โอรีเวีย ( เมืองต้องสาป )

7.3

เขียนโดย shilen

วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 18.27 น.

  188 บทที่
  11 วิจารณ์
  141.40K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 20.35 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

85) ห้องของดารีล

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เด็กชายชาวซีนาร์ยผู้ต้องพลัดถิ่นมาอยู่ต่างบ้านต่างเมือง   รู้สึกสบายใจและผ่อนคลายมากขึ้น   เขามองไปที่ตัวคฤหาสน์   หลังคาสีดำถูกคลุมทับด้วยกุหลาบเลื้อยจนแทบมองไม่เห็น   แล้วเขาก็เกิดคำถามหนึ่งขึ้นมาในจิตใจ   จึงหันไปถามดารีล

 

“ ห้องส่วนตัวของเจ้าอยู่ฝั่งไหน   ชั้นบนหรือชั้นล่าง ”

 

“ ชั้นบน   แต่แน่นอนว่าต้องไม่ใช่ห้องใต้หลังคา ”

 

ดารีลตอบ

 

“ ห้องใต้หลังคาก็ดีนะ   ข้าอยู่มาตลอดแต่เจ้าคงไม่ชิน ”

 

เด็กชายว่าแล้วเกิดความคิดหนึ่ง

 

“ เช่นนั้นข้าขอไปดูห้องส่วนตัวของเจ้าได้หรือไม่ ”

 

อีเลียสยืดตัวขึ้นทันที

ความสงสัยใคร่รู้ของเขามีมากพอสมควร

 

“ มันไม่ใช่ที่ๆ คนทั่วไปจะเข้าไปได้ ”

 

แต่เมื่อเห็นฟิโลโซเฟอร์มีท่าทีที่ผิดหวังเขาจึงว่า

 

“ หากพวกเจ้าสัญญาว่า   จะระวังมือและระวังคำพูด   ข้าก็สามารถพาเข้าไปได้อยู่หรอก ”

 

เด็กๆ ต่างรับคำด้วยท่าทีกระตือรือร้น

ดังนั้นดารีลจึงนำเด็กกลุ่มนั้นไปแต่เข้าคนละประตูกับส่วนที่เป็นโรงน้ำชา

 

พาไต่บันไดเวียนขึ้นไปจนถึงชั้นบนสุด

จนไปถึงห้องๆ หนึ่งที่ดูแตกต่างจากบานอื่นโดยสิ้นเชิง

 

บานประตูทำจากเหล็กกล้าสลักลวดลายชวนขนหัวลุก

ดารีลยืนหันหลังชนบานเหล็กนั้นแล้วประตูก็ค่อยๆ เปิดออก

 

กลิ่นกำยานทะลักออกมาเป็นอันดับแรก

ตามมาด้วยกลิ่นแปลกๆ อีกมากมาย

 

ภายในห้องนั้นมืดมิดแม้จะเป็นเวลากลางวัน

และคลุ้งไปด้วยควันสีเทาอ่อน

 

ดารีลดีดนิ้วครั้งหนึ่ง

ไฟตามเชิงเทียนและตะเกียงเล็กๆ ก็ติดพรึบขึ้น

 

“ ระวังตัวด้วย ”

 

พ่อมดน้อยบอก

 

“ แบบนี้เจ้าไม่สำลักควันตายก่อนหรือไง ”

 

ฟิโลโซเฟอร์ว่าเขายังไม่กล้าเดินเข้าไป

กลัวจะชนเอาข้าวของสำคัญเข้า

 

“ ข้าชินแล้ว ”

 

ดารีลว่าพลางเดินไปเปิดหน้าต่าง

ภายในห้องจึงสว่างขึ้นอีก

และสายลมได้หอบเอากลุ่มควันลอยคลุ้งออกไปด้านนอก

 

เด็กๆ ทยอยมายืนออกันอยู่หน้าประตูเข้า

นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้สัมผัสกับโลกส่วนตัวของผู้ใช้เวทมนตร์

 

ที่ๆ น้อยคนนักจะได้รับอนุญาตให้มาเยือน

ภายในห้องเต็มไปด้วยตู้และชั้นเก็บของต่างๆ มากมาย

 

แต่ที่ดึงดูดทุกสายตา

คือสิ่งที่แขวนอยู่กลางห้อง

 

ซากกวางมูสแห้งกรังตัวหนึ่งลอยคว้างอยู่ตรงนั้น

ส่วนหัวที่มีเขาขนาดใหญ่ห้อยต่ำลงมา

 

เบื้องล่างคือหม้อหกใบที่อยู่ในวงล้อมของดาวห้าแฉก

ลายเส้นที่วาดเป็นดาวนั้นมีสีดำคล้ำแตกระแหงชวนให้คิดไปว่ามันคือรอยเลือด

 

อีเลียสถึงกับตะลึงอ้าปากค้าง

เขาชี้มือไปยังสิ่งของตรงหน้าด้วยอาการสั่นเทา

 

“ นั่นมันพิธีกรรมของศาสตร์มืดมิใช่หรือ ”

 

“ ผู้คนต่างกล่าวกันว่า ”

 

ดารีลพูดขึ้นด้วยท่าทีที่ไม่เดือดร้อน

 

“ ไม่มีใครสามารถแทนที่ท่านอาเทมิสได้   แต่วันนี้ข้าได้เห็น   ผู้รอบรู้คนหนึ่งซึ่งตอนนี้ยืนอยู่เบื้องหน้าของข้านี่เอง   เจ้าเดาได้ถูกต้อง   สิ่งนั้นมันเกี่ยวข้องกับศาสตร์มืด ”

 

เขาว่าพลางเติมผงกำยานเพิ่มลงในกระถางไฟ

กลิ่นกำยานที่ชัดเจนอยู่แล้วยิ่งเข้มข้นขึ้นไปอีก

 

“ เจ้าชอบกำยานขนาดนั้นเลยหรือ ”

 

ฟิโลโซเฟอร์ถาม

เพราะเขารู้สึกว่ากลิ่นระดับนี้ยังไม่จำเป็นต้องเผาเพิ่ม

 

“ ก็ส่วนหนึ่ง   ข้าปรุงยาต้องห้ามไอของมันย่อมมีพิษ   กำยานมีคุณสมบัติต่อต้านมนต์ดำ   ดังนั้นจึงจำเป็นต้องจุดไว้ตลอด   และในเมื่อมีพวกเข้าอยู่ที่นี่ด้วยข้าจึงต้องเพิ่มปริมาณกำยาน   เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเจ้าทั้งหมดจะปลอดภัย ” 

 

ดารีลอธิบาย

 

“ เช่นนั้นถ้าเราพกกำยานไว้กับตัวให้มากพอ   ก็ไม่จำเป็นต้องเกรงกลัวมนต์ดำแล้วใช่หรือไม่ ”   

 

อีเลียสถามบ้าง

 

“ ถูกต้อง   แต่ปัญหาคือกำยานแต่ละประเภทมีส่วนประกอบที่หลากหลาย   ความสามารถในการต้านมนต์ดำก็แตกต่างกันออกไป   คำว่ามากพอของเจ้าจึงหมายถึงปริมาณที่มหาศาลเลยที่เดียว   ในบางกรณีมันก็ใช้ได้ผลดีอยู่หรอก   สำหรับบางกรณีข้าว่าวิ่งหนียังจะมีโอกาสรอดมากกว่า ”

 

เด็กน้อยร่างผอมยังสนใจหม้อต้มทั้งหกอยู่มาก

แต่ดารีลก็ไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติม

 

เพียงแต่เตือนว่าให้ระวังวงแหวนเวทซึ่งก็คือเส้นวาดทึบๆ สีดำตรงพื้น

อย่าได้เผลอก้าวล้ำเข้าไป

 

โลธอร์กระซิบกับเพื่อนเบาๆ ว่า

 

“ เอาจริงๆ นะ   สภาพแบบนี้แถวบ้านข้าไม่ได้เรียกห้องนอน   เขาเรียกว่าห้องเก็บของ ”

 

ซึ่งก็เหมือนจะจริงดังนั้นทั้งห้องเต็มไปด้วยตู้และชั้นเก็บของตั้งเรียงราย

ทั้งของแห้ง   ของสดและของดอง

 

ยังไม่รวมวัตถุประหลาดก้อนแร่

รวมทั้งหนังสือเก่าแก่อีกมากมาย

 

แต่ทุกอย่างถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ

ทั่วทั้งห้องก็ดูสะอาดสะอ้าน

 

“ นี่ดารีล   ไหนล่ะเตียงของเจ้า   อย่าบอกนะว่าผู้ใช้เวทมนตร์นอนไม่เป็น ”

 

ฟิโลโซเฟอร์ถาม

เขาเองก็นึกสงสัยว่านี่จะเป็นห้องเก็บของอย่างที่โลธอร์ว่า

 

ดารีลชี้ไปที่มุมห้องด้านหนึ่ง

มันเป็นที่ว่างเล็กๆ แต่ก็เล็กเกินกว่าจะล้มตัวลงนอนอยู่ดี

 

ทุกคนจ้องเขม็งไปที่จุดนั้น

แล้วหันกลับมามองหน้ากันเอง

 

อีเลียสสะกิดเด็กชายชาวซีนาร์ย

เขาอยากรู้คำตอบถึงความพิลึกนี้

 

ฟิโลโซเฟอร์จึงได้ตั้งคำถามต่อ

 

“ ไม่คิดว่ามันจะเล็กเกินไปหรือ   แล้วเจ้านอนได้อย่างไร   ไหนที่นอนไหนผ้าห่ม ”

 

ดารีลจึงเดินไปที่จุดนั้น

นั่งลงในท่าชันขา

แล้ววางคางลงเหนือเข่าของตนเอง

 

“ บ้าจริง   บ้านของเจ้าออกกว้างขวาง   เหตุใดไม่ย้ายไปนอนห้องข้างๆ แบบนี้ไม่ใช่การนอนหรอก ”

 

“ ทำไมล่ะ   จากจุดนี้ข้าสามารถมองเห็นหม้อต้มครบทุกใบ   ถ้าให้ย้ายไปที่อื่นแล้วใครจะเฝ้าหม้อให้ข้าล่ะ ”

 

ดารีลว่าพลางชี้นิ้วไปที่หม้อใหญ่ทั้งหกใบที่กำลังเดือดปุดๆ

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา