Mention Of Love (รัก)
-
เขียนโดย Nanpm
วันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 เวลา 20.52 น.
12 ตอน
0 วิจารณ์
10.47K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 21.03 น. โดย เจ้าของนิยาย
11) บอกลา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ เต้เดินมาที่บ้านของว่านแล้วกดกริ่งที่หน้าประตู ชายหนุ่มเห็นพี่หว้าเดินออกมาจากบ้านแทนที่จะเป็นเพื่อนของเขา
“เต้ วันนี้ว่านไม่ไปเรียนนะ พอดีว่านไม่ค่อยสบาย” พี่หว้าบอกชายหนุ่มที่มายืนรอน้องสาวของเธอ
“ฝากบอกว่านด้วยนะครับว่าหายเร็ว ๆ เดี๋ยวผมไปเรียนก่อน สวัสดีครับ” เต้ยกมือไหว้พี่ลูกหว้าแล้วชายหนุ่มก็ถีบจักรยานไปถึงหน้าหมู่บ้าน
ในใจของชายหนุ่มรู้สึกไม่สบายใจ เพราะเขาคิดว่าหญิงสาวต้องเป็นอะไรที่มากกว่าไม่สบายธรรมดา
“เต้ แล้วว่านล่ะ” พัทถามขึ้นเมื่อเห็นชายหนุ่มเดินเข้าห้องเรียนมาคนเดียวโดยไร้เงาของหญิงสาวเพื่อนสนิทของเขา
ชายหนุ่มนั่งลงข้าง ๆ พัท แล้วถอนหายใจออกมา
“พี่หว้าบอกว่าว่านไม่สบาย เราถามอะไรหน่อยสิ” เต้หันมองหน้าพัทแล้วทำสีหน้าเคร่งเครียด
“ถามจริง ๆ เถอะ เมื่อวานพัทพาว่านไปไหนมา” ชายหนุ่มตั้งคำถามด้วยสีหน้าจริงจัง
พัทอึกอักอยู่นานแต่ไม่ทันที่จะตอบอะไร อาจารย์ก็เดินเข้ามาในห้องเรียนพอดี ทำให้หญิงสาวต้องกระซิบบอกว่าจะเล่าให้ฟังหลังเลิกเรียน
“แม่ตัวดีจะเล่าได้หรือยังว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อวาน” เต้พูดขึ้นเมื่อพาพัทมานั่งตรงม้านั่งข้างคณะเรียน
“โอเค เราจะเล่าให้ฟังเดี๋ยวนี้ล่ะ”
หญิงสาวเล่าเหตุการณ์ที่เธอพาว่านตามอิงไป เมื่อชายหนุ่มได้ฟังเรื่องทั้งหมดก็ถอนหายใจออกมาอีก
“เราก็เป็นห่วงว่านเหมือนกัน ไปบ้านว่านกันไหม เราอยากไปดูหน่อยว่าว่านเป็นยังไงบ้าง” พัทชวนเต้ไปหาว่านที่บ้าน เพราะเธอรู้สึกเป็นห่วงเพื่อนของเธออย่างมาก
เต้ไม่รีรอตอบตกลงทันที แล้วพัทก็ขับรถพาเต้ไปที่บ้านของว่าน
“สวัสดีค่ะพี่หว้า พัทมาเยี่ยมว่านน่ะค่ะเห็นวันนี้เต้บอกว่าว่านไม่สบายเลยไม่ได้ไปเรียน” พัทกล่าวทักทายและบอกจุดประสงค์ที่เธอมา
“เข้าไปในบ้านกันก่อนนะ” ลูกหว้าเปิดประตูให้พัทกับเต้เดินเข้ามานั่งในบ้าน
“คุณแม่ไม่อยู่เหรอคะ” พัทถามขึ้นเมื่อเธอมองไปรอบ ๆ บ้านแล้วไม่เห็นแม่ของเพื่อน
“คุณแม่ออกไปซื้อของที่ตลาด ดื่มน้ำกันก่อนนะ มากันก็ดีแล้ว พี่อยากจะถามเราสองคนพอดีว่ารู้ใช่ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นกับว่าน” ลูกหว้าเริ่มถามหาสาเหตุที่ทำให้น้องสาวเธอไม่สบาย และเก็บตัวอยู่บนห้อง
“พัทคิดว่าพัททราบค่ะ ให้พัทขึ้นไปคุยกับว่านได้ไหมคะ”
ลูกหว้ายิ้มแล้วพยักหน้าเมื่อได้ยินพัทถาม และเมื่อพัทเดินขึ้นบันไดไป เต้ก็หันมาเล่าทุกอย่างที่รู้เรื่องมาจากพัทให้พี่หว้าได้รับรู้
“ก๊อก ๆ” เสียงใครคนหนึ่งเคาะประตู
“พี่หว้าเหรอคะ เข้ามาได้เลยค่ะ ว่านไม่ได้ล็อกประตู” ว่านบอกคนที่มายืนเคาะประตูให้เข้ามาซึ่งเธอคิดว่าเป็นพี่สาวของเธอ
พัทค่อย ๆ เปิดประตูแล้วเดินเข้าห้องมา
“ว่านเป็นยังไงบ้าง” พัทถามด้วยความเป็นห่วง
น้ำตาค่อย ๆ ไหลออกมาจากตาของหญิงสาวเมื่อได้ยินเพื่อนสาวถามขึ้นมา พัทเดินเข้าไปกอดและปลอบเพื่อนของเธอ
“ไม่เป็นไรนะ ช่างมันสวย ๆ อย่างเราหาใหม่ได้อีกเยอะ ยังไงว่านยังมีเรา เต้ แม่และก็พี่หว้าที่รักและเป็นห่วงว่านนะ”
ยิ่งพัทพูดปลอบก็ยิ่งทำให้ว่านร้องไห้ออกมาอีก พัทยังคงกอดและลูบหลังเพื่อนของเธอไว้
“ร้องให้เต็มที่ พรุ่งนี้จะได้ไม่ต้องร้องอีก”
ว่านร้องไห้จนพอแล้ว หญิงสาวเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาเลอะหน้าของเธอไปหมด ว่านมองหน้าพัทแล้วจับมือเพื่อนของเธอมากุมไว้
“พัท เราจะไปอยู่ที่อังกฤษกับพี่หว้า พรุ่งนี้เราจะไปทำเรื่องลาออกจากมหาวิทยาลัยและก็ไปทำวีซ่า วันที่เราเดินทางพัทต้องไปส่งเรานะ”
พัทตกใจเมื่อได้ยินสิ่งที่เพื่อนของเธอบอก
“ห๊ะ! อะไรกัน ทำไมกะทันหันขนาดนี้ ว่านจะทิ้งเราไปจริง ๆ เหรอ”
“เราขอโทษที่บอกกะทันหันแบบนี้ พี่หว้ามีคุยกับเรานานแล้ว แต่เรายังตัดสินใจไม่ได้ แต่คราวนี้เราคิดว่าเราคงต้องไปจริง ๆ” ว่านตอบแล้วยิ้มออกมาแบบเศร้า ๆ ซึ่งนัยน์ตาของเธอยังคงมีน้ำตาคลออยู่
“ว่าน ไม่ว่ายังไง ไม่ว่าว่านจะอยู่ที่ไหน พัทคนนี้ก็ยังเป็นเพื่อนที่รักและหวังดีกับว่านนะ ถ้าไปอยู่ที่นู่นคิดถึงเราก็กลับมานะ” พัทพูดจบก็กอดเพื่อนเธออีกครั้ง
“พัทต้องขอตัวกลับแล้วนะคะ ว่านนอนพักไปแล้ว ไว้พัทมาใหม่นะคะ” พัทเอ่ยลาแม่และพี่หว้า
“เธอขึ้นไปคุยอะไรกับว่านมา แล้วว่านเป็นยังไงบ้าง” เต้รีบถามขึ้นเมื่อเดินออกจากบ้านของว่าน
“นายรู้เรื่องว่านจะไปอยู่อังกฤษแล้วใช่ไหม เศร้าเนอะ เราน่าจะเชียร์ให้นายบอกชอบว่านมากกว่าพาว่านไปรู้จักคนแบบนั้น เราขอโทษ เราเสียใจจริง ๆ” พัทพูดด้วยความรู้สึกเสียใจเพราะเธอคิดว่าเธอเป็นต้นเหตุทำให้ว่านต้องเสียใจ
“ไม่ต้องคิดมากหรอก ต่อให้ไม่มีอิง เราก็ไม่กล้าที่จะบอกอะไรกับว่าน เราขอแค่เป็นเพื่อนที่ดีกับเขาดีกว่าถ้าเราบอกไปแล้วไม่ได้เป็นอะไรเลย” ชายหนุ่มก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เศร้าสร้อยเช่นกัน
พัทเดินมาที่คณะจิตรกรรมเพื่อตามหาใครบางคน และเธอก็พบเขาจนได้ ซึ่งชายหนุ่มกำลังนั่งวาดรูปอยู่
“อิง เราขอคุยด้วยหน่อยสิ” พัทพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“มีอะไรเหรอ” ชายหนุ่มวางดินสอในมือลง แล้วหันมาถามหญิงสาวที่มายืนอยู่ข้าง ๆ
“นายไม่รู้จริง ๆ หรือแกล้งไม่รู้ นายจะไม่ถามหรือสนใจหน่อยเหรอว่าว่านหายไปไหน” พัทพูดด้วยความโมโหที่ได้ยินคำถามจากชายหนุ่มที่ดูเหมือนจะไม่รู้สึกอะไรเลย
“ไม่รู้” ชายหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“ทำไมนายเป็นคนแบบนี้เนี่ย เราผิดหวังในตัวนายจริง ๆ อ้อ! เราแค่จะมาบอกว่าครอบครัวว่านจะย้ายไปอยู่ที่อังกฤษ จะไปวันจันทร์นี้ ถ้ายังพอมีหัวใจอยู่บ้างก็ไปส่งว่านด้วยนะ” พัทพูดทิ้งท้ายก่อนที่จะสะบัดหน้าแล้วเดินกลับคณะของเธอไปด้วยความโมโหที่เห็นชายหนุ่มตรงหน้าทำเหมือนไม่สนใจเพื่อนของเธอเลย
หลังจากหญิงสาวเดินกลับไป อิงขยำกระดาษที่เขากำลังวาดรูปอยู่แล้วโยนทิ้งไว้ข้างตัวของเขา ด้วยความรู้สึกโมโหและเสียใจในการกระทำของตน
ช่วงเย็นวันเดียวกัน พัทรีบไปหาว่านที่บ้านเพื่อไปช่วยเพื่อนของเธอเก็บข้าวของที่จะนำไปอังกฤษด้วย
“ของเยอะจังเลย เออ! แล้วบ้านนี้จะทำยังไง” พัทถามด้วยความอยากรู้
“เห็นพี่หว้ากับแม่บอกว่าจะให้คนเช่า แต่ก็ไม่แน่ก็อาจจะขาย เราก็ไม่ค่อยรู้อะไรมาก แต่ช่วงแรก ๆ คงฝากให้ที่บ้านเต้ช่วยดูแลให้ก่อน” ว่านตอบขณะที่เธอยังคงเก็บข้าวของแพ็คลงกล่อง
พัทเห็นว่านหยิบม้วนกระดาษใส่ไปในกล่องด้วย พัทยื่นมือไปหยิบมันขึ้นมาดู
“จะเอาไปด้วยเหรอ” พัทถามขึ้นเมื่อเห็นว่าเป็นภาพที่อิงเคยวาดให้ว่าน
ว่านได้ยินที่เพื่อนของเธอถามก็นั่งลงกับพื้นก่อนที่จะถอนหายใจออกมา
“เราอยากเจออิงอีกสักครั้ง” ว่านพูดแล้วทำหน้าเศร้า แต่ในใจของเธอก็ยังหวังซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่าจะหวังอะไร
เมื่อสองสาวเหนื่อยจากการจัดของก็พากันลงไปนั่งเล่นที่หน้าบ้าน
“พัทเราขอไปโทรศัพท์ก่อนนะ” ว่านพูดขึ้นเมื่อเธอคิดอะไรขึ้นมาได้ แล้วเดินเข้าไปหามือถือของเธอ
“สวัสดีค่ะ นี่ใช่เบอร์อิงหรือเปล่าคะ” ว่านโทรหาอิงแต่เสียงปลายสายกลับไม่ใช่เขา
“อิงไม่อยู่จ้ะ เขาลืมมือถือไว้ที่บ้าน เดี๋ยวแม่บอกให้เขาโทรกลับตอนเขากลับมานะจ๊ะ” แม่ของชายหนุ่มตอบ
ว่านวางสายไปด้วยความผิดหวัง แล้วเดินกลับมาหาพัทที่นั่งเล่นคอยเธออยู่ที่สนามหญ้าหน้าบ้าน
“โทรหาใครอะ ดูทำหน้าเข้า” พัทเห็นสีหน้าของว่านที่ดูเศร้า
หญิงสาวไม่ตอบเพื่อนของเธอ เพราะกำลังผิดหวังที่ไม่ได้คุยกับชายหนุ่มที่เธอคิดถึงเขามาก
“ไม่ตอบ กลับก็ได้ ไว้เจอกันที่สนามบินนะ” พัทขอตัวกลับแล้วบอกลาทุกคนที่บ้านของว่าน
หลังจากที่พัทกลับไปแล้ว ว่านก็นึกถึงเต้ขึ้นมาจึงโทรไปหาชายหนุ่มที่บ้านซึ่งแม่ของเต้เป็นคนรับสายเช่นกัน
“เต้ไม่อยู่นะ วางมือถือไว้ เห็นบอกว่านัดเพื่อนไว้ ได้ยินแว่ว ๆ ว่าชื่ออิงอะไรเนี่ยแหละจ้ะ”
เมื่อว่านได้ยินชื่อของคนที่เต้ออกไปหาเธอก็รีบขออนุญาตแม่ออกไปนอกบ้านโดยอ้างว่าจะไปหาเต้ที่บ้าน
เต้เดินมาที่สะพานตามที่ใครบางคนนัดเขาให้ออกมาเจอ
“นายมีอะไรว่ามา” เต้พูดขึ้นเมื่อเดินมาเจอชายหนุ่มที่นัดเขาออกมา
“เรารู้นะ ว่านายคิดกับว่านมากกว่าเพื่อน”
อยู่ดี ๆ ชายหนุ่มตรงหน้าของเต้พูดกับเขาขึ้นมา
“นายมีอะไรกันแน่ พูดมาเลย” เต้เริ่มหงุดหงิดเพราะสงสัยว่าอิงต้องการจะสื่ออะไร
“เราเอาหัวใจที่มีค่าของใครบางคนมาคืนให้นาย”
อิงพูดแล้วยื่นแหวนให้กับเต้ เต้รับแหวนจากมือของอิงมาด้วยความสงสัยมากขึ้นไปอีก
“เราเสียใจ แต่นายคือคนที่จะดูแลหัวใจดวงนี้ได้” ชายหนุ่มพูดออกมาด้วยความรู้สึกเสียใจ
“นายเคยรักว่านบ้างหรือเปล่า” เต้ถามเพราะอยากให้เขาพูดความรู้สึกจริง ๆ ที่มีต้องหญิงสาวเพื่อนของเขา
“ว่านยังมีนาย แต่ลินไม่มีใคร”
เต้กำลังจะพูดตอบกลับ แต่เขาต้องตกใจเมื่อเห็นหญิงสาวเดินเข้ามาใกล้ ๆ ชายหนุ่มที่ยืนหันหลังให้เธออยู่
ชายหนุ่มสะดุ้งเมื่อถูกสวมกอดจากทางด้านหลัง เขารีบแกะมือของหญิงสาวออกแล้วหันมามองหน้าเธอ
“บอกว่านสักครั้งได้ไหมว่าอิงรักว่าน” หญิงสาวมองหน้าเขาด้วยสายตาที่เว้าวอนและน้ำเสียงที่สั่นเครือ
อิงมองหน้าหญิงสาวตรงหน้าด้วยความรู้สึกสงสาร เขากำลังจะยกมือขึ้นลูบผมของเธอแต่เขาก็ต้องหยุดความคิดและเอามือของเขาทันที
เต้หันหน้าหนีไม่มองคนทั้งคู่ เขายืนนิ่งและก้มหน้ามองลงไปในแม่น้ำด้วยความรู้สึกเห็นใจหญิงสาวอย่างสุดหัวใจ
“อิงรักว่าน...” ชายหนุ่มพูดออกมาช้า ๆ ทำให้ให้หญิงสาวยิ้มออกมาทั้งน้ำตาเพราะนี่คือสิ่งที่เธออยากได้ยินมากที่สุด แต่ไม่ทันที่เธอจะดีใจได้นาน ชายหนุ่มยังพูดต่อท้ายมาอีกว่า “...แค่เพื่อน”
ชายหนุ่มพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาแต่มันกลับดังก้องอยู่ในหูของหญิงสาว เธอรู้สึกหมดเรี่ยวแรงที่จะยืนขึ้นมาทันที ซึ่งเต้ที่ยืนอยู่ไม่ไกลก็ได้ยินสิ่งที่อิงพูดเช่นกัน เขารีบหันกลับมามองว่านที่ยืนร้องไห้ด้วยความเสียใจ
“ลาก่อนนะครับ เพื่อนที่แสนดี” อิงพูดจบก็เดินจากเธอไปด้วยความรู้เสียใจไม่ต่างกัน
ว่านยังพยายามรวบรวมความกล้าครั้งสุดท้ายตะโกนไล่หลังชายหนุ่มที่กำลังเดินจากเธอไป
“พรุ่งนี้ไปส่งเราที่สนามบินด้วยนะ เราจะรอ”
ชายหนุ่มได้ยินที่หญิงสาวตะโกนบอก เขาหยุดยืนนิ่งสักพักแล้วค่อยเดินต่อโดยไม่หันมามองเธออีก
เต้เดินมากอดหญิงสาวที่ยังคงยืนร้องไห้อยู่
“กลับบ้านกันเถอะ” เต้พูดขึ้นแล้วจูงมือพาว่านเดินกลับบ้านซึ่งมืออีกข้างของเขายังคงกำแหวนที่พึ่งได้รับจากอิงก่อนหน้านี้ เขาไม่กล้าคืนแหวนให้กับว่านตอนนี้เพราะกลัวว่าเธอจะเสียใจมากขึ้นไปอีก
ค่ำคืนนี้อาจจะเป็นค่ำคืนยาวนานสำหรับใครหลาย ๆ คน และไม่สามารถจะข่มตาหลับได้
เมื่อพบก็มีจาก เมื่อมีรักก็มีทุกข์ เป็นสัจธรรมที่เราต้องยอมรับมัน
“เต้ วันนี้ว่านไม่ไปเรียนนะ พอดีว่านไม่ค่อยสบาย” พี่หว้าบอกชายหนุ่มที่มายืนรอน้องสาวของเธอ
“ฝากบอกว่านด้วยนะครับว่าหายเร็ว ๆ เดี๋ยวผมไปเรียนก่อน สวัสดีครับ” เต้ยกมือไหว้พี่ลูกหว้าแล้วชายหนุ่มก็ถีบจักรยานไปถึงหน้าหมู่บ้าน
ในใจของชายหนุ่มรู้สึกไม่สบายใจ เพราะเขาคิดว่าหญิงสาวต้องเป็นอะไรที่มากกว่าไม่สบายธรรมดา
“เต้ แล้วว่านล่ะ” พัทถามขึ้นเมื่อเห็นชายหนุ่มเดินเข้าห้องเรียนมาคนเดียวโดยไร้เงาของหญิงสาวเพื่อนสนิทของเขา
ชายหนุ่มนั่งลงข้าง ๆ พัท แล้วถอนหายใจออกมา
“พี่หว้าบอกว่าว่านไม่สบาย เราถามอะไรหน่อยสิ” เต้หันมองหน้าพัทแล้วทำสีหน้าเคร่งเครียด
“ถามจริง ๆ เถอะ เมื่อวานพัทพาว่านไปไหนมา” ชายหนุ่มตั้งคำถามด้วยสีหน้าจริงจัง
พัทอึกอักอยู่นานแต่ไม่ทันที่จะตอบอะไร อาจารย์ก็เดินเข้ามาในห้องเรียนพอดี ทำให้หญิงสาวต้องกระซิบบอกว่าจะเล่าให้ฟังหลังเลิกเรียน
“แม่ตัวดีจะเล่าได้หรือยังว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อวาน” เต้พูดขึ้นเมื่อพาพัทมานั่งตรงม้านั่งข้างคณะเรียน
“โอเค เราจะเล่าให้ฟังเดี๋ยวนี้ล่ะ”
หญิงสาวเล่าเหตุการณ์ที่เธอพาว่านตามอิงไป เมื่อชายหนุ่มได้ฟังเรื่องทั้งหมดก็ถอนหายใจออกมาอีก
“เราก็เป็นห่วงว่านเหมือนกัน ไปบ้านว่านกันไหม เราอยากไปดูหน่อยว่าว่านเป็นยังไงบ้าง” พัทชวนเต้ไปหาว่านที่บ้าน เพราะเธอรู้สึกเป็นห่วงเพื่อนของเธออย่างมาก
เต้ไม่รีรอตอบตกลงทันที แล้วพัทก็ขับรถพาเต้ไปที่บ้านของว่าน
“สวัสดีค่ะพี่หว้า พัทมาเยี่ยมว่านน่ะค่ะเห็นวันนี้เต้บอกว่าว่านไม่สบายเลยไม่ได้ไปเรียน” พัทกล่าวทักทายและบอกจุดประสงค์ที่เธอมา
“เข้าไปในบ้านกันก่อนนะ” ลูกหว้าเปิดประตูให้พัทกับเต้เดินเข้ามานั่งในบ้าน
“คุณแม่ไม่อยู่เหรอคะ” พัทถามขึ้นเมื่อเธอมองไปรอบ ๆ บ้านแล้วไม่เห็นแม่ของเพื่อน
“คุณแม่ออกไปซื้อของที่ตลาด ดื่มน้ำกันก่อนนะ มากันก็ดีแล้ว พี่อยากจะถามเราสองคนพอดีว่ารู้ใช่ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นกับว่าน” ลูกหว้าเริ่มถามหาสาเหตุที่ทำให้น้องสาวเธอไม่สบาย และเก็บตัวอยู่บนห้อง
“พัทคิดว่าพัททราบค่ะ ให้พัทขึ้นไปคุยกับว่านได้ไหมคะ”
ลูกหว้ายิ้มแล้วพยักหน้าเมื่อได้ยินพัทถาม และเมื่อพัทเดินขึ้นบันไดไป เต้ก็หันมาเล่าทุกอย่างที่รู้เรื่องมาจากพัทให้พี่หว้าได้รับรู้
“ก๊อก ๆ” เสียงใครคนหนึ่งเคาะประตู
“พี่หว้าเหรอคะ เข้ามาได้เลยค่ะ ว่านไม่ได้ล็อกประตู” ว่านบอกคนที่มายืนเคาะประตูให้เข้ามาซึ่งเธอคิดว่าเป็นพี่สาวของเธอ
พัทค่อย ๆ เปิดประตูแล้วเดินเข้าห้องมา
“ว่านเป็นยังไงบ้าง” พัทถามด้วยความเป็นห่วง
น้ำตาค่อย ๆ ไหลออกมาจากตาของหญิงสาวเมื่อได้ยินเพื่อนสาวถามขึ้นมา พัทเดินเข้าไปกอดและปลอบเพื่อนของเธอ
“ไม่เป็นไรนะ ช่างมันสวย ๆ อย่างเราหาใหม่ได้อีกเยอะ ยังไงว่านยังมีเรา เต้ แม่และก็พี่หว้าที่รักและเป็นห่วงว่านนะ”
ยิ่งพัทพูดปลอบก็ยิ่งทำให้ว่านร้องไห้ออกมาอีก พัทยังคงกอดและลูบหลังเพื่อนของเธอไว้
“ร้องให้เต็มที่ พรุ่งนี้จะได้ไม่ต้องร้องอีก”
ว่านร้องไห้จนพอแล้ว หญิงสาวเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาเลอะหน้าของเธอไปหมด ว่านมองหน้าพัทแล้วจับมือเพื่อนของเธอมากุมไว้
“พัท เราจะไปอยู่ที่อังกฤษกับพี่หว้า พรุ่งนี้เราจะไปทำเรื่องลาออกจากมหาวิทยาลัยและก็ไปทำวีซ่า วันที่เราเดินทางพัทต้องไปส่งเรานะ”
พัทตกใจเมื่อได้ยินสิ่งที่เพื่อนของเธอบอก
“ห๊ะ! อะไรกัน ทำไมกะทันหันขนาดนี้ ว่านจะทิ้งเราไปจริง ๆ เหรอ”
“เราขอโทษที่บอกกะทันหันแบบนี้ พี่หว้ามีคุยกับเรานานแล้ว แต่เรายังตัดสินใจไม่ได้ แต่คราวนี้เราคิดว่าเราคงต้องไปจริง ๆ” ว่านตอบแล้วยิ้มออกมาแบบเศร้า ๆ ซึ่งนัยน์ตาของเธอยังคงมีน้ำตาคลออยู่
“ว่าน ไม่ว่ายังไง ไม่ว่าว่านจะอยู่ที่ไหน พัทคนนี้ก็ยังเป็นเพื่อนที่รักและหวังดีกับว่านนะ ถ้าไปอยู่ที่นู่นคิดถึงเราก็กลับมานะ” พัทพูดจบก็กอดเพื่อนเธออีกครั้ง
“พัทต้องขอตัวกลับแล้วนะคะ ว่านนอนพักไปแล้ว ไว้พัทมาใหม่นะคะ” พัทเอ่ยลาแม่และพี่หว้า
“เธอขึ้นไปคุยอะไรกับว่านมา แล้วว่านเป็นยังไงบ้าง” เต้รีบถามขึ้นเมื่อเดินออกจากบ้านของว่าน
“นายรู้เรื่องว่านจะไปอยู่อังกฤษแล้วใช่ไหม เศร้าเนอะ เราน่าจะเชียร์ให้นายบอกชอบว่านมากกว่าพาว่านไปรู้จักคนแบบนั้น เราขอโทษ เราเสียใจจริง ๆ” พัทพูดด้วยความรู้สึกเสียใจเพราะเธอคิดว่าเธอเป็นต้นเหตุทำให้ว่านต้องเสียใจ
“ไม่ต้องคิดมากหรอก ต่อให้ไม่มีอิง เราก็ไม่กล้าที่จะบอกอะไรกับว่าน เราขอแค่เป็นเพื่อนที่ดีกับเขาดีกว่าถ้าเราบอกไปแล้วไม่ได้เป็นอะไรเลย” ชายหนุ่มก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เศร้าสร้อยเช่นกัน
พัทเดินมาที่คณะจิตรกรรมเพื่อตามหาใครบางคน และเธอก็พบเขาจนได้ ซึ่งชายหนุ่มกำลังนั่งวาดรูปอยู่
“อิง เราขอคุยด้วยหน่อยสิ” พัทพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“มีอะไรเหรอ” ชายหนุ่มวางดินสอในมือลง แล้วหันมาถามหญิงสาวที่มายืนอยู่ข้าง ๆ
“นายไม่รู้จริง ๆ หรือแกล้งไม่รู้ นายจะไม่ถามหรือสนใจหน่อยเหรอว่าว่านหายไปไหน” พัทพูดด้วยความโมโหที่ได้ยินคำถามจากชายหนุ่มที่ดูเหมือนจะไม่รู้สึกอะไรเลย
“ไม่รู้” ชายหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“ทำไมนายเป็นคนแบบนี้เนี่ย เราผิดหวังในตัวนายจริง ๆ อ้อ! เราแค่จะมาบอกว่าครอบครัวว่านจะย้ายไปอยู่ที่อังกฤษ จะไปวันจันทร์นี้ ถ้ายังพอมีหัวใจอยู่บ้างก็ไปส่งว่านด้วยนะ” พัทพูดทิ้งท้ายก่อนที่จะสะบัดหน้าแล้วเดินกลับคณะของเธอไปด้วยความโมโหที่เห็นชายหนุ่มตรงหน้าทำเหมือนไม่สนใจเพื่อนของเธอเลย
หลังจากหญิงสาวเดินกลับไป อิงขยำกระดาษที่เขากำลังวาดรูปอยู่แล้วโยนทิ้งไว้ข้างตัวของเขา ด้วยความรู้สึกโมโหและเสียใจในการกระทำของตน
ช่วงเย็นวันเดียวกัน พัทรีบไปหาว่านที่บ้านเพื่อไปช่วยเพื่อนของเธอเก็บข้าวของที่จะนำไปอังกฤษด้วย
“ของเยอะจังเลย เออ! แล้วบ้านนี้จะทำยังไง” พัทถามด้วยความอยากรู้
“เห็นพี่หว้ากับแม่บอกว่าจะให้คนเช่า แต่ก็ไม่แน่ก็อาจจะขาย เราก็ไม่ค่อยรู้อะไรมาก แต่ช่วงแรก ๆ คงฝากให้ที่บ้านเต้ช่วยดูแลให้ก่อน” ว่านตอบขณะที่เธอยังคงเก็บข้าวของแพ็คลงกล่อง
พัทเห็นว่านหยิบม้วนกระดาษใส่ไปในกล่องด้วย พัทยื่นมือไปหยิบมันขึ้นมาดู
“จะเอาไปด้วยเหรอ” พัทถามขึ้นเมื่อเห็นว่าเป็นภาพที่อิงเคยวาดให้ว่าน
ว่านได้ยินที่เพื่อนของเธอถามก็นั่งลงกับพื้นก่อนที่จะถอนหายใจออกมา
“เราอยากเจออิงอีกสักครั้ง” ว่านพูดแล้วทำหน้าเศร้า แต่ในใจของเธอก็ยังหวังซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่าจะหวังอะไร
เมื่อสองสาวเหนื่อยจากการจัดของก็พากันลงไปนั่งเล่นที่หน้าบ้าน
“พัทเราขอไปโทรศัพท์ก่อนนะ” ว่านพูดขึ้นเมื่อเธอคิดอะไรขึ้นมาได้ แล้วเดินเข้าไปหามือถือของเธอ
“สวัสดีค่ะ นี่ใช่เบอร์อิงหรือเปล่าคะ” ว่านโทรหาอิงแต่เสียงปลายสายกลับไม่ใช่เขา
“อิงไม่อยู่จ้ะ เขาลืมมือถือไว้ที่บ้าน เดี๋ยวแม่บอกให้เขาโทรกลับตอนเขากลับมานะจ๊ะ” แม่ของชายหนุ่มตอบ
ว่านวางสายไปด้วยความผิดหวัง แล้วเดินกลับมาหาพัทที่นั่งเล่นคอยเธออยู่ที่สนามหญ้าหน้าบ้าน
“โทรหาใครอะ ดูทำหน้าเข้า” พัทเห็นสีหน้าของว่านที่ดูเศร้า
หญิงสาวไม่ตอบเพื่อนของเธอ เพราะกำลังผิดหวังที่ไม่ได้คุยกับชายหนุ่มที่เธอคิดถึงเขามาก
“ไม่ตอบ กลับก็ได้ ไว้เจอกันที่สนามบินนะ” พัทขอตัวกลับแล้วบอกลาทุกคนที่บ้านของว่าน
หลังจากที่พัทกลับไปแล้ว ว่านก็นึกถึงเต้ขึ้นมาจึงโทรไปหาชายหนุ่มที่บ้านซึ่งแม่ของเต้เป็นคนรับสายเช่นกัน
“เต้ไม่อยู่นะ วางมือถือไว้ เห็นบอกว่านัดเพื่อนไว้ ได้ยินแว่ว ๆ ว่าชื่ออิงอะไรเนี่ยแหละจ้ะ”
เมื่อว่านได้ยินชื่อของคนที่เต้ออกไปหาเธอก็รีบขออนุญาตแม่ออกไปนอกบ้านโดยอ้างว่าจะไปหาเต้ที่บ้าน
เต้เดินมาที่สะพานตามที่ใครบางคนนัดเขาให้ออกมาเจอ
“นายมีอะไรว่ามา” เต้พูดขึ้นเมื่อเดินมาเจอชายหนุ่มที่นัดเขาออกมา
“เรารู้นะ ว่านายคิดกับว่านมากกว่าเพื่อน”
อยู่ดี ๆ ชายหนุ่มตรงหน้าของเต้พูดกับเขาขึ้นมา
“นายมีอะไรกันแน่ พูดมาเลย” เต้เริ่มหงุดหงิดเพราะสงสัยว่าอิงต้องการจะสื่ออะไร
“เราเอาหัวใจที่มีค่าของใครบางคนมาคืนให้นาย”
อิงพูดแล้วยื่นแหวนให้กับเต้ เต้รับแหวนจากมือของอิงมาด้วยความสงสัยมากขึ้นไปอีก
“เราเสียใจ แต่นายคือคนที่จะดูแลหัวใจดวงนี้ได้” ชายหนุ่มพูดออกมาด้วยความรู้สึกเสียใจ
“นายเคยรักว่านบ้างหรือเปล่า” เต้ถามเพราะอยากให้เขาพูดความรู้สึกจริง ๆ ที่มีต้องหญิงสาวเพื่อนของเขา
“ว่านยังมีนาย แต่ลินไม่มีใคร”
เต้กำลังจะพูดตอบกลับ แต่เขาต้องตกใจเมื่อเห็นหญิงสาวเดินเข้ามาใกล้ ๆ ชายหนุ่มที่ยืนหันหลังให้เธออยู่
ชายหนุ่มสะดุ้งเมื่อถูกสวมกอดจากทางด้านหลัง เขารีบแกะมือของหญิงสาวออกแล้วหันมามองหน้าเธอ
“บอกว่านสักครั้งได้ไหมว่าอิงรักว่าน” หญิงสาวมองหน้าเขาด้วยสายตาที่เว้าวอนและน้ำเสียงที่สั่นเครือ
อิงมองหน้าหญิงสาวตรงหน้าด้วยความรู้สึกสงสาร เขากำลังจะยกมือขึ้นลูบผมของเธอแต่เขาก็ต้องหยุดความคิดและเอามือของเขาทันที
เต้หันหน้าหนีไม่มองคนทั้งคู่ เขายืนนิ่งและก้มหน้ามองลงไปในแม่น้ำด้วยความรู้สึกเห็นใจหญิงสาวอย่างสุดหัวใจ
“อิงรักว่าน...” ชายหนุ่มพูดออกมาช้า ๆ ทำให้ให้หญิงสาวยิ้มออกมาทั้งน้ำตาเพราะนี่คือสิ่งที่เธออยากได้ยินมากที่สุด แต่ไม่ทันที่เธอจะดีใจได้นาน ชายหนุ่มยังพูดต่อท้ายมาอีกว่า “...แค่เพื่อน”
ชายหนุ่มพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาแต่มันกลับดังก้องอยู่ในหูของหญิงสาว เธอรู้สึกหมดเรี่ยวแรงที่จะยืนขึ้นมาทันที ซึ่งเต้ที่ยืนอยู่ไม่ไกลก็ได้ยินสิ่งที่อิงพูดเช่นกัน เขารีบหันกลับมามองว่านที่ยืนร้องไห้ด้วยความเสียใจ
“ลาก่อนนะครับ เพื่อนที่แสนดี” อิงพูดจบก็เดินจากเธอไปด้วยความรู้เสียใจไม่ต่างกัน
ว่านยังพยายามรวบรวมความกล้าครั้งสุดท้ายตะโกนไล่หลังชายหนุ่มที่กำลังเดินจากเธอไป
“พรุ่งนี้ไปส่งเราที่สนามบินด้วยนะ เราจะรอ”
ชายหนุ่มได้ยินที่หญิงสาวตะโกนบอก เขาหยุดยืนนิ่งสักพักแล้วค่อยเดินต่อโดยไม่หันมามองเธออีก
เต้เดินมากอดหญิงสาวที่ยังคงยืนร้องไห้อยู่
“กลับบ้านกันเถอะ” เต้พูดขึ้นแล้วจูงมือพาว่านเดินกลับบ้านซึ่งมืออีกข้างของเขายังคงกำแหวนที่พึ่งได้รับจากอิงก่อนหน้านี้ เขาไม่กล้าคืนแหวนให้กับว่านตอนนี้เพราะกลัวว่าเธอจะเสียใจมากขึ้นไปอีก
ค่ำคืนนี้อาจจะเป็นค่ำคืนยาวนานสำหรับใครหลาย ๆ คน และไม่สามารถจะข่มตาหลับได้
เมื่อพบก็มีจาก เมื่อมีรักก็มีทุกข์ เป็นสัจธรรมที่เราต้องยอมรับมัน
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ