THE XENON
-
เขียนโดย ปณิธาน
วันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 เวลา 01.35 น.
7 บท
0 วิจารณ์
6,731 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 22.12 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) ลาก่อนโลกใบนี้
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ3
ลาก่อนโลกใบนี้
สามวันต่อมา ซีนอนกำลังเดินกลับบ้าน ในตอนเย็นหลังเลิกเรียนแบบปกติ อีกไม่เกินห้าวันเขาก็จะย้ายไปอยู่ที่บ้านหลังใหม่แล้ว และตอนนี้กำลังจดจำทุกตารางนิ้วของบ้านหลังเดิมก่อน
ซีนอนไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมบ้านหลังนี้ถึงถูกยึดได้ แต่ด้วยความที่สมองเขาไม่ค่อยรับกับเรื่องซับซ้อน เมื่อแม่เมย์บอก เขาก็เชื่อในทันที
และตอนนั้นเอง เขาไม่ทันสังเกตว่ามีคนสามคนเดินตามมาด้วย ก่อนจะเพิ่มจำนวนขึ้นอีก เป็นเจ็ดคน ตอนนี้ซีนอนเริ่มรู้สึกได้แล้ว และเขารู้ตัวว่าตัวเองกำลังมีอันตราย ซีนอนจึงรีบหาทางหนีทันที เขามองซ้ายทีขวาที ก่อนจะตัดสินใจ เดินเข้าไปทางซอยแคบๆที่หนึ่ง ซึ่งพวกนั้นก็ตามมาด้วย ซีนอนจึงมั่นใจแล้วว่า พวกมีเป้าหมายมาที่เขา และซีนอนก็นึกอะไรแปลกๆขึ้นมาได้ เขาจึงเล่นมันเสียหน่อย
“โย่วๆ ซีนอนนายว่ามีคนเดินตามฉันมามั้ยอะ” ซีนอนพูดถามตัวเอง และแกล้งดัดเสียงเป็นอีกเสียงหนึ่งขณะตอบตัวเองกลับว่า “ฉันว่ามีนะ นายระวังตัวหน่อยก็ดี”
พวกคนที่ตามมามองหน้ากันเอง คงกำลังหาว่าเขาบ้า และซีนอนก็ใช้จังหวะนั้น วิ่งไปเหยียบถังขยะแล้วกระโดดขึ้นไปเกาะบันไดหนีไฟของตึกข้างๆ และรีบปีนหนีขึ้นไป พวกนั้นเห็นก็พากันวิ่งกรูเข้ามา แต่ซีนอนรีบดึงบันไดขึ้น ทำให้พวกนั้นตามมาไม่ได้ ก่อนจะหาอะไรกันไว้ไม่ให้บันไดตกลงไป เผื่อว่ามันจะบินขึ้นมาแทน
“นายคิดถูกจริงๆนะซีนอน มีคนตามนายมา” ซีนอนยิ้มขำกับคำพูดตัวเอง ก่อนจะกระโดดหนีข้ามกำแพงไป ซีนอนรู้ว่าพวกมันต้องรู้จักเส้นทางแถวๆนี้แน่ พวกมันจึงพากันวิ่งกลับออกไปทางเดิมแต่เลี้ยวซ้ายไป ซึ่งซีนอนเดาว่ามันตามเขามาได้แน่ เขาจึงออกวิ่งเพื่อหนีให้ไกลที่สุด และไม่นานพวกมันก็มาดักหน้าเขาได้ ซีนอนจึงหยิบฝาถังขยะแล้วเหวี่ยงไปข้างหน้า ซึ่งพวกมันก็หลบตามที่เขาคิด ซีนอนจึงวิ่งไต่กำแพง เพื่อวิ่งข้ามไหล่มันไป ก่อนจะหัวเราะอย่างสะใจ เมื่อพวกมันตามมาไม่ทัน ซีนอนวิ่งมาและเห็นทางเลี้ยวซ้ายและขวา แต่ทางซ้ายก็มีคนวิ่งเข้ามา ซึ่งซีนอนจำหน้ามันได้แล้ว มันคือนักเลงโรงเรียนข้างๆที่ ซีนอนเคยเทน้ำราดหัวมัน คิดแล้วก็รู้สึกเสียใจนิดๆนะ แต่มันกำลังรังแกผู้หญิงนี่ ช่วยไม่ได้ สุภาพษุรุษจะยืนเฉยได้ไง ก่อนที่ซีนอนจะวิ่งหนีไปอีกทาง เขาชูนิ้วกลางใส่หน้ามันก่อน และต้องเร่งความเร็วเพราะตอนนี้ไม่ได้มีแค่เจ็ดคน แต่เกือบยี่สิบแล้ว ซีนอนไม่อยากเสี่ยง เขาแค่ทำตัวเหมือนมั่นใจว่าจะหนีมันได้ แต่เอาเข้าจริงๆ ซีนอนแค่เชื่อในความเสี่ยงอีกห้าสิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น ทำให้เขามั่นใจว่าจะหนีมันได้ ซีนอนวิ่งมาเรื่อยๆ เขาไม่อยากต่อสู้ตอนนี้ เพราะเสื้อนักเรียนเขาจะเลอะ และดีไม่ดี เดียวเป็นเรื่องใหญ่อีก จนซีนอนตัดสินใจวิ่งไปและออกถนน เขาวิ่งผ่านรถที่ขับไม่เร็วมาจนต้องหยุดเพื่อให้เขาวิ่งผ่านไปก่อน และมีกลุ่มนักเลงวิ่งตามมา ผู้คนมากมายทั่วบริเวณมองเขาเป็นตาเดียว ซีนอนกำลังวิ่งหนี ก่อนที่เขาจะเลี้ยวไปตามทางเพื่อหวังจะสลัดมันให้หลุด เขาสไลด์ข้ามกระโปรงรถคันหนึ่ง เจ้าของรถบีบแตรด่าอย่างแรง ต่อจากนั้นซีนอนจึงตรงไปทีป้อมตำรวจกลางถนน ไฟแดงอยู่พอดี และตำรวจก็ออกมาตามคาด แต่เขาจับได้เพียงแค่กลุ่มนักเลงที่ตามซีนอนเท่านั้น ซึ่งยังเหลืออีกไม่กี่คนที่วิ่งตามซีนอนมา พวกมันตะโกนลั่นด้วยความโมโห แต่ก็หยุดซีนอนไม่ได้ และซีนอนก็เห็นสัญญาณรถไฟกำลังใกล้เข้ามา ซีนอนจึงคิดอะไรเจ๋งๆขึ้นได้ เขารีบวิ่งไปที่รางรถไฟทันที และเมื่อเห็นรถไฟอยู่ไม่ไกลมากแล้ว ซีนอนจึงต้องเร่งเท้าขึ้นอีก เพราะถ้าหากพลาดโอกาศนี้ เขาจะหมดแรงวิ่งหนีเสียแล้ว พวกนักเลงข้างหลังที่ตามมา ประมาณห้าคนเหมือนจะเริ่มรู้แผนของเขาแล้ว จึงเร่งเท้าตาม ซีนอนกำลังเสียงตาย เพื่อทางรอดที่สุดแสนจะนรก เขาวิ่งไม่คิดชีวิต เพื่อให้ผ่านรางรถไฟนั้นทันเวลา ในขณะที่รถไฟก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เสียงหวูดรถไฟดังลั่น เพื่อเตือนให้เขาถอยไป แต่ซีนอนไม่สนใจมัน เขารีบพุ่งตัว และลองของกับชะตาชีวิตตัวเอง รถไฟวิ่งเข้ามาใกล้มากแล้ว และซีนอนก็เข้าใกล้รางมากขึ้น เรื่อยๆ จนพวกกลุ่มนักเลงหยุดวิ่งเมื่อคำนวนแล้ว ความเสี่ยงที่พวกตนและซีนอนจะถูกชนมีมากขึ้นจนน่ากลัว และซีนอนก็วิ่งให้เร็วที่สุดเพื่อกระโดดข้ามฝั่งไป ในขณะที่รถไฟวิ่งเข้ามาพอดี การที่มันเฉียวเสื้อนักเรียนเขาขาดออกไปเล็กน้อยนั้น ทำให้ซีนอนโดนแรงกระชากและล้มกลิ้งไปตามแรง แต่เขาก็ไม่เป็นอะไรมาก ก่อนจะลุกขึ้นมาจ้องหน้าพวกนักเลงที่มองเขาผ่านร่องเชื่อมระหว่างโบกี้ ซีนอนแสยะยิ้มให้ทีหนึ่ง ก่อนจะวิ่งหนีไปทางด้านหลัง และจนกว่ารถไฟจะหมด พวกนั้นก็หาซีนอนไม่เจอแล้ว...
“มันจะโกรธอะไรขนาดนั้นว่ะเนี่ย ฉันก็ทำในสิ่งที่ดีนะ อย่างน้อยฉันก็คิดอย่างนั้น” ซีนอนเดินไปพูดกับตัวเองไปก่อนจะหัวเราะเบาๆแล้วยิ้ม เขาหยิบเสื้อกันหนาวขึ้นมาใส่คลุมรอยเสื้อขาดและรอยเลอะไว้ ขณะซื้อของกินเล่นเล็กน้อย
เขาได้ข้าวไข่เจียวใส่แครอด หัวหอม และหมูสับของโปรดยามว่างของเขามา และซีนอนโลกส่วนตัวสูง เขาจึงเข้าไปในตึกร้างแถวๆบ้านเขา มันไม่น่ากลัวเท่าไหร่ อาจเพราะซีนอนเริ่มคุ้นกับที่นี่แล้วมั่ง เขามักมาหลบที่นี่ และกินข้าว หรือนั่งเล่นบ่อยๆเวลาไม่มีอะไรทำ มันไม่สูงมาก แต่ก็สูงพอจะเห็นวิวเมืองกรุงเทพมหานครได้ในระดับหนึ่ง
ซีนอนถือข้าวเย็นและเครื่องดื่มเดินขึ้นมาบนชั้นดาดฟ้า ตอนแรกประตูก็ล็อกอยู่ แต่ซีนอนดันไปเจอกุญแจเข้านี้สิ โชคดีเกินไปเนอะ ประตูเปิดยาก ซีนอนจึงถีบมันแรงๆ ประตูจึงเปิดออก พบชั้นดาดฟ้า ขนาดกลาง ที่มีโซฟาเก่าๆ กับโต๊ะเล็กๆตัวหนึ่ง ซีนอนวางกระเป๋านักเรียนที่ไม่มีหนังสือ แต่มีสิ่งที่จำเป็นมากกว่านั้นแทน เช่น หมอน ผ้าหม่ ไฟฉาย ไว้ข้างๆโซฟาตัวยา แต่เขาไม่นั่งมัน ซีนอนเดินไปเปิดรัวตะข่ายออก เหมือนมันจะเคยมีกันไว้รอบๆ เพื่อไม่ให้ใครตกลงไปง่ายๆ แต่ตอนนี้ ซีนอนกลับเมินหน้าที่การทำงานของมัน โดนไปนั่งอีกด้าน และพิงมันอย่างสบายใจ เหมือนเมื่อก่อนจะเคยมีตะข่ายเหล็กนี้กันไว้โดยรอบ แต่ตอนนี้มันโดนลื้อออก เหลือแค่อันเดียวแล้ว และเป็นจุดที่นั่งพิงได้สบายที่สุดด้วย
ซีนอนถอดเสื้อกันหนาวออก และเปิดกล่องอาหาร กลิ่นหอมๆของไข่เจียวนั้นลอยมาเตะจมูก ซีนอนลงมือทานอาหารเย็นตรงนี้บ่อยๆ ช่วงนี้ก็ทุกวัน เพราะมันสวยดี แถมเป็นส่วนตัวด้วย
“อ่า ตรงนี้ดีที่สุดจริงๆ” ซีนอนพึมพำกับตัวเอง ขณะข้าวกล่องหมด นัยน์ตาเขาดูเบื่อๆและหมองแสงลงเล็กน้อย ก่อนเขาจะหายใจลึกๆและถอนออกยาวๆ ออกแนวระบายอารมณ์เล็กน้อย
ทุกๆวันของซีนอนนั้นสุดแสนจะธรรมดา ใครไม่คิดอย่างนั้นเขาไม่รู้ แต่เขาคิดเช่นนั้น ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น ไม่มีอะไรน่าสนุก ไม่มีอะไรเจ๋งๆเลย ทำให้ซีนอนโหยหามันพอสมควร เขาเคยอ่านหนังสือนิยายที่เล่าถึงการผจญภัยของพระเอกและเพื่อนๆ มันช่างน่าสนุกเสียจริงๆ โลกทุกๆวันของพวกเขาคงไม่ธรรมดาอย่างที่เราเป็น คิดแล้วก็อิจฉาเนอะ เราไม่มีทางได้ทำอะไรแบบนั้นเลย ไม่มีทางเลยจริงๆ
ชีวิตที่แสนจืดจางเริ่มขึ้นตั้งแต่เธอจากไป เพราะก่อนหน้านี้ทั้งเขาและเธอก็มักเล่นกันและมีอะไรให้ตื่นเต้นเสมอ จนถึงตอนนี้ซีนอนก็ไม่รู้เลยว่าผู้หญิงของเขานั้นหายไปไหน แต่เขาก็รอและพร้อมต้อนรับเธอเสมอ ซีนอนคิดแล้วก็ถอนหายใจยาวอีกรอบ ก่อนจะกระดกน้ำเปล่าขึ้นดื่มจนหมด ลมที่ผัดผ่านตัวเขานั้นเย็นสบาย ให้ความรู้สึกโดดเดียวที่ต้องอยู่บนนี้แค่ลำพัง มันเงียบเหงา และสงบ ความรู้สึกเศร้าลึกๆอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกเดียวดายในโลกกว้าง
หรืออย่างน้อย ซีนอนก็ขอให้ทุกวันของเขามีอะไรที่น่าสนใจขั้นมาบ้าง อะไรที่ไม่ใช่แค่ไปเรียนและกลับบ้าน อะไรที่น่าสนุกและตื่นเต้น ตอนนี้ถึงจะเจ็บปวดแต่เขาก็อยากลองเสี่ยงแลกดู เพื่อโลกที่น่าสนุกและตื่นเต้นของเขา เพื่อพาเขาออกจากโลกใบเก่า ที่แสนจะธรรมดา โลกที่สำหรับเขานั้น ไม่มีอะไรเลย เฮ้อออ คิดแล้วก็เศร้านะ แบบว่า โลกเรามันน่าเบื่อจริงๆนั้นแหละ จนถึงตอนนี้ ซีนอนก็อยากจะหายตัวไปเลย หายออกไปจากโลกนี้ เพราะเขาไม่เหลืออะไรไว้ให้ใคร เขาเป็นตัวของเขาและอยู่ในส่วนของเขา ซึ่งไม่ลำบากใคร แต่เมื่อคิดดังนั้นแล้ว หญิงสาวที่จะกลับมาหาเขาละ คุณแม่เมย์ พี่นีมาร่า ลูน่า
คนพวกนี้แหละที่เขาเรียกว่าครอบครัว เพราะฉะนั้น เขาก็มีสิ่งที่ผูกมัดเขาเอาไว้แล้ว และซีนอนจึงควรรีบลบความคิดนั้นออกไปน่าจะดีที่สุด ซีนอนจึงลุกขึ้นเก็บของ เก็บขยะ และเตรียมกลับบ้าน ซึ่งอยู่ห่างไปไม่ไกล เดินอีกนิดเดียวก็ถึง แต่แล้ว
“ยังโลกสวยไม่เปลี่ยนเลยนะ ซีนอน” เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้น ด้านหลังซีนอน
ซีนอนสะดุ้ง เขาไม่คิดเลยว่าจะมีใครขึ้นมาบนนี้อีก เพราะข้างล่างก็แปะป้ายไว้ว่า ห้ามเข้าอยู่แล้ว ไม่มีใครบ้าขึ้นมาแน่นอกจากเขา แล้ว เสียงคนพูดนี้ใครละ ซีนอนจึงค่อยๆหันกลับไปมอง และพบว่า เขาใส่เสื้อสีดำมีฮู้ด และถึงซีนอนจะพยายามเพ่งมองแค่ไหน ก็ไม่สามารถเห็นหน้าเขาได้ เหมือนภายใต้ฮู้ดนั้น มีแต่สีดำไปหมด
“มันง่ายจริงๆด้วย ง่ายจนข้าคิดไม่ถึงเลยทีเดียว” ชายตรงหน้าซีนอนเอ่ยต่อ แต่น้ำเสียงนั้นดูอายุไม่เยอะ ซีนอนจึงคิดว่าเขาเป็นเด็กหนุ่มรุ่นเดียวกันมากกว่า แต่น้ำเสียงที่ไม่ได้แสดงออกถึงความเป็นมิตรนั้น ทำให้ซีนอนเริ่มไม่ไว้ใจ และอีกอย่างที่ซีนอนแปลกใจคือ
“ ‘ข้า’ งั้นเหรอ คำพูดนายแปลกๆนะเพื่อน” ซีนอนเอ่ยออกไปในที่สุด เขาไม่ใว้ใจคนตรงหน้า เพราะด้วยกริยาเหมือนตัวร้ายในหนังนั้น รวมไปถึงท่าทีแปลกๆนั้นด้วย ซีนอนจึงคิดว่า จะเป็นการดีที่สุด ถ้าเขาเตรียมพร้อมที่จะสู้ หรือหนีเมื่อไหร่ก็ได้
แต่ชายคนนั้นเหมือนจะอ่านความคิดของซีนอนออก เขาจึงถีบประตูให้ปิดลง และแรงด้วย และแน่นอน มันจะเปิดไม่ได้ง่ายๆแล้วแหละ ไอ้ประตูเฮ็งซวย… ทำให้ซีนอนมั่นใจทันทีว่า เด็กหนุ่มตรงหน้า ไม่ได้มาดีแน่
“ให้มันได้อย่างนี้สิ” ซีนอนพูดแล้วโยนกล่องข้าวและขวดน้ำขึ้นฟ้าอย่างหมดอารมณ์
“ข้าว่า ทางหนีคงไม่ใช่เรื่องง่ายแล้วละ จริงไหม ซีนอน” เด็กชายพูดและยังเดินเข้ามาเรื่อยๆ ซีนอนรู้สึกได้ถึงความมันใจในทุกก้าวของเขา ทำให้ซีนอนไม่คิดจะทำอะไร เพราะเขาดูมั่นใจไปหมดไม่ว่าซีนอนจะทำอะไร เขาจะหนีจากคนๆนี้ไม่ได้ง่ายๆแน่ แต่ก็ไม่รู้ว่าอะไรในหัวเขา มันทำให้เผลอไปคิดว่าตรงหน้าเป็นเกย์ และมันหวังจะ ทำมิดีมิร้ายกับเขา แต่ก็แค่แวบเดียวเท่านั้น “ข้าไม่คิดเลยว่า มันจะง่ายถึงเพียงนี้ ข้า...รอเวลานี้มานาน”
“นายชื่ออะไร ต้องการอะไรกันแน่ ไข่เจียวฉันเหรอ โทษทีนะกินหมดไปแล้ว” ซีนอนเอ่ยออกไป ขณะเดินกลับเข้ามาในเขตปลอดภัย ที่เขาจะได้ไม่ตกลงไปข้างล่าง ซีนอนไม่รู้ว่าเขาเคยเจอคนตรงหน้าหรือเปล่า และเขาก็จำไม่ได้ด้วยว่า เขาเคยไปทำอะไรให้ชายคนนี้หรือไม่ เพราะแค่หน้ายังไม่เห็นเลย
“ เจ้าน่ะ รู้จักข้าดีที่สุด...” ชายคนนั้นยังเอ่ยต่อไป เขาเดินเข้ามาใกล้ซีนอนเรื่อยๆอย่างช้าๆ ก่อนจะหยุดอยู่ห่างจากซีนอนไปประมาณสามเมตร
“รู้จัดดี!... ดีกับป๋านายสิ ก็พึ่งถามไปเมื่อกี้เอง” ซีนอนไม่รู้ว่าเขาคิดไปเองหรือเปล่า แต่ชายตรงหน้าซีนอน จู่ๆตาเขาก็เรืองแสงสีแดงออกมา เมื่อซีนอนทบทวนตัวเองอีกครั้ง เขาจึงมั่นใจว่า เขาไม่ได้คิดไปเอง แต่ไม่ทันทีเขาจะถามอะไรออกไป ชายตรงหน้าก็เอ่ยต่อ
“ส่วนสิ่งที่ข้าต้องการ คือ ความตายของเจ้า”
“อ๋อได้สิ อีก80ปีค่อยมารับนะ ฉันอาจจะยินดีให้ด้วย แต่ตอนนี้คงไม่ได้” ซีนอนเอ่ยกลับ และแจกนิ้วกลางไม่ยั้ง
ชายคนนั้นไม่สนใจว่าซีนอนพูดอะไร เขาพุ่งตัวเข้ามาหาซีนอนอย่างรวดเร็ว เร็วมากจนซีนอนคาดไม่ถึง แต่ซีนอนที่ระวังตัวอยู่ในตอนแรกอยู่แล้วเหวี่ยงตัวหลบทันเวลาอย่างฉิวเฉียด แต่เขาก็กระเด็นออกไปข้างๆ ในขณะที่ชายคนนั้นพุ่งตัวตามมาด้วยเช่นกัน เขาชกเข้ามาที่หน้าซีนอนอย่างแรง จนซีนอนกระเด็นออกไปอีกทาง ก่อนที่ซีนอนจะพยายามพยุงตัวลุกขึ้นยืนอีกครั้ง
“อะไรของนายว่ะเนี่ย!” ซีนอนพูดอย่างหัวเสีย ทำไมคนที่ยังไม่บอกชื่อเขาด้วยซ้ำถึงต้องการจะฆ่าเขาละ แถมนี้มันกะจะฆ่าเขาจริงหรือเปล่าเนี่ย
ชายคนนั้นเค้นเสียงหัวเราะ ขณะในมือเขาปรากฏแสงสีแดงขึ้น มันเป็นประกายดำปนแดง แสดงถึงความชั่วร้ายเต็มสูบ
ซีนอนอึ้งไป เขาไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง นี้ไอ้คนตรงหน้ากำลังมาเล่นมายากลโชว์เขาอยู่เหรอ มันเป็นไปได้ยังไงกัน ซีนอนจึงมองมันอย่างไม่ละสายตา และต่อต้านความรู้สึกอยากปรบมือให้มันเต็มที
“อ่า ดูสิ ที่นี่ข้าใช้พลังได้ไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซ็นต์ด้วยซ้ำ” ชายคนนั้นพูดต่อ น้ำเสียงเขายังดูอาฆาตมากขึ้นอีก
“อะไรว่ะนั้น พลังบ้าอะไรน่ะ” ซีนอนโพล่งออกไป เมื่อกี้คนตรงหน้าเขาพึ่งพูดอะไรออกมานะ ดูมันเป็นเรื่องบ้ามากๆ หรือไม่ก็คนตรงหน้าคงบ้าไปแล้ว แต่ไม่ทันทีเขาจะคิดอะไรต่อจากนั้น ชายตรงหน้าก็ฟาดมือออกมา ทำให้ลำแสงสีแดงกลายเป็นสายยาวๆ และซีนอนเห็นมันกวาดมาทางเขา เขาจึงก้มตัวหลบ ด้วยสัญชาตญาณ และทันเวลาพอดี
ตู้ม!
ซีนอนเหมือนมารู้สึกตัวอีกทีตอนที่มีควันลอยออกมาเต็มไปหมด เขาได้ยินเสียงมันกระแทกอะไรเข้าซักอย่าง ทำให้ซีนอนหันไปมองข้างหลัง และพบว่า มันพาดเอาตะแกรงลวดขาดไปครึ่ง
ซีนอนมองมันอย่างไม่เชื่อสายตา จะว่ามายากลก็ไม่ใช่แล้ว นี้มันเรื่องอะไรเนี่ย ตอนนี้ซีนอนกำลังตกใจสุดขีด คนตรงหน้า มีบางอย่างที่เขาไม่เคยเห็น บางอย่างที่โลกอาจจะยังพิสูจน์ไม่ได้ด้วยซ้ำ แถมเขามั่นใจว่า ไอ้อะไรไม่รู้ตรงหน้า มันฆ่าเขาได้ง่ายๆแน่ ถ้าหากตะแกรงลวดขาดซะขนาดนั้น เพราะงั้น ถ้าเขายังอยากรอด เขาต้องเลิกตกใจ และตั้งสติให้ดี
“เห็นหรือยังว่าข้าทำอะไรได้ ซีนอน ถ้าไม่อยากตายแบบทรมาร ก็เข้ามาหาข้าซะดีๆ” คนๆนั้นยังพูดต่อ ขณะสายสีแดงวิ่งกลับวนเข้าหาข้อมือของคนๆนั้น
ซีนอนยังคงจ้องหน้าเขานิ่ง ก่อนจะมอบนิ้วกลางให้อีกครั้งและตั้งท่าเตรียมสู้ ซีนอนเชื่อว่า ไอ้เส้นสีแดงๆมีระยะโจมตีที่ไกล เขาจึงเชื่ออีกว่า มันจะเสียเปรียบในระยะใกล้ ซีนอนจึงจะหลบมันให้ได้อีกรอบและเข้าไปสู้กับมันในระยะใกล้
พร้อมกันนั้น ก็เหมือนชายคนนั้นจะอ่านใจซีนอนได้อีกรอบ เขาจึงเหวี่ยงมันออกเป็นวงกลม ในความเร็วที่สูงมาก จนซีนอนยังตกใจ เขาไม่กลัวมันโดนตัวเองเลย แสดงว่าต้องชำนาญมาก ซีนอนเองก็ไม่กล้าเสียงวิ่งเข้าไป แต่ชายคนนั้นไม่ปล่อยให้เวลาเสียเปล่า เขาฟาดมันลงตรงหน้าซีนอน ทันทีที่มันสัมผัสโดน พื้นก็แตกกระจายออกเป็นรอยลากยาวที่รุนแรงมากพอจะตัดตัวซีนอนขาดในครั้งเดียว
ซีนอนถอยหลบ และถอยออกมาเรื่อยๆ แต่เขาก็ยังฟาดไปมารอบตัวซีนอน เหมือนแค่ขู่ ถึงเขาจะฟันซีนอนได้ แต่ไม่รู้ทำไมถึงไม่ทำ เขาเหวี่ยงมันผ่านซีนอนไปมา พื้นรอบๆแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ก่อนที่ชายคนนั้นจะฟาดมันเฉียวแขนซีนอน
“อึก อ๊าก!” ซีนอนร้อง ขนาดแค่เฉียวๆ มันยังทำให้เขาเซ เลือดแดงสดไหล่ทะลักออกจากแผลขนาดเท่าผ่ามือตรงหัวไหล่เขา ความเจ็บปวดนั้นทำให้ซีนอนต้องกัดฟันแน่น และเขาก็มั่นใจขึ้นอีกว่าไอ้เส้นแดงๆนั้นมันเป็นอันตรายสุดๆ
ชายคนนั้นยังคงเหวี่ยงใส่ซีนอนต่ออย่างไรความปราณี ฟาดผ่านร่างกายเขาไปเรื่อยๆ โดนที่ขาจนซีนอนล้มลงคุกเข่า ก่อนจะผ่านแก้มเขาไป จนเลือดสาดออกมาเลอะหน้าเขา และยังตรงกลางอก จนเสื้อนักเรียนที่เคยเป็นสีขาว ถูกย้อมกลายเป็นสีแดงของเลือด ซีนอนไม่เคยเลือดไหลออกมามากเช่นนี้มาก่อน แต่สติของเขาก็ยังอยู่ ชายคนนั้นเลิกแกว่งเส้นสีแดงขณะยืนอยู่ตรงหน้าซีนอนไม่กี่ก้าว ซีนอนค่อยๆพยุงตัวโชคเลือดของเขาลุกขึ้นยืนตรงหน้าชายคนนั้น ความเจ็บสุดจะหาคำบรรยายพุ่งขึ้นกัดร่างกายของซีนอน แต่เขาก็ยังฝืนทน ก่อนจะง้างหมัดและเหวี่ยงเข้าที่หน้าของชายตรงหน้า
ปึก!
หมัดกระแทกเข้าเต็มแรง แต่ทว่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย แรงของการเหวี่ยงไม่ทำให้หน้าของชายในฮู้ลขยับเลยแม้แต่น้อย ก่อนที่ชายคนนั้นจะบีบคอซีนอนแล้วยกขึ้น
“อึก อ๊าก! ปล่อยฉันนะ!” ซีนอนร้องลั่น ความเจ็บปวดยังฝังอยู่ในร่างกายเขา ในขณะที่เขาไม่สามารถหายใจได้ ชายคนนั้นโยนร่างซีนอนไปที่ขอบตึก ซีนอนตกกระแทกพื้น และแรงเหวี่ยงก็ทำให้เขาไหลออกไปจนโผล่ออกไปนอกตึกครึ่งตัว คนที่เดินไปเดินมาข้างล่างเริ่มเห็นถึงสิ่งผิดปกติ และเริ่มร้องด้วยความหวาดผวา
แต่ซีนอนยังไม่ตกลงไป ชายคนนั้นเดินมาเหยียบหน้าอกซีนอนไว้ แต่ถ้าเขาขยับอีกนิดเดียวละก็ ซีนอนคงตายจริงๆ ซีนอนในตอนนี้เกิดความกลัวขึ้นเต็มที เขากำลังจะตายจริงๆ คนตรงหน้าจะฆ่าเขาจริงๆ ไหนจะผู้หญิงที่สัญญาว่าจะกลับมาหาเขาละ เขาจะรอเธอได้ยังไงละงานนี้!
“อ๊าก!” ซีนอนร้องออกมาอีก เมื่อคนที่จะฆ่าเขา เอาเท้าเขี่ยเปิดแผลให้กว้างขึ้นอีก เลือกทะลักออกมาจากแผลมาขึ้นตามไปด้วย และชายคนนั้นก็พูดออกมาว่า
“อ่า ฆ่าเจ้านี้มันง่ายกว่าที่คิดไว้เยอะ เมื่อตอนนี้เจ้าตัวคนเดียว” ชายคนนั้นพูด และกระแทกเท้าลงบนอกซีนอน จนซีนอนต้องกัดฟันแน่นเพราะความเจ็บ
“ฉันไปทำอะไรให้แก่ว่ะ!” ซีนอนตะโกนกลับอย่างโมโห เขายังไม่รู้เลยว่าคนตรงหน้าจะฆ่าเขาทำไม
“ทำอะไรงั้นเหรอ หึหึ” เขาเข้นเสียงหัวเราะ และเอ่ยต่อ “เพราะเจ้านั้นแหละ ที่เริ่มและทำให้ข้าต้องเป็นแพะรับบาป และยังพรากทุกๆสิ่งไปจากข้า”
“โอ้ว เหมือนในหนังเลย ยังงี้ตลอดอะ!” ซีนอนตะโกนกลับไป ไม่รู้ทำไมแต่สัญชาตญาณของเขาบอกให้พูด “ตอนไหนว่ะ ไอ้เวร นายจำคนผิดชัวร์! ” ซีนอนตะโกนต่อ จะว่ากลัวก็กลัว แต่ตอนนี้จะให้ร้องขอชีวิตมันก็ดูจะไม่ใช่แนวเขาเท่าไหร่
“ไม่มีประโยชน์หรอกที่จะรู้เพราะอีกเดียวเจ้าก็จะตายแล้ว” เขาพูด ก่อนจะยกซีนอนขึ้น เขากำชายเสื้อซีนอนเอาไว้ และปล่อยให้ร่างซีนอนเอนไปข้างหลังตามแรงโน้มถ่วง
“แกเอาจริงเหรอเนี่ย ปล่อนนะโว้ย!” ซีนอนพยายามขัดขืน แต่ก็เหมือนจะไร้ประโยชน์ เขากำลังจะตกตึกตายเหรอเนี่ย แล้วสิ่งที่เขาทำมาทั้งหมดละ ครอบครัวของเขาละ ผู้หญิงคนนั้นละ คนที่เขารอที่จะเจออีกครั้ง ทุกๆอย่างที่เขาทำ ที่เขารอ จะจบลงแค่นี้งั้นเหรอ ซีนอนคิด และเขาก็กลั่นน้ำตาแห่งความกลัวไว้ไม่อยู่ มันไหลออกมาพร้อมสายตาที่แสดงถึงความอ่อนแอของเขา ซีนอนไม่อยากตาย เขากลัวตาย กลัวว่าเขาจะหายไปเลย ถึงจะเคยคิดอย่างงั้น แต่ตอนนี้เขาไม่อยากตาย
และน้ำตาที่ไหลออกมาของเขานั้น มันยิ่งทำให้คนตรงหน้าสะใจมากขึ้น
และเขา ก็ปล่อยมือออก ปล่อยให้ร่างซีนอนตกลงสู่พื้นเบื้องล่าง...
แวป! เปรี๊ยง!
ชายคนนั้นโดนพลังบางอย่างกระแทกกระเด็นกลับไป ขณะที่ซีนอนก็โดนรังไว้โดยบางอย่าง บางอย่างที่โอบไหล่เขาไว้ ก่อนจะดันกลับมา ให้เดินมาที่จุดปลอดภัย บางอย่างที่ใส่เสื้อหนังรั้ดรูปสีดำ พร้อมผ้าปิดหน้าที่เห็นแค่ดวงตา และปลายของผ้าทั้งสองด้านถูกปล่อยให้ปลิวสวัยไปกับสายลม และเจ้าของร่างก็...ปล่อยแสงสีฟ้าออกไปตัดแขนคนที่จะฆ่าซีนอนตรงหน้า และตัดหัวด้วยในเวลาเดียวกัน
ก่อนที่ผู้มาใหม่จะมองสบตาซีนอน และเอ่ยออกมาว่า
“ซีนอน?” ผู้มาใหม่หันมาสบตาซีนอนเละเอ่ยถาม น้ำเสียงบอกว่าเป็นผู้หญิง เพราะเสื้อมันก็ดูนูนๆเหมือนกัน เสียงของเธอเรียกสติซีนอนให้กลับมา เขาพยักหน้ารับ ซึ่งเธอก็เดินมากอดเขาทันที เล่นซะซีนอนทำอะไรไม่ถูกเลย แต่ที่เขาแปลกใจคือ เธอก็รู้ชื่อของเขา และเธอโผล่มากจากไหน แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาสำหรับคำถาม
“ข้ามาทันสินะ” น้ำเสียงของเธอดูโล่งอก ก่อนที่เธอจะถอยออกจากร่างกายเขา และสำรวจดูรอยแผล และเธอก็ทาบมือลงที่อกซีนอน ก่อนแสงสีเขียวจะทำให้บาดแผลซีนอนหายไปทั้งหมด
“น่ะ...นี้มัน อะไรกันครับ คุณเป็นใคร” ซีนอนถามกลับอย่างไม่อยากเชื่อ ทำไมคนตรงหน้านอกจากเป็นผู้หญิงแล้วยังตัวสูงกว่าเขาอีก แถมอะไรบางอย่างทำให้แผลของเขาหายได้ในพริบตาเหมือนในการ์ตูนเลยละ
“หึ ตกใจสินะ เดียวเจ้า...” เธอพูดด้วยเสียงเหมือนโล่งอกได้ไม่ทันจบ เธอก็หันขวับกลับไปเผชิญหน้ากับคนฮู้ลดำที่จะฆ่าซีนอน ควันสีดำที่ลอยออกมาจากส่วนที่ขาดของร่างกายกำลังค่อยๆ สร้างรูปร่างขึ้นมาใหม่ ไม่นานก็กลับมาเป็นฮู้ลสีดำเหมือนเดิม
“ฟังข้านะ ซีนอน ข้ารู้ว่าเจ้ามีอะไรอยากถามมากมาย แต่ตอนนี้เจ้าต้องหนีก่อน” หญิงสาวเอ่ยบอก ก่อนจะยิงลำแสงทำลายประตูให้ซีนอน “หนีไปให้ไกลจากที่นี้! ไป!” เธอเอ่ยไล่ ก่อนจะเริ่มสู้กับชายชุดดำตรงหน้า พลังของเธอมันพุ่งออกมาป้องกันไม่ให้พลังสีแดงดำนั้นพุ่งมาชนซีนอน ซีนอนได้สติจึงเริ่มออกวิ่งหนี ไปที่ทางลง แต่พลังสีดำนั้นก็พุ่งผ่านหน้าซีนอนไป จนเขาต้องก้มหลบ และเหลือมองผู้หญิงที่ช่วยเขาไว้เข้าไปสู้กันคนที่จะฆ่าเขา ทั้งสองตรงเข้าหากัน และชายชุดดำเหวี่ยงหมัดใส่ผู้หญิง ขณะที่เธอถอยและปัดป้องด้วยแสงสีฟ้าที่เหมือนบาร์เรียร์ในหนังได้ ก่อนจะโจมตีด้วยแรงกระแทกให้เขากระเด็นกลับออกไป และตามด้วยลูกบอลลำแสงใส่เข้าไปไม่ยั้ง แต่เมื่อซีนอนกำลังจะวิ่งลงไปข้างลง เขาก็เจอกับตัวอะไรไม่รู้ และซีนอนก็ไม่โง่พอที่จะคิดว่ามันคืออะไรอื่น นอกจากปีศาจ รูปร่างมันเป็นมนุษย์ตัวสูงกว่า ร่างของมันคล้ายคน แต่ก็ไม่ใช่ซะทีเดียว มีควันลอยออกมาจากทั่วร่างกาย มันข่วนซีนอนเล่าเอาเขาต้องวิ่งกลับขึ้นมาข้างบนอีกครั้ง และสบตากับเธอทั้งๆที่เธอยังสู้กับคนตรงหน้าอยู่
“หมอบลง” เธอตะโกนสั่ง ซึ่งซีนอนก็ทำทันที เธอยิงพลังผ่านมือ ใส่เจ้าตัวที่ตามซีนอนมา และโดนมันเต็มๆจนมันกระเด็นออกไป พร้อมกันนั้นลำแสงของเธอก็เจาะกำแพงเป็นรูเช่นกัน
พอซีนอนวิ่งกลับขึ้นมาข้างบนอีกรอบ เจ้าคนเสื้อดำก็เห็นมันจึงซัดพลังใส้ผู้หญิงคนนั้นจนเธอเสียหลัก และโจมตีใส่ซีนอน แต่ดีที่เธอสร้างเกราะขึ้นกันไว้ทัน ทำให้ซีนอนโดนแค่แรงระเบิดจนลอยกระเด็นออกมา แต่ไอ้คนเสื้อดำนั้นก็ไม่ปล่อยซีนอน มันกระชากร่างเขาขึ้นไปในอากาศด้วยพลังบางอย่าง ดีที่ผู้หญิงคนนั้นเห็นทัน เธอจึงพุ่งตัวขึ้นมารับซีนอนไว้ได้ แต่ก็พลาดท่าตอนลงพื้น เธอโดนโจมตีเข้าทีขาข้างหนึ่ง ทำให้เธอเซไปข้างหลัง และเปิดช่องโห่ว ให้ชายชุดดำโจมตีซีนอนได้
“ลาก่อน” เขาพูด และยิงลำแสงหวังเจาะผ่านหัวซีนอน ซึ่งเขาไม่มีทางหลบทัน แต่เธอเร็วกว่า เธอสร้างเกราะ
บาร์เรียร์ขึ้นกันไว้ได้ทัน แต่แรงระเบิด ทำให้ซีนอนกระเด็นตกตึกไป
“ไม่!” เธอตะโกนลั่น แต่ก็คว้าซีนอนไว้ไม่ทันแล้ว
เขาร้องลั่นด้วยความกลัว ขณะตกลงไป แต่ก็รู้สึกตัวว่าเหมือนโดนไฟฟ้าช็อดเข้าอย่างแรง ก่อนที่เขาจะเห็นว่าเบื้องล่างปรากฏรูวงกลมขนาดใหญ่ และซีนอนก็ตกลงไปในนั้น และทุกอย่างก็ดับไป
ลาก่อนโลกใบนี้
สามวันต่อมา ซีนอนกำลังเดินกลับบ้าน ในตอนเย็นหลังเลิกเรียนแบบปกติ อีกไม่เกินห้าวันเขาก็จะย้ายไปอยู่ที่บ้านหลังใหม่แล้ว และตอนนี้กำลังจดจำทุกตารางนิ้วของบ้านหลังเดิมก่อน
ซีนอนไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมบ้านหลังนี้ถึงถูกยึดได้ แต่ด้วยความที่สมองเขาไม่ค่อยรับกับเรื่องซับซ้อน เมื่อแม่เมย์บอก เขาก็เชื่อในทันที
และตอนนั้นเอง เขาไม่ทันสังเกตว่ามีคนสามคนเดินตามมาด้วย ก่อนจะเพิ่มจำนวนขึ้นอีก เป็นเจ็ดคน ตอนนี้ซีนอนเริ่มรู้สึกได้แล้ว และเขารู้ตัวว่าตัวเองกำลังมีอันตราย ซีนอนจึงรีบหาทางหนีทันที เขามองซ้ายทีขวาที ก่อนจะตัดสินใจ เดินเข้าไปทางซอยแคบๆที่หนึ่ง ซึ่งพวกนั้นก็ตามมาด้วย ซีนอนจึงมั่นใจแล้วว่า พวกมีเป้าหมายมาที่เขา และซีนอนก็นึกอะไรแปลกๆขึ้นมาได้ เขาจึงเล่นมันเสียหน่อย
“โย่วๆ ซีนอนนายว่ามีคนเดินตามฉันมามั้ยอะ” ซีนอนพูดถามตัวเอง และแกล้งดัดเสียงเป็นอีกเสียงหนึ่งขณะตอบตัวเองกลับว่า “ฉันว่ามีนะ นายระวังตัวหน่อยก็ดี”
พวกคนที่ตามมามองหน้ากันเอง คงกำลังหาว่าเขาบ้า และซีนอนก็ใช้จังหวะนั้น วิ่งไปเหยียบถังขยะแล้วกระโดดขึ้นไปเกาะบันไดหนีไฟของตึกข้างๆ และรีบปีนหนีขึ้นไป พวกนั้นเห็นก็พากันวิ่งกรูเข้ามา แต่ซีนอนรีบดึงบันไดขึ้น ทำให้พวกนั้นตามมาไม่ได้ ก่อนจะหาอะไรกันไว้ไม่ให้บันไดตกลงไป เผื่อว่ามันจะบินขึ้นมาแทน
“นายคิดถูกจริงๆนะซีนอน มีคนตามนายมา” ซีนอนยิ้มขำกับคำพูดตัวเอง ก่อนจะกระโดดหนีข้ามกำแพงไป ซีนอนรู้ว่าพวกมันต้องรู้จักเส้นทางแถวๆนี้แน่ พวกมันจึงพากันวิ่งกลับออกไปทางเดิมแต่เลี้ยวซ้ายไป ซึ่งซีนอนเดาว่ามันตามเขามาได้แน่ เขาจึงออกวิ่งเพื่อหนีให้ไกลที่สุด และไม่นานพวกมันก็มาดักหน้าเขาได้ ซีนอนจึงหยิบฝาถังขยะแล้วเหวี่ยงไปข้างหน้า ซึ่งพวกมันก็หลบตามที่เขาคิด ซีนอนจึงวิ่งไต่กำแพง เพื่อวิ่งข้ามไหล่มันไป ก่อนจะหัวเราะอย่างสะใจ เมื่อพวกมันตามมาไม่ทัน ซีนอนวิ่งมาและเห็นทางเลี้ยวซ้ายและขวา แต่ทางซ้ายก็มีคนวิ่งเข้ามา ซึ่งซีนอนจำหน้ามันได้แล้ว มันคือนักเลงโรงเรียนข้างๆที่ ซีนอนเคยเทน้ำราดหัวมัน คิดแล้วก็รู้สึกเสียใจนิดๆนะ แต่มันกำลังรังแกผู้หญิงนี่ ช่วยไม่ได้ สุภาพษุรุษจะยืนเฉยได้ไง ก่อนที่ซีนอนจะวิ่งหนีไปอีกทาง เขาชูนิ้วกลางใส่หน้ามันก่อน และต้องเร่งความเร็วเพราะตอนนี้ไม่ได้มีแค่เจ็ดคน แต่เกือบยี่สิบแล้ว ซีนอนไม่อยากเสี่ยง เขาแค่ทำตัวเหมือนมั่นใจว่าจะหนีมันได้ แต่เอาเข้าจริงๆ ซีนอนแค่เชื่อในความเสี่ยงอีกห้าสิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น ทำให้เขามั่นใจว่าจะหนีมันได้ ซีนอนวิ่งมาเรื่อยๆ เขาไม่อยากต่อสู้ตอนนี้ เพราะเสื้อนักเรียนเขาจะเลอะ และดีไม่ดี เดียวเป็นเรื่องใหญ่อีก จนซีนอนตัดสินใจวิ่งไปและออกถนน เขาวิ่งผ่านรถที่ขับไม่เร็วมาจนต้องหยุดเพื่อให้เขาวิ่งผ่านไปก่อน และมีกลุ่มนักเลงวิ่งตามมา ผู้คนมากมายทั่วบริเวณมองเขาเป็นตาเดียว ซีนอนกำลังวิ่งหนี ก่อนที่เขาจะเลี้ยวไปตามทางเพื่อหวังจะสลัดมันให้หลุด เขาสไลด์ข้ามกระโปรงรถคันหนึ่ง เจ้าของรถบีบแตรด่าอย่างแรง ต่อจากนั้นซีนอนจึงตรงไปทีป้อมตำรวจกลางถนน ไฟแดงอยู่พอดี และตำรวจก็ออกมาตามคาด แต่เขาจับได้เพียงแค่กลุ่มนักเลงที่ตามซีนอนเท่านั้น ซึ่งยังเหลืออีกไม่กี่คนที่วิ่งตามซีนอนมา พวกมันตะโกนลั่นด้วยความโมโห แต่ก็หยุดซีนอนไม่ได้ และซีนอนก็เห็นสัญญาณรถไฟกำลังใกล้เข้ามา ซีนอนจึงคิดอะไรเจ๋งๆขึ้นได้ เขารีบวิ่งไปที่รางรถไฟทันที และเมื่อเห็นรถไฟอยู่ไม่ไกลมากแล้ว ซีนอนจึงต้องเร่งเท้าขึ้นอีก เพราะถ้าหากพลาดโอกาศนี้ เขาจะหมดแรงวิ่งหนีเสียแล้ว พวกนักเลงข้างหลังที่ตามมา ประมาณห้าคนเหมือนจะเริ่มรู้แผนของเขาแล้ว จึงเร่งเท้าตาม ซีนอนกำลังเสียงตาย เพื่อทางรอดที่สุดแสนจะนรก เขาวิ่งไม่คิดชีวิต เพื่อให้ผ่านรางรถไฟนั้นทันเวลา ในขณะที่รถไฟก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เสียงหวูดรถไฟดังลั่น เพื่อเตือนให้เขาถอยไป แต่ซีนอนไม่สนใจมัน เขารีบพุ่งตัว และลองของกับชะตาชีวิตตัวเอง รถไฟวิ่งเข้ามาใกล้มากแล้ว และซีนอนก็เข้าใกล้รางมากขึ้น เรื่อยๆ จนพวกกลุ่มนักเลงหยุดวิ่งเมื่อคำนวนแล้ว ความเสี่ยงที่พวกตนและซีนอนจะถูกชนมีมากขึ้นจนน่ากลัว และซีนอนก็วิ่งให้เร็วที่สุดเพื่อกระโดดข้ามฝั่งไป ในขณะที่รถไฟวิ่งเข้ามาพอดี การที่มันเฉียวเสื้อนักเรียนเขาขาดออกไปเล็กน้อยนั้น ทำให้ซีนอนโดนแรงกระชากและล้มกลิ้งไปตามแรง แต่เขาก็ไม่เป็นอะไรมาก ก่อนจะลุกขึ้นมาจ้องหน้าพวกนักเลงที่มองเขาผ่านร่องเชื่อมระหว่างโบกี้ ซีนอนแสยะยิ้มให้ทีหนึ่ง ก่อนจะวิ่งหนีไปทางด้านหลัง และจนกว่ารถไฟจะหมด พวกนั้นก็หาซีนอนไม่เจอแล้ว...
“มันจะโกรธอะไรขนาดนั้นว่ะเนี่ย ฉันก็ทำในสิ่งที่ดีนะ อย่างน้อยฉันก็คิดอย่างนั้น” ซีนอนเดินไปพูดกับตัวเองไปก่อนจะหัวเราะเบาๆแล้วยิ้ม เขาหยิบเสื้อกันหนาวขึ้นมาใส่คลุมรอยเสื้อขาดและรอยเลอะไว้ ขณะซื้อของกินเล่นเล็กน้อย
เขาได้ข้าวไข่เจียวใส่แครอด หัวหอม และหมูสับของโปรดยามว่างของเขามา และซีนอนโลกส่วนตัวสูง เขาจึงเข้าไปในตึกร้างแถวๆบ้านเขา มันไม่น่ากลัวเท่าไหร่ อาจเพราะซีนอนเริ่มคุ้นกับที่นี่แล้วมั่ง เขามักมาหลบที่นี่ และกินข้าว หรือนั่งเล่นบ่อยๆเวลาไม่มีอะไรทำ มันไม่สูงมาก แต่ก็สูงพอจะเห็นวิวเมืองกรุงเทพมหานครได้ในระดับหนึ่ง
ซีนอนถือข้าวเย็นและเครื่องดื่มเดินขึ้นมาบนชั้นดาดฟ้า ตอนแรกประตูก็ล็อกอยู่ แต่ซีนอนดันไปเจอกุญแจเข้านี้สิ โชคดีเกินไปเนอะ ประตูเปิดยาก ซีนอนจึงถีบมันแรงๆ ประตูจึงเปิดออก พบชั้นดาดฟ้า ขนาดกลาง ที่มีโซฟาเก่าๆ กับโต๊ะเล็กๆตัวหนึ่ง ซีนอนวางกระเป๋านักเรียนที่ไม่มีหนังสือ แต่มีสิ่งที่จำเป็นมากกว่านั้นแทน เช่น หมอน ผ้าหม่ ไฟฉาย ไว้ข้างๆโซฟาตัวยา แต่เขาไม่นั่งมัน ซีนอนเดินไปเปิดรัวตะข่ายออก เหมือนมันจะเคยมีกันไว้รอบๆ เพื่อไม่ให้ใครตกลงไปง่ายๆ แต่ตอนนี้ ซีนอนกลับเมินหน้าที่การทำงานของมัน โดนไปนั่งอีกด้าน และพิงมันอย่างสบายใจ เหมือนเมื่อก่อนจะเคยมีตะข่ายเหล็กนี้กันไว้โดยรอบ แต่ตอนนี้มันโดนลื้อออก เหลือแค่อันเดียวแล้ว และเป็นจุดที่นั่งพิงได้สบายที่สุดด้วย
ซีนอนถอดเสื้อกันหนาวออก และเปิดกล่องอาหาร กลิ่นหอมๆของไข่เจียวนั้นลอยมาเตะจมูก ซีนอนลงมือทานอาหารเย็นตรงนี้บ่อยๆ ช่วงนี้ก็ทุกวัน เพราะมันสวยดี แถมเป็นส่วนตัวด้วย
“อ่า ตรงนี้ดีที่สุดจริงๆ” ซีนอนพึมพำกับตัวเอง ขณะข้าวกล่องหมด นัยน์ตาเขาดูเบื่อๆและหมองแสงลงเล็กน้อย ก่อนเขาจะหายใจลึกๆและถอนออกยาวๆ ออกแนวระบายอารมณ์เล็กน้อย
ทุกๆวันของซีนอนนั้นสุดแสนจะธรรมดา ใครไม่คิดอย่างนั้นเขาไม่รู้ แต่เขาคิดเช่นนั้น ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น ไม่มีอะไรน่าสนุก ไม่มีอะไรเจ๋งๆเลย ทำให้ซีนอนโหยหามันพอสมควร เขาเคยอ่านหนังสือนิยายที่เล่าถึงการผจญภัยของพระเอกและเพื่อนๆ มันช่างน่าสนุกเสียจริงๆ โลกทุกๆวันของพวกเขาคงไม่ธรรมดาอย่างที่เราเป็น คิดแล้วก็อิจฉาเนอะ เราไม่มีทางได้ทำอะไรแบบนั้นเลย ไม่มีทางเลยจริงๆ
ชีวิตที่แสนจืดจางเริ่มขึ้นตั้งแต่เธอจากไป เพราะก่อนหน้านี้ทั้งเขาและเธอก็มักเล่นกันและมีอะไรให้ตื่นเต้นเสมอ จนถึงตอนนี้ซีนอนก็ไม่รู้เลยว่าผู้หญิงของเขานั้นหายไปไหน แต่เขาก็รอและพร้อมต้อนรับเธอเสมอ ซีนอนคิดแล้วก็ถอนหายใจยาวอีกรอบ ก่อนจะกระดกน้ำเปล่าขึ้นดื่มจนหมด ลมที่ผัดผ่านตัวเขานั้นเย็นสบาย ให้ความรู้สึกโดดเดียวที่ต้องอยู่บนนี้แค่ลำพัง มันเงียบเหงา และสงบ ความรู้สึกเศร้าลึกๆอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกเดียวดายในโลกกว้าง
หรืออย่างน้อย ซีนอนก็ขอให้ทุกวันของเขามีอะไรที่น่าสนใจขั้นมาบ้าง อะไรที่ไม่ใช่แค่ไปเรียนและกลับบ้าน อะไรที่น่าสนุกและตื่นเต้น ตอนนี้ถึงจะเจ็บปวดแต่เขาก็อยากลองเสี่ยงแลกดู เพื่อโลกที่น่าสนุกและตื่นเต้นของเขา เพื่อพาเขาออกจากโลกใบเก่า ที่แสนจะธรรมดา โลกที่สำหรับเขานั้น ไม่มีอะไรเลย เฮ้อออ คิดแล้วก็เศร้านะ แบบว่า โลกเรามันน่าเบื่อจริงๆนั้นแหละ จนถึงตอนนี้ ซีนอนก็อยากจะหายตัวไปเลย หายออกไปจากโลกนี้ เพราะเขาไม่เหลืออะไรไว้ให้ใคร เขาเป็นตัวของเขาและอยู่ในส่วนของเขา ซึ่งไม่ลำบากใคร แต่เมื่อคิดดังนั้นแล้ว หญิงสาวที่จะกลับมาหาเขาละ คุณแม่เมย์ พี่นีมาร่า ลูน่า
คนพวกนี้แหละที่เขาเรียกว่าครอบครัว เพราะฉะนั้น เขาก็มีสิ่งที่ผูกมัดเขาเอาไว้แล้ว และซีนอนจึงควรรีบลบความคิดนั้นออกไปน่าจะดีที่สุด ซีนอนจึงลุกขึ้นเก็บของ เก็บขยะ และเตรียมกลับบ้าน ซึ่งอยู่ห่างไปไม่ไกล เดินอีกนิดเดียวก็ถึง แต่แล้ว
“ยังโลกสวยไม่เปลี่ยนเลยนะ ซีนอน” เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้น ด้านหลังซีนอน
ซีนอนสะดุ้ง เขาไม่คิดเลยว่าจะมีใครขึ้นมาบนนี้อีก เพราะข้างล่างก็แปะป้ายไว้ว่า ห้ามเข้าอยู่แล้ว ไม่มีใครบ้าขึ้นมาแน่นอกจากเขา แล้ว เสียงคนพูดนี้ใครละ ซีนอนจึงค่อยๆหันกลับไปมอง และพบว่า เขาใส่เสื้อสีดำมีฮู้ด และถึงซีนอนจะพยายามเพ่งมองแค่ไหน ก็ไม่สามารถเห็นหน้าเขาได้ เหมือนภายใต้ฮู้ดนั้น มีแต่สีดำไปหมด
“มันง่ายจริงๆด้วย ง่ายจนข้าคิดไม่ถึงเลยทีเดียว” ชายตรงหน้าซีนอนเอ่ยต่อ แต่น้ำเสียงนั้นดูอายุไม่เยอะ ซีนอนจึงคิดว่าเขาเป็นเด็กหนุ่มรุ่นเดียวกันมากกว่า แต่น้ำเสียงที่ไม่ได้แสดงออกถึงความเป็นมิตรนั้น ทำให้ซีนอนเริ่มไม่ไว้ใจ และอีกอย่างที่ซีนอนแปลกใจคือ
“ ‘ข้า’ งั้นเหรอ คำพูดนายแปลกๆนะเพื่อน” ซีนอนเอ่ยออกไปในที่สุด เขาไม่ใว้ใจคนตรงหน้า เพราะด้วยกริยาเหมือนตัวร้ายในหนังนั้น รวมไปถึงท่าทีแปลกๆนั้นด้วย ซีนอนจึงคิดว่า จะเป็นการดีที่สุด ถ้าเขาเตรียมพร้อมที่จะสู้ หรือหนีเมื่อไหร่ก็ได้
แต่ชายคนนั้นเหมือนจะอ่านความคิดของซีนอนออก เขาจึงถีบประตูให้ปิดลง และแรงด้วย และแน่นอน มันจะเปิดไม่ได้ง่ายๆแล้วแหละ ไอ้ประตูเฮ็งซวย… ทำให้ซีนอนมั่นใจทันทีว่า เด็กหนุ่มตรงหน้า ไม่ได้มาดีแน่
“ให้มันได้อย่างนี้สิ” ซีนอนพูดแล้วโยนกล่องข้าวและขวดน้ำขึ้นฟ้าอย่างหมดอารมณ์
“ข้าว่า ทางหนีคงไม่ใช่เรื่องง่ายแล้วละ จริงไหม ซีนอน” เด็กชายพูดและยังเดินเข้ามาเรื่อยๆ ซีนอนรู้สึกได้ถึงความมันใจในทุกก้าวของเขา ทำให้ซีนอนไม่คิดจะทำอะไร เพราะเขาดูมั่นใจไปหมดไม่ว่าซีนอนจะทำอะไร เขาจะหนีจากคนๆนี้ไม่ได้ง่ายๆแน่ แต่ก็ไม่รู้ว่าอะไรในหัวเขา มันทำให้เผลอไปคิดว่าตรงหน้าเป็นเกย์ และมันหวังจะ ทำมิดีมิร้ายกับเขา แต่ก็แค่แวบเดียวเท่านั้น “ข้าไม่คิดเลยว่า มันจะง่ายถึงเพียงนี้ ข้า...รอเวลานี้มานาน”
“นายชื่ออะไร ต้องการอะไรกันแน่ ไข่เจียวฉันเหรอ โทษทีนะกินหมดไปแล้ว” ซีนอนเอ่ยออกไป ขณะเดินกลับเข้ามาในเขตปลอดภัย ที่เขาจะได้ไม่ตกลงไปข้างล่าง ซีนอนไม่รู้ว่าเขาเคยเจอคนตรงหน้าหรือเปล่า และเขาก็จำไม่ได้ด้วยว่า เขาเคยไปทำอะไรให้ชายคนนี้หรือไม่ เพราะแค่หน้ายังไม่เห็นเลย
“ เจ้าน่ะ รู้จักข้าดีที่สุด...” ชายคนนั้นยังเอ่ยต่อไป เขาเดินเข้ามาใกล้ซีนอนเรื่อยๆอย่างช้าๆ ก่อนจะหยุดอยู่ห่างจากซีนอนไปประมาณสามเมตร
“รู้จัดดี!... ดีกับป๋านายสิ ก็พึ่งถามไปเมื่อกี้เอง” ซีนอนไม่รู้ว่าเขาคิดไปเองหรือเปล่า แต่ชายตรงหน้าซีนอน จู่ๆตาเขาก็เรืองแสงสีแดงออกมา เมื่อซีนอนทบทวนตัวเองอีกครั้ง เขาจึงมั่นใจว่า เขาไม่ได้คิดไปเอง แต่ไม่ทันทีเขาจะถามอะไรออกไป ชายตรงหน้าก็เอ่ยต่อ
“ส่วนสิ่งที่ข้าต้องการ คือ ความตายของเจ้า”
“อ๋อได้สิ อีก80ปีค่อยมารับนะ ฉันอาจจะยินดีให้ด้วย แต่ตอนนี้คงไม่ได้” ซีนอนเอ่ยกลับ และแจกนิ้วกลางไม่ยั้ง
ชายคนนั้นไม่สนใจว่าซีนอนพูดอะไร เขาพุ่งตัวเข้ามาหาซีนอนอย่างรวดเร็ว เร็วมากจนซีนอนคาดไม่ถึง แต่ซีนอนที่ระวังตัวอยู่ในตอนแรกอยู่แล้วเหวี่ยงตัวหลบทันเวลาอย่างฉิวเฉียด แต่เขาก็กระเด็นออกไปข้างๆ ในขณะที่ชายคนนั้นพุ่งตัวตามมาด้วยเช่นกัน เขาชกเข้ามาที่หน้าซีนอนอย่างแรง จนซีนอนกระเด็นออกไปอีกทาง ก่อนที่ซีนอนจะพยายามพยุงตัวลุกขึ้นยืนอีกครั้ง
“อะไรของนายว่ะเนี่ย!” ซีนอนพูดอย่างหัวเสีย ทำไมคนที่ยังไม่บอกชื่อเขาด้วยซ้ำถึงต้องการจะฆ่าเขาละ แถมนี้มันกะจะฆ่าเขาจริงหรือเปล่าเนี่ย
ชายคนนั้นเค้นเสียงหัวเราะ ขณะในมือเขาปรากฏแสงสีแดงขึ้น มันเป็นประกายดำปนแดง แสดงถึงความชั่วร้ายเต็มสูบ
ซีนอนอึ้งไป เขาไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง นี้ไอ้คนตรงหน้ากำลังมาเล่นมายากลโชว์เขาอยู่เหรอ มันเป็นไปได้ยังไงกัน ซีนอนจึงมองมันอย่างไม่ละสายตา และต่อต้านความรู้สึกอยากปรบมือให้มันเต็มที
“อ่า ดูสิ ที่นี่ข้าใช้พลังได้ไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซ็นต์ด้วยซ้ำ” ชายคนนั้นพูดต่อ น้ำเสียงเขายังดูอาฆาตมากขึ้นอีก
“อะไรว่ะนั้น พลังบ้าอะไรน่ะ” ซีนอนโพล่งออกไป เมื่อกี้คนตรงหน้าเขาพึ่งพูดอะไรออกมานะ ดูมันเป็นเรื่องบ้ามากๆ หรือไม่ก็คนตรงหน้าคงบ้าไปแล้ว แต่ไม่ทันทีเขาจะคิดอะไรต่อจากนั้น ชายตรงหน้าก็ฟาดมือออกมา ทำให้ลำแสงสีแดงกลายเป็นสายยาวๆ และซีนอนเห็นมันกวาดมาทางเขา เขาจึงก้มตัวหลบ ด้วยสัญชาตญาณ และทันเวลาพอดี
ตู้ม!
ซีนอนเหมือนมารู้สึกตัวอีกทีตอนที่มีควันลอยออกมาเต็มไปหมด เขาได้ยินเสียงมันกระแทกอะไรเข้าซักอย่าง ทำให้ซีนอนหันไปมองข้างหลัง และพบว่า มันพาดเอาตะแกรงลวดขาดไปครึ่ง
ซีนอนมองมันอย่างไม่เชื่อสายตา จะว่ามายากลก็ไม่ใช่แล้ว นี้มันเรื่องอะไรเนี่ย ตอนนี้ซีนอนกำลังตกใจสุดขีด คนตรงหน้า มีบางอย่างที่เขาไม่เคยเห็น บางอย่างที่โลกอาจจะยังพิสูจน์ไม่ได้ด้วยซ้ำ แถมเขามั่นใจว่า ไอ้อะไรไม่รู้ตรงหน้า มันฆ่าเขาได้ง่ายๆแน่ ถ้าหากตะแกรงลวดขาดซะขนาดนั้น เพราะงั้น ถ้าเขายังอยากรอด เขาต้องเลิกตกใจ และตั้งสติให้ดี
“เห็นหรือยังว่าข้าทำอะไรได้ ซีนอน ถ้าไม่อยากตายแบบทรมาร ก็เข้ามาหาข้าซะดีๆ” คนๆนั้นยังพูดต่อ ขณะสายสีแดงวิ่งกลับวนเข้าหาข้อมือของคนๆนั้น
ซีนอนยังคงจ้องหน้าเขานิ่ง ก่อนจะมอบนิ้วกลางให้อีกครั้งและตั้งท่าเตรียมสู้ ซีนอนเชื่อว่า ไอ้เส้นสีแดงๆมีระยะโจมตีที่ไกล เขาจึงเชื่ออีกว่า มันจะเสียเปรียบในระยะใกล้ ซีนอนจึงจะหลบมันให้ได้อีกรอบและเข้าไปสู้กับมันในระยะใกล้
พร้อมกันนั้น ก็เหมือนชายคนนั้นจะอ่านใจซีนอนได้อีกรอบ เขาจึงเหวี่ยงมันออกเป็นวงกลม ในความเร็วที่สูงมาก จนซีนอนยังตกใจ เขาไม่กลัวมันโดนตัวเองเลย แสดงว่าต้องชำนาญมาก ซีนอนเองก็ไม่กล้าเสียงวิ่งเข้าไป แต่ชายคนนั้นไม่ปล่อยให้เวลาเสียเปล่า เขาฟาดมันลงตรงหน้าซีนอน ทันทีที่มันสัมผัสโดน พื้นก็แตกกระจายออกเป็นรอยลากยาวที่รุนแรงมากพอจะตัดตัวซีนอนขาดในครั้งเดียว
ซีนอนถอยหลบ และถอยออกมาเรื่อยๆ แต่เขาก็ยังฟาดไปมารอบตัวซีนอน เหมือนแค่ขู่ ถึงเขาจะฟันซีนอนได้ แต่ไม่รู้ทำไมถึงไม่ทำ เขาเหวี่ยงมันผ่านซีนอนไปมา พื้นรอบๆแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ก่อนที่ชายคนนั้นจะฟาดมันเฉียวแขนซีนอน
“อึก อ๊าก!” ซีนอนร้อง ขนาดแค่เฉียวๆ มันยังทำให้เขาเซ เลือดแดงสดไหล่ทะลักออกจากแผลขนาดเท่าผ่ามือตรงหัวไหล่เขา ความเจ็บปวดนั้นทำให้ซีนอนต้องกัดฟันแน่น และเขาก็มั่นใจขึ้นอีกว่าไอ้เส้นแดงๆนั้นมันเป็นอันตรายสุดๆ
ชายคนนั้นยังคงเหวี่ยงใส่ซีนอนต่ออย่างไรความปราณี ฟาดผ่านร่างกายเขาไปเรื่อยๆ โดนที่ขาจนซีนอนล้มลงคุกเข่า ก่อนจะผ่านแก้มเขาไป จนเลือดสาดออกมาเลอะหน้าเขา และยังตรงกลางอก จนเสื้อนักเรียนที่เคยเป็นสีขาว ถูกย้อมกลายเป็นสีแดงของเลือด ซีนอนไม่เคยเลือดไหลออกมามากเช่นนี้มาก่อน แต่สติของเขาก็ยังอยู่ ชายคนนั้นเลิกแกว่งเส้นสีแดงขณะยืนอยู่ตรงหน้าซีนอนไม่กี่ก้าว ซีนอนค่อยๆพยุงตัวโชคเลือดของเขาลุกขึ้นยืนตรงหน้าชายคนนั้น ความเจ็บสุดจะหาคำบรรยายพุ่งขึ้นกัดร่างกายของซีนอน แต่เขาก็ยังฝืนทน ก่อนจะง้างหมัดและเหวี่ยงเข้าที่หน้าของชายตรงหน้า
ปึก!
หมัดกระแทกเข้าเต็มแรง แต่ทว่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย แรงของการเหวี่ยงไม่ทำให้หน้าของชายในฮู้ลขยับเลยแม้แต่น้อย ก่อนที่ชายคนนั้นจะบีบคอซีนอนแล้วยกขึ้น
“อึก อ๊าก! ปล่อยฉันนะ!” ซีนอนร้องลั่น ความเจ็บปวดยังฝังอยู่ในร่างกายเขา ในขณะที่เขาไม่สามารถหายใจได้ ชายคนนั้นโยนร่างซีนอนไปที่ขอบตึก ซีนอนตกกระแทกพื้น และแรงเหวี่ยงก็ทำให้เขาไหลออกไปจนโผล่ออกไปนอกตึกครึ่งตัว คนที่เดินไปเดินมาข้างล่างเริ่มเห็นถึงสิ่งผิดปกติ และเริ่มร้องด้วยความหวาดผวา
แต่ซีนอนยังไม่ตกลงไป ชายคนนั้นเดินมาเหยียบหน้าอกซีนอนไว้ แต่ถ้าเขาขยับอีกนิดเดียวละก็ ซีนอนคงตายจริงๆ ซีนอนในตอนนี้เกิดความกลัวขึ้นเต็มที เขากำลังจะตายจริงๆ คนตรงหน้าจะฆ่าเขาจริงๆ ไหนจะผู้หญิงที่สัญญาว่าจะกลับมาหาเขาละ เขาจะรอเธอได้ยังไงละงานนี้!
“อ๊าก!” ซีนอนร้องออกมาอีก เมื่อคนที่จะฆ่าเขา เอาเท้าเขี่ยเปิดแผลให้กว้างขึ้นอีก เลือกทะลักออกมาจากแผลมาขึ้นตามไปด้วย และชายคนนั้นก็พูดออกมาว่า
“อ่า ฆ่าเจ้านี้มันง่ายกว่าที่คิดไว้เยอะ เมื่อตอนนี้เจ้าตัวคนเดียว” ชายคนนั้นพูด และกระแทกเท้าลงบนอกซีนอน จนซีนอนต้องกัดฟันแน่นเพราะความเจ็บ
“ฉันไปทำอะไรให้แก่ว่ะ!” ซีนอนตะโกนกลับอย่างโมโห เขายังไม่รู้เลยว่าคนตรงหน้าจะฆ่าเขาทำไม
“ทำอะไรงั้นเหรอ หึหึ” เขาเข้นเสียงหัวเราะ และเอ่ยต่อ “เพราะเจ้านั้นแหละ ที่เริ่มและทำให้ข้าต้องเป็นแพะรับบาป และยังพรากทุกๆสิ่งไปจากข้า”
“โอ้ว เหมือนในหนังเลย ยังงี้ตลอดอะ!” ซีนอนตะโกนกลับไป ไม่รู้ทำไมแต่สัญชาตญาณของเขาบอกให้พูด “ตอนไหนว่ะ ไอ้เวร นายจำคนผิดชัวร์! ” ซีนอนตะโกนต่อ จะว่ากลัวก็กลัว แต่ตอนนี้จะให้ร้องขอชีวิตมันก็ดูจะไม่ใช่แนวเขาเท่าไหร่
“ไม่มีประโยชน์หรอกที่จะรู้เพราะอีกเดียวเจ้าก็จะตายแล้ว” เขาพูด ก่อนจะยกซีนอนขึ้น เขากำชายเสื้อซีนอนเอาไว้ และปล่อยให้ร่างซีนอนเอนไปข้างหลังตามแรงโน้มถ่วง
“แกเอาจริงเหรอเนี่ย ปล่อนนะโว้ย!” ซีนอนพยายามขัดขืน แต่ก็เหมือนจะไร้ประโยชน์ เขากำลังจะตกตึกตายเหรอเนี่ย แล้วสิ่งที่เขาทำมาทั้งหมดละ ครอบครัวของเขาละ ผู้หญิงคนนั้นละ คนที่เขารอที่จะเจออีกครั้ง ทุกๆอย่างที่เขาทำ ที่เขารอ จะจบลงแค่นี้งั้นเหรอ ซีนอนคิด และเขาก็กลั่นน้ำตาแห่งความกลัวไว้ไม่อยู่ มันไหลออกมาพร้อมสายตาที่แสดงถึงความอ่อนแอของเขา ซีนอนไม่อยากตาย เขากลัวตาย กลัวว่าเขาจะหายไปเลย ถึงจะเคยคิดอย่างงั้น แต่ตอนนี้เขาไม่อยากตาย
และน้ำตาที่ไหลออกมาของเขานั้น มันยิ่งทำให้คนตรงหน้าสะใจมากขึ้น
และเขา ก็ปล่อยมือออก ปล่อยให้ร่างซีนอนตกลงสู่พื้นเบื้องล่าง...
แวป! เปรี๊ยง!
ชายคนนั้นโดนพลังบางอย่างกระแทกกระเด็นกลับไป ขณะที่ซีนอนก็โดนรังไว้โดยบางอย่าง บางอย่างที่โอบไหล่เขาไว้ ก่อนจะดันกลับมา ให้เดินมาที่จุดปลอดภัย บางอย่างที่ใส่เสื้อหนังรั้ดรูปสีดำ พร้อมผ้าปิดหน้าที่เห็นแค่ดวงตา และปลายของผ้าทั้งสองด้านถูกปล่อยให้ปลิวสวัยไปกับสายลม และเจ้าของร่างก็...ปล่อยแสงสีฟ้าออกไปตัดแขนคนที่จะฆ่าซีนอนตรงหน้า และตัดหัวด้วยในเวลาเดียวกัน
ก่อนที่ผู้มาใหม่จะมองสบตาซีนอน และเอ่ยออกมาว่า
“ซีนอน?” ผู้มาใหม่หันมาสบตาซีนอนเละเอ่ยถาม น้ำเสียงบอกว่าเป็นผู้หญิง เพราะเสื้อมันก็ดูนูนๆเหมือนกัน เสียงของเธอเรียกสติซีนอนให้กลับมา เขาพยักหน้ารับ ซึ่งเธอก็เดินมากอดเขาทันที เล่นซะซีนอนทำอะไรไม่ถูกเลย แต่ที่เขาแปลกใจคือ เธอก็รู้ชื่อของเขา และเธอโผล่มากจากไหน แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาสำหรับคำถาม
“ข้ามาทันสินะ” น้ำเสียงของเธอดูโล่งอก ก่อนที่เธอจะถอยออกจากร่างกายเขา และสำรวจดูรอยแผล และเธอก็ทาบมือลงที่อกซีนอน ก่อนแสงสีเขียวจะทำให้บาดแผลซีนอนหายไปทั้งหมด
“น่ะ...นี้มัน อะไรกันครับ คุณเป็นใคร” ซีนอนถามกลับอย่างไม่อยากเชื่อ ทำไมคนตรงหน้านอกจากเป็นผู้หญิงแล้วยังตัวสูงกว่าเขาอีก แถมอะไรบางอย่างทำให้แผลของเขาหายได้ในพริบตาเหมือนในการ์ตูนเลยละ
“หึ ตกใจสินะ เดียวเจ้า...” เธอพูดด้วยเสียงเหมือนโล่งอกได้ไม่ทันจบ เธอก็หันขวับกลับไปเผชิญหน้ากับคนฮู้ลดำที่จะฆ่าซีนอน ควันสีดำที่ลอยออกมาจากส่วนที่ขาดของร่างกายกำลังค่อยๆ สร้างรูปร่างขึ้นมาใหม่ ไม่นานก็กลับมาเป็นฮู้ลสีดำเหมือนเดิม
“ฟังข้านะ ซีนอน ข้ารู้ว่าเจ้ามีอะไรอยากถามมากมาย แต่ตอนนี้เจ้าต้องหนีก่อน” หญิงสาวเอ่ยบอก ก่อนจะยิงลำแสงทำลายประตูให้ซีนอน “หนีไปให้ไกลจากที่นี้! ไป!” เธอเอ่ยไล่ ก่อนจะเริ่มสู้กับชายชุดดำตรงหน้า พลังของเธอมันพุ่งออกมาป้องกันไม่ให้พลังสีแดงดำนั้นพุ่งมาชนซีนอน ซีนอนได้สติจึงเริ่มออกวิ่งหนี ไปที่ทางลง แต่พลังสีดำนั้นก็พุ่งผ่านหน้าซีนอนไป จนเขาต้องก้มหลบ และเหลือมองผู้หญิงที่ช่วยเขาไว้เข้าไปสู้กันคนที่จะฆ่าเขา ทั้งสองตรงเข้าหากัน และชายชุดดำเหวี่ยงหมัดใส่ผู้หญิง ขณะที่เธอถอยและปัดป้องด้วยแสงสีฟ้าที่เหมือนบาร์เรียร์ในหนังได้ ก่อนจะโจมตีด้วยแรงกระแทกให้เขากระเด็นกลับออกไป และตามด้วยลูกบอลลำแสงใส่เข้าไปไม่ยั้ง แต่เมื่อซีนอนกำลังจะวิ่งลงไปข้างลง เขาก็เจอกับตัวอะไรไม่รู้ และซีนอนก็ไม่โง่พอที่จะคิดว่ามันคืออะไรอื่น นอกจากปีศาจ รูปร่างมันเป็นมนุษย์ตัวสูงกว่า ร่างของมันคล้ายคน แต่ก็ไม่ใช่ซะทีเดียว มีควันลอยออกมาจากทั่วร่างกาย มันข่วนซีนอนเล่าเอาเขาต้องวิ่งกลับขึ้นมาข้างบนอีกครั้ง และสบตากับเธอทั้งๆที่เธอยังสู้กับคนตรงหน้าอยู่
“หมอบลง” เธอตะโกนสั่ง ซึ่งซีนอนก็ทำทันที เธอยิงพลังผ่านมือ ใส่เจ้าตัวที่ตามซีนอนมา และโดนมันเต็มๆจนมันกระเด็นออกไป พร้อมกันนั้นลำแสงของเธอก็เจาะกำแพงเป็นรูเช่นกัน
พอซีนอนวิ่งกลับขึ้นมาข้างบนอีกรอบ เจ้าคนเสื้อดำก็เห็นมันจึงซัดพลังใส้ผู้หญิงคนนั้นจนเธอเสียหลัก และโจมตีใส่ซีนอน แต่ดีที่เธอสร้างเกราะขึ้นกันไว้ทัน ทำให้ซีนอนโดนแค่แรงระเบิดจนลอยกระเด็นออกมา แต่ไอ้คนเสื้อดำนั้นก็ไม่ปล่อยซีนอน มันกระชากร่างเขาขึ้นไปในอากาศด้วยพลังบางอย่าง ดีที่ผู้หญิงคนนั้นเห็นทัน เธอจึงพุ่งตัวขึ้นมารับซีนอนไว้ได้ แต่ก็พลาดท่าตอนลงพื้น เธอโดนโจมตีเข้าทีขาข้างหนึ่ง ทำให้เธอเซไปข้างหลัง และเปิดช่องโห่ว ให้ชายชุดดำโจมตีซีนอนได้
“ลาก่อน” เขาพูด และยิงลำแสงหวังเจาะผ่านหัวซีนอน ซึ่งเขาไม่มีทางหลบทัน แต่เธอเร็วกว่า เธอสร้างเกราะ
บาร์เรียร์ขึ้นกันไว้ได้ทัน แต่แรงระเบิด ทำให้ซีนอนกระเด็นตกตึกไป
“ไม่!” เธอตะโกนลั่น แต่ก็คว้าซีนอนไว้ไม่ทันแล้ว
เขาร้องลั่นด้วยความกลัว ขณะตกลงไป แต่ก็รู้สึกตัวว่าเหมือนโดนไฟฟ้าช็อดเข้าอย่างแรง ก่อนที่เขาจะเห็นว่าเบื้องล่างปรากฏรูวงกลมขนาดใหญ่ และซีนอนก็ตกลงไปในนั้น และทุกอย่างก็ดับไป
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ