นรกบนดิน(yuri)

-

เขียนโดย themockingjay

วันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 13.54 น.

  29 ตอน
  0 วิจารณ์
  23.44K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 เมษายน พ.ศ. 2563 14.03 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) เหรียญอินทรี

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ใครที่จะสมัครนะครับขอเรียนเชิญด้านนี้เลยครับ" เสียงเจ้าหน้าที่ผ่านโทรโข่ง ดังขึ้นเพื่อให้ใครที่อยากลงรับสมัครได้รู้ว่าต้องลงสมัครทางไหน

"แพรวไปกัน"

"อืม! "

" รินจะไปจริงๆ หรอลูก"แม่เดินเข้ามาถามอย่างเป็นห่วง

"หนูทำเท่าที่หนูทำได้ค่ะแม่" เธอตอบอย่างหนักแน่น

"ระวังตัวด้วยนะลูก" เธอหวังว่าลูกของเธอเดินทางถูกและจะไม่เป็นอะไรง่ายๆ เธอขอให้เป็นแบบนั้น

หลังจากที่เธอกับแพรวเข้าไปลงชื่อเสร็จก็นั่งรวมกลุ่มกับคนที่ลงสมัครหน่วยรบอินทรีที่จะต้องตระเวนออกไปยังด้านนอก ดูแล้วก็มีหลายวัยเหมือนกัน ก็คงเป็นความรู้สึกเดียวกับเธอสินะ ที่อยากจะปกป้องในสิ่งที่เรารัก

 

"เอาล่ะทุกคนลงชื่อหมดเเล้วใช่ไหม"

"โอเค ต่อจากนี้พวกคุณคือเจ้าหน้าที่ฝึกหัด ที่ยังไม่ได้รับตรานี้" ตราที่เจ้าหน้าที่หน้าฝ่ายหน่วยรบอินทรีถืออยู่เป็นรูปอินทรีที่กำลังบินเคลือบสีทองและมีวงกลมรอบนกอินทรีอยู่เป็นเข็มกลัดที่ติดบนหน้าอก

"ถ้าใครได้รับตรานี้เเล้วนั้นแสดงว่าคุณผ่านการฝึกฝนทั้งหมด แต่ถ้าหากใครไม่ผ่านจะมีอีกตราหนึ่งที่เป็นรูปกำปั้น เปลี่ยนรูปอินทรีเป็นรูปกำปั้น ตรานี้คือผู้ที่ผ่านการฝึก50%เท่านั้น แต่จะไม่ได้อยู่แนวหน้าของหน่วยรบ จริงสิฉันยังไม่ได้แนะนำตัวเลย ฉันชื่อผบ. จักรินทร์ เรียกฉันว่าท่านผบ.หรือจะชื่ออื่นก็ได้แต่เรียกดีๆ แล้วกันถ้าไม่อยากโดนให้ใช้ไปล่อพวกนั้น"

'เหรียญอินทรีงั้นหรอ น่าสนใจดีแฮะ' เธอคิด

"เอาล่ะต่อจากนี้คือข้อตกลงระหว่างเรา ถ้าหากทำไม่ได้คุณจะต้องวิ่งรอบค่ายนี้10รอบเบาๆ

"โห้10รอบเบาๆ หรอนั้น อย่างโหดเลยไม่ใช่หรอ" เพื่อนเธอกระซิบ

"นั้นดิ "

" ข้อแรกพวกคุณจะต้องตื่นตี5เพื่อมาวิ่งทุกเช้า "

" ข้อสอง พวกคุณจะต้องตรงเวลาให้การเข้าฝึกทุกครั้งหากใครสาย 1นาทีเท่ากับวิ่งรอบโกดังทั้งหมด และจนกว่าจะวิ่งครบคุณจะต้องมาฝึกกับโปรแกรมจนเสร็จไม่มีข้อยกเว้น! "

" ข้อสาม พวกคุณจะต้องอยู่ให้ถึงวันรับตรานี้ให้ได้ ในเมื่อพวกคุณตัดสินใจที่จะทำเเล้วคุณต้องทำมันให้สุด! อย่าทิ้งๆ ขว้างๆ อย่าทำมันเป็นเรื่องล้อเล่น เพราะถ้าหากคุณพลาดนี่หมายถึงคุณทิ้งชีวิตของตัวเองไว้ข้างนอก! เอาล่ะ ใครที่มีโรคประจำตัวให้ลุกแล้วเดินไปซะ! อย่าดื้อด้านเพราะถ้าหากโรคคุณกำเริบเเล้วมันหมายถึงคุณจะพาทุกคนตายไปด้วย! "

"ชีวิตคุณมีค่าถ้าหากคุณเลือกทางชีวิตให้ถูก ดังนั้นคุณไม่ต้องกังวลไปว่าหากคุณเข้าไม่ได้ชีวิตจะจบ คุณแหกตาดูด้วยว่ามันมีแค่หน่วยรบนี้หรอ หน้าที่อย่างอื่นมีมากมายดังนั้นอย่าเสียใจ! จงเลือกทางที่ดีที่สุดให้กับตนเองและไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน เอาล่ะผมให้เวลาลุก "

จากนั้นคนจำนวนไม่น้อยที่ลุกขึ้นมา เธอชื่นชมหัวหน้าคนนี้จริงๆ รู้จักพูดและให้กำลังใจในเวลาเดียวกัน

" คนที่ลุกสามารถไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่ได้ว่าสนใจอยากจะทำอะไร"

"ส่วนคนที่นั่งอยู่คิดดีเเล้วใช่ไหม! "

" ครับ/ค่ะ!! "

"ถ้าใครอยากถอนตัวสามารถมาติดต่อเป็นการส่วนตัวได้ แต่ถ้าหากใครยังอยู่! จงรู้ไว้ซะว่าชีวิตคุณตายเมื่อไรก็ได้ เพราะฉะนั้นอย่าประมาท อย่าชะล่าใจเป็นอันขาด!! "

" ครับ/ค่ะ!!! "

"เอาล่ะต่อจากนี้คือจำนวนผู้เข้ารับการฝึก 1112คน จาก2000คน จากนี้ฉันจะคอยดูว่าตัวเลขมันจะลดหรือมันจะคงที่"

" 1112นี่เบอร์โคโรน่าปะ"

"ไม่ใช่มันพิซซ่า! "

"อ๋อพิซซ่าที่เอาไว้กินตอนปวดหัวปะ"

"ไม่ใช่นั้นมัน ซาร่า!!

" อ๋อ... "

" หยุดเล่นมุกก่อน นี่มันใช่เวลาไหมเนี่ยยแพรว! "

" แหม่ แต่แกก็รับมุกนะ"

" ฉันก็กลัวมุกแกจางไหมล่ะ"

"จ้ะ แม่คนดี๊ดีศรีสังคม"

"ตอนนี้ทุกคนเดินเข้าแถวไปรับเอกสารแล้วไปรับกระเป๋า เสื้อผ้าและอุปกรณ์ จากนั้นแยกย้ายได้!! "

" ครับ/ค่ะ!! "

หลังจากที่เธอเข้ารับอุปกรณ์และเสื้อผ้า เจ้าหน้าที่ยังแจกกระเป๋าสะพายหลังอย่างดีให้กับทุกคน จากนั้นก็แยกย้ายกันกลับโกดังของตัวเอง ระหว่างที่เธอกำลังเดินหอบหิ้วของกับเพื่อนเธออยู่นั้นจู่ๆ ก็มีเสียงคนเดินมาจากด้านหลังเหมือนจะตามหลังเธอนานเเล้ว ทำให้เธอรู้สึกระวังมากขึ้น

แต่พอเธอเดินมาสักพักเสียงเดินตามหลังก็ยังไม่หยุดแถมเร็วขึ้นกว่าเมื้อกี้จนเธอรู้สึกว่ามีของแหลมพุ่งตรงมาทางเธอ ทำให้เธอโยกตัวหลบอย่างฉิวเฉียดเหมือน

ภาพสโลร์โมชั่นที่ปลายธนูค่อยๆ ผ่านหน้าเธอโดยที่มีตาของเธอเท่านั้นที่สามารถจับการเคลื่อนไหวจนมันไปปักกับพื้นจนเป็นรู เธอสังเกตพบว่าเป็นธนูปลายแหลม ก้านไม้ที่ผ่านหน้าเธอไปอย่างเฉียดฉิว ถึงเธอจะหลบทันแต่ก็ไม่วายฝากข้อความไว้ที่แก้มของเธอเล็กน้อย

"ว้ายริน! แกเป็นอะไรไหม ล..เลือด แก้มแกมีเลือดออก!! "

"อะ...โอเค ฉันไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันไปทำแผลที่ห้องก็ได้ ไม่บาดลึกอะไร " ให้ตายเถอะขาถึงกับอ่อนเลยทีเดียวใครกันที่เล่นพิเรนแบบนี้นะ

จากนั้นเธอก็มองไปยังทิศทางที่ธนูถูกยิงมาแต่กลับไม่มีใครอยู่สักคน

"อะไรเนี่ย ถ้าโดนขึ้นมาจริงๆ นี่เจ็บสาหัสเลยนะ ใครมันคิดอะไรกันอยู่เนี่ย"เพื่อนเธอบ่นและพยายามช่วยเก็บของที่ตกตอนหักหลบเจ้าธนูตัวนั้นและช่วยพยูงให้ฉันยืนขึ้นมา

"ช่างเถอะแพรว" ถึงเธอจะพูดแบบนั้นก็เถอะ แต่น่ากลัวฉิบนี่ถ้าเกิดว่าเธอไม่หลบนะ อาการโคม่าแน่ๆ

แต่หากมีใครกำลังยืนมองภาพเหตุการณ์นั้นอย่างสนุกใจ

"เห็นไหมฉันบอกเเล้วไม่มีผิด"

"ใครบอกให้เธอยิงหัวจริงจังแบบนั้นเล่า ถ้าโดนมาจะทำยังไง เป็นเรื่องเลยนะ"

" ฉันไม่ทำกับใครที่ฉันมองว่าหลบไม่ได้หรอกน่า เด็กนั้นต้องฝึกอีกเยอะ บางทีเด็กคนนี้อาจเปลี่ยนชีวิตคนทั้งโลกเลยก็ได้ "

"อะไรมันจะขนาดนั้น" บุคคลปริศนา2คนสนทนากันก่อนจะเดินออกไปจากที่ตรงนั้นอย่างไม่มีใครรับรู้

 

เธอเข้าห้องมาและมาส่องกระจกดูว่าแผลที่โดนบาดนั้นเป็นอย่างไรบ้าง

"เชอะให้ตายเถอะ ถ้ารับน้องกันโหดขนาดนี้วันต่อไปจะขนาดไหนเนี่ย " แผลเธอก็ไม่ได้ลึกมาก แปะพลาสเตอร์ปิดไว้ไม่ได้สนใจอะไรมาก ก่อนจะมาสำรวจและจัดอุปกรณ์กระเป๋าเสื้อผ้าและเอกสารที่ได้รับมา

กระเป๋าเธอคล้ายๆ กระเป๋าของทหารสีน้ำตาลอ่อน ข้างในยังไม่มีอะไรบรรจุไว้ ส่วนอุปกรณ์ที่ได้มานั้นมีปืนยางและกระสุนปืนยางอยู่..เอ่อ...100นัดโดยประมาณ มีมีดสั้นใส่ปลอกพอถอดออกมาเเล้วเป็นมีดเหล็กที่หนักกว่าปกติประมาณ1กิโลกรัมน่าจะได้

ส่วนโค้งได้รูปพอดีที่จะตัดหัวคนเป็นๆ เลยล่ะ ด้ามมีดสีดำยาวประมาณ22ซ.ม.ได้ ส่วนที่จับสีดำกระชับมือมาก

" มีดทั้งเล่มสีดำหมดเลยหรอ สงสัยคนออกแบบคงชอบสีดำแฮะ"

ถุงทรายที่เอาไว้ใส่ตรงข้อแขนและข้อขาเพื่อสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อมีหลายขนาดตั้งแต่ข้างละ2กก. 3กก. และ4กก.

"ถึงว่าสิทำไมหิ้วมาละหนักชะมัด"

จากนั้นก็เป็นดาบไม้ อุปกรณ์ต่อสู้ระยะไกลและประชิดอีกเยอะแยะ และมีเสื้อผ้ามาให้เธอประมาณ5ชุด เป็นเสื้อสีเขียวขี้ม้ากับกางเกงลายทหารที่เธอลองสวมใส่เเล้วพอดีตัวมาก ตามชุดนี้มีช่องเล็กๆ น้อยๆ ไว้สำหรับอาวุธระยะประชิด

"ของดีๆ ทั้งนั้น ให้ตายเถอะ"

หลังจากเธอสำรวจของที่ได้มาสักพักก็เหนื่อยอ่อน แต่ตากลับไปเห็นเอกสารที่แจกมาให้เธอนั่งอ่านอยู่ที่โต๊ะทำงานพอสรุปได้บ้างไม่ได้บ้างว่า เสื้อทั้ง5ชุดนั้นต้องใส่ตลอดจนจบโครงการ อุปกรณ์รักษาให้ดีเขียนชื่อติดไว้ด้วย ส่วนโปรแกรมฝึกจะมี การฝึกนั่งสมาธิเพื่อให้จิตใจไม่ไขว้เขวและไม่ตื่นตระหนกเวลาเจอกับเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง ฝึกการต่อสู้แบบฟรีสไตล์ ระยะประชิด การใช้อุปกรณ์ต่อสู้ทั้งระยะประชิดและระยะไกล กระบวนท่าการต่อสู้ต่างๆ นาๆ บลาๆๆๆ เธอง่วงเเล้วจึงพับเก็บเอาไว้ก่อน

"ฝึกการต่อสู้เยอะมาก ให้ตายเถอะ " เธอสบถเบาๆ หนังตาเธอเริ่มจะหนักขึ้นเรื่อยๆ นี่แค่ครึ่งเช้านะเธอยังง่วงขนาดนี้ ไม่อยากจะคิดถึงวันหลังฝึกเลยให้ตายเถอะ แต่ทำไงได้เธอเลือกของเธอแล้วมันก็ต้องทำให้ดีที่สุดอะนะ ก่อนที่จะเผลอหลับไป

 

 

"ก๊อกๆๆ ริน แกอยู่ไหมไปกินข้าวได้เเล้ว เย็นแล้วเพื่อน"

"อือออ เย็นเเล้วหรอ โอเคแปบนึงนะฉันแต่งตัวแปบ"

เธอหลับไปตั้งแต่เมื่อไรเนี่ยเห็นว่าหลังจากที่เธออ่านหนังสือตอนนั้นเวลาประมาณ...อื่มมม...ประมาณบ่าย โห้หลับนานเหมือนกันนะเนี่ย เธอออกห้องไปนี่จะโดนธนูยิงแสกหน้าอีกไหมนะ

เธอทำอะไรเรียบร้อยเสร็จก็ออกไปกินข้าวกับแพรวและอาจารย์เหมือนเคยจนมาถึงโรงอาหาร

"แกกินอะไรอะ ราดหน้าหมี่กรอบหรอ"

"อืมใช่ อร่อยดีนะฉันว่า"

"พี่ก็เหมือนกัน แพรวไม่ลองกินดูละคะ"

"ค่า เดี๋ยวมื้อหน้าแพรวกินนะคะ"

"แหม่ทีฉันบอก ชาตินี้แกคงไม่กินอะ"

"นิดนึงอะค่ะเพื่อน" แล้วเพื่อนเธอก็เอามือป้องปากไม่ให้อาจารย์เห็นและบอกว่า 'เอาใจผัวนิดนึง'

"แรงงงงงง" เธอพูด ส่วนอาจารย์ก็ทำหน้างงว่าพวกเธอพูดอะไรกัน นี่ถ้าไม่สนิทกันจริงไม่เก็ทนะเนี่ย

"พรุ่งนี้แกพร้อมนะแพรว"

"อ่า ก็ตัดสินใจไปแล้วนิ"

"อืม ระวังหลังให้ฉันด้วยละกัน"

(ประโยคนี้หมายถึงต้องไว้ใจกันมากถึงให้ระวังหลังให้ ต้องเป็นเพื่อนหรือคนรู้ใจจริงๆ เพราะด้านหลังเป็นด้านที่เรามองไม่เห็นหากไว้ใจผิดคนกลายเป็นว่าแทนที่จะป้องกันกลับสวนแทงข้างหลังกันเอง)

"หายห่วงได้เลย"

จนเธอกลับมาถึงห้องและทำอะไรเรียบร้อยหมดเเล้ว พร้อมที่จะนอน

"ตื่นเต้นแฮะ ขอให้พรุ่งนี้เป็นวันที่ดีเถอะ"

 

 

 

" ริน " เสียงนุ่ม อ่อนหวานและคุ้นเคยเรียกเธอเหมือนราวกับว่าเคยผูกพันธ์กันมานาน

" ใคร นั่นใคร" เธออยู่ที่ไหนไม่รู้ รอบข้างมืดไปหมด

"ริน" ก็มีร่างหนึ่งปรากฏต่อหน้าเธอเป็นผู้หญิงผมยาว ร่างบางตัวเล็กกว่าเธอนิดหน่อย รู้สึกอบอุ่นจัง แต่ทำไมเลือนรางเหลือเกิน เธอพยายามเท่าไรก็นึกไม่ออก

"จำเราได้ไหม" ร่างนั้นยกมือขึ้นมาสัมผัสกับใบหน้าเธออย่างอ่อนโยน

"ฮึก ฮึก อย่างไปได้ไหม" ทำไมกันนะ ทำเธอถึงร้องไห้และพูดออกมาอย่างนั้น

"เราไม่ได้ไปไหนหรอก เราอยู่กับเธอตลอดนะริน"

"อย่า อย่าไปได้ไหม ฮึก อยู่กับเราก่อน"

"อย่าร้องสิ เธอสัญญากับเราเเล้วไม่ใช่หรอว่าจะไม่ร้องน่ะ"

เสียงนี้ เสียงที่เธอคุ้นเคย เสียงที่เธอคิดถึงมาตลอด

"เราต้องไปแล้ว เราหวังว่าจะได้เจอเธออีกนะคะ" ร่างที่เลือนรางค่อยๆ ถอยห่างไปเรื่อยจนลับตาของเธอไป

"ไม่! อย่าไปนะ ไม่! อย่าไปจากเราอีก! " เธอวิ่งตามร่างนั้นยิ่งเร็วเท่าไรร่างบางก็ยิ่งห่างออกไปจนหายไปจากเธอ ให้เหลือแต่ความว่างเปล่า

"ไม่! ไข่หวาน อย่าไปปป!!! " เธอสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกนั่งโดยมือของเธอเอื้อมเหมือนจะคว้าอะไรสักอย่างในอากาศ

"น้ำตาหรอ"เธอปาดน้ำตาและนั่งมองน้ำตาที่มือเธออย่างเหม่อลอย

" ฮึก ไม่เคยลืมจริงๆ สินะเราเนี่ย" เธอยิ้มฝืด และตัดสินใจเช็ดน้ำตาและนอนหลับต่อโดยไม่สนใจใยดีกับเรื่องที่พึ่งฝันไปทั้งสิ้น

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา