Mention Of Love (รัก)
-
เขียนโดย Nanpm
วันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 เวลา 20.52 น.
12 ตอน
0 วิจารณ์
10.46K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 21.03 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) ฝันดี
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ “ว่าน ว่าน ว่าน”
เสียงเจื้อยแจ้วมาแต่ไกลของพัทเรียกชื่อเพื่อนสาวของเธอ
ว่านกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่คนเดียวที่โต๊ะหน้าคณะ ต้องรีบหันไปดูว่าใครเป็นคนเรียกชื่อของเธอ
“จะรีบวิ่งทำไมล่ะเนี่ย เดี๋ยวก็หกล้มเข้าสักวันหรอก”
ว่านเตือนเพื่อนด้วยความเป็นห่วง พัทยิ้มแล้วนั่งลงข้าง ๆ เธอ
“จ้าแม่ คราวหลังจะไม่ทำแล้วค่ะ อะนี่ มีคนฝากมาให้ เอามาฝากให้แต่เช้าเลย พอดีเขามีเรียนเลยต้องฝากเรามา”
พัทยื่นกระดาษที่ม้วนอยู่และมีโบว์สีฟ้าผูกไว้ให้กับว่าน หญิงสาวมองม้วนกระดาษที่อยู่ในมือของพัทอย่างสงสัย เธอยื่นมือออกไปรับไว้ เต้ที่พึ่งเดินไปซื้อน้ำและขนมมาให้ว่านกลับมาถึงพอดี เขากำลังวางขนมลงบนโต๊ะแต่ยังไม่ทันที่จะนั่ง พัทรีบแย่งน้ำจากมือเต้มาดื่มด้วยความกระหาย
“เบา ๆ แม่คุณ เดี๋ยวก็สำลัก”
เต้พูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง แล้วหันไปมองกระดาษที่ว่านถืออยู่
“อะไรเหรอว่าน” เต้เอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย
“ไม่ใช่เรื่องของนาย ว่านแกะเลยสิ”
พัทหันมาว่าเต้ แล้วหันกลับไปหาว่านและบอกให้เธอรีบดูว่าในกระดาษมีอะไร โดยมีเต้นั่งทำหน้าบึ้งอยู่ข้าง ๆ
“แกะดูสิว่าน ยั้ยคนชอบสอดเขาอยากรู้จะแย่ล่ะ”
เต้พูดสนับสนุนแต่ไม่วายที่จะพูดจาเหน็บแนมพัท
“วันนี้เพื่อนอารมณ์ดี วันนี้เพื่อนไม่โกรธนะ”
พัทหันมามองหน้าเต้แล้วยิ้ม เต้ทำท่างงว่าวันนี้หญิงสาวคู่ปรับของเขาไม่สบายหรือเปล่า
“ไม่สบายหรือเปล่า มาแปลกนะวันนี้” เต้ออกมาด้วยความสงสัย
พัทได้ยินที่เต้พูดแต่วันนี้เธออารมณ์ดีจริง ๆ เลยไม่ถือสา หญิงสาวหันไปมองว่านแล้วคะยั้นคะยอให้เปิดกระดาษดูเร็ว ๆ
ว่านตัดสินใจแกะโบว์ที่ผูกไว้ แล้วค่อย ๆ คลี่กระดาษออกมาดู
“ว้าว! สวยเหมือนตัวจริงเลยอ่ะ นายว่าไง”
พัทชะโงกหน้าไปดูภาพวาดที่อยู่ในมือของว่าน แล้วทำเสียงชื่นชมภาพวาดออกมา ก่อนจะหันไปถามเต้
“งั้น ๆ แหละ แค่คล้าย ๆ ไม่เห็นจะเหมือนอะไรมากมาย”
ชายหนุ่มตอบกลับแบบอารมณ์เสียเล็กน้อย เมื่อรู้ว่าใครเป็นคนวาดภาพว่าน เพราะเขาเหลือบไปเห็นชื่อที่เขียนไว้ตรงมุมล่างของกระดาษ
“นายนี่มันตาไม่ถึงจริง ๆ ไม่มีศิลปะเอาซะเลย จะหาความอ่อนโยนจากไหน ผู้หญิงที่ไหนเขาจะมาสนใจ” พัทหมั่นไส้เลยพูดประชดเต้ออกไป
“ใครจะสนใจหรือไม่ เราก็ไม่สนใจ ขออย่างเดียว อย่าเป็นเธอแล้วกันที่มาสนใจเรา” ชายหนุ่มตอกกลับ
“หลงตัวเองเหมือนกันนะเราอ่ะ ฉันไม่สนใจนายหรอก” พัทหันหน้ามาแลบลิ้นใส่เต้หลังพูดจบ
ว่านหัวเราะชอบใจเมื่อเห็นเพื่อนสนิทของเธอทำท่าต่อปากต่อคำกันอีกอย่างเมามัน แล้วก้มลงมองดูภาพตัวเองในกระดาษอีกครั้ง แล้วเธอก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุขและรู้สึกประทับใจคนที่วาดภาพให้กับเธอ
เต้เองรู้สึกได้ว่าว่านเริ่มสนใจในตัวของอิงมากขึ้นทุกที ขนาดตอนเย็นที่เดินกลับบ้านด้วยกันหญิงสาวยังคงยิ้มมีความสุขเมื่อมองกระดาษที่อยู่ในมือของเธอเอง
“ปลื้มมันมากเหรอ เราเตือนไว้อย่างนะ ผู้ชายแบบนั้นเขาอาจมีแฟนอยู่แล้วก็ได้”
เต้พูดขึ้นมาขณะเดินจูงจักรยานกลับบ้านพร้อมกับว่าน หญิงสาวได้ยินที่ชายหนุ่มพูดก็หยุดเดินกะทันหันแล้วหันมามองหน้าเขาแบบไม่พอใจ
“เต้ นายเป็นอะไรของนาย อารมณ์เสียมาจากไหน อยู่ดี ๆ ไปเรียกอิงว่ามัน”
“เราหวังดีนะว่าน” เต้พยายามบอกว่าเขาเป็นห่วงและหวังดีกับหญิงสาวจริง ๆ
“แต่ว่านพึ่งรู้จักอิง และอีกอย่างเขาก็ดีกับว่าน ว่านหมายความว่าเราเป็นเพื่อนกันได้ เหมือนว่านกับเต้ไง แต่ถ้าว่านจะคิดกับอิงมากกว่าเพื่อน เราก็ไม่เห็นว่ามันจะเกี่ยวอะไรกับเต้เลย”
หญิงสาวพูดจบก็สะบัดหน้าหนีแล้วรีบเดินไป ปล่อยให้ชายหนุ่มยืนอึ้งกับคำพูดของเธอ เขารู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาในหัวใจเมื่อได้ยินคำพูดที่หญิงสาวบอกว่าเธอกับเขาเป็นเพื่อนกัน และถ้าเธอจะชอบอิงก็ไม่เกี่ยวกับเขา เขารู้สึกเหมือนหมดเรี่ยวแรงที่ก้าวเดินต่อ แต่ต้องฝืนทน หญิงสาวไม่ยอมพูดกับเขาอีกเลยตลอดทางจนถึงหน้าบ้านของเธอ
“ว่าน!”
ชายหนุ่มเรียกชื่อหญิงสาวก่อนที่เธอจะเดินเข้าบ้านไป
“มีอะไรอีกล่ะ”
ว่านหันกลับมาถาม เมื่อเต้เรียกชื่อเธอด้วยน้ำเสียงเศร้า ๆ
“เต้ขอโทษนะว่าน ต่อไปเต้จะไม่พูดแบบนั้นอีกแล้ว”
ชายหนุ่มกล่าวขอโทษแล้วทำหน้ารู้สึกผิด ว่านมองชายหนุ่มตรงหน้าแล้วอมยิ้ม ก่อนที่จะเอามือของเธอตบไปบนไหล่ของเขา
“ดีมากเด็กน้อย คราวหลังอย่าดื้อนะ”
ว่านหัวเราะออกมา ทำให้เต้รู้สึกดีขึ้นเมื่อรู้ว่าหญิงสาวหายโกรธเขาแล้ว
“เราก็ขอโทษนะที่ว่าเต้ เราก็พึ่งรู้จักอิง เต้ก็พึ่งรู้จักอิงเหมือนกัน ดังนั้นเต้จะไปคิดว่าเขาแย่คงไม่ได้หรอกเนอะ”
ชายหนุ่มพยักหน้าแล้วยิ้มรับ
“กลับได้แล้ว น้าต่ายรอแย่แล้ว ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะ”
เมื่อหญิงสาวบอกลาชายหนุ่มแล้ว เธอก็เดินเข้าบ้านไป
เต้ก็ถีบจักรยานกลับบ้านของเขาเช่นกัน แต่ระหว่างทางชายหนุ่มก็ยังคงคิดถึงคำพูดของหญิงสาวตลอดเวลา มันยิ่งตอกย้ำให้เขารู้สึกเจ็บปวดใจยิ่งนัก
“ว่าน ๆ เสียงมือถือหนูดังแน่ะ ใครโทรมาก็ไม่รู้” แม่ของว่านตะโกนเรียกหญิงสาวที่กำลังเก็บหนังสืออยู่ในห้องนอน
“ค่ะแม่ เดี๋ยวว่านลงไปรับสายค่ะ” ว่านตะโกนบอกแม่ของเธอ
หญิงสาวเดินลงมานั่งที่โซฟาหน้าทีวี แล้วหยิบมือถือที่ลืมวาง ยกขึ้นมาดูว่าใครโทรมาหาเธอ
“ใครโทรมาเหรอ แม่ปอกสับปะรดอยู่เลยไม่ได้รับ”
แม่ของหญิงสาวถามขึ้น ขณะที่ถือจานสับปะรดมาวางตั้งตรงหน้าของเธอ แล้วนั่งลงข้าง ๆ
“ไม่รู้สิคะแม่ เบอร์ไม่คุ้นเลย สงสัยจะโทรผิดหรือไม่ก็โทรมาขายของมั้งคะ เดี๋ยวว่านขึ้นไปอาบน้ำดีกว่า แล้วจะอ่านหนังสือต่อ กู๊ดไนท์นะคะแม่”
หญิงสาวเดินไปหอมแก้มแม่ของเธอ ก่อนที่จะเดินขึ้นห้องนอนไป
เมื่อว่านอาบน้ำเปลี่ยนชุดนอนเรียบร้อยแล้ว เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้นมาอีก หญิงสาวรีบหยิบมือถือขึ้นมาดู
“เบอร์ใครเนี่ย โทรมาอีกล่ะ” ว่านบ่นพึมพำก่อนที่จะรับสาย
“สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีครับ ว่านหรือเปล่าครับ”
เสียงชายหนุ่มปลายสายที่ว่านได้ยิน ทำให้เธอถึงกลับนิ่งเงียบไปชั่วขณะ
“ฮัลโหล ๆ ว่านได้ยินผมไหมครับ” เสียงชายหนุ่มปลายสายไม่ได้ยินเสียงของหญิงสาวตอบกลับเขาจึงรีบถามกลับไป
“ค่ะ ๆ ได้ยินค่ะ”
หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก เพราะความตื่นเต้นดีใจ เมื่อรู้ว่าคนปลายสายที่โทรมาหาเธอเป็นใคร
“ว่านได้ของขวัญที่ผมฝากพัทไปให้หรือยังครับ”
“ได้รับแล้วค่ะ สวยมากเลย” หญิงสาวตอบไปด้วยความรู้สึกเขินอาย
“อุ้ย! ว่านหมายถึงฝีมือการวาดนะ ไม่ได้หมายถึงตัวเอง” หญิงสาวพึ่งนึกได้ว่าตอบอะไรเขาไปเลยรีบแก้กลัวว่าชายหนุ่มจะเข้าผิด
ชายหนุ่มในสายได้ฟังก็หัวเราะออกมา
“ชอบไหม”
“ชอบสิคะ อิงวาดรูปเก่งเนอะ”
“ไม่เก่งหรอกครับ คนในภาพสวยมากกว่า”
ชายหนุ่มเอ่ยชมหญิงสาวขึ้นมายิ่งทำให้เธอเริ่มรู้สึกเขินจนพูดไม่ออก
ทั้งคู่คุยกันอย่างถูกคอ เลยลืมดูเวลาว่าคุยกันไปนานแค่ไหนแล้ว จนมือถือของว่านเกิดแบตหมดโดยที่เธอไม่ทันรู้ตัว หญิงสาวรีบหาที่ชาร์จแบตแล้วโทรกลับ
“ขอโทษนะคะพอดีแบตหมด”
“ไม่เป็นไรครับ ว่านไปนอนเถอะ ฝันดีนะครับ ไว้เจอกันที่มหาวิทยาลัย”
“ค่ะ”
ว่านวางสายเสร็จ ก็เหลือบมองดูนาฬิกาบนหัวเตียงของเธอ ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนพอดี เธอแทบไม่เชื่อตัวเองเลยว่าคุยกับอิงนานเกือบสามชั่วโมง หญิงสาวเดินไปหยิบกระดาษที่อิงวาดภาพของเธอไว้มาดูอีกที พอนั่งนึกถึงหน้าคนวาดให้ หญิงสาวก็รู้สึกมีความสุข แค่ได้ยินคำว่าฝันดีจากเขาเมื่อครู่ก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกมีความสุขมากขึ้นไปอีก จนอยากเจอหน้าเขาเร็ว ๆ
หลังจากที่วางสายจากว่านแล้ว เสียงมือถือของอิงก็ดังขึ้น อิงรีบกดรับสายโดยทันที
“ฮัลโหล ยังไม่นอนอีกเหรอคะคนดี”
“ลินโทรหาตั้งนาน ติดสายอยู่เหรอ วันนี้เห็นเงียบ ๆ ไม่โทรมาหาลินบ้างเลย เสียใจนะเนี่ย” หญิงสาวพูดเหมือนน้อยใจคนรักของเธอ
“อย่าน้อยใจไปเลย ผมขอโทษนะลิน พอดีวันนี้มีเรียนทั้งวัน ๆ พึ่งคุยเรื่องรายงานกับเพื่อนเสร็จน่ะ ลินไปนอนได้แล้วนะ ยิ่งไม่ค่อยสบายอยู่ นอนดึกไม่ดีนะคะ”
“ค่ะ ฝันดีนะคะ” หญิงสาวเอ่ยลาก่อนวางสาย
“ค่ะ ฝันดีครับคนดี”
ชายหนุ่มวางสายแล้วถอนหายใจ ก่อนที่จะยิ้มออกมาอย่างสุขใจ ว่าแต่ใครกันนะที่ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกมีความสุขได้ขนาดนี้
เสียงเจื้อยแจ้วมาแต่ไกลของพัทเรียกชื่อเพื่อนสาวของเธอ
ว่านกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่คนเดียวที่โต๊ะหน้าคณะ ต้องรีบหันไปดูว่าใครเป็นคนเรียกชื่อของเธอ
“จะรีบวิ่งทำไมล่ะเนี่ย เดี๋ยวก็หกล้มเข้าสักวันหรอก”
ว่านเตือนเพื่อนด้วยความเป็นห่วง พัทยิ้มแล้วนั่งลงข้าง ๆ เธอ
“จ้าแม่ คราวหลังจะไม่ทำแล้วค่ะ อะนี่ มีคนฝากมาให้ เอามาฝากให้แต่เช้าเลย พอดีเขามีเรียนเลยต้องฝากเรามา”
พัทยื่นกระดาษที่ม้วนอยู่และมีโบว์สีฟ้าผูกไว้ให้กับว่าน หญิงสาวมองม้วนกระดาษที่อยู่ในมือของพัทอย่างสงสัย เธอยื่นมือออกไปรับไว้ เต้ที่พึ่งเดินไปซื้อน้ำและขนมมาให้ว่านกลับมาถึงพอดี เขากำลังวางขนมลงบนโต๊ะแต่ยังไม่ทันที่จะนั่ง พัทรีบแย่งน้ำจากมือเต้มาดื่มด้วยความกระหาย
“เบา ๆ แม่คุณ เดี๋ยวก็สำลัก”
เต้พูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง แล้วหันไปมองกระดาษที่ว่านถืออยู่
“อะไรเหรอว่าน” เต้เอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย
“ไม่ใช่เรื่องของนาย ว่านแกะเลยสิ”
พัทหันมาว่าเต้ แล้วหันกลับไปหาว่านและบอกให้เธอรีบดูว่าในกระดาษมีอะไร โดยมีเต้นั่งทำหน้าบึ้งอยู่ข้าง ๆ
“แกะดูสิว่าน ยั้ยคนชอบสอดเขาอยากรู้จะแย่ล่ะ”
เต้พูดสนับสนุนแต่ไม่วายที่จะพูดจาเหน็บแนมพัท
“วันนี้เพื่อนอารมณ์ดี วันนี้เพื่อนไม่โกรธนะ”
พัทหันมามองหน้าเต้แล้วยิ้ม เต้ทำท่างงว่าวันนี้หญิงสาวคู่ปรับของเขาไม่สบายหรือเปล่า
“ไม่สบายหรือเปล่า มาแปลกนะวันนี้” เต้ออกมาด้วยความสงสัย
พัทได้ยินที่เต้พูดแต่วันนี้เธออารมณ์ดีจริง ๆ เลยไม่ถือสา หญิงสาวหันไปมองว่านแล้วคะยั้นคะยอให้เปิดกระดาษดูเร็ว ๆ
ว่านตัดสินใจแกะโบว์ที่ผูกไว้ แล้วค่อย ๆ คลี่กระดาษออกมาดู
“ว้าว! สวยเหมือนตัวจริงเลยอ่ะ นายว่าไง”
พัทชะโงกหน้าไปดูภาพวาดที่อยู่ในมือของว่าน แล้วทำเสียงชื่นชมภาพวาดออกมา ก่อนจะหันไปถามเต้
“งั้น ๆ แหละ แค่คล้าย ๆ ไม่เห็นจะเหมือนอะไรมากมาย”
ชายหนุ่มตอบกลับแบบอารมณ์เสียเล็กน้อย เมื่อรู้ว่าใครเป็นคนวาดภาพว่าน เพราะเขาเหลือบไปเห็นชื่อที่เขียนไว้ตรงมุมล่างของกระดาษ
“นายนี่มันตาไม่ถึงจริง ๆ ไม่มีศิลปะเอาซะเลย จะหาความอ่อนโยนจากไหน ผู้หญิงที่ไหนเขาจะมาสนใจ” พัทหมั่นไส้เลยพูดประชดเต้ออกไป
“ใครจะสนใจหรือไม่ เราก็ไม่สนใจ ขออย่างเดียว อย่าเป็นเธอแล้วกันที่มาสนใจเรา” ชายหนุ่มตอกกลับ
“หลงตัวเองเหมือนกันนะเราอ่ะ ฉันไม่สนใจนายหรอก” พัทหันหน้ามาแลบลิ้นใส่เต้หลังพูดจบ
ว่านหัวเราะชอบใจเมื่อเห็นเพื่อนสนิทของเธอทำท่าต่อปากต่อคำกันอีกอย่างเมามัน แล้วก้มลงมองดูภาพตัวเองในกระดาษอีกครั้ง แล้วเธอก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุขและรู้สึกประทับใจคนที่วาดภาพให้กับเธอ
เต้เองรู้สึกได้ว่าว่านเริ่มสนใจในตัวของอิงมากขึ้นทุกที ขนาดตอนเย็นที่เดินกลับบ้านด้วยกันหญิงสาวยังคงยิ้มมีความสุขเมื่อมองกระดาษที่อยู่ในมือของเธอเอง
“ปลื้มมันมากเหรอ เราเตือนไว้อย่างนะ ผู้ชายแบบนั้นเขาอาจมีแฟนอยู่แล้วก็ได้”
เต้พูดขึ้นมาขณะเดินจูงจักรยานกลับบ้านพร้อมกับว่าน หญิงสาวได้ยินที่ชายหนุ่มพูดก็หยุดเดินกะทันหันแล้วหันมามองหน้าเขาแบบไม่พอใจ
“เต้ นายเป็นอะไรของนาย อารมณ์เสียมาจากไหน อยู่ดี ๆ ไปเรียกอิงว่ามัน”
“เราหวังดีนะว่าน” เต้พยายามบอกว่าเขาเป็นห่วงและหวังดีกับหญิงสาวจริง ๆ
“แต่ว่านพึ่งรู้จักอิง และอีกอย่างเขาก็ดีกับว่าน ว่านหมายความว่าเราเป็นเพื่อนกันได้ เหมือนว่านกับเต้ไง แต่ถ้าว่านจะคิดกับอิงมากกว่าเพื่อน เราก็ไม่เห็นว่ามันจะเกี่ยวอะไรกับเต้เลย”
หญิงสาวพูดจบก็สะบัดหน้าหนีแล้วรีบเดินไป ปล่อยให้ชายหนุ่มยืนอึ้งกับคำพูดของเธอ เขารู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาในหัวใจเมื่อได้ยินคำพูดที่หญิงสาวบอกว่าเธอกับเขาเป็นเพื่อนกัน และถ้าเธอจะชอบอิงก็ไม่เกี่ยวกับเขา เขารู้สึกเหมือนหมดเรี่ยวแรงที่ก้าวเดินต่อ แต่ต้องฝืนทน หญิงสาวไม่ยอมพูดกับเขาอีกเลยตลอดทางจนถึงหน้าบ้านของเธอ
“ว่าน!”
ชายหนุ่มเรียกชื่อหญิงสาวก่อนที่เธอจะเดินเข้าบ้านไป
“มีอะไรอีกล่ะ”
ว่านหันกลับมาถาม เมื่อเต้เรียกชื่อเธอด้วยน้ำเสียงเศร้า ๆ
“เต้ขอโทษนะว่าน ต่อไปเต้จะไม่พูดแบบนั้นอีกแล้ว”
ชายหนุ่มกล่าวขอโทษแล้วทำหน้ารู้สึกผิด ว่านมองชายหนุ่มตรงหน้าแล้วอมยิ้ม ก่อนที่จะเอามือของเธอตบไปบนไหล่ของเขา
“ดีมากเด็กน้อย คราวหลังอย่าดื้อนะ”
ว่านหัวเราะออกมา ทำให้เต้รู้สึกดีขึ้นเมื่อรู้ว่าหญิงสาวหายโกรธเขาแล้ว
“เราก็ขอโทษนะที่ว่าเต้ เราก็พึ่งรู้จักอิง เต้ก็พึ่งรู้จักอิงเหมือนกัน ดังนั้นเต้จะไปคิดว่าเขาแย่คงไม่ได้หรอกเนอะ”
ชายหนุ่มพยักหน้าแล้วยิ้มรับ
“กลับได้แล้ว น้าต่ายรอแย่แล้ว ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะ”
เมื่อหญิงสาวบอกลาชายหนุ่มแล้ว เธอก็เดินเข้าบ้านไป
เต้ก็ถีบจักรยานกลับบ้านของเขาเช่นกัน แต่ระหว่างทางชายหนุ่มก็ยังคงคิดถึงคำพูดของหญิงสาวตลอดเวลา มันยิ่งตอกย้ำให้เขารู้สึกเจ็บปวดใจยิ่งนัก
“ว่าน ๆ เสียงมือถือหนูดังแน่ะ ใครโทรมาก็ไม่รู้” แม่ของว่านตะโกนเรียกหญิงสาวที่กำลังเก็บหนังสืออยู่ในห้องนอน
“ค่ะแม่ เดี๋ยวว่านลงไปรับสายค่ะ” ว่านตะโกนบอกแม่ของเธอ
หญิงสาวเดินลงมานั่งที่โซฟาหน้าทีวี แล้วหยิบมือถือที่ลืมวาง ยกขึ้นมาดูว่าใครโทรมาหาเธอ
“ใครโทรมาเหรอ แม่ปอกสับปะรดอยู่เลยไม่ได้รับ”
แม่ของหญิงสาวถามขึ้น ขณะที่ถือจานสับปะรดมาวางตั้งตรงหน้าของเธอ แล้วนั่งลงข้าง ๆ
“ไม่รู้สิคะแม่ เบอร์ไม่คุ้นเลย สงสัยจะโทรผิดหรือไม่ก็โทรมาขายของมั้งคะ เดี๋ยวว่านขึ้นไปอาบน้ำดีกว่า แล้วจะอ่านหนังสือต่อ กู๊ดไนท์นะคะแม่”
หญิงสาวเดินไปหอมแก้มแม่ของเธอ ก่อนที่จะเดินขึ้นห้องนอนไป
เมื่อว่านอาบน้ำเปลี่ยนชุดนอนเรียบร้อยแล้ว เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้นมาอีก หญิงสาวรีบหยิบมือถือขึ้นมาดู
“เบอร์ใครเนี่ย โทรมาอีกล่ะ” ว่านบ่นพึมพำก่อนที่จะรับสาย
“สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีครับ ว่านหรือเปล่าครับ”
เสียงชายหนุ่มปลายสายที่ว่านได้ยิน ทำให้เธอถึงกลับนิ่งเงียบไปชั่วขณะ
“ฮัลโหล ๆ ว่านได้ยินผมไหมครับ” เสียงชายหนุ่มปลายสายไม่ได้ยินเสียงของหญิงสาวตอบกลับเขาจึงรีบถามกลับไป
“ค่ะ ๆ ได้ยินค่ะ”
หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก เพราะความตื่นเต้นดีใจ เมื่อรู้ว่าคนปลายสายที่โทรมาหาเธอเป็นใคร
“ว่านได้ของขวัญที่ผมฝากพัทไปให้หรือยังครับ”
“ได้รับแล้วค่ะ สวยมากเลย” หญิงสาวตอบไปด้วยความรู้สึกเขินอาย
“อุ้ย! ว่านหมายถึงฝีมือการวาดนะ ไม่ได้หมายถึงตัวเอง” หญิงสาวพึ่งนึกได้ว่าตอบอะไรเขาไปเลยรีบแก้กลัวว่าชายหนุ่มจะเข้าผิด
ชายหนุ่มในสายได้ฟังก็หัวเราะออกมา
“ชอบไหม”
“ชอบสิคะ อิงวาดรูปเก่งเนอะ”
“ไม่เก่งหรอกครับ คนในภาพสวยมากกว่า”
ชายหนุ่มเอ่ยชมหญิงสาวขึ้นมายิ่งทำให้เธอเริ่มรู้สึกเขินจนพูดไม่ออก
ทั้งคู่คุยกันอย่างถูกคอ เลยลืมดูเวลาว่าคุยกันไปนานแค่ไหนแล้ว จนมือถือของว่านเกิดแบตหมดโดยที่เธอไม่ทันรู้ตัว หญิงสาวรีบหาที่ชาร์จแบตแล้วโทรกลับ
“ขอโทษนะคะพอดีแบตหมด”
“ไม่เป็นไรครับ ว่านไปนอนเถอะ ฝันดีนะครับ ไว้เจอกันที่มหาวิทยาลัย”
“ค่ะ”
ว่านวางสายเสร็จ ก็เหลือบมองดูนาฬิกาบนหัวเตียงของเธอ ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนพอดี เธอแทบไม่เชื่อตัวเองเลยว่าคุยกับอิงนานเกือบสามชั่วโมง หญิงสาวเดินไปหยิบกระดาษที่อิงวาดภาพของเธอไว้มาดูอีกที พอนั่งนึกถึงหน้าคนวาดให้ หญิงสาวก็รู้สึกมีความสุข แค่ได้ยินคำว่าฝันดีจากเขาเมื่อครู่ก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกมีความสุขมากขึ้นไปอีก จนอยากเจอหน้าเขาเร็ว ๆ
หลังจากที่วางสายจากว่านแล้ว เสียงมือถือของอิงก็ดังขึ้น อิงรีบกดรับสายโดยทันที
“ฮัลโหล ยังไม่นอนอีกเหรอคะคนดี”
“ลินโทรหาตั้งนาน ติดสายอยู่เหรอ วันนี้เห็นเงียบ ๆ ไม่โทรมาหาลินบ้างเลย เสียใจนะเนี่ย” หญิงสาวพูดเหมือนน้อยใจคนรักของเธอ
“อย่าน้อยใจไปเลย ผมขอโทษนะลิน พอดีวันนี้มีเรียนทั้งวัน ๆ พึ่งคุยเรื่องรายงานกับเพื่อนเสร็จน่ะ ลินไปนอนได้แล้วนะ ยิ่งไม่ค่อยสบายอยู่ นอนดึกไม่ดีนะคะ”
“ค่ะ ฝันดีนะคะ” หญิงสาวเอ่ยลาก่อนวางสาย
“ค่ะ ฝันดีครับคนดี”
ชายหนุ่มวางสายแล้วถอนหายใจ ก่อนที่จะยิ้มออกมาอย่างสุขใจ ว่าแต่ใครกันนะที่ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกมีความสุขได้ขนาดนี้
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ