และนี่คือ!!! วิญญาณคุณชายสุดเฮี้ยนกับนายนักเขียนสยองขวัญ
-
เขียนโดย BennieRule
วันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 เวลา 15.01 น.
12 ตอน
0 วิจารณ์
11.72K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 15.07 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) บทที่ 5 ไม่ออก ถ้าออกจะเอาอะไรเขียน!
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ>>> LINK WEBTOON <<<
QR CODE WEBTOON และนี่คือวิญญาณคุณชายสุดเฮี้ยนกับนายนักเขียนสยองขวัญ
ขอฝากเวอร์ชั่นเว็บคอมมิคไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะครับ
____________________________________
“มาทำความสะอาดตรงนี้หรืออนงค์?” ธวัชชัยถามขึ้นเมื่อเห็นแม่บ้านเดินถืออุปกรณ์ทำความสะอาดตรงมาใกล้ตน สังเกตดูดี ๆ ไม่เพียงแค่อุปกรณ์ทำความสะอาดเท่านั้น เธอยังสะพายกระเป๋าขนาดใหญ่เหมือนนักเดินทางท่องป่ามาด้วยใบหนึ่ง
“ไม่ค่ะ อิฉันเตรียมไว้สำหรับห้องหนึ่ง" แม่บ้านบอกพลางชี้นิ้วขึ้นด้านบน "คุณที่มาพักใหม่ยังอยู่ในห้องหรือออกไปข้างนอกเหรอคะ?”
เจ้าของคอนโดเลิกคิ้วเล็กน้อยครั้นเห็นนิ้วชี้ขึ้นและคำพูดของอนงค์ทำให้เขาทราบบริเวณที่เธอต้องการจะสื่อในทันที “เข้าใจล่ะ แล้วจะทำอะไรหรือ?”
“ฉันยังไม่ได้บอกหนุ่มเรื่อง ‘คุณชาย’ น่ะค่ะ”
เมื่อได้ยินคำพูดของอนงค์ดังนั้นธวัชชัยก็เค้นหัวเราะในลำคอดังหึ
“ป่านนี้แล้วคงเกิดเรื่องแล้วล่ะ ส่วนเรื่องคุณชายก็ดูเจ้าตัวก่อนแล้วกัน ให้หนุ่มอยู่ได้ก่อนเถอะ จะได้ไม่ต้องเปลืองแรงโดยใช่เหตุ” ชายวัยกลางคนเอ่ยพร้อมลูบศีรษะล้านเลี่ยนของตน ดวงตามองหญิงแม่บ้านตรงหน้าเมื่อเห็นสีหน้านิ่งตึงของอีกฝ่าย ธวัชชัยจึงกระแอมเล็กน้อยแล้วพูดต่อ “หนุ่มนั่นเพิ่งกลับมาเมื่อกี้พร้อมเพื่อน ๆ น่าจะขึ้นไปด้านบนแล้ว”
“จะให้อิฉันขึ้นไปเลยดีไหมคะ?”
ดวงตาใต้กรอบแว่นของเจ้าของคอนโดชำเลืองเสไปยังนาฬิกาก่อนให้คำตอบ “…ขึ้นไปด้วยแล้วกัน อยากเห็นสภาพเจ้าตัว"
"อย่าดีกว่าค่ะคุณธวัช ประเดี๋ยวมีเรื่องมีราวกันจะวุ่นเปล่า ๆ "
"ต้องไปแสดงความรับผิดชอบในฐานะเจ้าของคอนโดสักหน่อย เดี๋ยวจะหาว่าเราดูแลไม่ดี ไหน ๆ ก็จ่ายค่าห้องให้เราแล้วทั้งเดือน ดูแลแค่ประเดี๋ยวเดียวเองไม่เท่าไรหรอก"
อนงค์ระอากับคำพูดของธวัชชัยกระนั้นเธอพยักหน้าอย่างชาชิน ก่อนมุ่งเดินไปที่ลิฟต์พร้อมคู่สนทนา
เสียงของเครื่องยนต์กลไกดังสนั่น ภายในเริ่มสั่น แสงหลอดไฟภายในกะพริบถี่ ระหว่างที่ขึ้นไปยังชั้น 13 ชายผู้อยู่วัยกลางคนก็เปิดปากชวนพูดคุยกับแม่บ้านวัยเดียวกัน
"พนันสักหน่อยไหมว่าออกไปวันนี้เลย"
"อิฉันไม่อยากพนันเรื่องแบบนี้หรอกค่ะ" เธอตอบเสียงนิ่ง
"พูดเหมือนเล่นพนันเป็นกับเขา"
อนงค์นิ่งวางตัวสุขุมไม่ตอบอะไร ด้านอีกฝ่ายก็หยักไหล่ ดวงตามองเลขค่อยเปลี่ยนไปทีละตัว ทีละตัว
ก่อนจะทำลายความเงียบด้วยเรื่องต่อมา
"วันนี้เห็นเจ้าหนุ่มลงมาด้านล่างพร้อมหนูเรด้วยนะ" ธวัชชัยกล่าว
“หืม? กับหนูเรหรือคะ?” อนงค์ถึงกับแสดงสีหน้าออกมา เธอทวนสิ่งที่ได้ยินพลางหันมองอีกฝ่าย "เกิดอะไรขึ้นกันหรือคะ? "
"เปล่า เห็นลงมาพร้อมกันเฉย ๆ ไม่รู้หรอกแต่เจ้าหนุ่มนั้นเดินตามเธอต้อย ๆ กระตือรือร้นแปลกพิกล"
คำพูดเป็นนัยของธวัชชัยทำให้อนงค์ชักสีหน้าครุ่นคิดขมวดคิ้วเล็กน้อยราวกับใช้ความคิดบางอย่าง
ด้านเจ้าของคอนโดทำเพียงขยับแว่นหนาของตนแล้วเอ่ยต่อ “ในสายตาผม ผมว่าดูเหมือนเธอจะทำความรู้จักเพื่อนบ้านใหม่ไวเกินไป จะทำให้ยุ่งยากไปกันใหญ่ ยังไงก็ตักเตือนเสียหน่อยนะ"
"อันตรายจริง ๆ ฉันจะเตือนให้ระวังเมื่อเธอกลับมานะคะ"
"อืม ดีแล้ว ไม่รู้คนมาใหม่เป็นคนอย่างไร ต้องระมัดระวัง ยิ่งเรื่องของคุณชายก็ดีก็ต้องระวังคำพูดหรือท่าทีให้มาก เข้าใจนะ"
"ค่ะ"
"บางทีถ้าเป็นพวกดื้อด้านลองของ มันจะตามมาตอแยวุ่นวาย ขออย่าให้เป็นแบบนั้นเลย" ชายวัยห้าสิบกล่าวทิ้งท้าย
ก่อนที่ทั้งสองจะสนทนากันต่อ ประตูลิฟต์ก็เปิดออก
พร้อมกับเสียงร้องตกใจเสียงดัง
"ห้องเละเป็นโจ๊กเลยพี่"
ธวัชชัยกับอนงค์ก้าวออกมาจากลิฟต์ ใบหน้าสูงวัยหันมองเสียงคนแปลกหน้าตะโกนอยู่หน้าห้อง คนหนึ่งที่พูดเมื่อครู่เป็นเด็กหนุ่มย้อมผมสีฟ้าแปลก ๆ
“คิด! ย้ายออกเลยอยู่ไม่ได้แล้วแบบนี้” คนที่สองกล่าว เขาสวมแว่นตา แต่งกายดูดีและเป็นคนที่ตัวสูง ดูมีอายุมากที่สุดในกลุ่มผู้กุลีกุจอหน้าห้อง ทว่าดูตกใจมากกว่าคนอื่น ๆ
"แต่...นี่มัน..." เด็กหนุ่มที่เพิ่งมาเช่าห้องเอ่ย เขาขยับแมสปิดหน้าเล็กน้อยคล้ายจะเถียงคนใครแว่นแต่ถูกขัด
"ย้ายออกไปเดี๋ยวนี้เลย"
คำพูดนี้ทำให้ธวัชชัยเหยียดยิ้มเมื่อได้ยินเช่นนั้น
ห้อง 704 คงกลับมาว่างอีกครั้ง...เหมือนดังเช่นที่มันเคยเป็น
"ดูเหมือนก็ไม่เท่าไร อนงค์ ผมรบกวนด้วย ช่วยทำความสะอาดด้วยนะ เรื่องค่าแรงล่วงเวลาให้เหมือนทุกทีนะ ผมไปล่ะ"
"...ค่ะ" อนงค์ถอนหายใจเบา ๆ พลางขานตอบ
ในขณะที่ธวัชชัยจะหันตัวไปกดปุ่มลง หยิบซองบุหรี่ในกระเป๋ากางเกงตั้งใจจะสูบ...
เสียงของคิดก็ตะโกนดังขึ้น
"ผมไม่ออก"
เจ้าของคอนโดชะงักมือหยุดทันที เขาขยำซองกลับไปในกระเป๋า หันกลับมามองคนสามคนเถียงกันอยู่หน้าห้องห่างไปราวห้าหกเมตร
"ว่าไงนะคิด ไม่เห็นสภาพห้องเหรอ เละเทะแบบนี้เนี่ย"
"ผมคงลงล๊อกหน้าต่างไม่ดี จะมีลมพัดแรงก็ไม่ใช่เรื่องแปลกนี่ครับ ชั้นสิบสามเลยนะ" เด็กหนุ่มคนเช่าสถานที่แจ้งเหตุผล
"ชั้นสิบสามไม่น่าทำห้องกระจุยประหนึ่งโจรขึ้นแบบนี้นะครับพี่ ๆ หรือโจรขึ้นจริงเนี่ย แจ้งตำรวจดีไหมครับ"
"ฉิบหาย" ธวัชชัยอุทานเบา ๆ "อนงค์ ไปห้ามทัพกันเร็ว เรื่องบานปลายเกินไปแล้ว"
"ค่ะ ค่ะ"
ระหว่างที่สองผู้อาวุโสกำลังเดินดุ่ย เสียงการสนทนาก็ยังคงดังอยู่เรื่อย ๆ ระหว่างคิดและหนุ่มใส่แว่นร่างสูงใหญ่
"จริงของเจ้าต่ายมัน ออกมาเถอะ เชื่อพ่ี"
"เรื่องนี้มันแค่อุบัติเหตุ ผมไม่ออกไปหรอกครับพี่เสือ ถ้าที่นี่มีบางอย่างจริงก็ไม่มีเหตุผลที่ผมจะออก"
คิดหันไปยังในห้อง 704 ด้วยสีหน้าขัดใจแล้วตะโกนด้วยเสียงอันดัง
" ได้ยินไหมครับ ไม่ว่าอย่างไงผมก็จะอยู่ที่นี่ เพื่อเขียนผลงานเรื่องใหม่ ผมตั้งใจแบบนี้ ไม่งั้นผมจะไม่เขียน"
"ไอ้คิด มีเหตุผลหน่อยดิ! " หนุ่มใส่แว่นพยายามแย้ง
"ไม่ว่ายังไงผมก็ไม่ออกเด็ดขาด! "
เปรี้ยง!
วินาทีที่คิดประกาศคำพูดของตน ไม่รู้ว่ามารผจญใดเข้าแทรก เสียงดังสนั่นบางอย่างก็ดังขึ้นใกล้อาคารคอนโด
พลันไฟทั้งชั้นสิบสามก็ดับลงเสียอย่างนั้น...
ตามมาด้วยเสียงโวยวายตกใจของชายหนุ่มสามคนหน้าห้อง 704
"สงสัยหม้อแปลงระเบิด..." ธวัชชัยพึมพำ เขานิ่วหน้าท่ามกลางความมืดพร้อมถอนหายใจเฮือกใหญ่ "ระเบิดลงคอนโดเลยคราวนี้ โอ๊ย ให้ตายสิพับผ่า"
"อิฉันขอลาพักร้อนล่วงหน้าได้ไหมคะคุณธวัช" อนงค์ถาม
"ได้โปรด ...อยู่ช่วยกันก่อนเถอะนะอนงค์ ขอล่ะ" เจ้าของกล่าวด้วยเสียงแผ่วจำยอม
"...ค่ะ"
แม่บ้านตอบเสียงราบเรียบหน้าตายอย่างชาชิน ก่อนคว้าอุปกรณ์ที่เตรียมมาติดตัวออกมาจากกระเป๋าเป๋
มันคือตะเกียงไฟฉายรุ่นโบราณใหญ่เท่าข้อศอ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ