ก่อนตะวันจะลับตา(Y)

-

เขียนโดย Shinman33

วันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 22.31 น.

  3 ตอน
  0 วิจารณ์
  3,994 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 24 เมษายน พ.ศ. 2563 23.16 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) คำขอร้อง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
ตอนที่2  คำขอร้อง
 
 
“ไอ้อาทิตย์  ไปกินข้าวต้มกัน”  เมษเอ่ยชวนตะวันเพราะเข้าใจว่านี่คืออาทิตย์
“มึงเลี้ยงนะ”
“เออ  กูมีเรื่องอยากคุยกับมึงว่ะ  ไปนะ  ร้านเดิมหน้าหอกู”  เมษเอ่ยแต่ตะวันชิงเอ่ยแทรกขึ้นมา
“มึงมารับกูที่หอตอนสี่ทุ่มเสร็จแล้วก็มาส่งกู  เคป่ะ?”  ตะวันพูดหน้าตายในแบบที่เมษคุ้นเคยจนเมษแต่พยักหน้าตาม
 
“คิม  มึงเห็นไอ้น้องตะวันนั่นป่าววะ   มันมองมึงแปลกๆ ว่าป่ะ   เหมือนมันพยายามจะมองมึง  จับตาดูมึงตลอดเลยอ่ะ” เม่นเปิดประเด็นขณะที่กำลังเก็บของอยู่ในห้องสโม   วันนี้ตะวันเข้าร่วมกิจกรรมหลังจากหายไป   และวันนี้มันก็มาแปลกไปจากครั้งแรกที่เจอกัน
“มันก็แปลกตั้งแต่วันแรกที่เจอกันแล้วป่ะ  กวนตรีนด้วย”  คิมเอ่ยอย่างไม่ได้ใส่ใจนัก
“แต่ดีจัง  วันนี้น้องตะวันอยู่กิจกรรมประชุมเชียร์ได้ตลอดจนจบเลย”  ฟ้าใสพูดพร้อมสายตาเคลิ้มเมื่อนึกถึงใบหน้าหล่อๆของน้องเฟรชชี่ปี1
“น้องมันมาก็ดีแล้ว  ขืนหายไปอีกมีหวังไอ้กอล์ฟเล่นมันแน่   ไหนจะพี่ปี3 อีก” คิมพูดจริงจัง
“เออ  กูหิวดึกแล้ววะ  เก็บของปิดห้องสโมแล้วไปหาไรแดกเหอะ”  เม่นเปลี่ยนเรื่องก่อนทั้ง3 จะช่วยกันเก็บของปิดห้องแล้วพากันออกไปจากตึกคณะ
 
 
ณ ร้านข้าวต้มหน้าหอ
“กูก็เป็นห่วงมึงไปเหอะ  โทรไปก็ไม่รับ  ไปหาที่ห้องก็ไม่อยู่  ดีนะโทรหาแม่มึงแล้วเขาบอกว่ามึงกลับบ้าน   ค่อยหายเป็นห่วงหน่อย”  เมษเอ่ยขณะตักน้ำให้ตะวัน
“มึงไปห้องกูเหรอ?”
“อือ  ก็มึงให้กุญแจสำรองกูไว้ไง”
“ออ หรอ   ไปยุ่งอะไรกับข้าวของกูป่าว”
“กูก็มีมารยาทนะ  แต่ถึงกูจะยุ่งไม่ยุงของๆมึงกูก็เป็นคนจัดการอยู่แล้วป่ะ  อย่ามาทำเป็นส่วนตัว ไอสัส” เมษเอ่ย  เพราะตั้งแต่รู้จักกันมาเมษเข้าออกห้องของอาทิตย์ได้เสมอ  อีกทั้งข้าวของต่างๆ ก็เมษนี่แหละที่คอยจัดการเก็บกวาดจัดระเบียบให้มาตั้งแต่สมัยมัธยมจนเข้ามหาวิทยาลัย
“อ่าว  น้องเมษ น้องตะวัน   มากินข้าวต้มกันหรอจ๊ะ?” ฟ้าใสเอ่ยทักทายรุ่นน้องทันทีที่เดินเข้าร้านแล้วเห็นว่าทั้งสองกำลังนั่งคุยกันอยู่
“อ่าว  สวัสดีครับพี่ฟ้าใสคนสวย  พี่เม่นคนหล่อ  และ.. พี่คิมคนน่ารัก” เมษหยอดพี่ๆ
“น้อยๆ หน่อย  กูรุ่นพี่มึงนะ” คิมเอ่ยหน้านิ่งๆ
“นั่งกันก่อนสิครับพี่”  ตะวันเอ่ยพลางจะขยับเก้าอี้  แต่เม่นทักท้วงซะก่อน
“ไม่ดีมั้งไอ้ตะวัน  ยังไม่ผ่านประชุมเชียร์เลย รุ่นพี่รุ่นน้องจะสนิทกันเกินแบบนี้ไม่ได้  เดี๋ยวพวกกุนั่งโต๊ะนั้นดีกว่า”  เม่นว่า
“สี่ทุ่มกว่าแล้ว  ไม่มีใครมาแล้วพี่  นั่งได้ๆๆ  เดี๋ยวมื้อนี้ไอ้ตะวันเลี้ยงครับ”  เมษเอ่ยพร้อมจัดแจงลากเก้าอี้มาเสริมจนพี่ๆ ได้แต่มองหน้ากัน
“เชี่ยเมษ  กูบอกตอนไหนวะว่ากูจะเลี้ยง  กูไม่ได้กดตังค์มานะเว้ย  มีสองร้อยเอง  ไอ้สัส”  ตะวันเอ่ยกับเพื่อนก่อนจะกดเสียงต่ำและลดเสียงลงในประโยคสุดท้าย  แต่ก็มิวายที่รุ่นพี่จะได้ยิน
“อ่ะ  ถ้าน้องตะวันจะเลี้ยง พวกพี่ก็ไม่ขัดอะไรนะ  เอ้า นั่งๆๆ”  เม่นรีบพูดพร้อมดึงเพื่อนทั้งสองให้นั่งลง
“งั้นสั่งเลยนะ   พี่ครับ  ขอเมนูหน่อยครับ”  เม่นเรียกพนักงานพร้อมสั่งอาหารอย่างสนุกสนาน
“เออ  น้องเมษมีแฟนยังครับ”  คิมเอ่ยถาม
“ไม่มีหรอกครับพี่”  เมษตอบขณะตักข้าวต้มเข้าปาก
“พี่นึกว่าเราเป็นแฟนกันซะอีก  เห็นสนิทกันตัวติดกันแถมห่วงใยกันตลอด”  คิมพูดต่อ
“บ้าหน่าพี่  ผมกับมันรู้จักกันมานานเฉยๆ เลยสนิทกัน  พี่คิดมากไปแล้ว” เมษตอบลิ้นรัว
 
“ไม่ใช่แค่พวกกูนะ  คนอื่นๆ เขาก็คิด  สาวๆรุ่นพี่เขาจับจิ้นพวกมึงอยู่นะ  ใช่มั๊ยฟ้าใส”  สุดท้ายเม่นก็โยนไปให้เพื่อนที่นั่งยิ้มอยู่ข้างๆ
“อื้ม  ถ้าน้องๆเป็นแฟนกันจริงนะ  สาววายในคณะเราคงนอนตายตาหลับล้ะ  แต่ไม่ใช่ก็ดีแล้วละ  สาวๆอีกส่วนคงดีใจไม่น้อย ”  ฟ้าใสพูดยิ้มๆ   ต้องยอมรับว่ารุ่นน้องทั้งสองคนนี้เสน่ห์แรงมาก  เป็นที่พูดถึงของสาวๆทั้งในและนอกคณะมากมายแม้พึ่งจะเปิดเรียนไม่ถึงสัปดาห์ก็ตาม
‘ทำไมวันนี้ไอ้ตะวันมันไม่กวนกูวะ’ คิมที่สังเกตว่าตะวันจะนั่งกินอย่างเดียวโดยไม่ได้สนใจใคร  ซึ่งต่างจากครั้งแรกที่เจอกันมาก  วันนั้นมันกวนตรีน  ขี้เก๊ก  และวางมาดนิ่งมาก  แต่วันนี้มันจะยิ้มอย่างเดียว  บุคลิกก็ดูชิวกว่าวันนั้นมาก  ไม่เก๊กไม่วางมาดอะไรเลย
“เมษ  ก็ยืมตังหน่อยดิ  เดี๋ยวคืนให้”  ตะวันกระซิบเพื่อนเมื่อทั้งหมดกำลังจะอิ่ม
“พี่ครับ  คิดเงินเลยครับ”  เมษตะโกนเรียกพนักงานในร้านพร้อมส่งยิ้มกวนประสาทให้เพื่อน
“ไอ้เมษ เอาเงินมา” ตะวันกระซิบอย่างร้อนรน
“มึงเฉยๆ ดิ  รนแบบนี้มันไม่เหมือนมึงเลยว่ะ”  คำพูดของเมษทำให้ตะวันชะงักไปก่อนจะนั่งนิ่งๆ แล้ววางท่าทำหน้าตาย
“ทั้งหมด 570  ค่ะ”  เสียงพนักงานเอ่ยพร้อมกับเมษส่งเงินให้กับเจ้าของเสียงพร้อมหันมาเอ่ยกับพี่ๆ พร้อมกับส่งยิ้มให้
“ผมขออนุญาตเลี้ยงแทนไอ้ตะวันนะครับ  พอดีวันนี้คิวผมเลี้ยงข้าวมันพอดี  ไปแล้วนะครับพี่ๆ  หวัดดีครับ”
“หวัดดีครับ”  ตะวันเอ่ยพร้อมส่งยิ้มให้พี่ๆก่อนจะยกมือไหว้แล้วพากันเดินออกจากร้าน
“น้องนารักเนอะ”  ฟ้าใสพูดขึ้น
“เนี่ย  สนิทกันเลี้ยงข้าวกัน มาด้วยกัน  ถ้าบอกว่าแฟนกันกูก็เชื่อนะ”  เม่นนินทารุ่นน้อง ก่อนจะพากันหัวเราะแล้วเดินออกจากร้านไป
 
 
ณ ห้องพักของตะวัน
“ขอบใจนะที่เลี้ยงข้าวกู”  ตะวันเอ่ย
“เออ ช่างเหอะ  ถือว่าเลี้ยงที่มึงหายป่วยไง” เมษพูด
“เอ้อ  มึง   กูว่าจะทักตั้งแต่ที่ร้านแล้ว  ปกติมึงไม่กินผักไม่ใช่หรอ  ทำไมเมื่อกี้นี้..”
“ปกติกูไม่กินผักหรอฦ” ตะวันถามกลับแบบงงๆ 
“เอ้า  เชี่ยนี่  หรือที่ผ่านมามึงหลอกกูมาตลอดว่าไม่กินผัก   ก็เมื่อกี้กูเห็นมึงมึงกินผัดผักบุ้งอ่ะ”  เมษพูดอย่างสงสัย
“ก็ กูกำลังพยายามกินอยู่ไง  มันก็.. อร่อยดีนะ อื้ม”  ตะวันตอบ
“เอๆๆ  ไงพรุ่งนี้ไม่มีประชุมเชียร์แต่ตอนเย็นมีกิจกรรมของรุ่นเราที่หน้าคณะ  อย่าลืมเอาของไปด้วยนะ”
“ของหรอ  ออ  ไม่ลืมๆๆ  กลับได้แล้วมึงอ่ะ”  ตะวันรีบตัดบทพร้อมไล่เพื่อนกลับหอพัก  ทันทีที่ปิดประตูตะวันก็พ่นลมหายใจออกมาอย่างดังก่อนจะพาร่างตัวเองไปล้มลงบนที่นอน
“เหนื่อยชิบหายเลยไอ้ตะวันเอ้ย” นอนบ่นพร้อมกวาดสายตาสำรวจไปรอบๆ ห้อง
“รสนิยมมึงนี่ดีเนอะ   แบบนี้กูคงไม่ชินแน่ๆ  ไอ้อาทิตย์” ตะวันพูดพร้อมกับยิ้มน้อยๆ เมื่อนึกถึงเรื่องก่อนหน้านี้
 .......................................................
 
 
ก่อนหน้านี้...
“มึงจะบ้าหรอ ถึงเราจะแฝดกันแต่เราไม่ได้เหมือนกันขนาดนั้น แล้วกูก็ไม่รู้จักใครที่นั่นเลยนะ”ตะวันโวยวายเมื่ออาทิตย์เรียกเขากลับมาจากมหาวิทยาลัยเพื่อขอร้องให้ตะวันมาเข้าเรียนแทนตนเอง
“นี่ไง  กูมีข้อมูลให้มึงแล้ว  เพื่อนกูมีแค่3 คนเอง ไอ้เมษ ไอ้บอสแล้วก็ออย”  อาทิตย์พูดพร้อมเปิดเฟสบุ๊คเพื่อนทั้ง3 คนให้ตะวัน
“ไอ้เมษนี่ซี้มึงเลยหรอ  ไม่ไหวแน่ๆ กูโดนจับได้แน่ๆ” 
“ถ้ากูไหวก็คงไม่รบกวนมึงหรอก  กูอยากรู้เรื่องพี่เขา  อยากให้เขาเห็นหน้ากูทุกวัน  เท่าที่กูยังอยู่”  คำพูดของอาทิตย์ทำให้ตะวันชะงักไป   ใช่  ในสถานการณ์แบบนี้กำลังใจของอาทิตย์สำคัญที่สุด
“เราหน้าตาเหมือนกัน  แล้วมึงก็ตัดผมใหม่มาแล้วดูเหมือนกูมากขึ้น  นี่ปรับบุคลิกนิดหน่อยก็ได้แล้ว” อาทิตย์พูดเหมือนง่าย
“แล้วพี่คิมอะไรนั่นหล่ะ  กูจะทำได้หรอ?”  ตะวันเสียงอ่อนลง
“กูชอบพี่เขามาตั้งแต่ ม.ปลายแล้ว  กูอยากรู้จักเขา  พูดคุยกับเขาและกูไม่ได้หวังให้มึงทำอะไรที่ฝืนความรู้สึกมึงขนาดนั้น   แค่ไปเรียนแทนกู  ใช้ชีวิตแทนกูแต่คอยดูพี่เขาแล้วมาบอกกูบ้าง”
“ทำไมมึงชอบพี่เขาล่ะ  ชอบได้ไง  เล่ามาดิ”  ตะวันเริ่มเก็บข้อมูล
“พี่คิมเป็นนักเรียนที่ย้ายมาตอน ม.6 เขาเรียนที่เดียวกับกูแค่ปีเดียว  เขาจำกูไม่ได้หรอก  กูไม่ค่อยไปโรงเรียนอ่ะ   เขาน่ารักมากนะ  ขาวๆตี๋ๆ ยิ้มสวยมาก  เฟรนลี่ด้วยแต่กูไม่กล้าคุยกับเขาหรอกตอนนั้นอ่ะ  แม่งมีแต่คนชอบเขา   กูก็แค่เอาเขามาเป็นกำลังใจให้ตัวเอง  เป็นแรงใจเวลากูรู้สึกแย่  จนกูรู้ว่าพี่เขาเรียนที่นั่นกูก็เลยอยากไปเรียนที่เดียวกับเขา”
“เกษตร   มึงชอบทางนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่   มึงถนัดคำนวณนี่”
“เขาชอบต้นไม้  แต่กูไม่ได้ชอบเหมือนเขาหรอกนะ  กูแค่อยากไปเจอเขา   อยากอยู่ใกล้ๆ   เพราะพี่เขาเนี่ยแหละกำลังใจของกู”
“แต่กูเจอเขาครั้งนึงแล้ว   กูแกล้งเขาไปแล้ววะ   ไม่รู้เขาจะคิดยังไง”
“เชี่ย  ชอบแต่เสีอกไปแกล้งเขา   แล้วไอ้เมษล่ะ  เป็นคนยังไง” ตะวันถามถึงเพื่อนสนิทของอาทิตย์
“มันเป็นคนกวนๆ พูดมาก   ชอบอ่อยชอบหว่านเสน่ห์  มันก็หน้าตาดีแหละเลยมั่นใจในตัวเองสูง   มันเก่งหลายอย่างนะมันดูแลกูและรู้จักกูทุกอย่างด้วย   ส่วนไอ้บอสกับออยพึ่งจะรู้จักกัน  พวกนั้นจับพิรุธมึงไม่ได้หรอก” อาทิตย์พูด
“กูว่ากูถูกจับได้แน่ๆ  แล้วเพื่อนมึงรู้มั๊ยว่ามึงชอบพี่เขาอ่ะ”
“ไอ้เมษรู้คนเดียว   มึงไว้ใจมันได้นะ   มันคนดีคนนึงเลยแหละ”
“เออๆ  แต่มึงรีบหายนะเว้ย  กูเทียวไปเทียวมาไม่ไหวนะ  ม. กูห่างจาก ม. มึงตั้งไกล”  สุดท้ายตะวันก็ยอมให้กับอาทิตย์
“555 สุดท้ายมึงก็ยอมช่วยกู  ไอ้พี่ชาย   เออ ข้าวของในหอกูใช้ได้เลยนะ  กุญแจห้องอยู่ในรถ   ว่าแต่จำห้องจำหอกูได้นะ”  อาทิตย์ถาม
“เออ   ถ้ากูมีปัญหาจะติดต่อมึงแล้วกันนะ   กูไปล่ะ”  กล่าวจบพร้อมกับคว้ากุญแจรถของอาทิตย์ไปแล้ววางกุญแจรถตัวเองไว้ให้....
  
 
เช้าวันรุ่งขึ้น...
“ไอ้อาทิตย์  ตื่นยัง”  เสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมกับเสียงเรียกของผู้มาเยือน
“ตื่นแล้ว  เข้ามาเลย”
เมื่อเมษเปิดประตูเข้ามาก็ได้แต่ยืนงงที่เห็นว่าเพื่อนตัวเองอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว   ซึ่งโดยปกติตนเองจะเป็นคนมาปลุกมาลากมันลงจากเตียงแท้ๆ
“แม่เจ้าโว้ยย  วันนี้เพื่อนกูตื่นเองแถมยังแต่งตัวนั่งรอกูด้วย”  เมษพูดแกมแซวเพื่อนตัวเอง
“กูไม่ใช่แฟนมึง  จะมาปลุกกูทำไม   ตื่นเองได้”  ตะวันตอบไปด้วยความเป็นตัวของตัวเองโดนไม่ทันสังเกตว่าเมษกำลังขมวดคิ้วสงสัยกับคำตอบนั้น
“อ้าว ก็มึงเองไม่ใช่หรอที่ชอบสายแล้วให้กูต้องมาเหนื่อยคอยปลุกมึงอ่ะ” เมษเถียง
“เออ  ช่างเหอะๆ ไปเรียนได้แล้วเดี๋ยวสาย”  ตะวันตัดบทก่อนจะลากเพื่อนออกจากห้องไป
“ว่าแต่วันนี้มึงแปลกๆนะ อ้อ ตัดผมมาใหม่”  เมษเอ่ยพร้อมสำรวจเพื่อนขณะเดินออกมาจากหอ   บทสนทนาของเพื่อนดำเนินไปจนทั้งคู่ขับรถไปยังตึกเรียน
 
 
หน้าคณะ
“เฮ้  เมษ ตะวัน  ทางนี้”  ออยตะโกนเรียกเพื่อนๆ ที่กำลังเดินเข้ามาหน้าคณะ  
“วันนี้มาเช้านะมึงสองคนอ่ะ”   บอสแซว
“ไอ้ตะวันมันตื่นเช้าหน่ะ”  เมษเอ่ยเรียบๆ   ซึ่งขณะที่ทั้งสี่คนกำลังนั่งคุยกันอยู่พี่คิมและเพื่อนๆ ก็เดินผ่ามาพอดี  ทั้งหมดจึงลุกขึ้นสวัสดีรุ่นพี่ตามมรยาท
“หวัดดีครับพี่ๆ   มีเรียนเช้าหรอครับ” เมษทักทาย
“หวัดดีจร่ะน้องเมษ  อื้อ  วิชานี้เฮี้ยนมากเลยนะ  ขาดไม่ได้เลยเพราะจะตามเนื้อหาไม่ทัน   เดี๋ยวขึ้นปี2 น้องก็จะรู้”   ฟ้าใสเอ่ยพร้อมกระซิบในท้ายประโยคจนน้องๆ หัวเราะในท่าทางของรุ่นพี่
“เคๆๆ  สู้ๆ นะครับพี่”  เมษเอ่ยโดยไม่ทันได้สังเกตสายตาของใครบางคนที่กำลังมองเขาอย่างแปลกๆ  แต่ตะวันก็เอ่ยออกมาด้วยเช่นกัน
“สู้ๆ นะครับพี่คิม   ถ้าพี่ได้A วิชานี้ ผมจะยอมเป็นแฟนพี่เลย”  ตะวันเอ่ยพร้อมส่งสายตาเจ้าเล่ห์ให้คิมจนเจ้าตัวชะงักไป
“เชี่ยไรของมึงเนี่ย”  คิมทำเสียงดุ
“งั้นเอาใหม่  ถ้าพี่ได้A  วิชานี้พี่จะได้ผมด้วยนะ”  คำพูดพร้อมยักคิ้วนั่นช่างน่าหมั่นไส้ยิ่งนัก   คิมที่ทั้งงงทั้งเขินได้แต่กัดเขี้ยวเคี้ยวฟันก่อนจะเดินหนีไปจนเพื่อนๆ ได้แต่ขำก่อนจะลาน้องๆ แล้วเดิมตามเพื่อนไป
‘ไอ้คิม  รอพวกกูก่อนน’  เสียงเม่นตะโกนก่อนจะลากฟ้าใสวิ่งตามเพื่อนไป
“555  นี่จะเอาจริงหรอ?” ออยถามเพื่อน
“อือ คนนี้กูเอาจริง”  ตะวันเอ่ย
“เออ  ว่าแต่ของที่นัดกันไว้มึงได้เอามาป่าววะ?”  บอสหันมาถามตะวัน
“ของอะไรวะ”  ตะวันถามกลับ
“อ้าว  ก็ของที่นัดกันไว้ว่าจะเอามาทำโมเดลของรุ่นเราให้พี่ๆ อ่ะ   คุยกันไว้ในไลน์กลุ่มไง   มึงลืมหรอ?” บอสเอ่ยท้าวความและเมษก็จ้องมองหน้าตะวันเพราะเขาเองก็เตือนแล้วแต่คาดว่าตะวันน่าจะลืม
”ออ  กูลืมหน่ะ   แต่ยังพอมีเวลาก่อนเข้าเรียนเดี๋ยวกูออกไปเอาที่หอให้” 
“กูไปด้วย” เมษทำท่าจะลุกตามไปด้วยแต่ตะวันก็หันมาเอ่ยตัดซะก่อน
“ไม่เป็นไร  กูไปเองคนเดียวดีกว่า   อาจสายนิดนึงนะ  ยังไงก็ขึ้นเรียนก่อนได้เลย”  ตะวันเอ่ยพร้อมกับหันหลังเดินออกมาพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาใครบางคน
“ฮัลโหล  ไอ้อาทิตย์   มึงมีนัดอะไรกับเพื่อนมึงในกลุ่มไลน์วะ  กูไปไม่ถูกแล้วนะเว้ย”  ตะวันเอ่ยถามอาทิตย์ในสายขณะรีบเดินออกมายังลานจอดรถโดยไม่ทันสังเกตว่ากำลังเดินตัดหน้าใคร
“มึงต้องบอกกูด้วยดิเวลาเพื่อนมึงนักแนะกันอ่ะ  กูไม่ได้อยู่ในกลุ่มกูก็ไม่รู้   โอะ!!  ขอโทษครับ”  ขณะกำลังเดินไปยังลานจอดรถตะวันก็ชนเข้ากับใครบางคนจนโทรศัพท์หลุดมือร่วงลงพื้น
“น้องตะวัน  คุยกับใครหรอครับ”   คนที่ถูกตะวันเดินชนเอ่ยพร้อมกับเหลือบมองไปยังชื่อที่ปรากฏบนจอโทรศัพท์ที่อยู่บนพื้น
‘ชิบหายแล้วไอ้ตะวัน’
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา