ภูผาคอยตะวัน : My Sweet Sunshine [แต่จบแล้ว]
-
เขียนโดย พร่างพระพาย
วันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2563 เวลา 20.00 น.
15 ตอน
0 วิจารณ์
12.10K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2563 05.20 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) ก็แค่คิดเล่นๆ ไปเองนี่นา!
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความนิยายแต่งจบออกเป็น eBook แล้วค่ะ
บทที่ 1
ภูผา…
ก็เป็นคนคนหนึ่ง .. คนธรรมดาคนหนึ่งที่ก็มีหัวใจ เพียงแต่หัวใจอีกครึ่งหนึ่งของเขา .. มันไม่ใช่เธอ.เท่านั้นเอง
'ฉันมาทำอะไรอยู่ที่นี่นะ?’
คำถามเก่า ๆ ราวกับเพื่อนสนิทจู่ ๆ ก็กลับผุดขึ้นในห้วงความคิด เหมือนเช่นหลาย ๆ ครั้งที่เธอต้องตื่นขึ้นมาท่ามกลางความมืดอันโดดเดี่ยว ภายในอพาร์ทเม้นท์หรูหราในต่างแดนที่ทางครอบครัวได้ซื้อไว้ให้สำหรับใช้อาศัยระหว่างที่เธอต้องมาศึกษาด้านการออกแบบตกแต่งสวน ที่หญิงสาวตั้งใจจะใช้เป็นอาชีพไว้เลี้ยงตัวเองในอนาคต …
ท่ามกลางผู้คนแปลกหน้า .. แม้สถานที่จะงดงาม แต่ก็เหน็บหนาวนักในห้วงแห่งความรู้สึก .. เธอเองก็ไม่ชอบนักกับความรู้สึกบีบคั้นลึก ๆ ที่มันเกิดวูบวับอยู่ในใจนี้เท่าไหร่นัก หากแต่ก็ไม่รู้เลยจริง ๆ ว่าจะกำจัดมันออกไปจากใจได้อย่างไร ซึ่งมันมักจะมาจู่โจมยามเผลอไผล แต่ก็ถือเป็นโชคดีที่มันจะหยุดอยู่กับเธอเพียงชั่วแค่วินาทีเท่านั้น …
ครั้งนี้เองก็เช่นกัน...
ศีรษะงดงามสั่นไหว ไล่คำถามที่ไม่ต้องการทราบคำตอบอย่างแท้จริงให้หลุดหายไปจากความคิดโดยไว …
ดวงตาสวยใต้ขนตางอนหนาทอดยาว ราวกับจะให้ภาพงดงามท่ามกลางแดดอ่อนช่วยขับไล่ และบรรเทาม่านหมอกกรุ่นที่ซุกซ่อนอยู่ในใจออกไป
ใช่! ... ความรู้สึกนั่นจะเกิดขึ้นชั่วแว่บก็จริง แต่มันมักทิ้งตะกอนตกค้างไว้ในใจให้เธอขุ่นมัวได้เสมอ!!
ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา หญิงสาวไม่เคยสังเกตมาก่อนเลยว่าเส้นทางที่ต้องขับรถไป - กลับมาโดยตลอดระยะเวลาในการมาควบคุมการทำงานให้เป็นไปตามแบบที่เธอต้องการ ด้วยมุมมองจากจุดนี้นั้น มันสามารถใช้เป็นจุดพักสายตาได้อย่างวิเศษทีเดียว
เมื่อต้นเดือนที่แล้ว เธอได้รับงานแรกเป็นของคู่แต่งงานใหม่ พวกเขาได้ว่าจ้างให้เธอมาทำการตกแต่งสวนให้กับบ้านพักตากอากาศ ที่มีบรรยากาศแบบบ้านไร่ ที่พวกเขาที่ซื้อเก็บไว้ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก คงไม่เกินสัปดาห์นี้หรอกที่งานของเธอที่นี่ก็จะเสร็จเรียบร้อย เพราะเมื่อช่วงบ่าย ลูกค้าทั้งคู่จูงมือมาตรวจดูงานกับเธอ และพวกเขาก็ดูพอใจในผลงานของเธอมากที่เดียว นั่นมันคงทำให้ร้อยตะวันเริ่มรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นจนมีเวลาใส่ใจกับสิ่งรอบ ๆ ตัวเช่นตอนนี้
ภายใต้แสงส้มอ่อนของดวงอาทิตย์ ที่กำลังจะบอกลาขอบฟ้า เจ้าของร่างบางที่ยืนกอดอกพิงรถยนต์ยุโรปเรียบหรูคันเก่ง รอรับลมยามเย็นที่พัดผ่านมาทักทายอย่างอ่อนเบาอยู่เป็นระยะ ... เมื่อสักพักใหญ่ ก่อนหน้านี้ฝนได้ตกลงมาให้ความชุ่มฉ่ำสดชื่นกับใบไม้ใบหญ้า นำพากลิ่นดินหอมอ่อน ๆ แอบแฝงตัวมากับสายลมเย็นชื่นนี้ด้วยสิ … มีไม้ยืนต้นตายเดียวดายอยู่ตรงบริเวณปลายเนินถัดออกไป ไกลกันกับที่เธอยืนอยู่พอสมควร .. มันคงโดนฟ้าผ่าเพราะมีรอยดำเกรียมให้เห็นอยู่ตรงบริเวณลำต้น…
สีดำเข้มของมันตัดฉับกับสีท้องฟ้ายามเย็นที่ยังคงมีสีส้มอมชมพูเรืองรอง ก่อให้เกิดทัศนีย์ภาพที่ชวนมองยิ่งนักในช่วงเวลาเช่นนี้ จนสามารถเรียกได้ว่า มันคือหนึ่งในผลงานงานศิลปะชิ้นเอกอีกชิ้นหนึ่งที่ธรรมชาติสร้างมาได้อย่างน่าภาคภูมิใจไม่น้อยเลยทีเดียว
เมื่อทอดสายตามองผ่านต้นไม้ต้นนั้นไล่ไปตามทุ่งหญ้ากว้างไกล ก็จะสะดุดตากับบ้านหลังน้อยสีขาวกลางทุ่งเขียวหม่น และด้วยในระยะที่สายตาพอมองเห็น เธอคาดเดาว่ามันน่าจะเป็นบ้านที่ปลูกสร้างขึ้นมาได้ไม่นานเท่าไรนัก สังเกตได้จากต้นไม้ที่ดูเหมือนจะปลูกทิ้งปลูกขว้างเสียมากกว่าปลูกเพื่อความสวยงาม เพราะเป็นต้นไม้ที่ยังสูงใหญ่ไม่มาก ปลูกอยู่ดูระเกะระกะตา และตามนิสัยของนักออกแบบทำให้หญิงสาวอดไม่ได้ที่จะปล่อยให้ใจจิตนาการไปอย่างเพลิน ๆ
จากตรงซุ้มประตูทางเข้าบ้านหลังเล็ก ๆ น่ารักนั่น ... หากจะปลูกไม้หอมที่ออกดอกสีขาวไว้ให้ส่งกลิ่นยามเย็นในยามที่ลมทุ่งพัดผ่าน คงทำให้เจ้าของบ้านได้ชื่นใจได้ดีไม่น้อยเลย .. และที่ตรงมุมรั้วนั่น ห่างจากมุมบ้านไม่ไกล เจ้าของบ้านจะกล้ากันหรือไม่หนอ ที่จะปลูกต้นหางนกยูงเอาไว้ดูดอกสีแดงเพลิงยามย่างเข้าสู่ฤดูร้อนที่แดดแรงอย่างบ้านเรา .. อันนี้เจ้าของความคิดเสริมเติมไปเองแหละ เพราะเธอชอบสีสันของดอกไม้นั่นเป็นการส่วนตัว …
ก็จะเป็นไรล่ะ... ก็แค่คิดเล่นๆ ไปเองนี่นา!
ส่วนตรงด้านข้างของตัวบ้าน ถ้าจะเอาไผ่ตรงมาลงให้แน่นเพื่อทำเป็นแนวรั้วบ้านไปในตัว .. ส่วนระหว่างเนื้อที่ที่ว่างตรงกลางระหว่างบ้านกับรั้วไผ่ หากได้หินสีขาวโรยไว้ให้เต็ม เอาเก้าอี้สนามมาตั้งวางไว้ใช้นั่งพักยามบ่าย ..นิ่งฟังเสียงเพลงใบไผ่..ดีไหม
♡ .. ขอขอบคุณทุกโหลด ทุกวิวมา ณ ตรงนี้ด้วยนะคะ ..♡
บทที่ 1
ภูผา…
ก็เป็นคนคนหนึ่ง .. คนธรรมดาคนหนึ่งที่ก็มีหัวใจ เพียงแต่หัวใจอีกครึ่งหนึ่งของเขา .. มันไม่ใช่เธอ.เท่านั้นเอง
'ฉันมาทำอะไรอยู่ที่นี่นะ?’
คำถามเก่า ๆ ราวกับเพื่อนสนิทจู่ ๆ ก็กลับผุดขึ้นในห้วงความคิด เหมือนเช่นหลาย ๆ ครั้งที่เธอต้องตื่นขึ้นมาท่ามกลางความมืดอันโดดเดี่ยว ภายในอพาร์ทเม้นท์หรูหราในต่างแดนที่ทางครอบครัวได้ซื้อไว้ให้สำหรับใช้อาศัยระหว่างที่เธอต้องมาศึกษาด้านการออกแบบตกแต่งสวน ที่หญิงสาวตั้งใจจะใช้เป็นอาชีพไว้เลี้ยงตัวเองในอนาคต …
ท่ามกลางผู้คนแปลกหน้า .. แม้สถานที่จะงดงาม แต่ก็เหน็บหนาวนักในห้วงแห่งความรู้สึก .. เธอเองก็ไม่ชอบนักกับความรู้สึกบีบคั้นลึก ๆ ที่มันเกิดวูบวับอยู่ในใจนี้เท่าไหร่นัก หากแต่ก็ไม่รู้เลยจริง ๆ ว่าจะกำจัดมันออกไปจากใจได้อย่างไร ซึ่งมันมักจะมาจู่โจมยามเผลอไผล แต่ก็ถือเป็นโชคดีที่มันจะหยุดอยู่กับเธอเพียงชั่วแค่วินาทีเท่านั้น …
ครั้งนี้เองก็เช่นกัน...
ศีรษะงดงามสั่นไหว ไล่คำถามที่ไม่ต้องการทราบคำตอบอย่างแท้จริงให้หลุดหายไปจากความคิดโดยไว …
ดวงตาสวยใต้ขนตางอนหนาทอดยาว ราวกับจะให้ภาพงดงามท่ามกลางแดดอ่อนช่วยขับไล่ และบรรเทาม่านหมอกกรุ่นที่ซุกซ่อนอยู่ในใจออกไป
ใช่! ... ความรู้สึกนั่นจะเกิดขึ้นชั่วแว่บก็จริง แต่มันมักทิ้งตะกอนตกค้างไว้ในใจให้เธอขุ่นมัวได้เสมอ!!
ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา หญิงสาวไม่เคยสังเกตมาก่อนเลยว่าเส้นทางที่ต้องขับรถไป - กลับมาโดยตลอดระยะเวลาในการมาควบคุมการทำงานให้เป็นไปตามแบบที่เธอต้องการ ด้วยมุมมองจากจุดนี้นั้น มันสามารถใช้เป็นจุดพักสายตาได้อย่างวิเศษทีเดียว
เมื่อต้นเดือนที่แล้ว เธอได้รับงานแรกเป็นของคู่แต่งงานใหม่ พวกเขาได้ว่าจ้างให้เธอมาทำการตกแต่งสวนให้กับบ้านพักตากอากาศ ที่มีบรรยากาศแบบบ้านไร่ ที่พวกเขาที่ซื้อเก็บไว้ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก คงไม่เกินสัปดาห์นี้หรอกที่งานของเธอที่นี่ก็จะเสร็จเรียบร้อย เพราะเมื่อช่วงบ่าย ลูกค้าทั้งคู่จูงมือมาตรวจดูงานกับเธอ และพวกเขาก็ดูพอใจในผลงานของเธอมากที่เดียว นั่นมันคงทำให้ร้อยตะวันเริ่มรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นจนมีเวลาใส่ใจกับสิ่งรอบ ๆ ตัวเช่นตอนนี้
ภายใต้แสงส้มอ่อนของดวงอาทิตย์ ที่กำลังจะบอกลาขอบฟ้า เจ้าของร่างบางที่ยืนกอดอกพิงรถยนต์ยุโรปเรียบหรูคันเก่ง รอรับลมยามเย็นที่พัดผ่านมาทักทายอย่างอ่อนเบาอยู่เป็นระยะ ... เมื่อสักพักใหญ่ ก่อนหน้านี้ฝนได้ตกลงมาให้ความชุ่มฉ่ำสดชื่นกับใบไม้ใบหญ้า นำพากลิ่นดินหอมอ่อน ๆ แอบแฝงตัวมากับสายลมเย็นชื่นนี้ด้วยสิ … มีไม้ยืนต้นตายเดียวดายอยู่ตรงบริเวณปลายเนินถัดออกไป ไกลกันกับที่เธอยืนอยู่พอสมควร .. มันคงโดนฟ้าผ่าเพราะมีรอยดำเกรียมให้เห็นอยู่ตรงบริเวณลำต้น…
สีดำเข้มของมันตัดฉับกับสีท้องฟ้ายามเย็นที่ยังคงมีสีส้มอมชมพูเรืองรอง ก่อให้เกิดทัศนีย์ภาพที่ชวนมองยิ่งนักในช่วงเวลาเช่นนี้ จนสามารถเรียกได้ว่า มันคือหนึ่งในผลงานงานศิลปะชิ้นเอกอีกชิ้นหนึ่งที่ธรรมชาติสร้างมาได้อย่างน่าภาคภูมิใจไม่น้อยเลยทีเดียว
เมื่อทอดสายตามองผ่านต้นไม้ต้นนั้นไล่ไปตามทุ่งหญ้ากว้างไกล ก็จะสะดุดตากับบ้านหลังน้อยสีขาวกลางทุ่งเขียวหม่น และด้วยในระยะที่สายตาพอมองเห็น เธอคาดเดาว่ามันน่าจะเป็นบ้านที่ปลูกสร้างขึ้นมาได้ไม่นานเท่าไรนัก สังเกตได้จากต้นไม้ที่ดูเหมือนจะปลูกทิ้งปลูกขว้างเสียมากกว่าปลูกเพื่อความสวยงาม เพราะเป็นต้นไม้ที่ยังสูงใหญ่ไม่มาก ปลูกอยู่ดูระเกะระกะตา และตามนิสัยของนักออกแบบทำให้หญิงสาวอดไม่ได้ที่จะปล่อยให้ใจจิตนาการไปอย่างเพลิน ๆ
จากตรงซุ้มประตูทางเข้าบ้านหลังเล็ก ๆ น่ารักนั่น ... หากจะปลูกไม้หอมที่ออกดอกสีขาวไว้ให้ส่งกลิ่นยามเย็นในยามที่ลมทุ่งพัดผ่าน คงทำให้เจ้าของบ้านได้ชื่นใจได้ดีไม่น้อยเลย .. และที่ตรงมุมรั้วนั่น ห่างจากมุมบ้านไม่ไกล เจ้าของบ้านจะกล้ากันหรือไม่หนอ ที่จะปลูกต้นหางนกยูงเอาไว้ดูดอกสีแดงเพลิงยามย่างเข้าสู่ฤดูร้อนที่แดดแรงอย่างบ้านเรา .. อันนี้เจ้าของความคิดเสริมเติมไปเองแหละ เพราะเธอชอบสีสันของดอกไม้นั่นเป็นการส่วนตัว …
ก็จะเป็นไรล่ะ... ก็แค่คิดเล่นๆ ไปเองนี่นา!
ส่วนตรงด้านข้างของตัวบ้าน ถ้าจะเอาไผ่ตรงมาลงให้แน่นเพื่อทำเป็นแนวรั้วบ้านไปในตัว .. ส่วนระหว่างเนื้อที่ที่ว่างตรงกลางระหว่างบ้านกับรั้วไผ่ หากได้หินสีขาวโรยไว้ให้เต็ม เอาเก้าอี้สนามมาตั้งวางไว้ใช้นั่งพักยามบ่าย ..นิ่งฟังเสียงเพลงใบไผ่..ดีไหม
♡ .. ขอขอบคุณทุกโหลด ทุกวิวมา ณ ตรงนี้ด้วยนะคะ ..♡
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ