Memory of Tomorrow วันพรุ่งนี้ในความทรงจำ

-

เขียนโดย Xiaobei

วันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 13.24 น.

  40 ตอน
  0 วิจารณ์
  33.04K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 เมษายน พ.ศ. 2563 14.05 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

36) บทที่36 เคลือบแคลงใจ(4)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บทที่36 เคลือบแคลงใจ(4)

 

อี้เป่ยซีที่ถูกพูดถึงจามชุดใหญ่ รู้สึกว่ามีคนพูดอะไรลับหลังเธอ เธอหันหลังไป คนกลุ่มเล็กๆ ด้านหลังที่กลับหอพักล้วนสนอกสนใจเรื่องราวของเธอ คิดมากไปแล้วมั้ง

แต่ก็ยังรู้สึกแปลกๆ น่าจะเป็นเพราะถูกทรมานจากการสอบ ตอนนี้เธอถึงได้หวาดระแวงไปทั่ว

“เป่ยซี”

“คุยกับพี่ว่าจะไปช่วงบ่ายไม่ใช่เหรอ พี่เจี้ยทำไมมาเร็วจัง”

เจี้ยลูบจมูก งั้นก็ต้องโทษที่เธอส่งตารางสอบให้พี่ชายเธอเองแล้ว“ได้ไปกินข้าวกับเป่ยเฉินพอดี สอบเสร็จแล้วไม่เหนื่อยเหรอ?” เขาช่วยเธอเปิดประตูรถ

เมื่อเสียงคันเร่งดังขึ้น เธอจึงเอ่ยปากด้วยความเกียจคร้านเล็กน้อย “เหนื่อยๆๆ เหนื่อยแน่นอน ฉันเหนื่อยจนจะตายอยู่แล้ว แต่พี่เป่ยเฉินเก่งมากเลย เขาทายข้อสอบส่วนใหญ่ถูกหมด ดูแล้วสอบครั้งนี้ไม่น่าจะมีปัญหา” เธอพูดพลางก้มหน้า“แต่ว่าไม่รู้พี่เป่ยเฉินผู้รอบรู้จะช่วยวิชาพีชคณิตของฉันได้หรือเปล่า พี่เจี้ย ตอนที่พวกพี่เรียนมหา’ลัยก็ทรมานแบบนี้หรือเปล่า?”

เจี้ยตอบเอออตามเธอไป คนด้านข้างจึงยิ้มบางๆ อย่างพอใจ แล้วหยิบหนังสือทบทวนบทเรียนออกมาแก้โจทย์ต่อ

เขากวาดตามองหนังสือเรียน ที่จริงก็ยังโอเคนี่นา…

หลังจากเจี้ยทำหน้าที่รับอี้เป่ยซี ‘ระหว่างทาง’ เสร็จก็กลับไปทำงานดังเดิม อี้เป่ยซีวิ่งขึ้นชั้นบนอย่างมีความสุข ยิ้มน้อยๆ ให้กับพนักงานที่พบเจออย่างเป็นมิตร

พอผลักประตูออกก็เห็นอี้เป่ยเฉินกำลังยุ่งกับงานตัวเองอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ เธอไม่ได้พูดอะไร เดินย่องไปยังที่นั่งที่ถูกจัดไว้เรียบร้อย จากนั้นหยิบเอกสารการเรียนออกมาอย่างรู้หน้าที่ จริงจังมาก ขยันมาก

อี้เป่ยซีมองนาฬิกาข้อมือเป็นครั้งคราว พลางแอบมองคนบนโต๊ะหนังสืออย่างน้อยใจ เพราะถูกจ้องมองนานเกินไป อี้เป่ยเฉินจึงเก็บเอกสารบนโต๊ะ

“เอาละ พวกเราไปกินข้าว” ฝ่ามือใหญ่จูงมือน้อยๆ ของน้องสาว เขาปิดประตู ออฟฟิศเงียบสงบลงอีกครั้ง

อี้เป่ยซีที่กินจนอิ่มแปล้แล้วนั่งเบื่อหน่ายอยู่หน้าวิชาคณิตศาสตร์ ทำอย่างไรจิตใจก็ไม่สามารถสงบได้ ขณะกำลังคิดข้ออ้างว่าหนังท้องตึงหนังตาหย่อนอยู่ในใจแล้วก็ผ่อนคลาย เปลือกตาเธอหนักอึ้งขึ้นเรื่อยๆ จนปิดลง แพขนตายาวสั่นไหวเล็กน้อย แล้วก็ฟุบหลับอยู่บนโต๊ะไปอย่างนั้น

เมื่ออี้เป่ยเฉินเงยหน้าเห็นอี้เป่ยซีที่หลับสนิท ก็หัวเราะเบาๆ ก้าวเท้ายาวๆ ไปอุ้มคนที่อยู่ตรงโต๊ะขึ้นมา แล้วพาไปส่งในห้องที่จัดเก็บเรียบร้อย ร่างน้อยๆ จมอยู่ในที่นอนอ่อนนุ่ม ขยับไปมาตามใจเล็กน้อย อี้เป่ยเฉินจูบหน้าผากเธอ จากนั้นปิดประตูไปทำงานของตัวเองต่อ

เขากำลังมองเคสที่เวยหลานให้มาพลางครุ่นคิด ลั่วจื่อหานต้องการทำอะไรกันแน่? เขายังดูไม่ออกและเดาไม่ถูกจริงๆ

รู้เพียงอย่างเดียวว่าเคสนี้ เขาจะต้องรับไว้

.........

ใกล้ถึงเวลานัดแล้ว ลั่วจื่อหานจึงเดินเข้าไปในออฟฟิศ พอเข้าประตูมาก็เห็นเอกสารการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยวางกองอยู่บนโต๊ะ

เธอก็อยู่ที่นี่ด้วยเหรอ?

“ว่ายังไงบ้าง?” ลั่วจื่อหานเปิดประตูไปพบเขาโดยไม่ชักช้า มั่นใจเต็มร้อย ไม่ว่าใครที่เห็นโครงการนี้แล้วล้วนไม่มีทางปฏิเสธแน่

“ฉันก็แค่สงสัย ทำไมเวยหลานถึงเอาโอกาสทำกำไรแบบนี้ให้เยี่ยถัง?”

“ประธานอี้ไม่มั่นใจในความสามารถตัวเองเหรอ?”

อี้เป่ยเฉินเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม“ไม่ใช่แบบนั้น ประธานลั่วเลือกเยี่ยถังเพื่ออธิบายวิสัยทัศน์ของประธานลั่ว แต่ว่าในเรื่องเทคโนโลยีความปลอดภัยลับ ประธานลั่วไม่ได้มีพาร์ทเนอร์ที่ชื่นชอบอยู่แล้วเหรอ?”

“ชื่นชอบก็ส่วนชื่นชอบ สุดท้ายแล้วจะเลือกยังไงให้เป็นการตัดสินใจของคณะกรรมการ”

“เดี๋ยวนี้คณะกรรมการเวยหลานใจกว้างกับเคสความร่วมมือถึงขนาดให้กันฟรีแล้วเหรอ? หรือว่าสมาชิกคณะกรรมการก็เป็นสมาชิกขององค์กรการกุศล?”

“เยี่ยถังสร้างความประหลาดใจให้ผมได้ ไม่จำกัดแค่กำไรที่โครงการนี้จะทำได้” ลั่วจื่อหานก้มหน้ามองหนังสือบนโต๊ะ ตัวอักษรสวยงามกระจัดกระจายอยู่บนกระดาษสีขาว ราวกับศิลปะบนผนังที่วาดเขียนตามอำเภอใจ ดูแล้วใช่เธอแน่ๆ

“งั้นก็…”อี้เป่ยเฉินยังไม่ทันพูดจบก็ได้ยินเสียงเปิดประตูจากด้านหลัง เขามองดูนาฬิกาข้อมือ แค่สิบนาทีเท่านั้น ปกติครึ่งชั่วโมงถึงจะตื่นไม่ใช่เหรอ?

อี้เป่ยซีขยี้ตาตัวเอง เมื่อความแจ่มชัดของสายตากลับคืนมาเล็กน้อยจึงเห็นคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ชัดเจน “ลั่ว ลั่วจื่อหาน”

ทำไมเขาถึงปรากฏตัวที่บ้านฉัน เธอมองอี้เป่ยซีด้วยความงุนงงเล็กน้อย จึงพบว่าที่นี่ไม่ใช่ห้องของตัวเอง

“ขอโทษนะคะ รบกวนพวกพี่แล้ว” เธอเดินก้าวเล็กๆ กลับตำแหน่งของตัวเอง หยิบหนังสือแล้ววิ่งกลับไปที่ห้องพักผ่อน ลั่วจื่อหานที่อยู่บนโซฟาพยักหน้าทักทาย ไม่มีอาการผิดปกติใดๆ

“ขอโทษนะ ทำคุณหัวเราะเยาะซะแล้ว”

ลั่วจื่อหานส่ายหน้า แสดงให้เห็นว่าเขาไม่รังเกียจ ทั้งสองคนพูดเนื้อหาความร่วมมือกันอีกสักพัก เขามองเวลาข้อมือ ได้เวลากลับแล้ว โครงการนี้น่าจะได้ข้อสรุปแล้ว

“ไว้คราวหน้าจะมารบกวนใหม่” ประตูออฟฟิศเพิ่งจะปิดลง เสียงที่ขอให้สอนโจทย์คำถามก็ลอยมาจากด้านหลังแผ่วเบา

เขาคิด‘กำลังติวข้อสอบกันเหรอ? มันจะเป็นความรู้สึกยังไงกันนะ?’

แต่ว่ายังดี วันนี้ก็ใช่ว่าจะไม่ได้เรื่องอะไรเลย ลั่วจื่อหานคิดพลางก้าวเดิน รู้สึกผ่อนคลายขึ้น

อี้เป่ยเฉินอธิบายจุดที่เธอทำเครื่องหมายถูกเอาไว้อย่างอดทนจนเสร็จ ก็ลูบหัวของเธอ “วันนี้ทำไมนอนแป๊บเดียวก็ตื่นแล้วล่ะ”

“เมื่อกี้ฉันฝันว่ากำลังสอบ ไม่ได้ทบทวนอะไรเลย ก็เลยตกใจตื่นแล้ว”

“เธอก็อย่ากังวลมากเกินไป คะแนนบนข้อสอบแสดงอะไรไม่ได้เลย”

“ฉันรู้น่ะ แต่ว่าฉันอยากเรียนต่อจริงๆ นะ ฉันแค่รู้สึกว่า…”

“รู้สึกว่าพี่จะให้เธอเปลี่ยนคณะใช่ไหม?” เขากอดเด็กสาวที่น้อยใจ พูดเสียงเบาว่า“พี่บอกแล้ว เธออยากทำอะไรก็ทำ ถ้าเป็นเรื่องที่เสี่ยวซีไม่เต็มใจ พี่จะไปบังคับเธอได้ยังไง พี่แค่กลัวเธอน้อยใจ กลัวเธอเหนื่อยเกินไป เข้าใจไหม?”

อี้เป่ยซีพยักหน้า แต่ไม่ได้พูดอะไร

“ถ้าเสี่ยวซีอยากเรียนจริงๆ พี่ก็จะช่วยเสี่ยวซี ถ้าเสี่ยวซีไม่ชอบขึ้นมาเมื่อไรอยากยอมแพ้ก็ไม่เป็นไร เรื่องอื่นให้พี่จัดการก็พอแล้ว”

“ฉันจะพึ่งพี่ตลอดไม่ได้หรอกนะ ฉันก็อยากโตเร็วๆ ต่อไปจะได้เป็นแบบพี่”

“ถ้ายังมีพี่อยู่ เธอก็เป็นเด็กได้ตลอด”

อี้เป่ยซีเขยิบเข้าไปใกล้เขา อยู่ข้างเขาอย่างสงบเหมือนกับเด็กคนหนึ่ง

เธอเล่นกับนิ้วของอี้เป่ยเฉิน ผ่านไปเนิ่นนานจึงเงยหน้าขึ้นมา“พี่เป่ยเฉินแบบนั้นไม่ได้นะ ไม่งั้นต่อไปเป่ยซีก็ไม่มีแม้แต่แรงฮึดสู้ และความสามารถก็จะห่างพี่ไปอีก” เธอหยิบหนังสือขึ้นมา“ฉันจะต้องสู้ต่อไป”

------------

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา