Another World โลกอีกใบของฉันและเธอ
เขียนโดย KarWinDinTe
วันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2563 เวลา 02.11 น.
แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน พ.ศ. 2563 18.51 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) สิ่งที่ได้รับจากชายแปลกหน้า
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความอลิเทียวิ่งตรงมายังบ้านของตน และเห็นย่ากำลังนั่งเย็บเสื้อผ้าอยู่ "คุณย่าคะ" อลิเทียตะโกนมาตั้งแต่หน้าประตู
"มีอะไรกัน เสียดังทำไม" หญิงชราวัย 70 กว่าตำหนิอลิเทียไปเล็กน้อย ก่อนที่จะหันไปสนใจผ้าที่ตนนั้นเย็บอยู่ต่อ
"คือว่า ข้าขอโทษน่ะคะ ที่วันนี้โกหกท่านไป" อลิเทียสารภาพในความผิดของตน ที่เคยทำเอาไว้ ให้ย่าของเธอฟัง
"โกหก เทียโกหกย่าตอนไหนลูก" หญิงชราได้หยุดเย็บผ้าและหันกลับมาสนใจหลานของตนอีกครั้ง
"ก็ตอนที่เทียเอาผักไป เทียไม่ได้เอาไปกินเองหรอกคะ แต่เทียเอาไปให้ใครบางคนน่ะคะ" อลิเทียก้มหน้าก้มตาพูด แสดงให้เห็นว่าเด็กกน้อยคนนี้รู้สึกผิดจริงๆ
"ลุกขึ้นเถอะ รู้ว่าไม่ดี มาขอโทษย่าก็ดีแล้ว เพราะฉะนั้นต่อไปนี้ก็อย่าทำอีกล่ะ" ย่าของอลิเทียพูดขึ้นพร้อมกลับหันไปสนใจผ้าของเธอต่อ
“คุณย่าไม่โกรธเทียหรอคะ เทียเป็นเด็กไม่ดีเลย" เด็กน้อยที่สำนึกผิดแล้วในตอนนี้ เอาแต่โทษตัวเอง ราวกลับว่าสิ่งที่เธอทำกับบุพการีนั้นไม่น่าให้อภัยเป็นที่สุด
"ไม่โกรธหรอก อีกอย่างเทียเอาไปให้ผู้คน ก็เป็นการแบ่งปันสิ่งของเหมือนกันน่ะ เทียเป็นเด็กมีน้ำใจ ย่าไม่โกรธหรอก" ย่าของอลิเทียพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ทำให้เทียรู้สึกสบายใจขึ้นมา อลิเทียเผยใบหน้าที่ยิ้มแย้มให้ผู้เป็นย่าเห็น ก่อนที่เธอจะหุบยิ้มอีกครั้งเพราะนึกอะไรขึ้นได้
"อ่าแย่ล่ะ..." อลิเทียอุทานออกมาพร้อมกับรับรู้อะไรได้บางอย่างว่าลืมทวงเนื้อหมูกับชายแปลกหน้า แถมยังลืมห่อผ้าผักไว้บนยอดผาอีก
"ก๊อกๆๆๆ " เสียงเคาะประตูดังขึ้นมาแทรกระหว่างที่อลิเทียกำลังคิดวิธีที่จะกลับไปเอาสิ่งที่ตัวเองลืมไว้มา
"ไปดูสิเทียใครมากัน" อลิเทียลุกขึ้นไปเปิดประตู แต่กลับไม่พบผู้ใดอยู่เลย หางตาของอลิเทียกดต่ำลงไปที่พื้นพร้อมกับเห็นถุงผักของตนเองที่ลืมเอาไว้ที่เขา
"อ่าาาา นี่มันถุงผักที่เทียลืมไว้ที่ป่าคะ คุณย่า แต่กลิ่นนี่มัน" อลิเทียได้กลิ่นคาวๆ ออกมาจากในถุง จึงรีบเปิดถุงผ้าของตนออก ปรากฎให้เห็นเนื้อหมูสีแดงสด ในถุงผ้าจำนวนหนึ่ง
"ว้าวว เนื้อหมู ใครเอามาให้กัน" หญิงชราผู้เป็นย่า ตกใจทันทีที่เห็นเนื้อหมูสีแดงสด ตนได้หันไปมองที่ประตูเพราะหวังที่จะออกไปขอบคุณ แต่ก็ต้องพบกับความว่างเปล่า อลิเทียหันมายิ้มให้กับย่าของตนพร้อมบอกว่า "คนที่เทียเอาผักไปให้เขาน่ะคะ งั้นเทียไปทำอาหารให้น่ะคะ" อลิเทียพูดขึ้นด้วยความตื่นเต้น พร้อมกับรีบวิ่งไปที่ห้องครัว แต่ก็ต้องโดนย่าของตนหยุดความคิดและการกระทำนั้นเอาไว้เสียก่อน
"เดียวสิเทีย ถ้าเป็นเนื้อ เดียวย่าทำเองดีกว่า วันนี้ย่าจะทำซุบหมูให้กิน งั้นเทียช่วยไปเก็บผักมาให้ย่าหน่อยก็แล้วกันนะ" อลิเทียรับคำพยักหน้า วางเนื้อหมูเอาไว้ในห้องครัว และวิ่งออกไปเก็บผักที่แปลงหลังบ้านของตน
ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังรับประทานอาหารกันอยู่ อลิเทียก็นึกถึงคำที่ชายแก่พูดว่า พรุ่งนี้ตอนเช้ามืด ให้ออกไปหาเขา เธอจึงตัดสินใจที่จะบอกย่าของตน "คือว่า คุณย่าคะ หนูมีอะไรจะบอก คือหนูไปพบกับชายแปลกหน้าเขาให้สิ่งนี่เทียมาคะ" อลิเทียโชว์สร้อยรูปนาฬิกาทรายให้ย่าของตนดู ย่าของเธอดูจะตกใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้แปลกใจอะไรกับของที่ชายแปลกหน้าได้ให้แก่อลิเทีย
"คุณย่าไม่ดุเทียหรอคะ ที่เทียคุย และก็รับของมาจากคนแปลกหน้า" อลิเทียถามขึ้นด้วยความสงสัย เพราะตอนเด็กๆ เธอมักจะถูกสอนให้ห้ามคุย และห้ามรับของจากคนแปลกหน้า
"ไม่หรอกจ้ะ มันคงจะถึงเวลาแล้ว แล้วเขาได้บอกอะไรเทียอีกไหม" ย่าของอลิเทียเหมือนจะรู้อยู่แล้วว่ายังไง หลานของเธอคงจะต้องได้พูดคุยและได้รู้อะไรอีกมากมายมาจากชายแปลกหน้าอย่างแน่นอน
"เขาให้เทียไปหาเขา พรุ่งนี้ตอนเช้ามืดคะ คุณย่า...อนุญาตไหมคะ" อลิเทียพูดเสียงอ่อยอิงเพื่อหวังว่าจะให้ย่าของตนอนุญาต
"เทียคิดว่ายังไง เทียเชื่อใจเขาไหม" ย่าของอลิเทียถามเพื่อยืนยันการตัดสินใจของเทีย
"เทียรู้สึกอะไรบางอย่างได้กับชายคนนี้คะ แต่ว่า..." อลิเทียดูอ่ำๆ อึ้งๆ กับคำที่จะพูดออกมา เพราะมันเป็นเพียงความรู้สึกของตนเท่านั้น
"ไปเถอะ ย่าเชื่อว่าเทียจะตัดสินใจในสิ่งที่ถูกต้องเสมอ เทียเป็นเด็กฉลาด ย่ารู้ ว่าเทียจะเอาตัวรอดได้ และจะนำสิ่งที่รู้ติดตัวไปทำในสิ่งที่ดีๆ แน่นอน" ย่าของอลิเทียพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เพื่อให้เทียมีความมั่นใจในการตัดสินใจของตนเอง
"คะ คุณย่า เทียจะตั้งใจ" อลิเทียรับปากย่าของตน และส่งรอยยิ้มที่สดใส ให้แก่หญิงชราที่ได้ชื่อว่าย่าของตน
6 ปีผ่านไป
อลิเทียไปกลับระหว่างบ้านของเธอและป่าที่ชายแปลกหน้าอาศัยอยู่เป็นเวลายาวนาน อลิเทียได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ มากมายกับชายแปลกหน้า ทั้งการเขียน อ่าน และวิธีดูผู้คนว่าเขาคิดเห็นเช่นไร ตอนอลิเทียอายุได้ 10 ขวบ ชายแปลกหน้าได้พาเธอลงไปที่เมืองที่เธอในวัย 7 ขวบได้แต่ยื่นจ้องมองอยู่ที่ยอดผาในตอนนั้น อลิเทียได้เห็นถึงความทันสมัย และสิ่งของสวยๆ งามๆ มากมาย และรวมถึงเวทมนต์ อลิเทียผู้ที่มีพรสวรรค์ สามารถเรียนและใช้เวทมนต์ได้อย่าคล่องแคล่ว ถึงแม้ชายแปลกหน้าจะสอนเวทมนต์ให้เธอเพียงแค่ปีกว่าเท่านั้น แต่เธอก็สามารถนำมันไปประยุกต์ใช้ให้เข้ากับเธอได้อย่างชำนาญ
วันหนึ่ง อลิเทียได้เดินทางไปหาชายแก่แปลกหน้าตามปกติ "ท่านอาจารย์ วันนี้ท่านจะสอนอะไรข้าหรอ" เด็กน้อยวัย 12 ปีพูดขึ้นด้วยความกระปรี้กระเป่า ตามประสาของเด็กที่พร้อมจะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ
"อืม... นั่นสินะ วันนี้ข้าจะสอนอะไรที่พิเศษขึ้นมาหน่อยก็แล้วกัน" อลิเทียได้ยินเช่นนั้นก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้น และอยากรู้ขึ้นมามากกว่าเดิม เพราะที่ผ่านมาอาจารย์ของเขาไม่เคยสอนอะไรที่น่าเบื่อให้แก่เธอเลย
"ว้าว เร็วๆๆๆๆๆ ข้าอยากเรียน" ชายแก่แปลกหน้าที่ตอนนี้ได้กลายเป็นอาจารย์ของเธอไปแล้ว ได้เดินนำทางอลิเทียไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง พอถึงที่หมาย สิ่งที่อลิเทียเห็นเป็นเพียงกระท่อมร้างที่ตั้งอยู่กลางป่า ซึ่งเป็นที่ๆ อาจารย์ของเธออาศัยอยู่ แต่อลิเทียไม่เคยได้มาสักครั้ง ได้แต่ฟังจากผ็ที่เป็นอาจารย์ว่าเขาพักอยู่ที่กระท่อมร้างกลางป่าตรงนี้
"นี่มันที่ที่ท่านอาจารย์อาศัยอยู่ แต่ท่านเคยบอกข้าว่าไม่อยากให้ข้ามาไม่ใช่หรอ" อลิเทียนึกย้อนไปยังสิ่งที่อาจารย์ของตนพูด และจึงเกิดความสงสัย ว่าทำไมอาจารย์ของเขาถึงได้เกิดพาเธอมายังที่ที่เขาเคยบอกว่าไม่อยากให้เธอมา
"หรือสิ่งที่ท่านกำลังจะสอนข้ามันวิเศษมากๆ " อลิเทียถามอาจารย์ของเธอด้วยความตื่นเต้น
"ใช่แล้ว สิ่งที่ข้าจะสอนเจ้า คือสิ่งที่วิเศษมากๆ มีเจ้าเพียงคนเดียวที่ทำมันได้ และข้าเสียใจที่ต้องบอกเจ้าว่า อีก 2 วันที่จะถึงข้าต้องไปจากที่นี่แล้ว" ผู้เป็นลูกศิษย์ได้ยินสิ่งที่อาจารย์พูดก็ตกใจ ที่คนที่เคยเจอหน้ากันมาเป็นเวลานานกว่า 6 ปี จะไม่ได้เจอหน้ากันอีกแล้ว
"ท่านจะไปที่ไหนหรอ จะไม่อยู่สอนอะไรสนุกๆ ให้ข้าแล้วหรอ" อลิเทียเศร้าขึ้นมาทันที น้ำเสียงของเธอบ่งบอกให้รู้ว่า หากอาจารย์ของเขาไป เขาก็จะต้องเหงาและไม่มีอะไรทำอีกเป็นแน่
"ข้าต้องไป เพราะพวกที่ตามล่าข้า มันกำลังใกล้เข้ามาแล้ว" อาจารย์ของอลิเทียได้พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"พวกที่ตามล่าท่าน" อลิเทียเกิดความสงสัยขึ้นมาว่าจะเป็นพวกที่ท่านอาจารย์ของเขาเคยเล่าให้ฟัง ว่าเป็นพวกที่ไม่ต้องการให้โลกใบนี้สงบสุข
"เจ้ายังไม่ต้องรู้อะไรมากไปกว่านี้หรอก เอาเป็นว่าตามข้าเข้ามาข้างใน" ผู้เป็นอาจารย์ได้เดินนำศิษย์เข้าไปในกระท่อมร้าง เขาหยุดอยู่ที่ชั้นวางหนังสือ ที่ชั้นนั้นมีหนังสือเล่มเก่าๆ เพียงเล่มเดียว ชายแปลกหน้าได้หยิบมัน และส่งมาให้อลิเทียและพูดกับผู้เป็นศิษย์ว่า "หนังสือเล่มนี้ เจ้าจงเก็บเอาไว้กับตัว หากถึงเวลา มันจะกลับคืนสู่เจ้าของเอง" อลิเทียสงสัยในคำพูดของอาจารย์ของเธอ เจ้าของ หากมันมีเจ้าของ ทำไม่ท่านอาจารย์ของเขาจึงไม่เก็บเอาไว้และนำมันไปมอบให้กับเจ้าของที่แท้จริงเอง
"เพราะเจ้าของที่แท้จริง ยังไม่รู้ถึงการมีตัวตนของเจ้า" ชายแปลกหน้าที่ขึ้นชื่อว่าเป็นอาจารย์ เหมือนจะเดาความคิดของผู้ที่เป็นศิษย์ออก
อลิเทียไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ เธอเก็บหนังสือที่อาจารย์ส่งมาให้ไว้ในกระเป๋าผ้าที่เธอจะนำมันติดตัวเสมอไม่ว่าจะไปที่ไหน และเธอก็ได้ถามผู้ที่เป็นอาจารย์ว่า "แล้วสิ่งที่ท่านจะสอนข้าล่ะ" อาจารย์ของเธอได้ส่งยิ้มให้แก่อลิเทียอย่างมีเลย์นัย และเขาก็เดินตรงไปที่มุมกำแพงของกระท่อมร้าง เขาทำการร่ายเวทย์อะไรบ้างอย่างขึ้น เผยให้เห็นประตูลับที่อีกฝั่งของกำแพง อลิเทียมองออกไปอีกด้านหนึ่งของประตู มันเป็นพื้นที่สีขาวโล่ง หากนี่คือมิติอีกมิตินึง ก็คงจะเป็นมิติที่ไม่มีที่สิ้นสุด แต่แล้วหางตาของอลิเทียก็มองไปเห็นหนังสืออีกเล่มที่มีลักษณะคล้ายกับเล่มที่อาจารย์ของตนเคยมอบให้ก่อนหน้านี้
อาจารย์ของเธอได้เดินนำเข้าไปในห้องนั้น อลิเทียเดินตามไปอย่างติดๆ พอทั้งคู่เข้าไปในห้องประตูก็ถูกปิดลง "ที่นี่ไม่มีทางออกหรอกน่ะ" อลิเทียตกใจกับสิ่งที่ได้ฟัง "ท่านอาจารย์ ท่านต้องล้อข้าเล่นแน่ๆ มันมีทางเข้า แต่ไม่มีทางออกเนี่ยน่ะ" อลิเทียพูดออกมาด้วยความตกใจ จนลืมไปแล้วว่ายังมีอาจารย์ที่เก่งกาจอยู่ด้วย "ล้อเล่นน่า มันมีทางออกแน่นอน เจ้ามองไปตรงนั้นสิ" เขาชี้ไปทางที่มีหนังสือเล่มที่อลิเทียสังเกตเห็นอยู่แล้วก่อนหน้านั้น มันลอยอยู่กลางอากาศ ราวกับมาอากาศรอบๆ หนังสือเล่มนั้นไร้แรงโน้มถ่วงก็ว่าได้ "เจ้าจงเดินไปหยิบมัน" อาจารย์ของอลิเทียพูดด้วยเสียงเรียบเชิงบังคับ อลิเทียไม่มีทางเลือกนอกจากทำตามที่อาจารย์ของเธอพูด อลิเทียเดินตรงไปที่หนังสือและหยิบมัน "เอ๊ะ...." อลิเทียเงียบไปได้สักพักใหญ่ๆ ก็ต้องพบว่า มันไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"ฮ่า..... ฮ่า.... เจ้านี่มันน่าขำซะจริง เจ้ากำลังคิดว่า ทำไมของแค่นี้ข้าไม่เดินไปหยิบเองสิน่ะ ฮ่า... ข้าก็แค่อยากจะแกล้งเจ้าเฉยๆ " อาจารย์ของเธอหัวเราะชอบใจไม่หยุด มันทำให้อลิเทียหน้าเสีย แต่ก็อดขำความวิตกกังวลของตนที่มีมากมายไม่ไหว "โธ่ท่านก็ ฮ่า...."
"เจ้าคงจำคำที่ข้าเคยบอกเจ้าได้ใช่ไหม ว่าหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็จงสนุกไปกับมัน" อลิเทียได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้า และได้พูดกลับไปว่า "จำได้สิ สิ่งที่ท่านสอนข้า ข้าจำมันได้หมดนั่นแหล่ะ" สิ้นคำพูดของอลิเทีย ชายแปลกหน้าที่ขึ้นชื่อว่าอาจารย์กลับมาทำสีหน้าจริงจังอีกครั้ง "เอาล่ะข้าให้เวลาเจ้าอ่านหนังสือเล่มนี้สักพักล่ะกัน พอข้ากลับเข้ามา เจ้าต้องทำความเข้าใจเนื้อหาในหนังสือนี่ทั้งหมด หากเจ้าไม่เข้าใจส่วนใดส่วนหนึ่งในเนื้อหาของหนังสือ ก็ไม่มีทางที่เจ้าจะสำเร็จวิชานี้หรอกน่ะ" พอพูดเสร็จอาจารย์ของอลิเทียก็เดินหายลับไปในอากาศ “เห้อ...ข้าก็ไม่ใช่ว่าจะหัวดีขนาดนั้นสักหน่อย เวลาจะปล่อยให้ข้าทำอะไรเอง ก็ชอบใช้ เวทย์เคลื่อนย้ายผ่านอากาศ หนีไปตลอด”
หลายชั่วโมงต่อมาอลิเทียได้ทำความเข้าใจเนื้อหาทุกส่วนของหนังสืออย่างท่องแท้ อาจารย์ของอลิเทียได้ใช้เวทย์เคลื่อนย้ายผ่านอากาศกลับมาหาอลิเทียอีกครั้ง "เป็นไงบ้าง ดูจากสีหน้าไร้วิตกกังวลของเจ้าแล้ว คงจะทำความเข้าใจเนื้อหาทั้งหมดแล้วสินะ" อาจารย์ของเธอมีใบหน้าที่ยิ้มแย้ม เมื่อรู้ว่าอลิเทียเข้าใจเนื้อหาในหนังสือทั้งหมดแล้วจริงๆ
"คะ ข้าเข้าใจแล้ว ในหนังสือต้องการให้...." อลิเทียกำลังจะพูดอะไรบ้างอย่างแต่ก็ต้องถูกขัดจังหวะด้วยอาจารย์ของเธอ "เข้าใจก็ดีแล้ว งั้นเจ้าจำการทำ สัญญาเลือด ที่ข้าเคยสอนเจ้าไปได้ไหม" อลิเทียนึกย้อนไปในสิ่งที่อาจารย์ของตนเคยสอน "จำได้ค่ะ แล้วท่านต้องการให้ข้าทำอะไร"
"ข้าเสียใจจริงๆ ที่สอนได้แต่ทฤษฎี แต่ปฎิบัติข้ากลับช่วยเจ้าไม่ได้มาก" ผู้เป็นอาจารย์รู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถถ่ายทอดความรู้ที่ต้องการให้ทั้งหมดได้ "ไม่เป็นไรหรอกคะ แค่ที่ท่านสอนข้ามาตลอด 6 ปีมันก็มากพอแล้ว ข้าสามารถนำมันไปต่อยอดได้หลายอย่างเลย" ลูกศิษย์ตัวน้อยๆ พูดให้กำลังใจอาจารย์ของตนเอง
"นี่ก็ใกล้จะมืดแล้วด้วย พรุ่งนี้เราค่อยมาเริ่มฝึกกันใหม่ วันนี้พอแค่นี้ก็แล้วกัน" สิ้นเสียงของอาจารย์ อลิเทียได้ลุกขึ้นยืน เก็บหนังสือที่อ่านแล้ว ใส่ลงไปในกระเป๋าผ้าของตน
อาจารย์ของอลิเทียได้เดินมาส่งเธอที่เดิม เหมือนอย่างที่เคยทำในทุกๆ วัน "หนังสือเล่มนั้น เก็บมันไว้ดีๆ ล่ะ เจ้าจะเอามาอ่านตอนไหนก็ได้ แต่อย่าให้ผู้อื่นเห็นมัน" อลิเทียรับคำ พร้อมกับโค้งให้อาจารย์ของตนหนึ่งทีและวิ่งกลับไปที่หมู่บ้านของตน
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ