(Yaoi/BL) คำสำคัญ

-

เขียนโดย TJทีเจ

วันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2563 เวลา 01.15 น.

  10 ตอน
  0 วิจารณ์
  10.08K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2563 00.19 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) เข้าใจผิด

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เฟรช ศศิ (พระจันทร์)

 

         สมัยมัธยมเรมักทะเลาะกับพ่อแล้วหนีมานอนที่บ้านผมอยู่บ่อยๆ พอเห็นพ่อมันโทรตามกะทันหันก็นึกเป็นห่วง ผมไลน์หาเรมันไม่อ่าน เห็นว่านานมากแล้ว เลยลองโทรดู เรปิดเครื่องไม่รู้มีปัญหากับพ่ออีกหรือเปล่า เมื่อคืนผมไม่ค่อยได้นอน เพราะเป็นห่วงเร เลยโทรหามันเป็นระยะ เผื่อว่ามันเปิดเครื่องแล้วอยากคุยกับใครสักคน ผมก็อยากให้มันเห็นว่ามีผมที่รอรับฟังอยู่

         เรเดินเข้าห้องเรียนด้วยแววตาเศร้า สภาพเหมือนมีเรื่องทุกข์ใจ ไม่ได้นอนมาทั้งคืน ถึงแม้มันจะกำลังยิ้มให้ผม แต่ผมก็ดูออก ผมเดาว่ามันคงทะเลาะกับพ่อมา แต่ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร ผมไม่อยากเซ้าซี้มัน ผมคิดว่าถ้ามันพร้อมเล่าเมื่อไหร่ ผมก็พร้อมฟังเสมอ

         แม่ผมเคยบอกว่าเวลาพ่อเลิกงานมาเหนื่อยๆ หรือมีปัญหากับงาน พ่อจะชอบทำหน้าเครียด แค่แม่ยกน้ำเย็นๆไปให้ พ่อจะยิ้มทุกที วันนี้เรทำหน้าเครียดทั้งวัน ผมอยากลองดูวิธีของแม่ เลยไปซื้อน้ำให้เร เผื่อจะช่วยให้มันยิ้มได้บ้าง

         ผมเดินกลับมาที่ลานจอดรถที่เรรออยู่ พร้อมกับโกโก้ปั่นที่เรชอบ แต่ภาพที่ผมเห็นคือเรยืนกอดกับไอซ์ ความคิดผมตอนนั้นสับสนมาก ผมไม่รู้เลยว่าสองคนนั้นมีความสัมพันธ์ไปถึงไหนกันแล้ว เพื่อนชอบแซวเรกับไอซ์ผมไม่เคยสนใจ ผมเชื่อใจเร แต่ไม่คิดว่าเรื่องที่เพื่อนพูดจะเป็นความจริง คงเป็นเหตุผลที่เรไม่เคยปฏิเสธอะไรเลยสักครั้ง คิดแค่นั้นมือไม้ผมก็อ่อน แก้วโกโก้ที่ถืออยู่ตกลงที่พื้น ผมเดินถอยหลังออกจากตรงนั้น น้ำตาตกในเป็นยังไงตอนนี้ผมรับรู้แล้ว

          ผมเดินคิดมาเรื่อยๆตามไหล่ทาง ไม่รู้ว่าเดินมาไกลแค่ไหน และไม่รู้ว่าจะเดินไปได้ไกลแค่ไหน สักพักได้ยินเสียงแตรรถดังขึ้น ผมหันไปมอง เป็นพี่ฟร้องค์ที่กำลังขับรถกลับบ้าน ผมรู้สึกโชคดีมากที่เจอพี่ฟร้องค์ในตอนนี้ ผมนับถือพี่ฟร้องค์เหมือนพี่ชายแท้ๆของผม พี่เขาดีกับผมมาก คอยดูแลผม ถือได้ว่ารองจากเรคือพี่ฟร้องค์นี่แหละที่ดีกับผม ทั้งที่เราไม่ใช่ญาติกัน

         “เฟรช! กำลังจะไปไหน แล้วรถล่ะ” พี่ฟร้องค์เปิดกระจกรถตะโกนถามผม

        “ผม...” ในหัวผมตอนนี้คิดอะไรไม่ออกนอกจากภาพที่เรยืนกอดกับไอซ์

        “ช่างเถอะ ขึ้นมาก่อน” พี่ฟร้องค์เห็นท่าทางอ้ำอึ้งของผมเลยเรียกขึ้นรถ

 

         พี่ฟร้องค์ขับรถพาผมมาที่บ้านพี่เขา

        “ให้สบายใจซักหน่อยค่อยกลับบ้านนะ” พี่ฟร้องค์พูดกับผม ความอบอุ่นของพี่ทำให้ผมสบายใจขึ้นได้เสมอ

        ผมนั่งลงบนเก้าอี้ ที่สวนหน้าบ้านพี่ฟร้องค์

        พี่ฟร้องค์เดินมานั่งยองๆตรงหน้าผมก่อนจะถาม

        “ทะเลาะกับเรใช่ไหม”

        ผมทำหน้าอึ้งที่พี่เขาถามแบบนี้

        สักพักพี่ฟร้องค์ก็พูดต่อ

        “พี่รู้นะว่าเฟรชคบกับเร”

       “พี่รู้ได้ยังไงครับ” ผมทำหน้าสงสัย

        “ก็เรแสดงออกว่าหึงเฟรชกับพี่ขนาดนั้น” พี่ฟร้องค์ยิ้มให้ผม

        “แล้ว...” ผมเอ่ยออกมาเบาๆ

        “พี่ไม่บอกใครหรอก” พี่เขาคงรู้ว่าผมจะพูดว่าอะไรเลยตอบมาก่อน

          พี่ฟร้องค์ทำท่าจะลุกขึ้น ผมก็เข้ากอดที่เอวพี่เขาไว้ ความรู้สึกในตอนนี้ ผมอยากคุยกับใครสักคน อยากระบาย อยากปรึกษากับใครสักคน คนที่ผมไว้ใจ และรู้เรื่องของผม

          พี่ฟร้องค์นั่งลงที่เดิม จับมือทั้งสองข้างของผมมากุมไว้

         “อยากเล่าไหม?”

         ผมพยักหน้า

         “ผมเห็นเรกอดกับไอซ์” พอผมพูดชื่อสองคนนี้ภาพก็ผุดขึ้นมาในหัว น้ำตาผมไหลออกมาทันที

         “ร้องเถอะ ร้องเท่าที่เฟรชอยากร้อง ร้องเสร็จแล้วกลับมาเป็นเฟรช ที่แปลว่าสดใส กลับมาเป็นศศิ ที่แปลว่าพระจันทร์ และไม่ว่ามืดแค่ไหน      พระจันทร์จะยังคงส่องแสง ให้สมกับชื่อที่พ่อแม่ตั้งใจมอบให้เฟรชนะ”

          คำพูดของพี่ฟร้องค์ทำให้น้ำตาของผมเอ่อออกมามากกว่าเดิม รู้สึกจุกที่อกอย่างบอกไม่ถูก

           ผมไม่รู้ว่าร้องไห้อยู่แบบนั้นกับพี่เขานานแค่ไหน ผมกลับมาบ้าน บอกพ่อแม่แค่เพียงว่าคิดถึงอยากนอนที่บ้าน แต่ผมก็นอนไม่หลับ เพราะทุกครั้งที่หลับตาภาพเรกับไอซ์ก็ปรากฏขึ้นมา คืนนี้ของผมคงยาวนานกว่าทุกคืน

 

           เช้านี้ผมปวดหัวมาก และรู้สึกเหมือนจะไม่สบาย แต่ก็ฝืนมาที่มหาลัย ไม่อยากขาดเรียน ถึงแม้คุณแม่จะห้ามเพราะอยากให้ผมพักผ่อน

           ผมมีพี่ฟร้องค์เดินมาส่งที่หน้าตึกเรียน

           “ไหวไหม?”

           ผมยิ้มบางๆพยักหน้าตอบกลับพี่ฟร้องค์

           “มีอะไรโทรหาพี่นะ” พี่เขาพูดพร้อมกับยื่นมือมาจับหัวผม

          “ขอบคุณนะครับ”

           พอพี่เขาเดินไปสักพักผมก็ได้ยินเสียงเร

          “เฟรช!”

          ผมไม่หันมอง แต่รู้สึกได้ว่าเรกำลังเดินเข้ามาใกล้ และผมก็เลือกที่จะเดินหนีขึ้นห้องเรียน

          “ไอ้เฟรช! มึงไปไหนมา!” ต้นตะโกนถามผมทันทีที่เห็นหน้า

         “ไอ้เรมันตามหามึง รถมึงก็ไม่เอาไป” จี้พูดเสริม

        “พวกกูเป็นห่วง โทรไปก็ปิดเครื่อง” เอทำหน้าเหมือนอยากจะด่าผมมากกว่านี้

         ผมลืมไปเลยว่าปิดเครื่องไว้ แม้แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ได้เปิด

         “กูกลับกับพี่ฟร้องค์” ผมตอบนิ่งๆทำหน้าตาไม่รู้ร้อน

         “อ้าว! แล้วมึงก็ไม่ยอมบอกไอ้เร ให้มันตามหาอยู่นั่นแหละ” ต้นว่าพลางทำหน้าเซ็งใส่ผม

         “แบตกูหมด ลืมชาตด้วย” ผมล้วงโทรศัพท์ที่ยังไม่ได้เปิดเครื่องออกมาให้เพื่อนดู

         “คราวหน้าถ้ามึงทำแบบนี้อีกนะ กูจะบอกไอ้เรขับรถมึงไปขายเลยคอยดู” ต้นพูดติดตลก

        “เร! เร! ไอซ์เอาอาหารเสริมมาให้ ช่วงนี้เรดูเหนื่อยๆ ลองทานดูเผื่อดีขึ้น”

        “ขอบใจนะ” เรนั่งมองหน้าผมตั้งแต่แรก เหมือนจะขอโอกาสพูดอะไรบางอย่าง หันไปคุยตามเสียงเรียกของไอซ์

         แม้ผมจะทำหน้าเฉยชา เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ในใจเจ็บปวดไม่น้อย ผมยังไม่พร้อมรับฟังเรื่องระหว่างเขาสองคน เพราะกลัวจะเก็บความรู้สึกไม่ไหว

         ผมคิดว่าถ้าสองคนนั้นคบกัน คงเป็นคู่ที่เหมาะสม ไม่ต้องปิดบังครอบครัว ไม่ต้องปิดบังใคร แต่ถ้าเวลานั้นมาถึงก็ไม่รู้ว่าผมจะเป็นยังไง...

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา