โอรีเวีย ( เมืองต้องสาป )
7.3
เขียนโดย shilen
วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 18.27 น.
188 บทที่
11 วิจารณ์
137.56K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 20.35 น. โดย เจ้าของนิยาย
155) ห้องเก็บของ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความในตอนเช้าของวันนั้นเด็กๆ ทยอยกันมาที่โถงอาหาร แต่เสียงที่เคยพูดคุยกันอย่างสนุกสนานกลับเงียบหายไปพร้อมกับศรัทธาแห่งโอรีเวีย ความหวาดกลัวความวิตกกังวลมากมายถาโถมเข้ามาพร้อมกับข่าวลือแปลกประหลาด ที่ชวนให้ขวัญผวา
“ ฟิโลโซเฟอร์ เช้านี้ดูสีหน้าไม่ดีเลย เป็นอะไรหรือเปล่า ”
ฟีไลร่าถามด้วยความเป็นห่วง
เมื่อเห็นเด็กชายมีท่าทีเซื่องซึมผิดปรกติ
“ ข้านอนไม่หลับน่ะ ”
เขาสามารถกล่าวเท็จได้อย่างหน้าตาเฉย
“ จริง เวลาแบบนี้เป็นใครคงข่มตาหลับได้ยาก ”
อีเลียสเห็นด้วย
“ เว้นไว้แต่เพียงผู้เดียว ”
เด็กสาวผิวเข้มกล่าวเสียดสีไปยังโลธอร์
“ ก็จะทำไมล่ะ ทุกข์ใจไปก็เท่านั้นสู้กินให้อิ่มนอนให้หลับไม่ดีกว่าหรือ ปลายดาบยังแกว่งมาไม่ถึงป่วยการที่จะทำแผลไว้รอ ”
เจ้าเด็กร่างอ้วนว่า
“ แต่ดารีลก็ต้องลงไปอยู่ในคุกใต้ดินแล้ว เพื่อสังเวยให้กับความผิดที่ตนเองไม่ได้ก่อ แบบนี้ไม่ยุติธรรมเลย ”
ฟีไลร่าว่าพลางก้มหน้า
“ หมอนั่นเป็นคนโปรดของจอมเวทวาลาน ยากนักที่ใครจะใส่ความ การถูกตัดสินเช่นนั้นมันย่อมมีเหตุผลที่หนักแน่นพอ ”
อีเลียสบอก
“ เจ้าจะบอกว่าเขาเป็นคนทำเรื่องเลวร้ายเหล่านั้นหรือ ”
เด็กหญิงผมสีเงินขึ้นเสียง
“ ทั้งหมดเป็นความต้องการของเขา ดารีลเลือกที่จะไปที่นั่นด้วยตัวของเขาเอง ”
ฟิโลโซเฟอร์ขัดขึ้น
ก่อนที่จะมีเหตุทะเลาะวิวาท
“ เขาบอกเจ้าหรือเหตุใดเจ้าไม่ห้ามเขา คุกใต้ดินแห่งโอรีเวียอันตรายมากนัก ”
นางต่อว่า
“ ถ้าที่นั่นอันตรายขนาดนั้นจริง จอมเวทวาลานคงไม่ยอมปล่อยให้เขาไปแน่ ต่อให้ดารีลมีความผิดจริงตามข้อกล่าวหาก็ตาม ”
อีเลียสแย้ง
“ จริง นี่คงไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ”
ฟิโลโซเฟอร์เห็นด้วย
ซึ่งนั่นสร้างความประหลาดใจให้กับเพื่อนๆ ไม่น้อย
ที่เขาไม่เดือดร้อนกับชะตากรรมของดารีล
โลธอร์ยกโถน้ำซุบขึ้นซดโฮกๆ จนหมดในคราเดียว
“ อย่าทำอย่างนั้น ”
เลโอน่าตำหนิ
“ ก็นึกว่าจะไม่กินกันแล้วเห็นเอาแต่คุยกัน ”
โลธอร์ตอบท่าทางไร้เดียงสา
เด็กๆ ต่างก้มมองจานข้าวที่เหลือบาน
“ แบบนี้ไม่ดีนะ แม่ข้าว่าทานข้าวไม่หมดจานไปรบที่ไหนก็แพ้ ”
ในวันนี้การเรียนการสอนก็ชะงักค้างไปอีก
เด็กหลายคนอยากกลับบ้าน
แต่ก็ถูกกักตัวไว้
ปราสาทขาวในเวลานี้ห้ามคนเข้าออก
ทุกอย่างเหมือนค้างเติ่งอยู่กับที่
ฟิโลโซเฟอร์กำชับน้องสาวให้อยู่แต่ภายในห้อง
และพยายามอยู่ในกลุ่มคนจำนวนมาก
อย่าไปไหนตามลำพัง
ส่วนตัวเขาถือเอาดาบสีเงินที่ดารีลมอบให้
เดินหลบไปยังห้องเก็บของเก่าๆ
ไม่ให้เพื่อนรู้ตัว
เขานั่งลงเพียงลำพังที่มุมหนึ่งของห้อง
ที่เต็มไปด้วยกล่องไม้และฝุ่นผง
เขาหยิบแผนที่ที่สตรีชุดแดงมอบให้ขึ้นมา
คลี่มันออกดูอีกครั้ง
เขารู้ว่ามีห้องลับอยู่เบื้องล่างนี้
แต่กลับไม่รู้ว่าทางลงอยู่ที่แห่งใด
เขาเดินสำรวจอยู่นานในที่สุดก็กลับมานั่งที่เดิม
พื้นห้องนี้เป็นหินอ่อนทั้งหมด
หากจะลองงัดดูคงงานหินไม่น้อย
เด็กชายชาวซีนาร์ยหยิบแผนที่ขึ้นมาดูอีกครั้ง
พร้อมกับความคิดที่ว่าสตรีเจ้าเล่ห์นั้นอาจเล่นตลกกับเขา
“ แอบมาทำอะไรอยู่ตรงนี้ ”
เสียงคุ้นหูดังขึ้น
อีเลียสนั่นเอง
ข้างกายคือเจ้าเด็กร่างอ้วนที่ฟิโลโซเฟอร์รู้จักเป็นอย่างดี
เด็กคนนั้นยืนกอดอกจ้องเด็กชายชาวซีนาร์ย
ด้วยสายตาขุ่นเคือง
“ แอบออกมาตามลำพังอีกแล้วนะ ทุกวันนี้มีความลับกับข้าแล้วหรือ ”
โลธอร์ต่อว่า
“ เปล่านี่ ”
ฟิโลโซเฟอร์พูดปด
เขารีบพับแผนที่เก็บเข้ากระเป๋า
“ ข้าน่ะเป็นบุรุษเต็มตัว แค่จะออกมาเดินเล่นนิดหน่อยเพียงเท่านี้ ถ้าถึงกับต้องหาคนออกมาเดินเป็นเพื่อนไม่คิดว่าน่าเกลียดไปหน่อยหรือ ”
“ จริงหรา… ”
โลธอร์ลากเสียงล้อเลียน
“ แล้วที่รีบพับเก็บไปน่ะอะไร อย่าบอกนะว่าเป็นจดหมายรักจากสาวๆ ลับๆ ล่อๆ ขนาดนี้ข้อความในจดหมายคงเร่าร้อนใช่เล่น ไม่เอาน่าฟิเลียสเราเป็นเพื่อนกันนะ บอกมาเถอะนี่มันเรื่องอะไร ”
“ ฟิโลโซเฟอร์ต่างหากล่ะ ”
อีเลียสเกาหัวอย่างขัดใจ
“ พวกเจ้ามากันแค่สองคนหรือแล้วพวกผู้หญิงล่ะ ”
เด็กชายเปลี่ยนเรื่อง
“ อย่าห่วงเลยพวกเขาเข้าหอนอนไปหมดแล้ว ”
“ ฟิโลโซเฟอร์ เช้านี้ดูสีหน้าไม่ดีเลย เป็นอะไรหรือเปล่า ”
ฟีไลร่าถามด้วยความเป็นห่วง
เมื่อเห็นเด็กชายมีท่าทีเซื่องซึมผิดปรกติ
“ ข้านอนไม่หลับน่ะ ”
เขาสามารถกล่าวเท็จได้อย่างหน้าตาเฉย
“ จริง เวลาแบบนี้เป็นใครคงข่มตาหลับได้ยาก ”
อีเลียสเห็นด้วย
“ เว้นไว้แต่เพียงผู้เดียว ”
เด็กสาวผิวเข้มกล่าวเสียดสีไปยังโลธอร์
“ ก็จะทำไมล่ะ ทุกข์ใจไปก็เท่านั้นสู้กินให้อิ่มนอนให้หลับไม่ดีกว่าหรือ ปลายดาบยังแกว่งมาไม่ถึงป่วยการที่จะทำแผลไว้รอ ”
เจ้าเด็กร่างอ้วนว่า
“ แต่ดารีลก็ต้องลงไปอยู่ในคุกใต้ดินแล้ว เพื่อสังเวยให้กับความผิดที่ตนเองไม่ได้ก่อ แบบนี้ไม่ยุติธรรมเลย ”
ฟีไลร่าว่าพลางก้มหน้า
“ หมอนั่นเป็นคนโปรดของจอมเวทวาลาน ยากนักที่ใครจะใส่ความ การถูกตัดสินเช่นนั้นมันย่อมมีเหตุผลที่หนักแน่นพอ ”
อีเลียสบอก
“ เจ้าจะบอกว่าเขาเป็นคนทำเรื่องเลวร้ายเหล่านั้นหรือ ”
เด็กหญิงผมสีเงินขึ้นเสียง
“ ทั้งหมดเป็นความต้องการของเขา ดารีลเลือกที่จะไปที่นั่นด้วยตัวของเขาเอง ”
ฟิโลโซเฟอร์ขัดขึ้น
ก่อนที่จะมีเหตุทะเลาะวิวาท
“ เขาบอกเจ้าหรือเหตุใดเจ้าไม่ห้ามเขา คุกใต้ดินแห่งโอรีเวียอันตรายมากนัก ”
นางต่อว่า
“ ถ้าที่นั่นอันตรายขนาดนั้นจริง จอมเวทวาลานคงไม่ยอมปล่อยให้เขาไปแน่ ต่อให้ดารีลมีความผิดจริงตามข้อกล่าวหาก็ตาม ”
อีเลียสแย้ง
“ จริง นี่คงไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ”
ฟิโลโซเฟอร์เห็นด้วย
ซึ่งนั่นสร้างความประหลาดใจให้กับเพื่อนๆ ไม่น้อย
ที่เขาไม่เดือดร้อนกับชะตากรรมของดารีล
โลธอร์ยกโถน้ำซุบขึ้นซดโฮกๆ จนหมดในคราเดียว
“ อย่าทำอย่างนั้น ”
เลโอน่าตำหนิ
“ ก็นึกว่าจะไม่กินกันแล้วเห็นเอาแต่คุยกัน ”
โลธอร์ตอบท่าทางไร้เดียงสา
เด็กๆ ต่างก้มมองจานข้าวที่เหลือบาน
“ แบบนี้ไม่ดีนะ แม่ข้าว่าทานข้าวไม่หมดจานไปรบที่ไหนก็แพ้ ”
ในวันนี้การเรียนการสอนก็ชะงักค้างไปอีก
เด็กหลายคนอยากกลับบ้าน
แต่ก็ถูกกักตัวไว้
ปราสาทขาวในเวลานี้ห้ามคนเข้าออก
ทุกอย่างเหมือนค้างเติ่งอยู่กับที่
ฟิโลโซเฟอร์กำชับน้องสาวให้อยู่แต่ภายในห้อง
และพยายามอยู่ในกลุ่มคนจำนวนมาก
อย่าไปไหนตามลำพัง
ส่วนตัวเขาถือเอาดาบสีเงินที่ดารีลมอบให้
เดินหลบไปยังห้องเก็บของเก่าๆ
ไม่ให้เพื่อนรู้ตัว
เขานั่งลงเพียงลำพังที่มุมหนึ่งของห้อง
ที่เต็มไปด้วยกล่องไม้และฝุ่นผง
เขาหยิบแผนที่ที่สตรีชุดแดงมอบให้ขึ้นมา
คลี่มันออกดูอีกครั้ง
เขารู้ว่ามีห้องลับอยู่เบื้องล่างนี้
แต่กลับไม่รู้ว่าทางลงอยู่ที่แห่งใด
เขาเดินสำรวจอยู่นานในที่สุดก็กลับมานั่งที่เดิม
พื้นห้องนี้เป็นหินอ่อนทั้งหมด
หากจะลองงัดดูคงงานหินไม่น้อย
เด็กชายชาวซีนาร์ยหยิบแผนที่ขึ้นมาดูอีกครั้ง
พร้อมกับความคิดที่ว่าสตรีเจ้าเล่ห์นั้นอาจเล่นตลกกับเขา
“ แอบมาทำอะไรอยู่ตรงนี้ ”
เสียงคุ้นหูดังขึ้น
อีเลียสนั่นเอง
ข้างกายคือเจ้าเด็กร่างอ้วนที่ฟิโลโซเฟอร์รู้จักเป็นอย่างดี
เด็กคนนั้นยืนกอดอกจ้องเด็กชายชาวซีนาร์ย
ด้วยสายตาขุ่นเคือง
“ แอบออกมาตามลำพังอีกแล้วนะ ทุกวันนี้มีความลับกับข้าแล้วหรือ ”
โลธอร์ต่อว่า
“ เปล่านี่ ”
ฟิโลโซเฟอร์พูดปด
เขารีบพับแผนที่เก็บเข้ากระเป๋า
“ ข้าน่ะเป็นบุรุษเต็มตัว แค่จะออกมาเดินเล่นนิดหน่อยเพียงเท่านี้ ถ้าถึงกับต้องหาคนออกมาเดินเป็นเพื่อนไม่คิดว่าน่าเกลียดไปหน่อยหรือ ”
“ จริงหรา… ”
โลธอร์ลากเสียงล้อเลียน
“ แล้วที่รีบพับเก็บไปน่ะอะไร อย่าบอกนะว่าเป็นจดหมายรักจากสาวๆ ลับๆ ล่อๆ ขนาดนี้ข้อความในจดหมายคงเร่าร้อนใช่เล่น ไม่เอาน่าฟิเลียสเราเป็นเพื่อนกันนะ บอกมาเถอะนี่มันเรื่องอะไร ”
“ ฟิโลโซเฟอร์ต่างหากล่ะ ”
อีเลียสเกาหัวอย่างขัดใจ
“ พวกเจ้ามากันแค่สองคนหรือแล้วพวกผู้หญิงล่ะ ”
เด็กชายเปลี่ยนเรื่อง
“ อย่าห่วงเลยพวกเขาเข้าหอนอนไปหมดแล้ว ”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ