Mention Of Love (รัก)
-
เขียนโดย Nanpm
วันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 เวลา 20.52 น.
12 ตอน
0 วิจารณ์
10.28K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 21.03 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) ตัวแทน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ สัปดาห์แห่งการซ้อมละครก็มาถึง
“นายเต้ จับสิ แค่จับมือยังอายแล้วจะทำอะไรกินวะ” เสียงพี่จอม รุ่นพี่คณะนิเทศอีกคนมีหน้าที่กำกับการแสดงส่งเสียงตะโกนว่าเต้จากข้างล่างเวทีด้วยความหงุดหงิด
“วันนี้ซ้อมครั้งแรก เด็กมันยังไม่เคยจะเอาอะไรกันนักหนา ใจเย็น ๆ” พี่นก รุ่นพี่ที่เป็นผู้ช่วยกำกับและดูแลเสื้อผ้าบอกให้เพื่อนของเธอใจเย็นลง
“ขอโทษครับพี่ ผมขอลองใหม่อีกครั้งนะครับ” เต้กล่าวขอโทษด้วยความรู้สึกเสียใจที่เขาเล่นไม่ดีทำให้ทุกคนเสียเวลา
“พอ ๆ พรุ่งนี้ค่อยซ้อมต่อ วันนี้แยกย้ายได้ แต่เต้กับว่านไปเปลี่ยนชุดที่พี่นกเตรียมไว้ด้วย เดี๋ยวอิงจะมาวาดรูปเราสองคน” พี่จอมออกคำสั่งให้ทุก คนแยกย้าย ส่วนเต้กับว่านก็รีบวิ่งไปเปลี่ยนเสื้อผ้าตามที่รุ่นพี่บอก
เมื่ออิงมาถึงเต้กับว่านก็แต่งตัวเสร็จพอดี อิงมองว่านอย่างไม่ละสายตาทำให้หญิงสาวยิ้มออกมาด้วยความเขินอาย
“จะเริ่มหรือยังล่ะ เหนื่อยจะรีบกลับบ้าน” เต้พูดขึ้นเพื่อให้คนทั้งคู่เลิกมองตากันได้แล้ว
“เดี๋ยวว่านกับเต้ยืนตรงนั้นนะ วันนี้เราขอสเกตช์ภาพคร่าว ๆ ไว้ก่อน รับรองไม่นาน ไว้พรุ่งนี้เราจะรีบมาจะได้ไม่ต้องกลับบ้านดึกกัน” อิงชี้มือให้เต้กับว่านไปยืนในจุดที่เขาบอก
“เสร็จหรือยัง” เต้ตะโกนถามอิงที่กำลังตั้งใจวาดภาพอยู่
อิงเงยหน้าแล้วยิ้ม ชายหนุ่มกำลังเพลินกับการวาดภาพต้องหยุดแล้วบอกให้ทั้งคู่ไปเปลี่ยนชุดได้ เมื่อเต้กับว่านเดินเปลี่ยนเสื้อผ้าชายหนุ่มก็เก็บอุปกรณ์วาดภาพเพื่อจะกลับบ้านเช่นกัน
ว่านกับเต้เดินออกมาพร้อมกันหลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวรีบเดินเข้าไปหาชายหนุ่มที่ยังคงเก็บของไม่เสร็จ
“อิง เราช่วยไหม” หญิงสาวถามขึ้นเพราะเป็นห่วง
“ไม่เป็นไร เก็บจะหมดแล้ว ว่านกลับก่อนเถอะ ดูด้วยว่าจะเหนื่อยแล้ว” ชายหนุ่มตอบแล้วยิ้มให้หญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“กลับเถอะว่าน ดึกแล้วเดี๋ยวแม่กับพี่หว้าเป็นห่วง” เต้พูดขัดจังหวะขึ้นมาแล้วดึงแขนของหญิงสาวให้เดินตามเขาออกจากห้องซ้อมละคร
หญิงสาวยังหันมองชายหนุ่มที่ยืนยิ้มแล้วโบกมือให้เธอเพื่อเป็นการลา ว่านก็ยกมือขึ้นทำแบบเดียวเช่นกันกับเขา
“จะต้องกลับบ้านมืดค่ำขนาดนี้จะไหวเหรอ น้องสาวคนสวย” พี่หว้าถามขึ้นเมื่อน้องสาวของเธอล้มตัวลงนอนด้วยความอ่อนเพลีย
“ไหวค่ะ สบายอยู่แล้ว แต่นายเต้สิคะ บ่นอุบเลย ยังไม่ทันแก่เลย ปวดเมื่อยอะไรนักก็ไม่รู้” ว่านพูดถึงเต้ให้พี่สาวของเธอฟัง
ลูกหว้าหัวเราะเมื่อได้ยินน้องสาวพูดถึงเพื่อนสนิทของเธอเช่นนั้น
“นอนดีกว่านะ พรุ่งนี้มีซ้อมละครอีกไมใช่เหรอ เก็บแรงไว้นะน้องสาว”
ลูกหว้าเอื้อมมือไปปิดไฟที่หัวเตียง แล้วทั้งสองสาวก็หลับไป
เสียงเคาะประตูดังขึ้น ชายหนุ่มที่กำลังวาดภาพอยู่ชะโงกหน้าดูว่าใครเปิดประตูเข้ามา
“ดึกแล้วนะลูก ทำไมยังไม่นอนอีก” แม่ของชายหนุ่มถามด้วยความเป็นห่วง
“เดี๋ยววาดอีกนิดเดียวก็จะนอนแล้วครับ แล้วทำไมแม่ยังไม่นอนอีกครับ” ชายหนุ่มตอบแล้วถามแม่ของเขากลับ
“วันนี้อิงได้เจอลินหรือเปล่า” แม่ของชายหนุ่มถามขึ้นมา
“ไม่เจอเลยครับ พอดีช่วงนี้ผมมีงานกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยเลยต้องกลับดึก คิดว่าทั้งสัปดาห์นี้อาจจะไม่ได้เจอ” ชายหนุ่มตอบขณะที่มือของเขายังคงวาดภาพ
“อิงโทรไปถามอาการลินบ้างนะ ยังไงเราก็เป็นคนรักใคร่ชอบพอกันมานาน”
ชายหนุ่มยิ้มเป็นการรับคำ
“รีบนอนล่ะ ดึกแล้วเดี๋ยวไม่สบาย แม่ไปนอนก่อนนะ”
“ครับแม่ ฝันดีครับ”
หลังจากที่แม่ของอิงเดินออกไป ชายหนุ่มถอนหายใจแล้ววางดินสอในมือลง แล้วก็เดินไปล้างมือเพื่อกลับมาเข้านอน
การซ้อมละครดำเนินมาเกือบครบอาทิตย์แต่เต้ก็ยังเล่นไม่ถูกใจพี่จอมจอมโหดเสียที
“จอม แกก็โหดไป น้องเขาก็เล่นดีขึ้นเยอะแล้วจะอะไรนักวะ” พี่ไผ่ช่วยพูดให้เพื่อนของเขาเลิกโวยวาย
“นางเอกก็พอกัน ถึงฉากซึ้งต้องมองตาแบบคนรักกันน่ะ ทำเป็นไหม ปวดหัวจริง ๆ ฉากนี้ทีไรพอกันทั้งคู่” พี่จอมหันมาโวยวายใส่ว่านด้วยเช่นกัน
“ถ้าอย่างงั้นวันนี้พอก่อน เดี๋ยวจะกลับกันดึก เต้กับว่านเหมือนเดิมนะน้อง อิงมานั่งรอแล้ว” พี่นกรีบตัดบทให้ทุกคนแยกย้าย เพราะเห็นว่าเวลาเย็นมากแล้ว อีกอย่างเป็นห่วงว่านกับเต้ที่ต้องอยู่ดึกทุกวัน
“เมื่อไหร่จะวาดเสร็จเสียที” เต้เดินออกมาจากห้องแต่งตัวก่อนว่าน เขาไปยืนตรงหน้าอิงแล้วถามขึ้นมา
“ใกล้แล้วล่ะพรุ่งนี้ก็ไม่ต้องมาแล้ว วันนี้แค่เก็บรายละเอียดนิดหน่อย นอกนั้นก็เหลือแค่ลงสีก็น่าเรียบร้อย” อิงตอบเต้และมองอย่างเป็นมิตร
“ดี จะได้ไม่ต้องเห็นหน้าอีก” เต้ตอบอิงกลับอย่างไม่เป็นมิตรเท่าไหร่
“มาแล้วจ้า เริ่มกันเลยเถอะ” ว่านรีบวิ่งออกมาจากห้องแต่งตัวแล้วมายืนหยุดยิ้มให้กับชายหนุ่มทั้งสองคนที่นั่งรอเธออยู่
อิงเก็บรายละเอียดที่เขาต้องการเรียบร้อยแล้วก็บอกให้ทั้งคู่ไปเปลี่ยนชุด หญิงสาวรีบวิ่งไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วรีบออกมาเพื่อจะได้มีเวลาคุยอิงก่อนที่เต้จะมาขัดจังหวะเธออีก
“อิงวาดใกล้เสร็จแล้วเหรอ” หญิงสาวถามแล้วมองที่กระดานที่ชายหนุ่มวาดภาพไว้
“ใกล้แล้วครับ เออ เห็นพี่ไผ่บอกว่าพรุ่งนี้จะซ้อมที่นี่ครั้งสุดท้ายก่อนจะขึ้นซ้อมใหญ่บนเวทีเหรอ”
“ใช่ พรุ่งนี้อิงมานะ” หญิงสาวชวนให้เขามาดูเธอซ้อมละครในวันพรุ่งนี้ด้วย เพราะพี่ไผ่บอกว่าพรุ่งนี้เธอกับเต้ไม่ต้องอยู่เย็นยืนเป็นแบบให้อิงแล้ว ว่านก็เลยกลัวว่าจะไม่ได้เจอหน้าชายหนุ่มอีก
“ได้สิ เดี๋ยวเราแวะมา” ชายหนุ่มรับคำอย่างหนักแน่นแล้วยิ้มให้กับหญิงสาวพร้อมส่งสายตาหวานเยิ้ม
“กลับกันเถอะว่าน เรารู้สึกปวดท้องยังไงไม่รู้” เต้เดินเอามือกุมท้องของเขาแล้วดึงแขนว่านให้รีบกลับ
หญิงสาวจำใจต้องแยกจากอิงแต่เห็นเต้อาการเหมือนปวดท้องจริง ๆ เลยบอกลาอิงแล้วเดินตามเต้กลับบ้าน
เย็นมากแล้วแต่ทุกคนยังไม่ได้เริ่มซ้อมละครกันเลย เพราะกำลังรอใครบางคนอยู่
“สวัสดีครับทุกคน” เสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งพูดขึ้นมา ทำให้ทุกคนหันไปมองพร้อมกันเพราะคิดว่าเป็นนายเต้แต่ก็ต้องผิดหวัง
ชายหนุ่มที่พึ่งเข้ามาในห้องซ้อมละครเดินเข้าไปหาพัทซึ่งนั่งทำหน้าเซ็งอยู่
“มีเรื่องอะไรกันเหรอ” ชายหนุ่มถามขึ้นเมื่อเห็นทุกคนทำท่าผิดหวังที่เห็นหน้าเขา
“คอยนายเต้อยู่น่ะสิ รอตั้งนานแล้วก็ยังไม่ได้ เห็นว่านบอกว่าเมื่อวานท้องเสีย เมื่อเช้าก็ไม่ได้มาเรียนแต่ยืนยันว่าจะมาตามเวลาที่นัดซ้อมไว้แน่นอน นี่ยังไม่เห็นแม้แต่เงา เฮ้อ!” พัทถอนหายใจแล้วทำหน้าเซ็งขึ้นมาอีก
“ยังไงว่านติดต่อได้ไหม” พี่จอมถามว่านที่พึ่งไปโทรตามเต้
“เต้มาไม่ได้แล้วค่ะ แม่เต้บอกว่าเมื่อช่วงสาย ๆ เต้ถ่ายท้องหนักมากตอนนี้นอนให้น้ำเกลืออยู่ที่โรงพยาบาล” ว่านทำเสียงเศร้า
“เอาไงกันดี เลิกซ้อมไหม ทุกคนว่าไง” พี่จอมถามความเห็นทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องซ้อมละคร
“พี่จอมพัทมีไอเดียค่ะ เราขาดแค่พระเอกคนเดียวเอง ก็หาตัวแทนสิคะ” พัทเสนอความคิดใหม่
“ก็ดีนะ ไหน ๆ ก็อยู่กันพร้อมอยู่ ซ้อมสักรอบจะเป็นไรไป” พี่นกเห็นด้วยกับความคิดของพัท
“แล้วจะให้ใครเล่นแทนเต้ พี่เหรอ บ้าน่าพี่หล่อก็จริง แต่งานนี้ไม่ถนัด” พี่ไผ่พูดขึ้นมา พัทส่ายหน้าเมื่อได้ยินหนุ่มรุ่นพี่พูดยอตัวเอง
“พัทขอเสนออิงค่ะ เขามาดูเราซ้อมบ่อย ๆ น่าจะพอรู้เรื่องแล้วจำบทได้บ้าง” พัทยกมือขึ้นเพื่อเสนอชื่อเพื่อนของเธอ
อิงทำท่าจะปฏิเสธแต่พี่จอมและทุกคนเห็นด้วย เมื่อทุกสายตาในห้องนั้นมองมาที่ชายหนุ่มคนเดียวเหมือนเป็นการขอร้องและอ้อนวอนทำให้ชายหนุ่มไม่อาจปฏิเสธได้
“เล่นใช้ได้นะเนี่ย สนใจเป็นตัวจริงไหม ไว้เรื่องหน้าพี่ต้องให้เรามาเป็นพระเอกให้พี่แล้วล่ะ” พี่จอมพูดชมอิงที่เขาสามารถช่วยซ้อมบทได้เป็นอย่างดี
“ขอไม่เอาเรื่องแก้วหน้าม้านะครับ” อิงพูดขึ้นแล้วขำ
“อิง นายชักจะปากร้ายตามผู้ชายแถวนี้แล้วนะ” พัทหันมาแล้วทำท่างอนเมื่ออิงพูดเหมือนแซวเธอขึ้นมา
“พูดเล่นน่า พัทออกจะสวยหุ่นดีขนาดนี้ ที่เขาล้อเพราะเขารักพัททั้งนั้น” อิงรีบง้อหญิงสาว
“ไม่เถียงเรื่องเราสวย” พัทยิ้มแล้วหันไปมองว่าน
“ว่านจะกลับแล้วเหรอ กลับยังไง นี่ก็มืดแล้วนะ กลับกับเราไหมเดี๋ยวแม่เรามารับ” พัทถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง เพราะตอนนี้ก็เริ่มมืดแล้วกลัวว่านกลับคนเดียวจะเป็นอันตราย แต่ปกติจะมีเต้ที่คอยไปส่งว่านที่บ้านพัทเลยไม่ค่อยห่วงเท่าไหร่
“เดี๋ยวเราไปส่งว่านก็ได้ วันนี้เราเอารถมา” อิงรีบเสนอตัวขึ้นมาอีกคน
“ดีเลย ให้อิงไปส่งดีกว่า บ้านเราน่าจะคนละทางกับบ้านว่าน แต่บ้านอิงน่าจะผ่านทางนั้น จริงไหม”
พัทรีบหาเหตุผลสนับสนุนแล้วหันไปส่งสายตากับเพื่อนของเธอเป็นสัญญาณกับเขา ซึ่งอิงก็รีบพยักหน้ารับ
ตอนทางที่นั่งมาในรถด้วยกันอิงและว่านแทบจะไม่ได้คุยอะไรกันเลย เพราะหญิงสาวมัวแต่เขินชายหนุ่มที่ขับรถมาส่งเธอ
“ขอบคุณนะที่อุตส่าห์มาส่ง” หญิงสาวกล่าวขอบคุณเมื่ออิงขับรถมาถึงหน้าบ้านของเธอ
“ยินดีครับ อย่าลืมฝันถึงผมบ้างล่ะ แล้วเจอกันวันจันทร์นะ”
อิงกล่าวทิ้งท้ายก่อนที่ขับรถออกไป ทิ้งให้หญิงสาวยืนฝันอยู่ขนาดยังไม่ได้หลับ
“ยืนหลับหรือจ๊ะสาวน้อย เข้าบ้านได้แล้ว แม่คอยทานข้าวอยู่”
เสียงพี่หว้าเรียกน้องสาวให้รีบเดินเข้าบ้านมา เธอเห็นน้องสาวยืนยิ้มเหม่อลอยอยู่คนเดียวที่หน้าบ้าน ก็รู้ว่าน้องสาวของเธอกำลังตกอยู่ในอาการตกหลุมรักเข้าให้แล้ว
แล้วคืนนี้ว่านจะฝันถึงชายหนุ่มที่มาส่งเธอที่บ้านอย่างที่เขาบอกเธอไว้หรือเปล่านะ
“นายเต้ จับสิ แค่จับมือยังอายแล้วจะทำอะไรกินวะ” เสียงพี่จอม รุ่นพี่คณะนิเทศอีกคนมีหน้าที่กำกับการแสดงส่งเสียงตะโกนว่าเต้จากข้างล่างเวทีด้วยความหงุดหงิด
“วันนี้ซ้อมครั้งแรก เด็กมันยังไม่เคยจะเอาอะไรกันนักหนา ใจเย็น ๆ” พี่นก รุ่นพี่ที่เป็นผู้ช่วยกำกับและดูแลเสื้อผ้าบอกให้เพื่อนของเธอใจเย็นลง
“ขอโทษครับพี่ ผมขอลองใหม่อีกครั้งนะครับ” เต้กล่าวขอโทษด้วยความรู้สึกเสียใจที่เขาเล่นไม่ดีทำให้ทุกคนเสียเวลา
“พอ ๆ พรุ่งนี้ค่อยซ้อมต่อ วันนี้แยกย้ายได้ แต่เต้กับว่านไปเปลี่ยนชุดที่พี่นกเตรียมไว้ด้วย เดี๋ยวอิงจะมาวาดรูปเราสองคน” พี่จอมออกคำสั่งให้ทุก คนแยกย้าย ส่วนเต้กับว่านก็รีบวิ่งไปเปลี่ยนเสื้อผ้าตามที่รุ่นพี่บอก
เมื่ออิงมาถึงเต้กับว่านก็แต่งตัวเสร็จพอดี อิงมองว่านอย่างไม่ละสายตาทำให้หญิงสาวยิ้มออกมาด้วยความเขินอาย
“จะเริ่มหรือยังล่ะ เหนื่อยจะรีบกลับบ้าน” เต้พูดขึ้นเพื่อให้คนทั้งคู่เลิกมองตากันได้แล้ว
“เดี๋ยวว่านกับเต้ยืนตรงนั้นนะ วันนี้เราขอสเกตช์ภาพคร่าว ๆ ไว้ก่อน รับรองไม่นาน ไว้พรุ่งนี้เราจะรีบมาจะได้ไม่ต้องกลับบ้านดึกกัน” อิงชี้มือให้เต้กับว่านไปยืนในจุดที่เขาบอก
“เสร็จหรือยัง” เต้ตะโกนถามอิงที่กำลังตั้งใจวาดภาพอยู่
อิงเงยหน้าแล้วยิ้ม ชายหนุ่มกำลังเพลินกับการวาดภาพต้องหยุดแล้วบอกให้ทั้งคู่ไปเปลี่ยนชุดได้ เมื่อเต้กับว่านเดินเปลี่ยนเสื้อผ้าชายหนุ่มก็เก็บอุปกรณ์วาดภาพเพื่อจะกลับบ้านเช่นกัน
ว่านกับเต้เดินออกมาพร้อมกันหลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวรีบเดินเข้าไปหาชายหนุ่มที่ยังคงเก็บของไม่เสร็จ
“อิง เราช่วยไหม” หญิงสาวถามขึ้นเพราะเป็นห่วง
“ไม่เป็นไร เก็บจะหมดแล้ว ว่านกลับก่อนเถอะ ดูด้วยว่าจะเหนื่อยแล้ว” ชายหนุ่มตอบแล้วยิ้มให้หญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“กลับเถอะว่าน ดึกแล้วเดี๋ยวแม่กับพี่หว้าเป็นห่วง” เต้พูดขัดจังหวะขึ้นมาแล้วดึงแขนของหญิงสาวให้เดินตามเขาออกจากห้องซ้อมละคร
หญิงสาวยังหันมองชายหนุ่มที่ยืนยิ้มแล้วโบกมือให้เธอเพื่อเป็นการลา ว่านก็ยกมือขึ้นทำแบบเดียวเช่นกันกับเขา
“จะต้องกลับบ้านมืดค่ำขนาดนี้จะไหวเหรอ น้องสาวคนสวย” พี่หว้าถามขึ้นเมื่อน้องสาวของเธอล้มตัวลงนอนด้วยความอ่อนเพลีย
“ไหวค่ะ สบายอยู่แล้ว แต่นายเต้สิคะ บ่นอุบเลย ยังไม่ทันแก่เลย ปวดเมื่อยอะไรนักก็ไม่รู้” ว่านพูดถึงเต้ให้พี่สาวของเธอฟัง
ลูกหว้าหัวเราะเมื่อได้ยินน้องสาวพูดถึงเพื่อนสนิทของเธอเช่นนั้น
“นอนดีกว่านะ พรุ่งนี้มีซ้อมละครอีกไมใช่เหรอ เก็บแรงไว้นะน้องสาว”
ลูกหว้าเอื้อมมือไปปิดไฟที่หัวเตียง แล้วทั้งสองสาวก็หลับไป
เสียงเคาะประตูดังขึ้น ชายหนุ่มที่กำลังวาดภาพอยู่ชะโงกหน้าดูว่าใครเปิดประตูเข้ามา
“ดึกแล้วนะลูก ทำไมยังไม่นอนอีก” แม่ของชายหนุ่มถามด้วยความเป็นห่วง
“เดี๋ยววาดอีกนิดเดียวก็จะนอนแล้วครับ แล้วทำไมแม่ยังไม่นอนอีกครับ” ชายหนุ่มตอบแล้วถามแม่ของเขากลับ
“วันนี้อิงได้เจอลินหรือเปล่า” แม่ของชายหนุ่มถามขึ้นมา
“ไม่เจอเลยครับ พอดีช่วงนี้ผมมีงานกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยเลยต้องกลับดึก คิดว่าทั้งสัปดาห์นี้อาจจะไม่ได้เจอ” ชายหนุ่มตอบขณะที่มือของเขายังคงวาดภาพ
“อิงโทรไปถามอาการลินบ้างนะ ยังไงเราก็เป็นคนรักใคร่ชอบพอกันมานาน”
ชายหนุ่มยิ้มเป็นการรับคำ
“รีบนอนล่ะ ดึกแล้วเดี๋ยวไม่สบาย แม่ไปนอนก่อนนะ”
“ครับแม่ ฝันดีครับ”
หลังจากที่แม่ของอิงเดินออกไป ชายหนุ่มถอนหายใจแล้ววางดินสอในมือลง แล้วก็เดินไปล้างมือเพื่อกลับมาเข้านอน
การซ้อมละครดำเนินมาเกือบครบอาทิตย์แต่เต้ก็ยังเล่นไม่ถูกใจพี่จอมจอมโหดเสียที
“จอม แกก็โหดไป น้องเขาก็เล่นดีขึ้นเยอะแล้วจะอะไรนักวะ” พี่ไผ่ช่วยพูดให้เพื่อนของเขาเลิกโวยวาย
“นางเอกก็พอกัน ถึงฉากซึ้งต้องมองตาแบบคนรักกันน่ะ ทำเป็นไหม ปวดหัวจริง ๆ ฉากนี้ทีไรพอกันทั้งคู่” พี่จอมหันมาโวยวายใส่ว่านด้วยเช่นกัน
“ถ้าอย่างงั้นวันนี้พอก่อน เดี๋ยวจะกลับกันดึก เต้กับว่านเหมือนเดิมนะน้อง อิงมานั่งรอแล้ว” พี่นกรีบตัดบทให้ทุกคนแยกย้าย เพราะเห็นว่าเวลาเย็นมากแล้ว อีกอย่างเป็นห่วงว่านกับเต้ที่ต้องอยู่ดึกทุกวัน
“เมื่อไหร่จะวาดเสร็จเสียที” เต้เดินออกมาจากห้องแต่งตัวก่อนว่าน เขาไปยืนตรงหน้าอิงแล้วถามขึ้นมา
“ใกล้แล้วล่ะพรุ่งนี้ก็ไม่ต้องมาแล้ว วันนี้แค่เก็บรายละเอียดนิดหน่อย นอกนั้นก็เหลือแค่ลงสีก็น่าเรียบร้อย” อิงตอบเต้และมองอย่างเป็นมิตร
“ดี จะได้ไม่ต้องเห็นหน้าอีก” เต้ตอบอิงกลับอย่างไม่เป็นมิตรเท่าไหร่
“มาแล้วจ้า เริ่มกันเลยเถอะ” ว่านรีบวิ่งออกมาจากห้องแต่งตัวแล้วมายืนหยุดยิ้มให้กับชายหนุ่มทั้งสองคนที่นั่งรอเธออยู่
อิงเก็บรายละเอียดที่เขาต้องการเรียบร้อยแล้วก็บอกให้ทั้งคู่ไปเปลี่ยนชุด หญิงสาวรีบวิ่งไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วรีบออกมาเพื่อจะได้มีเวลาคุยอิงก่อนที่เต้จะมาขัดจังหวะเธออีก
“อิงวาดใกล้เสร็จแล้วเหรอ” หญิงสาวถามแล้วมองที่กระดานที่ชายหนุ่มวาดภาพไว้
“ใกล้แล้วครับ เออ เห็นพี่ไผ่บอกว่าพรุ่งนี้จะซ้อมที่นี่ครั้งสุดท้ายก่อนจะขึ้นซ้อมใหญ่บนเวทีเหรอ”
“ใช่ พรุ่งนี้อิงมานะ” หญิงสาวชวนให้เขามาดูเธอซ้อมละครในวันพรุ่งนี้ด้วย เพราะพี่ไผ่บอกว่าพรุ่งนี้เธอกับเต้ไม่ต้องอยู่เย็นยืนเป็นแบบให้อิงแล้ว ว่านก็เลยกลัวว่าจะไม่ได้เจอหน้าชายหนุ่มอีก
“ได้สิ เดี๋ยวเราแวะมา” ชายหนุ่มรับคำอย่างหนักแน่นแล้วยิ้มให้กับหญิงสาวพร้อมส่งสายตาหวานเยิ้ม
“กลับกันเถอะว่าน เรารู้สึกปวดท้องยังไงไม่รู้” เต้เดินเอามือกุมท้องของเขาแล้วดึงแขนว่านให้รีบกลับ
หญิงสาวจำใจต้องแยกจากอิงแต่เห็นเต้อาการเหมือนปวดท้องจริง ๆ เลยบอกลาอิงแล้วเดินตามเต้กลับบ้าน
เย็นมากแล้วแต่ทุกคนยังไม่ได้เริ่มซ้อมละครกันเลย เพราะกำลังรอใครบางคนอยู่
“สวัสดีครับทุกคน” เสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งพูดขึ้นมา ทำให้ทุกคนหันไปมองพร้อมกันเพราะคิดว่าเป็นนายเต้แต่ก็ต้องผิดหวัง
ชายหนุ่มที่พึ่งเข้ามาในห้องซ้อมละครเดินเข้าไปหาพัทซึ่งนั่งทำหน้าเซ็งอยู่
“มีเรื่องอะไรกันเหรอ” ชายหนุ่มถามขึ้นเมื่อเห็นทุกคนทำท่าผิดหวังที่เห็นหน้าเขา
“คอยนายเต้อยู่น่ะสิ รอตั้งนานแล้วก็ยังไม่ได้ เห็นว่านบอกว่าเมื่อวานท้องเสีย เมื่อเช้าก็ไม่ได้มาเรียนแต่ยืนยันว่าจะมาตามเวลาที่นัดซ้อมไว้แน่นอน นี่ยังไม่เห็นแม้แต่เงา เฮ้อ!” พัทถอนหายใจแล้วทำหน้าเซ็งขึ้นมาอีก
“ยังไงว่านติดต่อได้ไหม” พี่จอมถามว่านที่พึ่งไปโทรตามเต้
“เต้มาไม่ได้แล้วค่ะ แม่เต้บอกว่าเมื่อช่วงสาย ๆ เต้ถ่ายท้องหนักมากตอนนี้นอนให้น้ำเกลืออยู่ที่โรงพยาบาล” ว่านทำเสียงเศร้า
“เอาไงกันดี เลิกซ้อมไหม ทุกคนว่าไง” พี่จอมถามความเห็นทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องซ้อมละคร
“พี่จอมพัทมีไอเดียค่ะ เราขาดแค่พระเอกคนเดียวเอง ก็หาตัวแทนสิคะ” พัทเสนอความคิดใหม่
“ก็ดีนะ ไหน ๆ ก็อยู่กันพร้อมอยู่ ซ้อมสักรอบจะเป็นไรไป” พี่นกเห็นด้วยกับความคิดของพัท
“แล้วจะให้ใครเล่นแทนเต้ พี่เหรอ บ้าน่าพี่หล่อก็จริง แต่งานนี้ไม่ถนัด” พี่ไผ่พูดขึ้นมา พัทส่ายหน้าเมื่อได้ยินหนุ่มรุ่นพี่พูดยอตัวเอง
“พัทขอเสนออิงค่ะ เขามาดูเราซ้อมบ่อย ๆ น่าจะพอรู้เรื่องแล้วจำบทได้บ้าง” พัทยกมือขึ้นเพื่อเสนอชื่อเพื่อนของเธอ
อิงทำท่าจะปฏิเสธแต่พี่จอมและทุกคนเห็นด้วย เมื่อทุกสายตาในห้องนั้นมองมาที่ชายหนุ่มคนเดียวเหมือนเป็นการขอร้องและอ้อนวอนทำให้ชายหนุ่มไม่อาจปฏิเสธได้
“เล่นใช้ได้นะเนี่ย สนใจเป็นตัวจริงไหม ไว้เรื่องหน้าพี่ต้องให้เรามาเป็นพระเอกให้พี่แล้วล่ะ” พี่จอมพูดชมอิงที่เขาสามารถช่วยซ้อมบทได้เป็นอย่างดี
“ขอไม่เอาเรื่องแก้วหน้าม้านะครับ” อิงพูดขึ้นแล้วขำ
“อิง นายชักจะปากร้ายตามผู้ชายแถวนี้แล้วนะ” พัทหันมาแล้วทำท่างอนเมื่ออิงพูดเหมือนแซวเธอขึ้นมา
“พูดเล่นน่า พัทออกจะสวยหุ่นดีขนาดนี้ ที่เขาล้อเพราะเขารักพัททั้งนั้น” อิงรีบง้อหญิงสาว
“ไม่เถียงเรื่องเราสวย” พัทยิ้มแล้วหันไปมองว่าน
“ว่านจะกลับแล้วเหรอ กลับยังไง นี่ก็มืดแล้วนะ กลับกับเราไหมเดี๋ยวแม่เรามารับ” พัทถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง เพราะตอนนี้ก็เริ่มมืดแล้วกลัวว่านกลับคนเดียวจะเป็นอันตราย แต่ปกติจะมีเต้ที่คอยไปส่งว่านที่บ้านพัทเลยไม่ค่อยห่วงเท่าไหร่
“เดี๋ยวเราไปส่งว่านก็ได้ วันนี้เราเอารถมา” อิงรีบเสนอตัวขึ้นมาอีกคน
“ดีเลย ให้อิงไปส่งดีกว่า บ้านเราน่าจะคนละทางกับบ้านว่าน แต่บ้านอิงน่าจะผ่านทางนั้น จริงไหม”
พัทรีบหาเหตุผลสนับสนุนแล้วหันไปส่งสายตากับเพื่อนของเธอเป็นสัญญาณกับเขา ซึ่งอิงก็รีบพยักหน้ารับ
ตอนทางที่นั่งมาในรถด้วยกันอิงและว่านแทบจะไม่ได้คุยอะไรกันเลย เพราะหญิงสาวมัวแต่เขินชายหนุ่มที่ขับรถมาส่งเธอ
“ขอบคุณนะที่อุตส่าห์มาส่ง” หญิงสาวกล่าวขอบคุณเมื่ออิงขับรถมาถึงหน้าบ้านของเธอ
“ยินดีครับ อย่าลืมฝันถึงผมบ้างล่ะ แล้วเจอกันวันจันทร์นะ”
อิงกล่าวทิ้งท้ายก่อนที่ขับรถออกไป ทิ้งให้หญิงสาวยืนฝันอยู่ขนาดยังไม่ได้หลับ
“ยืนหลับหรือจ๊ะสาวน้อย เข้าบ้านได้แล้ว แม่คอยทานข้าวอยู่”
เสียงพี่หว้าเรียกน้องสาวให้รีบเดินเข้าบ้านมา เธอเห็นน้องสาวยืนยิ้มเหม่อลอยอยู่คนเดียวที่หน้าบ้าน ก็รู้ว่าน้องสาวของเธอกำลังตกอยู่ในอาการตกหลุมรักเข้าให้แล้ว
แล้วคืนนี้ว่านจะฝันถึงชายหนุ่มที่มาส่งเธอที่บ้านอย่างที่เขาบอกเธอไว้หรือเปล่านะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ