โอรีเวีย ( เมืองต้องสาป )

7.3

เขียนโดย shilen

วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 18.27 น.

  188 บทที่
  11 วิจารณ์
  141.41K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 20.35 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

161) ใต้ต้นโอ๊ค

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ประตูโค้งบานนั้น   ที่ประดับด้วยม่านทับทิมสีแดงเจิดจ้าได้นำพาเด็กๆ ออกมาสู่ด้านนอกปราสาทอีกครั้งแต่มันเป็นเพียงสวนวงกลมเล็กๆ ที่อยู่ด้านในปราสาทล้อมรอบสวนนั้นคือผนังตึก   สูงขึ้นไปเหนือหลังคาเปิดโล่ง   ในอดีตนั้นถ้ามองจากจุดนี้ในเวลากลางคืนจะมองเห็นแสงดาวที่พร่างพราย   แต่ในเวลานี้แม้จะเป็นเวลากลางวันที่แดดส่อง   เด็กชายตัวน้อยกลุ่มนี้ก็มองเห็นความมืดที่ไร้จุดจบ

 

เหล่าเด็กน้อยต่างหยุดยืนดูสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

แสงจากคบเพลิงสามอันส่องสว่างออกไปไกล

 

เลยพ้นจากทางเดินที่ปูด้วยหินภูเขาสีเข้มมันคือคลองเล็กๆ

ขุดเป็นวงกลมล้อมรอบสวน

 

สะพานโค้งทำจากไม้เนื้อแข็งทอดตัวผ่านเข้าไป

ใจกลางสวนมีต้นโอ๊คเก่าแก่

แผ่กิ่งก้านสาขายืดยาว

 

และตอนนี้มันได้ทิ้งใบโกร๋นยืนต้นตายมานานนับพันปี

ลำต้นบิดเบี้ยวใหญ่โต

แผ่กิ่งก้านยาวไกลราวกับงูปีศาจ

น่าสะพรึงกลัว

 

ด้วยแสงไฟที่ส่องไปถึง

ปรากฏร่างในชุดคลุมยาว

ยืนนิ่งใต้ต้นโอ๊คนั่น

 

“ ดารีล ”

 

ฟืโลโซเฟอร์อุทาน

เขาพุ่งข้ามสะพานไม้ไปโดยไม่รอผู้ใด

เพื่อนทั้งสองจึงต้องรีบตามไปเช่นกัน

 

เด็กชายทั้งสามได้หยุดนิ่งต่อหน้าร่างนั้น

ด้วยความเงียบงัน

 

ร่างนั้นถูกพันธนาการด้วยโซ่เส้นใหญ่

ตรึงมือสองข้างไว้กับกิ่งก้านของต้นโอ๊ค

 

ชุดคลุมที่ดูเหมือนจะเป็นสีขาวเปื้อนฝุ่นและขี้เถ้าจนแทบจะกลายเป็นสีดำ

 

อีเลียสอ้าปากค้างแต่ไร้เสียงใดๆ ลอดออกมา

เพราะร่างที่อยู่ในชุดคลุมยาวตรงหน้านั้นเหลือเพียงโคลงกระดูก

 

ด้วยความรีบร้อน

จึงยังไม่ทันเตรียมใจกับสิ่งที่เห็น

 

“ แย่จัง   หนุ่มน้อยรูปงามของเราไม่ได้เจอกันแค่สองสามวัน   ตอนนี้ผอมจนเหลือแต่กระดูกแล้วหรือ ”

 

เป็นเสียงของโลธอร์

ที่ดังขึ้นเรียกสติของเพื่อนๆ

 

“ ไม่ใช่เขาหรอกข้าจำคนผิดน่ะขอโทษด้วย ”

 

ฟิโลโซเฟอร์บอก

เขารู้สึกเขินอายนิดๆ ที่แตกตื่นไม่เข้าเรื่อง

 

“ เรื่องนั้นช่างเถอะ   ในนี้มันมืดนี่นาจะมองคนผิดไปบ้างก็ช่างประไร ”

 

เด็กน้อยร่างอ้วนกล่าว

แล้วตั้งคำถามต่อไป

 

“ แล้วคนๆ นี้มายืนทำอะไรตั้งนานสองนานแบบนี้ไม่ไหวเมื่อยขาแย่เลย ”

 

“ เขาคือผู้ใช้เวทมนตร์ ”

 

เด็กชายชาวซีนาร์ยว่า

เขายื่นด้ามดาบไปแตะเครื่องประดับบนคอของร่างนั้น

มันมีไอพลังประหลาดที่แผ่ออกมาจนเขารู้สึกได้

 

“ แค่สวมชุดคลุมยาวก็ใช่ว่าจะเป็นผู้ใช้เวทมนตร์   อีกทั้งในยุคนั้นผู้คนไม่น้อยที่ชอบอ้างตัวเป็นผู้ใช้เวทมนตร์   และหากเขาเป็นจริงก็ไม่ควรถูกตรึงร่างไว้ที่นี่   พวกเขามีวิธีจัดการกับผู้จากไปแล้วอย่างสมเกียรติ   แต่อะไรทิ้งเอาไว้ที่นี่ดูวิธีการแต่งตัวสิ   ราวกับผู้ใช้มนต์ขาว   เจ้าก็รู้ผู้สร้างโอรีเวียเป็นพ่อมดขาวอีกทั้งยังเป็นนักบุญด้วย   ทิ้งพวกเดียวกันเอาไว้แบบนี้ไม่ยอมจัดการให้เรียบร้อย   แบบนี้มันใช่หรือ ”   

 

อีเลียสแย้ง

ฟิโลโซเฟอร์วาดดาบไปรอบๆ ร่างที่ไร้เนื้อหนังนั้น

อัญมณีบนด้ามดาบได้เปล่งประกายขึ้น

 

“ มันตอบสนองร่างนี้อย่างมีนัยยะ ”   

 

เด็กชายบอก

 

“ เรื่องสำคัญแบบนี้กลับไม่มีในบันทึกได้อย่างไรกัน   เกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่และเขาเป็นใคร ”

 

อีเลียสยังคงสงสัย

 

“ ในยุคที่ต้องต่อสู้กับซาเหวจลอร์ดผู้ใช้เวทมนตร์ล้มตายเป็นว่าเล่น   ถ้าจะมีสักคนหลงหูหลงตาเพื่อนไปบ้างก็ไม่เห็นแปลก   คนผู้นี้จะเป็นใครก็ตามแต่ในเมื่อเขาสะดวกที่จะอยู่ที่นี่ก็ปล่อยไว้เช่นนี้เถิดอย่าไปวุ่นวายกับเขาเลย   พวกเรามาตามหาดารีลกันมิใช่หรือ   มายืนวิจารคนอื่นแบบซึ่งหน้าเช่นนี้ผู้เจริญแล้วเขาไม่ทำกันหรอก ” 

 

โลธอร์ขัดขึ้น

 

“ อะไรกัน   ครั้งที่เจ้าง่วนอยู่กับเครื่องดื่มในครัวข้ายังไม่ว่าอะไร   สิ่งนี้น่าสนใจจะตายเขาถูกตรึงแบบนี้เพราะอะไร   มันต้องมีสาเหตุสิ ”

 

สหายร่างผอมย้อนเข้าให้

 

“ ได้   ถ้าอยากรู้ขนาดนั้นข้าจะปลุกเขาขึ้นมาเจ้าถามเขาเอาเองก็แล้วกัน ”

 

โลธอร์ดึงขวานออกมา

แต่ถูกเด็กชายชาวซีนาร์ยรั้งแขนเอาไว้เสียก่อน

 

“ อย่าล่วงเกินศพเลยเป็นเจ้าโดนแบบนี้ก็คงไม่ชอบใจนักจริงไหม ”

 

“ ข้าข้อเล่นหรอกน่าแต่เราอย่าเสียเวลาเลยนะไม่รู้สึกหรือว่า ”

 

ยังไม่ทันสิ้นเสียงของเด็กชายร่างอ้วน

ก็มีเสียงบางอย่างกระทบน้ำดังจ๋อม

เด็กๆ ทั้งสามต่างหันไปมองที่มาของเสียงพร้อมกัน

 

ร่างสีดำมากมายกำลังมุ่งมาทางพวกเขา

เชื่องช้าและเงียบงัน

 

แสงสว่างจากคบเพลิงส่องให้เห็น

ผิวหนังที่แห้งลีบติดกระดูก

บางส่วนผุพังและหลุดลุ่ยไป

แต่กรงเล็บนั้นแหลมคม

 

“ แท้จริงแล้วชาวเมืองแพสทรูแลนด์ดูเป็นมิตรอยู่ไม่น้อย   อีเลียสเจ้ามีความสามารถด้านการทูตหรือเปล่า   ช่วยถามพวกเขาดูทีผ่านมาทางนี้เห็นพ่อมดน้อยนามว่าดารีลบ้างไหม ”

 

“ ข้าไม่สมาคมกับของแบบนี้ ”

 

อีเลียสกัดฟันตอบ

ส่วนเด็กชายชาวซีนาร์ยนั้นชักดาบออกมากำมั่นไว้ในมือแล้ว

 

“ โว๊   ดุร้ายยิ่งนักอย่างเจ้านี่เคยฆ่าคนมาก่อนแล้วหรือ ”

 

เขาหันมาถามฟิโลโซเฟอร์บ้าง

 

“ ไม่เคย ”

 

เด็กน้อยตอบเสียงจริงจัง

 

“ แต่แบบนี้ข้าไม่นับว่าเป็นคนหรอก ”

 

“ แหมก็นะใครจะรู้   เมืองศิวิไลซ์อย่างโอรีเวียมีของแบบนี้ซ่อนอยู่ด้านใต้ได้อย่างไรกันแล้วยังเอาดารีลมาขังไว้อีก   พิลึกอะไรเช่นนี้   เอาเถอะ ”

 

เขาว่าพลางยื่นคบเพลิงให้อีเลียส

แล้วชักค้อนกับขวานออกมาถือคู่กัน

 

“ อยู่ข้างหลังข้าก่อนตายก็คงหาหนุ่มน้อยคนนั้นพบอยู่หรอก   ปราสาทแคบๆ เอง ”

 

โลธอร์ประชด

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา