โอรีเวีย ( เมืองต้องสาป )

7.3

เขียนโดย shilen

วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 18.27 น.

  188 บทที่
  11 วิจารณ์
  137.59K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 20.35 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

51) เพื่อนใหม่

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
ฟิโลโซเฟอร์ยืนจับกลุ่มอยู่กับเด็กใหม่ที่ชื่อโลธอร์   พวกเขากำลังสงสัยว่าทั้งที่เป็นวันเปิดเทอมวันแรก   แต่กลับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น   ราวกับว่าพวกเขามาผิดวัน
 
“ หรือว่าตอนนี้ยังเช้าอยู่   พวกครูๆ เลยยังไม่ตื่นนอน ”
 
โลธอร์ตั้งข้อสังเกต
 
“ ไม่ไหวเลยนะถ้าเป็นแบบนี้ที่ซีนาร์ยคงไม่ทันกินกันพอดี ”
 
คาโอเรียว่า
 
“ ชาวโอรีเวียไม่ทำการเกษตร   ตื่นตอนไหนก็ไม่สำคัญ ” 
 
พี่ชายของนางบอก
 
“ ฟิโลโซเฟอร์   นั่นเจ้าหรือเปล่า ”
 
มีเสียงหนึ่งดังมาจากด้านหลัง
เมื่อเขาหันไปมองก็พบกับเด็กหญิงผมสีเงินคนนั้น
อยู่ในชุดสีขาวกระจ่างกับเครื่องประดับที่ทำจากทองคำขาว
ร่างของนางจึงเหมือนกับรูปสลักเทพีแห่งน้ำแข็ง
 
ฟิโลโซเฟอร์ยิ้มหน้าบานทันที
เขารู้สึกหัวใจเต้นแรงทุกครั้งที่เห็นนาง
ไม่ว่าจะในความจริงหรือความฝัน
 
“ ฟีไลร่า ”
 
เขาทัก
 
“ เลโอน่าล่ะ   มาด้วยหรือเปล่า ”
 
เด็กหญิงคนนั้นชี้มือกลับไปด้านหลัง
ลูกพี่ลูกน้องที่มีสีผิวเข้มกว่าของนางกำลังแหวกผู้คนเข้ามา
 
“ เห็นไหม   ข้าบอกแล้วเราจะพบกับเขาที่นี่ ”
 
นางบอกกับเลโอน่า
 
“ ไง   เจ้าดูดีกว่าวันก่อนหลายเท่าเลย   ฟีไลร่านางพนันกับข้าเอาไว้น่ะก็เลยดีใจ ”
 
นางทักด้วยรอยยิ้มที่ดูสบายขึ้นกว่าครั้งแรกที่พบกัน
 
“ หมายความว่าเจ้ารอข้าหรือ   แล้วเมื่อครู่เจ้าอยู่ตรงไหนเหตุใดข้าจึงมองไม่เห็น ”
 
เจ้าของนัยน์ตาสีม่วงครามกลมโตชี้มือขึ้นไปด้านบน
เหนือหัวของพวกเขาเป็นระเบียงของบันไดวน
ที่หมุนเวียนขึ้นไปถึงเก้าชั้น
อันที่จริงโถงนี้ใหญ่โตมากแต่เนื่องจากเด็กๆ มาออกันอยู่จุดเดียว
ก็เลยกลายเป็นเบียดเสียด
 
“ เมื่อครู่เราอยู่ที่ระเบียงชั้นสองเฝ้ามองทางเข้าอยู่ตลอด   แต่กลับไม่เห็นว่าพวกเจ้าเข้ามา   เหตุชุลมุนเมื่อครู่นั่นแหละทำให้ฟีไลร่าจำเจ้าได้ ”
 
เลโอน่าบอก
 
“ นี่ๆ เดี๋ยวสิฟิโลซาสไหนเจ้าบอกว่าเพิ่งย้ายมาไง   แต่นี่อะไรมีสาวๆ มารุมล้อมเสียแล้ว   ร้ายไม่เบานะ   แนะนำข้าบ้างสิ   ข้าเองก็อยากรู้จักด้วย ”
 
เด็กๆ ต่างหันไปมองโลธอร์
ฟิโลโซเฟอร์เองก็มีสีหน้างุนงง
แต่ดูเหมือนคาโอเรียจะคิดอะไรขึ้นได้
 
“ เขาชื่อฟิโลโซเฟอร์ต่างหากล่ะ ”
 
นางว่า
 
“ ฟิโล....   อะไรนะ   โอยช่างเถอะชื่อเรียกยากออกอย่างนั้น ”
 
เด็กน้อยร่างอ้วนเกาศีรษะที่เต็มไปด้วยผมสีแดงหยาบกระด้าง
 
เมื่อเป็นดังนั้นฟิโลโซเฟอร์จึงแนะนำพวกเขาให้รู้จักกัน
 
“ มันแปลกๆ อยู่นะเหตุใดไม่มีใครมาที่นี่   ดูเหมือนจะมีแค่ครูแก่ๆ กับเด็กนักเรียน   แล้วใครจะกล่าวต้อนรับเปิดภาคเรียนล่ะทีนี้ ”
 
เลโอน่าบ่นอุบ
 
“ มันก็แปลกไปเรื่อยทุกปีนั่นแหละ   ดูเหมือนปีนี้นักเรียนจะน้อยลงกว่าปีกลาย   ทั้งที่ผู้คนมากมายก็อพยพมาที่โอรีเวีย ”
 
ฟีไลร่าตอบ
 
“ ช่าย   ข้ารู้สึกว่าโรงเรียนไม่พร้อมเปิดสอนเสียด้วยซ้ำ ”
 
โลธอร์พูดด้วยเสียงคางยาน
 
แต่ก่อนที่จะคุยอะไรไปมากกว่านี้หญิงวัยกลางคนก็ปรากฏตัวขึ้น
เพื่อเรียกเด็กที่อยู่ระดับสามซึ่งเป็นระดับต่ำสุดให้ออกไปพร้อมนาง
 
คาโอเรียมองหน้าพี่ชาย
เขาพยักหน้าแบบเคร่งขรึมนางจึงออกไปพร้อมคนกลุ่มนั้น
 
ต่อมาก็ระดับสี่และห้าตามมาติดๆ
ฟิโลโซเฟอร์เดินออกไปฟีไลร่าตบบ่าเขา
 
“ ระดับเดียวกันโชคดีจริง ”
 
นางว่า
 
“ ข้าด้วยๆ รอข้าด้วย ”
 
โลธอร์วิ่งพลางหอบพลางตามมา
 
ฟีไลร่าพาพวกเขาไปยังห้องเรียนห้องหนึ่ง
นางชี้ให้ฟิโลโซเฟอร์นั่งลงที่โต๊ะข้างๆ
แต่ดูเหมือนลูกพี่ลูกน้องผิวเข้มของฟีไลร่าจะไม่ชอบใจเรื่องนี้
เพราะนางทำหน้าบูดบึ้งอยู่ข้างๆ โลธอร์ที่นั่งโต๊ะถัดไป
 
ขณะนี้เด็กๆ อีกหลายคนต่างทยอยกันเข้ามา
 
“ ข้ามีเรื่องหนึ่งอยากถามเจ้า ”
 
ฟีไลร่ากระซิบกับเด็กชายชาวซีนาร์ย
 
“ ว่ามาสิ ”
 
“ วันก่อนข้าเห็นเจ้าเดินอยู่กับพ่อมดน้อยคนหนึ่ง ”
 
นางว่า
 
“ อ้อ   ดารีลทำไมล่ะเจ้ารู้จักเขาหรือ ”
 
“ ก็นะ   มีใครบ้างไม่รู้จักเขา ”
 
นางพูดยิ้มๆ แก้มเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อๆ
มือก็ขยับหยุกหยิกอยู่ไม่สุข
 
“ เจ้าไปทำอย่างไรถึงได้ใกล้ชิดกับเขาแบบนั้น ”
 
ฟิโลโซเฟอร์รู้สึกประหลาดใจกับคำถามสุดพิลึกนี้
แต่ก็ตอบออกไปตามตรง
 
“ ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน   มันเป็นเรื่องบังเอิญที่เราคุยกันรู้เรื่อง   เลยคุยยาวไปหน่อย ”
 
เขาตอบ
 
“ แล้วพวกเจ้าคุยอะไรยังไงกันบ้างล่ะ   ดารีลเขาเป็นคนแบบไหน ”
 
ท่าทีของฟีไลร่าแสดงออกชัดว่าสนใจเรื่องนี้มาก
 
ฟิโลโซเฟอร์คิดย้อนไปถึงดารีลและพ่อมดเฒ่าดีมีน
แล้วเขาก็หัวเราะ
 
“ ถามแบบนี้เจ้าคงไม่เคยเจรจากับเหล่าผู้ใช้เวทมนตร์   พวกเขามีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือเข้าใจยาก   เหมือนเราคุยกันอยู่ดีๆ คิดว่าเข้าใจแล้วสุดท้ายก็ทำให้งงเสียดื้อๆ   นึกอยากพูดก็พูดบทจะไม่พูดก็ถามไม่ตอบเสียอย่างนั้น   ถ้าตามความคิดของเขาไม่ทันคงรู้สึกว่าน่าเบื่อ   เลยทำให้บางคนคิดว่าเข้าถึงยาก   แต่ความจริงเขาก็เหมือนเราๆ นี่แหละ   เพียงแค่ทำตัวประหลาดไปหน่อยเท่านั้นเอง ”  
 
“ แล้วพวกเจ้ามีความสำพันธ์กันแบบไหน ”
 
นางยังซักต่อ
 
“ เลิกคุยกันได้แล้วครูกำลังมา ”
 
เด็กชายผอมกะหร่องผู้อุ้มหนังสือปกแข็งเล่มโตเดินเข้ามาบอกฟีไลร่า
แล้วเดินเลยไปนั่งข้างหลังโลธอร์และเลโอน่า
 
“ คนนั้นชื่ออีเลียสฉายาของเขาคือผู้รอบรู้น้อย ”
 
ฟีไลร่าแนะนำ
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา