นรกบนดิน(yuri)

-

เขียนโดย themockingjay

วันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 13.54 น.

  29 ตอน
  0 วิจารณ์
  23.42K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 เมษายน พ.ศ. 2563 14.03 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

12) บิน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่12

'ในที่สุดก็ถึงวันนี้สินะ' เธอคิดระหว่างกำลังเก็บข้าวของอุปกรณ์ต่างๆ ลงในกระเป๋าลงในกระเป๋าสีน้ำตาลอ่อนลายทหารของเธอ 1เดือนผ่านไปไวกว่าที่เธอคิด หลายๆ อย่างเธอยังทำได้ไม่เต็มที่เลยและไม่รู้ว่าเธอจะรอดกลับมาไหม เธอรู้สึกอยากอยู่กับพ่อแม่นานๆ อยากพูดคุยดูแลท่านมากกว่านี้ อยากเฮฮาปาร์ตี้กับเพื่อนของเธอ เธออยากเครียดกับการสอบfinalมากกว่าเพราะในสิ่งที่เธอทำอยู่มันสามารถเอาชีวิตเธอไปตอนไหนก็ได้ที่เธอพลาด ถึงเธอจะโดนฝึกเรื่องความกดดันมาแล้วแต่มันก็เทียบไม่ได้เลยเมื่อมาถึงวันนี้ ความรู้สึกเหมือนเธอจมดิ่งลงไปในมหาสมุทรและมีแรงดันขนาดเรือบรรทุกของกำลังวางทับเธออยู่ มันเทียบกันไม่ได้จริงๆ

เธอจัดของเสร็จเรียบร้อยและเดินไปนั่งที่โต๊ะพลางมองชีทเอกสารข้อมูลของฐานที่เธอกำลังจะไปอยู่ได้สักพักก็ลุกนำไปจัดเก็บไว้ในกระเป๋าให้เรียบร้อย เธอคิดว่าจะออกไปหาเพื่อนๆ ของเธอหน่อย อย่างน้อยถ้าเธอไม่กลับมาเธอจะได้ไม่เสียใจในสิ่งที่ไม่ได้พูดออกไป

เธอเดินออกมายังห้องของตัวเองและเดินไปยังโกดัง9ที่เพื่อนเธอกำลังฝึกความเเข็งเเรงของร่างกายอยู่ เพื่อนๆ เธอที่กำลังฝึกอยู่นั้นก็มองไปยังทางเข้าของโกดัง9และเห็นเธอเดินเข้ามาก็คงรู้สึกเหมือนกับเธอนั่นแหละ

“ริน” เกวเรียกเธอทำให้เพื่อนที่เหลืออยู่ต่างหันมาสนใจเธอด้วย

“ไง พวกแกฝึกไปถึงไหนแล้ว” เธอเดินเข้ามาพูดคุยเหมือนอย่างเคย 1เดือนมานี้เธอฝึกหนักจนไม่ได้เจอใครเลย พอได้เจอตอนกินข้าวบ้างแต่ก็ไม่นาน เพื่อนของเธอทั้ง5คนรู้แล้วว่าเธอจะไป แพรวคงบอก เธออยากเป็นคนไปบอกเองเหมือนกันแต่เธอไม่มีเวลาขนาดนั้น การฝึกของเธอมันรัดตัวมากไปหน่อย เพราะข้างนอกนั้นเธอก็เดาอะไรไม่ได้ถ้าเกิดไม่ฝึกไว้เธอก็ตายได้เช่นกัน

“ริน แกเป็นยังไงบ้างวะ” บอลเดินมาถามอย่างเป็นห่วง

“สบายมาก ฉันหลับเต็มอิ่มเลยล่ะ”

“น่าอิจฉาจังแฮะ ฉันก็อยากตื่นสายๆ บ้าง” เกวเอ่ย

“นั่นสิ รินแกบินวันนี้ใช่ปะ” ชินถาม

“ใช่ๆ ฉันไปแล้วพวกแกก็อย่าขี้เกียจกันให้มากนะรู้ปะ อย่าประมาทด้วย ตื่นเช้าๆ ไปเหอะผบ.เขาหวังดี มีความสุขกันให้มากๆ เว้ย ซึมซับความสุขกันให้เยอะๆ ” แล้วเธอก็พูดไปเรื่อยๆ บ่นให้เพื่อนฟัง จริงๆ เพื่อนของรินก็รู้ว่ารินฝึกหนักในวงเดือนที่ผ่านมาเพราะว่าแพรวโดนเจ้าหน้าที่ที่เข้าเวรภาคเช้า ทักว่าทำไมเพื่อนเธอถึงฝึกหนักขนาดนั้น โดนลงโทษรึเปล่า เธอก็บอกว่าเปล่าเพื่อนเธอสอบได้ที่1 แถมยังขยันมากจะโดนลงโทษได้ยังไง แพรวเลยถามว่าฝึกหนักยังไง

เจ้าหน้าที่เลยบอกว่า เพื่อนเธอวิ่งรอบค่ายอยู่4รอบเท่าที่เขานับได้ จากนั้นก็ไปฝึกที่โกดังจนถึงกินข้าว เออแล้วตอนกลางคืนยังมีวิ่งรอบค่ายอีก2-3รอบ เจ้าหน้าที่เลยบอกว่าเพื่อนเธอโดนลงโทษเหรอเพราะมันฝึกหนักมาก ไม่น่าใช่คนปกติเขาทำกัน เธอถึงบางอ้อทันทีที่รินไม่มีเวลามาเจอพวกเธอเลย และรินยังบอกอีกว่าเธอได้นอนหลับสบ๊ายสบายเล่นทำเธอร้องไห้ไปเลยในตอนนั้น

เมื่อเธอไปบอกเพื่อนอีก4คนก็คงรู้สึกเหมือนกัน รินคงไม่อยากบอกพวกเธอเพราะไม่อยากให้พวกเธอเป็นห่วงว่าตัวเองฝึกหนักเกินไปทำให้ตอนนี้พวกเธอที่ฟังรินอยู่เกิดความรู้สึกตื้นตันน้ำตาซึมแต่พูดออกมาไม่ได้ เพราะไม่อยากขี้แยแล้วให้รินต้องมาเป็นห่วงพวกเธออีก ถ้าพวกเธอเอาแต่ร้องไห้ไม่อยากให้รินไป มันจะทำให้รินเป็นห่วงเพราะพวกเธอรักรินมากเพราะแต่ละคนถ้าไม่ได้รินช่วยอะไรหลายๆ อย่างไว้พวกเธอคงไม่ได้มาถึงจุดนี้

“5555เป็นห่วงพวกฉันอะซี๊พูดขนาดนี้อะ” บอลเอ่ยแซวทั้งๆ ที่รู้ว่าที่รินพูดออกมาแบบนั้นคือเป็นการกล่าวลาพวกเธอชัดๆ แต่ก็ต้องกลืนความรู้สึกลงไปและแสร้งทำว่าพวกเธอไม่รู้อะไร

“บ้าเหรอฉันแค่กลัวว่าถ้าพวกแกไม่ขยันๆ พวกเเกจะโดนผบ.ว่าเอา”

“พวกฉันโตเเล้วน่า ไม่ใช่เด็กๆ สักหน่อย หายห่วงได้” เกวพูด

“ดีแล้ว เดี๋ยวฉันไปเอาน้ำมาให้ พวกแกรออยู่ตรงนี้นะ” เธอยิ้มก่อนจะเดินออกไปเอาน้ำให้เพื่อนเธอ

“ฮึก ฮืออ ฉันไม่ไหวอะแก ” เกวร้องไห้ เธอไม่อยากจะเสียเพื่อนที่ดีขนาดนี้ไป

บรรยากาศหลังจากที่ที่รินเดินออกมาต่างหม่นหมอง พวกเธอไม่คิดว่าจะหาใครที่ดีได้กว่าเพื่อนเธออีกแล้วจริงๆ มีอะไรก็ช่วยพวกเธอก่อนตัวเอง ทั้งๆ ที่บางทีพวกเธอเองก็ยังไม่ได้คิดถึงรินเลย ตั้งแต่เจอรินเข้ามาในชีวิตพวกเธอมันทำให้พวกเธอคิดได้หลายอย่าง ไม่ใช่ว่าอวยนะเพื่อนแต่เพื่อนเธอมันดีจริงๆ ซึ่งตอนแรกเธอก็ไม่คิดว่าจะมีคนดีได้ถึงขนาดนี้ในชีวิตจริงจริงๆ

“ฉันจะทำยังไงไม่ให้รินไปดี” กันเอ่ย

“เพื่อน แกก็รู้ว่ารินเป็นคนยังไง แกห้ามรินไม่ได้หรอก พวกเราได้แค่อวยพรแค่นั้นจริงๆ ” ชินเอ่ย

“แต่รินคนดีเกินไป ทำไมคนดีถึงต้องจากไปเร็วขนาดนี้” กันเอ่ย

“มั่นใจในฝีมือรินหน่อย ไม่แน่รินอาจจะรอดกลับมาก็ได้นะ” แพรวเอ่ย ให้ตายเถอะถึงพวกเธอคิดว่าการออกไปช่วยผู้อพยพมันมีโอกาสรอดมาน้อย แต่ก็อย่าพึ่งพูดขนาดนั้น

“เดี๋ยว….”เกวเอ่ยออกมาอย่างครุ่นคิด

“อะไรของแกเนี่ย มาขัดบทดราม่าทำไม”บอลเอ่ย

“ฉันมีความคิดดีๆ แล้ว” เกวนึกคิดอะไรได้ก่อนจะเรียกเพื่อนมาชุมนุมและเสนอไอเดียของเธอลงไป

“พวกแกว่าไง” เกวเอ่ย

“ฉันเอา” แพรวเอ่ย

“พวกฉันก็เอา” ทั้งบอล ชินและกันพยักหน้าเห็นพ้องต้องกัน

“พวกแกประชุมไรกันอะ” รินที่ถือขวดน้ำทั้ง6ขวดรวมเธอด้วยเดินมาหาพวกเธอ

“เอ่อ...อ๋อพวกฉันกำลังจะบอกว่าเดี๋ยวถ้าพวกฉันส่งแกเสร็จเดี๋ยวพวกฉันจะไปวิ่งต่อเนอะๆ ” จู่ๆ แพรวก็โยนมาให้เฉย

“อ๋อๆ ใช่ๆ เห็นแกไปแล้วอยากไปมั้งเลยต้องฟิตๆ ” บอลที่ตามน้ำก็ทำท่ายืดร่างกายเหมือนจะวอร์มเพื่อจะไปวิ่ง ส่วนพวกผู้ชายก็มองหน้าอย่างน่าสงสัย

‘อย่าเลิกลั้กกันมากสิเฮ้ย เดี๋ยวรินก็รู้หมดว่ามีความลับกันอะ’ แพรวเอ่ยหลังจากที่มองไปยังพวกผู้ชายแล้วเธอก็ได้แต่เหนื่อยใจ

“เออดีแล้ว ขยันกันบ้างเอาฉันเป็นไอดอลหน่อย555” เธอเอ่ยและเดินเอาน้ำไปให้เพื่อนแต่ละคน

“จ้าาาา” แพรวเอ่ย

“เอออีก5นาทีจะกินข้าวแล้ว เตรียมตัวพักได้ละ เดี๋ยวฉันมา” เธอบอกแพรวระหว่างที่ครูฝึกปล่อยให้เก็บของเพราะเธอต้องเดินกลับไปเอากระเป๋ามาไว้หน้าหอประชุมก่อนเผื่อเรียกเเล้วจะได้ไม่เสียเวลา

“อ่า ฉันรออยู่นะ” เธอพยักหัวเข้าใจก่อนที่จะเดินไป

“มาแล้วๆ เดี๋ยวฉันมาไปดูข้าวก่อน”

“รีบมาๆ ”

‘วันนี้กินอะไรดีน้า’ เธอเดินเลือกดูก่อนจะเดินไปดูร้านข้าวขาหมูติดมันเยิ้มๆ มันๆ น่าอร่อยก่อนตัดสินใจสั่ง

“มาแล้วว”

“ช้าา”

“นิดนึง นึกไม่ออกว่าจะกินไร”

“ประกาศๆ เจ้าหน้าที่ทั้งหลายที่บินวันนี้กรุณามารวมตัวกันหน้าหอประชุมในอีก1ชั่วโมงด้วยค่ะ ย้ำ เจ้าหน้าที่ทั้งหลายที่บินวันนี้กรุณามารวมตัวกันหน้าหอประชุมในอีก1ชั่วโมงด้วยค่ะ”

“ริน แกพร้อมไหม” แพรวเอ่ย

“โห อย่างพร้อมเลยอะ ฉันเฝ้ารอมาหลายเดือนเลยนะเว้ยนึกว่าจะไม่ได้ออกไปข้างนอกละ”

“รักษาตัวเองด้วยนะริน”

“ไม่ต้องห่วงค่ะอาจารย์หนูแข็งแรงอยู่แล้ว” แล้วเธอก็ยกแขนมาเบ่งกล้ามให้อาจารย์ดูว่าเธอแข็งแรงจริงๆ ไม่ได้โม้

“แกไม่เป็นอะไรจริงๆ นะ”

“หายห่วงได้เลยเพื่อน” เธอยิ้มให้เพื่อนเธอก่อนที่จะเขมือบข้าวอย่างเร่งรีบ

‘ให้ตายเถอะไม่น่าเพิ่มข้าวมาเยอะเลย’

“5555สั่งมาเยอะเอง”

“อ้ออั้นอิ๋วอี้ (ก็ฉันหิวนี่) ”

“กินให้หมดก่อน ไม่ต้องรีบก็ได้555” อาจารย์ขำกับท่าทางของเธอ

หลังจากนั้นไม่นานเธอกินเสร็จเรียบร้อยและพักท้องให้มีเวลาย่อยอาหารก่อนที่เธอจะต้องไปออกไปทำภารกิจสำคัญ

“รินสู้ๆ นะเว้ย ฉันจะรอแกอยู่ที่นี่นะ”

“ทำให้เต็มที่และรอดมาให้ได้นะริน” เธอพยักหน้า

“ประกาศๆ เจ้าหน้าที่ที่จะต้องขึ้นบินในวันนี้กรุณามารวมตัวกันที่หน้าหอประชุมด้วยค่ะ ย้ำ เจ้าหน้าที่ที่จะต้องขึ้นบินในวันนี้กรุณามารวมตัวกันที่หน้าหอประชุมด้วยค่ะ”

“คงถึงเวลาละ ฉันไปก่อนนะ” เธอยืนมองอาจารย์และเพื่อนของเธอด้วยความรู้สึกขอบคุณ

‘ขอบคุณทุกๆ อย่างที่ทำมาด้วยกัน ขอบคุณทุกๆ อย่างที่คอยอยู่ข้างๆ กัน คอยช่วยเหลือกัน ขอบคุณ ขอบคุณจริงๆ ’

“ต้องรอดนะริน” เพื่อนเธอตะโกนไล่หลังมา หลังจากที่เธอเดินออกมาได้สักพักและเข้าไปรวมกลุ่มแล้ว

“มารวมกันหมดแล้วใช่ไหมครับ เอาล่ะ วันนี้เป็นวันที่เราจะเจอหน้ากันครั้งสุดท้ายผมขอพูดอะไรสักหน่อยละกัน ในการฝึกอบรมพวกคุณนั้น ผมก็ได้ดูการพัฒนาของพวกคุณทุกคนที่สมควรได้รับการคัดเลือกอันสมเกียรตินี้ เพราะการคัดเลือกนั้นต้องคัดจากคนที่มีฝีมือยอดเยี่ยมและไหวพริบดีเยี่ยมที่จะสามารถต่อสู้และเผชิญอันตรายต่างๆ ได้ดี”ผบ.ก็ได้พูดเรียงความในการชื่นชมเจ้าหน้าที่ทุกนาย โดยมีผู้ปกครองญาติพี่น้อง เพื่อน มาล้อมดูกันเต็มไปหมด ทั้งชื่นชมทั้งความสามารถของผู้ที่ได้ไปและขมขื่นที่ได้รู้ว่าลูก เพื่อน ญาติพี่น้องได้ออกไปรบและไม่รู้ว่าจากจำนวนนี้จะเหลือรอดอยู่สักกี่คน มีทั้งดีใจและร้องไห้ผสมปนเปกันไปในกลุ่มที่มามุงดูพวกเธอ

“เอาล่ะต่อจากนี้ไปผมจะให้เจ้าหน้าที่ทุกนายได้เจอพ่อแม่ พี่น้อง กันสักครึ่งชั่วโมงก็แล้วกันจากนั้นเมื่อผมเรียกเมื่อไหร่พวกคุณต้องมารวมตัวกันทันทีที่เจ้าหน้าที่ประกาศเรียกตัว ทราบไม่ทราบ!!”

“ทราบ!!” จากนั้นกลุ่มพวกเธอก็สลายกันไปหาพ่อแม่ พี่น้อง ตอนแรกเธอก็นึกว่าจะไม่ได้คุยกันแล้ว ยังดีที่ผบ.ยังสงสารพวกเธออยู่บ้าง

จากนั้นเธอก็แยกย้ายและมองดูพ่อแม่เธอว่าอยู่ที่ไหนกัน เธอมองได้สักพักก็เจอ เห็นเกวโบกมืออยู่ที่พร้อมด้วยเพื่อนของเธอจนครบและมีพ่อ แม่และอาจารย์กันอยู่ครบทำให้เธอรู้สึกตื้นตันจนน้ำตาเริ่มปริ่มๆ ขึ้นมาซะแล้วเมื่อเธอเดินไปยังกลุ่มของเธอและเพื่อนเธอก็เดินมาเกาะกลุ่มและกอดคอเธอ

“ต้องรอดนะเว้ยริน”

“เข้มแข็งไว้เว้ย

“เรารอแกตรงนี้เสมอนะ”

“ฮึกถ้าแกกลับมา ฉันจะขยันมาให้กว่านี้ร้อยเท่าเลย”

“อย่าตายนะริน ฉันขอร้อง”

“พวกเรารักแกที่สุดเลยนะเว้ย รอดกลับมาให้ได้นะ”

“แกจะตายไม่ได้นะถ้าฉันยังไม่มีแฟนอะ ฮึก” เสียงเพื่อนปนกันจนเธอฟังไม่เป็นภาษาแต่ก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกแย่เลย แต่มันทำให้เธอยิ่งรักเพื่อนของเธอมาขึ้นกว่าเดิมอีก

“ฉันรอดอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง” เธอมองหน้าเพื่อนของเธอแต่ละคนและยิ้มออกมาให้ได้มากที่สุดเพื่อให้เพื่อนเธอจะได้ไม่ต้องกังวลก่อนที่อาจารย์จะเดินเข้ามาหาเธอ

“สู้ๆ นะริน เธอต้องรอดกลับมาให้ได้นะ”

“รอดแน่นอนค่ะ หนูรับประกัน” เธอคุยกับครูสักพักก่อนจะเดินไปหาพ่อแม่ของเธอ

“ลูกโตแล้วจริงๆ สินะ”

“นั่นสิคะคุณ ลูกเราดูเป็นผู้ใหญ่มาก”

“พ่อกับแม่อย่าทำงานหนักเกินไปนะคะ รินเป็นห่วง”

“โถ่ไม่ต้องเป็นห่วงพ่อกับแม่หรอกลูก”

“5555ก็มันอดไม่ได้หนิคะ รินไปนานก็อดห่วงไม่ได้”

“สู้ๆ นะลูก พ่อกับแม่คงห้ามรินไม่ได้ เนี่ยตรงนี้ได้พ่อมาเต็มๆ เลย”

“คนเก่งมันเก่งอะเนอะพ่อ”

“ใช่คุณ ลูกเราเก่งเหมือนผมเลย ส่วนดื้อเนี่ยคงได้จากคุณแหละ”

“ได้มาจากคุณนั้นแหละ ไม่ใช่ฉันสักหน่อย”

“โถ่อย่าพึ่งทะเลาะกันค่ะ เอาเป็นว่ารินได้จากพ่อและแม่นั้นแหละค่ะ555” เธอคุยกับพ่อแม่ได้สักพักก็ถึงเวลาที่เธอจะต้องบิน จะต้องออกไปเจอกับความเป็นจริงในตอนนี้แล้ว

“รอดมาให้ได้นะริน รอดมาให้ได้นะ” เพื่อนเธอตะโกนไล่หลังเธอมาหลังจากประชุมเสร็จและผบ.ปล่อยแต่ละแถวเดินไปขึ้นเครื่องบินซึ่งเธอเป็นแถวสุดท้ายและอยู่คนสุดท้ายของเเถว

“ฉันจะรอดกลับมาทุกคน ฉันกลับมาแน่ แม่คะอย่าลืมซุปขาไก่รินด้วยนะคะแม่ พ่อช่วยชิมหน่อยนะคะว่าอร่อยไหม รินไปก่อนนะคะ เดี๋ยวรินกลับมาแน่ ไม่ต้องห่วงนะคะ” เธอตะโกนบอกก่อน มันคงเป็นคำสุดท้ายที่เธอจะได้พูดก่อนที่เธอจะไม่ได้พูดอีก เธอหันกลับมาและเดินไปอย่างเข้มแข็งเพราะเธอจะร้องไม่ได้ จะร้องไม่ได้เด็ดขาด เราจะต้องเข้มแข็ง เธอต้องเข้มแข็งให้ได้มากกว่านี้ เธอเผลอกำหมัดโดยไม่รู้ตัวและเดินขึ้นเครื่องและไปนั่งที่ของตัวเองที่รุ่นพี่เป็นคนจัดให้จะได้ไม่วุ่นวาย

‘จากนี้คือเริ่มต้นจริงๆ ต่างหาก!’

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา