โอรีเวีย ( เมืองต้องสาป )
เขียนโดย shilen
วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 18.27 น.
แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 20.35 น. โดย เจ้าของนิยาย
169) เด็กหญิงและคราบเลือด
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความพวกเขาวิ่งขึ้นบันไดไปชั้นแล้วชั้นเล่าในขณะที่คนส่วนใหญ่วิ่งสวนกลับลงมา อีเลียสเป็นคนคอยชี้ทางให้พวกเขาหลบจากกลุ่มปีศาจที่ดูเป็นอันตรายจนเกินไป หมอกสีดำที่ปลิวคลุ้งนอกจากจะทำให้การมองเห็นแย่ลงแล้วยังระคายเคืองแปลกๆ
เด็กๆ ต่างดั้นด้นขึ้นมาจนถึงชั้นสี่ ขวานและค้อนของโลธอร์เปราะเปื้อนไปด้วยเลือดรวมทั้งสมุดปกหนาของอีเลียสด้วย เด็กชายร่างผอมตัวน้อยๆ ได้แต่ป่ายปัดไปบนของสำคัญด้วยความขัดเคืองมีเพียงดาบของฟิโลโซเฟอร์ที่ยังคงสะอาดหมดจด ทั้งที่ผ่านการฟาดฟันมาอย่างหนัก
เสียงต่อสู้รุนแรงดังลงมาจากชั้นบน
ทั้งข้าวของแตกหักหล่นกระจัดกระจาย
“ ข้างบนคือชั้นคือชั้นห้ามิใช่หรือ ”
ฟิโลโซเฟอร์ถามพลางหอบ
เขาใช้มือข้างหนึ่งกดซี่โคลงเพื่อลดอาการจุกเสียด
“ ดูเหมือนจะงานหนักใช่เล่น ”
สหายร่างอ้วนว่าพลางนั่งลงบนขั้นบันได
เขาเองก็เหนื่อยไม่น้อย
“ ข้าว่าพวกนางไม่อยู่ที่นั่นแล้วล่ะ สยองขนาดนั้น เป็นข้าเผ่นตั้งแต่เก้าอี้ตัวแรกล้มฟาด ในครัวยังไม่มีใครเลยคาโอเรียหนีไปแล้วถ้าฟีไลร่ากับพี่สาวยังไม่หนีก็คงสติไม่ดีทั้งคู่ ”
ยังไม่สิ้นคำพูดของอีเลียส
ก็ได้ยินสัตว์ร้ายคำรามกึกก้องเสียงกระแทกดังปัง
ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องและความโกลาหล
เห็นได้ชัดว่ามีเด็กผู้หญิงหลายคนซ่อนตัวอยู่
และถูกค้นพบเข้าเสียแล้ว
โดยอะไรก็ตามที่มุ่งร้ายหมายชีวิต
ฟิโลโซเอร์วิ่งฝ่าขึ้นไปทันที
ในขณะที่หลายคนวิ่งสวนกลับลงมา
“ คาโอเรีย ฟีไลร่า เลโอน่า ข้ามาแล้ว ”
เด็กชายชาวซีนาร์ตะโกนก้อง
ในใจก็ภาวนาขออย่าให้พวกนางอยู่แถวนี้เลย
กว่าพวกเขาจะฝ่าขึ้นมาได้
เด็กๆ ที่วิ่งวุ่นวายก็หนีหายไปหมดแล้ว
เหลือเพียงความแตกหักและสูญเสีย
น่าแปลกที่ตรงชั้นนี้
ไม่มีผีร้ายหรือสัตว์ปีศาจ
ในเวลานี้มันเงียบจนน่าตกใจ
ราวกับมีสัตว์ร้ายกำลังดักซุ่มรอเหยื่อ
เด็กทั้งสามเหลือบไปเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งนอนคว่ำหน้าอยู่
ผมสีทองยาวสลวยเปียกชุ่มไปด้วยเลือด
ฟิโลโซเฟอร์ใจหายวาบเข่าอ่อนจนแทบทรุด
สหายร่างอ้วนเป็นคนคว้าแขนเอาไว้
แม้ร่างจะอวบหนาแต่เขาว่องไวไม่น้อย
พวกเขาค่อยๆ ย่องไปหาร่างที่นอนแน่นิ่ง
ฟิโลโซเฟอร์นั่งลงเขาวางดาบไว้ข้างตัว
ด้วยความหวาดกลัวและสับสนอันท่วมท้น
เด็กชายยื่นมือสั่นเทาไปเกลี่ยเส้นผมสีทองนั้นเบาๆ
โลธอร์ถึงกับยกสองมือปิดหน้า
ส่งเสียงครางเบาๆ
“ ให้ข้าทำแทนก็ได้ ”
อีเลียสเสนอ
เขาเป็นคนเดียวที่ยังสามารถทำใจสงบนิ่ง
ได้อย่างน่าประหลาด
เด็กชายชาวซีนาร์ยไม่ตอบว่าอะไร
เขาค่อยๆ พลิกร่างเด็กหญิงคนนั้นขึ้น
ใบหน้าซีดเผือดที่ไม่คุ้นเคยได้ปรากฏแก่สายตา
“ ขอโทษด้วยข้าจำคนผิดไม่ได้ตั้งใจจะรบกวนเจ้า ”
เขากล่าวด้วยความรู้สึกผิด
ที่ลึกๆ แล้วก็หวังอย่างแรงกล้าให้ร่างนี้เป็นคนอื่น
อีเลียสถอนหายใจออกมาเป็นคนแรก
“ นี่มันชั่วร้ายมากฝีมือใครกัน เธอเป็นแค่เด็กหญิงตัวเล็กๆ เท่านั้นเองไม่ควรเลยที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ”
เขาว่าพลางถอดเสื้อคลุมนอกมาคลุมร่างให้เด็กหญิงคนนั้น
“ ข้าพอจะแบกนางไหว ”
โลธอร์เสนอ
เพราะเขาอยากเชื่อว่าเด็กคนนี้แค่หมดสติไป
“ นางไม่หายใจแล้ว ”
คำตอบนั้นทำเอาเขาคอหด
“ ยังไงต่อล่ะทีนี้ ”
อีเลียสเป็นคนเอ่ยคำถามนี้ออกมา
ในเมื่อทั้งชั้นดูเงียบกริบ
ราวกับผู้คนได้หนีออกไปจากตรงนี้จนหมดสิ้นแล้ว
แต่พวกเขารู้ดีว่า
สัตว์ปีศาจอะไรก็ตามที่เคยโจมตีอยู่ที่นี่
ยังไม่หนีไปไหน
มันคงซุ่มซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่ง
นั่นหมายความว่า
เหยื่อของมันก็ยังมีหลงเหลืออยู่แน่นอน
และไม่ว่าสัตว์ปีศาจตนนั้น
มันจะเป็นอะไรก็ตาม
เด็กๆ ทั้งสามต่างรับรู้ได้ว่า
มันมีอันตรายไม่น้อย
จึงเป็นการยากที่จะตัดสินใจว่า
ควรพุ่งเข้าไปหามัน
หรือหลบหนีให้เงียบและเร็วที่สุด
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ