Memory of Tomorrow วันพรุ่งนี้ในความทรงจำ
เขียนโดย Xiaobei
วันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 13.24 น.
แก้ไขเมื่อ 16 เมษายน พ.ศ. 2563 14.05 น. โดย เจ้าของนิยาย
35) บทที่35 เคลือบแคลงใจ(3)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่35 เคลือบแคลงใจ(3)
เสียงออดภายในมหาวิทยาลัยดังขึ้น ข้อสอบถูกอาจารย์เก็บไปทีละใบตามลำดับ อี้เป่ยซีเท้าหัว รู้สึกว่าหัวหนักอึ้ง
ในที่สุดก็ผ่านไปอีกวิชาหนึ่ง อารมณ์หลังการสอบยิ่งหนักหน่วงขึ้นอีก รีบเตรียมสอบวิชาต่อไปเถอะ
เธอเดินก้มหน้าไร้ชีวิตชีวา รองเท้าส้นสูงสีแดงคู่หนึ่งปรากฏสู่สายตา เธอเดินไปทางซ้าย รองเท้าก็ตามไปทางซ้าย พอเดินหลบอยู่สองสามครั้ง อี้เป่ยซีจึงทนไม่ไหวเงยหน้าขึ้นมา
“อี้...เป่ยซี” อีกฝ่ายกัดฟันพูดออกมาทีละคำ ปกปิดความโมโหไว้ไม่มิด
“สวัสดี” เห็นแก่หน้าลั่วจื่อหาน เธอยังคงกล่าวทักทายด้วยความอดทนและเป็นมิตร
หลิงจื่อเซี่ยแค่นเสียงเย็นชา“อีเป่ยซี ไม่ว่าเธอกำลังคิดอะไร อยู่ห่างพี่จื่อหานไว้หน่อยนะ เธอไม่มีทางได้สิ่งที่เธออยากได้จากเขาหรอก”
ราวกับว่าใช้พลังทั้งหมดของร่างกายจนเกลี้ยง ปลายนิ้วของหลิงจื่อเซี่ยสั่นเทาเล็กน้อย ความโกรธในดวงตาไม่หายไปเลยสักนิด กลับยิ่งรุนแรงขึ้น
เธออยู่ข้างเขามาสิบสองปี พยายามอย่างหนักเพื่อเรียนรู้และทำให้ตัวเองสมบูรณ์แบบมาสิบสองปีเต็ม เพื่อให้เขาหันมามองเธอบ้าง เธอนึกว่าเขาไม่ใส่ใจเรื่องใดๆ ฉะนั้นการมองข้ามเธอและรักษาระยะห่างจากเธอจึงพอเข้าใจได้ เธอคิดว่าตราบใดที่พยายาม พยายามเป็นในแบบที่เขาชอบ เธอก็ยังสามารถเดินเคียงข้างเขาได้
เธอคิดว่าตัวเองจะเป็นคนที่ลั่วจื่อหานมอง พูดถึง และคิดถึง
แต่ว่าเมื่อวานเธอถึงรู้ว่าคนคนนั้น คนที่ดูแล้วไม่ใส่ใจในทุกๆ อย่างก็สามารถหวั่นไหวได้เพียงเพราะคนคนหนึ่ง และหวั่นไหวอย่างลุ่มลึกมากด้วย
และคนคนนั้นก็คือเด็กสาวที่ไร้ซึ่งจุดแข็ง อีกทั้งทำตัวตามสบายไปวันๆ ที่อยู่ตรงหน้าคนนี้
อี้เป่ยซีกะพริบตาสองสามครั้ง กลับมาที่นี่ไม่ดีเลย ถูกคนเกลียดโดยไม่มีเหตุผลเสียอีก “หลิงจื่อเซี่ย เธอเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า?”
“อี้เป่ยซี คืนนั้นพี่เป่ยเฉินคงไม่ได้ทำอะไรให้เธอเสียใจหรอกนะ ตกภูเขาหิมะ เฮอะ ครั้งนี้เล่นละครได้ดีเลย”
ตอนนี้เมื่อเธอคิดว่าอี้เป่ยซีกับลั่วจื่อหานอยู่ในห้องเดียวกันทั้งคืนก็อิจฉาจนแทบคลั่ง ฟันกรามแอบขบเข้าด้วยกันแล้ว
ภูเขาหิมะ ลั่วจื่อหานเป็นคนบอกหลิงจื่อเซี่ยเหรอ? เขา…ไม่มีทางหรอก เขาสัญญากับเธอแล้วว่าจะไม่บอกคนอื่นเด็ดขาด
แต่เขาก็แค่สัญญากับเธอว่าจะไม่บอกพี่เป่ยเฉินเท่านั้น
“ลั่วจื่อหานบอกเธอเหรอ?”
“เธอคิดว่าพี่จื่อหานยังเก็บเรื่องเล็กๆ แบบนี้มาใส่ใจเหรอ?” น้ำเสียงที่เอ่ยเย้ยหยัน อี้เป่ยซีกลับสบายใจ
เธอพยักหน้า“อืม ฉันก็ลืมไปแล้ว ว่าแต่ทำไมเธอต้องจำไว้เพื่อมาเตือนสติฉันโดยเฉพาะด้วยล่ะ”
“ฉันแค่ไม่อยากให้มีครั้งที่สอง แค่หวังว่าข้างตัวพี่จื่อหานจะไม่มีคนมีเจตนาร้ายแอบแฝงมากมาย”
“เข้าใจแล้ว” อี้เป่ยซีที่ได้คำตอบแล้วไม่สนใจคนที่เกรี้ยวกราดอีก เดินอ้อมอีกฝ่ายจากไปทางเดิมโดยไร้ซึ่งชีวิตชีวา
หลิงจื่อเซี่ยหันหลังให้เธอพลางกำมือแน่น
‘อี้เป่ยซี ฉันจะต้องให้เธอชดใช้แน่นอน’
“จื่อเซี่ย” ฉินเยวี่ยเข่อรีบเดินเข้ามาตรงหน้าเธอ หลิงจื่อเซี่ยกลับมามีท่าทางเหมือนคุณหนูผู้สูงส่งตามปกติอีกครั้ง แล้วพยักหน้าให้กับอีกฝ่าย “เมื่อกี้อี้เป่ยซีเหรอ? เขาไม่ได้ทำอะไรเธอนะ?”
“เขาจะทำอะไรฉันได้”
ฉินเยวี่ยเข่อส่ายหน้า เอ่ยปากอย่างจริงจัง “อี้เป่ยซีคนนี้ไม่ธรรมดา เขาถนัดหว่านเสน่ห์ให้พวกคนมีหน้ามีตานะ นอกจากพี่ชายเธอแล้ว เขากับหลานฉือเซวียน…อ้อ แล้วยังสนิทกับหนุ่มต่างชาติคนหนึ่งด้วย”
“ก็แค่ข่าวลือ” เธอเอาผมทัดหู สายตากลอกไปมาด้วยความลังเลเล็กน้อย
“ใช่ที่ไหนกัน ฉันเป็นเพื่อนร่วมหอเขา เรื่องนี้ฉันเห็นเองกับตา เห็นว่าเขาคุยกับพวกเขาดึกๆ ดื่นๆ ตอนนั้นฉันเห็นเขาลับๆ ล่อๆ ก็รู้สึกแปลกอยู่นิดหน่อย คิดไม่ถึงจริงๆ ปกติดูเป็นเด็กผู้หญิงเรียบง่ายและเชื่อฟัง ทำไมถึงได้เป็นคนความคิดล้ำลึกแบบนี้นะ”
ฉินเยวี่ยเข่อพูดพลางสังเกตสีหน้าของคู่สนทนาตลอดเวลา
หลิงจื่อเซี่ยก้มหน้าเล็กน้อย“เขาดูไม่เหมือนเป็นคนแบบนี้เลยนะ”
“เธอต้องเชื่อฉันนะ ฉันยังมีหลักฐานเลย อะ”
หลิงจื่อเซี่ยรับโทรศัพท์มือถือของอีกฝ่ายมา เลื่อนดูรูปภาพที่เก็บไว้ พอเห็นรอยยิ้มน้อยๆ ของอี้เป่ยซีในวันหิมะตกแล้ว ความโกรธที่เก็บไว้พุ่งขึ้นมาในพริบตา
‘อี้เป่ยซี เธอมันโลภและไม่รู้จักพอจริงๆ’
เธอเลื่อนต่อไป เห็นอี้เป่ยซีกับลั่วจื่อหานพูดคุยกันอยู่นอกมหาวิทยาลัย แม้ว่าจะถ่ายคนในรถได้เลือนรางอยู่บ้าง แต่เธอยังรู้สึกได้ว่าดวงตาสีดำคู่นั้นกำลังจับจ้องสาวน้อยตรงหน้า
หลิงจื่อเซี่ยเงยหน้าขึ้น“เธอเตรียมไว้นานมากแล้วล่ะสิ?”
“ฉันแค่ช่วยเธอนะจื่อเซี่ย” ฉินเยวี่ยเข่อยิ้มเขินอาย“หรือว่าเธอไม่อยากให้คนอื่นรู้ธาตุแท้ของอี้เป่ยซี เธอยอมให้อี้เป่ยซีหลอกทุกคนเหรอไง จื่อเซี่ย คุณชายลั่วไม่ได้ถูกท่าทางเสแสร้งของเขาหลอกจนตามืดบอดหรือไง?”
“ฉันมีวิธีของฉัน”
ฉินเยวี่ยเข่อถอนหายใจ ส่ายหัวพลางเผยท่าทางไม่พอใจที่ไม่เป็นดังหวัง“งั้นก็ช่างเถอะ เพียงแต่ไม่รู้ว่าต่อจากนี้เธอพูดไปแล้วพวกเขาจะฟังหรือเปล่า ตอนนี้พิษมันยังอ่อน พอถึงสุดท้ายกลัวว่าพิษมันจะออกฤทธิ์แรงน่ะ” เธอเก็บโทรศัพท์มือถือเข้าไปในกระเป๋า อากัปกิริยาเชื่องช้ามาก เหมือนกับกำลังรอคนตรงหน้าเปลี่ยนใจ
“ฉันรู้ว่าเธอกำลังคิดจะทำอะไร ฉินเยวี่ยเข่อ เก็บความฉลาดของเธอไว้เถอะ ฉันหลิงจื่อเซี่ยไม่สนใจ”
“กับคนชั้นต่ำก็ต้องใช้วิธีต่ำๆ สิ จื่อเซี่ย ปกติเธอเป็นคนฉลาด ทำไมตอนนี้ถึงได้เลอะเลือนแบบนี้ล่ะ ไปก่อนละ” เธอรูดซิปกระเป๋า“ด้วยอิทธิพลของเธอ ถ้าหากอยากทำอะไรจริงๆ ทำไมต้องลงมือเองด้วย เธอแค่พูดเหมือนไม่ได้พูด ใครเขาจะสาวมาถึงเธอได้ ฉันไม่เข้าใจเลยว่าเธอกลัวอะไรกันแน่”
หลิงจื่อเซี่ยอ่อนลงเล็กน้อย เธอเหลือบมองกระเป๋าของฉินเยวี่ยเข่อโดยไม่รู้ตัว
“นี่ ที่จริงน่ะ เธอพูดถูกแล้ว ฉันไม่ชอบหน้าเขา แต่ว่าฉันมีวิธีของฉันเอง สงสัยรูปพวกนี้ฉันคงถ่ายฟรีซะแล้ว จื่อเซี่ย พรุ่งนี้ฉันยังมีสอบ ขอตัวก่อนนะ”
ฉินเยวี่ยเข่อส่ายหน้าเหมือนคนแก่ก่อนจะเดินจากไป แผ่นหลังค่อยๆ ไกลออกไป ร่างของหลิงจื่อเซี่ยโน้มไปข้างหน้าเล็กน้อย กำลังจะก้าวเท้าแต่ก็ชักกลับมา เธอหันหลังเดินไปเพียงไม่กี่ก้าว ก็กัดฟันแล้วเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว ไล่ตามฉินเยวี่ยเข่อไปจนทัน
“ว่ามา เธอจะเอายังไง”
“ถ้ายังไงเราไปที่ห้างของบ้านลั่วพวกเธอ แล้วพวกเราคุยเรื่องนี้กันก่อน”
------------
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ