ก่อนตะวันจะลับตา(Y)

-

เขียนโดย Shinman33

วันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 22.31 น.

  3 ตอน
  0 วิจารณ์
  3,989 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 24 เมษายน พ.ศ. 2563 23.16 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) พิรุธ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่3 พิรุธ

 

 

“ฮัลโหล  ไอ้อาทิตย์   มึงมีนัดอะไรกับเพื่อนมึงในกลุ่มไลน์วะ  กูไปไม่ถูกแล้วนะเว้ย”  ตะวันเอ่ยถามอาทิตย์ในสายขณะรีบเดินออกมายังลานจอดรถโดยไม่ทันสังเกตว่ากำลังเดินตัดหน้าใคร

“มึงต้องบอกกูด้วยดิเวลาเพื่อนมึงนักแนะกันอ่ะ  กูไม่ได้อยู่ในกลุ่มกูก็ไม่รู้   โอะ!!  ขอโทษครับ”  ขณะกำลังเดินไปยังลานจอดรถตะวันก็ชนเข้ากับใครบางคนจนโทรศัพท์หลุดมือร่วงลงพื้น

“น้องตะวัน  คุยกับใครหรอครับ”   คนที่ถูกตะวันเดินชนเอ่ยพร้อมกับเหลือบมองไปยังชื่อที่ปรากฏบนจอโทรศัพท์ที่อยู่บนพื้น

“เอ่อออ  คุยกับ..  พี่ชายครับ แฮ่ๆๆ” 

.”ออ  ครับ”  เจ้าของคำถามตอบแต่ยังมิวายเหลือบมองโทรศัพท์ในมือของตะวัน   จนตะวันต้องไขว้มองไว้ข้างหลังแทน

“พี่กอล์ฟมีอะไรรึปล่าวครับ  พอดีผมลืมของอ่ะ จะรีบไปเอาของครับ” ตะวันรีบตัดบทกับรุ่นพี่

“อ้อ  ป่าวครับ  เชิญน้องตะวันตามสบายเลย  พี่ไปละ”  กอล์ฟเอ่ยพร้อมส่งยิ้มให้   ตะวันเห็นได้โอกาสจึงรีบยกมือสวัสดีก่อนจะเดินชิ่งออกมาพร้อมยกโทรศัพท์คุยกับปลายสายอีกครั้ง

                                              ............................................................................

 

ณ หน้าห้องสโมสร หลังเวลาเลิกเรียน.....

“ไปเอาของแค่นี้หายไปเป็นวันเลยนะมึง   โทรไปก็ไม่รับ”  บอสเอ่ยลอยๆ เมื่อเห็นเพื่อนตัวแสบพึ่งจะมาหลังจากที่เจ้าตัวบอกจะไปเอาของแล้วหายไปทั้งวัน

“ออ  กูแวะไปบ้านมาด้วย  พอดีมีธุระที่บ้านต่อนิดหน่อย”  ตะวันเอ่ย

“มาแล้วก็ดี  งั้นเดี๋ยวเราเริ่มเลยนะ  เพื่อนๆคนอื่นในสาขาเรากำลังมาสมทบ”  เมษที่พึ่งได้รับเลือกจากเพื่อนๆในสาขาให้เมษเป็นประธานสาขาออกคำสั่งกับกลุ่มของตน

“พวกมึง  กุว่าเราเปลี่ยนแผนนิดหน่อยก็ดีนะ”  ตะวันเสนอความคิด   ซึ่งนั่นสร้างความแปลกใจให้เพื่อนๆ ที่อยู่ไม่น้อยเพราะในครั้งแรก   ตะวันไม่สนใจจะช่วยอะไรเลย   มีแต่เมษที่คอยเสนอไอเดีย   มาวันนี้ตะวันคนที่เฉยๆ กับกิจกรรมกลับมาขายความคิดใหม่ซะได้

“ยังไง  ไหนไปได้ความคิดอะไรมาอีก  ว่ามาดิ้”  บอสถามเพราะอยากรู้

“ก็แทนที่มึงจะทำงานปติมากรรมงานประดิษฐ์ขึ้นมาให้พี่ๆ  แม่งเดี๋ยวเขาก็พังมันลงมึงเชื่อดิ   กุว่าทำอะไรที่พี่ๆ มันไม่กล้าทำลายดีกว่า   ซึ่งแน่นอนว่าต้องเป็นของที่มีคุณค่าทางใจมากๆ”  ตะวันเอ่ยพร้อมยิ้มเจ้าเล่ห์

“พูดมาให้จบ”  ออยที่หมั่นไส้ในหน้าตาอันยียวนของตะวันเอ่ยเร่งเพื่อน

“เราสาขาเกษตรไช่ม้ะ?  กูเสนอว่าชิ้นงานเราควรจะเป็นการปลูกต้นไม้”

“เยี่ยม!!”  เสียงของเพื่อนคนนึงในสาขาเอ่ยออกมาอย่างเห็นด้วยกับไอเดียนี้   อีกทั้งคนอื่นๆ ก็พยักหน้าคล้อยตามว่าเห็นด้วย   ตะวันจึงกล่าวต่อพร้อมกับเก๊กหน้ามั่นตามแบบฉบับของอาทิตย์ที่ตนสังเกตมา

“เราจะมีกล้าต้นไม้คนละ 1 ต้น  วางรวมกันไว้เป็นเลขรุ่นของพวกเรา   เราจะปลูกต้นไม้ของเราโดยมีรุ่นพี่มาจับคูปลูกกับเรา  ต้นไม้นี้หมายถึงตัวตนของเรา  1 คน 1 ต้น  ไม้เติบโตเหมือนเราที่โตขึ้น   ส่วนเหตุผลที่รุ่นพี่จะต้องมาร่วมกับเรานั่นก็เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันดีของรุ่นพี่รุ่นน้องไงล่ะ”

“วิธีนี้ก็ดีนะ  เตรียมแค่ต้นไม้  กับหลุ่มสำหรับปลูกต้นไม้   ที่เหลือต่อจากนั้นก็เป็นหน้าที่ของคนปลูกทั้ง2 คนจะต้องคอยดูแลมันต่อ  แบบว่าทำแล้วต้องรักษา  ดูแลไม่ทิ้งขว้าง   โหยยย ความคิดสร้างสรรค์ดีมากเลยอ่ะตะวัน”  สาวๆ ในสาขาเอ่ยเสริมและเพื่อนๆ ก็เห็นด้วย

“ดีมากเลยตะวัน  ทำไมไม่เสนอความคิดนี้แต่แรกล่ะ   จะได้ไม้ต้องเสียเวลาเตรียมของมากมาย”  ออยเสริมต่อ

“อ่ะๆๆ  งั้นเอาตามที่ไอ้ตะวันว่านะ   เราจะเปลี่ยนแผนไปขุดหลุมปลูกต้นไม้แทนแต่คงต้องเริ่มพรุ่งนี้นะ  เราต้องปรึกษาอาจารย์กันก่อนว่าจะปลูกต้นไม้ตรงไหนได้บ้าง   งั้นพรุ่งนี้เย็นเจอกันที่ฟาร์มคณะเลยนะ”  บอสเห็นว่าเมษที่เอาแต่จ้องตะวันไม่ยอมเอ่ยอะไร  ตนจึงสรุปให้แต่ก็ยังคงงุนงงกับอาการของเมษ   เพียงแต่ไม่พูดอะไรเท่านั้น

มึงเปลี่ยนไปนะไอ้อาทิตย์   นี่ใช่มึงจริงๆ หรอวะ?’   ความสงสัยของเมษเกิดขึ้นมาเรื่อยๆ ตั้งแต่เพื่อนเขาแปลกไป   เพราะอาทิตย์ที่เขารู้จักมันไม่ใช่คนแบบนี้ 

 

 22.30 น.  ณ หอพักของตะวัน

ก๊อกๆๆ  เสียงเคาะประตูดังขึ้น  ทำให้เจ้าของห้องอดสงสัยไม่ได้ถึงแขกผู้มาเยือน   แต่ก็ตัดสินใจลุกไปเปิดประตูให้

“อ่าว  มึงเองรึไอ้เมษ”

“ห้องกูแอร์พังอ่ะ  ขอค้างด้วยนะ” เมษที่ยืนหอบผ้าห่มอยู่หน้าห้องเอ่ยพร้อมถือวิสาสะเดินเข้าห้องดื้อๆ

“หอบผ้ามาหากูแบบนี้...”  ตะวันเอ่ยยิ้มๆ

“กูก็ทำออกจะบ่อย  ลืมแล้วหรอ?”  เมษยื่นหน้าเข้ามากระซิบใกล้ๆตะวันจนเจ้าตัวรีบถอยหนี

“ออ  อื้มม  เอาดิ  ตามสบายเลยนะกูขออาบน้ำก่อน”  ตะวันเอ่ยพร้อมกับหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วรีบเข้าห้องน้ำไป   ในขณะที่ตะวันอาบน้ำ   นักสืบเมษก็เริ่มปฏิบัติการทันที   เมษเริ่มสำรวจข้าวของภายในห้องและของใช้ส่วนตัวต่างๆ ตามที่ตนเองสงสัย

“ของใช้ยังเหมือนเดิมทั้งแป้ง ครีม น้ำหอมและเสื้อผ้า”  ร่อยรอยแรกถูกไขความสงสัยไปแล้วแต่เจ้าตัวก็ยังคงสืบเสาะต่อไป

“เคสเหมือนเดิม  แต่มึงเปลี่ยนตัวโทรศัพท์ใหม่เมื่อไหร่วะ”   เมษที่หันมาสังเกตของใช้ส่วนตัวแล้วพบกับโทรศัพท์ที่ไม่คุ้นตาก็เริ่มสงสัยต่อทันทีก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบบางอย่างของตะวันขึ้นมา

“นายอาทิตย์  พิพัฒน์สกุล   นี่กูคิดเยอะไปหรอวะ”  เมษที่แอบเปิดกระเป๋าตังค์ตะวันเพราะสงสัยบางอย่างแต่กลับต้องผิดหวังเพราะดูเหมือนว่าเขาเองจะเข้าใจผิดไปเพียงเพราะบางคำที่อาทิตย์เคยพูดไว้นั่นเอง

“เออ  ไอ้เมษ  พรุ่งนี้วันหยุดมึงไปซื้อของกับกูหน่อยนะ”  ตะวันที่พึ่งออกมาจากห้องน้ำเอ่ยหลังจากที่แอบเห็นว่าเมษเปิดกระเป๋าตังค์ของตน   ...โชคดีที่เรื่องนี้เขาและอาทิตย์เตรียมตัวมาแล้ว

“อื้ม  เอาดิ”

“ไม่ได้จะเอา  แค่ชวนไปซื้อของ”  ตะวันแซวกลับอารมณ์ดี

“เมื่อก่อนมึงไม่พูดอะไรแบบนี้นะรู้ตัวป่าว”  คำพูดของเมษทำให้ตะวันชะงักไป

“มึงมีอะไรอยากบอกกูป่าววะ”  เมษถามกลับเรียบๆ แต่จ้องมองตะวันอย่างจริงจัง

“เวลาเปลี่ยนคนเราก็เปลี่ยน   มึงยังไม่รู้จักกูอีกเยอะ”  ตะวันตอบตามที่คิดเพราะเมษไม่รู้จักเขาจริงๆ นั้นแหละ

“กูสนิทกับมึงมาหลายปี  เมื่อก่อนกูพูดเล่นกับมึงแบบนี้ไม่ได้  มึงจะโกรธกู   มึงไม่ใช่คนที่ปฏิสัมพันธ์ดีขนาดที่ว่าจะเสนอไอเดียแลกเปลี่ยนความคิดกับเพื่อนๆ ได้และมึงไม่ได้อารมณ์ดียิ้มแย้มบ่อยขนาดนี้”  เมษพูดในสิ่งที่สังเกตุออกมาและเป็นตะวันเองที่เงียบไปอึดใจนึง  ก่อนจะเอ่ยออกมาในที่สุด

“กูไม่ได้เป็นอะไรและไม่ได้แปลกหรือเปลี่ยนไปหรอก  มึงแค่ยังไม่รู้จักกูดีพอแค่นั้นเอง”  ตะวันเอ่ยจริงจังก่อนจะเดินมาล้มตัวลงนอนบนที่นอน   คืนนั้นตะวันนอนไม่หลับเกือบทั้งคืนเพราะคำพูดของเมษที่ดูเหมือนว่าเมษจะสงสัยในตัวของเขาแล้วและอีกส่วนหนึ่งคงเพราะคนที่กำลังนอนหลับอยู่ข้างๆ เขานี่เอง     ในชีวิตนี้นอกจากอาทิตย์และตะวันก็ไม่เคยนอนภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกับใครมาก่อน   ยิ่งกับเมษด้วยแล้วต้องยอมรับว่าเมษเป็นคนมีเสน่ห์มากคนนึง   ใครอยู่ใกล้เป็นต้องยิ้มตามไปกับพฤติกรรมเขาได้แน่ๆ   แต่ที่น่าสงสัยคือทำไมเมษถึงรู้จักอาทิย์ดีมากมายขนาดนี้   ชักอยากจะรู้ซะแล้วซิว่าเมษเป็นเพื่อนแบบไหนของอาทิตย์กันแน่นะ

 

เช้าวันรุ่งขึ้น....

“เมษ  ไอ้เมษ”  ตะวันเอ่ยปลุกเมษตั้งแต่หกโมงเช้า   ทันทีที่ตื่นขึ้นก็ปรากฏว่าเมษนอนก่ายเขาอยู่แม้จะพยายามแกะขาแกะมือเขาออกแต่ก็ไม่เป็นผลจนต้องตัดสินใจปลุก

“อือออ” เมษส่งเสียงงัวเงียออกมาก่อนจะกระชับแขนแน่นขึ้นจนตะวันถอนหายใจออกมาอยางเหนื่อยอ่อน

“ไอ้เมษ   ถ้ามึงไม่ตื่นกูถีบมึงตกเตียงจริงนะ”  ทันทีที่ตะวันพูดจบเมษก็ลืมตาขึ้นอัตโนมัติพร้อมกับเด้งตัวลุกขึ้นนั่งอย่างไวจนตะวันอดที่จะแอบขำไม่ได้

“เห็นกูไม่ว่าเหมือนก่อนมึงนี่เอาใหญ่เลยนะ” ตะวันเอ่ยแซวเพื่อน

“โทษที  เมื่อคืนกูฝันดีไปหน่อยเลยเผลอนอนก่ายมึง”  เมษไม่กล้าพูดว่ากอดแม้ว่าสิ่งที่ตนเองทำนั้นมันคือนอนกอดมากกว่านอนก่ายก็ตาม

“กูหวงไว้ให้แค่พี่คิมคนเดียวเว้ย   มึงอย่ามาเนียน”  ตะวันเอ่ยต่อแต่ทว่าไม่ทันได้สังเกตุสีหน้าของเมษซึ่งบัดนี้เมษมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป

“งั้นกูกลับห้องก่อนนะ   อีกชั่วโมงนึงไปรับกูที่หอแล้วกัน”  เมษเอ่ยพร้อมกับลุกเดินออกไปโดยไม่รอคำตอบจากเพื่อน

“เอ้า  เชี่ยไรของมันวะ”  ตะวันที่กำลังงงกับเพื่อนก็ได้แต่บ่นลับหลังก่อนจะลุกไปอาบน้ำแต่งตัว

 

1 ชั่วโมงต่อมา...

“แหม  วันนี้เพื่อนกูแต่งตัวซะหล่อเชียวนะ”  เมษที่ยืนรอตะวันอยู่หน้าหอเอ่ยทันทีเมื่อตะวันเดินลงมาจากรถ   ใช่แล้ววันนี้ตะวันแต่งตัวสบายๆ ด้วยเสื้อเชิ๊ตสีขาวกับกางเกงสีครีมพร้อมแว่นตากันแดดสีชาและกระเป๋าสะพายอีกหนึ่งใบแต่แค่นี้ก็ดูดีมากเลยทีเดียว

“จะแซวแว่นกูใช่ม้ะ   ช่วงนี้กูแสบๆตาหน่ะ  ป่ะ ไปกันได้ยัง”  ตะวันเอ่ยพร้อมลากเมษขึ้นรถก่อนจะขับออกไปยังปลายทาง

“เออ ไอ้อาทิตย์   จนป่านนี้กูยังไม่เห็นมึงจะรุกพี่คิมของมึงเลย”  เมษถามขณะนั่งรถ

“มึงว่ากูไปวุ่นวายไปกับแล้ววันนึงกูหายไปเขาจะรู้สึกอะไรมั๊ยวะ?”

“มึงพึ่งเจอพี่เขา2-3 ครั้งเอง  เขายังไม่ทันรู้สึกอะไรกับมึงหรอก”  เมษเอ่ยยิ้มๆ

“อ่าวหรอ   งั้นกิจกรรมปลูกต้นไม้นี้มึงต้องช่วยกูนะ”  ตะวันเอ่ย

“ยังไงวะ?”

“ก็ทำให้กูกับพี่คิมได้ปลูกต้นไม้ร่วมกันไง”  ตะวันเอ่ยพร้อมยิ้มอารมณ์ดี

มีแค่พี่คิมคนเดียวที่ทำมึงยิ้มได้สินะ  ไอ้อาทิตย์

 

ณ  ห้างสรรพสินค้า...

     หลังจากตะวันและอาทิตย์เดินซื้อของกันกว่าสองชั่วโมงทั้งคู่ก็มาจบที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งบนห้างสรรพสินค้า   ตลอดเวลาที่ผ่านมาตะวันจะถือโทรศัพท์ตลอดเวลา  มีการตอบแชทอยู่ตลอดจนเมษอดสงสัยไม่ได้ว่าตะวันคุยกับใครนักหนา

“เอสเพรสโซ่แก้วนึงครับ   มึงล่ะเอาอะไร?”  เมษหันมาถามเพื่อน

“เหมือนมึงเลย”  เอ่ยตอบขณะกดโทรศัพท์   แต่ทว่าคำตอบของตะวันทำให้คิ้วเมษกระตุกทันที  แต่เพียงชั่วครูก็ยิ้มออกมา

ทุกทีมึงไม่กินนะ ไอ้อาทิตย์

“เพิ่มเป็น 2 แก้วเลยนะครับ”  เมษหันไปเอ่ยกับพนักงานหน้าเคาน์เตอร์ก่อนจะพากันมานั่ง

“มึง  เดี๋ยวกูไปห้องน้ำแป้บนะ” เมษเอ่ยพร้อมกับลุกขึ้นเดินออกไป   เมษได้แต่มองตามหลังเพื่อนราวกับว่ากำลังเก็บรายละเอียดทุกอย่างของเพื่อนให้ชัดอย่างไรอย่างนั้น

 

10 นาทีผ่านไป..

“รอนานป่าววะ”  น้ำเสียงที่เอ่ยถามของคนที่กำลังหย่อนก้นนั่งลงตรงหน้าช่างคุ้นเคยเสียจริงๆ แต่ทว่ามันต่างกันกับเสียงของคนที่พึ่งจะออกไปเมื่อครู่นี้นี่สิ

“ไม่นานๆ  อ่ะ  นี่กาแฟมึงจะละลายหมดแล้ว”  เมษยื่นแก้วกาแฟให้เพื่อน

“หืม  เชี่ยไรเนี่ย”  เสียงอุทานดังขึ้นทันทีหลังจากที่ดูดกาแฟได้เพียงนิดเดียว

“ก็เอสเพรสโซ่ของมึงไง  มึงสั่งเองนะ”  เมษเอ่ยยิ้มๆ

“กูสั่งหรอ   มึงก็รู้ว่ากู....  ช่างเหอะ”  เอ่ยยังไม่ทันจบก็เงียบไปทันทีแล้วก้มหน้าก้มตาดูดกาแฟ  แต่ทว่าสีหน้าช่างดูไม่ดีเอาเสียเลย

“เออมึง  เดี๋ยวเสร็จแล้วไปไหนต่อป่าววะ  กูว่าจะ”

“กูอยากกลับหอ” ยังไม่ทันที่เมษจะเอ่ยจบอาทิตย์ก็ชิงพูดขึ้นมาก่อน

“ก็ได้  งั้นกลับเลยดีกว่า  ดูๆ สีหน้ามึงไม่ค่อยดีเลยนะ”  เมษถามเพราะเป็นห่วง   ในระหว่างเดินออกมายังโรงจอดรถ   เหมือนอาทิตย์จะรู้ว่าเขาไม่รู้ว่าตะวันรถจอดอยู่ที่ไหนเพราะล่าสุดตอนเปลี่ยนตัวกันตะวันก็ไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเขา

“เมษ  ขับรถให้หน่อยนะ  กูมึนๆ หัวว่ะ”  เอ่ยพร้อมสงกุญแจรถให้

“เฮ้อ  ก็ใครใช้ให้กินกาแฟตามกูละ  ร้อยวันพันปีไม่เยแดกวันนี้เสือกจะมาแดกตามกู  555” เมษที่เข้าใจว่าอาทิตย์มึนหัวเพราะกินกาแฟก็เอ่ยไปเรื่อยแต่ก็มิวายคว้ากุญแจรถจากมือเพื่อนมาถือไว้แล้วเดินนำไป

รอดตัวไป’  อาทิตย์ถอนหายใจก่อนจะเดินตามหลังเพื่อนไป

 

                                                                     ...........................................................

 

 

22.00 น.

ก๊อกๆๆ  เสียงเคาะปรตูห้องดังขึ้น

“อ่าว  ว่าไงเมษ”

“คือ  วันนี้กูไปกับมึงไง  เลยลืมตามช่างมาซ่อมแอร์”

“แล้ว?”

“กูขอค้างด้วยอีกคืนนะ” เมษอ้อน

“เอาดิ  นอนโซฟาได้นะมึงอ่ะ”  อาทิตย์เอ่ยขณะเดินกลับเข้าห้อง

“อ่าว  ทีเมื่อคืนมึงไม่เห็นว่าแบบนี้เลย” เมษโวยวายแต่เหมือนอาทิตย์จะฉุกคิดอะไรได้บางอย่าง

“เมื่อคืน....”

“ก็เมื่อคืนก็ก็นอนที่เตียงมึงไง   โถ่  กูก็หลงดีใจว่ามึงเลิกกลัวแล้วถึงยอมให้กูนอนด้วยได้” เมษเอ่ยเหมือนคนชนะ  ใช่เพราะบัดนี้เขาถือไพ่เหนือกว่ามาก

“ก็... เมื่อคืนส่วนเมื่อคืน  แต่คืนนี้ไม่ได้ไง”  อาทิตย์รีบตัดบท

“มึงกลัวกูหรอ?”  เมษพูดพร้อมยิ้มมุมปากเจ้าเล่ห์

“สัส  พูดมาก จะนอนก็นอน”  อาทิตย์รีบตัดบทและนั่นทำให้เมษที่ยืนหอบผ้าห่มอยู่นั้นยิ้มแป้นออกมาด้วยความดีใจก่อนจะทิ้งตัวลงบนที่นอน

“แอร์เย็นจัง  อื้มมมม” เอ่ยพร้อมหลับตาพริ้มและทันทีที่อาทิตย์ปิดไฟแล้วเดินมานอนเมษก็เริ่มดำเนินการตามแผนทันที

หมับ!! ขาของเมษยกก่ายพาดลำตัวของอาทิตย์   แต่ทว่าผู้ที่ถูกกระทำยังคงนอนนิ่งอยู่

“อื้มมม” เห็นดังนั้นทำให้เมษได้ใจจึงตวัดมือไปพาดบนอกของอาทิตย์อีกครั้ง  แต่ทว่าครั้งนี้...

“เห้ย!!  โอ้ยย”  อาทิตย์พลิกตัวออกแล้วถีบเมษอย่างเต็มแรงจนเมษกลิ้งลงมากองอยู่กับพื้นพร้อมส่งเสียงร้องโอดครวญ

“ทะลึ่งแล้วมึงอ่ะ  ไปนอนที่เดิมมึงเลย  โน่นโซฟาของมึง”  อาทิตย์เอ่ยเสียงดุจนเมษได้แต่บ่นงึมงำก่อนจะคว้าผ้าห่มตัวเองแล้วลากไปยังโซฟาก่อนจะล้มตัวลงนอนในที่สุด   แต่เมื่อนอนลงแล้ว   ในความมืดนั้นเมษกลับยิ้มออกมาอย่างคนที่สมหวังในอะไรบางอย่าง

“แบบนี้ค่อยเป็นอาทิตย์ที่กูคุ้นเคยหน่อย  หึหึ”

 

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา