ชีวิตของผมจะมีคนยุ่งมากไปแล้วนะ
8.0
เขียนโดย ionization
วันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 13.45 น.
7 ตอน
1 วิจารณ์
6,854 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 21 เมษายน พ.ศ. 2563 15.00 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) ...กับการสูญเสีย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ บันทึกของฟุรุคาวะ ยูกิจังค่ะ
วันที่2 มีนาคม วันนี้คุณพ่อก็พาหนูไปเยี่ยมคุณแม่ด้วย คุณแม่ลูบหัวหนูด้วยล่ะค่ะ หนูมีความสุขมากเลย
วันที่3 มีนาคม วันนี้หนูวาดรูปมาให้คุณแม่ดูด้วย คุณแม่ชอบมากๆเลยล่ะค่ะ แม่ยังเก็บรูปนั้นไว้ด้วยนะคะ
วันที่5 มีนาคม คุณหมอคุยอะไรกับคุณพ่อไม่รู้ คุณพ่อดูเศร้าจังเลย คุณพ่อโดนคุณหมอดุแน่ๆเลย
วันที่10 มีนาคม คุณแม่อ่านนิทานให้ฟังด้วยล่ะค่ะ สนุกมากๆเลย คุณแม่มีสมุดรวมเล่มรูปวาดของหนูด้วยล่ะค่ะ
วันที่15 มีนาคม วันนี้หนูวาดรูปคุณพ่อกับคุณแม่ค่ะ พวกเรานั่งดูมัน วันนี้คุณพ่อกับคุณแม่ชมด้วยค่ะว่าหนูวาดสวยขึ้น
วันที่24 มีนาคม คุณหมอเข้ามาหาคุณแม่ คุณแม่ยิ้มด้วยค่ะ คุณหมอต้องชมคุณแม่แน่ๆเลย คุณแม่กอดสมุดภาพหนูอยู่ตลอดเลยค่ะ
วันที่29 มีนาคม วันนี้หนูลืมวาดภาพมาให้คุณแม่ เดี๋ยวพรุ่งนี้หนูจะวาดมาให้สองรูปเลย วันนี้เราอยู่ด้วยกันทั้งวันเลยค่ะ หนูอยากให้พวกเราอยู่ด้วยกัน
ตลอดไปเลยค่ะ
ณ ปัจจุบัน ใต้คนไม้ใหญ่ที่อยู่หลังพุ่มไม้ที่ไม่ค่อยมีผู้ใดสังเกตนัก ยูกิ นั่งชันเข่าอยู่ใต้ร่มไม้นั้น สีหน้าเหม่อลอย น้ำตาที่ไหลรินเล็กน้อย
สื่อถึงความรู้สึกที่แสนเศร้าเมื่อนึกถึงอดีต
"คุณแม่คะ...."
"มาทำอะไรตรงนี้น่ะ ไม่มีเรียนตอนเช้าหรือไง"
เนรุเดินผ่านพุ่มไม้ แล้วตรงมาหาเธอ ยืนมองเธอที่เศร้าโศก เธอแหงนหน้าที่เปื้อนน้ำตานั้นมาทางเนรุ
"...เนรุคุง"
"โดดเรียนคาบแรกไม่ดีนะ ยิ่งกับเธอที่เป็นหัวกะทิของห้องแล้วด้วยน่ะ"
"....แล้วเนรุคุงล่ะ"
"ชั้นโดดเรียนน่ะ.......แค่...แค่บังเอิญผ่านมาเจอน่ะ"
"...โดดเรียน...มันไม่ดีนะ"
"ช่างชั้นเถอะน่า ชั้นมันพวกไม่ได้เรื่องอยู่แล้วล่ะ"
"........"
"แผลนั่น...ทำให้เกิดเรื่องหรอ"
"....ไม่ใช่หรอก...ชั้น...ไม่ดีเองล่ะ"
"......."
"นี่...เนรุคุง...จะช่วย..ฟังเรื่องของชั้นหน่อยจะได้มั้ย"
"....อ่า...จะรับฟังให้"
เสียงของเนรุที่พร้อมจะรับฟังเธอ ทำให้เธอรู้สึกโล่งใจนิดหน่อย น้ำตาที่ไหลอยู่ในตอนนั้น เริ่มแห้งลงแล้ว เธอขยับตัวเข้ามาไกล้เนรุมากขึ้น
"ขอบคุณนะ"
"......"
"....เมื่อสิบปีก่อน คุณแม่ชั้นเสียน่ะ หลังจากที่คุณแม่เสีย คุณพ่อก็เริ่มแปลกไป คุณพ่อไม่เคยยิ้มเลยหลังจากนั้น...."
เมื่อสิบปีก่อน วันที่ 30 มีนาคม
"คุณพ่อคะ เราไปเยี่ยมคุณแม่กันเถอะค่ะ วันนี้หนูวาดรูปชดเชยที่หนูลืมวาดเมื่อวานด้วยล่ะค่ะ"
"......ซาซาเอะ...ทำไมล่ะ....ซาซาเอะ...."
เสียงของพ่อของยูกิ ร้องไห้อย่างโศกเศร้า ร่างกายล้มลงราวกับคนที่ไม่มีเรี่ยวแรง เสียงสะอึ้นที่ราวกับจะขาดใจ ยูกิได้ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ยูกิรีบวิ่งไปหาพ่อของเธอ
"คุณพ่อคะ คุณพ่อเป็นอะไร คุณพ่อ..."
"ซาซาเอะ...ซาซาเอะ...ซาซาเอะ"
คุณพ่อไม่ได้รู้สึกตัวเลยแม้แต่น้อยที่ลุกของตนได้เข้ามาหา ความโศกเศร้าหาสิ่งใดมาเปรียบกำลังเข้ามายังครอบครัวฟุรุคาวะ
"คุณแม่....คุณแม่เป็นอะไรคะคุณพ่อ นี่คุณพ่อบอกหน่อยสิคะ"
เด็กหญิงไร้เดียงสาเริ่มร้องไห้เมื่อเห็นคนเป็นพ่อร้องไห้เป็นสายเลือดอยู่ตรงหน้า เด็กผู้หญิงโอบกอดคุณพ่อด้วยมือเล็กๆของเธอ
หวังจะให้คุณพ่อหยุดร้องไห้แล้วบอกเรื่องทุกอย่างให้เธอรู้
"คุณหนูครับ......คุณแม่ของคุณหนู....คุณนายท่านเสียชีวิตแล้วครับ"
พ่อบ้านกล่าวด้วยน้ำตา ในบ้านที่ใหญ่โตนี้กลับมีแต่เสียงของความเศร้าโศก เสียงร้องไห้ดังออกมาจังก้นบึ้งของความรู้สึก
เด็กหญิงเมื่อได้รู้ความจริงนั้น ราวกับแก้วใบเล็กๆนั้นตกลงมาแตกสลาย คุณแม่ของเธอ เสียชีวิตแล้ว เธอไม่มีโอกาศจะให้รูปที่เธอวาดขึ้น
ให้กับคุณแม่ของเธออีกแล้ว มือของเด็กผู้หญิงคนนั้นสั่นคลอน ภาพวาดของเธอร่วงลงกับพื้น น้ำตาของเธอหยดใส่ภาพนั้นจนเปียกปอน
"คุณแม่...คุณแม่...คุณแม่"
"ซาซาเอะ....ทำไม"
หลังจากงานศพของ ฟุรุคาะวะ ซาซาเอะ ทุกอย่างผ่านไป ยกเว้นเพียงแต่ความเศร้าที่ยังอยู่ภายในใจของครอบครัวโดยเฉพาะ
เด็กน้อยผู้ไร้เดียงสา กับพ่อของเธอ เด็กน้อยไร้เดียงสา คิดว่าเป็นเพราะเธอเองที่ไม่ได้ส่งรูปของเธอในวันก่อนหน้านั้นเป็นเหตุที่ทำให้แม่ของเธอ
เสียชีวิต
"หนูจะฝึกฝนตนเอง....ฝึกฝนจนกว่าจะได้รูปภาพที่ดีที่สุด...ส่งไปให้ถึงคุณแม่"
วันหนึ่งหลังจากนั้น
"คุณพ่อคะะ หนูวาดรูปสวยมั้ยคะ ถ้าวาดได้อย่างนี้ คุณแม่จะชอบมั้ยคะ"
คุณพ่อหยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมาอย่างไร้อารมณ์ มองภาพที่เด็กคนนั้นวาด จากนั้น คุณพ่อของเธอได้ฉีกกระดาษนั้นทิ้งต่อหน้าลูก
"เศษกระดาษบ้าบอเนี่ย มันจะสวยได้ยังไง อย่าเอาของแบบนี้มาเทียบกับผลงานของซาซาเอะนะ!"
การกระทำและคำพูดของคุณพ่อ ตอกย้ำให้เด็กผู้ไร้เดียงสานั้นรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก จิตใจของเด็กผู้หญิงคนนั้นถูกทำให้ด้านชา
จากคำพูดของคุณพ่อของเธอเอง
"ค่ะ...หนูจะ..พยายามวาด..ให้สวยเหมือนกับผลงานของคุณแม่ค่ะ"
หลังจากนั้น ฟุรุคาะวะ ยูกิ ก็ได้ฝึกฝนตนเอง เพื่อให้คุณพ่อยอมรับและเหนือสิ่งอื่นใด เพื่อวาดรูปที่งดงาม ส่งไปให้คุณแม่ที่เสียไปแล้วของเธอ
"หลังจากนั้นชั้นก็โด่งดังในวงการศิลปะ ภาพของชั้นถูกเผยแพร่....ถึงจะมีคนชื่นชมขนาดไหน คุณพ่อก็ไม่เคยชมชั้นเลย"
"....."
"คุณพ่อชื่นชมแต่เพียงศิลปะของชั้น...ศิลปะของชั้นน่ะ..ชั้นไม่ได้คิดเองหรอกนะ..."
"...."
"ส่วนใหญ่แล้ว...ชั้นวาดขึ้นมาใหม่จากภาพเก่าๆของคุณแม่น่ะ เป็นรูปที่ชั้นเคยเห็นแม่วาดแต่ไม่ได้ออกไปแสดง..เพราะถูกแม่สั่งทำลายก่อน"
บ้านของฟุรุคาวะ...ก่อนที่แม่ของยูกิเสียชีวิต
"นายท่านครับ....เอาจริงหรอครับที่จะทำลายภาพที่ยังไม่จัดแสดงพวกนี้น่ะ"
"อื้ม ทำลายทิ้งเลยจ้า ชั้นจะเอารูปพวกนี้แทนที่รูปพวกนั้นเอง"
"แต่....ถ้าประเมินจากผลงานของนายท่านซาซาเอะแล้ว..มันจะได้หลายพันล้านเลยนะครับ!!"
"ไม่เป็นไรหรอกจ้าา เพราะว่า...รูปที่ชั้นจะเอาไปแทนน่ะ....มีมูลค่าประเมินไม่ได้เลยล่ะ"
"เอ่อ....รูปของคุณหนูเนี่ยนะครับ.."
"อื้มม รูปพวกนี้นี่แหละจ้าา แล้วก็ถ้าเจ้าบ้าคุโด้มาบอกว่าให้เอาออกล่ะก็ ช่วยเก็บมันไว้ที่สมุดเล่มนี้ด้วยนะ"
"ครับ ถ้าคุณท่านให้เอาออกผมจะทำตามครับ"
"ขอบคุณมากนะจ๊ะ...ชั้นคงอยู่ได้อีกไม่นานน่ะ...อ๊ะ!! รูปนี้น่ารักจังงง เอาขึ้นไปไว้ตรงนั้น ระวังด้วยนะะ"
ปัจจุบัน
"......"
"ถ้าชั้น....ถ้าชั้นไม่ได้วาดรูปแล้วล่ะก็...คุณพ่อคงไม่คุยกับชั้น.....คุณแม่..คุณแม่คงไม่มีความสุข...."
เสียงสะอึ้นเริ่มดังขึ้นข้างๆร่างของเนรุ เนื้อสะอึ้นร่ำไห้ของยูกิ น้ำตาของเจ้าหญิงน้ำแข็งเริ่มไหลรินอีกครั้ง
"ไม่เอานะ...ไม่เอา..ชั้นไม่..ชั้นไม่อยากให้เป็นแบบนี้...ชั้นอยาก..ชั้นอยากให้พ่อชมชั้นด้วยความจริงใจ....ชั้นอยากให้คุณแม่มีความสุข"
เสียงร้องไห้ของยูกิเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ เนรุกอดร่างของยูกิไว้อย่างแนบแน่น และปล่อยให้เธอร้องได้ภายในอ้อมอกของเขา
เสียงสะอึ้นของเธอนั้น มีเพียงเนรุที่อยู่ในตอนนี้เท่านั้นที่รู้ เนรุไม่ได้พยายามให้ยูกิหยุดร้องไห้แต่อย่างไร กลับปล่อยให้เธอร้องไห้ต่อไป
"อ่า....ชั้น...จะช่วยเธอเอง"
หลังจากนั้น เมื่อยูกิร้องไห้จนหมดน้ำตาแล้ว เนรุได้ปล่อยตัวของยุกิให้ออกจากอ้อมอกของเขา
"น้ำตาเธอเนี่ย เปื้อนเสื้อชั้นหมดเลยนะ..."
"อ่ะ...ขอโทษนะ"
"เรื่องนั้นไว้ก่อน ก่อนอื่นก็...ไปเรียนก่อนดีมั้ย"
"ชั้น..ชั้นยังไม่อยาก"
".....เห้อ...ถ้าชั้นติดหมดสิทธิ์สอบเธอรับผิดชอบด้วยละกัน"
"อ่ะ..อื้มขอบคุณนะ.."
"นี่ ฟุรุคาวะ คืนนี้มาโรงเรียนกันเถอะ..."
"....มาที่โรงเรียนทำไมหรอ"
"งานศิลปะของเธอน่ะ อยุ่ที่นี่ใช่มั้ยล่ะ"
"อ่ะ อื้ม..."
"เอาล่ะ....ชั้นจะช่วยเธอเอง".
วันที่2 มีนาคม วันนี้คุณพ่อก็พาหนูไปเยี่ยมคุณแม่ด้วย คุณแม่ลูบหัวหนูด้วยล่ะค่ะ หนูมีความสุขมากเลย
วันที่3 มีนาคม วันนี้หนูวาดรูปมาให้คุณแม่ดูด้วย คุณแม่ชอบมากๆเลยล่ะค่ะ แม่ยังเก็บรูปนั้นไว้ด้วยนะคะ
วันที่5 มีนาคม คุณหมอคุยอะไรกับคุณพ่อไม่รู้ คุณพ่อดูเศร้าจังเลย คุณพ่อโดนคุณหมอดุแน่ๆเลย
วันที่10 มีนาคม คุณแม่อ่านนิทานให้ฟังด้วยล่ะค่ะ สนุกมากๆเลย คุณแม่มีสมุดรวมเล่มรูปวาดของหนูด้วยล่ะค่ะ
วันที่15 มีนาคม วันนี้หนูวาดรูปคุณพ่อกับคุณแม่ค่ะ พวกเรานั่งดูมัน วันนี้คุณพ่อกับคุณแม่ชมด้วยค่ะว่าหนูวาดสวยขึ้น
วันที่24 มีนาคม คุณหมอเข้ามาหาคุณแม่ คุณแม่ยิ้มด้วยค่ะ คุณหมอต้องชมคุณแม่แน่ๆเลย คุณแม่กอดสมุดภาพหนูอยู่ตลอดเลยค่ะ
วันที่29 มีนาคม วันนี้หนูลืมวาดภาพมาให้คุณแม่ เดี๋ยวพรุ่งนี้หนูจะวาดมาให้สองรูปเลย วันนี้เราอยู่ด้วยกันทั้งวันเลยค่ะ หนูอยากให้พวกเราอยู่ด้วยกัน
ตลอดไปเลยค่ะ
ณ ปัจจุบัน ใต้คนไม้ใหญ่ที่อยู่หลังพุ่มไม้ที่ไม่ค่อยมีผู้ใดสังเกตนัก ยูกิ นั่งชันเข่าอยู่ใต้ร่มไม้นั้น สีหน้าเหม่อลอย น้ำตาที่ไหลรินเล็กน้อย
สื่อถึงความรู้สึกที่แสนเศร้าเมื่อนึกถึงอดีต
"คุณแม่คะ...."
"มาทำอะไรตรงนี้น่ะ ไม่มีเรียนตอนเช้าหรือไง"
เนรุเดินผ่านพุ่มไม้ แล้วตรงมาหาเธอ ยืนมองเธอที่เศร้าโศก เธอแหงนหน้าที่เปื้อนน้ำตานั้นมาทางเนรุ
"...เนรุคุง"
"โดดเรียนคาบแรกไม่ดีนะ ยิ่งกับเธอที่เป็นหัวกะทิของห้องแล้วด้วยน่ะ"
"....แล้วเนรุคุงล่ะ"
"ชั้นโดดเรียนน่ะ.......แค่...แค่บังเอิญผ่านมาเจอน่ะ"
"...โดดเรียน...มันไม่ดีนะ"
"ช่างชั้นเถอะน่า ชั้นมันพวกไม่ได้เรื่องอยู่แล้วล่ะ"
"........"
"แผลนั่น...ทำให้เกิดเรื่องหรอ"
"....ไม่ใช่หรอก...ชั้น...ไม่ดีเองล่ะ"
"......."
"นี่...เนรุคุง...จะช่วย..ฟังเรื่องของชั้นหน่อยจะได้มั้ย"
"....อ่า...จะรับฟังให้"
เสียงของเนรุที่พร้อมจะรับฟังเธอ ทำให้เธอรู้สึกโล่งใจนิดหน่อย น้ำตาที่ไหลอยู่ในตอนนั้น เริ่มแห้งลงแล้ว เธอขยับตัวเข้ามาไกล้เนรุมากขึ้น
"ขอบคุณนะ"
"......"
"....เมื่อสิบปีก่อน คุณแม่ชั้นเสียน่ะ หลังจากที่คุณแม่เสีย คุณพ่อก็เริ่มแปลกไป คุณพ่อไม่เคยยิ้มเลยหลังจากนั้น...."
เมื่อสิบปีก่อน วันที่ 30 มีนาคม
"คุณพ่อคะ เราไปเยี่ยมคุณแม่กันเถอะค่ะ วันนี้หนูวาดรูปชดเชยที่หนูลืมวาดเมื่อวานด้วยล่ะค่ะ"
"......ซาซาเอะ...ทำไมล่ะ....ซาซาเอะ...."
เสียงของพ่อของยูกิ ร้องไห้อย่างโศกเศร้า ร่างกายล้มลงราวกับคนที่ไม่มีเรี่ยวแรง เสียงสะอึ้นที่ราวกับจะขาดใจ ยูกิได้ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ยูกิรีบวิ่งไปหาพ่อของเธอ
"คุณพ่อคะ คุณพ่อเป็นอะไร คุณพ่อ..."
"ซาซาเอะ...ซาซาเอะ...ซาซาเอะ"
คุณพ่อไม่ได้รู้สึกตัวเลยแม้แต่น้อยที่ลุกของตนได้เข้ามาหา ความโศกเศร้าหาสิ่งใดมาเปรียบกำลังเข้ามายังครอบครัวฟุรุคาวะ
"คุณแม่....คุณแม่เป็นอะไรคะคุณพ่อ นี่คุณพ่อบอกหน่อยสิคะ"
เด็กหญิงไร้เดียงสาเริ่มร้องไห้เมื่อเห็นคนเป็นพ่อร้องไห้เป็นสายเลือดอยู่ตรงหน้า เด็กผู้หญิงโอบกอดคุณพ่อด้วยมือเล็กๆของเธอ
หวังจะให้คุณพ่อหยุดร้องไห้แล้วบอกเรื่องทุกอย่างให้เธอรู้
"คุณหนูครับ......คุณแม่ของคุณหนู....คุณนายท่านเสียชีวิตแล้วครับ"
พ่อบ้านกล่าวด้วยน้ำตา ในบ้านที่ใหญ่โตนี้กลับมีแต่เสียงของความเศร้าโศก เสียงร้องไห้ดังออกมาจังก้นบึ้งของความรู้สึก
เด็กหญิงเมื่อได้รู้ความจริงนั้น ราวกับแก้วใบเล็กๆนั้นตกลงมาแตกสลาย คุณแม่ของเธอ เสียชีวิตแล้ว เธอไม่มีโอกาศจะให้รูปที่เธอวาดขึ้น
ให้กับคุณแม่ของเธออีกแล้ว มือของเด็กผู้หญิงคนนั้นสั่นคลอน ภาพวาดของเธอร่วงลงกับพื้น น้ำตาของเธอหยดใส่ภาพนั้นจนเปียกปอน
"คุณแม่...คุณแม่...คุณแม่"
"ซาซาเอะ....ทำไม"
หลังจากงานศพของ ฟุรุคาะวะ ซาซาเอะ ทุกอย่างผ่านไป ยกเว้นเพียงแต่ความเศร้าที่ยังอยู่ภายในใจของครอบครัวโดยเฉพาะ
เด็กน้อยผู้ไร้เดียงสา กับพ่อของเธอ เด็กน้อยไร้เดียงสา คิดว่าเป็นเพราะเธอเองที่ไม่ได้ส่งรูปของเธอในวันก่อนหน้านั้นเป็นเหตุที่ทำให้แม่ของเธอ
เสียชีวิต
"หนูจะฝึกฝนตนเอง....ฝึกฝนจนกว่าจะได้รูปภาพที่ดีที่สุด...ส่งไปให้ถึงคุณแม่"
วันหนึ่งหลังจากนั้น
"คุณพ่อคะะ หนูวาดรูปสวยมั้ยคะ ถ้าวาดได้อย่างนี้ คุณแม่จะชอบมั้ยคะ"
คุณพ่อหยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมาอย่างไร้อารมณ์ มองภาพที่เด็กคนนั้นวาด จากนั้น คุณพ่อของเธอได้ฉีกกระดาษนั้นทิ้งต่อหน้าลูก
"เศษกระดาษบ้าบอเนี่ย มันจะสวยได้ยังไง อย่าเอาของแบบนี้มาเทียบกับผลงานของซาซาเอะนะ!"
การกระทำและคำพูดของคุณพ่อ ตอกย้ำให้เด็กผู้ไร้เดียงสานั้นรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก จิตใจของเด็กผู้หญิงคนนั้นถูกทำให้ด้านชา
จากคำพูดของคุณพ่อของเธอเอง
"ค่ะ...หนูจะ..พยายามวาด..ให้สวยเหมือนกับผลงานของคุณแม่ค่ะ"
หลังจากนั้น ฟุรุคาะวะ ยูกิ ก็ได้ฝึกฝนตนเอง เพื่อให้คุณพ่อยอมรับและเหนือสิ่งอื่นใด เพื่อวาดรูปที่งดงาม ส่งไปให้คุณแม่ที่เสียไปแล้วของเธอ
"หลังจากนั้นชั้นก็โด่งดังในวงการศิลปะ ภาพของชั้นถูกเผยแพร่....ถึงจะมีคนชื่นชมขนาดไหน คุณพ่อก็ไม่เคยชมชั้นเลย"
"....."
"คุณพ่อชื่นชมแต่เพียงศิลปะของชั้น...ศิลปะของชั้นน่ะ..ชั้นไม่ได้คิดเองหรอกนะ..."
"...."
"ส่วนใหญ่แล้ว...ชั้นวาดขึ้นมาใหม่จากภาพเก่าๆของคุณแม่น่ะ เป็นรูปที่ชั้นเคยเห็นแม่วาดแต่ไม่ได้ออกไปแสดง..เพราะถูกแม่สั่งทำลายก่อน"
บ้านของฟุรุคาวะ...ก่อนที่แม่ของยูกิเสียชีวิต
"นายท่านครับ....เอาจริงหรอครับที่จะทำลายภาพที่ยังไม่จัดแสดงพวกนี้น่ะ"
"อื้ม ทำลายทิ้งเลยจ้า ชั้นจะเอารูปพวกนี้แทนที่รูปพวกนั้นเอง"
"แต่....ถ้าประเมินจากผลงานของนายท่านซาซาเอะแล้ว..มันจะได้หลายพันล้านเลยนะครับ!!"
"ไม่เป็นไรหรอกจ้าา เพราะว่า...รูปที่ชั้นจะเอาไปแทนน่ะ....มีมูลค่าประเมินไม่ได้เลยล่ะ"
"เอ่อ....รูปของคุณหนูเนี่ยนะครับ.."
"อื้มม รูปพวกนี้นี่แหละจ้าา แล้วก็ถ้าเจ้าบ้าคุโด้มาบอกว่าให้เอาออกล่ะก็ ช่วยเก็บมันไว้ที่สมุดเล่มนี้ด้วยนะ"
"ครับ ถ้าคุณท่านให้เอาออกผมจะทำตามครับ"
"ขอบคุณมากนะจ๊ะ...ชั้นคงอยู่ได้อีกไม่นานน่ะ...อ๊ะ!! รูปนี้น่ารักจังงง เอาขึ้นไปไว้ตรงนั้น ระวังด้วยนะะ"
ปัจจุบัน
"......"
"ถ้าชั้น....ถ้าชั้นไม่ได้วาดรูปแล้วล่ะก็...คุณพ่อคงไม่คุยกับชั้น.....คุณแม่..คุณแม่คงไม่มีความสุข...."
เสียงสะอึ้นเริ่มดังขึ้นข้างๆร่างของเนรุ เนื้อสะอึ้นร่ำไห้ของยูกิ น้ำตาของเจ้าหญิงน้ำแข็งเริ่มไหลรินอีกครั้ง
"ไม่เอานะ...ไม่เอา..ชั้นไม่..ชั้นไม่อยากให้เป็นแบบนี้...ชั้นอยาก..ชั้นอยากให้พ่อชมชั้นด้วยความจริงใจ....ชั้นอยากให้คุณแม่มีความสุข"
เสียงร้องไห้ของยูกิเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ เนรุกอดร่างของยูกิไว้อย่างแนบแน่น และปล่อยให้เธอร้องได้ภายในอ้อมอกของเขา
เสียงสะอึ้นของเธอนั้น มีเพียงเนรุที่อยู่ในตอนนี้เท่านั้นที่รู้ เนรุไม่ได้พยายามให้ยูกิหยุดร้องไห้แต่อย่างไร กลับปล่อยให้เธอร้องไห้ต่อไป
"อ่า....ชั้น...จะช่วยเธอเอง"
หลังจากนั้น เมื่อยูกิร้องไห้จนหมดน้ำตาแล้ว เนรุได้ปล่อยตัวของยุกิให้ออกจากอ้อมอกของเขา
"น้ำตาเธอเนี่ย เปื้อนเสื้อชั้นหมดเลยนะ..."
"อ่ะ...ขอโทษนะ"
"เรื่องนั้นไว้ก่อน ก่อนอื่นก็...ไปเรียนก่อนดีมั้ย"
"ชั้น..ชั้นยังไม่อยาก"
".....เห้อ...ถ้าชั้นติดหมดสิทธิ์สอบเธอรับผิดชอบด้วยละกัน"
"อ่ะ..อื้มขอบคุณนะ.."
"นี่ ฟุรุคาวะ คืนนี้มาโรงเรียนกันเถอะ..."
"....มาที่โรงเรียนทำไมหรอ"
"งานศิลปะของเธอน่ะ อยุ่ที่นี่ใช่มั้ยล่ะ"
"อ่ะ อื้ม..."
"เอาล่ะ....ชั้นจะช่วยเธอเอง".
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ