Memory of Tomorrow วันพรุ่งนี้ในความทรงจำ
เขียนโดย Xiaobei
วันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 13.24 น.
แก้ไขเมื่อ 16 เมษายน พ.ศ. 2563 14.05 น. โดย เจ้าของนิยาย
22) บทที่22ศัตรูผูกพันง่ายดาย(1)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่22ศัตรูผูกพันง่ายดาย(1)
ดึกป่านนี้แล้ว อี้เป่ยซีมองท้องฟ้านอกห้องสมุด ตอนนี้ฟ้ามืดแล้ว เข็มของนาฬิกาข้อมือชี้ไปที่ตำแหน่งหกนาฬิกา เธอนวดคลึงคอที่รู้สึกเมื่อยเล็กน้อย เก็บหนังสือบนโต๊ะ วันนี้พี่เป่ยเฉินจะกลับมาหรือเปล่า?
“นี่เธอ”
อี้เป่ยซีเงยหน้าขึ้น เห็นคนแปลกหน้าคนหนึ่ง
“อือ นายมีเรื่องอะไรเหรอ?”
“ถามหน่อยสิ หนังสือเล่มนี้เธอเอามาจากไหนเหรอ”
“หา?” ทำไมถึงมีคนถามอะไรแปลกๆ แบบนี้“อ๋อ มาจากชั้นวางหนังสือแถวหนึ่งน่ะ แต่จำตำแหน่งเป๊ะๆ ไม่ได้แล้ว”
หนุ่มตรงหน้ายิ้มให้เธอ ท่าทางตรงไปตรงมา“ขอบคุณ”
มันแปลกๆ อยู่นะ เธอก็ไม่รู้จักเขาเสียหน่อย อี้เป่ยซีลูบจมูก หรือแค่อยากมาคุยด้วย? จู่ๆ เธอก็หัวเราะให้กับความคิดของตัวเอง‘อีเป่ยซี เธอนี่หลงตัวเองจริงๆ’ คิดอย่างอารมณ์ดีแล้วก็เดินออกจากห้องสมุดไป
“ฉู่ซ่ง ทำไมนายมาอยู่ที่นี่? เอ๊ะ กำลังอ่านอะไร?” หลิงจื่อเซี่ยถามด้วยความตื่นเต้น เธอรู้อยู่แล้วนานว่าฉู่ซ่งจะย้ายมาที่มหาวิทยาลัยตัวเอง วันนี้ได้เจอกันสักที
ฉู่ซ่งมองเธอกลับ พูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์“มาห้องสมุดจะอ่านอะไรได้” พูดจบก็ไปหาหนังสือที่อี้เป่ยซีอ่านเมื่อครู่‘ถ้าหากใช่เธอจริงๆ เมื่อกี้ทำไมเธอถึงจำฉันไม่ได้ ทำไมไม่มีแม้แต่แววตาสงสัย? เธอลืมได้ยังไงนะ’
เขาหยิบหนังสือแล้วจากไป
ฟากอี้เป่ยซีเพิ่งเดินถึงทางออกก็เห็นเงาร่างที่คุ้นเคยอยู่ใต้ไฟถนน จึงวิ่งเหยาะๆ เข้าไปหาคนนั้น รอยยิ้มสว่างสดใส
“พี่เป่ยเฉิน พี่กลับมาแล้วเหรอ” แต่อี้เป่ยซีนึกได้ว่าทั้งสองคนยังไม่คืนดีกัน รีบทำหน้าเย็นชาทันที“ฉันบอกแล้ว ฉันจะไม่กลับไปอีก”
เขายื่นมือออกมาดึงหูของเธอ“ถ้าเธอยังโกรธอีก พี่จะดึงไฟล์ของเธอกลับไปที่ฝ่ายวรรณกรรม ให้อาจารย์พวกเธอเช็คชื่อเธอทุกวัน”
“พี่ พี่เป่ยเฉิน พี่มัน…พี่รู้แล้วเหรอ” เธอก้มหน้ามองปลายเท้าตัวเอง
อี้เป่ยเฉินจัดผมของเธอที่ถูกลมพัดจนยุ่ง “เสี่ยวซี เพราะพี่ผิดเอง เธอให้อภัยพี่ได้รึเปล่า”
“ก่อนหน้านี้พี่บอกว่าเสี่ยวซีไม่มีความรับผิดชอบ พฤติกรรมก้าวร้าว ถูกตามใจจนนิสัยเสีย น่าผิดหวังมากๆ”
“เปล่าๆๆ เสี่ยวซีพูดง่ายเชื่อฟัง เข้าใจคนอื่น เพราะงั้นเสี่ยวซีผู้มีความรับผิดชอบที่สุด วันนี้กลับบ้านกับพี่ดีไหม?” อี้เป่ยเฉินดึงมือเธอขึ้นมาด้วยความเคยชิน คิดไม่ถึงว่ามือจะเย็น ใส่ตั้งหนาขนาดนี้แล้วแท้ๆ
เธอเงยหน้าขึ้นยิ้มหวาน“งั้นจะให้โอกาสพี่แก้ตัวสักครั้ง”
รถเคลื่อนออกจากบริเวณโรงเรียนช้าๆ คนคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นตรงที่พวกเขายืนก่อนหน้านี้
‘เป่ยซี...ตอนนี้เธอชื่อเป่ยซีแล้วเหรอ? งั้นเธอยังจำชื่อเมื่อก่อน เธอยังจำคนในอดีตได้ไหม?
เป่ยซี เป่ยซี ไม่สิ เธอไม่ได้ชื่อเป่ยซี เธอไม่ได้ชื่อเป่ยซีมาตั้งแต่แรก ฉันจะต้องหาเธอให้เจอ หาชื่อของเธอกลับมา’
เสียงกำหมัดดังอยู่ในคืนที่มืดมิด และถูกลมพัดไปยังทิศทางที่รถจากไป
“ฮัดเช้ย…” อี้เป่ยซีที่อยู่ในรถจามเสียงดังโดยพลัน
“ทำไมจามซะล่ะ? ไม่สบายหรือเปล่า?”
อี้เป่ยซีส่ายหัว มองออกไปนอกหน้าต่าง ทำไมหลายวันนี้รู้สึกแปลกๆ มันคือสัญญาณว่าจะเป็นหวัดเหรอ? เธอเอ่ยปาก“พี่ เป็นไงบ้าง พี่อยู่เมืองA ราบรื่นดีไหม?”
ราบรื่นงั้นเหรอ? น่าจะไม่ราบรื่นนะ ถ้าหากเป่ยซีเจอกับผู้ชายที่ปรากฏตัวกะทันหันในบาร์ พนักงานที่บอบบางอ่อนแอในโรงแรม ไปเมืองA ครั้งนี้พบเจอเรื่องราวมากมายจริงๆ นี่ยังนับว่าราบรื่นอยู่หรือเปล่า? เขาคิดพลางกุมมือของอี้เป่ยซี
“พี่ เป็น...เป็นอะไรไป”
เขาส่ายหัว“เป่ยซี เธอต้องเชื่อพี่นะโอเคไหม?”
“เอ่อ ทำไมพี่พูดแบบนี้ล่ะ แปลกๆ นะ” ทั้งสองคนเข้าสู่ความเงียบงันอันประหลาด อี้เป่ยซีเพียงแต่รู้สึกว่ามือที่กุมมือเธอออกแรงกว่าเดิมเล็กน้อย ไม่แรงไม่เบาจนเกินไป ทำให้รู้สึกปลอดภัยอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ แต่ว่าทำไมจู่ๆ พูดแบบนี้ เพราะว่าที่เมืองAไม่ราบรื่นงั้นเหรอ
“เสี่ยวซีต้องเชื่อพี่อยู่แล้ว พี่เก่งที่สุดในใจของเสี่ยวซีนะ”
ได้ยินคำตอบของเธอ อี้เป่ยเฉินเอ่ยปากอย่างจนใจ“ยังเป็นเด็กที่ไม่โตจริงๆ”
“ไม่นะ ฉันโตแล้ว อีกไม่กี่เดือนฉันก็สิบแปดแล้ว” เธอพูดพลางยืดอกด้วยความภาคภูมิใจ ดวงตาโค้งขึ้น เจือความเย่อหยิ่งที่อธิบายไม่ถูก
“อือ” ใช่แล้ว เด็กสาวของเขาเติบโตมาด้วยมือของตัวเขาเอง ดีจริง…
อี้เป่ยเฉินจูงมืออี้เป่ยซีมาถึงในบ้าน มือน้อยๆ ที่เย็นเฉียบถูกฝ่ามือใหญ่กว้างเกาะกุมไว้ สีหน้าทั้งสองคนมีรอยยิ้ม
“เธอขึ้นไปก่อนเถอะ ของขวัญที่พี่ซื้อมาให้อยู่ข้างบน”
“ขอบคุณค่ะพี่” เสียงขึ้นบันไดตึงตังทำให้บ้านสั่นไหว อี้เป่ยเฉินพับแขนเสื้อ ขณะที่กำลังจะเข้าห้องครัว โทรศัพท์บ้านก็ดังขึ้นในเวลาเดียวกัน
“ฮัลโหล”
“อี้เป่ยเฉิน? วันนี้รับอี้เป่ยซีกลับมาเหรอ?”
“คุณคือ…”
“โดนนายอัดตั้งหลายรอบ ฉันนึกว่านายจะจำฉันได้ซะอีก”
“ทำไมคุณถึงมีเบอร์นี้ได้?”
“ฉันจะไม่ตอบคำถามนายหรอก อี้เป่ยซีต้องบอกนายอยู่แล้ว ทำไมเธอยังไม่บอกนายอีกว่าฉันเป็นใคร? น่าเสียใจจริงๆ เลย ฉันนึกว่าในใจของเธอฉันก็เป็นคนที่สำคัญมากเหมือนกันซะอีก”
อี้เป่ยเฉินกำหูโทรศัพท์แน่น คนข้างกายเป่ยซีเหรอ? ใคร? เขาคือใครกันแน่?
“งั้นก็ไม่สนุกแล้ว ฉันยังอยากได้ยินเสียงประหลาดใจของอี้เป่ยซีหลังจากไม่ได้เจอกันมานานอยู่เลย งั้นก็รบกวนพี่เป่ยเฉินฝากไปบอกที บอกว่าคนคุ้นเคยเมื่อก่อนของเธอ เดี๋ยวก็จะได้เจอเธอแล้ว ไม่ต้องตั้งตารอจนเกินไป”
ตู๊ดๆๆ…
อี้เป่ยซีวิ่งลงมาข้างล่างด้วยความดีใจ เห็นอี้เป่ยเฉินตัวแข็งทื่ออยู่หน้าโทรศัพท์“พี่เป่ยเฉิน เป็นอะไรไปคะ?” อี้เป่ยเฉินหันมองเธอด้วยสีหน้าสับสน จากนั้นก็กลับคืนสู่สภาพปกติ
‘อี้เป่ยซีสนิทกับเขามากเหรอ? ทำไมไม่เคยได้ยินเธอพูดถึงเลย หรือว่าเธอไม่อยากบอกเขา แต่ว่าทำไม…’
“ไม่มีอะไร ชอบของขวัญไหม?”
“ชอบค่ะ ชอบ ชอบที่สุดเลย” เธอมองที่คั่นหนังสือหินโมราในมือ แล้วกอดผู้ชายตรงหน้าอย่างดีใจ“พี่เป่ยเฉิน พี่นี่รู้ใจฉันที่สุดแล้ว”
“เธอชอบก็ดี” อี้เป่ยเฉินกอดคนในอ้อมอก จะไปคิดมากมายทำไม เป่ยซีทำอะไรก็มีเหตุผลของเธอ เพียงแต่“เสี่ยวซี”
“หืม”
“ช่วงนี้…”
“ช่วงนี้ดีมากเลยแหละ พี่ไม่ต้องเป็นห่วง” ใบหน้าของเธอซุกอยู่ในอก ปลายจมูกเต็มไปด้วยกลิ่นของเขา
อี้เป่ยเฉินพยักหน้า“อืม งั้นพี่ก็วางใจแล้ว” ถ้าหากเป็นผู้ไม่หวังดี งั้นเขากันออกไปก็ดีแล้ว เป่ยซีแค่ต้องยืนอยู่ข้างหลังเขาก็เพียงพอ
------------
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ