เซน
-
เขียนโดย jenkaweeroong
วันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2563 เวลา 15.55 น.
3 ตอน
1 วิจารณ์
3,861 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 27 กันยายน พ.ศ. 2563 16.01 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) บทที่3 ความผิดครั้งนี้
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่3
ภายในห้องพัก811 โยชิกำลังยุ่งขิงอยู่กับสรุปข้อมูลวิชาสิ่งแวดดล้อมของรุ่นน้องปี1ที่ชื่อเซน ส่วนวินที่นั่งโต๊ะถัดไปก็กำลังมีสมาธิกับงานตัดต่อของเขา
เจเหลือบมองดูเวลาที่จอคอม
“ เที่ยงคืนละ เดี๋ยวจะกลับสักเที่ยงครึ่ง ”
“ อืมๆ เป็นไงมั่งวะ ”
“ ก็ใกล้ละ เหลือซาวด์ประกอบ ของมึงล่ะ ” วินเอียงหน้ามาดูงานที่โยทำอยู่
“ ใกล้ละเหมือนกัน ”
โยชิ นั่งไขว่ห้างพิงพนักเก้าอี้เต็มหลัง วางไอแพดไว้บนตัก เขาครุ่นคิดและมีสมาธิกับงานจริงจัง ทั้งที่ไม่ใช่งานของตัวเอง
วินประหลาดใจมาก ที่รู้ว่าโยชิช่วยเซนทำงานส่งอาจารย์ แม้จะรู้ว่าเพื่อนเขาคนนี้ภายนอกกับภายในต่างกันเยอะ แต่มันก็ไม่ได้ยอมทำอะไรให้ใครเปล่าๆง่ายๆนัก
‘ นึกไงถึงช่วยเซนทำวะเนี่ย ไม่น่าเชื่อ ’
‘ ก็ช่วยๆมันไป มันมาขอร้องให้ช่วย เห็นบอกว่าติดงานฟิตติ้ง....กูแค่แกล้งเล่นบอกให้กราบตัก เซนแม่งก็เล่นใหญ่จะกราบจริงอีก ’
‘ เหรอ....แต่กูว่ามึงโดนเซนป้ายยา ’
‘ เออ กูก็สงสัยอยู่เหมือนกัน ที่ชอบมากอดๆเนี่ย แอบป้ายมั่งรึเปล่าไม่รู้ ’
วินเชื่อว่าโยชิต้องมีเหตุผลอะไรมากกว่านั้นที่ไม่ได้บอกเล่าออกมา ถ้าความสัมพันธ์ของพี่กับน้องกลมเกลียวมันก็ดี งานที่ทำร่วมกันจะได้ราบรื่น
วินลุกไปเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าล้างตาให้สดชื่น แล้วพักนั่งเล่นโทรศัพท์เช็คอะไรๆในโซเชียลเพื่อผ่อนคลายบ้าง
“ อืม นี่ไง น้องเซนลงสตอรี่ที่ไปฟิตติ้งวันนี้ด้วย ”
“ เหรอ ” โยชิสนใจแต่ยังไม่ละจากงาน
เสียงเพลงในผับดังมาจากไอจีสตอรี่นั้น
“ หืม? ” วินดูประหลาดใจ เลิกคิ้วกับสิ่งที่เห็นในโซเชียล
“ อะไรวะ? ”
วินไม่ตอบ ยังคงจิ้มในมือถือด้วยสีหน้าสงสัย
เมื่อเสียงเพลงในผับดังออกมาจากมือถือวิน ทำให้โยชิยิ่งอยากรู้ ลุกมาดูด้วยตัวเอง
ภาพที่ปรากฏ
เด็กหนุ่มหน้าหวานที่คุ้นตา แต่อยู่ในภาพที่ไม่คุ้นชิน เซนกำลังเต้นอยู่ในผับ เสียงเพลงดังกับแสงไฟสลับวับวอม
เด็กหนุ่มสวมหมวกแก๊ปดำปัดไปด้านหลัง กำลังเต้นแนบชิดอยู่กับหญิงสาวแสนเซ็กซี่ ในมือเขามีแก้วเครื่องดื่มสีอำพัน แม้หางตาจะเขาเห็นว่าถูกถ่าย แต่ก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะแคร์
พวกเขาเพิ่งเคยเห็นเซนในมุมนี้ วินกดติดตามไอจีเซนได้ไม่นาน ส่วนโยชิก็ไม่ค่อยสนใจเล่นโซเชียลเท่าไหร่
“ อันนี้คือ..ตอนนี้มันอยู่ที่ผับเหรอ? ” โยถาม
“ อืม...มันอาจจะเกี่ยวกับเรื่องงานรึเปล่า.......นี่ไง วันนี้ทั้งวันก็ลงที่ไปฟิตติ้ง อาจจะเกี่ยวเนื่องกัน..หรือเปล่า ”
วินเลื่อนย้อนกลับไปให้เพื่อนดู
ช่วงต้นๆของวันเซนลงบรรยากาศการทำงานในสตูดิโอ และภาพที่ทีมงานถ่ายเซนกับออดี้แกล้งเล่นกัน ซบไหล่ซบหลังกัน โยดูจนจบหมดทุกคลิป
เขารู้สึกมึนชาคล้ายถูกตบกบาล เขาโกรธเพราะถูกหลอกใช้
โยชิเริ่มกดติดตามไอจีเซนแล้วเข้าไปดูโพสต์อื่นๆ เขาใช้เวลากับมันอยู่ครู่หนึ่ง
“ ที่ไปผับ ไม่น่าใช่เรื่องงานอะ ”
“ ใจเย็น..ก็อาจจะเป็นได้ทั้งนั้นนะ ไว้มึงคุยกับเซนมันพรุ่งนี้สิ ”
อีกฝ่ายนั่งเงียบ วินเหลียวมามองดูเพื่อนที่กำลังนั่งจมกับมือถืออยู่ตรงโซฟา
“ มันอาจจะไม่ใช่อย่างที่เห็นเสมอไปนะเว้ย สถานการณ์มันอาจจะหลากหลาย มึงเข้าใจปะ ”
“ เออ กูก็แค่เสียความรู้สึก ”
แล้วโยชิก็เริ่มระบายสิ่งที่คิดที่รู้สึกออกมา ก็เป็นสิ่งที่วินพอจะนึกเดาและเข้าใจได้ประมาณหนึ่งอยู่แล้ว ปล่อยให้บ่นออกมาเผื่อจะได้รู้สึกดีขึ้น วินอยู่คุยด้วยจนถึงเวลาสมควรก็ขอตัวกลับ
บางครั้งอะไรก็ต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของพรุ่งนี้ไปบ้าง
บ่ายแก่ใกล้จะห้าโมงเย็น หนุ่มน้อยหน้าหวานในชุดนักศึกษา กำลังนั่งเล่นโทรศัพท์ตรงม้าหินอ่อน ข้างตึกคณะ หลังจากโดดคาบเช้าแต่มาโผล่เรียนคาบบ่ายเสร็จแล้ว เซนก็ไลน์ไปนัดเจอโยชิ กะว่าจะติดรถไปหอไปกินข้าวเย็นพร้อมกัน วันนี้เขาตื่นสายมึนๆด้วยเลยขี้เกียจขับรถมา
พิมพ์บอกไปในไลน์ โยชิอ่านไม่ตอบ รู้สึกแปลกนิดๆเหมือนกัน แต่เขาอาจจะกำลังเรียนหรือยุ่งอยู่ เรียนเสร็จเซนเลยมานั่งเล่นรอข้างตึก
“ ขอโทษนะคะ ”
เสียงหญิงสาวทำให้เซนละสายตาจากโทรศัพท์ นักศึกษาสาวทั้งสามยืนกล้าๆกลัวๆอยู่ตรงหน้าเขา
“ น้องเซนใช่มั้ยคะ ”
“ ใช่ครับ ”
“ คือว่า อยากจะขอถ่ายรูปด้วย จะได้มั้ยคะ ”
หญิงสาวคนเดิมพูดเขินๆ ใบหน้านั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มดูน่ารักดี
“ ได้ครับ ”
เซนขยับลุกออกมาถ่ายรูปกับสาวๆ รูปรวมรูปคู่ เซนถ่ายให้อย่างเต็มใจ
“ อยู่คณะอะไรกันครับเนี่ย ”
“ บริหารธุรกิจสาขาคอมธุรกิจค่ะ ”
“ เห็นน้องเซนตั้งหลายทีแล้ว แต่ไม่มีโอกาสไม่กล้าทัก ”
“ ทักได้ครับ ทักได้เลย ”
“ แล้วมานั่งทำอะไรคนเดียวตรงนี้คะเนี่ย ”
“ เซนมารอรุ่นพี่ เดี๋ยวจะออกไปกินข้าวกัน ”
“ ติดตามงานอยู่ตลอดนะ ตามไอจีด้วย เมื่อวานเห็นลงที่ไปผับด้วยอะ ”
“ เออใช่ ไปกับใครอะ แฟนเหรอ ”
“ ออดี้ไม่ไปด้วยเหรอ ”
“ ไปกับเพื่อนๆครับ ออดี้ไม่ได้ไปแยกกันตั้งแต่ที่ฟิตติ้ง ”
พวกรุ่นพี่ทยอยเดินออกมาจากตึก วินโบกมือทักทายเซนอยู่ไม่ไกล
“ เอ่อ รุ่นพี่ลงมากันแล้ว ” เซนว่า
“ อ๋อๆ จะไปแล้วใช่มั้ยอะ ”
“ ช่าย..งั้นเดี๋ยวเซนขอตัวก่อนนะครับ ”
“ โอเคบาย เจอกันอย่าลืมเรานะ ”
“ ได้ครับ ไว้เจอกัน..บาย ”
เซนโบกมือแล้วปลีกตัวมาหาวิน ถึงเพิ่งเห็นว่าโยชิยืนมองเขาอยู่ไม่ไกล ทว่าเมื่อเห็นเซนมองมาเขากลับเดินเลี่ยงไปอีกทาง
“ หวัดดีครับพี่วิน ”
“ ครับ...เดี๋ยวน้องเซนจะซ้อนมอไซค์ไปกับโยใช่ป่าว ”
“ ใช่ครับ พอดีวันนี้เซนไม่ได้ขับรถมา เลยว่าจะรบกวน..แล้วพี่วินล่ะเอารถมารึเปล่า ”
“ อ๋อ เดี๋ยวพี่แยกไปกินข้าวกับพวกโต้งก็ได้ ”
“ แล้วนี่พี่โยชิ เค้าหายไปเอารถใช่มั้ยอะ ” เซนมองหา
“ คือพี่จะบอกเซนไว้นะ ว่าโยชิมันเห็นที่เซนไปเที่ยวผับเมื่อคืน แล้วมันก็ไม่พอใจมากๆ ”
ดวงหน้าที่กำลังยิ้มสดใส กลับสลดวูบ เซนยืนประมวลภาพเหตุการณ์ต่างๆที่ลงไอจีไว้
เมื่อวาน หลังจากเสร็จงานก็มีนัดไปแฮงค์เอาท์ต่อ เขาลืมเรื่องอื่นเสียสนิท มิน่าล่ะโยชิถึงได้ดูตึงๆแปลกๆ
“ จริงด้วย...เซนลืม ” เซนพูดเสียงอ่อย
“ แต่พี่บอกโย ว่าเซนน่าจะไปเพราะเรื่องงานนะ ยังไงก็...ดีๆล่ะ ” วินตบไหล่คนนน้อง
“ พี่วิน ....พี่โยมันโกรธเซนมากปะ เบอร์ไหนเนี่ย ”
“ มันก็บ่นๆกับพี่อะนะ ว่าเซนไม่รับผิดชอบงาน เมื่อคืนมันก็นั่งทำงานให้เซนตลอด พอมันเห็นเซนอยู่ในผับมันก็อึ้งๆไปเลย ก็โกรธเลยแหละ แต่วันนี้อาจจะเบาลงแล้วมั้ง ทนๆฟังมันบ่นมันด่าหน่อยละกัน ”
“ โห พี่วิน จะไปแล้วเหรอ ” เซนอยากจะรั้งวินไว้เมื่ออีกฝ่ายกำลังจะไป
“ พูดกับมันดีๆ ใจเย็นๆไว้ เดี๋ยวมันก็หาย ”
วินเดินไปกับกลุ่มเพื่อน เซนชักฝ่อที่จะต้องเจอกับโยชิตามลำพัง
แต่แล้วเขาก็เปลี่ยนความคิด สถานการณ์ยุ่งยากกว่านี้เขาก็ผ่านมาแล้ว เซนคิดว่าเขาเข้าใจคนอย่างโยชิ และน่าจะหาวิธีง้อให้หายโกรธได้ เพียงแต่...วิธีไหนนี่สิ
โยชิขี่มอเตอร์ไซค์ปราดมาตรงหน้า คนน้องส่งยิ้มให้ แต่คนพี่ดึงหน้าตึงดูไร้อารมณ์
“ พี่โยอยากกินอะไร เดี๋ยววันนี้เซนเลี้ยงนะ ”
เด็กหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนสดใส แต่อีกฝ่ายไม่ตอบ
เซนคิดว่าถ้าง้อตรงนี้ความโมโหหิวก็อาจจะมีผลให้อารมณ์ขึ้นง่าย คิดอีกทีง้อในร้านอาหารน่าจะเข้าท่ากว่า
เซนซ้อนมอเตอร์ไซค์ด้วยใจหวั่นๆ นี่ถ้าไม่ผิดก็คงจะอธิบายไปเลยว่าความจริงคืออะไร ยังไง
หรือว่าจะใช้วิธีโกหกไปเลย?
มันก็ได้อยู่หรอก แต่จริงๆเซนก็รู้สึกผิดในสิ่งที่ทำเหมือนกัน
ก็คนมันลืมจริงๆนี่หว่า
เรื่องเรียนกับเซน เป็นไม้เบื่อไม้เมามาแต่ไหนแต่ไร มันไม่ใช่วิถีชีวิตของเซนเลยจริงๆ แต่ถ้าเป็นกิจกรรมล่ะก็ทุ่มให้ทั้งกายและใจเต็มร้อยเสมอ
โยชิขับมาจอดหน้าร้านข้าวหมูกรอบขึ้นชื่อของย่านนี้
“ พี่โยจะกินอะไรครับ เซนสั่งให้ ”
“ ข้าวหมูแดงหมูกรอบพิเศษจานครับ แล้วก็ชาเย็นแก้ว ”
พ่อสั่งเองเสร็จสรรพไปแล้ว
ดูท่าว่า แนวยิ้มแย้มโลกสดใสใจดีสู้เสือจะไม่ค่อยได้ผล
“ พี่โยชิ ”
เซนทอดน้ำเสียง เรียกชื่อคนพี่ด้วยแววตาละห้อย คนหน้าตึงถึงได้ปรับโฟกัส หันมามองเด็กน้อยตรงหน้า
“ เซนขอโทษนะ คือเมื่อวาน พอเสร็จงานฟิตติ้งกัน พวกพี่ๆก็ชวนเซนไปต่องานวันเกิดพี่ในกองกันเลย แล้วมันกะทันหัน เซนเลยลืม...”
“ มึงลืม ก็เพราะมันไม่สำคัญมากพอสำหรับมึงไง แต่งานวันเกิดมันน่าจะสำคัญกว่า ”
อาหารถูกยกมาเสิร์ฟ
“ กูกินข้าวละ ยังไม่คุยนะ ”
โยหยิบช้อนส้อมพลางเหลือบมองคนตรงหน้า สายตายังเฉยชาไม่เปลี่ยน
เซนเริ่มว้าวุ่นใจ แต่ก็ยังเชื่อว่าตัวเองต้องจัดการได้
เมื่อจัดการมื้อเย็นเรียบร้อยแล้ว เซนต้องการจะเลี้ยง โยชิก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร คนน้องเริ่มรู้สึกว่าบรรยากาศน่าจะดีขึ้น ก่อนหน้านี้โยชิอาจจะเหนื่อยเพราะเพิ่งเรียนเสร็จรวมๆกับโมโหหิวปนเปกัน
ถ้ายอมให้เซนเลี้ยงข้าว อารมณ์ก็น่าจะผ่อนคลายลง
พวกเขามาถึงหอโดยไม่ได้พูดคุยอะไรกัน เซนเก็บงำสิ่งที่อยากพูดอยากอธิบายไว้ จนมาถึงห้อง811 คนพี่ไขกุญแจ คนน้องยืนรออยู่ข้างๆ
“ มึงไม่ไปห้องมึงล่ะ ”
“ ก็เซนจะคุยด้วยก่อน เราต้องคุยกันก่อนสิพี่โย ”
เซนพูดด้วยน้ำเสียงแกมบังคับแล้วอ่อนเบาลงในประโยคท้าย
ร่างเล็กแทรกตัวเข้าห้องไปก่อนโดยมีคนพี่มองตาม แล้วหันมาปิดประตู
เซนนั่งลงที่โซฟา ขณะที่โยชิลากเก้าอี้ล้อมานั่ง
“ เซนอยากจะบอกว่า เมื่อคืนเซนไม่ได้อยากไปนักหรอก แต่มันเป็นวันเกิดของพี่ที่สนิทกัน เขาก็คอยช่วยเซนอยู่บ่อยๆทั้งเรื่องงานเรื่องส่วนตัว เซนเป็นเด็กที่ต้องอยู่ในสังคมทำงาน มันจะทำงานเสร็จแล้วแยกตัวกลับเลยทุกครั้ง มันก็ไม่ได้อะพี่โย ”
โยชิเงียบ เหมือนเขาอยู่กับการทบทวนอะไรหลายๆอย่าง
“ ก็พอฟังได้นะ แต่ตอนมึงเต้นกับสาวนี่....กูว่าไม่ใช่ไปเพราะความจำเป็นว่ะ ”
“ โธ่..พี่โย อยู่ในนั้น จะให้เซนทำตัวเหมือนป่วยเหรอ ให้แสดงออกว่าไม่ค่อยเต็มใจมาเหรอ มันก็ต้องกลมกลืนปะ ”
โยชิมองเซนอย่างไม่รู้จะต่อคำว่าอะไร แล้วก็หันหลังให้
เขาเปิดคอมฯแล้วเริ่มสาละวนกับงานของเขา
เซนลุกมายืนประกบข้าง มือซ้ายเท้าโต๊ะ มือขวาโอบจับพนักเก้าอี้โยชิไว้
“ จะให้เซนทำยังไงถึงจะหายโกรธเนี่ย.....แล้วนี่ พี่โยจะทำอะไรอะ ”
เขาก้มลงมองสิ่งที่อยู่บนจอคอม
“ ทำงานกูดิ งานตัวเองแทบไม่ได้ทำ ”
คนน้องมองหน้าคนพี่ ด้วยระยะห่างเพียงแค่นิดเดียว เขาไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายพูดด้วยอารมณ์ไหนกันแน่ น้ำเสียงราบเรียบ คำพูดติดประชดนิดๆ
เซนเอียงหน้าไปเกือบจะบังจอคอม เพื่อค้นหา อยากจะสบตาหาเรื่องอ้อน
แต่คนพี่ไม่ยอมสบตา ทั้งยังเบนตัวหลบ ส่งเสียงรำคาญในลำคอ
เซนจับพนักหมุนให้คนพี่ต้องหันมาเผชิญหน้ากับเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
โยชิไม่ได้ขัดขืน เงยหน้ามาสบตากับคนน้องที่ยืนอยู่ แววตายังคงเฉยชา
ให้ตาย! อะไรที่ทำให้เซนหมั่นเขี้ยวโยชิขึ้นมามากขนาดนี้
ทุกครั้งที่ได้เจอได้ใกล้กัน รูปลักษณ์ที่ดูสง่างาม ท่วงท่าและสีหน้าเก๊กๆ ขัดกับคำพูดกวนๆโพล่งๆทำให้ดูเหมือนเด็กน้อยไร้เดียงสา มันน่าแกล้งน่าฟัด
แล้วดูตอนนี้ เด็กไร้เดียงสาที่ว่ากำลังงอนตุ๊บป่องเพราะถูกทิ้งให้ทำงานคนเดียว แล้วเขาหนีไปเที่ยวกลางคืน มุมนี้ของโยชิเซนว่ามันน่ารักดี
เซนมองดูแววตาคนตรงหน้า ที่ไม่มีคำพูดจะมาต่อกรอะไรกับเขาอีก
ผิวแก้มขาวใส ผิวกายเนียนละเอียดขาวสว่าง ริมฝีปากสีสวยอย่างธรรมชาติ ในสถานการณ์นี้ถ้าโยชิเป็นผู้หญิง เขาคงจับประกบปากไปแล้ว
บ้าไปแล้ว!!
จู่ๆผิวหน้าเซนก็ร้อนวูบวาบ เลือดหนุ่มในกายพลุ่งพล่าน เซนขบเม้มริมฝีปากอิ่มของตัวเองโดยไม่รู้ตัว
และเหมือนว่าคนพี่จะสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงในแววตาท่าทางของคนน้อง เขากระดกคิ้ว มองอย่างสงสัย
เสี้ยววินาทีนั้นสติก็กลับมา เซนรู้ตัวเองดีและจะไม่ยอมให้บรรยากาศระหว่างเขากับโยชิเป็นเดดแอร์น่ากระอักกระอ่วน
คนน้องย่อตัวรวบกอดโยชิ ซุกหน้าลงกับไหล่คนพี่
“ เซนขอโทษ หายโกรธเถอะน้า จะให้ทำอะไรก็ได้ยอมทั้งนั้น ”
“ เว้ยย..อะไรของมึงเนี่ย ”
“ หายโกรธเซนรึยัง บอกมาก่อน ”
“ ปล่อย..เล่นเชี่ยไรเนี่ย ”
คนน้องยังไม่ปล่อย ฝั่งคนพี่ก็ทั้งผลักดันให้หลุดจากการเกาะกุมรุงรัง เขาไม่ชอบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ผู้ชายกอดกันอยู่ในห้องกันสองคน ใครมาเห็นเข้าบรรลัย
“ มึงจะปล่อยดีๆมั้ย ”
เมื่อโยเสียงเข้ม เซนเงยหน้ามามอง
“ กูบอกว่าปล่อย!! ”
โยชิผลักและเหวี่ยงเซนออกให้พ้นตัว จนเกือบหงาย ดีที่เขาตั้งหลักทรงตัวทัน
โยชิลุกขึ้น ต่างฝ่ายต่างมองหน้าด้วยอารมณ์ที่ต่างกันสิ้นเชิง
คนพี่หน้ายับยุ่ง คำว่าบันดาลโทสะคงหนีไม่ไกลจากเขานัก
คนน้องยังอึ้ง งัน กับการกระทำของโยชิ
“ มึงคิดว่าจะใช้มารยากับการแสดง เอาตัวรอดได้ทุกอย่างรึไงวะ มันเฟค.... กูอยากเห็นความจริงใจมากกว่านี้ ”
โยชิ เบนสายตาไปทางอื่น มันเป็นอารมณ์อ่อนไหวอะไรของเขาที่ฟุ้งขึ้นมา ตัวเองก็บอกไม่ถูก ขอบตาร้อนผ่าว เขาโมโหแต่ข้างในมันกลับอ่อนแออย่างประหลาด ราวกับมีความน้อยใจปนเปอยู่ในนั้น
“ แล้วมึงก็เลิกมากอดกูซักที กูบอกว่ากูไม่ชอบ!! ”
สิ้นสุดคำ เด็กหนุ่มคว้ากระเป๋าก้าวออกจากห้องนั้นทันที ผิวหน้าเซนมันชา มือไม้สั่นและร้อนรุ่ม
เซนกลับเข้าห้องตัวเองแล้วทิ้งตัวลงบนโซฟา มีเพียงเสียงหายใจหอบโยนด้วยความครุ่นเคียด
ตอนนี้ผิวหน้าที่ชากลับร้อนระอุ เขาต้องหาทางทำอะไรสักอย่างที่จะช่วยระบายหรือระงับความพลุ่งพล่านนี้
การกระทำและคำพูดของโยชิยังชัดเจนอยู่ในหัว เขาไม่เคยถูกใครหยาบคายใส่ขนาดนี้มาก่อน ถึงจะเตรียมใจในความปากร้ายของโยชิ แต่ที่ทำกับเขาเมื่อครู่มันแรงไป เซนเกลียดการใช้ความรุนแรงและจะไม่ยอมให้อภัยโยชิแน่นอน!
ภายในห้องพัก811 โยชิกำลังยุ่งขิงอยู่กับสรุปข้อมูลวิชาสิ่งแวดดล้อมของรุ่นน้องปี1ที่ชื่อเซน ส่วนวินที่นั่งโต๊ะถัดไปก็กำลังมีสมาธิกับงานตัดต่อของเขา
เจเหลือบมองดูเวลาที่จอคอม
“ เที่ยงคืนละ เดี๋ยวจะกลับสักเที่ยงครึ่ง ”
“ อืมๆ เป็นไงมั่งวะ ”
“ ก็ใกล้ละ เหลือซาวด์ประกอบ ของมึงล่ะ ” วินเอียงหน้ามาดูงานที่โยทำอยู่
“ ใกล้ละเหมือนกัน ”
โยชิ นั่งไขว่ห้างพิงพนักเก้าอี้เต็มหลัง วางไอแพดไว้บนตัก เขาครุ่นคิดและมีสมาธิกับงานจริงจัง ทั้งที่ไม่ใช่งานของตัวเอง
วินประหลาดใจมาก ที่รู้ว่าโยชิช่วยเซนทำงานส่งอาจารย์ แม้จะรู้ว่าเพื่อนเขาคนนี้ภายนอกกับภายในต่างกันเยอะ แต่มันก็ไม่ได้ยอมทำอะไรให้ใครเปล่าๆง่ายๆนัก
‘ นึกไงถึงช่วยเซนทำวะเนี่ย ไม่น่าเชื่อ ’
‘ ก็ช่วยๆมันไป มันมาขอร้องให้ช่วย เห็นบอกว่าติดงานฟิตติ้ง....กูแค่แกล้งเล่นบอกให้กราบตัก เซนแม่งก็เล่นใหญ่จะกราบจริงอีก ’
‘ เหรอ....แต่กูว่ามึงโดนเซนป้ายยา ’
‘ เออ กูก็สงสัยอยู่เหมือนกัน ที่ชอบมากอดๆเนี่ย แอบป้ายมั่งรึเปล่าไม่รู้ ’
วินเชื่อว่าโยชิต้องมีเหตุผลอะไรมากกว่านั้นที่ไม่ได้บอกเล่าออกมา ถ้าความสัมพันธ์ของพี่กับน้องกลมเกลียวมันก็ดี งานที่ทำร่วมกันจะได้ราบรื่น
วินลุกไปเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าล้างตาให้สดชื่น แล้วพักนั่งเล่นโทรศัพท์เช็คอะไรๆในโซเชียลเพื่อผ่อนคลายบ้าง
“ อืม นี่ไง น้องเซนลงสตอรี่ที่ไปฟิตติ้งวันนี้ด้วย ”
“ เหรอ ” โยชิสนใจแต่ยังไม่ละจากงาน
เสียงเพลงในผับดังมาจากไอจีสตอรี่นั้น
“ หืม? ” วินดูประหลาดใจ เลิกคิ้วกับสิ่งที่เห็นในโซเชียล
“ อะไรวะ? ”
วินไม่ตอบ ยังคงจิ้มในมือถือด้วยสีหน้าสงสัย
เมื่อเสียงเพลงในผับดังออกมาจากมือถือวิน ทำให้โยชิยิ่งอยากรู้ ลุกมาดูด้วยตัวเอง
ภาพที่ปรากฏ
เด็กหนุ่มหน้าหวานที่คุ้นตา แต่อยู่ในภาพที่ไม่คุ้นชิน เซนกำลังเต้นอยู่ในผับ เสียงเพลงดังกับแสงไฟสลับวับวอม
เด็กหนุ่มสวมหมวกแก๊ปดำปัดไปด้านหลัง กำลังเต้นแนบชิดอยู่กับหญิงสาวแสนเซ็กซี่ ในมือเขามีแก้วเครื่องดื่มสีอำพัน แม้หางตาจะเขาเห็นว่าถูกถ่าย แต่ก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะแคร์
พวกเขาเพิ่งเคยเห็นเซนในมุมนี้ วินกดติดตามไอจีเซนได้ไม่นาน ส่วนโยชิก็ไม่ค่อยสนใจเล่นโซเชียลเท่าไหร่
“ อันนี้คือ..ตอนนี้มันอยู่ที่ผับเหรอ? ” โยถาม
“ อืม...มันอาจจะเกี่ยวกับเรื่องงานรึเปล่า.......นี่ไง วันนี้ทั้งวันก็ลงที่ไปฟิตติ้ง อาจจะเกี่ยวเนื่องกัน..หรือเปล่า ”
วินเลื่อนย้อนกลับไปให้เพื่อนดู
ช่วงต้นๆของวันเซนลงบรรยากาศการทำงานในสตูดิโอ และภาพที่ทีมงานถ่ายเซนกับออดี้แกล้งเล่นกัน ซบไหล่ซบหลังกัน โยดูจนจบหมดทุกคลิป
เขารู้สึกมึนชาคล้ายถูกตบกบาล เขาโกรธเพราะถูกหลอกใช้
โยชิเริ่มกดติดตามไอจีเซนแล้วเข้าไปดูโพสต์อื่นๆ เขาใช้เวลากับมันอยู่ครู่หนึ่ง
“ ที่ไปผับ ไม่น่าใช่เรื่องงานอะ ”
“ ใจเย็น..ก็อาจจะเป็นได้ทั้งนั้นนะ ไว้มึงคุยกับเซนมันพรุ่งนี้สิ ”
อีกฝ่ายนั่งเงียบ วินเหลียวมามองดูเพื่อนที่กำลังนั่งจมกับมือถืออยู่ตรงโซฟา
“ มันอาจจะไม่ใช่อย่างที่เห็นเสมอไปนะเว้ย สถานการณ์มันอาจจะหลากหลาย มึงเข้าใจปะ ”
“ เออ กูก็แค่เสียความรู้สึก ”
แล้วโยชิก็เริ่มระบายสิ่งที่คิดที่รู้สึกออกมา ก็เป็นสิ่งที่วินพอจะนึกเดาและเข้าใจได้ประมาณหนึ่งอยู่แล้ว ปล่อยให้บ่นออกมาเผื่อจะได้รู้สึกดีขึ้น วินอยู่คุยด้วยจนถึงเวลาสมควรก็ขอตัวกลับ
บางครั้งอะไรก็ต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของพรุ่งนี้ไปบ้าง
บ่ายแก่ใกล้จะห้าโมงเย็น หนุ่มน้อยหน้าหวานในชุดนักศึกษา กำลังนั่งเล่นโทรศัพท์ตรงม้าหินอ่อน ข้างตึกคณะ หลังจากโดดคาบเช้าแต่มาโผล่เรียนคาบบ่ายเสร็จแล้ว เซนก็ไลน์ไปนัดเจอโยชิ กะว่าจะติดรถไปหอไปกินข้าวเย็นพร้อมกัน วันนี้เขาตื่นสายมึนๆด้วยเลยขี้เกียจขับรถมา
พิมพ์บอกไปในไลน์ โยชิอ่านไม่ตอบ รู้สึกแปลกนิดๆเหมือนกัน แต่เขาอาจจะกำลังเรียนหรือยุ่งอยู่ เรียนเสร็จเซนเลยมานั่งเล่นรอข้างตึก
“ ขอโทษนะคะ ”
เสียงหญิงสาวทำให้เซนละสายตาจากโทรศัพท์ นักศึกษาสาวทั้งสามยืนกล้าๆกลัวๆอยู่ตรงหน้าเขา
“ น้องเซนใช่มั้ยคะ ”
“ ใช่ครับ ”
“ คือว่า อยากจะขอถ่ายรูปด้วย จะได้มั้ยคะ ”
หญิงสาวคนเดิมพูดเขินๆ ใบหน้านั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มดูน่ารักดี
“ ได้ครับ ”
เซนขยับลุกออกมาถ่ายรูปกับสาวๆ รูปรวมรูปคู่ เซนถ่ายให้อย่างเต็มใจ
“ อยู่คณะอะไรกันครับเนี่ย ”
“ บริหารธุรกิจสาขาคอมธุรกิจค่ะ ”
“ เห็นน้องเซนตั้งหลายทีแล้ว แต่ไม่มีโอกาสไม่กล้าทัก ”
“ ทักได้ครับ ทักได้เลย ”
“ แล้วมานั่งทำอะไรคนเดียวตรงนี้คะเนี่ย ”
“ เซนมารอรุ่นพี่ เดี๋ยวจะออกไปกินข้าวกัน ”
“ ติดตามงานอยู่ตลอดนะ ตามไอจีด้วย เมื่อวานเห็นลงที่ไปผับด้วยอะ ”
“ เออใช่ ไปกับใครอะ แฟนเหรอ ”
“ ออดี้ไม่ไปด้วยเหรอ ”
“ ไปกับเพื่อนๆครับ ออดี้ไม่ได้ไปแยกกันตั้งแต่ที่ฟิตติ้ง ”
พวกรุ่นพี่ทยอยเดินออกมาจากตึก วินโบกมือทักทายเซนอยู่ไม่ไกล
“ เอ่อ รุ่นพี่ลงมากันแล้ว ” เซนว่า
“ อ๋อๆ จะไปแล้วใช่มั้ยอะ ”
“ ช่าย..งั้นเดี๋ยวเซนขอตัวก่อนนะครับ ”
“ โอเคบาย เจอกันอย่าลืมเรานะ ”
“ ได้ครับ ไว้เจอกัน..บาย ”
เซนโบกมือแล้วปลีกตัวมาหาวิน ถึงเพิ่งเห็นว่าโยชิยืนมองเขาอยู่ไม่ไกล ทว่าเมื่อเห็นเซนมองมาเขากลับเดินเลี่ยงไปอีกทาง
“ หวัดดีครับพี่วิน ”
“ ครับ...เดี๋ยวน้องเซนจะซ้อนมอไซค์ไปกับโยใช่ป่าว ”
“ ใช่ครับ พอดีวันนี้เซนไม่ได้ขับรถมา เลยว่าจะรบกวน..แล้วพี่วินล่ะเอารถมารึเปล่า ”
“ อ๋อ เดี๋ยวพี่แยกไปกินข้าวกับพวกโต้งก็ได้ ”
“ แล้วนี่พี่โยชิ เค้าหายไปเอารถใช่มั้ยอะ ” เซนมองหา
“ คือพี่จะบอกเซนไว้นะ ว่าโยชิมันเห็นที่เซนไปเที่ยวผับเมื่อคืน แล้วมันก็ไม่พอใจมากๆ ”
ดวงหน้าที่กำลังยิ้มสดใส กลับสลดวูบ เซนยืนประมวลภาพเหตุการณ์ต่างๆที่ลงไอจีไว้
เมื่อวาน หลังจากเสร็จงานก็มีนัดไปแฮงค์เอาท์ต่อ เขาลืมเรื่องอื่นเสียสนิท มิน่าล่ะโยชิถึงได้ดูตึงๆแปลกๆ
“ จริงด้วย...เซนลืม ” เซนพูดเสียงอ่อย
“ แต่พี่บอกโย ว่าเซนน่าจะไปเพราะเรื่องงานนะ ยังไงก็...ดีๆล่ะ ” วินตบไหล่คนนน้อง
“ พี่วิน ....พี่โยมันโกรธเซนมากปะ เบอร์ไหนเนี่ย ”
“ มันก็บ่นๆกับพี่อะนะ ว่าเซนไม่รับผิดชอบงาน เมื่อคืนมันก็นั่งทำงานให้เซนตลอด พอมันเห็นเซนอยู่ในผับมันก็อึ้งๆไปเลย ก็โกรธเลยแหละ แต่วันนี้อาจจะเบาลงแล้วมั้ง ทนๆฟังมันบ่นมันด่าหน่อยละกัน ”
“ โห พี่วิน จะไปแล้วเหรอ ” เซนอยากจะรั้งวินไว้เมื่ออีกฝ่ายกำลังจะไป
“ พูดกับมันดีๆ ใจเย็นๆไว้ เดี๋ยวมันก็หาย ”
วินเดินไปกับกลุ่มเพื่อน เซนชักฝ่อที่จะต้องเจอกับโยชิตามลำพัง
แต่แล้วเขาก็เปลี่ยนความคิด สถานการณ์ยุ่งยากกว่านี้เขาก็ผ่านมาแล้ว เซนคิดว่าเขาเข้าใจคนอย่างโยชิ และน่าจะหาวิธีง้อให้หายโกรธได้ เพียงแต่...วิธีไหนนี่สิ
โยชิขี่มอเตอร์ไซค์ปราดมาตรงหน้า คนน้องส่งยิ้มให้ แต่คนพี่ดึงหน้าตึงดูไร้อารมณ์
“ พี่โยอยากกินอะไร เดี๋ยววันนี้เซนเลี้ยงนะ ”
เด็กหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนสดใส แต่อีกฝ่ายไม่ตอบ
เซนคิดว่าถ้าง้อตรงนี้ความโมโหหิวก็อาจจะมีผลให้อารมณ์ขึ้นง่าย คิดอีกทีง้อในร้านอาหารน่าจะเข้าท่ากว่า
เซนซ้อนมอเตอร์ไซค์ด้วยใจหวั่นๆ นี่ถ้าไม่ผิดก็คงจะอธิบายไปเลยว่าความจริงคืออะไร ยังไง
หรือว่าจะใช้วิธีโกหกไปเลย?
มันก็ได้อยู่หรอก แต่จริงๆเซนก็รู้สึกผิดในสิ่งที่ทำเหมือนกัน
ก็คนมันลืมจริงๆนี่หว่า
เรื่องเรียนกับเซน เป็นไม้เบื่อไม้เมามาแต่ไหนแต่ไร มันไม่ใช่วิถีชีวิตของเซนเลยจริงๆ แต่ถ้าเป็นกิจกรรมล่ะก็ทุ่มให้ทั้งกายและใจเต็มร้อยเสมอ
โยชิขับมาจอดหน้าร้านข้าวหมูกรอบขึ้นชื่อของย่านนี้
“ พี่โยจะกินอะไรครับ เซนสั่งให้ ”
“ ข้าวหมูแดงหมูกรอบพิเศษจานครับ แล้วก็ชาเย็นแก้ว ”
พ่อสั่งเองเสร็จสรรพไปแล้ว
ดูท่าว่า แนวยิ้มแย้มโลกสดใสใจดีสู้เสือจะไม่ค่อยได้ผล
“ พี่โยชิ ”
เซนทอดน้ำเสียง เรียกชื่อคนพี่ด้วยแววตาละห้อย คนหน้าตึงถึงได้ปรับโฟกัส หันมามองเด็กน้อยตรงหน้า
“ เซนขอโทษนะ คือเมื่อวาน พอเสร็จงานฟิตติ้งกัน พวกพี่ๆก็ชวนเซนไปต่องานวันเกิดพี่ในกองกันเลย แล้วมันกะทันหัน เซนเลยลืม...”
“ มึงลืม ก็เพราะมันไม่สำคัญมากพอสำหรับมึงไง แต่งานวันเกิดมันน่าจะสำคัญกว่า ”
อาหารถูกยกมาเสิร์ฟ
“ กูกินข้าวละ ยังไม่คุยนะ ”
โยหยิบช้อนส้อมพลางเหลือบมองคนตรงหน้า สายตายังเฉยชาไม่เปลี่ยน
เซนเริ่มว้าวุ่นใจ แต่ก็ยังเชื่อว่าตัวเองต้องจัดการได้
เมื่อจัดการมื้อเย็นเรียบร้อยแล้ว เซนต้องการจะเลี้ยง โยชิก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร คนน้องเริ่มรู้สึกว่าบรรยากาศน่าจะดีขึ้น ก่อนหน้านี้โยชิอาจจะเหนื่อยเพราะเพิ่งเรียนเสร็จรวมๆกับโมโหหิวปนเปกัน
ถ้ายอมให้เซนเลี้ยงข้าว อารมณ์ก็น่าจะผ่อนคลายลง
พวกเขามาถึงหอโดยไม่ได้พูดคุยอะไรกัน เซนเก็บงำสิ่งที่อยากพูดอยากอธิบายไว้ จนมาถึงห้อง811 คนพี่ไขกุญแจ คนน้องยืนรออยู่ข้างๆ
“ มึงไม่ไปห้องมึงล่ะ ”
“ ก็เซนจะคุยด้วยก่อน เราต้องคุยกันก่อนสิพี่โย ”
เซนพูดด้วยน้ำเสียงแกมบังคับแล้วอ่อนเบาลงในประโยคท้าย
ร่างเล็กแทรกตัวเข้าห้องไปก่อนโดยมีคนพี่มองตาม แล้วหันมาปิดประตู
เซนนั่งลงที่โซฟา ขณะที่โยชิลากเก้าอี้ล้อมานั่ง
“ เซนอยากจะบอกว่า เมื่อคืนเซนไม่ได้อยากไปนักหรอก แต่มันเป็นวันเกิดของพี่ที่สนิทกัน เขาก็คอยช่วยเซนอยู่บ่อยๆทั้งเรื่องงานเรื่องส่วนตัว เซนเป็นเด็กที่ต้องอยู่ในสังคมทำงาน มันจะทำงานเสร็จแล้วแยกตัวกลับเลยทุกครั้ง มันก็ไม่ได้อะพี่โย ”
โยชิเงียบ เหมือนเขาอยู่กับการทบทวนอะไรหลายๆอย่าง
“ ก็พอฟังได้นะ แต่ตอนมึงเต้นกับสาวนี่....กูว่าไม่ใช่ไปเพราะความจำเป็นว่ะ ”
“ โธ่..พี่โย อยู่ในนั้น จะให้เซนทำตัวเหมือนป่วยเหรอ ให้แสดงออกว่าไม่ค่อยเต็มใจมาเหรอ มันก็ต้องกลมกลืนปะ ”
โยชิมองเซนอย่างไม่รู้จะต่อคำว่าอะไร แล้วก็หันหลังให้
เขาเปิดคอมฯแล้วเริ่มสาละวนกับงานของเขา
เซนลุกมายืนประกบข้าง มือซ้ายเท้าโต๊ะ มือขวาโอบจับพนักเก้าอี้โยชิไว้
“ จะให้เซนทำยังไงถึงจะหายโกรธเนี่ย.....แล้วนี่ พี่โยจะทำอะไรอะ ”
เขาก้มลงมองสิ่งที่อยู่บนจอคอม
“ ทำงานกูดิ งานตัวเองแทบไม่ได้ทำ ”
คนน้องมองหน้าคนพี่ ด้วยระยะห่างเพียงแค่นิดเดียว เขาไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายพูดด้วยอารมณ์ไหนกันแน่ น้ำเสียงราบเรียบ คำพูดติดประชดนิดๆ
เซนเอียงหน้าไปเกือบจะบังจอคอม เพื่อค้นหา อยากจะสบตาหาเรื่องอ้อน
แต่คนพี่ไม่ยอมสบตา ทั้งยังเบนตัวหลบ ส่งเสียงรำคาญในลำคอ
เซนจับพนักหมุนให้คนพี่ต้องหันมาเผชิญหน้ากับเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
โยชิไม่ได้ขัดขืน เงยหน้ามาสบตากับคนน้องที่ยืนอยู่ แววตายังคงเฉยชา
ให้ตาย! อะไรที่ทำให้เซนหมั่นเขี้ยวโยชิขึ้นมามากขนาดนี้
ทุกครั้งที่ได้เจอได้ใกล้กัน รูปลักษณ์ที่ดูสง่างาม ท่วงท่าและสีหน้าเก๊กๆ ขัดกับคำพูดกวนๆโพล่งๆทำให้ดูเหมือนเด็กน้อยไร้เดียงสา มันน่าแกล้งน่าฟัด
แล้วดูตอนนี้ เด็กไร้เดียงสาที่ว่ากำลังงอนตุ๊บป่องเพราะถูกทิ้งให้ทำงานคนเดียว แล้วเขาหนีไปเที่ยวกลางคืน มุมนี้ของโยชิเซนว่ามันน่ารักดี
เซนมองดูแววตาคนตรงหน้า ที่ไม่มีคำพูดจะมาต่อกรอะไรกับเขาอีก
ผิวแก้มขาวใส ผิวกายเนียนละเอียดขาวสว่าง ริมฝีปากสีสวยอย่างธรรมชาติ ในสถานการณ์นี้ถ้าโยชิเป็นผู้หญิง เขาคงจับประกบปากไปแล้ว
บ้าไปแล้ว!!
จู่ๆผิวหน้าเซนก็ร้อนวูบวาบ เลือดหนุ่มในกายพลุ่งพล่าน เซนขบเม้มริมฝีปากอิ่มของตัวเองโดยไม่รู้ตัว
และเหมือนว่าคนพี่จะสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงในแววตาท่าทางของคนน้อง เขากระดกคิ้ว มองอย่างสงสัย
เสี้ยววินาทีนั้นสติก็กลับมา เซนรู้ตัวเองดีและจะไม่ยอมให้บรรยากาศระหว่างเขากับโยชิเป็นเดดแอร์น่ากระอักกระอ่วน
คนน้องย่อตัวรวบกอดโยชิ ซุกหน้าลงกับไหล่คนพี่
“ เซนขอโทษ หายโกรธเถอะน้า จะให้ทำอะไรก็ได้ยอมทั้งนั้น ”
“ เว้ยย..อะไรของมึงเนี่ย ”
“ หายโกรธเซนรึยัง บอกมาก่อน ”
“ ปล่อย..เล่นเชี่ยไรเนี่ย ”
คนน้องยังไม่ปล่อย ฝั่งคนพี่ก็ทั้งผลักดันให้หลุดจากการเกาะกุมรุงรัง เขาไม่ชอบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ผู้ชายกอดกันอยู่ในห้องกันสองคน ใครมาเห็นเข้าบรรลัย
“ มึงจะปล่อยดีๆมั้ย ”
เมื่อโยเสียงเข้ม เซนเงยหน้ามามอง
“ กูบอกว่าปล่อย!! ”
โยชิผลักและเหวี่ยงเซนออกให้พ้นตัว จนเกือบหงาย ดีที่เขาตั้งหลักทรงตัวทัน
โยชิลุกขึ้น ต่างฝ่ายต่างมองหน้าด้วยอารมณ์ที่ต่างกันสิ้นเชิง
คนพี่หน้ายับยุ่ง คำว่าบันดาลโทสะคงหนีไม่ไกลจากเขานัก
คนน้องยังอึ้ง งัน กับการกระทำของโยชิ
“ มึงคิดว่าจะใช้มารยากับการแสดง เอาตัวรอดได้ทุกอย่างรึไงวะ มันเฟค.... กูอยากเห็นความจริงใจมากกว่านี้ ”
โยชิ เบนสายตาไปทางอื่น มันเป็นอารมณ์อ่อนไหวอะไรของเขาที่ฟุ้งขึ้นมา ตัวเองก็บอกไม่ถูก ขอบตาร้อนผ่าว เขาโมโหแต่ข้างในมันกลับอ่อนแออย่างประหลาด ราวกับมีความน้อยใจปนเปอยู่ในนั้น
“ แล้วมึงก็เลิกมากอดกูซักที กูบอกว่ากูไม่ชอบ!! ”
สิ้นสุดคำ เด็กหนุ่มคว้ากระเป๋าก้าวออกจากห้องนั้นทันที ผิวหน้าเซนมันชา มือไม้สั่นและร้อนรุ่ม
เซนกลับเข้าห้องตัวเองแล้วทิ้งตัวลงบนโซฟา มีเพียงเสียงหายใจหอบโยนด้วยความครุ่นเคียด
ตอนนี้ผิวหน้าที่ชากลับร้อนระอุ เขาต้องหาทางทำอะไรสักอย่างที่จะช่วยระบายหรือระงับความพลุ่งพล่านนี้
การกระทำและคำพูดของโยชิยังชัดเจนอยู่ในหัว เขาไม่เคยถูกใครหยาบคายใส่ขนาดนี้มาก่อน ถึงจะเตรียมใจในความปากร้ายของโยชิ แต่ที่ทำกับเขาเมื่อครู่มันแรงไป เซนเกลียดการใช้ความรุนแรงและจะไม่ยอมให้อภัยโยชิแน่นอน!
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ