โอรีเวีย ( เมืองต้องสาป )

“ เดิมทีตระกูลนี้เป็นค่ายฝึกนักรบผู้กล้าที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ก่อนจะผันตัวมาเป็นนักฆ่าและหน่วยลอบสังหาร   ซึ่งพวกเขาก็ทำได้ดีมากๆ แต่หลังจากสงครามโค่นเมืองคาเลได้จบลง   บุตรชายคนเดียวของเขาก็กลายเป็นคนสติฟั่นเฟือนแล้วหายสาบสูญไป   ค่ายฝึกของลอร์ดเดเวอร์ลอสก็เป็นอันต้องปิดฉากลงเช่นกัน ” 
 
“ เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา   แล้วเหตุใดจึงกลับมาเฟื่องฟูได้อีก   แต่ตระกูลฟิลอสของเรากลับไม่สามารถฟื้นคืนได้ ”
 
เด็กชายร่างอ้วนนามว่าโลธอร์ถาม
 
“ ข้าไม่ประหลาดใจหรอก   บิดาของฟิโลโซเฟอร์ดูเหมือนจะหมดใจกับเรื่องแบบนี้แล้ว   เลยไม่มีใครสานต่อเรื่องค่ายฝึกทหาร   ส่วนสิ่งที่เกิดกับตระกูลของลอร์ดเดเวอร์ลอสนั้นซับซ้อนกว่ามาก   เป็นที่ถกเถียงกันตั้งแต่มันเกิดขึ้นจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้   ทุกอย่างดูลึกลับแต่ไร้ผู้ที่จะไขความจริงให้กระจ่าง ”  
 
“ แล้วเรื่องมันเป็นมาอย่างไรล่ะ ”
 
ฟิโลโซเฟอร์ถามบ้าง
 
“ บอกไว้ก่อนนะว่าเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้   มันเป็นเพียงการคาดเดาของข้าและคนอื่นๆ ที่ได้รู้ได้เห็นและได้ยินมาเท่านั้น   ซึ่งมันอาจจะจริงหรือไม่จริงก็ได้ ”  
 
อีเลียสออกตัว
 
“ เข้าใจแล้ว ”
 
เด็กชายทั้งคู่กล่าวพร้อมกัน
 
“ เอาล่ะข้าจะเริ่มจากตรงไหนดี   คือเป็นที่รู้ๆ กันอยู่แล้วว่าตระกูลของลอร์ดเดเวอร์ลอสนั้นต้องคำสาปมาตั้งแต่โบราณ   พวกเขาล้วนมีใบหน้าอัปลักษณ์และมีบุตรยาก   คำสาปนี้สืบทอดมายังลูกหลานทุกรุ่น   ผู้คนจึงพบเห็นคนในตระกูลนี้ในสภาพที่ปิดบังใบหน้าอยู่ตลอดเวลา   แต่ด้วยต้นตระกูลที่เป็นนักรบกล้าพวกเขาจึงมีสายเลือดนักสู้อยู่ในตัว   จึงไม่แปลกที่ค่ายฝึกนักฆ่าแห่งนี้จะมีชื่อเสียง   แล้วในช่วงสงครามแห่งพันธมิตรที่ผ่านมานี้เองลอร์ดเดเวอร์ลอสซึ่งตอนนั้นยังเป็นเพียงคนธรรมดา   ไม่ได้มีตำแหน่งอะไรในโอรีเวียได้ส่งบุตรชายเพียงคนเดียวนั่นก็คือดาเรนเข้าสู่สนามรบ   มีข่าวลือว่าดาเรนไปพบรักกับหญิงสาวชาวบ้านที่ต่างเมือง   เดเวอร์ลอสเองก็ไม่ปฏิเสธเรื่องนี้เขาเองยังประกาศว่า   หากบุตรชายชนะสงครามกลับมาจะจัดพิธีแต่งงานอย่างใหญ่โตต้อนรับ   หลังจากนั้นก็มีข่าวลือตามมาอีกว่าดาเรนมีบุตรกับสตรีนางนั้นทั้งที่ยังไม่ผ่านพิธีแต่งงาน   เรื่องราวได้ดำเนินไปจนสงครามจบลง   และดาเรนหายสาบสูญอย่างลึกลับ   หลังจากเฝ้าตามหานานนับเดือนดาเรนก็ปรากฏตัวขึ้นในสภาพของคนสติฟั่นเฟือน   เขากลับมาอยู่บ้านได้ไม่นานก็หนีเตลิดไปอีก   เมื่อสูญเสียบุตรชายเดเวอร์ลอสก็หมดอาลัยตายอยาก   เขาปิดทุกอย่างลงทั้งค่ายฝึกและบ้านพักทุกอย่างเงียบงันเศร้าหมอง   แต่มีข่าวแปลกๆ เล็ดลอดออกมาว่า   ดาเรนไม่ได้กลับมาคนเดียวเขาพาเด็กคนหนึ่งกลับมาด้วย   แต่ข้าไม่แปลกใจที่เดเวอร์ลอสจะปิดเรื่องนี้เป็นความลับ   เพราะเด็กที่เกิดมาโดยไม่มีพ่อแม่หรือพ่อแม่ยังไม่แต่งงานกันในโอรีเวียถือเป็นเรื่องร้ายกาจมาก ”
 
“ อย่าบอกนะว่าพวกเขาขังดารีลไว้ไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวัน ”  
 
ฟิโลโซเฟอร์ตกใจ
 
“ คฤหาสน์ของลอร์ดเดเวอร์ลอสนั้นกว้างใหญ่   ข้าเชื่อว่าเขาซ่อนเอาไว้หลังกำแพงที่ปิดแน่นไม่ต้อนรับผู้คน   มากกว่าจะซ่อนในคุกใต้ดิน   ถึงอย่างไรลอร์ดเดเวอร์ลอสคนนี้ก็รักหลานมากอย่างแน่นอน ”
 
“ แล้วสุดท้ายพวกเขาเผยตัวดารีลออกมาได้อย่างไร ”
 
โลธอร์ถามบ้าง
 
“ สองปีหลังจากสงครามจบ ”
 
อีเลียสเล่าต่อ
 
“ มีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นที่โอรีเวียนั่นคือการที่เคอร์คารอนมาเยือนถึงหน้าประตูเมือง   มันเฝ้าอยู่อย่างนั้นจนหกวันล่วงเลยไปดารีลจึงเผยตัว   เขาตามมันออกไปนอกเมือง   ล่ำลือว่ากันตามไปจนถึงหุบเขาเงาปีศาจอันเป็นถิ่นที่อยู่ของเคอร์คารอน   สองวันหลังจากนั้นเขาก็กลับมาด้วยตัวเพียงคนเดียว   ไม่มีใครรู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง   เหตุการณ์นี้ช่วยยืนยันข่าวลือที่ว่าดาเรนแอบมีบุตรนอกสมรส   และตามมาด้วยข้อสงสัยอีกมากมาย ”
 
“ แค่ไม่มีโอกาสได้แต่งงานก็ถือเป็นบุตรนอกสมรสแล้วหรือ   ใจร้ายเกินไปแล้ว ”
 
ฟิโลโซเฟอร์กระแทกเสียง
เขารู้สึกขุ่นเคืองเป็นอย่างมาก
 
“ ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ตรงนั้น   อย่างที่บอกไปในตอนแรกเชื้อสายของดาเรนนั้นต้องสาป   ไม่ว่าชายหรือหญิงจะมีร่างกายกำยำดุจนักรบและใบหน้าที่น่าเกลียดน่ากลัวแต่ดารีลไม่มีทั้งสองอย่าง   ที่แปลกไปกว่านั้นคือเขามีพลังเวท   ตามตำราหรือบันทึกทุกเล่มบอกตรงกันว่าต้องสืบเชื้อสายมาจากผู้ใช้เวทมนตร์เท่านั้นจึงจะมีพลังเหล่านี้   เมื่อดาเรนไม่ใช่พ่อมดอย่างแน่นอน ”  
 
“ ก็แสดงว่ามารดาของดารีลเป็นแม่มด ”
 
โลธอร์เสนอความเห็น
 
“ มันก็จะย้อนกลับไปคำถามแรกคือทำไมดารีลไม่อัปลักษณ์เหมือนเช่นคนอื่นๆ ”
 
อีเลียสว่า
 
“ เจ้ากำลังจะบอกว่า   ดารีลเป็นลูกของหญิงงามเมืองกับพ่อมดลามกแก่ๆ คนหนึ่ง   อย่างที่เจ้าชายเอลานอสกล่าวหาไว้อย่างนั้นหรือ ”
 
ฟิโลโซเฟอร์แยกเขี้ยว
 
“ ไม่ใช่อย่างนั้น   ตลอดเวลาที่ผ่านมา   ตระกูลของลอร์ดเดเวอร์ลอสพยายามตามหาผู้ใช้เวทมนตร์ที่จะสามารถถอนคำสาปสายเลือดนี้   แต่ก็ไม่มีผู้ใดทำได้สำเร็จ   มีเรื่องเล่าหนึ่งจากปากต่อปากที่ไม่เคยถูกบันทึกไว้ในหนังสือกล่าวว่า   ต้นตระกูลของลอร์ดเดเวอร์ลอสเคยเป็นชายรูปงาม   เขาได้ทรยศต่อความรักของแม่มดนางหนึ่งแล้วหนีไปแต่งงานกับสตรีที่สาวกว่าและงดงามกว่า   นางแม่มดจึงสาปเขานับตั้งแต่ตอนนั้น   ว่ากันว่านางจะยอมถอนคำสาปให้เมื่อชายคนรักกลับมา   หรือเมื่อสายเลือดของพวกเขาทั้งสองได้แต่งงานกัน   บุตรที่ถือกำเนิดขึ้นจะพ้นจากคำสาป ”  
 
อีเลียสหยุดพักครู่หนึ่งแล้วเล่าต่อ
 
“ คำสาปสายเลือดนี้รุนแรงพอๆ กับคำสาปเมืองคาเล   หากนางเป็นแม่มดธรรมดาคนหนึ่งแล้วถอนคำสาปนี้ได้   นางย่อมถอนคำสาปเมืองคาเลได้เช่นกัน   ดังนั้นข้าจึงเชื่อว่ามารดาของดารีลคงมีเชื้อสายมาจากแม่มดที่สาปต้นตระกูลของดาเรน   เป็นเหตุผลว่าทำไมดารีลจึงพ้นคำสาป   และข้าเชื่อว่านางยังมีชีวิตอยู่   เพราะดารีลไม่เคยมีอาจารย์สอนเวทมนตร์เลยแต่เขากลับใช้พลังได้อย่างชำนาญ   จะว่าร่ำเรียนด้วยตนเองก็ยิ่งแล้วใหญ่   ศาสตร์เหล่านี้มันลึกลับมากเขาต้องมีพื้นฐานที่ดีมาก่อน   ดังนั้นข้าจึงเชื่อว่ามารดาของดารีลยังวนเวียนอยู่แถวนี้เพื่อเป็นอาจารย์ให้เขา ”  
 
“ แล้วเหตุใดนางต้องซ่อนตัวล่ะ   ถึงแม้จะมีบุตรนอกสมรส   แต่ความเป็นผู้ใช้เวทย์มนตร์ของนาง   ย่อมไม่มีผู้ใดกล้ากล่าวหาในทางไม่ดี ”
 
ฟิโลโซเฟอร์ข้องใจ
 
“ เพราะนางละอายต่อสายเลือดดั้งเดิมน่ะสิ   ที่แอบปันใจให้กับชายที่ได้ชื่อว่าสายเลือดของคนทรยศ   แต่ทั้งหมดที่ว่ามาก็ยังไม่สามารถอธิบายว่าเหตุใดดาเรนจึงกลายเป็นคนวิปลาส ”
 
อีเลียสว่า
 
“ ช่างเถอะ   ถึงอย่างไรก็ควรก้มหัวให้ดาเรน   เพราะเขาสามารถพาดารีลในวัยเด็กมาส่งถึงโอรีเวียได้อย่างปรอดภัย   ถึงแม้ในขณะนั้นเขาจะเสียสติไปแล้ว ”  
 
ฟิโลโซเฟอร์พูดแล้วก็หวนคิดถึง
ชายร่างกำยำหน้าตาน่ากลัวในทุ่งเกร็ดมังกร
จะใช่เขาหรือเปล่านะ
 
“ แล้วตอนนี้บ้านของดารีลทำอะไรล่ะ   เปิดค่ายฝึกนักฆ่าขึ้นมาอีกหรือเป็นโรงเรียนสอนเวทมนตร์ ”
 
โลธอร์สงสัย
 
“ ไม่ใช่ทั้งสองอย่าง   มันเป็นเรื่องประหลาดมาก   ดูเหมือนเดเวอร์ลอสเองก็ไม่รู้มาก่อนว่าดารีลมีพลังเวท   จนหมอนั่นเปิดตัวอย่างอลังการต่อหน้าเคอร์คารอน   จากนั้นก็เงียบหายไปอีกท่ามกลางข่าวลือต่างๆ มากมาย   และเดเวอร์ลอสก็ไม่ยินดียินร้ายต่อข่าวลือใดๆ ทั้งสิ้น   สี่ปีหลังจากนั้นดารีลก็ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้พิทักษ์หน้ากากทอง   เดเวอร์ลอสเป็นลอร์ดแห่งโอรีเวีย   มีเสียงปรามาสว่าดารีลได้รับตำแหน่งนั้นเพราะจอมเวทวาลานต้องการประจบเอาใจ   แต่ข้าว่าไม่   หลายต่อหลายครั้งที่ข้าพบเขามีลักษณะบางอย่างที่ชวนให้คิด   และจากคำเล่าลือของพวกคนเถื่อนที่เคยเผชิญหน้ากับเขา   คนพวกนั้นบอกว่าดารีลก็คือนักฆ่าดีๆ นี่เอง   เดเวอร์ลอสคงฝึกให้เขาเป็นนักฆ่ามาตั้งแต่แรกก่อนที่จะรู้จักตัวตนที่แท้จริง   เขารวดเร็วและถนัดการใช้อาวุธทุกประเภท   ความสามารถระดับนี้เป็นผู้พิทักษ์หน้ากากทองไม่แปลก   ยิ่งพ่วงความเป็นพ่อมดเข้าไปด้วยยิ่งน่ากลัวเข้าไปใหญ่   แต่ที่น่าแปลกคือ   ตำแหน่งนี้มันต่ำต้อยเกินไปสำหรับผู้ใช้เวทมนตร์   แต่เขากลับรับเอาไว้แบบหน้าตาเฉย   หลังจากรับตำแหน่งแล้วคฤหาสน์หลังนั้นก็เปิดออกอีกครั้ง   พวกเจ้าต้องไม่เชื่อแน่ว่าเขาทำอะไร   มันถูกเปิดเป็นโรงน้ำชากับโรงละคร   อาชีพที่น้อยคนจะนึกถึงและอยากทำ   แต่ลูกค้าที่ไปใช้บริการล้วนแต่เป็นผู้มั่งคั่งทั้งสิ้น   ตระกูลของลอร์ดเดเวอร์ลอสจึงกลับมาโด่งดังอีกครั้ง ”   
 
“ หมอนี่เป็นคนประหลาดจริงด้วย ”  
 
โลธอร์ว่า
 
“ ผู้ใช้เวทมนตร์คนไหนไม่ประหลาดบ้าง ” 
 
ฟิโลโซเฟอร์แย้ง
เขากำลังสงสัยว่าคนอย่างดารีลสามารถเป็นนักฆ่าได้ด้วยหรือ
แต่พอนึกถึงมีดอาบยาพิษเล่มนั้น
เด็กชายตัวน้อยก็รู้สึกหนาวเยือกที่หัวใจ
 
“ ฟิโลโซเฟอร์ ”   
 
อีเลียสว่า
 
“ ข้าเห็นว่าเจ้าสนิทกับเขาจึงอยากจะเตือนเจ้า   ดารีลไม่ได้เป็นอย่างที่เจ้าเห็นหรอก   หน้าฉากเป็นอย่างหนึ่งแต่ใครจะรู้   เบื้องหลังเขาอาจสามารถทำบางอย่างที่เจ้าคาดไม่ถึง   คนผู้นี้ยากที่คนทั่วไปจะอ่านความคิดของเขาออก ”
 
“ เจ้าไม่รู้หรอกว่าแท้จริงแล้วข้าเห็นเขาเป็นอย่างไร   ข้าเชื่อใจตัวเองและมั่นใจว่ามองคนไม่ผิด   ส่วนดารีลจะเป็นอย่างไรนั่นมันเรื่องส่วนตัวของเขา   ข้าไม่เคยคิดก้าวก่าย ”
 
เด็กชายจากเมืองซีนาร์ยตอบโต้