โอรีเวีย ( เมืองต้องสาป )

7.3

เขียนโดย shilen

วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 18.27 น.

  188 บทที่
  11 วิจารณ์
  141.53K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 20.35 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

170) แค่ลูกหมามีเขา

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เด็กชายทั้งสามก้าวต่อไป   มุ่งไปตามทิศทางของเสียงคำรามที่ได้ยินครั้งสุดท้าย   ระเบียงยาวที่ทอดไปด้านหน้านั้นราวกับจะไร้ที่สิ้นสุด   ชั้นนี้ดูแตกต่างความเสียหายนั้นรุนแรงนัก   พวกเขาเดินผ่านไปทีละห้อง   บางห้องมีข้าวของล้มระเนระนาด   กองสิ่งของนี้ดูเหมือนจะผลักลงเพื่อกีดขวางบางสิ่งบางอย่าง  

 

พวกเขาเคลื่อนที่ผ่านรูปปั้นที่เรียงรายตามระเบียง  

บางตัวหัวหลุดออกมากลิ้งไปบนพื้น

 

“ ตอนนี้เปลี่ยนใจยังทันนะ ”

 

อีเลียสเตือน

 

“ คิดให้ดีเจ้ากำลังมุ่งหน้าไปหาอะไรมันคุ้มค่าแล้วหรือกับราคาที่อาจต้องจ่าย ”

 

“ อะไรบางอย่างทำให้ข้ารู้สึกว่าปีศาจตนนี้คือเสาหลักค่ายมนต์ดำที่เจ้าพูดถึง   ดารีลก็ไม่อยู่ที่นี่   ข้าคือผู้ถือของแทนตัวเขาเอาไว้   จะเป็นผู้จบเรื่องนี้แทนเขาเอง ”

 

เด็กชายตัวน้อยเชื่อว่า

นี่คือต้นเหตุที่ทำให้พ่อมดน้อยดารีล

ต้องถูกจองจำในคุกใต้ดิน

 

“ เจ้าไปขนเอาความมั่นใจและความกล้าหาญมาจากที่แห่งใด   รู้หรือไม่ถ้าเจ้าตายดารีลเองก็จะเสียใจไม่น้อย ”

 

โลธอร์เห็นด้วย

 

“ เขาเองนั่นแหละที่บอกว่าหากไม่มีข้ายังจะสบายใจเสียกว่า   อย่าห่วงเลยนะ   อย่างน้อยหากข้าจัดการมันได้ทุกอย่างอาจยุติ   มันคงจะดีกว่าเอาแต่วิ่งไปวิ่งมาหนีหัวซุกหัวซุนมิใช่หรือ   หรือถ้าข้าตายมันก็ไม่ต่างจากที่วงล้อมยังอยู่และพวกเราหนีออกไปไม่ได้สุดท้ายก็ตายอยู่ดี ”

 

ฟิโลโซเฟอร์บอก

สหายร่างผอมจึงพยักหน้า

 

“ เอาอย่างนั้นก็ได้   หากเจ้าไม่เชื่อใจสภาผู้ใช้เวทมนตร์ไม่หวังพึ่งพวกเขาแล้ว   และคิดจะจัดการทั้งหมดด้วยตนเองข้าก็ไปตายข้างๆ เจ้าก็ได้   ถึงอย่างไรเราก็เป็นเพื่อนกันคงปล่อยเจ้าไปเพียงลำพังไม่ได้ ”

 

“ แหม่   พูดกันสองคนไม่ชวนข้าได้อย่างไร ”

 

โลธอร์โอบไหล่สหายทั้งสอง

เมื่อเป็นดังนั้นพวกเขาจึงมุ่งหน้าไปทางห้องดนตรี

 

 

ในระหว่างทางเสียงกลุ่มเด็กหญิงกรีดร้องดังมาจากด้านหน้า

ดูเหมือนยังมีเด็กซ่อนตัวหลงเหลืออยู่

เสียงความโกลาหลดังตึงตังไม่ขาดระยะ

ราวกับเพดานถล่ม

 

พวกเขาหยุดกึกต่างมองหาที่มาของเสียง

ประตูบานใหญ่เปิดผางออก

มันเป็นทางเชื่อมระหว่างระเบียง

 

เด็กหญิงเหล่านั้นต่างเบียดเสียดกันผ่านประตูออกมา

พวกเขาจำได้ว่าเด็กเหล่านั้นเป็นนักเรียนระดับสาม

จึงพยายามแหวกเข้าไปปากก็ร้องหาคาโอเรีย

เสียงคำรามดังขึ้นเหนือหัวพวกเขาพร้อมกับเสียงโต๊ะล้มโครมคราม

 

“ มันอยู่ข้างบน ”

 

โลธอร์ว่าแล้วออกวิ่ง

 

“ เจ้าอ้วนรอขบวนด้วย   วิ่งทิ่มเดี่ยวเข้าไปแบบนั้นไม่ได้นะ ”

 

อีเลียสร้อง

 

“ แค่สามคนเรียกขบวนได้ด้วย ”

 

ฟิโลโซเฟอร์ว่าพลางชักดาบออกจากฝัก

 

พวกเขาผ่านระเบียงนั้นไปแล้วพบว่ามีเพดานถล่มจริงๆ

ด้วยความสงสัยว่ามันคืออะไรที่มีเรียวแรงขนาดนี้

 

เมื่อไต่บันไดขึ้นไปอีกชั้นก็ยังมีเด็กๆ วิ่งสวนทางพวกเขามาเป็นระยะ

เด็กชายทั้งสามระเบียงยาวของชั้นหก

ผลักประตูแต่ละห้องออก

ก็พบแต่ความว่างเปล่าไร้ผู้คนกับข้าวของที่พังพินาศ

 

เขาวิ่งออกไปทางระเบียงใหญ่อีกครั้ง

ราวเหล็กตรงนี้บิดเบี้ยวเพราะถูกกระแทกอย่างแรง

เสียงคำรามดังใกล้เข้ามาอย่างกระชั้นชิด

 

“ เราคงไม่วิ่งเข้าไปหามันทื่อๆ แบบนี้หรอกนะ ”

 

อีเลียสประท้วง

เขารู้สึกว่าช่างไม่เข้าท่าเอาเสียเลย

 

ทันไดนั้นฟีไลร่าก็จูงมือคาโอเรียพรวดพราดออกมา

จากช่องระเบียงแยกตรงหน้า

 

เลโอน่าเป็นผู้อยู่รั้งท้าย

นางหันกลับไปสาดลูกธนูใส่อะไรบางอย่างที่ไล่ตามหลังมา

 

ครั้นแล้วมันก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหัวมุม 

ร่างกายมันใหญ่โตกรงเล็บเหมือนหมาป่าแต่มีเขาเหมือนวัว

ขนสีดำหยาบๆ ปกคลุมทั่วร่างกาย

 

ฟีไลร่าหันกลับไปจะปามีดสั้นใส่มัน

 

“ ไม่  วิ่งหนีไปอย่าสนใจอะไรทั้งนั้น ”

 

เลโอน่าร้องเตือน

นางจึงเปลี่ยนใจถอยร่นออกมาอีกครั้ง

 

ส่วนคาโอเรียที่ยืนอยู่ตรงนั้น

มือข้างหนึ่งถือกระทะเหล็ก

อีกข้างก็กำมีดทำครัวไม่ยอมวาง

 

‘ ให้ตายสิ   พวกเด็กผู้หญิงนี่โหดแท้เจอผีร้ายแทนที่จะหนีกลับหันหน้าใส่เสียได้ ’

 

อีเลียสนึก

ชั่วเวลานั้นฟิโลโซเฟอร์รู้สึกทึ่งกับฝีมือการยิงธนูของนาง

แม้จะไม่ระคายผิวเจ้าสัตว์ร้าย

แต่ก็นับว่าแม่นยำอยู่ไม่น้อย

 

 

“ ฟีไลร่าทางนี้ ”

 

ฟิโลโซเฟอร์ร้องบอก

เด็กหญิงทั้งสามจึงพุ่งมาทางเขา

 

โลธอร์แอบปีนขึ้นไปบนรูปปั้นที่แตกร้าว

เมื่อสัตว์ปีศาจตนนั้นไล่กวดกลุ่มเด็กหญิงผ่านมา

เขาก็ทิ้งตัวลงพร้อมกับฟาดขวานเข้าใส่

 

“ เจ้าลูกหมาหน้าโง่ข้าจะเอาเขาของเจ้าไปประดับฝาบ้าน ”

 

หนูน้อยร่างอ้วนตะโกนก้อง

 

“ หมาไม่มีหรอกเขาเจ้าอย่าเสียงดังสิ   เกิดมีใครได้ยินเข้าอายเขาตายเลย ”

 

อีเลียสร้องบอกด้วยน้ำเสียงที่วุ่นวายใจ

แต่สหายร่างอ้วนของเขาก็ไม่สน

กระหน่ำฟาดไม่ยั้งใส่เขาข้างหนึ่งจนแตกกระจาย

ปากก็ตะโกน

 

“ เจ้าลูกหมาๆ พ่อแม่ไม่ยอมป้อนนม ”

 

เด็กน้อยโจมตีอยู่ได้ไม่นานก็ถูกเหวี่ยงกระเด็นออกมา

 

สัตว์ปีศาจตนนั้นตั้งท่าขู่คำรามด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราด

เขาที่แตกหักกลับงอกขึ้นมาใหม่

และเศษเขาที่กระจายบนพื้นละลายกลายเป็นขี้เถ้า

 

“ เจ้านี่เป็นอมตะ ”

 

อีเลียสอุทาน

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา