โอรีเวีย ( เมืองต้องสาป )

7.3

เขียนโดย shilen

วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 18.27 น.

  188 บทที่
  11 วิจารณ์
  138.03K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 20.35 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

94) ชั่วโมงปรุงยา

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
เมื่อพวกเขาย้ายมาอยู่ที่บ้านหลังใหม่แล้ว   การดำเนินชีวิตก็เปลี่ยนไป   เด็กทั้งสองต้องตื่นแต่เช้า   เดินย่ำบนทุ่งหญ้าเพื่อไปให้ถึงถนนสายหนึ่งแล้วรอรถขึ้นม้าโดยสารจากที่นั่น   ระยะทางก็ไกลขึ้นทำให้ต้องลำบากมากขึ้น   แต่อย่างน้อยก็ได้อยู่พร้อมหน้า   ทุกอย่างก็ถือว่าดีที่สุดแล้ว   อันที่จริงตอนอยู่ซีนาร์ยพวกเขาก็ใช้ชีวิตแบบนี้   ต้องเดินทางไกลผ่านทุ่งหญ้ากว้างใหญ่   เพื่อเข้าไปเรียนในเมือง   ดังนั้นการที่พวกเขาย้ายออกมาอยู่นอกเมืองด้วยวิถีชีวิตแบบนี้    จึงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่แต่อย่างใด
 
 
“ เจ้าไม่ย้ายเข้ามาอยู่หอนอนเลยล่ะ ”
 
โลธอร์ว่า
ในขณะที่พวกเขากำลังรออาจารย์พาเนลาปี
ผู้ที่จะมาสอนวิชาสมุนไพรศาสตร์แก่พวกเขา
 
“ ใช่   พวกเราคิดถึงเจ้ามาก   แต่จะไปหาก็ลำบาก ”
 
อีเลียสว่าบ้าง
 
“ ถ้าเช่นนั้นวันหยุดนี้ก็ไปสิ   กลางทุ่งน่ะมีเรื่องสนุกมากมาย   หรือพวกเจ้าจะนอนค้างก็ยังไหว   แต่คงต้องเบียดกันหน่อยเพราะบ้านข้าเล็กมาก ”
 
ฟิโลโซเฟอร์เสนอ
 
“ นอกกำแพงเมืองน่ะหรือ   ไม่ดีกว่ามั้ง ”
 
เลโอน่าทำท่าขนลุก
 
“ จะเป็นไรไปล่ะ   ตอนนี้ประตูเมืองก็เปิดตลอดแล้ว   จะนอกเมืองหรือในเมืองก็ไม่ต่างกัน ”
 
ฟีไลร่าว่า
 
“ ข้าอยากไป   ตกลงวันหยุดไปด้วยกันนะ ”
 
เด็กชายชาวซีนาร์ยได้ตอบตกลง
และเขาจะปรึกษาเรื่องนี้กับบิดาอีกครั้ง
 
อาจารย์พาเนลาปีได้เดินเข้ามาหลังจากนั้นไม่นาน
นางบอกว่าเอลฟ์สโนว์หมักได้ที่แล้ว
 
และสั่งให้นักเรียนหยิบโถแก้วของแต่ละกลุ่มกลับไป
จากนั้นก็สอนวิธีผสมน้ำผึ้งและน้ำต้มจากใบโคคาเพื่อเจือจาง
 
เด็กๆ ต่างรู้สึกตื่นเต้นกันมาก
กับความรู้สึกที่ได้ทำตัวเหมือนผู้ใช้เวทมนตร์
 
เว้นแต่กลุ่มของฟิโลโซเฟอร์
ที่มีท่าทีกดดันอย่างเห็นได้ชัด
 
นั่นเป็นเพราะดารีลได้บอกถึงเภทภัย
หากมีความผิดพลาดเกิดขึ้น
 
“ อย่าเผลอชิมเด็ดขาดนะ ”
 
ฟิโลโซเฟอร์หันไปเตือนเพื่อนร่างอ้วน
เพราะเขารู้ว่าคนๆ นี้มักจะสะเพร่า
ต้องมีตัวเอลฟ์หล่นลงไปในน้ำนมของโลธอร์แน่
 
อีเลียสมีท่าทีเคร่งขรึม
แม้เขาจะมั่นใจว่าได้กรองเอาตัวเอลฟ์ออกหมดแล้ว
แต่เรื่องเสี่ยงตายขนาดนี้เขาก็ไม่อยากลอง
 
“ แน่ใจนะ   ที่ดารีลบอกว่าน้ำนมเอลฟ์สโนว์ที่กรองอย่างถูกวิธี   จะถอนพิษจากตัวเอลฟ์ได้ ”
 
เขาหันมาถามฟิโลโซเฟอร์
 
“ ดารีลไม่โกหกแน่   ปัญหาคือเรามีโถที่ปรอดภัยเพียงพอหรือไม่   และต้องเป็นน้ำนมที่ไม่ได้ผสมอะไร ”
 
เด็กชายตอบ
 
แต่เลโอน่าสวนกลับมาว่า
 
“ ไม่ใช่พอหรือไม่พอ   ปัญหาคือโถไหนปรอดภัยต่างหากล่ะ ”
 
“ ฟีไลร่า ”
 
ฟิโลโซเฟอร์หันมาหาเด็กหญิงผมสีเงินที่นั่งข้างๆ
 
“ เจ้ามั่นใจนะ ”
 
นางหัวเราะแห้งๆ แล้วบอกว่า
 
“ มั่นใจ   แต่ไม่กล้าชิมอย่างแน่นอน ”
 
“ แย่จริง   ห้องพยาบาลจะมียาพอหรือเปล่า ”
 
อีเลียสเริ่มกังวล
 
“ ดารีลบอกว่าถ้ามันมีความเข้มข้นพอ   คนที่ได้รับพิษจะเสียชีวิตในเวลาไม่นาน ”
 
เด็กชายชาวซีนาร์ยบอก
เขาแอบแบ่งน้ำนมของเขาเอาไว้ก่อนที่จะผสมตัวยาอย่างอื่นลงไป
ถึงแม้จะไม่ค่อยแน่ใจว่าโถของเขาปลอดภัยหรือไม่
 
และถ้าเขาคิดผิดในโถนี้เกิดมีตัวเอลฟ์ร่วงลงไปด้วย
สิ่งที่เขาแบ่งไว้ก็คือยาพิษเข้มข้นดีๆ นี่เอง
 
แล้วสิ่งที่น่ากลัวก็ได้เกิดขึ้น
เมื่ออาจารย์พาเนลาปีบอกให้นักเรียนชิมยาของตนเอง
 
เด็กๆ ต่างก็ทำตาม
แต่กลุ่มของฟิโลโซเฟอร์แกล้งทำเป็นจิบเท่านั้น
แล้วก็มองหน้ากันด้วยอาการหวาดกลัว
 
ส่วนอาจารย์ผู้สอนนั้น
รู้สึกปลื้มปริ่มกับสิ่งที่ตนได้ทำลงไป
จนถึงกับขอชิมจากนักเรียนคนหนึ่ง
 
“ นางเป็นมือหนึ่งด้านสมุนไพรศาสตร์จริงๆ หรือ   ข้าหวังพึ่งนาง   แต่นางดื่มไปแล้ว   หวังว่าโถนั้นจะไม่เป็นพิษนะ ”
 
โลธอร์หันไปกระซิบกับคู่หูร่างผอมบาง
 
แต่ดูเหมือนความหวังนั้นจะพังทลาย
เมื่ออาจารย์พาเนลาปีได้ล้มลง
ตามด้วยนักเรียนอีกหลายคน
 
โลธอร์พุ่งตัวออกจากห้อง
มุ่งสู่ห้องพยาบาล
แม้ร่างจะตุ้ยนุ้ยแต่กลับทำความเร็วได้ดีทีเดียว
 
“ ส่งโถของเจ้ามา ”
 
เลโอน่าชี้นิ้วสั่งนักเรียนคนหนึ่งที่ไม่มีอาการอะไร
เพราะนั่นหมายถึงโถของเด็กคนนั้นปรอดภัย
 
“ ไม่ได้   ต้องเป็นน้ำนมที่ยังไม่ได้ผสมตัวยาอื่น   พวกเจ้ามีหรือไม่ ”
 
อีเลียสถาม
เด็กๆ กลุ่มนั้นต่างส่ายหน้าด้วยท่าทีตื่นตระหนก
 
ฟิโลโซเฟอร์ลองเอายาในโถของตัวเองทาหลังมือ
เขารู้สึกแค่เย็นๆ และรอยแผลเป็นดูจางลง
จึงคิดจะลองเสี่ยง
เพราะตอนนี้เหลือเวลาไม่มากแล้ว
 
เด็กชายเดินไปที่ตู้เก็บของเพื่อค้นหาช้อน
ทันทีที่เปิดประตูตู้เขาก็ได้กลิ่นหอมที่คุ้นเคย
 
มันมาจากกระดาษแผ่นหนึ่งวางอยู่ข้างๆ เหยือกโลหะสีเงิน
ซึ่งแตกต่างจากของใช้ทุกอย่างในห้องนี้
เขาหยิบขึ้นมาดู
 
ก็พบเข้ากับตัวอักษรที่สวยงามเป็นระเบียบ
เขียนไว้ว่า
 
‘ คนละหนึ่งหยดเท่านั้น   แล้วหาเวลาไปยกเลิกวิชานี้เสียเจ้าเด็กทึ่ม ’
 
ฟิโลโซเฟอร์ดีใจเป็นอย่างมาก
โดยไม่เสียเวลาคิด
เขาฉวยเหยือกโลหะพร้อมกับช้อนแก้วคันเล็ก
นำไปหยดให้กับผู้ได้รับพิษทุกคน
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา