โอรีเวีย ( เมืองต้องสาป )
7.3
เขียนโดย shilen
วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 18.27 น.
188 บทที่
11 วิจารณ์
137.77K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 20.35 น. โดย เจ้าของนิยาย
138) ปล่อยวาง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความฟิโลโซเฟอร์ถอนหญ้าออกเป็นวงกว้างตามแบบที่บิดาของเขาเคยสอน เมื่อตะวันลับขอบฟ้าเขาก็จุดไฟด้วยเศษหญ้าแห้ง แต่เนื่องจากทุ้งหญ้าแห่งนี้หาฟืนยากไฟจึงไหม้ลามเลียอย่างรวดเร็วและทำท่าจะมอดลง
ดารีลยื่นมือไปอังเหนือกองไฟ เปลวสีฟ้าก็สว่างโพลงขึ้น แหวนรูปงูทอประกายประหลาดดูลึกลับราวกับมีชีวิต ในค่ำคืนที่ไร้แสงจันทร์ดวงดาวกลับสว่างไสวพร่างพราย อากาศเย็นสบายกำลังดี
“ ข้าชอบคืนแบบนี้ ”
เด็กชายตัวน้อยชวนคุย
“ ท่านพ่อจะก่อไฟกองใหญ่ พวกเราทั้งหมดนั่งรอบกองไฟนั้น มีทั้งขนมน้ำหวานและนิทานก่อนนอน หากโชคดีท่านแม่อาจร้องเพลงให้ฟังด้วย ”
“ เสียใจด้วยนะ ที่นี่ไม่มีสักอย่างที่ว่ามา ”
คนอายุมากกว่าว่า
“ ไม่เห็นเป็นไรเลย อย่างน้อยมันก็เป็นคืนที่น่าตื่นเต้นมิใช่หรือ ”
ฟิโลโซเฟอร์บอก
สายตาก็ชำเลืองไปทางหุบเขาต้องสาป
ดารีลแทบจะเรียกได้ว่าไร้อาวุธ
ส่วนเขาก็ไร้อาวุธโดยสิ้นเชิง
ในทุ่งหญ้าด้านทิศใต้
ที่ๆ มังกรอาจบินผ่านไปมาได้ทุกเมื่อ
เมื่อเป็นเช่นนี้
พูดว่าระทึกใจก็ยังดูน้อยเกินไป
พ่อมดน้อยโยนหัวมันฝรั่งไปให้เขาสองหัว
และเตือนให้กรีดเป็นแผลก่อนเผาในขี้เถ้า
เพราะไม่อย่างนั้น
หัวมันอาจระเบิดใส่หน้าได้
ฟิโลโซเฟอร์นั้นเผามันอย่างตั้งใจ
ส่วนอีกคนก็เอาแต่ซบหน้าลงบนเข่าไม่พูดไม่จา
จนเด็กชายตัวน้อยเผามันฝรั่งเสร็จ
แล้วยื่นหัวหนึ่งไปให้
ดารีลนั้นส่ายหน้า
ทั้งที่ไม่ได้เงยขึ้นมา
“ ทำไมล่ะ เจ้ายังไม่ได้กินอะไรเลยนะ ”
เด็กชายท้วง
“ ข้าชวนกินเจ้าก็ไม่ยอมกิน ตอนนี้ข้ามีอยู่เท่านั้นแหละเจ้ากินไปเถอะข้าไม่หิว หรือถ้าเกิดหิวขึ้นมาจริงๆ ข้าล่าสัตว์แถวนี้ก็ได้ ”
“ แถวนี้มีอะไรให้ล่าด้วยหรือ ”
“ มีสิอย่างน้อยก็เจ้าคนหนึ่งล่ะ เวลาหิวอะไรข้าก็กินได้ทั้งนั้น ”
คนอายุมากกว่าว่าพลางหัวเราะ
ฟิโลโซเฟอร์ได้ยินดังนั้น
จึงโยนมันเผาไปให้ทั้งสองหัว
“ แล้วกัน ข้าล้อเล่นหรอกนะ เจ้าคิดว่าอย่างข้านี่กินได้ทุกอย่างจริงๆ น่ะหรือ ”
“ เปล่าหรอกปรกติข้าไม่กินอะไรตอนเย็น ”
“ เจ้าโกหก ”
คนอายุมากกว่าว่า
อย่างรู้ทัน
“ ดารีล ถ้าเจ้าไม่กิน ข้าจะกินลงได้อย่างไร ”
หนุ่มน้อยไม่ตอบโต้ว่ากระไร
เขาเพียงแต่เบือนหน้าไปทางอื่น
“ ขอบใจนะ ”
อยู่ๆ เขาก็เอ่ยปากขึ้น
“ เรื่องอะไรล่ะ ”
เด็กชายสงสัย
“ ที่ทำให้วันสุดวิปลาสของข้ากลายเป็นวันธรรมดาขึ้นมา ”
“ เหอะ ”
เด็กน้อยเค้นเสียง
วันธรรมดาอย่างนั้นหรือ
ที่ไหนกันเล่า
วันนี้พิเศษที่สุดต่างหาก
“ เกิดอะไรขึ้นในสภาหรือเปล่า ”
ฟิโลโซเฟอร์เอ่ยถาม
“ ช่างเถอะข้าชินแล้ว ”
คำตอบนั้นชวนหงุดหงิดไม่น้อย
“ เจ้าจะเคยชินกับเรื่องชั่วร้ายไม่ได้นะ ”
ดารีลล้มตัวลงนอนบนพื้นหญ้า
แล้วเงียบไป
ไม่มีความเห็นใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้
“ ดารีล ”
เด็กชายเรียกด้วยความเป็นห่วง
“ จริงๆ แล้ว ”
ดารีลเอ่ยขึ้น
“ ข้าอยากมีบ้านหลังเล็กๆ ท่ามกลางป่าใหญ่ มีพ่อมีแม่และน้องชายแสนซนสักคน แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว แต่ดูเหมือนว่าเทพองค์ใดก็ไม่คิดปราณีข้า ”
หนุ่มน้อยหลับตาลง
สีหน้านั้นเศร้าโศกยิ่งนัก
“ ถ้าเจ้าต้องการ เจ้าก็สร้างเองได้นี่ ทั้งหลายทั้งปวงอยู่ในมือเจ้าทั้งนั้น ออกจากโอรีเวียนี่ไปสร้างชีวิตของตัวเองขึ้นมาใหม่ เจ้าทำได้อยู่แล้ว ”
ฟิโลโซเฟอร์ว่า
“ เจ้าคงไม่เคยเข้าใจในสิ่งที่ข้าพยายามอธิบายสินะ ”
หนุ่มน้อยคนนั้นกล่าว
เด็กชายล้มตัวลงนอนข้างๆ
“ เข้าใจสิ เรื่องมันจะง่ายกว่านี้ ถ้าเจ้าคิดถึงตนเองมากกว่าคนอื่น การเห็นแก่ตัวบางทีก็ไม่ได้แย่เสมอไป คนเรามีความต้องการไม่สิ้นสุด หากไม่ปล่อยวางก็เป็นทุกข์เปล่าๆ เชื่อข้าสิ ไม่มีเจ้าพวกเขาก็เดินหน้าต่อได้ ถ้าเจ้าไม่ไหวแล้วก็ปล่อยมือไปเถอะ อย่าพยายามเลย ”
ดารีลกำเศษหญ้าขึ้นมา
โปรยให้ปลิวไปกับลม
“ ข้าก็อยากทำแบบนั้นเหมือนกัน ปล่อยวางไปเลยทั้งอย่างนี้ แค่พูดมันก็ง่ายอยู่หรอก ข้าน่ะจะแบกรับความสูญเสียได้อีกสักเท่าไหร่ ถ้าหากสามารถปล่อยวางได้จริงก็ดีสินะ ชีวิตหลังจากนี้คงไม่มีเรื่องใดให้ต้องเสียใจอีก ”
ดารีลยื่นมือไปอังเหนือกองไฟ เปลวสีฟ้าก็สว่างโพลงขึ้น แหวนรูปงูทอประกายประหลาดดูลึกลับราวกับมีชีวิต ในค่ำคืนที่ไร้แสงจันทร์ดวงดาวกลับสว่างไสวพร่างพราย อากาศเย็นสบายกำลังดี
“ ข้าชอบคืนแบบนี้ ”
เด็กชายตัวน้อยชวนคุย
“ ท่านพ่อจะก่อไฟกองใหญ่ พวกเราทั้งหมดนั่งรอบกองไฟนั้น มีทั้งขนมน้ำหวานและนิทานก่อนนอน หากโชคดีท่านแม่อาจร้องเพลงให้ฟังด้วย ”
“ เสียใจด้วยนะ ที่นี่ไม่มีสักอย่างที่ว่ามา ”
คนอายุมากกว่าว่า
“ ไม่เห็นเป็นไรเลย อย่างน้อยมันก็เป็นคืนที่น่าตื่นเต้นมิใช่หรือ ”
ฟิโลโซเฟอร์บอก
สายตาก็ชำเลืองไปทางหุบเขาต้องสาป
ดารีลแทบจะเรียกได้ว่าไร้อาวุธ
ส่วนเขาก็ไร้อาวุธโดยสิ้นเชิง
ในทุ่งหญ้าด้านทิศใต้
ที่ๆ มังกรอาจบินผ่านไปมาได้ทุกเมื่อ
เมื่อเป็นเช่นนี้
พูดว่าระทึกใจก็ยังดูน้อยเกินไป
พ่อมดน้อยโยนหัวมันฝรั่งไปให้เขาสองหัว
และเตือนให้กรีดเป็นแผลก่อนเผาในขี้เถ้า
เพราะไม่อย่างนั้น
หัวมันอาจระเบิดใส่หน้าได้
ฟิโลโซเฟอร์นั้นเผามันอย่างตั้งใจ
ส่วนอีกคนก็เอาแต่ซบหน้าลงบนเข่าไม่พูดไม่จา
จนเด็กชายตัวน้อยเผามันฝรั่งเสร็จ
แล้วยื่นหัวหนึ่งไปให้
ดารีลนั้นส่ายหน้า
ทั้งที่ไม่ได้เงยขึ้นมา
“ ทำไมล่ะ เจ้ายังไม่ได้กินอะไรเลยนะ ”
เด็กชายท้วง
“ ข้าชวนกินเจ้าก็ไม่ยอมกิน ตอนนี้ข้ามีอยู่เท่านั้นแหละเจ้ากินไปเถอะข้าไม่หิว หรือถ้าเกิดหิวขึ้นมาจริงๆ ข้าล่าสัตว์แถวนี้ก็ได้ ”
“ แถวนี้มีอะไรให้ล่าด้วยหรือ ”
“ มีสิอย่างน้อยก็เจ้าคนหนึ่งล่ะ เวลาหิวอะไรข้าก็กินได้ทั้งนั้น ”
คนอายุมากกว่าว่าพลางหัวเราะ
ฟิโลโซเฟอร์ได้ยินดังนั้น
จึงโยนมันเผาไปให้ทั้งสองหัว
“ แล้วกัน ข้าล้อเล่นหรอกนะ เจ้าคิดว่าอย่างข้านี่กินได้ทุกอย่างจริงๆ น่ะหรือ ”
“ เปล่าหรอกปรกติข้าไม่กินอะไรตอนเย็น ”
“ เจ้าโกหก ”
คนอายุมากกว่าว่า
อย่างรู้ทัน
“ ดารีล ถ้าเจ้าไม่กิน ข้าจะกินลงได้อย่างไร ”
หนุ่มน้อยไม่ตอบโต้ว่ากระไร
เขาเพียงแต่เบือนหน้าไปทางอื่น
“ ขอบใจนะ ”
อยู่ๆ เขาก็เอ่ยปากขึ้น
“ เรื่องอะไรล่ะ ”
เด็กชายสงสัย
“ ที่ทำให้วันสุดวิปลาสของข้ากลายเป็นวันธรรมดาขึ้นมา ”
“ เหอะ ”
เด็กน้อยเค้นเสียง
วันธรรมดาอย่างนั้นหรือ
ที่ไหนกันเล่า
วันนี้พิเศษที่สุดต่างหาก
“ เกิดอะไรขึ้นในสภาหรือเปล่า ”
ฟิโลโซเฟอร์เอ่ยถาม
“ ช่างเถอะข้าชินแล้ว ”
คำตอบนั้นชวนหงุดหงิดไม่น้อย
“ เจ้าจะเคยชินกับเรื่องชั่วร้ายไม่ได้นะ ”
ดารีลล้มตัวลงนอนบนพื้นหญ้า
แล้วเงียบไป
ไม่มีความเห็นใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้
“ ดารีล ”
เด็กชายเรียกด้วยความเป็นห่วง
“ จริงๆ แล้ว ”
ดารีลเอ่ยขึ้น
“ ข้าอยากมีบ้านหลังเล็กๆ ท่ามกลางป่าใหญ่ มีพ่อมีแม่และน้องชายแสนซนสักคน แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว แต่ดูเหมือนว่าเทพองค์ใดก็ไม่คิดปราณีข้า ”
หนุ่มน้อยหลับตาลง
สีหน้านั้นเศร้าโศกยิ่งนัก
“ ถ้าเจ้าต้องการ เจ้าก็สร้างเองได้นี่ ทั้งหลายทั้งปวงอยู่ในมือเจ้าทั้งนั้น ออกจากโอรีเวียนี่ไปสร้างชีวิตของตัวเองขึ้นมาใหม่ เจ้าทำได้อยู่แล้ว ”
ฟิโลโซเฟอร์ว่า
“ เจ้าคงไม่เคยเข้าใจในสิ่งที่ข้าพยายามอธิบายสินะ ”
หนุ่มน้อยคนนั้นกล่าว
เด็กชายล้มตัวลงนอนข้างๆ
“ เข้าใจสิ เรื่องมันจะง่ายกว่านี้ ถ้าเจ้าคิดถึงตนเองมากกว่าคนอื่น การเห็นแก่ตัวบางทีก็ไม่ได้แย่เสมอไป คนเรามีความต้องการไม่สิ้นสุด หากไม่ปล่อยวางก็เป็นทุกข์เปล่าๆ เชื่อข้าสิ ไม่มีเจ้าพวกเขาก็เดินหน้าต่อได้ ถ้าเจ้าไม่ไหวแล้วก็ปล่อยมือไปเถอะ อย่าพยายามเลย ”
ดารีลกำเศษหญ้าขึ้นมา
โปรยให้ปลิวไปกับลม
“ ข้าก็อยากทำแบบนั้นเหมือนกัน ปล่อยวางไปเลยทั้งอย่างนี้ แค่พูดมันก็ง่ายอยู่หรอก ข้าน่ะจะแบกรับความสูญเสียได้อีกสักเท่าไหร่ ถ้าหากสามารถปล่อยวางได้จริงก็ดีสินะ ชีวิตหลังจากนี้คงไม่มีเรื่องใดให้ต้องเสียใจอีก ”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ