We all are in love
-
เขียนโดย kamonishappy
วันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 01.34 น.
2 chapter
0 วิจารณ์
3,112 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 10 เมษายน พ.ศ. 2563 02.55 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) Nice to see you again
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ นาฬิกาบอกเวลาสี่ทุ่มตรง ฉันได้แต่นั่งมองตัวเองในกระจกอยู่แบบนั้น คืนนี้ฉันนัดกับเพื่อนๆที่ Charisma Night Club เหมือนเดิมแบบเลี่ยงไม่ได้เพราะเจ๊โบวี่ดันนัดเด็กไว้ที่นั่น ฉันละอยากจะรู้จริงๆว่าเด็กนั่นมันเป็นใคร ปกติเจ๊จะไม่นัดมาเจอรอบสองนะ หลังจากคิดเรื่องเจ๊โบวี่ได้สักพัก สายตาของฉันก็มองกลับไปที่โทรศัพท์มือถือของตัวเองที่โชว์ข้อมูล missed call ของเมื่อคืนนี้ ฉันมองไปที่ชื่อของเบอร์นั้นด้วยหัวใจที่สั่นไหว บางครั้งฉันก็คิดว่านี่คงจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุดสำหรับเรื่องนี้ก็ได้ ฉันมองตัวเองในกระจกด้วยใบหน้าที่จมกับความเศร้าพร้อมถอนหายใจยาวๆกลั้นน้ำตาที่กำลังจะไหลออกมาเอาไว้
"เข้มแข็งไว้ปุ้น วันนี้จะผ่านไปได้เหมือนทุกๆวันนั่นแหละ" ฉันพูดให้กำลังใจตัวเองก่อนจะเช็คความเรียบร้อยของตัวเองอีกรอบ ก่อนจะหยิบกุญแจรถแล้วบึ่งรถไปที่คลับด้วยความรู้สึกเฉื่อยช้า เอาจริงๆวันนี้ฉันไม่ค่อยมีอารมณ์จะไปสังสรรค์สักเท่าไหร่เพราะยังรู้สึกแฮงค์อยู่เลย
ฉันมาถึงที่คลับภายในเวลาเพียงสิบนาที เจ๊โบวี่กับจี่น่านั่งรอฉันอยู่ข้างในแล้ว ฉันก้าวลงมาจากรถพร้อมก้าวเท้าเข้าไปอย่างไม่สนใจสายตาของใครต่อใครที่มองมา ฉันไม่ชอบโมเม้นต์แบบนี้เท่าไหร่ ฉันจะรู้สึกอึดอัดทุกครั้งที่มีคนมอง จนบางครั้งฉันก็ทำตัวไม่ถูกเหมือนกันจึงทำได้แค่ทำเป็นไม่สนใจแล้วรีบเดินเข้าไปหาเพื่อนๆ
ทันใดนั้นฉันก็เห็นเพื่อนตัวดีทั้งสองนั่งอย่างร่าเริงสดในอยู่หน้าบาร์ และแน่นอนมมีบาร์เทนเดอร์หน้าใสคนนั้นคอยบริการอยู่อย่างใกล้ชิด สายตาฉันเผลอไปสบตากับเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ฉันทำได้แต่ยิ้มเบาๆให้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นพร้อมเดินเข้าไปหาเพื่อนรักทั้งสองอย่างรวดเร็ว
"พวกแกไม่มีที่นั่งกันรึไง ทำไมมานั่งหน้าบาร์กันวะ โต๊ะว่างเยอะแยะ" ฉันกระซิบกับเพื่อนทั้งสองอย่างระมัดระวัง เพราะกลัวคนตัวสูงจะได้ยินสิ่งที่พวกฉันคุยกัน
"ทำไมอ่ะ ก็เด็กของฉันอยู่ตรงนี้ แกจะให้ฉันไปนั่งตรงไหนอ่ะ" เจ๊โบวี่ตอบกลับมาทันที และดูท่าคงจะไม่ยอมลุกไปนั่งที่อื่นง่ายๆแน่นอน ฉันเองได้แต่คิดในใจว่าเด็กที่ว่าของเจ๊โบวี่เป็นใครเพราะตรงนี้ไม่มีใครนอกจากพวกฉันแล้วก็บาร์เทนเดอร์หน้าตี๋คนนั้น
"นี่อย่าบอกนะว่าเด็กแกคือ......." ฉันพูดพลางมองไปที่น้องบาร์เทนเดอร์หน้าใส นี่เจ๊แกคิดจะเล่นอะไรอยู่กันวะ
"โนจ้า คนนั้นมัยของแก ของฉันเดี๋ยวมันออกมา นี่ถ้าเมื่อคืนแกไม่เมาจนหมดสภาพซะก่อนนะ ฉันคงจบงานไปตั้งแต่เมื่อคืนละ" เจ๊โบวี่พูดออกมาด้วยท่าทางเสียดายแบบสุดหัวใจ พลางกระดกเหล้าจนหมดแก้ว
"โอ๊ยเจ๊ แกยกเร็วไปไหนอ่ะ เดี๋ยวอีปุ้นก็ตามไม่ทันหรอ / น้องคะ ขออีกแก้วให้เพื่อนพี่หน่อยค่ะ"จีน่าแซวเจ๊โบวี่พลางสั่งให้หนุ่มน้อยบาร์เทนเดอร์ชงเหล้าให้ฉัน
"พวกพี่อยู่แถวนี้หรอครับ มาบ่อยจังหรือติดใจอะไรที่นี่หรือเปล่า"เขาพูดด้วยท่าทีเจ้าเล่ห์พลางชายตามามองที่ฉัน เด็กนี่มันร้ายนะฉันว่า
"แหม่ ก็คนแถวนี้เขาติดพันอะไรบางอย่างที่นี่นะสิ" ยัยจีน่าพูดพลางมองไปที่เจ๊โบวี่ ฉันเองที่นั่งอยู่ข้างๆทำได้แต่กลืนน้ำลายลงคอเพราะรู้สึกร้อนตัว ไม่ได้นะปุ้น แกต้องไม่ไปสนใจกับอะไรแบบนี้เด็ดขาด ห้ามหวั่นไหวเด็ดขาด
"อ๋อ มิน่าล่ะ แต่จะว่าไปคนที่นี่ก็ดูเหมือนจะติดใจอะไรเหมือนกันะครับ" เขาพูดหยอกล้อกับจีน่าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นก่อนจะหันไปทำงานต่อ ฉันคงจะคิดมาไปเองนั่แหละ
"นั่นไงมาแล้ว เป้าหมายของอีเจ๊" จีน่าชี้ให้ฉันดูบาร์เทนเดอร์อีกคนที่เพิ่งเดินออกมา เขาคนนี้ค่อนข้างแตกต่างจากอีกคน ตัวสูงแต่เหมือนจะดูล่ำกว่าอีกคนแล้วก็มีท่าทีสุขุมกว่าอีกคนเยอะ ดวงตาเฉี่ยวที่มีไฝอยู่ตรงหางตาข้างซ้ายนั้นทำให้เขาดูมีเสน่ห์ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก นี่ร้านนี้เขาคัดหน้าตาพนักงานรึไงนะ
"แซ่บนะแก ไปดีลกันตอนไหนทำไมฉันไม่เห็นรู้เรื่อง" ฉันถามขึ้นมาลอยๆแบบไม่ได้คาดหวังคำตอบอะไร
"ก็ตอนที่แกเมาหลับไปนั่นแหละ จะไปรู้เรื่องอะไรละ ล่อคนเดียวเกือบหมดขวด" เจ๊โบวี่เหน็บแนมฉันเล็กน้อยสำหรับเรื่องเมื่อคืน
"อ้าว พี่คนสวยขี้เซาเมื่อวานนี่นา คืนนี้จะหลับคาวงอีกไหมครับพี่" เด็กเจ๊โบวี่แซวฉันก่อนจะเหลือบตาไปมองเพื่อนของเขาที่มัวแต่ก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่
"ทำอะไรไว้บ้างจำได้หรือป่าวครับ ฮ่าๆๆๆๆ ผมชื่อไตรนะครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับพี่ปุ้น" ไตรยิ้มตาหยีก่อนจะยกแก้วของตัวเองขึ้นมาชนกับฉัน
"น้องไตรคะ ชนแค่กับปุ้นอย่างเดียวไม่ได้นะ ตรงนี้มีคนรอชนอยู่นะคะ" ยัยจีน่าเรียกไตรให้ไปชนแก้วด้วย แต่คำพูดสองแง่สองง่ามนั่นทำให้ฉันอดขำออกมาไม่ได้
ฉันที่ได้แต่ขำให้กับความคิดของตัวเองดันเผลอไปสบตากับเขาเข้าอย่างจัง คราวนี้เขาไม่ยอมละสายตาไปจากฉันเลยแต่กลับหยิบแก้วเหล้าแล้วเดินเข้ามา จนกลายเป็นฉันที่ต้องเสียอาการร้อนวูบวาบขึ้นหน้าเอาสะเอง
"มาชนแก้วกันหน่อยสิครับ ฉลองที่เราได้รู้จักกัน" ชายหนุ่มพูดขึ้นพลางชูแก้วเครื่องดื่มขึ้นมากลางวง
"ถ้าจะชนกับพี่ต้องหมดแก้วเท่านั้นนะคะทุกคน" เจ๊โบวี่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ ฉันได้แต่ยอมจำนนและนั่งเงียบต่อไป
หลังจากนั้นพวกเราทั้งสามคนก็ลุกขึ้นเต้นแบบเป็นบ้าเป็นหลังกับทุกๆเพลงที่ดีเจเปิดขึ้นมา ฉันมัวแต่สนุกกับเพื่อนๆจนไม่ทันได้สังเกตถึงสายตาของใครบางคนที่มองมา สายตาแสนจะร้ายกาจของคนหน้าใสที่ไม่สามารถบ่งบอกความคิดของเขาคนนั้นได้
______________________________________
สวยจังเลยแหะ ยิ่งมองยิ่งหลง ชายหนุ่มได้แต่เพียงคิดในใจ เขามองหญิงสาวตรงหน้าที่กำลังสนุกไปกับเสียงเพลง เอาจริงๆเขาเองก็รู้สึกหวั่นไหวทุกครั้งที่เผลอไปสบตา แต่วันนี้หญิงสาวดูเครียดกว่าเมื่อวานเยอะ เธอไม่ได้ยกแก้วเหล้าถี่เท่าเมื่อวาน แต่ท่าทีของเธอก็ยังคงดูไม่ได้ผ่อนคลายเท่าไหร่ ในหัวของเธอกำลังคิดอะไรอยู่นะ เขาได้แต่มองพร้อมคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย
"มึงจะยืนมองเขาอีกนานแค่ไหนวะ จะปิดจ๊อบได้ยังอ่ะ" พี่ไตรถามผมด้วยท่าทีสงสัยในอาการของผม ปกติเราจะรู้กันดีว่าผมไม่จริงจังกับลูกค้าที่มาติดพัน คนส่วนใหญ่ที่เข้ามาหาผมก็มีเหตุผลไม่กี่อย่างหรอก หลักๆก็รักสนุกด้วยกันทั้งคู่ ผมจึงไม่ค่อยผ๔กมัดกับใครเท่าไหร่แต่ก็มีบางคนที่ยังวนกลับมาบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่ผมไม่ดีลงานซ้ำคนแน่นอน และไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ผมเล็งแล้วจะปล่อยให้หลุดมือได้หรอก แต่กับผู้หญิงคนนี้มันเหมือนมีอะไรบางอย่างที่ทำให้ผมทำได้แค่มองอย่างเดียว
"ไม่รู้ว่ะพี่ ผมว่าเขาดูมีอะไรบางอย่างที่ผมยังเข้าไม่ถึงว่ะ บอกไม่ถูกว่าทำไมรู้สึกแบบนี้"
"คนอย่างมึงนี่นะปีเตอร์ แล้วไอ้ที่ยืนจูบกันเมื่อวานนี่หมายความว่าไงวะ"
"ก็แค่จูบจากคนที่เมาจัดๆอ่ะพี่ ดูท่าคนทำยังจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าตัวเองทำอะไรลงไป" นั่นสิ ผมรู้สึกหมดความมั่นใจเล็กน้อยกับท่าทางของเธอที่ทำเหมือนจำอะไรไม่ได้
เธอยังคงเต้นต่อไปเรื่อยๆเหมือนจะไม่ยอมหยุดพัก ชายหนุ่มมากมายบริเวณนั้นพากันมองมาที่พวกเธอ คงไม่ต้องบอกนะว่าสามคนนี้ฮอตกันขนาดไหน มีบางคนที่ลุกขึ้นมาชนแก้วกับพวกเธอบ้าง แต่ดูเหมือนจะมีอยู่คนนึงที่ดูจะไม่สบอารมณ์เท่าไหร่เมื่อมีหนุ่มๆวนมาขายขนมจีบ คงไม่ต้องเดาให้เหนื่อยว่าเป็นใคร แม่เสือยิ้มยากหน้าหวานของผมนั่นแหละ เธอดูจะไม่ชอบให้ใครเข้าใกล้ตัวมากนักนะเพราะทุกครั้งเธอจะเบี่ยงตัวหนีทุกครั้งเมื่อมีคนเดินมาใกล้ๆ ฮึ แบบนี้สิถึงจะน่าสนใจ ผมเจอแต่พวกผู้หญิงที่ยิ้มร่าเวลาตัวเองเป็นที่สนใจในหมู่ผู้ชาย แต่ทำไมนะ ผมถึงไม่เข้าไปทำความรู้จักเธอให้มากกว่านี้ ทำไมถึงทำได้แค่ยืนมองเหมือนพวกโรคจิต ผมเองก็ตอบคำถามข้อนี้ไม่ได้เหมือนกัน
"เข้มแข็งไว้ปุ้น วันนี้จะผ่านไปได้เหมือนทุกๆวันนั่นแหละ" ฉันพูดให้กำลังใจตัวเองก่อนจะเช็คความเรียบร้อยของตัวเองอีกรอบ ก่อนจะหยิบกุญแจรถแล้วบึ่งรถไปที่คลับด้วยความรู้สึกเฉื่อยช้า เอาจริงๆวันนี้ฉันไม่ค่อยมีอารมณ์จะไปสังสรรค์สักเท่าไหร่เพราะยังรู้สึกแฮงค์อยู่เลย
ฉันมาถึงที่คลับภายในเวลาเพียงสิบนาที เจ๊โบวี่กับจี่น่านั่งรอฉันอยู่ข้างในแล้ว ฉันก้าวลงมาจากรถพร้อมก้าวเท้าเข้าไปอย่างไม่สนใจสายตาของใครต่อใครที่มองมา ฉันไม่ชอบโมเม้นต์แบบนี้เท่าไหร่ ฉันจะรู้สึกอึดอัดทุกครั้งที่มีคนมอง จนบางครั้งฉันก็ทำตัวไม่ถูกเหมือนกันจึงทำได้แค่ทำเป็นไม่สนใจแล้วรีบเดินเข้าไปหาเพื่อนๆ
ทันใดนั้นฉันก็เห็นเพื่อนตัวดีทั้งสองนั่งอย่างร่าเริงสดในอยู่หน้าบาร์ และแน่นอนมมีบาร์เทนเดอร์หน้าใสคนนั้นคอยบริการอยู่อย่างใกล้ชิด สายตาฉันเผลอไปสบตากับเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ฉันทำได้แต่ยิ้มเบาๆให้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นพร้อมเดินเข้าไปหาเพื่อนรักทั้งสองอย่างรวดเร็ว
"พวกแกไม่มีที่นั่งกันรึไง ทำไมมานั่งหน้าบาร์กันวะ โต๊ะว่างเยอะแยะ" ฉันกระซิบกับเพื่อนทั้งสองอย่างระมัดระวัง เพราะกลัวคนตัวสูงจะได้ยินสิ่งที่พวกฉันคุยกัน
"ทำไมอ่ะ ก็เด็กของฉันอยู่ตรงนี้ แกจะให้ฉันไปนั่งตรงไหนอ่ะ" เจ๊โบวี่ตอบกลับมาทันที และดูท่าคงจะไม่ยอมลุกไปนั่งที่อื่นง่ายๆแน่นอน ฉันเองได้แต่คิดในใจว่าเด็กที่ว่าของเจ๊โบวี่เป็นใครเพราะตรงนี้ไม่มีใครนอกจากพวกฉันแล้วก็บาร์เทนเดอร์หน้าตี๋คนนั้น
"นี่อย่าบอกนะว่าเด็กแกคือ......." ฉันพูดพลางมองไปที่น้องบาร์เทนเดอร์หน้าใส นี่เจ๊แกคิดจะเล่นอะไรอยู่กันวะ
"โนจ้า คนนั้นมัยของแก ของฉันเดี๋ยวมันออกมา นี่ถ้าเมื่อคืนแกไม่เมาจนหมดสภาพซะก่อนนะ ฉันคงจบงานไปตั้งแต่เมื่อคืนละ" เจ๊โบวี่พูดออกมาด้วยท่าทางเสียดายแบบสุดหัวใจ พลางกระดกเหล้าจนหมดแก้ว
"โอ๊ยเจ๊ แกยกเร็วไปไหนอ่ะ เดี๋ยวอีปุ้นก็ตามไม่ทันหรอ / น้องคะ ขออีกแก้วให้เพื่อนพี่หน่อยค่ะ"จีน่าแซวเจ๊โบวี่พลางสั่งให้หนุ่มน้อยบาร์เทนเดอร์ชงเหล้าให้ฉัน
"พวกพี่อยู่แถวนี้หรอครับ มาบ่อยจังหรือติดใจอะไรที่นี่หรือเปล่า"เขาพูดด้วยท่าทีเจ้าเล่ห์พลางชายตามามองที่ฉัน เด็กนี่มันร้ายนะฉันว่า
"แหม่ ก็คนแถวนี้เขาติดพันอะไรบางอย่างที่นี่นะสิ" ยัยจีน่าพูดพลางมองไปที่เจ๊โบวี่ ฉันเองที่นั่งอยู่ข้างๆทำได้แต่กลืนน้ำลายลงคอเพราะรู้สึกร้อนตัว ไม่ได้นะปุ้น แกต้องไม่ไปสนใจกับอะไรแบบนี้เด็ดขาด ห้ามหวั่นไหวเด็ดขาด
"อ๋อ มิน่าล่ะ แต่จะว่าไปคนที่นี่ก็ดูเหมือนจะติดใจอะไรเหมือนกันะครับ" เขาพูดหยอกล้อกับจีน่าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นก่อนจะหันไปทำงานต่อ ฉันคงจะคิดมาไปเองนั่แหละ
"นั่นไงมาแล้ว เป้าหมายของอีเจ๊" จีน่าชี้ให้ฉันดูบาร์เทนเดอร์อีกคนที่เพิ่งเดินออกมา เขาคนนี้ค่อนข้างแตกต่างจากอีกคน ตัวสูงแต่เหมือนจะดูล่ำกว่าอีกคนแล้วก็มีท่าทีสุขุมกว่าอีกคนเยอะ ดวงตาเฉี่ยวที่มีไฝอยู่ตรงหางตาข้างซ้ายนั้นทำให้เขาดูมีเสน่ห์ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก นี่ร้านนี้เขาคัดหน้าตาพนักงานรึไงนะ
"แซ่บนะแก ไปดีลกันตอนไหนทำไมฉันไม่เห็นรู้เรื่อง" ฉันถามขึ้นมาลอยๆแบบไม่ได้คาดหวังคำตอบอะไร
"ก็ตอนที่แกเมาหลับไปนั่นแหละ จะไปรู้เรื่องอะไรละ ล่อคนเดียวเกือบหมดขวด" เจ๊โบวี่เหน็บแนมฉันเล็กน้อยสำหรับเรื่องเมื่อคืน
"อ้าว พี่คนสวยขี้เซาเมื่อวานนี่นา คืนนี้จะหลับคาวงอีกไหมครับพี่" เด็กเจ๊โบวี่แซวฉันก่อนจะเหลือบตาไปมองเพื่อนของเขาที่มัวแต่ก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่
"ทำอะไรไว้บ้างจำได้หรือป่าวครับ ฮ่าๆๆๆๆ ผมชื่อไตรนะครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับพี่ปุ้น" ไตรยิ้มตาหยีก่อนจะยกแก้วของตัวเองขึ้นมาชนกับฉัน
"น้องไตรคะ ชนแค่กับปุ้นอย่างเดียวไม่ได้นะ ตรงนี้มีคนรอชนอยู่นะคะ" ยัยจีน่าเรียกไตรให้ไปชนแก้วด้วย แต่คำพูดสองแง่สองง่ามนั่นทำให้ฉันอดขำออกมาไม่ได้
ฉันที่ได้แต่ขำให้กับความคิดของตัวเองดันเผลอไปสบตากับเขาเข้าอย่างจัง คราวนี้เขาไม่ยอมละสายตาไปจากฉันเลยแต่กลับหยิบแก้วเหล้าแล้วเดินเข้ามา จนกลายเป็นฉันที่ต้องเสียอาการร้อนวูบวาบขึ้นหน้าเอาสะเอง
"มาชนแก้วกันหน่อยสิครับ ฉลองที่เราได้รู้จักกัน" ชายหนุ่มพูดขึ้นพลางชูแก้วเครื่องดื่มขึ้นมากลางวง
"ถ้าจะชนกับพี่ต้องหมดแก้วเท่านั้นนะคะทุกคน" เจ๊โบวี่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ ฉันได้แต่ยอมจำนนและนั่งเงียบต่อไป
หลังจากนั้นพวกเราทั้งสามคนก็ลุกขึ้นเต้นแบบเป็นบ้าเป็นหลังกับทุกๆเพลงที่ดีเจเปิดขึ้นมา ฉันมัวแต่สนุกกับเพื่อนๆจนไม่ทันได้สังเกตถึงสายตาของใครบางคนที่มองมา สายตาแสนจะร้ายกาจของคนหน้าใสที่ไม่สามารถบ่งบอกความคิดของเขาคนนั้นได้
______________________________________
สวยจังเลยแหะ ยิ่งมองยิ่งหลง ชายหนุ่มได้แต่เพียงคิดในใจ เขามองหญิงสาวตรงหน้าที่กำลังสนุกไปกับเสียงเพลง เอาจริงๆเขาเองก็รู้สึกหวั่นไหวทุกครั้งที่เผลอไปสบตา แต่วันนี้หญิงสาวดูเครียดกว่าเมื่อวานเยอะ เธอไม่ได้ยกแก้วเหล้าถี่เท่าเมื่อวาน แต่ท่าทีของเธอก็ยังคงดูไม่ได้ผ่อนคลายเท่าไหร่ ในหัวของเธอกำลังคิดอะไรอยู่นะ เขาได้แต่มองพร้อมคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย
"มึงจะยืนมองเขาอีกนานแค่ไหนวะ จะปิดจ๊อบได้ยังอ่ะ" พี่ไตรถามผมด้วยท่าทีสงสัยในอาการของผม ปกติเราจะรู้กันดีว่าผมไม่จริงจังกับลูกค้าที่มาติดพัน คนส่วนใหญ่ที่เข้ามาหาผมก็มีเหตุผลไม่กี่อย่างหรอก หลักๆก็รักสนุกด้วยกันทั้งคู่ ผมจึงไม่ค่อยผ๔กมัดกับใครเท่าไหร่แต่ก็มีบางคนที่ยังวนกลับมาบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่ผมไม่ดีลงานซ้ำคนแน่นอน และไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ผมเล็งแล้วจะปล่อยให้หลุดมือได้หรอก แต่กับผู้หญิงคนนี้มันเหมือนมีอะไรบางอย่างที่ทำให้ผมทำได้แค่มองอย่างเดียว
"ไม่รู้ว่ะพี่ ผมว่าเขาดูมีอะไรบางอย่างที่ผมยังเข้าไม่ถึงว่ะ บอกไม่ถูกว่าทำไมรู้สึกแบบนี้"
"คนอย่างมึงนี่นะปีเตอร์ แล้วไอ้ที่ยืนจูบกันเมื่อวานนี่หมายความว่าไงวะ"
"ก็แค่จูบจากคนที่เมาจัดๆอ่ะพี่ ดูท่าคนทำยังจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าตัวเองทำอะไรลงไป" นั่นสิ ผมรู้สึกหมดความมั่นใจเล็กน้อยกับท่าทางของเธอที่ทำเหมือนจำอะไรไม่ได้
เธอยังคงเต้นต่อไปเรื่อยๆเหมือนจะไม่ยอมหยุดพัก ชายหนุ่มมากมายบริเวณนั้นพากันมองมาที่พวกเธอ คงไม่ต้องบอกนะว่าสามคนนี้ฮอตกันขนาดไหน มีบางคนที่ลุกขึ้นมาชนแก้วกับพวกเธอบ้าง แต่ดูเหมือนจะมีอยู่คนนึงที่ดูจะไม่สบอารมณ์เท่าไหร่เมื่อมีหนุ่มๆวนมาขายขนมจีบ คงไม่ต้องเดาให้เหนื่อยว่าเป็นใคร แม่เสือยิ้มยากหน้าหวานของผมนั่นแหละ เธอดูจะไม่ชอบให้ใครเข้าใกล้ตัวมากนักนะเพราะทุกครั้งเธอจะเบี่ยงตัวหนีทุกครั้งเมื่อมีคนเดินมาใกล้ๆ ฮึ แบบนี้สิถึงจะน่าสนใจ ผมเจอแต่พวกผู้หญิงที่ยิ้มร่าเวลาตัวเองเป็นที่สนใจในหมู่ผู้ชาย แต่ทำไมนะ ผมถึงไม่เข้าไปทำความรู้จักเธอให้มากกว่านี้ ทำไมถึงทำได้แค่ยืนมองเหมือนพวกโรคจิต ผมเองก็ตอบคำถามข้อนี้ไม่ได้เหมือนกัน
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ