที่จะแต่งงานกับเขา ตามคำสั่งของนายหญิง เค้าว่ากันว่านะ จวิ้นอ๋อง ฉางเสี่ยวโม่คนนี้ วันๆ ไม่เอาการเอางาน กินแต่เหล้าเมาทั้งวัน" ไป๋ไป๋ คนใช้คนสนิทของหานเสี่ยวหลานเอ่ยเธอแนบตัวพิงกับเกี้ยวด้านนอกเพื่อฟังคำตอบของนาย ไป๋ไป๋รู้แม้กระทั่งนิสัยใจคอของเสี่ยวหลานเป็นอย่างดี คนแบบนี้นางก็คงไม่ไหวเช่นกัน ถ้าให้ไปอยู่ก็น่าจะกัดลิ้นตัวเองตายเป็นล้านครั้ง
"ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าข้าจะอยู่ได้ไหม ท่านแม่กับฮองเฮาช่างใจร้ายต่อข้านัก" เธอพูดด้วยเสียงครวญครางน่าเห็นใจพร้อมสะอึกสะอื้นเล็กๆ น้อยๆ ปนกับความเสียใจเห็นได้ถึงความกระวนกระวายของเธอเอง ก่อนที่เธอจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้
"ไป๋ไป๋.. ข้าจะหนีงานแต่ง" หานเสี่ยวหลานเปิดผ้าม่านออกพร้อมกับกระซิบข้างๆ ไป๋ไป๋ เธอยิ้มด้วยความเจ้าเล่ห์ แต่ไม่รู้ว่าจะสามารถทำอะไรได้ เพราะเป็นเพียงหญิงงามตัวเล็กๆ
"เอาเช่นนั้นจริงหรอเจ้าคะคุณหนู เราสองคนไม่ต่างกันเลยนะเจ้าคะ เป็นเพียงหญิงธรรมดาไม่มีวรยุทธ" ไป๋ไป๋พูดเหมือนตัดพ้อ ก่อนจะก้มหน้างุดสมเพชตัวเอง เธอไม่สามารถปกป้องนายของเธอได้แม้แต่ดาบยังไม่กล้าจับ แม้แต่เลือดเธอยังกลัว
"บ้าไปแล้วหรอไป๋ไป๋ เรามีความงาม มันคือวรยุทธอย่างหนึ่งที่คนหาเทียบเท่าไม่ได้" เสี่ยวหลานพูดด้วยความมั่นใจเพื่อทำให้หญิงสาวสบายใจขึ้น ไป๋ไป๋หันไปมองเสี่ยวหลานในเกี้ยวก่อนจะถอนหายใจพร้อมกับงุดหน้าลงอีกที เธอไม่ใช่ผู้ที่หลงในความงามของตนเช่นเสี่ยวหลาน เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะรู้สึกดีขึ้น
"ไป๋ไป๋... เจ้าต้องทำอะไรสักอย่างนะให้ขบวนนี้ล่ม แล้วเราก็หาทางออกไปกัน" เมื่อทุกอย่างเงียบไป เสี่ยวหลานก็เอ่ยขึ้นตัดบรรยากาศตามที่เธอคิดได้ตลอดทางตามจุดประสงค์ เธอต้องออกจากตรงนี้ให้ได้ เธอพยักหน้ารัวๆ ให้กับไป๋ไป๋เพื่อสื่อให้ทำตาม แต่คนตรงหน้ากลับส่ายหัวเบาๆ ด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย
"ก็นะ ไป๋ไป๋อ่า.. ชิ! " เสี่ยวหลานพูดก่อนจะปิดผ้าม่านลงด้วยความโมโห เธอนั่งทบทวนหาทางออกกับตัวเอง ใบหน้าที่ซ่อนอยู่ภายใต้ผ้าสีแดงกำลังเคร่งเครียดไปหมด เธอจะไม่ยอมโดนเนื้อมืออันแปดเปื้อนด้วยสิ่งสกปรกของฉางเสี่ยวโม่หรอก เธอจะไม่มีวันเสียครั้งแรกให้กับเขา
"หยุด!! " เสียงของชายปริศนาดังขึ้น พร้อมเสียงฝีเท้าของม้ามุ่งตรงเข้ามายังหน้าขบวน เสี่ยวหลานได้แต่คิดว่ามีคนมาช่วยเธอแน่ๆ ตอนนี้เธอตื่นตัวไปหมด เผยรอยยิ้มเล็กๆ ขึ้นมา มันตั้งความหวังให้กับเธอ ถ้าหากไม่เป็นเช่นนั้นก็คือจบกัน
"พวกเจ้าเป็นใคร มาขวางขบวนแบบนี้ หาใช่ที่ตายไม่!? " เสียงของทหารนำขบวนเอ่ย เสี่ยวหลานดีใจมากเมื่อได้ยินแบบนั้นเธอเปิดผ้าม่านเกี้ยวออกก่อนที่จะมองไปยังไป๋ไป๋แล้วพูดว่า
"ไป๋ไป๋ เจ้านี่เล่นตัวเก่งเหลือเกิน ข้านึกว่าเจ้าจะไม่ช่วยข้าเสียแล้วนะ! เจ้านี่มันนน เดี๋ยวพอกลับถึงจวนเรา ข้าจะซื้ออัญมณีสวยๆ ให้" เธอพูดก่อนจะยื่นมือไปจับไป๋ไป๋ ที่สีหน้าเคร่งเครียด นางหันไปมองเสี่ยวหลานพร้อมกับส่ายหน้าไปคราหนึ่งก่อนจะหันไปมองชายชุดดำที่นั่งอยู่บนหลังม้า
"เจ้าจะเครียดไปใยกัน ไป๋ไป๋ ว่าแต่เจ้าหาทหารมาได้ยังไงกัน อยู่กับข้าตลอดทางไม่ใช่หรือ" เสี่ยวหลานพูดด้วยน้ำเสียงปลื้มปริ่มบวกกับความสงสัย คนใช้ของนางนี่ข้างในร้ายกาจจริงๆ นางคิด
"คุณหนู นั่นไม่ใช่ฝีมือข้า" ไป๋ไป๋หันมาพูดด้วยน้ำเสียงร้อนรนบวกกับส่ายหัวปฏิเสธอย่างเร็วก่อนจะรีบหันกลับไปมองข้างหน้า สีหน้ากระวนกระวายก็เริ่มขึ้น เสี่ยวหลานได้แต่นั่งคิด ถ้าไม่ใช่อย่างนั้น แล้วตอนนี้กำลังเกิดอะไรขึ้น เธอนั่งด้วยความสงบเสงี่ยมเพื่อฟังสถานการณ์ด้านนอก
"วางเกี้ยวลง! " เสียงชายปริศนาพูดขึ้นด้วยความหนักแน่น ยากจะขัดคำสั่ง น้ำเสียงที่คุ้นเคยในการสั่งทหาร ดูก็รู้ว่าเป็นผู้มีอำนาจ
"เจ้าไม่มีสิทธิ์มาสั่งพวกข้า! " ทหารหน้าขบวนพูด เสี่ยวหลานได้เพียงคิดว่าหรือนี่จะอันตรายยิ่งกว่าไอ้คนขี้เมาเสี่ยวโม่นั่น
"ทหาร! ไปล้อมไว้ แล้วฉุดตัวหานเสี่ยวหลานกับคนใช้ของนางไป" เมื่อพูดจบทหารที่ซ่อนตัวตามแหล่งต่างๆ ก็โผลเข้ามาล้อมขบวน เสี่ยวหลานเมื่อได้ยินชื่อของตนก็ตกใจร้อนระอุไปทั่วอก เธอไม่ได้ตกใจกลัวที่มีทหารล้อมหรือล้มขบวน แต่เธอกำลังจะถูกลักพาตัวโดยทหารชั้นต่ำอย่างงั้นหรอ เธอมองดูแขนขาวนวลผ่องของเธอ มันจะโดนจับโดยเนื้อมือหยาบกระด้างของทหารรับใช้พวกนั้น
"เจ้ากล้านัก! ขืนเจ้าทำเช่นนี้ โทษถึงประหาร ฮ่องเต้ไม่ปล่อยเจ้าไปแน่! " ทหารแนวหน้าขบวนเอ่ยก่อนจะชักดาบชี้ไปที่คนซึ่งนั่งบนหลังม้า
"แล้วถ้าข้าเป็นน้องชายฮ่องเต้ล่ะ เขาคงไม่ฆ่าน้องชายของเขาหรอกจริงไหม" คำที่เขาพูดออกมาทำให้คนทั้งขบวนต่างอึ้งไปทั่วหน้าจนต้องหันไปมองกันเอง แม้กระทั่งไป๋ไป๋กับเสี่ยวหลานยังหันหน้าเข้าหากัน เมื่อเป็นเช่นนั้นเขาจึงตัดสินใจถอดผ้าคลุมออกแล้วโยนลงกับพื้นจนดินคลุ้ง เผยให้เห็นคนรูปงามที่นั่งบนหลังม้า ฉางเสี่ยวฉิน
"กระหม่อมบังอาจเกินไปแล้ว.. ได้โปรดไว้ชีวิตกระหม่อมด้วยเถิด ชินอ๋อง" ทุกคนที่อยู่ในขบวนต่างก้มลงแทบพื้นดิน เมื่อเห็นดังนั้น ใครหน้าไหนขัดคำสั่งของเขาก็โทษถึงตายเช่นกัน ชินอ๋องคนนี้ว่ากันว่าโหดเหี้ยมนัก แต่ทว่าตอนนี้เสี่ยวหลานกลับยิ้มเล็กยิ้มใหญ่ ชินอ๋องมาช่วยเธออย่างงั้นหรอ เธอไม่เคยรู้จักเขามาก่อน แทบไม่รู้ว่ามีชินอ๋อง นั่นจึงไม่ได้ทำให้เธอกลัวเลยซักนิด
"วางเกี้ยวลง" ฉางเสี่ยวฉินพูดด้วยน้ำเสียงแข็งทื่อนุ่มนวลไม่ได้หนักแน่นนัก เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าไม่กล้าขัดขืนแล้ว เพียงแต่ตนมีอำนาจสูงสุดสั่งอะไรไปคนก็ต้องทำตามเป็นแน่ เมื่อเกี้ยวหยุดลงกับพื้น เขาจึงหันไปส่งสายตาสั่งทหารรับใช้คนสนิทให้จับตัวของเสี่ยวหลานกับไป๋ไป๋ไปที่จวนของตน
"อย่าลืมบอกจวิ้นอ๋องของเจ้าล่ะ ว่าข้ามาฉุดตัวเจ้าสาวของเขาไปแต่งงานแล้ว" ชินอ๋องพูดก่อนจะยิ้มมุมปากและหัวเราะในลำคอออกมาก่อนจะควบม้าหนีไปด้วยความอิ่มอกอิ่มใจ นี่คือการทำร้ายจวิ้นอ๋องที่ดีที่สุด แต่ทว่าคำพูดนั้นกลับทิ้งให้ทหารคนนำขบวนพวกนั้นคิดเล็กคิดน้อย
"แต่งงานกับข้างั้นหรอ" เสี่ยวหลานพูดกับตัวเอง ก่อนจะยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ และพูดเสียงดังขึ้นว่า "ข้าตกลง! ข้าจะแต่งกับเขา! " ชินอ๋องผู้นี้ดูเป็นคนเก่งกล้าสามารถ นั่นถึงจะเป็นสวามีที่เพียบพร้อมและคู่ควรที่สุด ถ้าให้ข้าแต่งกับจวิ้นอ๋อง ข้ายอมตายดีกว่า
เธอตัดสินใจเดินลงเกี้ยวและยื่นมือให้กับทหารของชินอ๋อง พร้อมกับยิ้มกว้าง อีกไม่นานเธอก็จะได้เป็นพระชายาชินอ๋องแล้วจะได้รู้จักกับทหารคนสนิทของเขาหลายๆ คน มันคงไม่เป็นไรถ้าเธอจะยอมให้ชายชุดดำทหารพวกนั้นจับข้อมือของเธอมัดด้วยเชือก แม้แต่ไป๋ไป๋ก็ได้แต่เบิกตาโตเมื่อเห็นเป็นเช่นนั้น
"คุณหนู เดินนำไปเถิด พวกเราไม่จับตัวท่านอย่างนักโทษหรอก ข้าเชื่อว่าคุณหนูไม่หนีไป อีกไม่นานก็ถึงรถม้าแล้ว" ทหารคนนั้นพูดก่อนจะเดินตามหลังคอยกำชับความปลอดภัยให้และพาไปส่งยังรถม้าที่เตรียมไว้
แต่มีเพียงไป๋ไป๋ที่ทำหน้างงได้ตลอดทางที่รถม้าเคลื่อนไป คุณหนูของเธอเป็นอะไรไปแล้วนะ
"เจ้าเห็นไหมไป๋ไป๋ ทหารคนนี้อ่อนน้อม ประนีประนอมกับข้า เขาได้รับคำสั่งจากชินอ๋อง ชินอ๋องผู้นี้ช่างมีเสน่ห์ยิ่งนัก แถมยังเป็นคนดี เขาเหมาะสมกับข้า" เธอพูดก่อนจะยิ้มพร้อมกับหัวเราะคิกคักในลำคอกลบเกลื่อนความเขินอายของเธอเอง มีเพียงไป๋ไป๋ที่เพียงพยักหน้าให้และยิ้มแห้งๆ ก่อนที่จะมองนอกรถม้าสังเกตตามทาง
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ