โอรีเวีย ( เมืองต้องสาป )

7.3

เขียนโดย shilen

วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 18.27 น.

  188 บทที่
  11 วิจารณ์
  137.73K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 20.35 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

111) มีดแห่งโชคชะตา

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
กาเอลนั่งอยู่ในกระโจมสีแดง   เขายังคงสวมหน้ากากสีดำรูปร่างน่าเกลียดน่ากลัว   กระถางหินเผากำยานอันเล็กวางอยู่บนโต๊ะ   แสงไฟจากกระถางล่อแมลงกลางคืนให้บินเข้ามาหา   เขาใช้หนามแหลมจิ้มตายทีละตัวแล้วเขี่ยไปกองรวมกันไว้   เวลาผ่านไปเนิ่นนาน   เขาก็ยังเฝ้าสังหารแมลงเหล่านั้น   ด้วยอาการอันสงบเยือกเย็น   จากแมลงกองเล็กๆ ก็เริ่มใหญ่ขึ้น   แต่เหล่าแมลงก็ยังไม่เกรงกลัว   ต่างบินเข้าหากองไฟไม่ขาดสายโดยไม่สนความตายที่รออยู่   อาจเป็นเพราะเปลวเพลิงนั้นสวยงามหรือกลิ่นกำยานที่หอมยั่วยวน   จึงนำพาเหล่าแมลงกลางคืนเคราะห์ร้ายให้มาตายตรงนี้
 
 
นี่เป็นครั้งแรกที่หนุ่มน้อยคนนี้เป็นฝ่ายเฝ้ารอ   กระโจมสีแดงนั้นว่างเปล่าไม่มีจดหมายหรือข้อความใด   หรือข้าวของที่แสดงว่าที่นี่เคยมีคนอาศัยอยู่   แต่เขารู้ว่าถึงอย่างไรนางต้องมา   สตรีที่แสนงดงามคนนั้น   เขาจึงยังคงนั่งอยู่ตรงนั้นโดยไม่มีท่าทีเหนื่อยหน่าย
 
 
            พระจันทร์เต็มดวงลอยเด่นขึ้นเหนือหัว   เมฆก้อนใหญ่ลอยเข้ามาบังแสงสีเงินที่สว่างนวล   ท้องฟ้าได้มืดลงพร้อมกับเงาร่างหนึ่งปรากฏขึ้นที่หน้าประตู
 
กาเอลนั้นยังคงนั่งทำตัวเรื่อยเปื่อยกับแมลงตรงหน้า   ไม่แม้จะหันไปมองดูผู้มาเยือนว่าเป็นใคร   เพราะเขารู้ดีอยู่แล้ว   นอกจากนางแล้วไม่มีทางเป็นผู้อื่น
 
“ บ้าจริงกาเอล   เจ้าทำข้าตกใจแทบตาย   คิดจะทำอะไรกันนะ ”
 
เสียงของนางเจื้อยแจ้ว
ตั้งแต่ยังเดินไม่พ้นม่านกั้นประตูเข้ามา
หนุ่มน้อยคนนี้ตอบสนองนางด้วยความเงียบ
         
เมื่อสตรีชุดแดงเดินเข้ามาถึงกลางห้อง
และมองเห็นสิ่งที่กองอยู่บนโต๊ะ
นางถึงกับอุทานออกมา
 
“ นี่มันอะไรกัน ”
 
“ กำลังฆ่าเวลาอยู่ ”
 
เขาตอบ
 
“ ไม่ใช่ละ   โถแมลงตัวน้อยที่น่าสงสาร   พวกเจ้าทำอะไรผิดไปหรือ   กาเอลใยเจ้าโหดร้ายนัก ”
 
นางต่อว่าเขา
แต่สีหน้าของนางนั้นขัดกับน้ำเสียงยิ่ง
 
“ เจ้าว่าสิ่งนี้น่าสนใจหรือไม่   แค่ไฟกองเล็กๆ กินก็ไม่ได้บินเข้าใกล้อาจถึงตาย   เหตุใดจึงดึงดูดแมลงพวกนี้ ”
 
กาเอลถาม
 
“ แล้วมันต่างจากเจ้าตรงไหน   สิ่งที่ทำอันตรายนัก   คิดจะทำลายอนุสาวรีย์เรื่องใหญ่ขนาดนี้เจ้าไม่ปรึกษาข้า ”     
 
“ ทำไมล่ะ   กลัวข้าตายหรืออย่างไร ”
 
“ ใช่ ”
 
สตรีชุดแดงตอบเสียงเฉียบขาด
 
“ ข้าน่ะ   มีเจ้าเพียงคนเดียวนะ   ถ้าเกิดเสียเจ้าไป   ข้าจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร   หากวันนั้นข้าตามไปไม่ทันคิดดูสิว่าจะเกิดอะไรขึ้น ”
 
“ คำหวานเคลือบยาพิษของเจ้า   ข้าไม่เชื่อหรอก   เสียข้าไปแค่คนเดียวเจ้ากระดิกนิ้วเรียกใครมาแทนก็ได้   เกรงแต่ว่าจะเลือกไม่ถูกเท่านั้นเอง ”
 
คนสวมหน้ากากว่า
 
“ กาเอลนะกาเอล   ข้าไม่ได้เลือกเจ้าเพราะเจ้าเก่ง   แต่ข้าเลือกเพราะข้ารักเจ้าต่างหากล่ะ   โชคชะตาที่เลวร้ายทำหัวใจของเจ้าด้านชาจนสิ่งดีๆ ที่ข้าทำไม่อาจซึมลงไปหรืออย่างไร   ข้าน่ะไม่เคยทุ่มเทเพื่อใครมากเท่านี้และสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นเลยในชีวิตของข้าก็ได้เกิดขึ้นแล้วเมื่อเจ้าอยู่ตรงหน้า   อย่าทำให้ข้าต้องปวดใจมากไปกว่านี้เลยนะเด็กชายตัวน้อยๆ ของข้า ”
 
“ ถ้อยคำเหล่านี้   ข้าได้ยินเสมอเวลาเจ้าอยู่ตามลำพังกับชายหนุ่ม   และรู้เอาไว้ด้วยว่าข้าไม่ใช่ของเล่นของใคร ”
 
“ ตายจริงแอบฟังข้าหรอกหรือ   ปากบอกไม่   แต่ในใจก็อยากรู้อยู่ไม่น้อยสินะ ”
 
นางนั่งลงตรงหน้าเขา
วาดนิ้วเรียวงามไปบนลำคอแข็งแกร่งของคู่สนทนา
 
“ แล้วเจ้าไปทำอะไรที่บ้านหลังนั้น ”
 
กาเอลถามพลางผลักมือของหญิงงามออกไปห่างๆ
แต่สตรีชุดแดงกลับรวบมือของเขาไว้ไม่ยอมปล่อย
 
“ ข้าปรารถนารสจูบของเจ้า ”
 
เสียงของนางเย้ายวนนัก
 
“ ฝันไปเถอะ ”
 
หนุ่มน้อยคนนั้นตอบแบบไร้เยื่อใย
 
“ ทำไมล่ะ   ข้ารักเจ้านะไม่มีทางคิดร้ายกับเจ้าอย่างแน่นอน ”
 
“ เอาความรักของเจ้ากองไว้ตรงนั้นเถอะแม่คนงาม   ข้ามีเรื่องอื่นมากมายต้องทำ   สิ่งไร้สาระพรรค์นี้ไม่ได้อยู่ในหัวสักนิด   บอกมาสักทีเจ้าไปทำอะไรที่นั่น   ข้าเบื่อวิธีเล่นแง่ของเจ้าแล้ว ” 
 
“ ไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งไม่รู้   ข้าก็ตามดารีลไปน่ะสิ   โอ้! หนุ่มน้อยที่งดงามที่สุดในโอรีเวีย ”
 
“ เพื่อ ”
 
แม้สีหน้าจะซ่อนในหน้ากาก
แต่น้ำเสียงนั้นขุ่นจัด
 
แววตาของสตรีชุดแดงเบิกกว้าง
พร้อมกับรอยยิ้มสมใจ
 
“ เจ้าหึงหวงข้านี่นา   ถึงว่าสิ   คืนนี้จึงนั่งรอข้าอยู่นานสองนาน   แอบรักข้าสินะหลงรักข้าอยู่หรือเปล่า ”
 
“ หุบปากไปเลย   ข้าพุ่งเป้าไปที่อนุสาวรีย์แต่เจ้ากลับโจมตีบ้านหลังนั้นที่อยู่นอกกำแพง   บอกข้าทีว่าเรากำลังทำเรื่องเดียวกันอยู่   เจ้าเองที่กล่าวหาว่าข้าเดินนอกแผน   แล้วสิ่งที่ทำวันนั้นมันอยู่ในแผนตั้งแต่เมื่อไหร่เหตุใดข้าจึงไม่รู้เรื่องมาก่อน   ข้าต้องการคำอธิบายดีๆ ไม่อย่างนั้นข้าจะเดือดให้เจ้าได้เห็น ”
 
“ กาเอล   ตอนเป็นเด็กเจ้าน่ารักจะตาย   ใครจะนึกว่าตอนนี้กลายเป็นหนุ่มน้อยเลือดร้อนเสียแล้ว ”
 
เจ้าของร่างสูงไม่ตอบ
แต่จ้องหน้าสตรีชุดแดงอยู่อย่างนั้น
 
“ ก็ได้ๆ ข้าแค่อยากทดสอบอะไรบางอย่าง   ผลที่ได้มีทั้งข่าวดีและข่าวร้าย   เจ้าอยากฟังเรื่องไหนก่อนล่ะ ”
 
“ แล้วแต่เจ้าสิ ”
 
กาเอลว่าพลางยกมือขึ้นกอดอก
ยืดกายขึ้นแสดงท่าทีว่ากำลังตั้งใจฟัง
 
“ เด็กโง่   เจ้าจะจริงจังอะไรหนักหนาไม่รู้จักมุกตลกเลยหรือไง ”
 
นางท้วง
 
“ ไม่รู้และไม่สนด้วย ”
 
หนุ่มน้อยคนนั้นตอบหน้าตาเฉย
สตรีชุดแดงถอนหายใจแล้วว่า
 
“ ข้าแค่อยากรู้ความสามารถของดารีลเท่านั้น   ข่าวดีของการทดสอบนี่คือ   เขาสามารถควบคุมพลังของอัญมณีได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ”
 
“ ข่าวร้ายล่ะ ”
 
“ เขาใช้มันหยุดข้า ”
 
เสียงของนางนั้นแสนงอน
แต่กาเอลกลับหัวเราะ
 
“ นี่ข้าสมควรต้องสมเพชหรือเวทนาเจ้าดี   บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าไปยุ่งกับหมอนั่น   ถ้าอยากให้มันตายก็แค่บอกมาข้าสามารถจัดการให้อย่างสาสมแก่ใจเจ้า ”
 
“ ข้าพูดเมื่อไหร่ว่าอยากให้เขาตาย   เจ้าดึงมาฝั่งเราไม่ได้หรือ   ข้าเชื่อมั่นในความฉลาดของเจ้า ”
 
“ ไม่ ”
 
“ ทำไม่ได้หรือไม่ทำ ”
 
“ ก็ทั้งสองอย่างรวมกันนั้นแหละ   ข้ามีปลายทางสำหรับเจ้านั่นอยู่แล้ว   ถึงอย่างไรก็หนีความตายไม่พ้น   เว้นเสียแต่ว่าข้าจะเป็นฝ่ายที่ตายไปก่อน   ฉะนั้นจึงไม่มีการเปลี่ยนแผนอย่างแน่นอน ”
 
“ น่าเสียดายจริงดารีลออกจะน่ารัก   เจ้าอย่าเพิ่งรีบลงมือล่ะ   ข้ายังอยากเล่นกับเขาต่อ ”
 
“ เพ้อเจ้อ ”
 
หนุ่มน้อยคนนั้นว่า
 
“ หรือเจ้าอยากให้ข้าเล่นเจ้าแทน ”
 
นางไม่พูดเปล่า
แต่เคลื่อนกายเข้ามาสวมกอดเขาจากทางด้านหลัง
 
ซุกใบหน้าลงบนลำคอ
ลูบไล้ด้วยริมฝีปากลากขึ้นมาจนถึงหลังใบหู
 
กาเอลนั้นเท้าแขนข้างหนึ่งกับโต๊ะ
ด้วยท่าทีสุดแสนเหนื่อยหน่าย
 
สตรีชุดแดงค่อยๆ เปลี่ยนรูปร่าง
กลายเป็นสาวน้อยวันสิบสามที่ดูบริสุทธิ์ไร้เดียงสา
 
“ หรือเจ้าชอบแบบนี้ ”
 
นางช้อนตาขึ้นมองดูเขา
มีประกายเชิญชวนอยู่ในนั้น
 
“ เจ้าก็รู้ว่าข้าชอบของแปลก   ไม่แปลงร่างเป็นงูล่ะ   เผื่อข้าติดใจ ”
 
“ แบบนี้หรือ ”
 
ร่างของนางเปลี่ยนไปอีก
กลายเป็นสาวน้อยที่มีหางเป็นงู
 
“ เล็กกว่านี้สิ   แบบนี้โยนลงหม้อไม่ถนัด ”
 
สตรีชุดแดงลุกพรวดขึ้น
กลายร่างเป็นหญิงงามวัยกลางคนเช่นเดิม
 
“ เจ้าชอบทำข้าหมดอารมณ์อยู่เรื่อย ”
 
นางทำหน้าบูดแล้วกลับไปนั่งลงตรงที่เดิม
 
“ สิ่งที่ข้าอยากรู้ตอนนี้ก็ได้รู้แล้ว   และเจ้าเองคงหมดธุระกับข้า   จึงได้ทำตัวเลอะเทอะเพราะฉะนั้นข้าจึงต้องไปล่ะ   ขอเตือนอีกครั้งว่าอย่าเข้าใกล้ดารีล   หมอนั่นควบคุมยากมีเจ้าเข้าไปป่วนเกรงว่าแผนที่สู้อุตส่าห์สร้างมาจะพังเอาง่ายๆ ”
 
กาเอลลุกขึ้น
แต่ถูกคว้าข้อมือเอาไว้เสียก่อน
 
“ นั่งลง ”
 
นางบอก
 
“ ข้าคิดถึงเจ้า   นานแล้วที่เราไม่ได้พูดคุยกันแบบนี้   อย่าทำเหมือนข้าเป็นคนอื่นเลยนะ ”
 
“ เดือนที่แล้วเรายังพบกันนี่นา   ล่าสุดก็ในป่าแดงนั่น   ผ่านมายังไม่ถึงเดือนทำเป็นลืมแล้ว ”
 
“ เราควรอยู่ด้วยกันทุกคืนมิใช่หรือ   ข้าเหงา   นี่ก็เข้าหน้าหนาวแล้ว   เจ้าจะใจร้ายปล่อยข้านอนคนเดียวแบบนี้ได้อย่างไร   อย่าไปไหนเลย   ข้าไม่กวนใจเจ้าหรอก ” 
 
นางอ้อนวอน
 
“ บอกมาสิว่าชอบแบบไหน   ข้าจะไปลากคอมาให้   ต้องการสักกี่คนจึงจะอุ่นถึงใจเจ้า ”
 
“ ขอดารีลคนเดียวก็พอ ”
 
กาเอลถึงกับหันขวับ
 
“ เป็นอะไรไป   ข้าพูดผิดหรือ ”
 
หนุ่มน้อยผู้สวมหน้ากากประหลาดจึงนั่งลง
แต่ไม่พูดจาอะไร
 
“ เวลาเจ้าทำตัวแสนงอนนี่น่ารักที่สุด ”
 
นางยังเจื้อยแจ้ว
แต่ไร้การตอบสนองของอีกฝั่ง
 
“ ก็ได้   ข้าอยากพูดกับเจ้าเรื่องอนุสาวรีย์นั่น   เจ้าก็รู้ดีว่าพลังของเจ้าไม่สามารถทำลายมันได้   แต่ก็ยังดันทุรังไม่รู้ทำไปเพื่ออะไรทั้งที่เจ้าเองก็ไม่ใช่คนโง่ ”
 
สตรีชุดแดงว่า
 
“ แต่ถ้าเจ้าต้องการอย่างนั้นข้าสามารถช่วยเจ้าได้ ”
 
นางกลิ้งอัญมณีสีแดงเม็ดหนึ่งไปตรงหน้ากาเอล
 
“ เพราะความผิดพลาดของข้าทำให้เจ้าเสียมันไป   แต่ข้าไม่ได้พลาดอยู่ตลอดหรอก   เพื่อเจ้าแล้วย่อมมีทางแก้ไขเสมอ   หนึ่งชิ้นตรงนี้แล้วไปเอาชิ้นที่สองจากอนุสาวรีย์   ส่วนที่เหลือก็ง่ายแล้ว ”
 
กาเอลหยิบมันขึ้นมาพิจารณา
แล้วโยนกลับไปให้นาง
 
“ เก็บไว้ก่อนเถอะ   ข้ายังไม่จำเป็นต้องใช้ ”
 
“ เจ้าไม่สามารถพังอนุสาวรีย์นั้นได้   ด้วยพลังของตัวเองเพียงลำพัง   อย่างแน่นอน ”
 
นางว่า
 
“ ข้ายังไม่คิดไกลขนาดนั้น   แค่อยากรู้ว่าตนเองสามารถขนาดไหน   และอย่างที่เห็นมันเกิดรอยร้าวขึ้นมาจนได้   ทั้งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน   น่าภูมิใจใช่ไหมล่ะ ”
 
หนุ่มน้อยบอก
 
“ เจ้าน่าจะเห็นตัวเองตอนโดนคำสาปสะท้อนกลับ   หัวใจข้าแทบหยุดเต้นเลยทีเดียว   เจ้านี่มันบ้าชัดๆ ”
 
“ อย่างน้อยข้าก็ไม่ตาย   หรือไม่จริง ” 
 
“ สาบานสิว่าจะไม่ทำอีก ”
 
เสียงของสตรีชุดแดงดูจริงจังเข้มงวด
 
“ ข้าไม่ใช่เด็กอมมือ   เจ้าไม่จำเป็นต้องเตือนเรื่องนี้ ”
 
“ ก็ได้   ถ้าเช่นนั้นข้ามีอีกเรื่องต้องเตือนเจ้า   เกี่ยวกับเจ้าหญิงแสนสวยที่น่าสงสารพระองค์หนึ่ง   นางสมควรได้รับการปลดปล่อยจากความเศร้าระทมทั้งปวง ”
 
สตรีนางนั้นวางมีดเงินประดับเพชรพลอยเล่มเล็กๆ ลง
แล้วเลื่อนไปตรงหน้าเขา
 
“ ล้อข้าเล่นหรือเปล่า   ถ้าใช้สิ่งนี้บั่นคอนาง   พนันให้เลยว่ามีดคงได้หักก่อนนางตาย   เจ้านี่ใจร้ายนัก   กว่านางจะตายคงใช้เวลานานโขกับมีดปอกผลไม้เล็กๆ   และสภาพศพคงดูไม่ได้เจ้าไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้รึไง ”
 
กาเอลพูดเรื่อยๆ
ราวกับว่าการสังหารใครสักคนมันปรกติธรรมดาเหลือเกิน
 
“ มีดอาบยาพิษร้ายแรง   เจ้ารู้วิธีใช้อยู่แล้ว   ที่เหลือก็แล้วแต่เจ้าเลย   อยากให้นางตายอย่างสวยงามหรือจะถลกหนังหน้าออกมาทำหน้ากากก็ตามแต่ ”
 
หนุ่มน้อยผู้สวมหน้ากากเหล็กจึงหยิบมีดขึ้นมา
 
“ พวกผู้หญิงนี่นะ   ละทิ้งความงามไม่ได้สักเรื่องเลย ”
 
ถึงจะกล่าวเช่นนั้น
แต่เขาก็เก็บมีดไป
 
ในคืนนี้ของโอรีเวีย
แม้จะมีพระจันทร์เต็มดวง
 
แต่เมฆหมอกได้บดบังแสงไปจนสิ้นแล้ว

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา